แชร์

บทที่ 60

ผู้เขียน: คันธรส สุภาสนันท์
กึกๆ!

เมื่อเห็นอู๋อวิ๋นเหอถูกเซียวเป่ยตบพลิกคว่ำลงกับพื้นด้วยฝ่ามือเดียว มุมปากของเหลากุ่ยก็กระตุก อ้าปากค้างตาเบิกโพลง!

เขาจ้องมองไปที่เซียวเป่ยที่ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเซื่องซึม อกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัว

นั่นเป็นท่านอาจารย์อู๋จากสำนักวิทยายุทธ์เทียนเหลยเชียวนะ!

แต่กลับถูกคู่ต่อสู้ตบลอยกระเด็นออกไปด้วยฝ่ามือเดียว...

แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะสู้กลับได้เลยแม้แต่น้อย!

ไอ้เด็กคนนี้ เป็นใครมาจากไหนกันนะ?

จิตอันหนาวเย็น ไล่ไปจากแต่ก้นกบ ไปจนถึงยอดหัวกระโหลกของเหลากุ่ย

เกือบจะวินาทีต่อมา น้ำเสียงราวกับว่าเป็นเทพแห่งความความตายของเซียวเป่ยก็ดังขึ้น: “ตอนนี้ แกจะพูดได้หรือยัง?”

อึกๆ!

เหลากุ่ยกลืนน้ำลายอย่างแรง สั่นสะท้านไปทั้งตัว ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น เอาหัวโขกพื้นดังพลั่กๆแล้วตะโกนว่า “ยอดฝีมือได้โปรดเมตตาด้วย ผมพูด ผมพูด...”

“ ประธานฉินฉินเฟิงแห่งหลินซื่อกรุ๊ปสั่งให้ผมทำ เขาให้เงินผมสิบล้านบาท เพื่อซื้อมือทั้งสองข้างของคุณ”

ในขณะนี้ เหลากุ่ยหวาดกลัวจริงๆ

เป็นความหวาดกลัวที่ออกมาจากในใจ

“ฉินเฟิง?” เซียวเป่ยขมวดคิ้ว

ที่แท้คนที่อยู่เบื้องหลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 61

    ซูหว่านเอาโทรศัพท์มือถือตบลงไปบนโต๊ะ พ่นลมหายใจออกทางปาก พูดอย่างเย็นชาว่า “ ฉันรู้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ย?”“มีค่ะ”หลี่เซียวลี่กล่าว พร้อมดึงเอกสารฉบับหนึ่งออกจากมาอ้อมแขน พูดอย่างวิตกกังวลว่า “นี่คือเอกสารความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป อีกฝ่ายค้างชำระเงินพวกเรามาเป็นเวลาสามเดือนแล้ว หากยังเอาเงินกลับคืนมาไม่ได้อีก บริษัทของพวกเราอาจจะต้องขาดทุนกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท”ซูหว่านขมวดคิ้วโครงการความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป ทำให้เธอลำบากใจมาเป็นเวลาสามเดือนแล้วจริงๆอีกฝ่ายค้างชำระเงินมาโดยตลอด เงินลงทุนของโครงการ ปิงฉิ้นกรุ๊ปสำรองจ่ายไปก่อนทั้งหมดไปขอให้ชำระเงินหลายครั้งแล้ว แต่กลับถูกอีกฝ่ายหาเหตุผลต่างๆนานามาปฏิเสธตลอดซูหว่านกล้าโกรธแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก ยังไงซะถังซินกรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ เป็นบริษัทชั้นนำในเจียงจง ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลถังท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลถังผู้นั้น เป็นคนที่เด็ดขาดมาก!“ลองคิดหาวิธี นัดหมายกับผู้จัดการที่รับผิดชอบของพวกเขาอีกครั้ง ฉันจะไปเจรจาด้วยตนเอง” ซูหว่านกล่าว“ได้ค่ะ” หลี่เซียวลี่ตอบรับ“ประธานซูคะ ประธานฉินบอกว่า ตอนบ่ายหก

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 62

    ยาขวดนี้ เป็นยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้เพราะกังวลว่าตอนเช้าซูหว่านจะยุ่ง จนไม่มีเวลากินอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางสารอาหาร จึงได้ทำไว้ในกรณีฉุกเฉินคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้จะได้ใช้มันแล้ว ซู่หว่านเอามือกุมหน้าอก เปิดลิ้นชักด้วยสองมือที่สั่นเทา ควานเอาขวดเล็กๆขวดหนึ่งออกมา แล้วเปิดฝาขวดด้วยสีหน้าเจ็บปวดมาก แต่เพราะว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดมากเกินไป จึงไม่ทันได้ระวัง เสียงดังซ่าๆ ขวดหนึ่งมียาประมาณสิบเม็ด ทั้งหมดต่างก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเธอคุกเข่าลงอย่างสั่นเทา หยิบยาหนึ่งเม็ดขึ้นมาแล้วกลืนมันลงไปทางด้านเซียวเป่ย ได้ยินแค่เพียงเสียงซ่าๆดังมาจากในโทรศัพท์ และเสียงรบกวนต่างๆนานา เตรียมขึ้นแท็กซี่อย่างกระวนกระวายใจ พร้อมตะโกนว่า “เสียวหว่าน คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? เป็นยังไงบ้าง?”เวลาผ่านไปนานสองนาน ก็ได้ยินเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของซูหว่านดังมาจากปลายสาย พูดอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “ฉัน ฉันไม่เป็นไร...”เซียวเป่ยถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกบางที แม้แต่เซียวเป่ยเองก็ไม่รู้ว่า ท่าทางของเขาเมื่อสักครู่นี้ ดูกังวลและร้อนใจมากแค่ไหนเซียวเป่ยยืนอยู่ที่ประตูร

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 63

    หลี่เซียวลี่รีบตอบกลับไปว่า “ประธานซูคะ เรื่องเกี่ยวกับการโปรโมตยาเม็ดโกลเด้นกา พวกเราได้ทำการยกเลิกเรียบร้อยแล้ว ตามคำสั่งของคุณ พวกเราได้นำศาสตร์การฝังเข็มที่ใช้รักษาร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกาที่โพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต มาจัดทำเป็นวิดีโอคำแนะนำสั้นๆอย่างเป็นทางการ และทำขายเป็นชุด ร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกา”“ดี” ซูหว่านพยักหน้า มองดูขวดยาที่อยู่ในมือ อย่างเหม่อลอยเล็กน้อยหลี่เซียวลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเบาๆว่า “ประธานซู? ประธานซู... คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”“อ่อ ไม่มีอะไร”พอซูหว่านตั้งสติได้ ก็อมยิ้ม แล้วเอาขวดยาใส่ไว้ในลิ้นชักหลี่เซียวลี่ถามอย่างลองเชิงว่า “ประธานซู คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? หากร่างกายไม่สบาย จะไปโรงพยาบาลมั้ยคะ? ยานี้ จะกินมั่วซั่วไม่ได้นะ”“ฉันไม่เป็นไร มันเป็นยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้ฉันก่อนหน้านี้” ซูหว่านยิ้ม และนั่งลงอีกครั้งเมื่อได้ยินดังนี้ หลี่เซียวลี่ก็ขมวดคิ้ว และพูดอย่างสงสัยว่า “ยาที่เซียวเป่ยเตรียมไว้ให้คุณ? ประธานซู คุณไม่กังวลว่ายานี้จะมีปัญหาเหรอ?”เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าของซูหว่าน ก็ดูแย่ลงทันที จึงพูดอย่างเย็นชาว่า

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 64

    ทางด้านของเซียวเป่ย พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอกเพียงแต่ว่า เขาไม่ได้คิดอะไรมาก จึงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำความสะอาดซากปรักหักพังในร้านต่อไปในเวลานี้ รถเบนซ์รุ่นเมอร์เซเดสเอสคลาสก็มาจอดที่หน้าร้านเล็กๆเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองดูสักพักบนรถ มีชายวัยกลางคนที่อายุสี่สิบห้าสิบปีรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว สวมชุดไทเก็กสีขาว วิ่งเข้ามาเอามือประสานกันแสดงความเคารพแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเซียว ขอโทษที่รบกวน ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง อยากให้คุณช่วยดูหน่อย”“ที่แท้ก็เป็นประธานเสิ่น ครั้งนี้มาด้วยตนเองเลยเหรอ?”เซียวเป่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มคนที่สามารถทำให้เสิ่นฉางอันพามาได้ด้วยตนเอง คงจะไม่ธรรมดา“คุณเซียว นี่คือศาสตราจารย์ฉางฉางเจียงหมิงจากสมาคมการแพทย์เจียงจง หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันแพทย์แผนจีนรอบออดิชั่นของเจียงจง” เฉินฉางอันรีบแนะนำอย่างรวดเร็วด้านข้าง มีชายชราคนหนึ่งยืนเอามือไพล่หลัง อายุประมาณ 50-60 ปี สวมชุดเสื้อคลุมจีนสีดำอยู่หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันแพทย์แผนจีนรอบออดิชั่นของเจียงจง?เซียวเป่ยพยักหน้า แล้วส่งสัญญาณให

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 65

    “พลังชั่วร้ายที่ปะปนอยู่บนจี้คือพลังอิน เลือดที่อยู่บนปากกาชาดของผมนั้น คือเลือดสุนัขสีดำ มันมีพลังจื้อหยาง สามารถยับยั้งพลังอินได้”เมื่อฉางเจียงหมิงได้ยินดังนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยกมือประสานกันแสดงความเคารพแล้วพูดว่า “บนโลกยังมีมีวิธีการรักษาโรคที่น่าอัศจรรย์แบบนี้อีก ถือว่าเป็นความรู้ใหม่จริงๆ”“ในเมื่อปรมาจารย์เซียวมีศาสตร์ทางการแพทย์ที่น่าทึ่งแบบนี้ ทำไมไม่เข้าร่วมออดิชั่นการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีนที่เจียงจงล่ะ?”“หากคุณเข้าร่วมล่ะก็ คุณจะต้องมีผลงานที่โดดเด่นอย่างแน่นอน! และจะสามารถส่งเสริมการแพทย์แผนจีนให้เจริญรุ่งเรืองได้อีกด้วย!”หลังจากที่ฉางเจียงหมิงจากไป เซียวเป่ยนั่งอยู่ในร้านเล็กๆ อย่างหมดอาลัยตายอยากในใจของเขาคิดแต่สิ่งที่ฉางเจียงหมิงพูดไปเมื่อกี้นี้อยู่ตลอดเวลาเข้าร่วมการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีน?บอกตามตรง เซียวเป่ยไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลยการแสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์ ไม่ใช่อุปนิสัยสันดานของเขาเขาชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายๆ แบบนี้มากกว่าแต่ว่า ก็เพราะว่าวิสัยทัศน์แบบนี้ จึงทำให้ชีวิตแต่งงานของเขาได้สิ้นสุดลงในสาย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 66

    เซียวเป่ยเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า กู้โย่เสวี่ยเป็นคนตระกูลกู้ที่มาจากเมืองหลวงการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีนครั้งนี้ จัดขึ้นโดยตระกูลกู้แต่ว่า เบื้องหลังยังมีผู้จัดและผู้สนับสนุนการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีนอยู่ ใช่ว่าตระกูลกู้จะมีสิทธิ์มีเสียงเพียงผู้เดียวแต่ว่า ด้วยอำนาจและวิธีการของตระกูลกู้ จะทำให้เซียวเป่ยเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเลยถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมากแต่เซียวเป่ยปฏิเสธ “ไม่ต้อง คุณหนูกู้ ผมอยากจะเข้าร่วมด้วยความสามารถของตนเอง ผมก็อยากจะดูว่า ศาสตร์ทางการแพทย์ของผม ที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีน จะไปได้ถึงลำดับที่เท่าไหร่”“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง”กู้โย่เสวี่ยพยักหน้า แววตาที่มองเซียวเป่ยนั้น ดูหลงใหลยิ่งกว่าเดิมอีกผู้ชายดีๆที่ยึดหลักตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแบบนี้ ถึงจะเป็นผู้ชายที่เธอชอบไม่ช้า รถก็จอดที่สถานที่ออดิชั่นการแข่งขันศาสตร์แพทย์แผนจีนของเจียงจงพอเข้าไปในสถานที่จัดงาน เซียวเป่ยถึงได้พบว่า มีคนค่อนข้างที่จะเยอะมากเนื้อหาการประเมินรอบออดิชั่นก็ง่ายมากเช่นกันในสถานที่จริงจะมีคนไข้สองราย แพทย์ทุกคนที่เข้าร่วมการออดิชั่น จะต้องอาศั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 67

    พอเห็นภาพนี้ แล้วก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้อีกทุกคนต่างก็พากันอึ้ง!โดยเฉพาะฉินเฟิง หน้าของเขาเต็มไปด้วยความงุนงงและตระหนกตกใจ!เกิดอะไรขึ้น?ศาสตราจารย์ฉางผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง กลับให้ความเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ย เศษสวะที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างเช่นนี้ศาสตร์ทางการแพทย์?ศาสตร์ทางการแพทย์อะไร?ไอ้สารเลวเซียวเป่ยนั่น รู้ศาสตร์การแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?“ศาสตราจารย์ฉาง คุณไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปใช่มั้ย? เขารู้ศาสตร์ทางการแพทย์? แล้วยังจะให้ผ่านการออดิชั่นอีก?” ฉินเฟิงขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสนฉางเจียงหมิงหันกลับมา แล้วพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ทำไม คำพูดของผม คุณไม่เชื่อเหรอ?”“ผมจะบอกคุณว่า ผมไม่สนใจว่าคุณจะมีความแค้นอะไรกับปรมาจารย์เซียว ศาสตร์ทางการแพทย์ของปรมาจารย์เซียว ผมศาสตราจารย์คนนี้เคยมีประสบการณ์โดยตรงมาแล้ว เขาสามารถข้ามขั้นไปแข่งขันระดับในเมืองได้เลย!”ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา บริเวณโดยรอบก็มีเสียงถกเถียงกันเป็นแถวแพทย์หลายคนที่มาเข้าร่วมออดิชั่น ต่างก็กระซิบพูดถกเถียงอะไรบางอย่างกัน“คุณไม่ได้บอกว่าเขาเป็นนักตุ้มตุ๋นที่ดูลักษณะใบหน้าขายยันต์สี

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 68

    เมื่อฉางเจียงหมิงได้ยินดังนี้ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถลึงตามองไปที่ฉินเฟิงอย่างไม่ละสายตาแล้วพูดว่า “ ฉินเฟิงใช่มั้ย ผมจำคุณได้แล้ว”ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะเขาปักใจเชื่อว่าเซียวเป่ยไม่มีศาสตร์ทางการแพทย์อะไรทั้งนั้น จะต้องเป็นเพราะไอ้นักต้มตุ๋นหลอกศาสตราจารย์ฉางแน่ๆถ้าเปิดโปงเขาได้ พอตอนท้ายตนเองค่อยไปพูดดีๆกับศาสตราจารย์ฉาง เรื่องนี้ก็คงจะสามารถผ่านไปได้ไม่แน่ว่า พอศาสตราจารย์ฉางอารมณ์ดี เห็นว่าตนจับนักต้มตุ๋นได้ อาจจะช่วยส่งเสริม และชี้แนะตนเองในด้านวิชาการก็เป็นไปได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!กูแม่งฉลาดเป็นบ้าเลยในขณะที่ฉินเฟิงรู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ เซียวเป่ยกลับพูดว่า “ ผมกำลังรีบ เอาอย่างนี้ละกัน เรียกคนไข้เข้ามา แล้วผมจะรักษาเขาให้หายเดี๋ยวนี้เลย”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็เริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่!ความหมายว่ายังไง?รักษาให้หายเดี๋ยวนี้เลย? !รู้มั้ยว่า คนไข้ที่มางานออดิชั่นในวันนี้ ต่างก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังและรักษายากมาก!แม้แต่ท่านผู้เฒ่าศาสตราจารย์ทางการแพทย์ที่เป็นแพทย์จริงๆ ก็ใช่

บทล่าสุด

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status