“คุณหล่อเหมือนพระเอกนิยายของฉันมาก” ใบหน้าหวานยื่นเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นผสมไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ
“ผมไม่ใช่พระเอกในนิยาย ผมมีตัวตนจริงๆ”
“ฉันรู้ ฉันถึงอยากให้คุณนอนกับฉัน ถ้าคุณไม่รังเกียจ” ใบหน้าสวยแดงระเรื่อไปจนถึงใบหูไม่รู้เพราะว่าเมาหรือเพราะเธอกำลังอายกันแน่
คนที่นกเขาไม่ขันมานานกลับรู้สึกถึงความตื่นตัวจนแทบจะกระโจนเข้าใส่
กวีวัธน์จุมพิตแผ่วเบาไปบนเรียวปากอิ่ม ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากที่เผยอรับเขาเมื่อถูกเขาปลุกเร้า ด้วยความชำนาญ ฝ่ามือหนาเคลื่อนไปตามร่างระหงก่อนจะถอดเดรสสีหวานออกโดยที่อีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายของตนเองร้อนขึ้นทีละนิด ทุกจุดที่มือหนาเลื่อนผ่านสร้างความเสียวซ่านในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน
“คุณสวยมากนะพราว” เขากระซิบเสียงแหบพร่าฝ่ามือเคลื่อนนวดคลึงสองเต้าขนาดพอเหมาะ บีบเคล้นราวกับเป็นเจ้าของ ก่อนมือหนาจะเอื้อมไปปลดตะขอชั้นในแบบเกาะอกออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
“อื้อ ดีจัง”
เสียงหวานใสร้องครางเมื่อเขาลากลิ้นเปียกชื้นไปบนยอดเต้างาม ก่อนจะครอบครองด้วยปากร้อน ดูดดึงอย่างเร่าร้อน
“แบบนี้นี่เอง คุณเก่งจัง เรื่องต่อไปฉันจะให้คุณเป็นพระเอก อื้อ..”
คำพูดถูกกลืนหายเมื่อเขาโน้มตัวขึ้นมามอบจูบเร่าร้อน ริมฝีปากบดขยี้จนแทบมอดไหม้ ความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วทุกจุด
“อ๊ะ”
พราวรวีสะดุ้งสุดตัวเมื่อฝ่ามือร้อนของคนตัวโตกว่ากรีดไปยังกลางกายสาวอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปยังกลางกลีบกุหลาบดอกตูม หญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย ร่างกายปิดเร่า แอ่นสะโพกเข้าหาอย่างยั่วยวน
ชั้นในตัวบางถูกถอดออกทางเรียวขาสวย กวีวัธน์นวดคลึงไปตามเรียวขา ปากร้อนจุมพิตต้นขาด้านในก่อนจะกดจมูกลงไปบนกลีบกุหลาบอย่างหลงลืมตัว
“สวยที่สุด”
เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้คนรักหรือคู่นอนคนไหนมาก่อน แต่เพราะเธอเป็นคนพิเศษ เป็นคนที่ทำให้ความเป็นชายของเขาผงาดขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงไม่คิดรังเกียจร่างกายเธอเลยสักนิด
“อื้อ คุณ...”
หญิงสาวดิ้นพล่านเมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะลากผ่านส่วนสงวนที่ไม่เคยมีใครเห็น ความรู้สึกตอนนี้มันทั้งเขินอายและเสียดเสียวอย่างบอกไม่ถูก นักเขียนสาวเผลอครางหวานเมื่อลิ้นอุ่นร้อนของเขาลากไปตามกลีบกุหลาบครั้งแล้วครั้งเล่า
“ดีไหม ให้ทำต่อหรือเปล่า”
“อื้อ..มันดีกว่าที่คิด”
พราวรวีตอบไปตามที่ใจคิด สองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่น ความเสียวที่เขามอบให้มันมากจนเธอเริ่มจะทนไม่ไหว
ตาคมกริบมองร่างที่นอนดิ้นพล่านด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
นิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปยังกลางกายของเธอทีละนิด มันคับแน่นจนเขาแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาคิดว่าคงไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนชวนผู้ชายที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกมานอนด้วยแบบนี้
“อ๊ะ!”
หญิงสาวสะดุ้งเมื่อนิ้วยาวของเขาเข้ามาจนลึก เธอรู้สึกเจ็บแต่พอเขาขยับความเจ็บก็หายไปแต่เปลี่ยนมาเป็นความเสียวซ่านได้อย่างประหลาด
เมื่อรู้สึกว่าช่องทางมันคับแน่น คนที่รู้ขนาดของตัวเองดีก็เลยต้องเตรียมความพร้อมกับเธอให้มากขึ้นอีกนิด
ปากร้อนของเขาก้มไปสัมผัสกลีบกุหลาบอีกครั้ง พร้อมขยับนิ้วยาวเข้าออก ปลายลิ้นตวัดเลียจุดกระสันจนร่างที่อยู่บนที่นอนดิ้นพล่าน
“อื้อ”
เสียงหวานครางประท้วงเมื่อชายหนุ่มดึงมือออกจากช่องทางรักที่คับแน่น
“ใจเย็นครับคนสวย”
ชายหนุ่มบอกเสียงสั่น พลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็วและไม่ลืมที่จะหยิบถุงยางอนามัยที่มักพกติดตัวไว้ตลอดสวมไปบนท่อนเอ็นที่ผงาดง้ำ
เขาทับทาบลงมาบนตัวเธออีกครั้งพร้อมปากร้อนที่จูบบดเบียด ฝ่ามือร้อนก็บีบคลึงเต้างามกระตุ้นอารมณ์รัญจวนจนรู้สึกถึงความเสียวที่เพิ่มขึ้น
“อ๊ะ! เจ็บ”
หญิงสาวดันตัวเขาออกแต่แรงอันน้อยนิดของเธอก็ไม่อาจทำอะไรคนตัวโตได้
“เดี๋ยวมันจะดีขึ้น เชื่อผม คุณจะมีความสุข”
เธอพยักหน้าก่อนจะครางกระเส่าอีกครั้งเมื่อเขาจูบพรมยังซอกคอขาว ขบเม้นจนขึ้นรอยแดงไปทั่วเนินอก
ใช้จังหวะที่เธอกำลังเผลอสอดแทรกตัวตนเข้าไปทีละนิด แต่กว่าจะผ่านเข้ามาได้จนสุดเธอก็เจ็บจนน้ำตาล่วง
“คุณไม่เคย”
เขาถามอยากแปลกใจ เพราะนิยายของพริบพราวที่เขาอ่านมันทำให้เขาคิดว่าเธอคงผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว นั่นเท่ากับสิ่งที่เธอเขียนขึ้นมานั้นก็แค่จินตนาการไปเอง
“อือ”
หญิงสาวตบอย่างอายๆ
“ผมจะทำให้ครั้งแรกของคุณมีความสุขที่สุดเชื่อใจผมนะ”
กวีวัธน์ทั้งดีใจและภูมิใจที่เขาเป็นผู้ชายคนแรกของหญิงสาวตรงหน้า
แล้วเขาก็ทำได้อย่างที่พูดเพราะทุกจังหวะที่เคลื่อนเข้าออกมันทำให้คนไร้ประสบการณ์ได้แต่ครางหวานหลอมละลายไปกับบทรักของคนตัวโต
ร่างกายของเธอร้อนจนแทบระเบิด ไม่คิดว่าการร่วมรักมันจะเต็มไปด้วยหลากอารมณ์แบบนี้ ทั้งสุข ทั้งเสียวทั้งทรมาน ชายตรงหน้าพาเธอล่องลอยไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข
เสียงหวานครางกระเส่ารู้สึกราวกับทุกอย่างกำลังจะแตกดับตรงหน้า
“พราว เรียกชื่อผม เรียกผมวัธน์ ได้โปรดผมอยากได้ยิน”
“อือ คุณวัธน์ ฉันไม่ไหวแล้ว อื้อ ...”
หญิงสาวกรีดร้องด้วยความสุขสม ช่องทางรักตอดรัดอย่างรุนแรง พราวรวีกอดเขาแน่นร่างกายของเธอกระตุกอย่างรุนแรง สมองขาวโพลนไปหมด สติไม่รับรู้อะไรนอกจากความสุขที่ได้รับการเติมเต็มเป็นครั้งแรก
กวีวัธน์เองก็เริ่มทนไม่ไหว เขาขยับสะโพกกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรงก่อนจะคำรามลั่นเมื่อพบพานกับความสุขเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน
เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังไปทั่วห้อง กวีวัธน์กอดเธอไว้อย่างหวงแหน
เมื่อพายุตัณหาสงบลงคนตัวเล็กก็หลับไปอย่างง่ายดายไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยหรือเพราะง่วงกันแน่
พราวรวีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอปรับสายตาให้เข้ากับแสงสลัวในตอนเช้า เพราะผ้าม่านบังแสงทำให้ทั้งห้องยังไม่สว่างมากนัก
สมองกำลังประมวลผลว่าเมื่อคืนเธอกลับมาที่ห้องยังไงและเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อคิดได้ว่าเมื่อคืนเธอขึ้นมาบนห้องนี้กับผู้ชายที่เจอกันครั้งแรก ผู้ชายที่พี่ญาดาจ้างมา
“ตื่นเช้าจัง”
เสียงกระซิบที่ข้างใบหูทำเธอต้องรีบหันกลับไปมอง
“คุณ”
เธอตกใจที่เห็นผู้ชายตัวโตไม่สวมเสื้อนอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนของเขาพาดมากลางตัวของเธอและรู้สึกได้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น
คนตัวโตที่ถูกปลุกให้ตื่นส่งยิ้มมาให้ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบบนเรียวปากอิ่มอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
ร่างกายของเธอชาหนึบทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเพราะเมาค้างหรือถูกเขามอมเมาด้วยรสจูบกันแน่ หญิงสาวจึงตอบสนองได้อย่างน่าอาย
ร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด ยิ่งเขาขยับเข้าใกล้เธอไม่ขยับหนี หากแต่กลับขยับเข้าไปบดเบียดเขาอย่างคนขาดสติ
“จูบคุณหวานจัง ผมชักติดใจแล้วสิ”
“อื้อ ปล่อยก่อน พอแล้ว”
“ต่ออีกนิดนะครับ ผมยังไม่อิ่มเลย”
แต่ไฟปรารถนาที่เขาเป็นคนจุดขึ้นก็แผดเผาเธอจนแทบหลอมละลาย
สองมือฟอนเฟ้นเต้างามอย่างย่ามใจ ทำให้เธอแอ่นลำตัวเข้าหา ยิ่งเขาใช้ปากร้อนดูดดุนเธอก็ครางกระเส่า ร่างกายกำลังเรียกร้องบางอย่างที่มันมากกว่านั้น
กวีวัธน์คร่อมเหนือร่างคนตัวเล็กก่อนจะค่อย สอดความเป็นชายเข้าไปทีละนิด
“อื้อ เบาหน่อย”
หญิงสาวครางประท้วงแต่พอเข้าไปได้จนสุดเธอก็อยากให้เขารุนแรงขึ้นอย่างน่าอาย
บทรักรับอรุณทำให้ทั้งสองสุขไปอีกครั้ง พราวรวีเหนื่อยจนลุกไม่ขึ้น
“ผมมีประชุมเช้า แล้วเจอกันนะครับพราว” ชายหนุ่มห่มผ้าให้กับคนที่นอนหมดแรงก่อนจะจุมพิตไปยังไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่ออย่างแผ่วเบา
อันที่จริงเขาอยากอยู่กับเธออีกสักนิด แต่เพราะวันนี้มีประชุมสำคัญจึงต้องรีบไปอย่างเสียดาย
หญิงสาวหลับลึกไปอีกนับชั่วโมง พอตื่นมาก็รีบเข้าห้องน้ำทันที
“รอยแบบนี้สินะ” มือเรียวแตะเบาที่รอยแดงเล็กๆ บนเนินอก ร่องรอยที่ชายคนนั้นฝากไว้ไม่ได้มีแค่รอยเดียว แต่มันมีอยู่ทั้งร่างขาวของเธอจนนึกโมโห เพราะคงต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิดไปอีกหลายวัน
ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคน ความรู้สึกครั้งแรกมันต่างจากที่เธอเขียนอยู่มาก ความรู้สึกราวกับกำลังลอยอยู่บนดินแดนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหฤหรรษ์ ความรู้สึกที่ร่างกายถูกเติมเต็มเป็นครั้งแรก
พราวรวีพยายามนึกภาพและจดจำให้ได้มากที่สุด แต่คงเพราะความเมาทำให้บางอย่างมันดูเลือนลาง
เธอพอจะจำใบหน้าหล่อๆ ของเขาได้ ถ้าเจอที่ไหนคงต้องรีบหลบ นอกจากจะหล่อถูกใจจนเก็บเอาไปเป็นพระเอกนิยายคนต่อไปแล้ว เขาคนนั้นยังเอวดุเหมือนพระเอกคนก่อนๆ ของเธอไม่ผิดเพี้ยน
เขาทำให้เธอมีความสุขครั้งแล้วครั้งเล่าจนเธอหมดแรง ตาคู่สวยเบิกกว้าง เมื่อนึกถึงบทรักครั้งสุดท้ายตอนเช้า เขาไม่ได้สวมถุงยาง
หญิงสาวรีบวิ่งมาดูปฏิทินในโทรศัพท์แล้วก็ถอนหายใจเพราะอีกไม่เกินสองวันก็จะถึงรอบเดือนของเธอแล้ว เรื่องท้องก็ตัดทิ้งไป เหลือแค่เรื่องโรคติดต่อ ถ้าจะไปตรวจตอนนี้ก็คงไม่รู้เรื่อง ทางที่ดีควรถามเขาคนนั้นไปตรงๆ ไปเลยว่าเขาเคยตรวจเลือดบ้างหรือเปล่า
พราวรวีกลับมาถึงบ้านเกือบบ่ายโมง หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและทานอาหารที่แวะซื้อจากร้านของพี่เจนนี่ก่อนเข้ามาเธอมองนาฬิกาที่ผนัง ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาเลิกงานของญาดา หญิงสาวเก็บจานชามล้างจนสะอาด ดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้งก่อนจะขับรถญี่ปุ่นคันเล็กออกจากบ้าน ตรงไปยังสำนักพิมพ์ที่ญาดาทำงานอยู่“เอางานมาส่งพี่เหรอคะน้องพราว ไม่เห็นต้องมาเองเลยนะคะ ส่งทางเมลแบบเดิมก็ได้”“เปล่าค่ะพี่ดา พราวมีเรื่องจะถาม”“ถามเรื่องอะไร ท่าทางเครียดเชียว”“พราวอยากได้เบอร์โทรของผู้ชายที่พี่ดาจ้างไปให้พราวเมื่อคืนค่ะ”“อะไรนะ ใครจ้างใคร พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”พราวรวีเล่าเหตุการณ์ที่ชายคนนั้นแนะนำตัวเองกับเธอให้กับบรรณาธิการรุ่นพี่ฟังอย่างไม่มีปิดบัง“พี่ไม่ได้จ้างใครไปจริงๆ นะ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม”“แต่ผู้ชายคนนั้นเขารู้จักกับพี่”“ผู้ชายที่ว่าชื่ออะไรหน้าตาเป็นยังไงไหนลองบอกพี่สิ” ญาดามีลางสังหรว่าผู้ชายคนที่นักเขียนสาวพูดถึงจะเป็นคนเดียวกับญาติของเธอ“ตัวสูง ใบหน้าคม คิ้วเข้ม รวมๆ แล้วก็หล่อค่ะ เขาบอกว่าชื่อวัธน์” เธอตอบไปตามที่ได้รู้มา แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาชื่ออะไรกันแน่
กว่าจะประชุมเสร็จก็ถึงเวลาเลิกงานพอดี วันนี้กวีวัธน์รู้สึกอารมณ์ดีกว่าทุกวัน เพราะตอนนี้เขากลับมาเป็นคนเดิมแล้วชายหนุ่มนัดเจอเพื่อนๆ ที่ผับหรูแห่งหนึ่งที่มักใช้เป็นที่สังสรรค์เป็นประจำ วันนี้เขามาถึงเป็นคนแรกเพราะออกจากที่ทำงานก็ตรงมาที่นี่เลยเพราะไม่อยากเสียเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเขานั่งรอเพื่อนโดยมีสาวมาคอยบริการอยู่ไม่ห่าง กวีวัธน์เล็งเอาไว้แล้วว่าคืนนี้เขาจะพาสาวน้อยคนไหนกลับไปสนุกกับเขาที่โรงแรมต่อ“เฮ้ย วัธน์ทำไมดูอารมณ์ดีจัง หรือว่าเรื่องนั้น” คุณหมออิศเรศที่มาถึงเป็นคนที่สองอดแปลกใจไม่ได้“อือ มันกลับมาเป็นปกติแล้ว”“ดีใจด้วยนะ ไปทำอีท่าไหนล่ะ”“อย่ารู้เลย เรื่องมันยาวเอาเป็นว่าตอนนี้ฉันปกติดีแล้ว”“อะไรปกติเหรอคุณวัธน์” ภากรเดินเข้ามาได้ยินพอดีจึงถามขึ้น“สงสัยน้องชายมันกลับมาทำงานได้แล้ว” ฐากูรเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายพูดขึ้นอย่างรู้ทัน“จริงเหรอ”“อือ”พอทุกคนมาครบแล้วก็พูดคุยกันอย่างสนุกนาน กวีวัธน์ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้มาก่อน ร่างกายที่เคยห่อเหี่ยวกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งเขาอยู่พูดคุยกับเพื่อนจนเที่ยงคืนก็ขอตัวกลับโดยพาสาวสวยกลับไปด้วยถึงสองคน“อย่าหนัก
พราวรวีนั่งทำงานต่อจนเกือบเที่ยงคืน ช่วงอีโรติกที่เอามาแก้ไขช่วงแรกเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว หญิงสาวรีบส่งอีเมลไปให้ญาดา จากนั้นก็เตรียมตัวเข้านอนแม้ว่าจะเหลืออีกหลายช่วงที่ต้องแก้ไข แต่ก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาบ้างเพราะหลังจากมีประสบการณ์บนเตียงเกินขึ้นกับตัวเองแล้วเธอก็มองภาพได้ชัดขึ้นไม่รู้ว่านิยายเรื่องแรกเธอไปเอาความคิดคำพูดและความรู้สึกของตัวละครมาจากไหน แต่คิดว่าคงเป็นเพราะอ่านมามากเลยจำของนักเขียนท่านอื่นมาปรับใช้ แต่พอเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวก็ไม่ค่อยได้ศึกษางานของคนอื่น เนื่องจากอยากมีงานเขียนที่เป็นเอกลักษณ์จึงไม่อ่านงานของคนอื่นอีกเลยแต่ผลที่ตามมาก็คืองานสองเล่มล่าสุดยอดขายมีเพียงแค่หยิบมือ เพราะฉะนั้นเล่มที่กำลังเขียนอยู่นี้พราวรวีจึงต้องทำให้ดีที่สุด เธอคงไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งอย่างแน่นอน แค่นี้ก็เกรงใจพี่ญาดามากพอตัวอยู่แล้ว เพราะญาดาเป็นคนรับหน้ากับเจ้าของสำนักพิมพ์แทนเธอมาตลอดแสงทองของเช้าวันใหม่จับที่เส้นขอบฟ้า พราวรวีบิดขี้เกียจอยู่บนที่นอนกว้าง มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่เธอจะต้องตื่นแต่เช้า เพราะงานที่ทำอยู่ไม่มีใครบังคับว่าจะต้องตื่นเวลาไหน แต่หญิงสาวอยากสร้างวินัยให้ตน
กวีวัธน์ขับรถออกจากบ้านของคุณนักเขียนสาว ยังไม่ทันถึงหน้าหมู่บ้าน จู่ๆ ฝนก็ตกอย่างหนัก เสียงฟ้าร้องดังไปทั่ว แล้วสองข้างทางก็มืดลงบ้านทุกหลังที่ขับรถผ่านมืดสนิท เขาไม่รู้ว่าไฟฟ้าจะดับนานแค่ไหน แล้วพราวรวีจะอยู่คนเดียวได้หรือเปล่า ใจหนึ่งอยากขับรถกลับไปแต่อีกใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้ถึงแม้จะตกลงเป็นเพียงแค่คู่นอน แต่เขาก็คงไม่ใจร้ายทิ้งให้เธออยู่ท่ามกลางความมืดตามลำพังในคืนที่ฝนตกหนักเช่นนี้ชายหนุ่มกลับรถที่หน้าหมู่บ้านก่อนจะขับกลับมายังบ้านหลังเดิม เจ้าของบ้านไม่ได้ล็อกประตูรั้ว เธอประมาทเกินไปแล้ว เพราะคนสมัยนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหน เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเตือนเธอสักหน่อยขายาววิ่งฝ่าสายฝนเข้ามาในบริเวณบ้าน ทั่วบริเวณยังคงมืดสนิท เขาเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ สายตาคมมองหาเจ้าของบ้านไปทั่ว“พราว ส่งเสียงหน่อย คุณอยู่ไหน” เขาตะโกนแข่งกับสายฝนที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆเรียกอยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงขานรับ กวีวัธน์เดินตรงไปยังห้องนอนทั้งที่ตัวเองเปียกชุ่มไปด้วยหยาดฝน แสงไฟสาดไปทั่วห้องนอนก่อนจะสะดุดเข้ากับร่างเล็กที่ขดตัวอยู่ตรงมุมห้อง“พราว เป็นอะไร” เขาเดินเข้าไปใกล้ หญิงสาวรีบขยับตัวหนีด้วยความตกใจ“ผมเอง
พราวรวีรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งตัว เธอพยายามฝืนลุกขึ้นมาอย่างเงียบที่สุด อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโตอย่างเคย หญิงสาวเอาชุดที่กวีวัธน์ใส่ไว้ในตะกร้าเข้าเครื่องปั่น จากนั้นก็นั่งเขียนนิยายต่อ เพราะใช้พลังงานไปมากเช้านี้เธอเลยไม่มีแรงฝึกโยคะ “คุณตื่นเช้าจัง” ชายหนุ่มเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอน เขาสวมเพียงผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวเพราะชุดของตัวเองทิ้งไว้ห้องรับแขกตั้งแต่เมื่อคืน พราวรวีเงยหน้ามองแล้วก็ต้องรีบหลบเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นร่างกายของเขาชัดเจนแบบนี้ รูปร่างของเขาไม่ได้บึกบึนอย่างคนออกกำลังกายอย่างหนักหรือคนที่ชอบเล่นกล้าม แต่มันดูลีนและสุขภาพดีจนเธออดชื่นชมไม่ได้ ไหล่กว้าง สะโพกสอบ ช่วงลำตัวมีกล้ามแค่เล็กน้อย ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อคิดว่าถ้าได้เอื้อมมือไปสัมผัสจะให้ความรู้สึกแบบไหน “ไปแต่งตัวก่อนไหม มาเดินโป๊อยู่กลางบ้านแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวรีบปราบ “ก็ผมออกมาเอาชุด จำได้ว่าเมื่อคืนถอดทิ้งไว้แถวโซฟา” “ฉันเอาไปแขวนไว้ในห้องน้ำ ส่วนชุดที่เปียกกำลังอบอยู่เดี๋ยวคงเสร็จ คุณจะไปอาบน้ำรอเลยก็ได้ ถ
กว่าจะถึงบ้านก็บ่ายคล้อย พราวรวีทำความสะอาดบ้านและจัดของที่ซื้อมากว่าจะเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี เธอสั่งกับข้าวจากร้านประจำและหุงข้าวระหว่างรออาหารมาส่ง เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือเลยออกมากวาดเศษใบไม้ที่ร่วงหล่อนจากแรงของพายุเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้วใจเจ้ากรรมก็เผลอคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ต้องขอบคุณกวีวัธน์ที่ขับรถกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธออีกครั้ง ถ้าหากไม่มีเขา เธอก็คงอยู่อย่างหวาดระแวงไปนานนับชั่วโมง พราวรวีมีความทรงจำไม่ค่อยดีเกี่ยวกับความมืดโดยเฉพาะตอนฝนกำลังตกเธอก็ยิ่งหวาดกลัว เพราะตอนที่ตัวเองยังเด็กและอยู่บ้านคนเดียว ฝนตกหนัก ไฟก็ดับมืดไปทั้งบริเวณ บิดากับมารดาซึ่งทำงานเป็นครูยังกลับมาไม่ถึงบ้านเพราะเจอกับพายุฝนอย่างหนักเธอต้องอยู่ท่ามกลางความมืดคนเดียวจนดึก จำได้ดีว่ามันมืด หนาวและน่ากลัวมากแค่ไหน ยิ่งได้ยินเสียงลมพัดกระทบใบไม้เธอก็ยิ่งหวาดผวา แม้ตอนนี้จะโตแล้วแต่ก็ยังกลัวอยู่เหมือนเดิม ถ้าแค่ไฟดับก็ไม่เท่าไหร่เพราะยังพอคลำหาไฟฉายหรือใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีทั้งฝนตก ลมพัดแรงและไฟดับพร้อมกันล่ะก็เธอก็ทำอะไรไม่ถูก ไ
จักรยานยนต์จอดหน้ารั้ว คนตัวโตก็เดินไปเปิดอย่างรู้งาน พอล็อกประตูเสร็จก็เดินตามเข้ามาในบ้านหลักเล็กอย่างคุ้นเคย “ผมค้างที่นี่ได้ใช่ไหม” “ถามจริงหรือแค่ถามเป็นมารยาทคะ ฉันเห็นคุณเอากระเป๋ามาแล้ว” กวีวัธน์หัวเราะเมื่อหญิงสาวพูดอย่างรู้ทัน เขารีบเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บในห้องนอน จัดการแขวนชุดตัวเองในตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งที่ยังพอมีพื้นที่ว่างจากนั้นอาบน้ำจนรู้สึกสดชื่นก็ออกมาหาเจ้าของบ้านที่ห้องรับแขก “อ่านอะไรอยู่เหรอครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้าเขามาใกล้จนได้กลิ่นครีมอาบน้ำที่เธอใช้ประจำ “ห้ามดูนะคะ” หญิงสาวรีบถอยห่างพร้อมเก็บเอกสารในมือเข้าแฟ้ม “ความลับเหรอครับ” “ประมาณนั้นค่ะ” “มันจะเป็นความลับได้ยังไง อีกหน่อยคุณก็ต้องพิมพ์ออกมาขายมาใช่เหรอครับ” “ไม่ใช่นิยายค่ะ มีงานอื่นนิดหน่อย” “อ้อ” เขาพยักหน้าบอกว่าตัวเองเข้าใจ “ปกตินอนดึกไหม” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ” กวีวัธน์มองนาฬิกาที่ผนังเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมง “ผมขอนั่งทำงานได้ไหม ถ้าคุณจะนอนก็บอกผมนะ”
กวีวัธน์ออกจากบาร์ในเวลาเที่ยงคืน รถหรูจอดติดไฟแดง สมองกำลังประมวลผลอย่างหนัก ถ้าตรงไปเขาก็จะกลับบ้านตัวเองแต่ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปบ้านของพราวรวีพอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวข้อมือของเขาก็หักพวงมาลัยไปทางขวาโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างว่าแต่ขอแค่ได้นอนกอดเข้าก็มีความสุขแล้วชายหนุ่มจอดรถที่หน้ารั้วบ้าน เพราะด้านในจอดรถแค่คันเดียว เขามีกุญแจที่แอบเอาไปปั๊มไว้เป็นของตัวเอง ในวันที่เจ้าของบ้านบอกว่าวันนี้ทั้งวันเธอจะไม่ออกไปไหนเสียงเปิดประตูหน้าบ้านดึงสมาธิของพราวรวีออกจากเอกสารสัญญาตรงหน้า เธอรีบเก็บทุกอย่างลงแฟ้มก่อนจะเดินมาดู เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดเข้ามาเป็นใครก็ตกใจอยู่ไม่น้อย“อ้าว คุณวัธน์ ไหนว่าจะไม่มาไงคะ”“ผมกลัวว่าคุณจะคิดถึงผมจนนอนไม่หลับ” พูดพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี“ใครจะคิดถึงกัน ว่าแต่คุณเข้ามาได้ยังไงฉันล็อกประตูหมดแล้วนะคะ ทั้งที่รั้วและประตูบ้าน”“ผมมีกุญแจ” เขาชูกุญแจในมือให้เธอดู ก่อนจะบอกกับเธอว่าเขาแอบเอาไปปั๊มไว้ตั้งแต่วันก่อน“มากเกินไปไหมคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำอย่างนี้มันรุกล้ำความเป็นส่วนตัวกันเกินไปแล้ว” ใบหน้าหวานงอง้ำเพราะไม่ชอบสิ่งที่เขาทำอยู