กว่าจะถึงบ้านก็บ่ายคล้อย พราวรวีทำความสะอาดบ้านและจัดของที่ซื้อมากว่าจะเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี เธอสั่งกับข้าวจากร้านประจำและหุงข้าวระหว่างรออาหารมาส่ง เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือเลยออกมากวาดเศษใบไม้ที่ร่วงหล่อนจากแรงของพายุเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้วใจเจ้ากรรมก็เผลอคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ต้องขอบคุณกวีวัธน์ที่ขับรถกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธออีกครั้ง ถ้าหากไม่มีเขา เธอก็คงอยู่อย่างหวาดระแวงไปนานนับชั่วโมง พราวรวีมีความทรงจำไม่ค่อยดีเกี่ยวกับความมืดโดยเฉพาะตอนฝนกำลังตกเธอก็ยิ่งหวาดกลัว เพราะตอนที่ตัวเองยังเด็กและอยู่บ้านคนเดียว ฝนตกหนัก ไฟก็ดับมืดไปทั้งบริเวณ บิดากับมารดาซึ่งทำงานเป็นครูยังกลับมาไม่ถึงบ้านเพราะเจอกับพายุฝนอย่างหนักเธอต้องอยู่ท่ามกลางความมืดคนเดียวจนดึก จำได้ดีว่ามันมืด หนาวและน่ากลัวมากแค่ไหน ยิ่งได้ยินเสียงลมพัดกระทบใบไม้เธอก็ยิ่งหวาดผวา แม้ตอนนี้จะโตแล้วแต่ก็ยังกลัวอยู่เหมือนเดิม ถ้าแค่ไฟดับก็ไม่เท่าไหร่เพราะยังพอคลำหาไฟฉายหรือใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีทั้งฝนตก ลมพัดแรงและไฟดับพร้อมกันล่ะก็เธอก็ทำอะไรไม่ถูก ไ
จักรยานยนต์จอดหน้ารั้ว คนตัวโตก็เดินไปเปิดอย่างรู้งาน พอล็อกประตูเสร็จก็เดินตามเข้ามาในบ้านหลักเล็กอย่างคุ้นเคย “ผมค้างที่นี่ได้ใช่ไหม” “ถามจริงหรือแค่ถามเป็นมารยาทคะ ฉันเห็นคุณเอากระเป๋ามาแล้ว” กวีวัธน์หัวเราะเมื่อหญิงสาวพูดอย่างรู้ทัน เขารีบเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บในห้องนอน จัดการแขวนชุดตัวเองในตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งที่ยังพอมีพื้นที่ว่างจากนั้นอาบน้ำจนรู้สึกสดชื่นก็ออกมาหาเจ้าของบ้านที่ห้องรับแขก “อ่านอะไรอยู่เหรอครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้าเขามาใกล้จนได้กลิ่นครีมอาบน้ำที่เธอใช้ประจำ “ห้ามดูนะคะ” หญิงสาวรีบถอยห่างพร้อมเก็บเอกสารในมือเข้าแฟ้ม “ความลับเหรอครับ” “ประมาณนั้นค่ะ” “มันจะเป็นความลับได้ยังไง อีกหน่อยคุณก็ต้องพิมพ์ออกมาขายมาใช่เหรอครับ” “ไม่ใช่นิยายค่ะ มีงานอื่นนิดหน่อย” “อ้อ” เขาพยักหน้าบอกว่าตัวเองเข้าใจ “ปกตินอนดึกไหม” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ” กวีวัธน์มองนาฬิกาที่ผนังเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมง “ผมขอนั่งทำงานได้ไหม ถ้าคุณจะนอนก็บอกผมนะ”
กวีวัธน์ออกจากบาร์ในเวลาเที่ยงคืน รถหรูจอดติดไฟแดง สมองกำลังประมวลผลอย่างหนัก ถ้าตรงไปเขาก็จะกลับบ้านตัวเองแต่ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปบ้านของพราวรวีพอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวข้อมือของเขาก็หักพวงมาลัยไปทางขวาโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างว่าแต่ขอแค่ได้นอนกอดเข้าก็มีความสุขแล้วชายหนุ่มจอดรถที่หน้ารั้วบ้าน เพราะด้านในจอดรถแค่คันเดียว เขามีกุญแจที่แอบเอาไปปั๊มไว้เป็นของตัวเอง ในวันที่เจ้าของบ้านบอกว่าวันนี้ทั้งวันเธอจะไม่ออกไปไหนเสียงเปิดประตูหน้าบ้านดึงสมาธิของพราวรวีออกจากเอกสารสัญญาตรงหน้า เธอรีบเก็บทุกอย่างลงแฟ้มก่อนจะเดินมาดู เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดเข้ามาเป็นใครก็ตกใจอยู่ไม่น้อย“อ้าว คุณวัธน์ ไหนว่าจะไม่มาไงคะ”“ผมกลัวว่าคุณจะคิดถึงผมจนนอนไม่หลับ” พูดพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี“ใครจะคิดถึงกัน ว่าแต่คุณเข้ามาได้ยังไงฉันล็อกประตูหมดแล้วนะคะ ทั้งที่รั้วและประตูบ้าน”“ผมมีกุญแจ” เขาชูกุญแจในมือให้เธอดู ก่อนจะบอกกับเธอว่าเขาแอบเอาไปปั๊มไว้ตั้งแต่วันก่อน“มากเกินไปไหมคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำอย่างนี้มันรุกล้ำความเป็นส่วนตัวกันเกินไปแล้ว” ใบหน้าหวานงอง้ำเพราะไม่ชอบสิ่งที่เขาทำอยู
ในเวลาเที่ยงของวันเสาร์บ้านหลังเล็กของพราวรวีก็ยังคงเงียบสนิท เจ้าของบ้านสาวยังคงนอนขดอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายตัวโตที่ตอนนี้กำลังเปิดแอปพลิเคชั้นสำหรับสั่งอาหาร เพราะคิดว่าถ้าคนที่นอนหลับใหลอยู่ตื่นขึ้นมาคงได้หิวจนตาลายแน่ๆเมื่อคืนทั้งเขาและเธอใช้พลังงานไปเยอะกว่าทุกครั้ง ยิ่งได้สัมผัสใกล้ชิดไร้ปราการขวางกันก็ยิ่งรู้สึกดีจนแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ เขามั่นใจว่าตัวเองสะอาดปราศจากโรคติดต่อและก็มั่นใจว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดก็ไม่เคยมีใครอื่นนอกจากเขาการได้เป็นผู้ชายคนแรกมันรู้สึกอิ่มเอมใจ รู้สึกหวงแหนแต่เพราะเผลอไปบอกเธอว่าอยากให้เธอเป็นแค่คู่นอนก็เลยต้องมาคิดหนัก ความรู้สึกของเขาเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด พราวรวีไม่เหมือนคนอื่นที่เขาเคยเจอ คงเพราะการเริ่มต้นที่ข้ามขั้นตอนทุกอย่างไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องคอยเอาใจ เธอก็ทำตัวสบายๆ กับเขา การพูดคุยในแต่ละวันเลยเหมือนพูดคุยกับเพื่อน เขาจะกลับดึก หรือบอกว่าจะไปไม่กลับมาเธอก็ไม่เคยบ่นหรือถามถึงเหตุผล แต่ตัวเขาเองต่างหากที่อยากจะกลับมาค้างกับเธอทุกวัน อยากนอนหลับไปด้วยกันและตื่นมาเจอหน้ากันแบบนี้ทุกเช้า ถ้าครบสามเดือนแล้วความรู้สึกนี้ยังอยู่เขาคิดว
สายของวันจันทร์พราวรวีแต่งตัวออกจากบ้านและตรงมายังบริษัทที่ณิชามนทำงานอยู่ เพื่อเตรียมตัวอีกครั้ง“วันนี้เพื่อนนิสวยมากเลย”“ไม่ต้องมาชมเลย พราวเขินนะ ไม่ค่อยได้แต่ตัวแบบนี้มันดูทางการยังไงไม่รู้ นิว่าดูแก่ไปไหม”หญิงสาวหมุนตัวให้เพื่อนดู วันนี้เธอสวมสูทพอดีตัวสีเขียวมิ้นต์ กางเกงห้าส่วนแนบไปเรียวขาเล็กเสื้อด้านในเป็นเกาะอกสีขาวแต่งลายลูกไม้เล็กน้อยที่ช่วงอก ใบหน้าหวานแต่งด้วยเฉดสีอ่อน ขนตางอนปัดมาสคาร่าเน้นดวงตาให้ดูกลมโตมากขึ้น ริมฝีปากอิ่มแต้มสีนู้ดดูเรียบหรู ผมที่เคยปล่อยยาววันนี้ถักเปียและเกล้ามวยไว้บริเวณท้ายทอยติดกิ๊บลูกปัดสีขาวดูทันสมัย“แก่ตรงไหนสวยมากต่างหากล่ะ เดี๋ยวพราวรอตรงนี้นะ นิจะไปดูก่อนว่าบอสของนิมาหรือยังจะได้แนะนำให้รู้จักกันก่อน”“บอสของนิ ไม่ดุใช่ไหม”“ไม่ดูเลยสักนิด ทั้งหล่อทั้งใจดี ถ้านิยังไม่มีแฟนคงจะจีบไปแล้ว”“พราวชักอยากจะเจอแล้วสิ อยากรู้จังว่าเขาจะหล่อเหมือนพระเอกคนใหม่ของพราวไหม”ภาพใบหน้าหล่อเหลาของกวีวัธน์ก็แวบเข้ามา เธอต้องสลัดศีรษะเพื่อไล่เอาภาพเขาออกไป หมู่นี้ชักจะคิดถึงเขาบ่อยเกินไปแล้ว ทั้งที่นอนด้วยกันทุกคืนแต่พอกลางวันก็ยังคิดถึงเขาอยู่เรื่อย“บ
กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบจะสี่ทุ่ม คืนนี้พราวรวีไม่ได้ทำงานต่อเพราะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทำไหว แต่หญิงสาวก็ยังไม่อาจข่มตาหลับลงได้เพราะคนที่คุ้นเคยยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าวันนี้จะอยู่ด้วยกันหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้คุยกับเป็นการส่วนตัว เธอไม่โกรธกวีวัธน์เลยสักนิดที่เขาทำเป็นไม่รู้จักในวันนี้ เพราะมันทำให้เธอทำงานได้อย่างเต็มและไม่ต้องตอบคำถามณิชามนกับคุณกฤษณ์ว่ารู้จักกันได้ยังไงแต่หลังจากนี้ถ้าณิชามนติดต่อมาอีกก็คงต้องปฏิเสธเพราะกลัวว่าเขาจะอึดอัดที่ต้องร่วมงานกับเธอพราวรวีได้ยินเสียงรถที่หน้าบ้าน ก็รีบเดินออกมาเปิดประตู เมื่อเห็นเขาถือชุดทำงานมาด้วยก็อาสาจะช่วยถือไปเก็บ “ไม่เป็นไรครับพราว ไม่หนักเท่าไหร่”“มีของในรถอีกไหมคะ”“มีกระเป๋าโน้ตบุ๊กครับ”“เดี๋ยวฉันไปเอาให้นะคะ ขอกุญแจรถด้วยค่ะ”หญิงสาวเอากระเป๋าโน้ตบุ๊กไปวางในห้องทำงาน แล้วกลับมานั่งรอเขาที่ห้องรับแขกเมื่อเขาออกมาจากห้องเธอก็ขอเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงินค่าของใช้คืนเขา แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าช่วงนี้เขามาอาศัยที่บ้านของเธอและรบกวนเธอมากเกินไปก็เลยอยากจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้างเธอรู้ว่าเงินแค่นั้นสำหรับเขาคงไม่ได้มากมาย
เกือบสองทุ่มแล้วกวีวัธน์นั่งรอเจ้าของบ้านอย่างกระวนกระวาย เขาเลิกงานแล้วรีบตรงกลับบ้าน แต่ไม่คิดว่าเธอจะยังไม่กลับ ชายหนุ่มสั่งอาหารเย็นมารอจัดโต๊ะทิ้งไว้จนเย็นชืดตั้งแต่มาอยู่กับพราวรวีเกือบเดือนเธอไม่เคยออกไหนนานขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขากลับมาที่บ้านแล้วไม่เจอเธอในใจเป็นห่วงสารพัดกลัวว่าเธอจะเจออุบัติเหตุ ถึงแม้จะคุยกันไว้แล้วว่าห้ามก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของอีกฝ่ายแต่เขาก็คงไม่อาจอยู่เฉยได้“พราวคุณอยู่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมยังไม่กลับบ้าน” เขาถามออกไปทันทีเมื่อเธอกดรับ“อยู่ร้านค่ะ”“ร้านอะไรที่ไหน”“ก็ร้านเครื่องเขียนที่เคยบอก พอดีว่าเด็กที่ทำงานไม่สบายก็เลยมาทำแทนค่ะ กำลังจะกลับแล้วคุณถึงบ้านานหรือยังคะ”“ถึงนานแล้ว รอคุณกินข้าวหิวมากด้วย” เขาทำเสียงอ้อนจนเธออดยิ้มไม่ได้การมีใครห่วงใยและโทรตามเวลากลับถึงบ้านช้ามันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แต่เธอจะคิดอะไรกับเขามากกว่านี้ไม่ได้เพราะรู้ดีว่าระหว่างเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้เลย กวีวัธน์ก็แค่อยากได้คู่นอนที่ถูกใจเท่านั้นเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอ แม้จะแกล้งถามแกล้งหยอดไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่เขาก็เลี่ยงมาตลอด แม้จะถามตรงๆ ว่าคิดอ
พราวรวีกำลังจะปิดร้านเครื่องเขียน ก็ได้รับสายจากณิชามนว่าวันนี้เพื่อนๆ นัดกันไปนั่งดื่มถือโอกาสจัดปาร์ตี้สละโสดให้กับเอวา เพราะอีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงงานแต่งงานของเธอแล้วเพื่อนๆ นัดกันหลายวันแล้วแต่เพราะมีเรื่องให้คิดเธอจึงลืมไปจนสนิท“พราวจะมาเองหรือให้นิไปรับ” เพราะรู้ว่าเพื่อนคออ่อนดื่มไม่กี่แก้วเมาแล้วจึงไม่อยากให้ขับรถไปเอง“ไม่ต้องมารับหรอก ไปเจอกันที่ร้านเลยส่งโลเคชั่นมาอีกทีนะ เดี๋ยวพราวขอไปเปลี่ยนชุดก่อน อาจจะถึงช้าหน่อย พอดีวันนี้มาขายของที่ร้าน”“ได้ๆ แต่ยังไงก็ต้องมานะพราว พวกเราไม่ได้เจอกันทั้งกลุ่มแบบนี้นานแล้ว”“ไปอยู่แล้วรวมกลุ่มกันทั้งทีพราวจะพลาดได้ยังไงว่าแต่ครั้งนี้วีวี่มาได้ใช่ไหมคิดถึงนางอะ”“มาได้สิ แต่อยู่ได้ไม่นานนะสามีนางหึง”“ถ้านางจะกลับนิถ่วงเวลาให้หน่อยนะไม่ได้เจอนานแล้วคิดถึงอยากเมาส์”“จ้ะ รีบมานะ”พราวรวีกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีชุดที่เลือกสวมวันนี้เป็นสายเดี่ยวสีดำตัดกับผิวขาว ด้านหลังเป็นสายไขว้เว้าลงไปเกือบถึงบั้นท้าย ด้านหน้าก็คว้านลึกมีฟองน้ำในตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องสายบราให้ยุ่งยาก ผมมวยไว้แบบหลวมๆ ยิ่งใส่ส้นสูงสีแดงก็ดูเป็นสาวเ