กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบจะสี่ทุ่ม คืนนี้พราวรวีไม่ได้ทำงานต่อเพราะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทำไหว แต่หญิงสาวก็ยังไม่อาจข่มตาหลับลงได้เพราะคนที่คุ้นเคยยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าวันนี้จะอยู่ด้วยกันหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้คุยกับเป็นการส่วนตัว เธอไม่โกรธกวีวัธน์เลยสักนิดที่เขาทำเป็นไม่รู้จักในวันนี้ เพราะมันทำให้เธอทำงานได้อย่างเต็มและไม่ต้องตอบคำถามณิชามนกับคุณกฤษณ์ว่ารู้จักกันได้ยังไงแต่หลังจากนี้ถ้าณิชามนติดต่อมาอีกก็คงต้องปฏิเสธเพราะกลัวว่าเขาจะอึดอัดที่ต้องร่วมงานกับเธอพราวรวีได้ยินเสียงรถที่หน้าบ้าน ก็รีบเดินออกมาเปิดประตู เมื่อเห็นเขาถือชุดทำงานมาด้วยก็อาสาจะช่วยถือไปเก็บ “ไม่เป็นไรครับพราว ไม่หนักเท่าไหร่”“มีของในรถอีกไหมคะ”“มีกระเป๋าโน้ตบุ๊กครับ”“เดี๋ยวฉันไปเอาให้นะคะ ขอกุญแจรถด้วยค่ะ”หญิงสาวเอากระเป๋าโน้ตบุ๊กไปวางในห้องทำงาน แล้วกลับมานั่งรอเขาที่ห้องรับแขกเมื่อเขาออกมาจากห้องเธอก็ขอเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงินค่าของใช้คืนเขา แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าช่วงนี้เขามาอาศัยที่บ้านของเธอและรบกวนเธอมากเกินไปก็เลยอยากจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้างเธอรู้ว่าเงินแค่นั้นสำหรับเขาคงไม่ได้มากมาย
เกือบสองทุ่มแล้วกวีวัธน์นั่งรอเจ้าของบ้านอย่างกระวนกระวาย เขาเลิกงานแล้วรีบตรงกลับบ้าน แต่ไม่คิดว่าเธอจะยังไม่กลับ ชายหนุ่มสั่งอาหารเย็นมารอจัดโต๊ะทิ้งไว้จนเย็นชืดตั้งแต่มาอยู่กับพราวรวีเกือบเดือนเธอไม่เคยออกไหนนานขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขากลับมาที่บ้านแล้วไม่เจอเธอในใจเป็นห่วงสารพัดกลัวว่าเธอจะเจออุบัติเหตุ ถึงแม้จะคุยกันไว้แล้วว่าห้ามก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของอีกฝ่ายแต่เขาก็คงไม่อาจอยู่เฉยได้“พราวคุณอยู่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมยังไม่กลับบ้าน” เขาถามออกไปทันทีเมื่อเธอกดรับ“อยู่ร้านค่ะ”“ร้านอะไรที่ไหน”“ก็ร้านเครื่องเขียนที่เคยบอก พอดีว่าเด็กที่ทำงานไม่สบายก็เลยมาทำแทนค่ะ กำลังจะกลับแล้วคุณถึงบ้านานหรือยังคะ”“ถึงนานแล้ว รอคุณกินข้าวหิวมากด้วย” เขาทำเสียงอ้อนจนเธออดยิ้มไม่ได้การมีใครห่วงใยและโทรตามเวลากลับถึงบ้านช้ามันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แต่เธอจะคิดอะไรกับเขามากกว่านี้ไม่ได้เพราะรู้ดีว่าระหว่างเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้เลย กวีวัธน์ก็แค่อยากได้คู่นอนที่ถูกใจเท่านั้นเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอ แม้จะแกล้งถามแกล้งหยอดไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่เขาก็เลี่ยงมาตลอด แม้จะถามตรงๆ ว่าคิดอ
พราวรวีกำลังจะปิดร้านเครื่องเขียน ก็ได้รับสายจากณิชามนว่าวันนี้เพื่อนๆ นัดกันไปนั่งดื่มถือโอกาสจัดปาร์ตี้สละโสดให้กับเอวา เพราะอีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงงานแต่งงานของเธอแล้วเพื่อนๆ นัดกันหลายวันแล้วแต่เพราะมีเรื่องให้คิดเธอจึงลืมไปจนสนิท“พราวจะมาเองหรือให้นิไปรับ” เพราะรู้ว่าเพื่อนคออ่อนดื่มไม่กี่แก้วเมาแล้วจึงไม่อยากให้ขับรถไปเอง“ไม่ต้องมารับหรอก ไปเจอกันที่ร้านเลยส่งโลเคชั่นมาอีกทีนะ เดี๋ยวพราวขอไปเปลี่ยนชุดก่อน อาจจะถึงช้าหน่อย พอดีวันนี้มาขายของที่ร้าน”“ได้ๆ แต่ยังไงก็ต้องมานะพราว พวกเราไม่ได้เจอกันทั้งกลุ่มแบบนี้นานแล้ว”“ไปอยู่แล้วรวมกลุ่มกันทั้งทีพราวจะพลาดได้ยังไงว่าแต่ครั้งนี้วีวี่มาได้ใช่ไหมคิดถึงนางอะ”“มาได้สิ แต่อยู่ได้ไม่นานนะสามีนางหึง”“ถ้านางจะกลับนิถ่วงเวลาให้หน่อยนะไม่ได้เจอนานแล้วคิดถึงอยากเมาส์”“จ้ะ รีบมานะ”พราวรวีกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีชุดที่เลือกสวมวันนี้เป็นสายเดี่ยวสีดำตัดกับผิวขาว ด้านหลังเป็นสายไขว้เว้าลงไปเกือบถึงบั้นท้าย ด้านหน้าก็คว้านลึกมีฟองน้ำในตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องสายบราให้ยุ่งยาก ผมมวยไว้แบบหลวมๆ ยิ่งใส่ส้นสูงสีแดงก็ดูเป็นสาวเ
กว่ากวีวัธน์จะพาพราวรวีเข้ามาในบ้านได้ก็แทบแย่หญิงสาวเมาเกินกว่าเดินเองได้ พอเข้ามาถึงในบ้านเธอก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา ในขณะที่เขาเดินกลับไปเอากระเป๋าในรถและล็อกประตูรั้วเขากลับเข้ามาอีกทีก็ตกใจทนแทบจะหงายหลังเมื่อคนที่คิดว่านอนอยู่บนโซฟายืนอยู่ตรงประตูพอดี“นึกว่าคุณวัธน์จะทิ้งไปพราวไปแล้ว ดีใจจังที่คุณกลับมา” หญิงสาวสวมกอดเขาแน่น ท่อนแขนเรียวคล้องไปบนลำคอแกร่ง ก่อนยืดตัวขึ้นมาจูบเขาจนแทบตั้งตัวไม่ทันจากที่คิดว่าคืนนี้จะไม่ทำอะไรเพราะเธอเมาความคิดก็ถูกครอบงำด้วยตัณหาอีกครั้ง ร่างนุ่มนิ่มบดเบียดจนอารมณ์ของเขาเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด“พราวครับ คุณเมาแล้วนะ”“เมาแล้วไง ครั้งแรกที่นอนด้วยกันก็เมาแบบนี้ ดีออกจะตาย” เสียงพูดยิ่งตอกย้ำว่าเธอเมามากแค่ไหน“พูดอะไรออกมาเนี่ย”“ก็พูดอย่างที่รู้สึก งายคะ หรือว่าคุณวัธน์ไม่อยากนอนกับพราว”มือที่คล้องอยู่บนลำคอเปลี่ยนมาลูบไปตามกล้ามหน้าท้อง แล้วเลื้อยต่ำลงไปยังเป้ากางเกงที่ตอนนี้มันตุงทนแทบจะปริ“ทำไม่ยั่วเก่งแบบนี้”“แล้วชอบไหม ชอบให้ยั่วหรือเปล่า”“ชอบสิ แต่คุณต้องทำแบบนี้กับผมคนเดียวนะพราว”เสียงพูดของคนโดนยั่วเริ่มขาดช่วงเพราะตอนนี้คนช่างยั่วปล
กว่าพราวรวีจะตื่นนอนก็เกือบจะเที่ยง เธอมองไปรอบห้องแล้วก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จำได้ว่าคุยกับกวีวัธน์อยู่ที่หน้าห้องน้ำที่บาร์แห่งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาที่บ้านได้ยังไงแต่มองรอบๆ เตียงแล้วก็พอเดาออกว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าตอนเมาเผลออะไรไปหรือเปล่า แต่ใครจะสนใจเมื่อเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา ถึงจะพูดอะไรออกไปเขาก็คงไม่ใส่ใจเท่าไหร่หญิงสาวรีบเก็บกวาดห้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ส่งเข้าเครื่องจากนั้นเข้ามาอาบน้ำ พอส่องกระจกก็เห็นร่องรอยเต็มตัวไปหมด มันมากกว่าทุกครั้งและคงสวมเสื้อคอกว้างไม่ได้อีกหลายวันเธอรู้สึกระบมช่วงล่าง นึกโกรธที่ดื่มมากจนแทบไม่ได้สติ พราวรวีสัญญากับตัวเองแล้วว่าจากนี้จะดื่มจนขาดสติอีกเด็ดขาดการดื่มเหล้ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลยแต่กลับเลวลงด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะดื่มจนเมาเธอคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ ถ้าย้อนกลับไปได้เธอจะไม่ดื่มมันอีกอย่างแน่นอนขณะกำลังเบื่อสุดขีดก็ได้รับสายจากวีวี่ชวนไปลองชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาว พราวรวีรีบจัดการปกปิดร่องรอยตามตัวด้านหน้าจนแทบมองเห็น ส่วนด้านหลังก็ใช้รองพื้นแบบสเปรย์ที่ซื้อมาตั้งนานแล้วแต่เพิ่
พราวรวีกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้ง ตื่นเข้าออกกำลังกาย หาอะไรรองท้องตอนเช้านิดหน่อย กลางวันและเย็นก็สั่งอาหารมาทานอย่างเคยรู้สึกใจหายที่มองไปรอบบ้านก็ไม่เห็นเงาของใครอีก ความว่างเปล่าคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เขาจากไปแล้วคู่นอนที่เธออยากให้มาเป็นคู่ชีวิตได้จากไปแล้วเธอทนอยู่ที่บ้านหลังเดิมได้เพียงแค่สองวันเพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพผู้ชายตัวโตตามหลอกหลอนพอดีว่าห้องที่หอพักว่างพราวรวีจึงย้ายไปอยู่ที่นั่น การเปลี่ยนสถานที่คงจะทำให้ลืมเขาได้ง่ายขึ้น“คุณพราวจะอยู่ยาวถึงเปิดเทอมเลยก็ได้นะคะ” น้าแก้วตาที่มาช่วยเธอจัดของใช้ดีใจที่เจ้าของหอจะมาพักอยู่ด้วยเพราะเธอจะได้มีเพื่อนคุย“พราวก็ยังไม่แน่ใจค่ะ ว่าจะอยู่นานไหม พอดีข้างบ้านกำลังก่อสร้างค่ะ เสียงมันดังพราวเลยไม่มีสมาธิเท่าไหร่”“มาอยู่ที่นี่ถูกแล้วค่ะ ที่นี่กลางวันเงียบมากเลย เด็กบางคนก็กลับบ้านกัน”“มีห้องไหนที่ย้ายออกเลยไหมคะน้าแก้ว”“มีห้องที่คุณพราวอยู่กับอีกห้องชั้นบนค่ะ เรียนจบแล้วก็เลยย้ายออก ชั้นสองกับชั้นสามเป็นคนทำงานเลยอยู่เต็มเหมือนเดิมค่ะ”“ห้องที่เป็นนักเรียนก็ไปๆ มาๆ ค่ะเพราะบางคนก็มาเรียนพิเศษบางคนก็ขี้เกียจกลับไปฟ
ประตูห้องที่กำลังจะปิดถูกฝ่ามือใหญ่ดันตามเข้ามาพร้อมกับร่างที่คุ้นเคย“คุณวัธน์ เข้ามาได้ยังไงออกไปนะ” พราวรวีพยายามดันตัวเขาออกไปจากห้อง“ออกไปแน่แต่คุณต้องไปกับผม”“ฉันไม่ไปและก็ไม่ต้องมาบังคับ”“ไม่ได้บังคับ แต่จะขอร้อง ออกไปกับผมนะ”“ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณขอด้วย ฉันไม่ใช้ทาสของคุณ”“ผมรู้ ผมแค่อยากคุยด้วย”“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุย เราจบกันแล้วคุณไม่ควรมาเจอฉันอีก รีบกลับไปเถอะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นเห็น”“ทำไม กลัวตัวเองขายไม่ออกเหรอ”“มันเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง”“ถ้าไม่กับผม ผมก็จะเข้าไป อยากจะรู้จักไอ้คู่นอนที่คุณมากับมันจะทำหน้ายังไงถ้าเห็นคุณกับผมกำลังสนุกกันอยู่บนเตียง”คนตัวโตเดินเข้ามาประชิด หญิงสาวถอยกรูดจนตัวชนกับผนังอีกด้าน ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน“ถ้าคุณไม่ออกไปฉันจะเรียกรปภ.”“เอาสิ คนเขาจะได้รู้ว่าคุณกับผม เราเป็นอะไรกัน”“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ”“หึ ยังจะปากแข็งอีก” เขาหัวเราะในลำคอสายตามองเธออย่างเหยียดหยาม“ฉันเป็นผู้หญิงใจง่าย ผู้หญิงสำส่อนแล้วคุณจะมาสนใจฉันทำไม จะตามมาทำไม หรือผู้หญิงที่คุณพามาด้วยมันไม่ถึงใจคุณกันล่ะ”“คุณกำลังหึงผมอยู่ใช่ไหมพราว”“ฉัน
a“พี่ขอพูดตรงๆ นะพราว”“ได้ค่ะพี่ดา”“ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบทั้งพล็อต เนื้อหา ปมต่างๆ รวมไปถึงการบรรยาย พราวทำได้ดี”“แต่...” เพราะคุ้นเคยกันมาหลายปี พราวหรือพราวรวีจึงรู้ว่าต่อจากนี้สิ่งที่ญาดาหรือพี่ดาเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้ควบตำแหน่งบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งนี้ต้องมีอะไรพูดต่อจากนั้นแน่ๆ“เฮ้อ! เอาตรงๆ นะพราว ถ้าคนอ่านเพิ่งมาติดตามอ่านผลงานของพราวตอนนี้ก็คงชอบ เพราะมันสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ถ้าคนที่ตามผลงานมาตั้งแต่หลายปีก่อน พวกเขาก็คงจะเริ่มเบื่อกันบ้าง”“เบื่อเหรอคะ”“อือ เพราะพี่สนิทกับพราวก็เลยพูดตรงๆ แบบนี้ โดยเพราะช่วงอีโรติก พี่ว่ามันไม่ค่อยถึงอารมณ์เท่าไหร่ คนอ่านเริ่มจับทางได้แล้ว”“พราวต้องทำยังไงคะ ต้องแก้ใหม่ทั้งหมดเลยไหมคะพี่ดา”“ไม่ขนาดนั้นหรอกนะพราว แค่ปรับตรงอารมณ์ของตัวละครช่วงอีโรติกก็พอ ใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปอีกนิด”“งานยากเลยนะคะพี่ดา เฮ้อ..” พราวรวีถอนหายใจ“พี่ว่าหาแฟนสักคนสิพราว ประสบการณ์ตรงอาจช่วยได้คุณชวินทร์เขาก็สนใจพราวอยู่เหมือนกันนะ”“พราวยังไม่อยากหาสำนักพิมพ์ใหม่ตอนนี้ค่ะพี่ดา”พราวรวีรู้ว่าคุณชวินทร์ลูกชายของคูณวศินเจ้าของสำนักพิมพ์นั้นสนใ