EP 2 - แค่ผมคนเดียว
“เฮือก!”
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ก่อนจะหอบหายใจเข้าปอดอย่างบ้าคลั่ง หัวใจของฉันเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เสียงปืนที่ได้ยินยังคงชัดเจน ไม่หายไปไหน ภาพที่เปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นผู้เป็นแม่และพ่อนอนกอดกันจมกองเลือด พร้อมกับปืนที่ตกอยู่ข้างกาย ยังติดตาไม่จางหาย
“โอเคไหม”
ฉันหันขวับไปตามเสียงปริศนา ก่อนที่ทุกอย่างจะสว่างขึ้นฉับพลัน ฉันหลับตาลงทันที เพราะสายตายังไม่คุ้นกับแสงจ้า เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที ก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ ลืมตามองบุคคลตรงหน้า ชุดนอนสีขาวสะอาดทำให้เขาดูสงบขึ้นกว่าตอนกลางวัน ผมที่เคยเซ็ตเป็นทรงเรียบเนี้ยบ ตอนนี้กลับปล่อยลงอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้เขาดูเด็กลงกว่าเดิมมาก
“คุณเหนือ...”
ฉันเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา หัวใจยังคงเต้นถี่รัวไม่หยุด ชายตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียง มือหนาค่อย ๆ ยื่นมาเช็ดเหงื่อให้ฉันอย่างแผ่วเบา จนฉันเผลอหลุบตามองนิ้วของเขา
“ฝันร้ายหรอ”
เขาถามเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบ ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับแทนคำพูด ความเจ็บปวดนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของฉันทุกวัน แม้มันจะผ่านไปเพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น แต่ความทรงจำก็ยังชัดเจนเกินไป
“คุณเหนือ... มาช่วยฉันไว้ทำไมคะ”
ฉันเงยหน้าสบตากับเขา ก่อนจะเอ่ยถาม น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ถ้าหากตอนนั้นฉันตายไป ก็คงไม่ต้องฝันร้ายแบบนี้อีก เขาไม่ตอบอะไร แค่ดึงฉันเข้าไปกอดแทนคำพูด ความอบอุ่นที่ฉันไม่เคยได้รับเลยจากเขา วันนี้กลับได้สัมผัสมันเต็มหัวใจ ทั้งที่เราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว
“ฮึก ฮือออ...”
ฉันร้องไห้ออกมาอย่างหนัก พอพ่อกับแม่จากไป ฉันก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ไม่เว้นแม้แต่การแบกหน้ากล่าวคำขอโทษกับนักลงทุนที่เคยมาลงทุนในโครงการของพ่อ
โชคดีที่คนเหล่านั้นไม่ได้ฟ้องร้องฉัน บางคนอาจจะเห็นใจ บางคนอาจจะสงสาร ที่เด็กกำพร้าคนหนึ่งต้องสูญเสียทั้งครอบครัวในชั่วพริบตา และยังต้องจัดงานศพด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด โชคดีที่ยังมีพ่อบ้านช่วยอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้น... ฉันก็คงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้
“ให้ผมนอนเป็นเพื่อนไหม”
น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยขึ้นอย่างไม่คาดคิด ฉันค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาลวก ๆ อย่างเขินอาย
“ฉันถามว่ามาช่วยฉันไว้ทำไมคะ”
ฉันเอ่ยย้ำอีกครั้ง แต่น่าแปลกที่ตอนนี้กลับไม่กล้าสบตาเขา ฉันได้แต่นั่งก้มหน้า กุมมือตัวเองไว้แน่น
เขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉันเลย จะบอกว่าในฐานะอดีตคู่หมั้นก็ไม่ใช่ เพราะเราทั้งคู่ไม่เคยรักกัน ไม่เคยรู้สึกดีต่อกันเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย...”
ฉันเงยหน้าขึ้นทันที ด้วยความตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ฉันตรวจสอบรายชื่อผู้ลงทุนทั้งหมดแล้ว และไม่มีชื่อเขาอยู่เลย
“แต่ในใบรายชื่อ...”
“ผมไม่ได้ลงทุนเอง แต่พ่อของคุณ... เป็นคนมายืมเงินผมไปลงทุนในนามของเขาเอง”
ฉันเบิกตาโตทันที... กับสิ่งที่ได้ยิน
“ทะ... เท่าไหร่คะ”
“30 ล้าน...”
ฉันนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน เสียงของเขาราบเรียบ แต่คำที่เปล่งออกมากลับหนักหน่วงเสียจนหัวใจฉันแทบหยุดเต้น
ฉันไม่เคยรู้เรื่องธุรกิจของพ่อมากนัก แค่พอรู้ว่าท่านกำลังไปได้ดีกับบริษัทต่างชาติและลงทุนค่อนข้างเยอะ แถมยังชวนคนอื่นมาร่วมลงทุนด้วย แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่า เงินก้อนใหญ่ที่พ่อเอาไปลงทุนนั้น มันเป็นเงินของผู้ชายตรงหน้าคนนี้...
ในตอนนี้เอง... ฉันถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงมาช่วยฉันเอาไว้ ใครจะยอมเสียเงินตั้งสามสิบล้านไปฟรี ๆ กันล่ะ อย่างน้อยการที่ฉันยังอยู่ตรงนี้ ก็น่าจะยังมีประโยชน์กับเขาอยู่บ้าง
แต่กับฉัน... ฉันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วจริง ๆ
“ตะ... แต่ฉันไม่มีอะไรจะขายแล้ว ฉันขายทุกอย่างไปหมดแล้วค่ะ”
ฉันเอ่ยบอกเขาไปด้วยเสียงแผ่วหวังจะให้เขาเห็นใจ แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและหมดหนทาง
ตอนนี้... สิ่งที่ฉันเหลือมีเพียงเงินห้าบาทติดตัว กับเสื้อผ้าราคาถูก ๆ ที่ฉันสวมใส่อยู่ หากเอาไปขายก็คงได้เพียงไม่กี่บาทเท่านั้น
เกิดความเงียบขึ้นในทันที เขาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมอง และพบว่าเขากำลังจ้องมองฉันอยู่ก่อนแล้ว
เราสบตากันในความเงียบงัน และในตอนนั้นเอง มือหนาของเขาก็ค่อย ๆ ยกขึ้นมาชี้มาที่ตัวฉัน
“ตัวเธอไง... มันยังเหลือตัวเธออยู่”
เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก และคำพูดนั้น... ทำให้ฉันชะงักไปทันที
ประโยคนั้นหมายความว่ายังไง?
“หมายถึง... จะให้ฉันไปขายตัวเหรอคะ?”
ฉันถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ในหัวรู้สึกชาไปหมด ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีความคิดแบบนั้นอยู่ในใจจริง ๆ
“อืม...”
“คะ!? นี่คุณจะให้อดีตคู่หมั้นของตัวเองไปขายตัวให้คนอื่นจริง ๆ หรอ!”
ฉันตวาดกลับอย่างโกรธจัด มองเขาด้วยสายตาเจ็บปวดผสมความผิดหวัง
สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น ก็แน่ล่ะ... เขาไม่มีอะไรจะเสียนี่
เขาต้องการแค่ได้เงินคืน ส่วนฉัน... ถ้าต้องแลกด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองล่ะก็ ฉันไม่รู้เลยว่าจะมีหน้ากล้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้ยังไง
เขานี่มันแย่ที่สุดในโลก!
ในขณะที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห มือหนานั้นก็เอื้อมมาคว้ามือของฉันไว้แน่น พร้อมกับจ้องมองเข้ามาในดวงตาของฉันอย่างจริงจัง ก่อนที่เขาจะเอ่ยเสียงเบา แต่หนักแน่น
“ไม่ใช่คนอื่น... แต่แค่ผมคนเดียว... ผมคนเดียว
❤️
EP 3 – ยื่นข้อเสนอเช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำเรื่องเมื่อคืนที่ยังแจ่มชัดในหัว...หลังจากจบประโยคนั้น เขาก็อธิบายอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้ฉัน เป็นคู่หมั้นของเขาต่อไป เพราะรู้ดีว่าทางครอบครัวยังไงก็ต้องหาผู้หญิงคนใหม่มาให้อยู่แล้วเขาจึงยื่นข้อเสนอให้ฉัน รับบทเป็นคู่หมั้นปลอม ๆ ของเขาต่อไปอีกเป็นเวลา สามปี เพื่อแลกกับการชดใช้หนี้ของพ่อที่สูงถึง 30 ล้านแต่มันไม่ได้จบแค่นั้น...เขายังวางเงื่อนไขเอาไว้อีกว่า ฉันต้องทำตามทุกอย่างที่เขาสั่งภายในระยะเวลานั้นอย่างไม่มีข้อปฏิเสธ และถ้าฉันทำได้ เขาจะตอบแทนฉันด้วยการคืนชีวิตหรูหราที่ฉันเคยมีให้กลับมาอีกครั้งเขาจะให้อิสระกับฉันในด้านการใช้ชีวิต ไม่ว่าฉันจะไปทำงาน หรือจะเลือกนอนเล่นอยู่บ้านไปวัน ๆ เขาจะไม่ห้าม แต่มีข้อแม้สำคัญที่สุด...ฉันต้องวางตัวให้สมบทบาทของคู่หมั้นที่ดูเหมือนจะรักกันปานจะกลืนกิน ต่อหน้าคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะญาติหรือแขกฝ่ายไหนก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงคำครหาและสายตาจับผิดจากทุกฝ่าย รวมถึงทางฝั่งครอบครัวเขาด้วยฉันก็ถามกลับไปนะ ว่าทำไมถึงต้องเป็นฉัน?เพราะในตอนที่เราเคยเป็นคู่หมั้นกันจริง ๆ เราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยด้ว
ติ๊ดดดเสียงเปิดประตูทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากโซฟาโดยอัตโนมัติ ฉันหันไปมอง พบชายชุดดำยืนอยู่พร้อมกับผู้หญิงที่เดินเข้ามา“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นลูกน้องของคุณเหนือ มารับคุณปรียาไปซื้อเสื้อผ้าค่ะ”“อ่า... สวัสดีค่ะ” ฉันรีบลุกขึ้น พร้อมเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ“นี่เป็นชุดเปลี่ยนออกไปข้างนอกค่ะ คุณเหนือบอกว่าขอให้คุณปรียาแต่งตัวเหมือนที่เคยแต่งเป็นประจำได้เลยค่ะ”ฉันพยักหน้ารับคำเบา ๆ แล้วรับถุงกระดาษมาไว้ในมือ“งั้น... รอสักครู่นะคะ” ฉันเอ่ยอย่างประหม่า ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องไปทันทีเมื่อเปิดถุงออกมา ฉันก็พบว่าเป็นชุดเดรสสีขาวเรียบหรู ภายในถุงยังมีเครื่องสำอางขนาดเล็กพอให้แต่งหน้าได้อยู่บ้างฉันจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว...แม้ปกติฉันจะใช้เวลาแต่งตัวไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง แต่วันนี้ฉันพยายามรีบสุด ๆ แล้ว เพราะไม่อยากให้คนที่รออยู่ข้างนอกต้องรอนาน“รอนานเลยใช่ไหมคะ...” ฉันเอ่ยขึ้น พลางยิ้มแห้ง ๆ แต่นี่รีบที่สุดเท่าที่ฉันทำได้แล้วจริง ๆ นะ“ไม่นานเลยค่ะ คุณปรียาสวยมาก ๆ เลยค่ะ”ฉันยิ้มเขินทันทีเมื่อโดนชม จากนั้นลูกน้องของคุณเหนือก็พาฉันตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พร้อมกับเอ่ยบอกถึงคำสั่
EP 4 - ดื่มไวน์ด้วยกันไหมแกร้ก~“กลับมาแล้วเหรอคะ” ฉันเอ่ยต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม มองคนตัวสูงที่เดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อสูทที่พาดอยู่บนท่อนแขนแกร่ง ส่วนอีกมือก็ถือถุงยาว ๆ เข้ามาด้วย“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ฉันจึงรีบไปรินน้ำเย็น ๆ มาให้เขาดื่มทันที“น้ำค่ะ” ฉันยื่นแก้วน้ำให้กับเขาที่นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีอ่อนล้า เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับน้ำไปดื่มเงียบ ๆ ว่าแต่บรรยากาศแบบนี้ มันชวนให้รู้สึกเหมือนภรรยาที่ต้อนรับสามีกลับบ้านยังไงยังงั้นเลยไม่ใช่เหรอ“อันนี้อะไรเหรอคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะรูปทรงของถุงที่เขาถือมามันยาวผิดปกติ ไม่เหมือนถุงทั่วไป“ไวน์แดงครับ ของขวัญจากลูกค้า” ดวงตาของฉันโตขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบ เพราะในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหลาย ฉันชอบดื่มไวน์แดงที่สุด ทั้งหวานปนเปรี้ยว ยิ่งถ้ากินคู่กับผลไม้อย่างองุ่นด้วยนะ คือที่สุดของความเริ่ด“อยากดื่มไหมครับ” เขาถามขึ้นมา คงเพราะเห็นสีหน้าฉันตอนนั้นมันบอกความรู้สึกหมดเปลือกสินะ“ไม่เป็นไรค่ะ ” ฉันรีบปฏิเสธ เพราะดูจากยี่ห้อแล้ว โคตรแพงเลย ฉันจะกล้าดื่มได้ยังไงกัน“ดื่มได้ครับ ผมไม่ชอบดื่ม รับมาเพราะเกรงใจเ
“อร่อยจังเลยค่ะ ” ฉันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ลิ้มรสไวน์แดงครั้งแรก“เหรอครับ” เขาตอบเรียบ ๆ พร้อมส่งสายตาเหมือนจะถามว่า แค่นี้อร่อยแล้วเหรอ?แต่เดี๋ยวก่อน หน้าเขาดูแดง ๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า?“คุณเหนือเป็นไข้รึเปล่าคะ? หน้าแดงมากเลย” ฉันถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือทั้งสองลูบหน้าตัวเอง“เมาเหรอคะ?” ฉันรีบถามอีกครั้ง ถ้าไม่ได้เป็นไข้ก็คงเป็นเพราะไวน์นี่แหละแต่ แก้วแรกเขายังดื่มไม่หมดเลยนะ ผิดกับฉันที่กระดกไปหลายแก้วแล้วด้วยซ้ำ“เปล่า ผมไปนอน ”เขาพูดจบก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็เหมือนจะเซจนล้มลง“อ๊ะ! คุณเหนือ ไหวมั้ยคะ!” ฉันรีบเข้าไปประคองเขาด้วยความตกใจ ใบหน้าหล่อแดงจัดอย่างเห็นได้ชัด อาการแบบนี้ เมาแน่นอน“เดี๋ยวฉันประคองเข้าห้องนะคะ” ฉันรีบพูดก่อนจะค่อย ๆ พยุงร่างของเขาเข้าห้อง แม้จะหนักมากจนแทบล้มไปด้วย แต่ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เขาล้มเด็ดขาด ไม่งั้นได้ลากเข้าห้องแทนประคองแน่ ๆ!“อึกกก ”ในที่สุดฉันก็พาร่างคนตัวโตลงเตียงได้สำเร็จ คุณเหนือในตอนนี้ตาบรือมากอย่างเห็นได้ชัด มือหนาใหญ่ยกขึ้นก่ายหน้าผากฉันเลยค่อย ๆ จัดท่าทางให้เขาได้นอนอย่างสบายที่สุด พร
EP 5 - จากคู่หมั้นตัวจริง สู่คู่หมั้นตัวปลอมจุ้บ~“หืม?”“ตื่นแล้วเหรอครับ” ฉันกระพริบตาปริบ ๆ จ้องมองใบหน้าหล่อที่มองฉันนิ่ง ๆ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เมื่อรู้ว่าเมื่อคืนตัวเองเผลอหลับคาอ้อมกอดของเขา“อะ เอ่อ คือ ขอโทษนะคะ พอดีฉันเผลอหลับ” ฉันรีบเอ่ยแก้ตัวในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นจับผมที่ยุ่งฟูให้เรียบร้อย นี่ฉันหลับคาอ้อมอกของเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย ฮือ… ฉันทำอะไรลงไป“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะลุกจากเตียงไป พร้อมกับมือหนาที่เสยผมขึ้นลวก ๆ ว่าแต่ เขาดูไม่ตกใจหรือแสดงท่าทีอะไรเลยแฮะ เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรกับการที่ฉันนอนกอดเขาทั้งคืนซะอีกเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ว่าอะไร ฉันจึงค่อย ๆ เดินออกจากห้องเขา ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง แต่พอเดินผ่านหน้ากระจกเท่านั้นแหละ“อ่า ให้ตายเถอะ!” ฉันสบถกับตัวเองเบา ๆ เมื่อเห็นสภาพหน้าตัวเองในกระจก ขี้ตายังติดเต็มเปลือกตาอยู่เลยนี่ฉันโชว์ภาพลักษณ์แย่ ๆ แบบนี้ให้เขาเห็นจริง ๆ เหรอเนี่ย นึกแล้วก็อายจนอยากมุดผ้าห่มหนี รีบส่ายหน้ารัว ๆ ก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำทันทีในขณะที่ฉันกำลังแต่งหน้าอยู่ ความทรงจำบางอย่างก็ผุดขึ้นในหัว เพราะในตอนที่ฉันรู้สึกตัว จำได้ว่ามันมีสัมผัสนุ่
EP 6 – ผู้หญิงที่ไม่มีค่าอะไรเลย“มาทำอะไรตรงนี้ครับ”ฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบหันไปดูด้านหลัง และพบว่าตอนนี้คุณคิมมายืนอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“อะ เอ่อ จะมาเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยความประหม่าไม่นานนัก พนักงานที่ยืนเมาท์กันเมื่อครู่ก็เดินตรงมาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด พวกเธอหันมองหน้าฉัน ก่อนจะรีบก้มลงมองพื้น และพากันเดินหนีออกไปทันที“คุณคิมมีอะไรรึเปล่าคะ” ฉันเอ่ยถามเบา ๆ พลางมองใบหน้าหล่อของเขาที่มองตามพนักงานสองคนนั้นไปด้วยสายตาตำหนิอย่างชัดเจน“คุณเหนือให้มาถามน่ะครับ ว่าจะรับอะไรเป็นอาหารเช้า” ร่างสูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ขอเป็นกาแฟแก้วเดียวก็พอค่ะ” ฉันตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม คุณคิมพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป ฉันจึงเลี้ยวไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งที่โซฟาตัวยาว พร้อมสายตาที่มองใบหน้าหล่อของคนที่ยังคงจดจ่อกับงานตรงหน้าโดยไม่หันมามองฉันเลยแม้แต่นิดเดียวแต่ก็ไม่แปลกเหรอก เพราะปกติเขาก็เป็นแบบนี้เสมอไม่นาน คุณคิมก็เดินเข้ามาพร้อมกับกาแฟและสารพัดของว่างมากมายที่ฉันไม่ได้สั่ง เขาวางทุกอย่างจนเต็มโต๊ะ ฉันถึงกับตกใจจนเผลอหลุดปากถาม“คุณคิม ฉัน
EP 10 – ผู้หญิงที่ไม่มีค่าอะไรเลย“มาทำอะไรตรงนี้ครับ”ฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบหันไปดูด้านหลัง และพบว่าตอนนี้คุณคิมมายืนอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“อะ เอ่อ จะมาเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยความประหม่าไม่นานนัก พนักงานที่ยืนเมาท์กันเมื่อครู่ก็เดินตรงมาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด พวกเธอหันมองหน้าฉัน ก่อนจะรีบก้มลงมองพื้น และพากันเดินหนีออกไปทันที“คุณคิมมีอะไรรึเปล่าคะ” ฉันเอ่ยถามเบา ๆ พลางมองใบหน้าหล่อของเขาที่มองตามพนักงานสองคนนั้นไปด้วยสายตาตำหนิอย่างชัดเจน“คุณเหนือให้มาถามน่ะครับ ว่าจะรับอะไรเป็นอาหารเช้า” ร่างสูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ขอเป็นกาแฟแก้วเดียวก็พอค่ะ” ฉันตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม คุณคิมพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป ฉันจึงเลี้ยวไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งที่โซฟาตัวยาว พร้อมสายตาที่มองใบหน้าหล่อของคนที่ยังคงจดจ่อกับงานตรงหน้าโดยไม่หันมามองฉันเลยแม้แต่นิดเดียวแต่ก็ไม่แปลกเหรอก เพราะปกติเขาก็เป็นแบบนี้เสมอไม่นาน คุณคิมก็เดินเข้ามาพร้อมกับกาแฟและสารพัดของว่างมากมายที่ฉันไม่ได้สั่ง เขาวางทุกอย่างจนเต็มโต๊ะ ฉันถึงกับตกใจจนเผลอหลุดปากถาม“คุณคิม ฉ
EP 11 - การแสดงที่ยอดเยี่ยม“เราสองคน จะไปไหนกันเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามหลังจากที่เขากดลิฟต์มาที่ชั้นจอดรถ“ทานข้าวครับ” เขาตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำหน้าฉันไปคุณเหนือขับรถออกจากบริษัท ก่อนจะมาจอดที่ร้านอาหารหรูซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนักฉันกวาดสายตามองร้านอาหารที่ตกแต่งสวยงาม มีลูกค้าใช้บริการจำนวนไม่น้อยและแน่นอนว่า ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ฉันและคุณเหนือก็มักจะตกเป็นเป้าสายตาอยู่ดี“ปกติคุณไม่ชอบทานอาหารที่คนเยอะ ๆ ไม่ใช่เหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัยเพราะทุกครั้งที่นัดเจอกัน เขามักจะเลือกร้านที่คนไม่เยอะเสมอเขามองหน้าฉันนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร พร้อมกับหยิบเมนูขึ้นมาสั่งอาหารฉันมองใบหน้าหล่อคมของเขาด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะชวนฉันคุยนั่นนี่ระหว่างรออาหาร เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยทำมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อฉันเหลือบไปเห็นว่ามีคนบางคนแอบยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ ก็ทำให้ฉันเริ่มพอจะเข้าใจบางอย่างขึ้นมาได้หรือ เขาอยากให้เรื่องของเรากลายเป็นข่าว เพราะถ้าข่าวของเราสองคนถูกเผยแพร่ออกไปแน่นอนว่าจะต้องมีคนให้ความสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณเหนืออย่างแน่นอน“อร่อยจังเลยค
"หืม?" ฉันมองอย่างงุนงงก่อนจะเปิดกล่องนั้นออกสร้อยคอเส้นบาง ๆ ที่ห้อยจี้รูปหัวใจสองดวงไขว้กัน พร้อมสลักชื่อว่า 'Priya & Nuea'"คุณเหนือ " น้ำตาของฉันรื้นขึ้นมาทันที "แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ ฮึก ""ผมไม่ได้จะแกล้ง ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าผมจะรักคุณไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเจออะไรอีก ผมจะปกป้องคุณกับของขวัญให้ดีที่สุด""จะให้ฉันร้องไห้ในวันครบรอบจริง ๆ เหรอคะ""งั้นก็ไม่ต้องร้อง แต่จูบได้ไหม?"ฉันหน้าแดงทันที ก่อนจะยกมือปิดหน้าเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามา"ลูกตื่นอยู่นะคะ!""ก็จูบบอกรักเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรมากนี่นา~"ฉันได้แต่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้เขากอดไว้แน่น ๆ พร้อมกับเสียงกระซิบว่า "สุขสันต์วันครบรอบนะครับภรรยา"…หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็พากันไปเที่ยวสวนดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก วันนี้คุณเหนือขอลางานเพื่อใช้เวลากับครอบครัวเต็มที่ ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะตั้งแต่มีของขวัญ เราก็ไม่ค่อยได้มีเวลาออกไปข้างนอกกันพร้อมหน้าสามคนเท่าไหร่"ดูสิคะคุณเหนือ ดอกคอสมอสกำลังบานเต็มเลย~""สวย แต่คุณสวยกว่า""นี่แน่ะ!" ฉันหยิกแขนเขาเบา ๆ ด้วยความเขิน "ชมฉันแบบนี้ทุกวัน เดี๋ยวฉันก็ลอยข
3 ปีต่อมา“ของขวัญ ทักทายคุณย่าสิคะ”เสียงของฉันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อลูกสาวตัวน้อยยกมือไหว้ผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องเยี่ยมของเรือนจำ“สวัสดีค่ะคุณย่า” น้ำเสียงใสแจ๋วที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ นั้น ทำเอาฉันกับคุณเหนืออดยิ้มไม่ได้เขาอุ้มลูกขึ้นนั่งตักอย่างเคย ก่อนที่แม่ของเขาจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยใบหน้าอิดโรย แต่แฝงด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ“น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ เลยนะ”ท่านมองหลานสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความรักที่มาช้าเกินไปตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันกับคุณเหนือมาเยี่ยมท่านเป็นครั้งคราว แม้คุณเหนือจะให้อภัยแล้ว แต่ฉันก็รู้ เขายังโกรธ ยังเจ็บ แต่เขาก็เลือกจะไม่ตัดท่านออกจากชีวิต เพราะเขารู้ว่า "การให้อภัย" ไม่ได้แปลว่า "ลืม"“ทำไมคุณย่าถึงอยู่ในนี้คะ?” ของขวัญเอ่ยถามขึ้นอย่างใสซื่อ“เพราะย่าทำผิดน่ะจ้ะ เลยต้องถูกลงโทษ” ท่านตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบางโรคประจำตัวของท่านเริ่มกำเริบบ่อยขึ้น และเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า ท่านจะอยู่ถึงวันพ้นโทษหรือไม่…“ลูกล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”“ผมสบายดีครับ พ่อเองก็เช่นกัน” คุณเหนือตอบเสียงเรียบ แม้จะดูนิ่ง แต่ฉันรู้ เขากำลังกลั้นอารมณ์มากแค่ไหนเมื่อหมดเ
EP 31 - ฉันรักคุณ“ปรียา คุณต้องตื่นนะครับ ”เสียงนั้นดังอยู่ปลายหู ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะพบกับแสงไฟสลัวจากเพดานห้องกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลลอยแตะจมูก ฉันขยับตัวได้เพียงเล็กน้อยก่อนที่น้ำตาจะรินไหลออกมาอีกครั้ง “คุณเหนือ ”เสียงที่ฉันพร่ำเรียกคนที่รักที่สุดในชีวิต ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้ยินมันหรือเปล่าแต่ฉันภาวนา ขอให้เขาได้ยิน …โรงพยาบาลตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด เสียงชีพจรดังอย่างสม่ำเสมอแต่ไร้การตอบสนอง ฉันได้แต่นั่งฟังเสียงนั้นอย่างเหม่อลอย…นี่เข้าสู่วันที่ห้าแล้วแต่คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้นมาแม้คุณเหนือจะรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่หมอก็บอกฉันด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่าอาการของเขาหนักมาก และที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยตลอดชีวิต…“กลับบ้านไปพักสักหน่อยเถอะ”เสียงทุ้มของคุณพ่อคุณเหนือเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นฉันยังคงนั่งจับมือคนบนเตียงไม่ไปไหน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย”ฉันเงยหน้าขึ้นตอบกลับท่านอย่างอ่อนแรง ถึงแม้ร่างกายของฉันเองจะยังไม่ฟื้นดีจากการล้มเมื่อวันก่อนก็ตามหลังจากที่ท่านรู้เรื่องทุกอย่าง
EP 30 - อย่าทิ้งฉันกับลูกไป“ทำไมถึง อ๊ะ!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างของตัวเองก็ถูกกดให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้น มือทั้งสองรีบโอบรอบท้องทันทีเพื่อรองน้ำหนักไม่ให้กระแทก แต่ถึงอย่างนั้นแรงสั่นสะเทือนจากพื้นก็ยังทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง ร่างกายฉันไม่ปกติเลยแม้แต่นิด ทั้งเหงื่อที่ไหลซึมทั่วใบหน้า มือที่สั่นเทา และหัวใจที่เต้นแรงรัวจนหายใจแทบไม่ทัน“เป็นไงล่ะ มีความสุขใช่มั้ย ที่ได้นั่งอยู่บนกองเงินกองทองจากลูกชายฉัน!” เสียงตะคอกของผู้หญิงตรงหน้าทำเอาฉันตัวสั่น เธอกำลังเดือดดาลอย่างสุดขีด พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ใช่ความยินดีเลยสักนิด แต่มันคือความสะใจ ความสะใจที่ได้เห็นฉันเจ็บฉันพยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อจะอธิบาย แต่มีดที่จ่อคอฉันอยู่ก็ยิ่งกดลึกลงมา“คุณแม่คะ คือ ”“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่! ฉันมีลูกชายคนเดียว!”เธอตวาดใส่ฉันทันที ก่อนจะคว้าผมฉันแล้วกระชากอย่างแรง น้ำตาของฉันร่วงพร่างไปตามแรงกระชาก ทั้งเจ็บทั้งตกใจ รู้สึกถึงเลือดซึมออกมาจากลำคอที่ถูกปลายมีดเฉือนเบาๆ อย่างจงใจ“ฉันจะให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย ” เสียงเย็นเยียบจนขนลุกเอ่ยออกมา“ออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”ฉันกั
EP 29 – เพราะเธอคนเดียว2 เดือนต่อมาดูเหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี ช่วงนี้สุขภาพของลูกในท้องฉันแข็งแรงสมบูรณ์อย่างน่าพอใจ คุณหมอก็แจ้งว่าไม่มีภาวะเสี่ยงแท้งอีกแล้ว ส่วนฉันเองแม้จะยังมีอาการแพ้ท้องอยู่บ้าง แต่น้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ และพวกวิตามินหรือยาบำรุงครรภ์ฉันก็ไม่เคยขาดเลยสักครั้งชีวิตประจำวันของฉันตอนนี้เรียบง่าย มีแค่กินกับนอน และบ่นว่าตัวเองน่าเบื่อส่วนคุณเหนือ เขาเองก็ลดเวลาทำงานลง เพื่อจะได้กลับมาอยู่กับฉันและลูกให้เร็วที่สุด พอเขารู้ว่าฉันท้อง เขาก็เปลี่ยนตารางชีวิตไปเลยทันที แม้เขาจะยังมีงานต้องรับผิดชอบอยู่มาก แต่เขาก็ยังหาทางจัดสรรเวลามาอยู่กับฉันให้ได้ทุกวัน“ผมได้ยินว่าวันนี้คุณกินข้าวได้น้อย”เสียงของเขาดังขึ้นจากมือถือขณะที่ฉันกำลังเอนหลังอยู่บนโซฟา“ค่ะ ช่วงนี้กลิ่นอาหารมันแรงมาก แค่ได้กลิ่นก็คลื่นไส้แล้ว”ฉันตอบไปตามตรงพร้อมถอนหายใจเบาๆ ยังดีที่แม้จะกินข้าวได้น้อย แต่ร่างกายก็ยังได้รับสารอาหารครบจากวิตามินและอาหารเสริมที่คุณหมอจัดมาให้“งั้นไปหาหมอไหม เดี๋ยวผมลางานช่วงบ่ายพาคุณไปเอง”เสียงเขาเร่งรีบขึ้นนิดหน่อย“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทนได้ แค่ต้องปรับตัวอ
EP 28 - ต่อให้เป็นคุณแม่ผมก็ไม่ให้อภัย “แม่ผมเกือบฆ่าหลานตัวเองแล้วนะ!”ประโยคนั้นทำฉันสะดุ้งเงียบไปทันที หัวใจรู้สึกหนักขึ้นอย่างประหลาดฉันกลัวเหลือเกินว่า ทางฝั่งนั้นจะไม่ยอมรับลูกของฉัน ถ้าแค่ไม่ยอมรับฉัน ฉันยังพอทนไหว แต่หากลูกต้องถูกปู่และย่าแท้ๆ เกลียดชังขึ้นมา ฉันคงทนไม่ไหวจริงๆ“แต่ว่า ”“คุณพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะครับ”เขายกมืออีกข้างมาวางแนบที่แก้มของฉันเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากกลางหน้าผากฉันแผ่วเบามือหนาของเขากอบกุมใบหน้าฉันไว้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังหน้าท้องของฉันที่มีลูกของเขาอยู่ในนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรออกมา แต่แววตานั้นก็ส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างออกมาจนฉันสัมผัสได้เขารักลูกของเรามากแค่ไหน “งั้น ผมไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับ ฝันดีนะครับ”“ฝันดีค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง พร้อมกับมองเขาที่เดินจากไปอย่างเงียบๆ แม้จะอยากรั้ง อยากห้ามไว้มากแค่ไหน แต่ฉันก็รู้ดีว่า อีกฝ่ายคงไม่ยอมหยุดแน่ๆ เพราะเขามีเรื่องที่ต้องจัดการหลังจากคุณเหนือออกไป ลูกน้องของเขาก็เข้ามาแทนเธอเข้ามานั่งข้างเตียงและขอโทษฉันทันที ที่ไม่สามารถปิดเรื่องนี้เป็นความ
EP 27 – ภรรยาของผมคือคุณฉันเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อใจคุณ แต่คุณกำลังกดทับลูกของเราอยู่นะคะ”ทันทีที่พูดจบ เขาชะงักไปเหมือนนึกขึ้นได้ ก่อนจะรีบขยับตัวออกแล้วลุกขึ้นยืนแทบจะทันที“ผะ ผม ผมขอโทษ ผม ”เขาเอ่ยออกมาเสียงสั่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดฉันมองเขาอย่างอ่อนใจ แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธอะไร ในใจลึกๆ ฉันก็คิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกจัดฉากขึ้นมาก็เป็นได้ จะอย่างไรฉันก็ควรรอถามเขาและเชื่อใจเขา ไม่ควรตัดสินใจแค่ภาพที่เห็นแต่อย่างว่าล่ะนะ ตอนนั้นฉันช็อกมากเกินไป ทั้งภาพ ทั้งเสียง ทั้งคลิปที่ส่งมา ทุกอย่างมันบ่งบอกชี้ชัดว่าเป็นเขาแต่พอได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของเขา ฉันก็พอจะเดาได้แล้วล่ะว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงส่วนเรื่องลูก ดูจากที่เขาไม่ตกใจเลยว่าฉันกำลังตั้งท้อง แสดงว่าลูกน้องของเขาคงไปรายงานให้เขารู้แล้วแน่ๆ แม้ฉันจะสั่งไว้ว่าไม่ต้องบอก แต่สุดท้าย ฉันก็ไม่ใช่เจ้านายที่แท้จริงของพวกเขาอยู่ดี และฉันเองก็ไม่โกรธพวกเธอด้วย“คุณเหนือ หนีงานเพื่อมาหาฉันเหรอคะ?” ฉันถามขึ้นเบาๆ พลางมองเขาที่ตอนนี้นั่งลงข้างเตียงฉัน
EP 26 - ความจริงคือ?ผมภาวนา ขอให้เธอยังไม่รู้ ขอให้ทุกอย่างยังทันที่จะอธิบาย ขอแค่ ผมยังมีโอกาส(ใช่ค่ะ! และที่แย่ไปกว่านั้นคือ คุณปรียาช็อกจนหมดสติ)“อะไรนะ!?”(ยังมีเรื่องที่แย่สุดๆ อีกค่ะ )“เรื่องอะไรอีก ”(คุณปรียาท้อง และเกือบแท้งเพราะเรื่องนี้ค่ะ!)“ว่าไงนะ!? ท้อง?.. แท้ง? ปรียาท้อง!!”(ใช่ค่ะ ฉันหวังว่าคุณเหนือจะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้จบ แล้วรีบกลับมาให้เร็วที่สุดนะคะ)ปลายสายตัดไปทันที ทิ้งผมให้นั่งนิ่ง ฝังจมอยู่กับข่าวร้ายที่ถาโถมราวกับพายุที่ซัดใส่โดยไม่ทันตั้งตัวผมทิ้งตัวลงนั่งพิงกับผนัง ร่างแทบจะทรุดไปกับพื้นทันทีที่รับรู้ว่าปรียาท้อง และที่ร้ายกว่านั้น เธอเกือบจะเสียลูกไป เพราะเรื่องของผมผมเป็นต้นเหตุ ผมทำให้เธอผิดหวังผมทำให้ผู้หญิงที่ผมรักเกือบเสียลูกเพียงเพราะเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิดผมมัน ไอ้เศษสวะชัด ๆRrrrrr เสียงมือถือดังขึ้นในห้อง แต่มันไม่ใช่ของผม ผมหันไปตามเสียงนั้น พบว่ามันเป็นเสียงจากมือถือของคนที่อยู่ในห้องน้ำผมลุกขึ้น เดินไปหยิบมือถือเครื่องนั้นขึ้นมาดูโดยไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงอะไร แต่ชื่อสายเรียกเข้าที่ปรากฏขึ้นม
EP 25 – สิ่งที่กลัวที่สุดติ๊งเสียงแจ้งเตือนอีกครั้งดังขึ้น ฉันมองหน้าจออย่างลังเล ก่อนจะเห็นว่าเป็นคลิปวิดีโอที่ถูกส่งเข้ามาใหม่มือของฉันสั่นเทาจนแทบควบคุมไม่ได้ แต่ก็ยังกดเปิดมันขึ้นมาอย่างอดไม่ได้เมื่อภาพในวิดีโอค่อยๆ เล่น ภาพผู้หญิงคนนั้นที่เปลือยกายอยู่บนตัวผู้ชายคนหนึ่ง มือเธอเกาะกุมมือเขาไว้ที่หน้าอกและบีบขย้ำ และภาพที่เห็นคือเธอกำลังขย่มบนตัวเขาสุดแรง “อื้ออ๊าา คุณเหนือ อร้าย เบาๆ สิคะ ”“อื้อ เมลเสียวมากเลยค่ะ”“อร้าย~ คุณเหนือ ” เธอกระตุกฮวบแล้วทิ้งตัวลงกอดเขา จนฉันเห็นใบหน้าคุณเหนือชัดเจนน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มทันทีโดยไม่ต้องรอให้สมองตีความภาพนั้นให้ละเอียดร่างกายกำยำของหญิงสาวที่ขยับอยู่ข้างบนทั้ง เสียงคราง เสียงเรียกชื่อคุณเหนือ ทุกอย่างมันตอกย้ำ คุณเหนือกำลังอยู่กับเธอ จริงๆ…“คุณปรียา ดิฉันเอายาลดขะ !!” ลูกน้องของคุณเหนือเปิดประตูเข้ามาพอดี เธอชะงักไปทันทีเมื่อเห็นฉันนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างกายสั่นเทิ้มวิดีโอในมือถือยังคงเล่นซ้ำ ๆ พร้อมเสียงที่ดังชัดเจนไม่ผิดเพี้ยนเธอรีบวางถาดยาในมือลงแล้ววิ่งเข้ามาหาฉันทันทีด้วยความตกใจสุดขีด“คุณปรียา! เป็นอะไรคะ!?” เสียงขอ