สถานที่: โกดังสินค้าของแก๊งมาเฟียยามาโตะ คุโรคิ – ตึกเก่าในย่านท่าเรือโกดังที่ตั้งอยู่ในย่านท่าเรือเก่าของโตเกียว กลิ่นอับชื้นของเกลือทะเลปะปนกับกลิ่นฝุ่นละอองจากสินค้าทุกชนิดที่ถูกเก็บไว้อย่างสับสนรอบๆ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและเงียบสงัด เสียงเหล็กกรอบกระทบกันในความเงียบ ดังก้องไปทั่วทุกซอกทุกมุมของโกดัง เคนชิโร่และทีมงานของเขาเดินเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายและความไม่แน่นอนมิเอโกะเดินเคียงข้างเขา สายตาของเธอกวาดมองไปทั่วด้วยความระมัดระวัง คำเตือนจากเคนชิโร่ที่เคยบอกเธอให้ระวังตัวมาแล้วดังขึ้นในหัว"ระวังตัวนะครับ" เสียงของเคนชิโร่แผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความห่วงใย เขาหยุดเดินชั่วครู่แล้วหันไปมองมิเอโกะมิเอโกะพยักหน้าอย่างเข้าใจ มือขวาของเธอยังคงจับกระเป๋าที่สะพายไว้ข้างตัว ขณะที่มือซ้ายเธอยังคงแนบอยู่ใกล้กระบอกปืนที่เคนชิโร่ให้ไว้เมื่อวานก่อนการบุกครั้งนี้ เธอไม่เคยใช้มันเลย แต่การได้พกพามันไว้ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน"ฉันไม่กลัวค่ะ" มิเอโกะพูดอย่างมั่นใจ ตาเธอจ้องไปที่เคนชิโร่ พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้เคนชิโร่รู้สึกถึงความเชื่
สถานที่: โกดังสินค้าของแก๊งมาเฟียยามาโตะ คุโรคิ – ห้องลับภายในโกดังหลังจากการบุกโจมตีอย่างดุเดือดในโกดังสินค้าของแก๊งมาเฟียยามาโตะ คุโรคิ ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบลง แต่ในห้องลับที่ซ่อนอยู่ลึกสุดของโกดังนั้น ความตึงเครียดยังคงไม่ลดลงไป ความมืดมิดที่หล่อหลอมให้ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยภัยคุกคาม แต่เสียงหายใจหนักๆ ของผู้ที่มาร่วมการบุกในครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งทุกสิ่งที่ผิดกฎหมายเคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ มิเอโกะ เขามองไปที่ห้องที่เต็มไปด้วยอาวุธสงครามและสารเสพติด ที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ในที่มืดมิดนี้ ใบหน้าของเขาไม่มีความหวาดกลัว แต่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเมื่อเขาหันไปมองมิเอโกะ"ผมไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อน" เคนชิโร่พูดด้วยเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกสงบในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะอันตรายมากที่สุดมิเอโกะเงียบไปครู่หนึ่ง มือขวาของเธอยังจับปืนแน่น ขณะที่เธอมองไปยังเคนชิโร่ สายตาของเธอแสดงถึงความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย"คุณดูไม่กลัวเลย" มิเอโกะพูดด้วยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความชื่นชมเคนชิโร่ยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นก่อนจะตอบ "เพราะผมเชื่อว่าเราจะทำมันได้ครับ" เขามองไปที่ประตูห้องท
สถานที่: คฤหาสน์ของเคนชิโร่ - ห้องนั่งเล่นส่วนตัวหลังจากภารกิจที่เสี่ยงอันตรายและเต็มไปด้วยความตึงเครียดในโกดังยามาโตะ คุโรคิ สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คือความเงียบสงบที่แผ่ซ่านอยู่ทั่วคฤหาสน์ของเคนชิโร่ ห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่มีทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวมองเห็นจากหน้าต่างบานใหญ่ กลายเป็นที่พักผ่อนที่ทั้งสองสามารถหายใจได้เต็มที่หลังจากการต่อสู้ที่หนักหน่วงเคนชิโร่และมิเอโกะนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราในห้องที่มีแสงไฟอ่อนๆ สาดส่องไปทั่ว สายตาของทั้งสองจับจ้องกันอย่างเงียบงัน เหมือนเวลาในห้องนี้หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งมิเอโกะเงียบไปครู่หนึ่ง ขณะที่เธอเอื้อมมือไปยกถ้วยชาของตัวเองขึ้นดื่ม มือของเธอสั่นเล็กน้อย แต่มันก็ไม่หลุดจากการจับถ้วยได้ แม้ว่าเธอจะพยายามเก็บอารมณ์ทุกอย่างเอาไว้ก็ตาม"คุณทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย" มิเอโกะพูดเบาๆ มองไปยังถ้วยชาในมือของตัวเองแทนที่จะมองเคนชิโร่ "หลังจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้...ฉันยังไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน"เคนชิโร่ไม่ได้ตอบทันที เขากำลังพิจารณาคำพูดของมิเอโกะอย่างรอบคอบ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ เขาก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบถ้วยชาในมือของมิเอโกะออกจากมือเธ
สถานที่: คฤหาสน์ของเคนชิโร่ - ห้องรับประทานอาหารส่วนตัวหลังจากที่ทั้งสองใช้เวลาเงียบสงบในห้องนั่งเล่น จนดวงอาทิตย์เริ่มตั้งอยู่บนขอบฟ้า สีทองจากแสงพระอาทิตย์ที่ลอดผ่านกระจกทำให้บรรยากาศในคฤหาสน์ดูอบอุ่นและโรแมนติกยิ่งขึ้น เสียงของนาฬิกาผนังที่ติ๊กๆ อยู่ในห้องใหญ่สะท้อนให้รู้ว่ากำลังมีบางสิ่งที่ไม่สามารถหนีไปได้ ความเงียบสงบไม่ได้บ่งบอกถึงความเหงา แต่เป็นเหมือนความสงบภายในใจของทั้งสองเคนชิโร่พามิเอโกะไปที่ห้องรับประทานอาหารส่วนตัว ท่ามกลางแสงเทียนที่สว่างส่อง โคมไฟสีทองที่แขวนอยู่เหนือโต๊ะอาหารก็ส่องแสงละมุนอย่างอ่อนโยน บรรยากาศเหมาะสมสำหรับการรับประทานอาหารค่ำที่ไม่เพียงแค่เป็นมื้ออาหาร แต่ยังเป็นมื้อที่เต็มไปด้วยความหมายมากมาย"คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรหรอกค่ะ" มิเอโกะพูดขณะที่เคนชิโร่ตั้งใจจะจัดจานอาหารให้เธอ "ให้ฉันทำเองดีกว่า"เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เขากวาดตามองการตกแต่งรอบตัว ห้องนี้เงียบสงบ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ"คุณไม่ต้องกังวลครับ ฉันอยากให้คุณรู้สึกสบายที่สุด" เคนชิโร่ตอบเสียงอ่อนโยน ขณะยกจานของเธอให้ไปวางบนโต๊ะ "การที่คุณอยู่ที่นี่...ทำให้ทุกอย่างดูดีขึ้น"มิเ
สถานที่: คฤหาสน์ของเคนชิโร่ - ลานจอดรถส่วนตัวแสงแดดในเช้าวันใหม่ลุกขึ้นพร้อมกับการตื่นตัวของเคนชิโร่ เขาตื่นมาพร้อมกับภารกิจสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จ ความรู้สึกในหัวใจของเขาผสมผสานระหว่างความกังวลและความมุ่งมั่น เรื่องที่เขากับมิเอโกะได้พูดคุยกันเมื่อคืนยังคงวนเวียนในความคิดของเขา แต่ในวันนี้มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องจัดการเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้: การจัดการกับแก๊งค์ที่เขากำลังจะล้มมิเอโกะเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องนอนของเคนชิโร่ เมื่อเธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของเขาในห้อง เธอยิ้มให้กับความตั้งใจของเขา แต่ในดวงตาของเธอมีความวิตกกังวลซ่อนอยู่"คุณจะไปไหนคะ?" มิเอโกะถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใย ขณะยืนอยู่ที่ประตูเคนชิโร่หันมองไปที่มิเอโกะ ทันทีที่ดวงตาของเขาประสานกับเธอ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความวิตกกังวลที่ซ่อนอยู่ในนั้น แม้ว่าจะพยายามซ่อนมันไว้ใต้รอยยิ้มของเธอ"ผมต้องไปที่สถานีตำรวจครับ" เขาตอบด้วยเสียงมั่นคง "เราจะไปพบกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อวางแผนขั้นตอนต่อไปในการจัดการกับแก๊งค์เหล่านี้"มิเอโกะขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกถึงความกดดันที่มาจากการตัดสินใจของเคนชิโร่ แต่เ
สถานที่: ห้องทำงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังจากที่การพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจเสร็จสิ้น เคนชิโร่ยืนอยู่ในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ขณะนี้เขารู้แล้วว่าการจัดการกับแก๊งค์ที่คุกคามเมืองนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเอกสารและแผนการต่างๆ ที่ต้องคำนึงถึง ทั้งทางด้านการตรวจสอบข้อมูลและการวางแผนทางยุทธศาสตร์มิเอโกะยืนอยู่ข้างๆ เขา รู้สึกถึงแรงกดดันที่ทำให้เคนชิโร่ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ ทุกคำพูดที่เขาพูดไปในที่ประชุมเมื่อครู่ก็สะท้อนถึงความมั่นคงและความตั้งใจที่เขามี"คุณรู้ไหมคะ" มิเอโกะเริ่มพูดเสียงเบา ขณะที่เคนชิโร่กำลังหันไปสั่งการกับทีมงานในห้อง "ฉันรู้สึกว่า... คุณเหมือนจะกดดันมากเกินไป"เคนชิโร่หยุดการพูดคุยกับทีมงานชั่วคราว เขาหันกลับมามองมิเอโกะ รู้สึกถึงความกังวลที่แผ่ซ่านออกจากเธอ"ผมแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะจัดการทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ" เขาพูดเสียงหนักแน่น แต่ก็ยังมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก "แต่คุณก็พูดถูก... บางทีผมก็อาจจะกดดันตัวเองมากเกินไป"มิเอโกะยิ้มบางๆ ขณะที่เธอยืนขึ้นตรงๆ แล้วเดินไปข้างเคนชิโร่ เธอสัมผัสที่แขนของเขาเบาๆ ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง
สถานที่: ชั้นบนสุดของ Yūgen Club, ย่านชานเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างเงียบเชียบ ความเงียบที่ปกคลุมพวกเขาทำให้มิเอโกะรู้สึกถึงความเครียดที่ค้างอยู่ในอากาศ สถานการณ์ที่เธอกำลังจะเผชิญในชั้นสูงสุดของ Yūgen Club ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถคาดเดาได้ทั้งหมด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอรู้แน่ๆ คือเคนชิโร่จะไม่ปล่อยเธอไปไหน และเขาก็รู้ว่าเธอเองก็ไม่อยากให้เขาไปไหนเช่นกันเคนชิโร่ยืนข้างๆ มิเอโกะในลิฟต์ เขามองเธออย่างระมัดระวัง และสายตาของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนเร้นภายใน"คุณเป็นห่วงไหมครับ?" เขาถามเสียงเบามิเอโกะหันมามองเขา ตาของเธอแวววาวด้วยความกังวล แต่ก็มีแววของความเข้าใจในสายตานั้นเช่นกัน"ไม่หรอกค่ะ... ฉันแค่ไม่ค่อยแน่ใจว่าเราจะรับมือกับทุกอย่างได้ไหม" เธอตอบอย่างซื่อสัตย์เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย เขายื่นมือไปแตะที่ไหล่ของเธออย่างนุ่มนวล ราวกับต้องการให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคง"ไม่ต้องห่วง ผมจะคอยอยู่ข้างๆ คุณเสมอ" เคนชิโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มและมั่นใจมากขึ้น เขาอ่อนโยน แต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งภายในมิเอโกะรู้สึกถึงการปลอบโยนจากมือของเขา แม้ว่าจะเป็นเพียงการสัมผัสเบาๆ แ
สถานที่: บ้านของเคนชิโร่, เช้าวันรุ่งขึ้นเช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นที่บ้านของเคนชิโร่ ความเงียบสงบของยามเช้าถูกตัดขาดด้วยเสียงของนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นภายในห้องนอน เคนชิโร่ตื่นขึ้นจากการนอนหลับที่ไม่ค่อยเต็มที่ เขารู้สึกถึงความหนักหน่วงในอารมณ์หลังจากคืนที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจและการกระทำที่สำคัญมิเอโกะนั่งอยู่ข้างๆ เขาบนเตียง พลางมองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความกังวล พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรมากมายในเช้าวันนี้ เพราะต่างคนต่างรู้ดีว่าอะไรที่รอพวกเขาอยู่“คุณยังไม่ได้นอนดีเลยใช่ไหมคะ?” มิเอโกะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ขณะที่มือของเธอแตะเบาๆ ที่แขนของเคนชิโร่เคนชิโร่ขยับตัวไปข้างๆ และถอนหายใจเล็กน้อย “ใช่ครับ... พรุ่งนี้ก็จะมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมาย”ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนชิโร่ดังขึ้น เสียงสั่นสะเทือนของมันสะท้อนความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเขา เคนชิโร่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมองหน้าจอ ก่อนจะกดรับสาย“ครับ... สวัสดีครับคุณผู้บัญชาการ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่แฝงไปด้วยความแน่วแน่“เคนชิโร่... รายงานจากตำรวจสายของเราในโอซาก้าครับ” เสียงจากปลายสายทุ้มต่ำและเครียด “แก็งค์มา
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกในคาเฟ่เล็กๆ ใกล้แม่น้ำซุมิดะ ที่นั่งริมหน้าต่างตกแต่งด้วยดอกไม้สีพาสเทลและหมอนอิงลายดอกไม้ มิเอโกะนั่งเท้าคางอยู่กับโต๊ะ มืออีกข้างคนกาแฟในถ้วยเล็กๆ พร้อมกับสายตาที่มองออกไปนอกหน้าต่างเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแลคเรียบง่าย เขามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นเธอ“ขอโทษที่ให้รอนะครับ” เขากล่าวขณะเดินตรงมาที่โต๊ะมิเอโกะหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น “คุณนี่ตรงเวลากว่าที่คิดไว้นะคะ ฉันเพิ่งนั่งลงไม่ถึงสิบนาทีเอง”“ถ้าอย่างนั้นผมโชคดีที่มาทันเห็นคุณยิ้ม”เธอหัวเราะเบาๆ พลางโบกมือ “ชมแบบนี้อีกแล้วนะคะ คุณนี่จะทำให้ฉันเขินทุกวันเลยหรือไง?”เขานั่งลงตรงข้ามและหยิบเมนูขึ้นมา “บางทีผมก็อยากเห็นคุณเขินบ้าง”“ถ้างั้นคุณคงต้องรออีกนานเลยค่ะ เพราะฉันไม่เขินง่ายๆ หรอก”บทสนทนาที่เติมเต็มเสียงเพลงเบาๆ ในร้านช่วยเติมเต็มบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย เคนชิโร่วางเมนูลงและหันมามองเธอ“เมื่อคืนคุณนอนหลับสบายไหมครับ?”“ก็ไม่เลวนะคะ” เธอพูดพลางยักไหล่ “แต่บางทีฉันคิดว่าคุณน่าจะทำให้ฉันนอนไม่หลับมากกว่า”เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “ผมไม่ได้ตั้งใจทำใ
ในคลับหรูใจกลางชานเมืองโตเกียว แสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วพื้นที่ เสียงดนตรีจังหวะสนุกเร่งเร้าให้ผู้คนในคลับเคลื่อนไหวไปตามจังหวะ มิเอโกะยืนพิงกำแพงตรงมุมห้องพักศิลปินเล็กๆ ที่จัดไว้สำหรับนักร้องหน้าใหม่ เธอแอบมองลอดม่านบางๆ ออกไปยังพื้นที่หน้าเวที สายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มซึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับลูกน้องของเขา“คุณคนนั้นใช่ไหม?” เธอพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะกัดริมฝีปากล่างเพื่อระงับความตื่นเต้นโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นเบาๆ มิเอโกะหยิบขึ้นมาอ่านข้อความจากเคนชิโร่:“คุณโอเคไหม?”เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วพิมพ์ตอบกลับ:“ฉันโอเคค่ะ คุณไม่ต้องห่วง”ไม่นานนัก โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง คราวนี้เป็นสายโทรเข้า“ฮัลโหล?” มิเอโกะรับสายแล้วลดเสียงลง“คุณอยู่ตรงไหน?” เสียงเคนชิโร่ดังมาจากอีกฝั่ง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ฉันอยู่ในห้องพักหลังเวทีค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”“ดีครับ แต่จำไว้นะ ถ้าอะไรผิดปกติ รีบส่งสัญญาณมาหาผมทันที”“ค่ะ คุณพูดเหมือนฉันเป็นเด็กไปได้” มิเอโกะหัวเราะเบาๆ“คุณไม่ใช่เด็ก แต่คุณชอบทำให้ผมห่วง”คำพูดนั้นทำให้เธอหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว “คุณพูดแบบนี้... ฉันต้อง
หลังจากการประชุมที่ห้องของมิเอโกะในมูลนิธิ การตัดสินใจครั้งใหญ่ถูกวางแผนอย่างรอบคอบ เคนชิโร่เรียกบอดี้การ์ดทั้งห้าคนมาที่ห้องประชุมเพื่อวางแผนปฏิบัติการสำคัญ พวกเขาจะต้องเข้าไปในวงการของลูกชายมายาโตะ โคอิจิ เพื่อสืบหาเบาะแสและหลักฐานที่สามารถเอาผิดเขาได้ มิเอโกะนั่งอยู่ข้างๆ เคนชิโร่ รอให้ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ด้วยท่าทางที่เหมือนจะไม่ค่อยจริงจังนัก แต่ความคมคายในแววตาของเธอนั้นกลับทำให้เคนชิโร่รู้สึกถึงความหนักแน่นที่ซ่อนอยู่"คุณเคนชิโร่ค่ะ" มิเอโกะพูดเสียงหวานแต่ยังคงแฝงความจริงจัง "เราต้องทำให้ทุกอย่างราบรื่น เราจะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ?"เคนชิโร่ยิ้มบางๆ แล้วหันไปมองบอดี้การ์ดทั้งห้าคนที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านหน้าเขา โดยทุกคนต่างเป็นผู้ชายที่มีท่าทางเข้มแข็ง และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องและช่วยเหลือมิเอโกะ"โอเคครับ ทุกคน เรามีงานที่ต้องทำ" เคนชิโร่เริ่มต้นพูด "แผนของเราคือการแทรกซึมเข้าไปในธุรกิจของลูกชายมายาโตะ โดยการสมัครงานในหลายตำแหน่งที่เขามีส่วนเกี่ยวข้อง"เคนชิโร่หันไปมองมิเอโกะ ก่อนจะพูดต่อไป "ผมคิดว่าเราต้องให้คุณมิเอโกะไปสมัครงานกับลูกชายมายาโตะ เขาจะได้รู้จักกับคนในวงการ
มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโตที่เต็มไปด้วยความสงบและสถาปัตยกรรมโบราณ ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนที่เดือดร้อน ภายในอาคารที่ตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลอ่อนและกระจกที่สะท้อนแสงจากพระอาทิตย์ยามเย็น ทุกอย่างดูเงียบสงบและเป็นระเบียบ แต่ในวันนี้ มันกลับไม่สงบเหมือนเคยเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องทำงานของมิเอโกะในมูลนิธิ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิยืนอยู่ที่หน้าประตูและพูดด้วยน้ำเสียงเร่งด่วน “คุณมิเอโกะค่ะ ขอโทษที่รบกวน แต่มีตัวแทนชาวบ้าน 10 คนจากเกียวโตมาที่นี่ พวกเขาต้องการพูดคุยกับคุณโดยด่วนค่ะ”มิเอโกะที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหันไปมองเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าสงบ “เอาเลยค่ะ ให้พวกเขาไปนั่งรอที่ห้องประชุม เดี๋ยวฉันจะเข้าไปค่ะ”เจ้าหน้าที่พยักหน้าก่อนที่จะเดินออกไปไม่นาน มิเอโกะก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปยังห้องประชุม พอเปิดประตูเข้าไป เธอก็พบกับตัวแทนชาวบ้าน 10 คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะประชุม บรรยากาศในห้องดูจริงจังและมีความเครียดปกคลุมมิเอโกะนั่งลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะและหันไปยิ้มให้ทุกคน แม้ว่าจะมีความเครียดอยู่ในอากาศ “เกิดอะไรขึ้นค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยเหลือไห
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยอากาศสดชื่นที่พัดผ่านท้องถนนในเขตชานเมืองของโตเกียว เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในบ้านของมิเอโกะ ขณะที่เธอตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เธอลุกขึ้นจากเตียงและยืดตัวเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างบานเล็กเปิดรับแสงแดดที่อ่อนโยนเสียงเครื่องยนต์จากรถยนต์คันหนึ่งดังขึ้นจากนอกบ้าน ก่อนที่เคนชิโร่จะขับรถของเขาเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของมิเอโกะ รอยยิ้มของเขาแสดงให้เห็นถึงความสุขที่ได้มาอยู่ใกล้ๆ เธอในทุกวันมิเอโกะเดินออกมาจากบ้านในชุดทำงานที่ดูสะอาดตาและดูดี พอเห็นเคนชิโร่ยืนรออยู่ที่หน้ารถ เธอไม่ลืมที่จะโบกมือทักทาย พร้อมรอยยิ้มที่ยิ้มกว้าง "สวัสดีค่ะ คุณเคนชิโร่"เคนชิโร่ยิ้มตอบกลับ พร้อมกับเปิดประตูให้มิเอโกะ "สวัสดีครับคุณมิเอโกะ วันนี้คุณพร้อมสำหรับการทำงานที่มูลนิธิแล้วหรือยังครับ?"มิเอโกะเปิดประตูรถและนั่งลงข้างเคนชิโร่ ก่อนที่จะหันมายิ้มให้เขา "พร้อมค่ะ! แค่คำนึงถึงการทำงานที่มูลนิธิก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีคุณเคนชิโร่มาเป็นคนขับรถให้ก็คงจะลำบากน่าดูนะคะ"เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ พร้อมขับรถออกไป "ผมดีใจที่สามารถช่วยได้ครับคุณมิเอโกะ ถึ
แสงไฟจากตึกมูลนิธิส่องสว่างเป็นเงาลางๆ เมื่อเคนชิโร่จับมือมิเอโกะออกมาจากอาคาร ความเย็นของยามค่ำคืนทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ไม่วายแฝงความอบอุ่นจากไออุ่นมือของทั้งสองที่ประสานกันแน่น"คืนนี้อากาศดีนะครับ" เคนชิโร่พูดพลางเหลือบมองมิเอโกะที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม"ค่ะ ดีจนฉันอยากจะเดินกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ" มิเอโกะหันมายิ้มตอบ แต่สายตาก็แฝงความขี้เล่น"ผมคงปล่อยคุณเดินกลับเองไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณล้มระหว่างทาง ใครจะช่วยพยุง?" เคนชิโร่แซวกลับ พร้อมทำสีหน้าเจ้าเล่ห์"โอ๊ะ คุณกำลังบอกว่าฉันซุ่มซ่ามหรือคะ?" มิเอโกะย่นจมูกใส่เขา พลางบีบมือเขาเบาๆ"ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะครับ คุณต่างหากที่คิดไปเอง" เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะเปิดประตูรถหรูสีดำให้เธอ"อืม งั้นฉันจะถือว่าคุณชมว่าฉันน่ารักแล้วกันค่ะ" มิเอโกะยักคิ้วก่อนจะก้าวขึ้นรถ พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆรถเคลื่อนตัวออกจากมูลนิธิ มุ่งหน้าสู่บ้านของมิเอโกะ ถนนยามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากข้างทางที่สาดส่องเข้ามาในรถเป็นจังหวะ"คุณเคยบอกว่าผมขับรถพาคุณกลับบ้านจนชินแล้ว คืนนี้ผมจะได้เจอครอบครัวคุณไหมครับ?" เคนชิโร่ถามขณะมองถนน"ค่ะ พ่อกับแม่ฉันอยู่บ้าน แ
บ่ายวันนั้น แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ของ Mamori no Te Shien Zaidan ดูอบอุ่นเป็นพิเศษ อากาศปลอดโปร่งและเงียบสงบจนเหมือนเวลากำลังเดินช้าลง ห้องทำงานของมิเอโกะจัดแต่งด้วยโทนสีอ่อนที่ช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย บนโต๊ะทำงานมีเอกสารกองหนึ่งที่เธอจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้สนใจเอกสารเหล่านั้นเท่าใดนัก"คุณเคนชิโร่ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?" มิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงาน เธอจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาริมหน้าต่าง เขากำลังเลื่อนดูเอกสารบางอย่างในมือ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ"ได้สิครับ มีอะไรหรือเปล่า?" เคนชิโร่ตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น พร้อมวางเอกสารลงบนโต๊ะข้างตัวมิเอโกะยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา "ถ้าคุณไม่ได้อยู่ช่วยงานที่นี่ช่วงนี้ ฉันควรจัดการเอกสารนี้ยังไงดีคะ? ดูเหมือนจะเยอะเกินกว่าที่ฉันจะทำคนเดียวได้นะ"เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวไปพิงพนักโซฟา "ผมคิดว่าคุณทำได้อยู่แล้ว คุณเก่งจะตายไปนี่ครับ""พูดแบบนี้แปลว่าคุณจะไม่ช่วยฉันใช่ไหมคะ?" มิเอโกะเอียงคอเล็กน้อย ทำหน้าต
ห้องทำงานของมิเอโกะ ที่มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ยังคงเต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านกระจกเข้ามาอย่างสวยงาม ท่ามกลางความเงียบสงบที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างมืออาชีพของทุกคนในที่นี่ แต่สำหรับมิเอโกะในตอนนี้ ความคิดในหัวของเธอกลับไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือเรื่องงานเลยสักนิดมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และเธอกำลังพยายามเก็บความรู้สึกของตัวเองให้อยู่ในกรอบ ในขณะที่กำลังคิดถึงเคนชิโร่ที่เพิ่งออกไป แต่บรรยากาศในห้องทำงานก็ไม่อาจทำให้เธอรู้สึกนิ่งสงบได้"เอ๊ะ... คุณเคนชิโร่ไปจัดการเรื่องที่ไนท์คลับแล้วใช่ไหม?" เธอพูดออกมาคนเดียวด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้ฟังดูน่าเศร้าแต่ว่า มือเล็กๆ ของเธอก็หยิบปากกาออกมาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ เริ่มขีดๆ เขียนๆ แบบขอไปทีเหมือนจะหาทางทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น "อืม... ถ้าฉันไม่ได้เจอเขานานๆ ก็ต้องทำตัวเองให้ยุ่งๆ แล้วล่ะ" มิเอโกะพูดกับตัวเองอย่างขำๆ และท่าทางนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อทันใดนั้น เสียงเปิดประตูดังขึ้น และเคนชิโร่ที่เพิ่งออกไปกลับมาอีกครั้ง เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยท่าทางที่เหมือนจะมีอะไรอยากบอก มิเอโกะเงยหน
บรรยากาศในห้องทำงานของ Mamori no Te Shien Zaidan กลับมาสงบลงอีกครั้งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไป และตอนนี้มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง กำลังตรวจสอบเอกสารหลายชุดที่วางอยู่ข้างหน้า ในขณะที่เคนชิโร่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างความเงียบถูกทำลายเมื่อเคนชิโร่เปิดปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหนักใจ "คุณมิเอโกะครับ" เขาเริ่มต้นด้วยคำเรียกที่คุ้นเคยแต่แฝงไปด้วยความจริงจังมิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากเอกสารและมองไปที่เคนชิโร่ รู้สึกถึงความกังวลในสายตาของเขา "มีอะไรคะ คุณเคนชิโร่?" เธอถามอย่างใส่ใจ ท่าทางสงบและเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะฟังเคนชิโร่ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมา "ผมปล่อยธุรกิจที่ไนท์คลับ Yūgen Club ที่เกียวโตไว้นานแล้ว... ไม่ค่อยได้กลับไปดูแลมันเลยช่วงนี้" เขาพูดออกมาเบาๆ และรู้สึกถึงความหนักใจที่ซ่อนอยู่ในคำพูด "ตอนนี้ผมจะไม่ค่อยได้เข้ามาที่มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan สักเท่าไรถ้าไม่มีผมในช่วงนี้... คุณจะทำงานคนเดียวไวไหมครับ?"มิเอโกะมองไปที่เคนชิโร่ ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเห็นเขารู้สึกผิดไป เธอวางเอกสารลงและลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินเข้าไปใกล้ๆ เขาเพื่อที่จ