Share

บทที่ 0441

Author: อันอี่หราน
ซ่งชิงเหยียนและลู่ซิงหว่านฟังเข้าใจแล้ว

ซ่งจั๋วยังคงเป็นซ่งจั๋วที่ชอบฉยงหัวอย่างสุดจิตสุดใจ แต่กัวเยว่เสาชอบซ่งจั๋วจริงๆ และวิ่งไปที่จวนติ้งกั๋วโหวครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยเหตุนี้

แต่ซ่งจั๋วได้รับบาดเจ็บทางใจและต้องไป"รักษา" ในค่ายทหารชายแดน

ท่านยายและท่านลุงสะใภ้ใหญ่กังวลว่าผู้หญิงที่ดีอย่างกัวเยว่เสาจะถูกคนอื่นแย่งไป ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าวังเพื่อขอความช่วยเหลือจากซ่งชิงเหยียน

ทันใดนั้นซ่งชิงเหยียนก็เริ่มนึกถึงกัวเยว่เสาที่นางเห็นในงานเลี้ยงในวันนั้น แต่นางไม่เห็นโอกาสที่จะได้พบกับซ่งจั๋วเลย

“อา~” ซ่งชิงเหยียนพูด

คนทั้งห้องมองมาที่นางพร้อมกัน

“ข้ากลับจําได้ว่าวันนั้นฉยงหัวเคยพูดกับข้า”

เมื่อได้ยินชื่อของฉยงหัว ดวงตาของนางเว่ยก็เปล่งประกาย และมองไปที่ซ่งชิงเหยียนอย่างรีบร้อน

ในใจยังคิดว่าหากแม่นางฉยงหัวเปลี่ยนใจกะทันหัน นั่นย่อมดีที่สุดแล้ว

“คุณหนูกัวเป็นคนดีจริงๆ วันนั้นฉยงหัวกับหลินอินทะเลาะกัน คุณหนูกัวยังออกหน้ามาคืนดีด้วยเลย”

จู่ๆ ลู่ซิงหว่านก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา รู้สึกว่าป้าสะใภ้ใหญ่ของตนคนนี้คงจะหนีไปไกลอีกแล้ว

เป็นไปตามคาด

"พระสนมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณหนูหลินหรื
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0442

    นางเว่ยเงยหน้าขึ้นมองนางเซียวด้วยความเสียดาย แล้วหันไปมองซ่งชิงเหยียน ในที่สุดก็พยักหน้า“ไม่มีวาสนากับคุณหนูตระกูลกัวคนนั้น ก็ช่างมันเถอะ” ทําไมเสี่ยวซื่อถึงไม่รู้ความเสียใจของนางเว่ย แต่นิสัยของหลานชายตัวเอง ทั้งบ้านต่างก็รู้ดี“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กลับบ้านไปถามพ่อเขา หากพ่อเขาเห็นด้วย จัดการเรื่องในเมืองหลวงให้เรียบร้อย ก็ออกเดินทางพร้อมกับพ่อเขาเถอะ”ในที่สุดนางเซียวก็ตัดสินใจแทนลูกสะใภ้ของนาง“พี่ใหญ่จะออกจากเมืองหลวงแล้วหรือ?” ซ่งชิงเหยียนได้ยินนางเซียวพูดเช่นนี้ก็รีบเงยหน้าขึ้นถามกลับกําลังมองจิ่นซินเดินมาตรงหน้าตนอย่างระมัดระวัง ส่งสัญญาณให้ซ่งชิงเหยียนว่า “พระมเหสีเพคะ องค์หญิงหลับไปแล้วเพคะ”ซ่งชิงเหยียนยืนขึ้นและมองดู นางนอนหลับอยู่บนไหล่ของจิ่นซินจริงๆจึงโบกมือเป็นสัญญาณให้จิ่นซินและจิ่นอวี้พานางออกไปรอจนลู่ซิงกลับถึงห้องด้านในแล้ว นางเซียวจึงเอ่ยปากพูดต่อ “เดิมทีพ่อของเจ้าก็กลับเมืองหลวงเพื่องานพระราชสมภพของไทเฮา ตอนนี้งานพระราชสมภพของไทเฮาสิ้นสุดลงแล้ว ได้ยินว่าทางแคว้นเยว่เฟิงวุ่นวายอีก ควรกลับได้แล้ว”“ให้ซ่งจั๋วไปช่วยเสด็จพ่อเขาก็ดี”นางเว่ยออกจากวังด้วยควา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0443

    ครั้งนี้อย่าว่าแต่กัวผิงเลย แม้แต่ฮูหยินกัวก็ตกตะลึงแล้วนางรู้ว่าซ่งจั๋วเป็นเด็กดีและรู้ว่าเขาเป็นสามีที่ควรค่าแก่การฝากฝัง แต่เยว่เสาปีนี้อายุสิบสี่ปีแล้ว ถ้ารออีกสองปี เกรงว่าจะล่าช้าแล้วในขณะที่ฮูหยินกัวกําลังจะเอ่ยปากพูดเกลี้ยกล่อม กัวผิงกลับทําถ้วยชาตรงหน้าแตกกระจุยลงพื้นแม่และบุตรสาวทั้งสองต่างก็ตกใจกัวผิงสุภาพอ่อนโยนกับบุตรสาวคนนี้มาโดยตลอด ไม่เคยโกรธเลยสักครั้งแต่ก็เป็นเพราะกัวเยว่เสาเดินไปข้างหน้าภายใต้การจัดการของเขาตอนนี้เขากล้าที่จะเป็นเจ้านายของตัวเองแล้ว“เจ้าไม่ละอายใจตัวเอง แต่ข้ายังละอายใจตัวเองอยู่” กัวผิงกล่าวอย่างดุร้ายหลังจากโยนถ้วยน้ำชา“ข้าบอกแล้วว่าอย่าไปมาหาสู่กับจวนติ้งกั๋วโหว อย่าไปมาหาสู่กับจวนติ้งกั๋วโหว เจ้ากับกัวอวี๋กลับไม่ยอมฟัง ตอนนี้ดีแล้ว ให้คนทั้งเมืองหลวงหัวเราะเยาะตระกูลกัวของเรา” หัวเราะเยาะบุตรสาวตระกูลกัวของเราที่กลับตาลปัตรเจ้านายกัวอ้าปากพะงาบๆ แต่สุดท้ายก็เถียงไม่ออกมองไปที่กัวเยว่เสาที่อยู่ข้างหน้าเขาอีกครั้งและอยากจะพูดโน้มน้าวเขาสักสองสามคํา:"เยว่เสาเฉา..."กัวเยว่เสาโขกหัวลงไปอีกครั้ง "ขอให้เจ้าเสด็จพ่อและเจ้าแม่ช่วยมอบน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0444

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ยกขาขึ้นแล้วเดินไปยังตําหนักจิ่นซิ่วความโกรธในหัวใจของเขาเกือบจะระเบิดออกมาดังนั้นเสิ่นหนิงจึงจงใจให้สาวใช้ข้างกายวางยาตนเพื่อใกล้ชิดตน ส่วนนางเองก็รักษาตนมิน่าเล่าหมอหลวงถึงมองสาเหตุของโรคไม่ออก ที่แท้ก็เป็นพิษนี่เองผู้หญิงคนนี้กล้าหลอกใช้ตัวเองเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฝีเท้าของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เร็วขึ้นเมื่อไปถึงตําหนักจิ่นซิ่ว เสิ่นหนิงกําลังรับประทานอาหารกลางวันโดยมีเยว่หรานและอวิ๋นหลานคอยปรนนิบัติอยู่เมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่มา เสิ่นหนิงรีบลุกขึ้นมา ทําความเคารพอย่างนอบน้อม “เหตุใดฝ่าบาทถึงมาเวลานี้? เสวยข้าวเที่ยงแล้วหรือเพคะ?”ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับแค่นั่งด้วยสีหน้าอึมครึม ไม่พูดอะไรสักคําเสิ่นหนิงเพิ่งรู้ตัวว่าฮ่องเต้ต้าฉู่โกรธแล้วในใจรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยอวิ๋นหลานก็เดินตามหลังเสิ่นหนิง เห็นท่าทางฮ่องเต้ต้าฉู่ ร่างกายก็สั่นเทิ้มมิน่าเล่าเขาถึงบอกว่าอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับฮ่องเต้ก็เหมือนอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเสือ ด้วยสภาพของฝ่าบาทในตอนนี้ เกรงว่าถ้าไม่พอใจก็จะลากตัวเองออกไปตัดหัวแล้วแต่เยว่หรานกลับสงบจิตสงบใจแล้วรินน้ำชาให้ฮ่องเต้ต้าฉู่เสิ่นหนิงเห็นเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0445

    บางครั้งเสิ่นหนิงถึงขั้นคิดว่า ตัวเองเลือกผิดทางจริงๆ หรือเปล่าแทนที่จะเป็นฮองเฮาเช่นนี้ ไม่สู้เป็นสนมที่โปรดปรานอย่างซ่งชิงเหยียนจะดีกว่าหรือว่าเขาต้องรอถึงร้อยปีหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่แล้วถึงจะได้รับอํานาจเด็ดขาด?ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหงุดหงิดกับสิ่งเหล่านี้ ตอนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่กําลัง"แขวน" มีดไว้บนหัวของเขาเพื่อความปลอดภัย เมื่อก่อนเวลาส่วนใหญ่ เรื่องวางยาพิษ นางให้สนมอวิ๋นผิงจัดการเรื่องนี้ตอนนี้สนมอวิ๋นผิงไม่อยู่แล้ว คิดดูแล้วถ้าตรวจสอบเรื่องนี้ได้ก็คงไม่เป็นไรคิดถึงตรงนี้ ในใจของเสิ่นหนิงก็สบายใจขึ้นหลายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นสภาพของนางเช่นนี้ ในใจก็อดรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ได้ ฮองเฮาผู้สง่าผ่าเผย เอะอะก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเช่นนี้ ช่างเสียมารยาทเสียจริงเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่พูดอะไร เสิ่นหนิงก็แก้ต่างให้ตัวเองต่อ “หม่อมฉันสงสารฝ่าบาท จึงไปตรวจรักษาพระองค์ทุกวัน ทําไม...”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นหนิงเหมือนเสียใจมาก แม้แต่พูดก็พูดไม่ออกแล้วฮ่องเต้ต้าฉู่รู้เรื่องนี้ก็ไม่มีประโยชน์แน่นอน แม้แต่องครักษ์เงามังกรก็สืบได้แค่สนมอวิ๋นผิงเท่านั้น คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเสิ่นหนิงมากนักเร

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0446

    ในตําหนักฉางชิว องค์ชายสามได้ฟังคําพูดของหยวนฝูแล้ว ก็ไม่ได้คิดจะไปจวนตระกูลเหออีกเพียงแค่ส่งหยวนฝูไปครั้งหนึ่ง และได้พบกับราชเลขาเหอระหว่างทางกลับจวนอย่างเงียบๆ“ใต้เท้าเหอ” เนื่องจากหยวนฝูปลอมตัวเล็กน้อยและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ดังนั้นสารถีของเหอหย่งจึงไม่รู้ว่าคนที่มาเป็นคนในวังเมื่อหยวนฝูปรากฏตัวที่หน้ารถม้า คนขับรถม้าคนนั้นรีบดึงรถม้าไว้ ตะโกนเสียงดังว่า “ใครกัน!? ไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือ?”ส่วนราชเลขาเหอที่อยู่ในรถม้า หลายวันมานี้เพราะเรื่องของเหออวิ๋นเหยา ทําให้วิญญาณของเขาหลุดลอยไปความผิดพลาดของเหออวิ๋นเหย่าในครั้งนี้มันมากเกินไปหลายปีมานี้ตนเองกับพี่ชายของนางหลินมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้ดังนั้นวันนี้ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปที่จวนตระกูลหลินเพื่อเปิดเผยเรื่องนี้กับใต้เท้าหลินอย่างตรงไปตรงมาหากเรื่องนี้ถูกองค์ชายสามตรวจสอบออกมาจริงๆ เกรงว่าตระกูลหลินจะต้องบาดหมางกับเขาแน่ในใจของเขากําลังหงุดหงิด แต่ไม่คิดว่ารถม้าเกือบจะตกใจกับหยวนฝู จึงเปิดม่านรถและด่าอย่างโกรธเคืองว่า “เกิดอะไรขึ้น!”ท่าทางเต็มไปด้วยความโกรธแต่หยวนฝูกลั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0447

    “เฮ้อ” หลินเหอเฉิงกลับถอนหายใจ “น้องเขยก็รู้ เรื่องบุตรสาวคนเล็กของข้า ภรรยาของข้าไปฟ้องใต้เท้าศาลาว่าการ แต่บังเอิญเหลือเกิน ได้พบกับองค์ชายสาม ตอนนี้องค์ชายสามตั้งใจแน่วแน่ที่จะจัดการเรื่องนี้”เมื่อพูดถึงองค์ชายสาม เหอหย่งรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นผิดจังหวะอีกหลายครั้งเรื่องที่อวิ๋นเหย่าทํา จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แต่ถ้าองค์ชายสามคิดจะฉวยโอกาสดึงตัวเองลงมา นั่นเป็นเรื่องง่ายเกินไปหลังจากฟังคําพูดของหลินเหอเฉิงแล้ว เหอหย่งก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่นิ่งเงียบขณะที่หลินเหอเฉิงกําลังจะเอ่ยปากอีกครั้ง เหอหย่งกลับลุกพรวดขึ้น ประสานมือคํานับหลินเหอเฉิงอย่างนอบน้อม “พี่หลิน”ครั้งนี้ทําให้หลินเหอเฉิงกลัวมาก รีบเข้าไปประคองเขาขึ้นมาแม้ว่าตนเองจะไม่ได้เลื่อนตําแหน่งมาหลายปีแล้ว แต่สามารถดํารงตําแหน่งรองเสนาบดีกรมขุนนางได้อย่างมั่นคง ก็อาศัยแรงสนับสนุนจากน้องเขยของราชเลขากรมแรงงานอย่างตนเองนอกจากนี้ หลายปีมานี้ เขาได้รับผลประโยชน์มากมายจากกรมแรงงานตัวเองจะกล้ารับความเคารพจากเขาได้อย่างไรเหอหย่งกลับยังคงรักษาท่าทางเดิมไว้ “พี่หลิน บอกตามตรง เรื่องที่อินเอ๋อร์ถูกฆ่าตา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0448

    เมื่อพวกเขาเห็นหลินอิน หัวใจของพวกเขาก็พองโตทันที พวกเขาทรมานนางครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งนางถูกทรมานจนตายจึงนําไปโยนทิ้งในหลุมศพราชเลขาเหอพูดถึงตรงนี้ คนที่ควรจะเข้าใจต่างก็เข้าใจหมดแล้วนางโจวกุมมือตัวเองแน่น ร่างกายสั่นเทิ้มไม่หยุดไม่น่าแปลกใจที่นางหลินกล่าวว่าเหออวิ๋นเหยาล้มป่วยเพราะอุบัติเหตุของหยินเอ๋อ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถมาแสดงความเสียใจได้แน่นอนว่านางไม่กล้ามาแล้วนางเป็นฆาตกรคนหนึ่ง จะยืนต่อหน้าอินเอ๋อร์ได้อย่างไรเมื่อนางโจวนึกถึงรอยแผลเป็นทั่วร่างกายของอินเอ๋อร์ ก็สามารถจินตนาการได้ว่าก่อนตายนางได้รับความทรมานแบบไหนผิวหนังทุกตารางนิ้วของนางเต็มไปด้วยรอยช้ํานางสามารถคิดได้ว่า Yin'er ขอร้องคนเหล่านั้นอย่างไร แต่ในที่สุดก็ถูกพวกเขาทรมานจนตายเมื่อคิดถึงตรงนี้ เล็บของนางโจวก็ฝังเข้าไปในเนื้อแล้ว และก็เป็นความเจ็บปวดนี้เองที่ทําให้นางสามารถควบคุมสมองของตัวเองได้ ไม่พุ่งเข้าไปฆ่าเหอหย่งคนนั้นทันทีในที่สุดหลินเหอเฉิงก็ได้สติจากความตกใจ"เจ้า... เจ้า..."แต่แค่อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออกแต่วินาทีต่อมา คําพูดของเหอหย่งกลับดึงเขากลับมาจากความสับสนวุ่นวายนี้และเห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0449

    และในที่สุดนางโจวที่รออยู่นอกหน้าต่างก็ใจสลายเขากลับไปที่ลานบ้านของเขาเหมือนซากศพเดินได้ไม่นานหลังจากนั้น หลินเหอเฉิงก็มาถึงแล้ว“พรุ่งนี้เจ้าไปที่ใต้เท้าศาลาว่าการ ถอนคดีของอินเอ๋อร์ บอกเพียงว่าไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายอีก ยอมรามือตรงนี้” หลินเหอเฉิงไม่ได้มาที่เรือนตระกูลโจวเป็นเวลานาน ในใจก็รู้สึกผิดต่อหลินอิน เวลาพูดก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้ามองนางโจวโดยตรงนางโจวกลับแสร้งทําเป็นไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เอ่ยเสียงเรียบว่า “เพราะเหตุใด?”หลินเหอเฉิงกลับคิดว่านางเหนื่อยแล้ว ไม่ได้เก็บท่าทางแปลกๆ ของนางมาใส่ใจ “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของลูกๆ ในบ้าน แค่เพิ่มอินเอ๋อร์คนเดียวก็พอแล้ว หรือว่าเจ้าจะทําลายชื่อเสียงของลูกๆ ในบ้านหรือ”คําพูดนี้ทําให้นางโจวถึงกับอึ้งไปหลายวันมานี้ หัวใจของนางแขวนอยู่บนตัวอินเอ๋อร์ตลอดเวลา จนลืมลูกๆ คนอื่นๆ ในบ้านไปหมดแล้วหลินเหอเห็นว่านางโจวดูเหมือนจะคลายตัว จึงรีบพูดต่อ “เจ้าเป็นคนที่สุภาพที่สุดเสมอ”ในที่สุดนางโจวก็พยักหน้าเห็นด้วยแต่ในใจเขาเกลียดตระกูลเหอมาก เกลียดเหออวิ๋นเหย่ามากเนื่องจากหลินเหอเฉิงกลัวอํานาจของฮ่องเต้ เขาจึงฟ

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status