แชร์

บทที่ 0070

ผู้แต่ง: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หลายวันก่อนมีจดหมายมาถึงมือเจิ้งจงแล้วส่งต่อไปยังองค์ชายสาม บอกว่าขอเชิญเขาไปพบ เพื่อหารืองานใหญ่

แต่เพราะถูกเสด็จพ่อสั่งกักบริเวณ และมารดาก็ถูกเสด็จพ่อถอดออกจากตำแหน่ง ทั้งยังพัวพันกับการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนครอบครัวท่านตาต้องถูกกวาดล้างจนสิ้น จึงทำให้องค์ชายสามไม่คิดเรื่องชิงตำแหน่งรัชทายาทอีก

แต่หลายวันมานี้ เจิ้งจงพยายามล้างสมององค์ชายสาม ไม่นึกว่ากลับทำให้เขาฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง

ดังนั้นวันที่รัชทายาทออกจากวังไป เขาจึงแอบไปพบคนผู้นั้น

และสถานที่นัดหมายก็อยู่ในภูเขาจำลองของอุทยานหลวง คนๆ นั้นแอบอยู่หลังเขาไม่ยอมโผล่หน้า จนแม้แต่เสียงพูดก็แสร้งกดให้แหบแห้งลง “ในเมื่อองค์ชายสามมาตามนัดหมาย ก็คงเข้าใจจุดประสงค์ดีแล้ว”

องค์ชายสามเห็นอีกฝ่ายระวังตัวเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจ “ทำไมท่านไม่ยอมเผยโฉมที่แท้จริงล่ะ”

“องค์ชายไม่ต้องห่วง ในเมื่อมาแล้ว ข้าจะมีของขวัญชิ้นใหญ่มอบให้ ท่านแค่รอดูไว้ก็พอ”

“นี่มันหมายความว่ายังไง” องค์ชายสามรีบถาม

แต่กลับไม่มีเสียงตอบ

อ้อมไปทางหลังภูเขา กลับไม่เห็นร่องรอยใดๆ ราวกับเมื่อครู่ตนได้ฝันไปกระนั้น

ไม่นึกว่าข่าวที่ได้มาวันนี้ คือคนผู้นั้นลงมือกับรัชทาย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0071

    แต่พระอาจารย์หมิงซื่อกลับคารวะ "อามิตตาพุทธ พระสนมมีจิตใจเมตตากรุณา อาตมาจะให้ความร่วมมือกับพระสนมสืบเรื่องนี้ให้ละเอียดแน่นอน"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยชี้ผู้ลอบสังหารบนพื้น "พระอาจารย์รู้จักเขาไหม?"พระอาจารย์หมิงซื่อก้าวขึ้นมา มองดูอย่างละเอียดแล้วส่ายหัว จากนั้นก็สั่งลูกศิษย์ที่อยู่ข้างหลัง "ฉางชิง เจ้าเข้ามาดูสิ"พระที่ถูกเปลี่ยนเป็นฉางชิงก้าวขึ้นมา "อามิตตาพุทธ เรียนอาจารย์ คนผู้นี้มิใช่คนในอารามของข้า"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพยักหน้า นางรู้อยู่แล้ว่าผู้ลอบสังหารไม่มีทางเป็นคนของอาราม แม้จะคิดว่าตอนนี้คงสืบอะไรไม่ได้แต่ยังคงถามอย่างไม่ตายใจพระอาจารย์หมิงเจ๋อถึงค่อยเดินขึ้นมา ย่อลงไปแตะเลือดข้างริมฝีปากของผู้ลอบสังหารเบา ๆ แล้วดมใต้จมูก "พระสนม มันคือพิษ"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพยักหน้า "ขอบคุณพระอาจารย์มาก"จากนั้นก็มองไปที่พระอาจารย์ฉางชิง "ขอพระอาจารย์ฉางชิงช่วยระบุหน่อยว่า คนที่ถูกองครักษ์ควบคุมตัวได้ใช่คนของอารามไหม?"พระอาจารย์ฉางชิงจึงเดินวนดูหนึ่งรอบ มองดูอย่างละเอียดแล้วจึงหันหน้าไปตอบพระสนมเฉินกุ้ยเฟย "เรียนพระสนม เป็นลูกศิษย์อารามอาตมา"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองไปทางรัชทายาท รัชทายาทอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0072

    เมื่อถึงยามเหม่า ไข้ขององค์ชายสองก็ลดลงสักที พวกเขาถึงค่อยโล่งอกแล้วต่างคนต่างค่อยฟุบหลับพักผ่อนพระสนมเฉินกุ้ยเฟยตื่นเพราะเสียงเด็กเล็กบ่นของลู่ซิงหว่าน[คืนนี้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ พี่ชายสองตื่นขึ้นมาสักที เห็นทีชาตินี้พี่ชายใหญ่จะมีชีวิตรอดมาได้แล้ว มีความเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเลยทีเดียว!][ทุกคนลำบากขนาดนี้ มีแต่ข้าที่สุขสบายใจ เกรงใจจังเลย][ถ้าข้ามีพลังวิญญาณล่ะก็...]ขณะที่พูดประโยคนี้นางก็ไหลลงมาจากแหย่ง แล้วคลานไปหาพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแม้องค์ชายสองจะสลบแต่ก็รับรู้ได้ รู้ว่าตนเป็นไข้สูงตลอดทั้งคืนและทำให้ทุกคนเหนื่อย ตอนนี้เขามีบาดแผลที่หน้าอกข้างซ้ายจึงไม่กล้าขยับ เพียงแค่นอนมองทุกคนที่หลับอยู่รอบตัวของตนเองแต่กลับเห็นลู่ซิงหว่านคลานไปทางพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเขาตะลึงอึ้งไปทันที หวานหว่านอายุแค่สี่เดือนคลานได้แล้วหรือ?เมื่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยตื่นขึ้นมาลู่ซิงหว่านก็คลานมาถึงเท้านางแล้ว"หวานหว่าน?" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยตกใจมาก "เจ้าคลานได้แล้วหรือ"ช่างสมเป็นลูกสาวของตนจริง ๆ ไม่สิ สมเป็นเทพธิดามาจุติ แค่สี่เดือนก็คลานเป็นแล้วเมื่อหันไปเห็นองค์ชายสองตื่นแล้วก็รีบเอ่ยปากถามทันที "จิ่นห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0073

    คนอื่นภายในรถม้าไม่ตอบอะไร เมื่อกลับเมืองหลวงการต่อสู้แย่งชิงก็จะดำเนินต่อไปส่วนฝั่งขององค์ชายสาม เมื่อวานเมื่อกลับมายังตำหนักฉางชิวก็ได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างดี สุดท้ายก็ตัดสินใจฟังคำแนะนำของซิ่นเทียนบัดนี้ตนไม่มีอำนาจเส้นสายในวังหลัง การที่มีคนเต็มใจสนับสนุนตนก็โชคดีแค่ไหนแล้ว จะกล้าเลือกมากได้อย่างไรดังนั้นเมื่อวานก่อนมื้อค่ำเขาจึงมายังหน้าห้องทรงอักษร ยกชายเสื้อขึ้นแล้วคุกเข่าลงไป จนทหารรักษาพระองค์ที่อยู่หน้าประตูตกใจกันหมด"เสด็จพ่อ ลูกชายอกตัญญูจิ่นเฉินได้กักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งเดือน บัดนี้ได้สำนึกผิดแล้วจึงมาขอเสด็จพ่อโปรดประทานอภัยให้" พูดจบก็คุกเข่าอยู่หน้าห้องทรงอักษรไม่ยอมลุกขณะที่เมิ่งฉวนเต๋อเข้ามารายงาน ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่เข้าใจ "จิ่นเฉินอย่างนั้นหรือ?""กราบทูลฝ่าบาท คือองค์ชายสาม จะให้เชิญพระองค์เข้ามาไหมพะย่ะค่ะ?"ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดสักครู่ สุดท้ายก็พยักหน้า"เสด็จพ่อ" เมื่อองค์ชายสามเข้ามาก็คุกเข่าทันที "กระหม่อมมาทำความเคารพเสด็จพ่อโดยเฉพาะ"ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้ององค์ชายสามที่พื้นองค์ชายสามก็ไม่รีบร้อน เพียงแค่คุกเข่าอย่างสงบเสงี่ยมรอฮ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0074

    เมื่อเห็นว่าขบวนเสด็จของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยใกล้ถึงแล้ว องค์ชายสามก็รีบเดินมาหน้ารถม้า"ทำความเคารพพระสนมเฉิน พี่รัชทายาท พี่ชายสองเป็นอย่างไรบ้าง? " องค์ชายสามไม่สนใจอย่างอื่นมีเพียงแค่ความห่วงใยที่มีต่อองค์ชายสองหลายคนในรถม้าสบตากันแต่ไม่ได้พูดอะไรรัชทายาทจึงเปปิดม่านรถม้าออกแล้วลงมา "น้องชายสามเป็นห่วงแล้ว"แต่ในสายตากลับเต็มไปด้วยความห่างเหินองค์ชายสามกลับทำเป็นมองไม่เห็น "ข้ากำลังคุยเรื่องงานกับเสด็จพ่อที่ห้องทรงอักษร เมื่อได้ยินว่าพี่ชายสองบาดเจ็บและขบวนเสด็จของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยจะกลับวังวันนี้ จึงคอยอยู่ที่นี่แต่เช้าแล้ว พี่รัชทายาทสบายดีไหม?""ขอบใจน้องชายสามมาก ข้าสบายดี แค่ทำให้จิ่นหยูเดือดร้อนต้องรับมีดนี้แทนข้า" พูดจบก็ถอนหายใจองค์ชายสามรีบปลอบ "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พี่รัชทายาทไม่ต้องคิดมากหรอก"จิ่นอวี้ประคองพระสนมเฉินกุ้ยเฟยลงรถม้าจากข้างหลังองค์ชายสามเข้าไปทำความเคารพด้วยความเดารพทุกคนแสร้งถามไถ่กันอีกสักครู่ พระสนมเฉินกุ้ยเฟยถึงค่อยเอ่ย "จิ่นเหยา ส่งจิ่นหยูกลับตำหนักเหยียนเหอก่อนเถิด พระสนมหลานของเจ้าคงเป็นห่วงแทบแย่แล้ว"ตำหนักเหยียนเหอ คือตำหนักที่องค์ชายสอง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0075

    พูดจบก็โบกมือให้เมิ่งฉวนเต๋อให้เขาดูแลฮ่องเต้ต้าฉู่ให้ดี แล้วตนก็ออกจากตำหนักหลงเซิง ไปยังตำหนักเหยียนเหอที่พระสนมหลานพำนักเดินไปไม่กี่ก้าวก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หมุนตัวไปยังตำหนักชิงอวิ๋นส่วนพวกพระสนมเฉินกุ้ยเฟpเมื่อมาถึงตำหนักเหยียนเหอ พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็รีบลงจากเกี้ยวแล้วอุ้ลู่ซิงหว่านที่อยู่ในอ้อมอกให้จิ่นซินข้าง ๆ แล้วรีบเข้าไปประคองหพระสนมหลานเฟยและทำความเคารพอย่างจริงจังพระสนมหลานเฟยตื่นตกใจรีบประคองนางขึ้นมา "น้องหญิงทำอะไรกัน?""พี่หญิง ข้าไม่ได้ดูแลจิ่นหยูให้ดีเอง" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองพระสนมหลานเฟยอย่างรู้สึกผิด"น้องหญิงก็พูดไป ถ้าจะบอกว่าไม่ปวดใจก็คงเกินจริง แต่น้องหญิงดีกับจิ่นหยูมากคงปวดใจไม่น้อยไปกว่าข้า" พระสนมหลานเฟยรีบปลอบใจพระสนมเฉินกุ้ยเฟย "พวกเราล้วนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บถึงแก่อันตรายมาก พักฟื้นไม่กี่วันก็หายแล้ว"เพราะองค์ชายสองบาดเจ็บดังนั้นเกี้ยวจึงช้าเล็กน้อย ทั้งสองพูดปลอบใจกันและกันอยู่สักพักถึงค่อยเห็นเกี้ยวขององค์ชายสองเข้ามายังตำหนักเหยียนเหอทั้งสองรีบเข้าไปประคององค์ชายสอง องค์ชายสองพูดปลอบใจพระสนมหลานเฟยก่อน "เสด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0076

    เมื่อเห็นว่าเส็ดจแม่เป็นเช่นนี้องค์ชายสองก็หัวเราะ จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยปากถาม "เสด็จแม่ วันนี้ตอนที่พวกข้ากลับวังหลวง องค์ชายสามไปคอยหน้าประตูวังอย่างเป็นห่วง เมื่อก่อนองค์ชายสามเกลียดแค้นพี่ชายใหญ่ยิ่งกว่าอะไร เสด็จแม่รู้ไหมว่าเกดิอะไรขึ้นกับเขาช่วงนี้?"พระสนมหลานเฟยส่ายหัว "ไม่เคยได้ยิน เพียงแค่วันนั้นหลังจากผ่อนการกักบริเวณก็คุกเข่าอยู่หน้าห้องทรงอักษรอยู่นานมาก ขอให้ฮ่องเต้โปรดประทานอภัยให้ หลังจากเข้าไปในห้องทรงอักษรก็ไม่รู้แล้ว"ส่วนฝั่งรัชทายาท ไปที่ตำหนักชิงอวิ๋นและสั่งให้เหล่านางกำนัลและขันทีออกไป เหลือเพียงแค่ตนและพระสนมเฉินกุ้ยเฟยสองคน และแน่นอนว่าจะขาดหวานหว่านน้อยของเราไปไม่ได้"เสด็จป้า" รัชทายาทเรียกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยหนึ่งคำ แต่ไม่พูดอะไรต่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นเขาจริงจังขนาดนี้ก็ไม่รบกวน เพียงแค่มองรัชทายาทเงียบ ๆกลับกลายว่าเป็นลู่ซิงหว่านเองที่อดทนรอไม่ไหว[สองคนนี้กำลังทำอะไรเนี่ย! เชื่อมจิต?][แคว้นต้าฉู่มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?]"เสด็จป้า ข้าตัดสินใจว่าจะเป็นรัชทายาทนี้ให้ดี" รัชทายาทพูดจบก็เงยหน้ามองพระสนมเฉินกุ้ยเฟยด้วยสายตาแน่วแน่"จิ่นเหยา?" พระ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0077

    ในใจพระสนมเฉินกุ้ยเฟยคิด 'นางไม่ใช่แค่ฟังรู้เรื่องหรอก นางยังคุยกับเจ้าได้ด้วย!'แต่ปากกลับยิ้มตอบ "หวานหว่านให้กำลังใจเจ้าอยู่น่ะ! ขอแค่อย่าทำให้ตัวเองลำบากก็พอ"ทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพักรัชทายาทก็ออกจากตำหนักชิงอวิ๋นไปยังตำหนักเหยียนเหอ ถ้าน้องชายสองตื่นแล้วตนต้องไปเยี่ยมเขาสักหน่อยถึงจะวางใจเมื่อรัชทายาทกลับไป พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงเรียกเผยฉู่เยี่ยนมาหา "วันนั้นขอยืมยาจากจวนโหวกวงฉิน พวกเราต้องไปเยือนสักหน่อยแล้วล่ะ"แต่เผยฉู่เยี่ยนกลับคุกเข่าลง "กระหม่อมผิดมีความผิด"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรีบเข้าไปประคองเขาขึ้นแล้วแสร้งทำเป็นโกรธ "ทำอะไรเนี่ย มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันดี ๆ สิ""วันนั้นที่ไปจวนโหวกวงฉิน กระหม่อมคิดว่าช่วงก่อนมีข่าวลือในวังหลวงจึงตัดสินใจเอง อ้างชื่อองค์รัชทายาท บอกแค่ว่าองค์รัชทายาทต้องการใช้ยา"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับหัวเราะออกมา "ความผิดอะไรกัน เจ้าทำเพื่อข้าทั้งนั้น บัดนี้ให้รัชทายาทไปเยือนหน่อยก็ดี"พูดจบก็เรียกจิ่นอวี้เข้ามา "ไปเตรียมของ ให้องค์รัชทายาทไปเยือนจวนโหวกวงฉิน ที่เหลือเจ้าจัดการเองแล้วกัน เพียงแต่ในห้องเก็บของของข้ามีโสมร้อยปีหนึ่งหัวจำเป็นต้องเอาไปด้วย

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0078

    "เดิมทีคิดว่าตอนนี้เรื่องในวังมีไม่มาก ให้เจ้าพักผ่อนและพวกเจ้าสองแม่ลูกออกไปผ่อนคลายหน่อยก็ดี แต่ไม่คิดว่าจะพบเจอกับเรื่องเช่นนี้" ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยด้วยอารมณ์[ก็ใช่น่ะสิ! ตั้งแต่ข้าเกิดมาได้ออกนอกวังแค่สองครั้ง ครั้งแรกกลับบ้านท่านตาท่านยาย พอกลับมาก็ถูกคนลอบสังหาร][ครั้งนี้ก็ถูฏคนลอบสังหารอีก][อ้อใช่ แล้วก็ตอนคลอด ท่านแม่เกือบและข้าเกือบตายท้องกลมแล้ว][โลกแห่งการบำเพ็ญเพียรก็เหมือนกัน ถูกคนปองร้ายจนทะลุมาในนิยาย ตอนเป็นคนก็ต้องน่าอนาถเช่นนี้อีก][ข้าก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งจะทำอะไรคนอื่นได้! ข้าไม่ได้จะแย่งชิงบัลลังก์เหมือนพวกเขาสักหน่อย][ชิงบัลลังก์?]ลู่ซิงหว่านพูดคำนี้จบก็หันมองฮ่องเต้ต้าฉู่ทันที[พวกเขาคิดจะปองร้ายพี่รัชทายาทแต่แรกอยู่แล้วหรือเปล่า เพราะท่านแม่และพี่รัชทายาทก็ถือว่าเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด จึงลงมือจากรอบนอกกำจัดข้าและท่านแม่ก่อน][น่ากลัวจังเลยน่ากลัวจังเลย]คำพูดของลู่ซิงหว่านได้เตือนสติฮ่องเต้ต้าฉู่การลอบสังหารหลายครั้งนี้เหมือนรัชทายาทจะอยู่ด้วยตลอด หรือจะเป็นเรื่องจริง?หรือว่านอกจากหรงอ๋องแล้วยังมีคนอื่นที่ไม่จงรักภักดี?ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อ

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0622

    ถึงอย่างไรก็เป็นพระชายาของพี่ชายองค์รัชทายาทที่ยังไม่ได้แต่งงานอีกทั้งหานซีเยว่ดีต่อนางมากจริงๆ การเข้าวังครั้งนี้ ยังนําของเล่นพื้นบ้านมาให้นางไม่น้อยเลย[คนดีๆแบบนี้ต้องไม่ตายแน่]คิดถึงตรงนี้ ลู่ซิงหว่านถึงกับขอบตาแดงก่ำ[ในนิยาย หานซีเยว่ตายเพื่อพี่รัชทายาท คงเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องจะมีตัวแปรมากมายขนาดนี้ แต่โชคชะตาของพี่หญิงตระกูลหานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!][พี่ฉยงหัวต้องรักษาได้แน่ๆ ]ซ่งชิงเหยียนจึงหันไปมองลู่ซิงหว่านที่ดวงตาแดงก่ำ กอดนางไว้ในอ้อมแขนและตบนางเบาๆ “หวานหว่านไม่ต้องกังวล พี่หญิงหานของเจ้าเป็นคนดีขนาดนี้ จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”“ฝ่าบาทเสด็จ องค์รัชทายาทเสด็จ” ในขณะที่สองแม่ลูกกําลังเสียใจเพราะหานซีเยว่ เสียงของเมิ่งเฉวียนเต๋อก็ดังขึ้นจากข้างนอก“พระมเหสีเสด็จ” ทันทีที่เมิ่งเฉวียนเต๋อพูดจบ ก็มีเสียงของขันทีน้อยที่อยู่ข้างๆ ดังขึ้นซ่งชิงเหยียนปล่อยลู่ซิงหว่านแล้วจูบนาง “หวานหว่านอยู่ดีๆ นะ แม่จะไปพบเสด็จพ่อดีไหม”ลู่ซิงหว่านพยักหน้าอย่างหนักแน่น แต่ไม่สนใจซ่งชิงเหยียนอีก เพียงมองไปทางหานซีเยว่เมื่อซ่งชิงเหยียนปรากฏตัวที่นอกประตู ทุกคนต่างก็ตกตะลึงแต่โชคร้า

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0621

    “พี่ไป๋หลิง ตอนนี้เสด็จพี่ไม่อยู่แล้ว คนทั้งวังต่างก็รังแกข้า วันนั้นข้าถูกไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านรังแกอีกแล้ว” พูดจบประโยค องค์หญิงหกก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งความไม่พอใจในใจของไป๋หลิงเมื่อสักครู่ถูกลู่ซิงหุยแก้ไขทันทีใช่แล้ว ตอนนี้พระสนมหวงกุ้ยเฟยไม่อยู่แล้ว องค์ชายสามก็ถูกกักบริเวณแล้ว คนที่องค์หญิงหกสามารถพึ่งพาได้มีเพียงตนเองเท่านั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ ไป๋หลิงก็ตบหลังองค์หญิงหกเบาๆ “องค์หญิงวางใจเถิด สิ่งใดที่ทําให้องค์หญิงไม่สบายใจ ล้วนต้องได้รับผลกรรม”ในทิศทางที่ลู่ซิงหุยมองไม่เห็น ดวงตาของไป๋หลิงเต็มไปด้วยความเกลียดชังแม้แต่อิงหงก็ไม่กล้าสบตานางโดยตรง ก้มหน้าลงสิ่งที่ไป๋หลิงพูดในครั้งนี้ถูกต้อง ซ่งชิงเหยียนได้รับ"กรรมตามสนอง" อย่างที่นางพูดอย่างรวดเร็วเมื่อหานซีเยว่ออกจากวัง ซ่งชิงเหยียนก็ไปส่งนางที่ด้านนอก ซ่งชิงเหยียนก็ถูกลอบสังหารที่ถนนนอกตำหนักชิงอวิ๋นได้ยินมาว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสมากส่วนนางกํานัลที่ลอบสังหารคนนั้น หลังจากลอบสังหารสําเร็จแล้ว ก็ปาดคอตายอยู่บนถนนทันทีข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่ววังหลังอย่างรวดเร็วในเวลานี้ไป๋หลิงกําลังอยู่กับลู่ซิงหุย เมื่อลู่ซิงหุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0620

    ในขณะที่ซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่กับการพูดคุยกับหานซีเยว่ลู่ซิงหุยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาหลายวันในที่สุดก็ได้พบกับไป๋หลิงทันทีที่ไป๋หลิงเข้าไปในห้องด้านใน ลู่ซิงหุยก็ขว้างถ้วยน้ำชาที่อยู่ข้างหน้าเขาไปที่เท้าของนางด้วยความโกรธ "เจ้ายังรู้ว่าจะมา!"“ตอนนี้เจ้าได้รับความโปรดปรานจากหญิงชั่วคนนั้นของฮองเฮาใช่หรือไม่? ลืมเสด็จแม่ของข้าไปจนสิ้นแล้ว!”ลู่ซิงหุยตอนนี้อาศัยอยู่ในตําหนักจิ่นซิ่ว ย่อมรู้ว่าบ่าวไพร่ของตําหนักจิ่นซิ่วเคารพไป๋หลิงเพียงใด และรู้ว่าตอนนี้ในใจของฮองเฮาพึ่งพาไป๋หลิงเป็นอย่างมากนอกจากนี้ไป๋หลิงไม่ได้ปรากฏตัวในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ดังนั้นนางจึงสงสัยส่วนอิงหงที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่ซิงหุย รีบก้าวเข้าไปปิดปากนางอย่างรวดเร็ว “องค์หญิง!”จากนั้นก็ปล่อยมือ “องค์หญิงระวังคําพูด ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ในตําหนักจิ่นซิ่ว ทุกเรื่องต้องระมัดระวัง”“ฮึ” ลู่ซิงหุยส่งเสียงหึในลําคออย่างเย็นชา แล้วหันไปมองไป๋หลิงที่อยู่ตรงหน้า “เจ้าช่างเป็นคนที่รู้จักหลบๆ ซ่อนๆ เสียจริง เมื่อก่อนต้องมาที่ตำหนักของข้าทุกวัน”“ตั้งแต่พี่สามถูกเสด็จพ่อกักบริเวณอยู่ในตําหนักฉางชิว เจ้าก็ไม่ปราก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0619

    คิดในใจ ลู่ซิงหว่านจึงใช้ทั้งมือและเท้าเดินกลับไปหาหานซีเยว่อีกครั้ง แล้วประคองโต๊ะเล็กให้ลุกขึ้นตอนนี้หานซีเยว่เปิดกล่องนั้นแล้ว เป็นกําไลหยกที่โปร่งใสซ่งชิงเหยียนถึงยิ้มแล้วพูดต่อ “ไม่ถือว่าเป็นกําไลที่ดีอะไรหรอก แต่เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือของหานซีเยว่ที่ถือกําไลนั้นถึงกับสั่นนางวางกําไลนั้นกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วผลักไปตรงหน้าซ่งชิงเหยียน “พระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ หม่อมฉันไม่กล้ารับไว้จริงๆ”ซ่งชิงเหยียนกลับยิ้มพลางยืนขึ้น หยิบกําไลหยกนั้นไว้ในมือ เดินไปตรงหน้าหานซีเยว่ แล้วสวมแทนนาง “การแต่งงานของเจ้ากับองค์รัชทายาท พวกข้าพอใจมาก ฮองเฮาองค์ก่อนก็ต้องพอใจมากเช่นกัน”ตอนนี้เมื่อซ่งชิงเหยียนพูดถึงซ่งชิงหย่าอีกครั้ง นางก็รู้สึกสงบมากขึ้นกว่าเดิม“กําไลวงนี้เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ บอกว่าจะมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ “น่าเสียดายที่นางเองไม่มีโอกาสได้มอบมันให้กับเจ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงต้องให้น้องสาวอย่างข้าทําแทน”“เดิมทีจะมอบให้เจ้าในพิธีปักปิ่นของเจ้า แต่วันที่เจ้าเข้าพิธีปักปิ่นนั้น ข้าเกรงว่าจะมีธุระไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ ดังนั้นจึ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0618

    หลังจากได้ยินคําพูดของซ่งชิงเหยียน ฉยงหัวก็เหม่อลอยไปชั่วขณะ“จะได้หรือ?” คําพูดของฉยงหัวแฝงความหมายหยั่งเชิงอยู่บ้าง นางย่อมยินยอมไปหลายวันมานี้นางก็คิดได้แล้ว ดีชั่วตอนนี้ตนเองสูญเสียพลังจิตวิญญาณไปแล้ว แทนที่จะมัวยึดติดกับการตามหาหวานหว่าน สู้สงบจิตสงบใจ เสพสุขกับชีวิตในตอนนี้จะดีกว่าบางทีหลังจากที่อาจารย์ของหวานหว่านออกจากการเก็บตัวแล้ว เห็นว่าตัวเองก็ไม่อยู่แล้ว ย่อมมาช่วยเองอยู่แล้ว“แน่นอน ข้าจะไปถามความหมายของฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”“คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ปฏิเสธแน่ ฝีมือการรักษาของแม่นางฉยงหัวยอดเยี่ยมมาก หากได้แม่นางฉยงหัวมาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วย นั่นคงจะดีไม่น้อย”แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างของซ่งชิงเหยียนเท่านั้น ที่นางอยากพาฉยงหัวออกไปก็เพราะหวานหว่านหวานหว่านชอบพี่ฉยงหัวขนาดนี้ ย่อมต้องอยากอยู่กับนางตลอดไปอยู่แล้วจิ่นซินและจิ่นอวี้เก็บข้าวของเกือบทั้งคืน พวกนางเอาเข้าไป ซ่งชิงเหยียนเอาออกมา แบบนี้ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ทิ้งกล่องใหญ่สองใบไว้ซ่งชิงเหยียนประนีประนอมแล้วนางพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ให้คนขับรถม้าของฝ่าบาทเหนื่อยหน่อยละกัน!ก่อนออกเดินทาง นางยังมีเรื่องสําคั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0617

    ต้องบอกว่าของข้างนอกอร่อยกว่าของในวังจริงๆในนิทานล้วนบอกว่าชีวิตของพระสนมหวงกุ้ยเฟยในวังนั้นงดงามและสบายแค่ไหน แต่ลู่ซิงหว่านกลับรู้สึกว่า ไม่ได้สบายอยู่ข้างนอก[ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกก็คงดีไม่น้อย ยังไงก็มีเงิน อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย][อยากกินอะไรก็ซื้อได้เลย สามารถกินอาหารที่พ่อครัวทําได้มากมาย พ่อครัวทำขนมในวังเหล่านี้ ข้ากินจนเบื่อแล้ว][เสด็จย่ากินมาตั้งหลายปี ยังกินไม่เบื่ออีกหรือ?]ซ่งชิงเหยียนบ่นในใจว่า เบื่อสิ แน่นอนว่านางกินจนเบื่อแล้ว ขนมที่องค์หญิงใหญ่นํามาจากหอฝูหม่านครั้งที่แล้ว ไทเฮาพูดตรงๆ เลยว่าอร่อยตอนนี้ซิงรั่วเกือบจะส่งคนมาส่งที่วังทุกสองวันก็ถือว่ามีใจแล้วจริงๆ เมื่อซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่ ฉยงหัวก็มาหานางมองท่าทางของจิ่นซินและจิ่นอวี้ที่กําลังยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง"พระสนมหวงกุ้ยเฟยนี่คือ..."คําพูดที่เหลือฉยงหัวไม่กล้าพูดออกมา ถูกโจรปล้นหรือ?“พี่ฉยงหัว!” ลู่ซิงหว่านพูดพลางพลิกตัวลงจากเตียง แล้ววิ่งไปหาฉยงหัวซ่งชิงเหยียนมองท่าทางคล่องแคล่วของลู่ซิงหว่านแล้วก็ตกตะลึงนางรู้ว่าหวานหว่านชอบพี่สาวฉยงหัวคนนี้มาก แต่เตียงนุ่มที่สูงขนาดนี้ น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0616

    คิดถึงตรงนี้ องค์หญิงหกก็เงยหน้ามองไปยังทิศทางของฮ่องเต้ต้าฉู่อีกครั้ง ในใจเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นณ ตําหนักข้างของตําหนักเหวินอิงในเวลานี้ สนมเยว่กุ้ยเหรินก็กําลังพบท่านแม่ของตนเช่นกัน“เดิมคิดว่าเจ้าเป็นเพียงกุ้ยเหรินเล็กๆ ข้าไม่มีโอกาสเข้าวัง” ตอนนี้ฮูหยินเจิ้ง แม่ของสนมเยว่กุ้ยเหรินกําลังอยู่ในตําหนักของสนมเยว่กุ้ยเหริน มองสิ่งของในวังของนางไปๆมาๆ สัมผัสไปๆมาๆ ในใจรู้สึกน่าทึ่งเป็นมาก“ของในวังนี้ดีจริงๆ ทุกชิ้นประณีตขนาดนี้”เพราะรู้พฤติกรรมของแม่ตัวเอง สนมเยว่กุ้ยเหรินจึงไล่สาวใช้ข้างกายออกไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางแค่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม มองใบหน้าละโมบของแม่ตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เดิมทีนางก็ไม่อยากเจอแม่ของตัวเองอยู่แล้วแม่ของคนอื่นๆ เข้าวังด้วยความห่วงใยและสงสารลูกสาวของพวกเขาแล้วแม่ของตัวเองล่ะเอาแต่โทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ โทษตัวเองที่แย่งความรักไม่เป็น โทษตัวเองที่ให้กําเนิดลูกไม่ได้เมื่อสนมเยว่กุ้ยเหรินคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินเจิ้งพลันหันหน้ามา เดินมาข้างกายนางอย่างลึกลับ ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง แล้วยัดใส่มือสนมเยว่กุ้ยเหริน“เจ้าเป็นคนที่ไม่เอาไห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0615

    เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลตัวเอง แต่การไปเรียนหนังสือจะถือเป็นรางวัลอะไรได้เมื่อก่อนนางเคยได้ยินลู่ซิงยุ่นบ่นว่าอาจารย์คนนี้เข้มงวดขนาดไหน ยังต้องทําการบ้านอีก นั่นไม่แตกต่างจากการคัดลอกพระคัมภีร์ในตําหนักเหยียนหัวของนางหรอกหรือนางไม่อยากไปหรอก!เมื่อเห็นท่าทางของลู่ซิงหุย ลู่ซิงหว่านก็อดหัวข้าะคิกคักไม่ได้[เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่าลูกสาวของท่านดูเหมือนจะไม่ชอบเรียนหนังสือนะ][แต่ก็ใช่ เด็กบ้านไหนชอบเรียนหนังสือกัน เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไรแก่นาง การเรียนหนังสือนี้นับเป็นรางวัลอะไรได้]ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่สนใจ ในฐานะที่เป็นองค์หญิง ไม่เรียนหนังสือย่อมไม่ได้อยู่แล้วองค์หญิงทุกคนล้วนถูกส่งไปที่ห้องเรียนเมื่ออายุหกขวบ แม้ว่าจะแตกต่างจากเหล่าองค์ชาย แต่ก็มีอาจารย์สอนพิเศษฮ่องเต้ต้าฉู่หันไปมองพระสนมเหวินเฟยอีกครั้ง “ตอนนี้ซิงเหยียนอยู่ข้างกายเจ้า รู้สึกสบายใจกว่าเมื่อก่อนมากนะ”“เพียงแต่ตอนนี้ต้องพาเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้มาด้วย ลําบากเจ้าแล้วจริงๆ”เด็กๆ มีความสุขหรือไม่นั้น มักจะมองปราดเดียวก็รู้แล้วลู่ซิงเหยียนเป็นเพียงเด็กอายุสามขวบเท่านั้น เมื่อก่อนสนมซูผินดูแลเองไม่มาก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0614

    ครั้งนี้ลู่ซิงหว่านเดาผิดแล้วที่ลู่ซิงหุยพูดประจบด้วยเป็รเรื่องจริง นางกลัวที่จะไปคัดลอกหนังสือธรรมมะที่ตําหนักเหยียนหัวแล้วจริงๆ จึงไม่กล้าทะเลาะกับพี่น้องของตนอย่างโจ่งแจ้งอีกแล้วเพราะพอเสด็จพ่อทรงกริ้วขึ้นมา มันน่ากลัวมากเลยเพราะว่าเมื่อก่อนสนมซูผินปฏิบัติต่อองค์หญิงเจ็ดเพียงแค่เป็นของเล่นเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจนางมากนักพูดตามคําพูดขององค์หญิงรอง เสด็จแม่ของพวกนางเลี้ยงดูพวกนางสองพี่น้อง ก็ไม่มีอะไรมากไปแค่ให้มีกินมีใส่ ขอเพียงไม่อดตายก็พอแล้วดังนั้นหลังจากที่องค์หญิงเจ็ดมาถึงข้างกายของพระสนมเหวินเฟยแล้ว จึงสามารถไปเที่ยวที่อุทยานหลวงได้บ่อยๆ และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลู่ซิงหุยนางชี้ไปที่ลู่ซิงและพึมพําว่า"พี่สาวคนสวย"[ตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อย][ฮึ่ม ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าเด็กขี้ประจบ]ประโยคนี้ขององค์หญิงเจ็ดทําให้ลู่ซิงหุยพอใจจริงๆ ลู่ซิงหุยจึงย่อตัวลงทันทีและเข้าไปใกล้หน้าองค์หญิงเจ็ด “ซิงเหยียนเป็นเด็กดี”เป็นเด็กดีมากเมื่อเทียบกับไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านนั่นต้องบอกว่าวันนี้ลู่ซิงหุยโชคดีมาก ในขณะที่นางเล่นกับลู่ซิงเหยียน ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เดินผ่านส

DMCA.com Protection Status