แชร์

บทที่ 0059

ผู้เขียน: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-05 13:25:53
ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ?

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้ยินคำกล่าวของลู่ซิงหว่านที่มีต่อวังหลวง ก็เผลอหัวเราะออกมา ที่ๆ คนมากมายต่างตะเกียกตะกายเพื่อให้ได้เข้ามา ในสายตาของหวานหว่านกลับเป็นเพียง ‘ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ’ ซะได้

เห็นทีว่าชาติก่อนนางบำเพ็ญเพียร ก็คงมีนิสัยไม่ยึดติดเช่นนี้กระมัง

และคงเป็นแม่หนูน้อยที่ใครเห็นก็รักและเอ็นดู

ส่วนองค์ชายสามซึ่งถูกฮ่องเต้หมางเมินมาหลายวัน เมื่อเห็นรัชทายาทออกจากวังไป ก็ให้นึกถึงจดหมายที่วันก่อนมีคนส่งมาให้จากข้างนอก จึงแอบออกจากตำหนักฉางชิวเงียบๆ ไปยังที่แห่งนั้น

ด้านตระกูลเหอนั้น ก็ย่อมคึกคักเป็นพิเศษเช่นกัน

นับแต่วันที่จิ่นซินมาเยือน และบอกว่าวันหน้าพระสนมพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอาจเชิญเหออวี่เหยาไปเข้าวังบ่อยๆ ใต้เท้าเหอก็ค่อยใส่ใจต่อธิดาคนนี้บ้าง สั่งให้นางหลินตัดเสื้อผ้าที่เข้ากับรูปทรงให้เหออวี่เหยาหลายชุด เพราะไม่อยากให้นางเข้าวังไปแล้วทำให้ตระกูลเหอต้องอับอาย

นางหลินแม้จะไม่พอใจ แต่ก็ต้องเสแสร้งต่อหน้าสามี “ใต้เท้าโปรดวางใจ วันนี้ข้าจะให้ช่างตัดเสื้อมาวัดตัวอวี่เหยา พร้อมพานางไปซื้อเครื่องประทินโฉมด้วย”

กล่าวจบก็มองดูเหออวี่เหยาคล้ายกับไม่วางใจ “เจ้าก็เห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0060

    เหออวิ๋นเหยาเห็นนางแต่งตัวเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะถากถาง“พี่ใหญ่แต่งกายเรียบง่ายเช่นนี้ ใครเห็นเข้าจะนึกว่าบ้านเรายากจนนัก”เหออวี่เหยาแม้ไม่คิดตอแยกับนาง วันนี้กลับเอ่ยปากตอบโต้ “เจ้าพูดจาระวังปากหน่อย วันนี้ครบรอบวันตายของแม่ข้า หากวิญญาณนางมาหาละก็...”จงใจละไว้เช่นนี้ พร้อมกับมองเหออวิ๋นเหยาตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็สะบัดหน้าเดินหนีไปเหออวิ๋นเหยาโมโหยิ่งนัก รีบจับสาวใช้ที่อยู่ข้างกายพลางถามนาง “นางหมายความว่ายังไง นังคนแพศยานี่...”สาวใช้รีบห้ามปรามนางไว้ “คุณหนู วันนี้มีงานใหญ่ อย่าให้คนอื่นจับผิดได้นะเจ้าคะ”เหออวิ๋นเหยาจึงได้หยุดฝีเท้าลง “คอยดูไปเถอะ รอให้ผ่านงานวันนี้ไปก่อน ข้าจะให้นางได้รู้พิษสง”ขณะที่เฉินกุ้ยเฟยพาคนมาถึงวัดหมิงจิ้ง คนตระกูลเหอก็ได้ไปอยู่ในวัดเตรียมตัวนานแล้วและยังมีคนในวังติดตามมาช่วยงานอีก เพราะองค์ชายรัชทายาทเสด็จแทนฮ่องเต้มาจุดธูป จึงต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษขณะที่เฉินกุ้ยเฟยลงจากรถม้า ก็เห็นมีเกี้ยวหลังเล็กเตรียมไว้อีกหลังหนึ่ง เมื่อเห็นนางสงสัย องค์ชายใหญ่จึงได้อธิบาย “กว่าจะถึงวัดยังต้องเดินอีกช่วงหนึ่ง ข้าจึงให้คนเตรียมเกี้ยวหามเอาไว้ เชิญพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0061

    [อย่าบอกว่าหลวงจีนผู้นี้รู้ที่มาของเรา จึงคิดบอกท่านแม่หรอกนะ][ฮือๆๆ ท่านแม่จะมองว่าข้าเป็นตัวประหลาด จนไม่รักข้าหรือเปล่า][แม้จะอยู่กันมาแค่ไม่กี่เดือน แต่ข้าก็รักท่านแม่มากเลย ฮือๆๆ]พูดไปพูดมามีแต่เสียงร้องไห้ออกมาแทนเฉินกุ้ยเฟยเห็นดังนี้ ก็รีบมาปลอบใจนาง “ด้านหลังของวัดหมิงจิ้งเป็นสถานที่สงบเงียบ ราวกับอยู่บนสวรรค์ หวานหว่านจะต้องชอบแน่ เจ้าไปกับจิ่นซินและจิ่นอวี้ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จุดธูปเสร็จจะรีบไปหาทันที”พอได้ยินว่าราวกับแดนสวรรค์ ลู่ซิงหว่านก็เหมือนจะหูผึ่ง[ท่านแม่อย่าหลอกข้านะ ข้าจะไปดูก่อนว่าเหมือนแดนสวรรค์จริงหรือไม่ หากไม่เหมือนจริง ข้าจะอาละวาดให้หนักเชียว]เฉินกุ้ยเฟยค่อยมีรอยยิ้มออกมา พลางสั่งให้จิ่นซินและจิ่นอวี้ออกไปก่อน จากนั้นก็หันมายังหมิงเจ๋อไต้ซือ“ไหนๆ มาแล้ว เชิญพระสนมจุดธูปก่อน” หมิงเจ๋อไต้ซือเดินไปหยิบธูปมาให้เฉินกุ้ยเฟยรอจนนางจุดธูปเสร็จแล้ว หมิงเจ๋อไต้ซือจึงเอ่ยปากต่อ “ก่อนหน้านี้เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับองค์หญิงหย่งอัน วันนี้ได้มาพบ สมดั่งคำร่ำลือโดยแท้”เฉินกุ้ยเฟยไม่เอ่ยปากใดๆ มีเพียงจ้องมองหมิงเจ๋อไต้ซือ“อมิตาภพุทธ อาตมาเสียมรรยาทแล้ว เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0062

    และทางด้านหลังของวัด พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เผยเสียนกำลังดำเนินการอยู่เหออวี่เหยาสายตาเย็นชามองดูราชเลขาเหอ นางหลิน และเหออวิ๋นเหยาที่อยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ หวังให้มารดาตนคุ้มครองให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือให้นางคุ้มครองให้ตนเป็นที่รักของสามี? หรือหวังให้มารดาตนคุ้มครองให้ได้แต่งงานกับผู้มีศักดิ์สูงส่ง?เหออวี่เหยาหันไปมองป้ายวิญญาณของมารดา เพียงขอให้นางรีบไปเกิดใหม่เสีย ชาติหน้าฉันท์ใด ขออย่าได้มีชีวิตน่าเศร้าเหมือนอย่างชาตินี้อีกพิธีของเผยเสียนเริ่มขึ้นตั้งแต่ยามเช้า จวบจนหลังเที่ยงจึงได้เสร็จสิ้นใต้เท้าเหอกับลูกเมียหิวจนแทบอ่อนแรง รีบตรงไปยังห้องรับรองที่ทางวัดเตรียมไว้เพื่อกินอาหารส่วนรัชทายาทกับพวกก็แค่มาจุดธูปในยามเช้า จากนั้นก็รีบกลับไปแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ขอเพียงรัชทายาทยอมมา นั่นคือการให้เกียรติอย่างมากแล้วบัดนี้จึงเหลือเพียงเหออวี่เหยาและเผยฉู่เยี่ยนที่ยังอยู่ในห้องโถงหลัง รอคอยอยู่เงียบๆ ผ่านไปเนิ่นนาน เหออวี่เหยาจึงได้เอ่ยปาก “น้องเยี่ยนไปพักผ่อนก่อนเถอะ”เผยฉู่เยี่ยนมองหน้าเหออวี่เหยา อ้าปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0063

    เพียงไม่นาน องค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองก็กลับมา“ไม่นึกว่าคนที่รออยู่เชิงเขา สามารถขึ้นมาจุดธูปได้แล้ว” องค์ชายใหญ่กล่าวเดิมเขาคิดว่าจะมาอย่างเงียบๆ จุดธูปให้เหอฮูหยินแล้ว ค่อยไปเรือนหลังกินอาหารค่ำพร้อมท่านน้าและหวานหว่าน จากนั้นค่อยกลับวังไปแต่ไม่นึกว่าเรื่องที่มาจุดธูปให้เหอฮูหยิน จะถูกคนลือกันไปทั่วเมื่อครู่ตอนพวกเขาขึ้นเขามา ที่เชิงบันไดด้านล่างมีเกี้ยวของเหล่าขุนนางมาหยุดอยู่ ไม่รู้ว่ามาเพราะเฉินกุ้ยเฟย หรือเป็นความบังเอิญกันแน่เฉินกุ้ยเฟยกลับกล่าวยิ้มๆ “คงเพราะองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองต่างโตเป็นหนุ่มแล้ว จึงมีหญิงสาวมาให้ความสนใจกระมัง”“พระสนมอย่าล้อข้าเล่นเลย ข้ายังเด็กอยู่มาก พวกนางคงมาเพราะพี่ใหญ่รัชทายาทมากกว่า”ระหว่างที่กำลังพูดคุย ข้างนอกก็มีคนรายงาน บอกว่าเหอฮูหยินพาธิดาคนเล็กมาขอพบเฉินกุ้ยเฟยแม้จะไม่รู้ยินดี แต่ก็ต้องเชิญให้เข้ามา“คำนับพระสนมเฉิน คำนับองค์ชายใหญ่องค์ชายรอง คำนับองค์หญิงหย่งอันเพคะ” สองแม่ลูกเข้ามาในห้อง พร้อมคำนับอย่างนอบน้อมรอจนพวกนางลุกขึ้นแล้ว สายตาของเหออวิ๋นเหยาก็มองไปทางองค์ชายรอง[แม่ลูกคู่นี้ดูไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ มาถึงวัดหมิงจิ้ง ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0064

    รอจนนางหลินกับธิดาออกไปแล้ว องค์ชายใหญ่จึงได้เอ่ยปาก “เดิมคิดว่าจะมาเงียบๆ กลับมีเรื่องจุกจิกกวนใจอีก”กล่าวจบจึงได้ยืนขึ้น “ถ้าไงข้าจะไปสั่งการ ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามมารบกวนเรา”ขณะที่พูด เผยฉู่เยี่ยนก็ได้เดินเข้ามา“มีคนมากวนใจพระสนมใช่ไหม งั้นข้าจะไปเฝ้าอยู่ด้านนอก”องค์ชายรองรีบมาดึงตัวเผยฉู่เยี่ยนไว้ “เจ้านั่งพักก่อนเถอะ หลายวันนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว”เฉินกุ้ยเฟยกล่าวยิ้มๆ “ไม่เป็นไร อย่างมากก็แค่พูดคุยเล็กน้อย เมื่อเรามาอยู่ในวัด ก็อย่าให้มีพิธีรีตองตามมาอีกเลย”กล่าวจบก็หันไปมององค์ชายทั้งสอง “เมื่อมาถึงวังหมิงจิ้งแล้ว หลายวันนี้หากไม่มีกิจธุระในวัง ก็มาพักผ่อนอยู่นี่สักหน่อย เราไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นกี่วัน”“งั้นก็ยิ่งดีใหญ่ อยู่ในวังต้องสำรวมน่าเบื่อจะแย่ ข้าชอบอยู่กับพระสนมมากกว่า”องค์ชายรองได้ยินเฉินกุ้ยเฟยกล่าวเช่นนี้ ย่อมจะดีใจเป็นอย่างมาก พลางหันไปมองรัชทายาท “พี่ชายใหญ่ว่าดีไหม”รัชทายาทยิ้มให้อย่างรู้ใจทุกคนหารือจนได้ข้อสรุป ว่าจะพักที่วัดหมิงจิ้งสักสองสามวันแล้วค่อยกลับวังแต่ไม่นึกว่าหลังอาหารเที่ยง เฉินกุ้ยเฟยยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็มีคนมาขอพบอีกเฉินกุ้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0065

    ไม่คาดคิดว่าพี่น้องตระกูลเสิ่นล้วนมีนิสัยแข็งกร้าวพอกัน จึงอดรู้สึกเลื่อมใสไม่ได้ว่าแล้วก็ให้จิ่นซินยกเก้าอี้มาให้คุณหนูทั้งสอง “คุณหนูทั้งสองเชิญนั่งคุยสักครู่จะดีไหม เพราะข้าอยู่แต่ในวังหลวง พวกเจ้าลองเล่าเรื่องสนุกๆ ข้างนอกมาให้ฟังบ้าง”กลับทำให้สองพี่น้องตระกูลเสิ่นตะลึงงัน ต่างมองสบตากัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเพราะดูจากท่าทีเฉินกุ้ยเฟยเมื่อครู่นี้ ราวกับไม่ชอบพวกตนเท่าไหร่นัก แต่จู่ๆ กลับยินดีต้อนรับซะนี่แม้แต่ลู่ซิงหว่านก็แทบอยากกุมขมับ[ท่านแม่ ท่านจะสอดรู้สอดเห็นไปหรือเปล่า วันก่อนเสิ่นป่าซวงยังตอแยพี่ชายรัชทายาทอยู่เลย ท่านลืมแล้วหรือ?”เฉินกุ้ยเฟยไม่คิดใส่ใจ แต่กลับเอ่ยปากถาม “ไม่ทราบคุณหนูใหญ่มีนามว่า?”“ข้าน้อยชื่อจริงว่าเสิ่นเป่าเยียน น้องสาวชื่อเสิ่นเป่าซวงเจ้าค่ะ” เสิ่นเป่าเยียนแม้จะนึกหวาดหวั่นต่อการต้อนรับขับสู้ของเฉินกุ้ยเฟย แต่ยังคงตอบอย่างนอบน้อม“คุณหนูใหญ่ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”“เรียนพระสนม ปีนี้อายุสิบห้าเจ้าค่ะ”“ได้ผ่านพิธีปักปิ่นแล้วหรือยัง”“เรียนพระสนม ยังเจ้าค่ะ แต่ท่านพ่อกำหนดวันที่ไว้ปลายเดือนหน้า”เฉินกุ้ยเฟยได้ยินดังนี้ก็รู้สึกดีใจ “รอใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0066

    เหตุเพราะเป็นองค์หญิงองค์แรกของฮ่องเต้ต้าฉู่ องค์หญิงใหญ่จึงเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจและถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมมาแต่เล็กด้วยนิสัยของฮ่องเต้ต้าฉู่ ย่อมไม่ใช้องค์หญิงไปผูกสัมพันธ์กับขุนนางอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เมื่อองค์หญิงใหญ่ผ่านพิธีปักปิ่น จึงทำตามความประสงค์ของนาง ให้ได้ออกเรือนกับบุตรชายคนโตของตระกูลฉินมีนามว่าฉิงหางและหลังแต่งงานทั้งคู่ก็รักใคร่ปรองดองกันดีเดิมคิดว่าองค์หญิงเกิดเป็นราชนิกูล คงหวังแต่อยู่อย่างสุขสบาย มิคาดว่ากลับมีพรสวรรค์ด้านการค้า นับแต่แต่งเข้าตระกูลฉิน อาศัยการบริหารขององค์หญิงใหญ่ อีกทั้งฐานะของนาง ยิ่งทำให้กิจการค้าขายของตระกูลฉินได้ขยายมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวปีที่แล้วฉิงหางเดินทางไปเจียงหนานด้วยตัวเอง องค์หญิงใหญ่ขอติดตามไปด้วย สองคนยังได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆเมื่อเห็นจิ่นซินอุ้มลู่ซิงหว่านในอ้อมแขน ก็รับตัวนางมา “นี่ก็คือหวานหว่านหรือ?”“ช่างน่ารักน่าชังเสียจริง”เห็นองค์หญิงใหญ่อุ้มลู่ซิงหว่าน ฉิงหางก็รีบมาประคองนางไว้ พร้อมกล่าวเสียงดุ “เจ้าต้องระวังให้มาก”องค์หญิงใหญ่กลับหัวเราะ “ไม่ต้องกลัวขนาดนี้ก็ได้”พูดพลางมองหน้าเฉินกุ้ยเฟยด้วยความเขิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0067

    “รั่วซิง” รัชทายาทมาถึงก็ดึงแขนองค์หญิงใหญ่ พร้อมพิจารณานางอย่างถี่ถ้วนจึงวางใจ เสด็จแม่มีเพียงตนกับน้องหญิงเพียงสองคน ตนจึงต้องดูแลน้องคนนี้ให้ดี “ลงใต้ครั้งนี้ราบรื่นดีหรือไม่?”องค์หญิงใหญ่หวนนึกถึงก่อนหน้านี้เกือบเจอกับโจรสลัดเข้า นับว่าอันตรายยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา มีแต่พูดเรื่องดีๆ “ภายใต้การปกครองของเสด็จพ่อ รวมถึงดาวนำโชคที่มาเกิดเป็นหวานหว่าน ข้ากับฉินหางไปไหนก็ปลอดภัยทั้งสิ้น”“งั้นก็ดีแล้ว” รัชทายาทหันไปมองฉินหาง พร้อมกับตบไหล่เขา “ต้องลำบากเจ้าจริงๆ ที่ดูแลน้องข้าคนนี้”องค์หญิงใหญ่รีบกล่าวเสียงอ้อน “พี่ใหญ่”ทันใดนั้น ในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเหตุเพราะองค์หญิงใหญ่มาถึง รัชทายาทจึงไปบอกให้เจ้าอาวาสวัดหมิงจิ้งได้รู้ และสั่งให้ทำอาหารเพิ่ม ทุกคนกินข้าวพร้อมหน้าในห้องของเฉินกุ้ยเฟย บัดนี้รัชทายาท องค์หญิงใหญ่ องค์ชายรอง และเผยซื่อจื่อก็อยู่ด้วย แต่ไม่ต้องเคร่งครัดธรรมเนียมเหมือนอยู่ในวัง การพูดคุยจึงเป็นไปอย่างสนุกสนานหลังจากกินอาหารเสร็จ ก็มีหลวงจีนน้อยในวัดเข้ามาเก็บจานชามแต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน มีหลวงจีนน้อยผู้หนึ่งมัวแต่เก็บของแต่มือไม้ซุ่มซ่าม ทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-05

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

DMCA.com Protection Status