คิณฑ์นั่งทำงานอย่างอารมณ์ดี เขากะว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะแวะไปหาคุณหมอสาวสักหน่อย วันนี้งานของเขาค่อนข้างยุ่งเพระตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาเอาแต่ตามหาหญิงสาวเลยไม่เป็นอันทำการทำงาน เขาเลยต้องเคลียร์กองเอกสารที่อยู่ตรงหน้ามีแฟ้มหนาๆสามแถวเรียงกันอยู่เพื่อให้เขาตรวจ ด้วยงานที่เขาต้องรับผิดชอบไม่ได้มีแค่ที่เดียว ตั้งแต่ที่บิดาของเขาวางมือชายหนุ่มก็เข้ามาบริหารงานแทนตั้งแต่เขาอายุแค่ 27 ปี เท่านั้น แต่ชายหนุ่มก็ทำมันออกมาได้ดี เขาขยายสาขาของบริษัทออกไปทั่วโลก และชายหนุ่มถือเป็นผู้บริหารอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีในนามเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ชีวิตชายหนุ่มนั้นเวลาของเขาส่วนมากยกให้กับการทำงานเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อดูแลธุรกิจในส่วนที่เขาบริหารงานเอง ส่วนบางสาขาเขาก็มีตัวแทนในการบริหารงานร่วมเข้าบริหารงานแทน เขาจะได้รับแค่รายงานสรุปยอดทุกเดือนเท่านั้น มีบ้างที่เขาสังสรรค์กันกับเพื่อนๆแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยนักเพราะชายหนุ่มต้องทำงาน แต่เพื่อนๆของเขาก็แวะเวียนมาหาบ้างไม่เคยขาดการติดต่อ ซึ่งเพื่อนของเขามีหลากหลายชนชาติ ทั้งเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่เจอกันในการทำงาน
“วิน เข้ามาหาฉันหน่อย” ชายหนุ่มกดสปีกเกอร์โฟนเรียกเลขาหนุ่ม
“ครับ” วินตอบกลับมา
ไม่ถึงนาทีชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงเคาะประตูก่อนที่เขาจะอนุญาตให้เข้ามา เลาขาหนุ่มเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเจ้านาย
“วันนี้ฉันต้องทำอะไรบ้าง” ชายหนุ่มถามออกไป
“วันนี้เวลา 10 โมงมีประชุมกับฝ่ายขาย 11 โมงมีนัดลูกค้าส่วนช่วงบ่ายโมงครึ่งมีประชุมกับบอร์ดบริหารครับ” เลขาหนุ่มรีบรายงานว่าวันนี้ชายหนุ่มมีงานอะไรต้องทำบ้าง
“อ่าแล้วต่อจากนั้นฉันไม่มีนัดใช่ไหม” เขาถามต่อ
“ครับ เพราะการประชุมบอร์ดน่าจะลากยาวจนถึงเย็นผมเลยไม่ได้รับนัดใครไว้ครับ” เลขาหนุ่มที่ทำงานอย่างดีเยี่ยมเขารู้ใจเจ้านายหนุ่มไปเสียหมด จนบางทีก็เหมือนเพื่อนมากกว่าลูกน้อง
“โอเค ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้ทำงานต่อ” เขาบอกออกไปก่อนจะนั่งเซ็นเอกสารกองเท่าภูเขานั้นต่อ
“มีอีกเรื่องครับนาย วันนี้พวกคุณจิมมี่โทรมาชวนไปดื่มตอนเย็นที่ร้านเดิมครับ” เลขาหนุ่มบอกออกไปเพราะเมื่อวานเพื่อนๆของเขาได้โทรเข้ามาในออฟฟิตเพราะติดต่อชายหนุ่มไม่ได้นั่นเอง
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ว่างมีธุระ บอกพวกมันด้วย” เขาปฏิเสธออกไปเพราะเขาวางแผนไว้ว่าจะไปหาคุณหมอสาว
“ครับนาย งั้นไม่มีอะไรแล้วครับ ผมขอตัวนะครับ” เลขาหนุ่มบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินหันหลังกลับไป
“อืม” เขาตอบรับสั้นๆก่อนจะนั่งทำงานต่อ
“สวัสดี ฉันมาพบคุณคิณฑ์” เลขาหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองแขกที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
คุณจินนี่ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะมองสาวสวยเปรี้ยวที่หยุดยืนอยู่หน้าเขา เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดงรัดรูปสั้นจนแทบจะเห็นไปถึงสัดส่วนข้างใน จินนี่เป็นลูกสาวของเพื่อนคุณหญิงศจี เธอเป็นสาวสังคม ที่อยากจะหลงรักเจ้านายของเขา แต่คุณคิณฑ์ไม่เล่นด้วยแค่เคยควงออกงานสองสามงานเท่านั้นแต่หญิงสาวกลับคิดเข้าข้างตัวเองว่าชายหนุ่มต้องสนใจเธอแน่ เพราะเธอออกจะเพียบพร้อมหน้าตาดีมีการศึกษา ชาติตระกูลก็ดี แถมบ้านรวยอีกต่างหาก มีเหรอชายหนุ่มจะไม่สนใจ
“เอ่อได้นัดไว้ไหมครับ” เขาถามออกมาอย่างรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ได้นัดไว้แน่นอน
“ไม่ได้นัด แต่ฉันรู้ว่าคิณฑ์อยู่ในห้อง ฉันมีธุระจะคุยกับเขา” เธอรีบอ้างเหตุผลออกมาทันที
“งั้นเดี๋ยวสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรออกไปยังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มทันที
“นายครับ คุณจินนี่มาขอพบครับ.... ครับ...ครับ ได้ครับ” เขาพูดได้เท่านั้นก่อนจะวางสายแล้วหันมาพูดกับหญิงสาวแทน
“เอ่อคือว่าวันนี้นายไม่ว่างครับ นายบอกว่าเอาไว้นัดทานข้างเที่ยงพรุ่งนี้แทนครับ” เขาบอกตามที่เจ้านายสั่ง
“ก็ได้ งั้นฉันไปละ” หญิงสาวตอบรับพร้อมทั้งเดินหลับไปทางเดิมที่เดินมา
ชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งทำงานอยู่ในห้องอย่างเคร่งเครียดเพราะเขาตรวจพบว่ามีการโกงภายในบริษัทเกิดขึ้นเนื่องจากจำนวนเงินที่สรุปออกมาไม่ตรงกัน โดยจำนวนเงินเหล่านั้นไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่จนทำให้บริษัทเสียหาย แต่ในเรื่องของการทำงานเมื่อมีคนทุจริตก็ต้องโดนลงโทษเพื่อไม่ให้คนอื่นทำตาม แต่ใครกันละที่เป็นคนโกงเงินไป
ชายหนุ่มนั่งคิดว่าพอจะมีใครที่เป็นเป้าหมายในการโกงครั้งนี้บ้าง ก่อนจะกดโทรออกหาเลขาหนุ่มให้เข้ามาหาอีกทีพร้อมทั้งอธิบายให้เลขาฟังแล้วให้ไปสืบเรื่องมาให้หน่อย เขาจะได้จัดการเสียให้สิ้นซาก
ชายหนุ่มนั่งทำงานจนกระทั่ง 6 โมงเย็น เขารีบเคลียเอกสารส่วนที่ค้างไว้ทั้งหมดก่อนจะรีบร้อนออกจากบริษัทไปเพราะกลัวไม่ทันคุณหมอสาว เธออาจกลับบ้านก่อนเขาก็ได้ถ้าเขาไปช้ากว่านี้
ทางด้านคุณหมอสาววันนี้เธอเลิกงาน ห้าโมงครึ่ง ก่อนที่จะเดินไปเรียกเพื่อนสาวคนสนิทที่ห้องทำงานแล้วเดินออกมาขึ้นรถไปยังที่นัดหมายพร้อมกัน
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด” เสียงโทรศัพท์ของหมอตาดังขึ้น เธอยกขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครก็กดรับสาย
“สวัสดีคะ ตาพูดคะ” เธอกรอกเสียงออกไป
โหล ที่รัก อยู่ไหนอะพี่มาหาที่ห้องทำงานไม่เจอ กลับแล้วเหรอ มาร์กที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าห้องทำงานของหญิงสาวโทรเข้ามา
“คะตากลับแล้ว กลับมาพร้อมยัยมิวคะ” เธอตอบกลับไป
“อ้อเหรอ โอเค พี่คิดว่าจะมาชวนไปทานข้าวเย็น ที่รักกลับแล้วก็ไม่เป็นไร เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ครับ” เขาพูดเศร้าๆออกมา
“คะ งั้นวางสายแล้วนะคะ บายคะ” หมอตาพูดแค่นั้นแล้ววางสายทันที เธอไม่อยากบอกชายหนุ่มว่ามาเที่ยวต่อกับมิวเพราะชายหนุ่มต้องขอตามมาด้วยแน่ๆเธอกลัวเรื่องแตกขึ้นมาแล้วจะยุ่ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากบอกใครแต่เพียงแค่เธอยังไม่พร้อมทุกอย่างมันกะทันหันไปหมด
“ใครโทรมาน้า ถึงทำให้เพื่อนฉันนั่งใจลอยอยู่อย่างนี้” หมอมิวแซวเพื่อนสาวออกไปเมื่อเห็นเพื่อนนั่งใจลอยหลังจากวางโทรศัพท์ไป
“ป่าวไม่มีอะไรหรอก วันนี้รถติดจังคงถึงค่ำแน่เลย” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“แหมเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ” หมอมิวพูดออกไปก่อนจะขับรถต่อไปจนถึงผับหรูที่เธอนัดพวกเพื่อนๆเอาไว้
ส่วนทางด้านคิณฑ์ ที่ขับรถมาจนถึงโรงพยาบาลพร้อมช่อดอกไม้เล็กๆที่เขาสั่งเอาไว้ก่อนออกมาหาหญิงสาว เขาจอดรถเสร็จแล้วรีบเดินเข้าไปข้างในทันที หวังว่าคุณหมอคนสวยจะยังไม่กลับบ้านนะ
ชายหนุ่มเดินถือช่อดอกไม้เข้ามาในโรงพยาบาลโดยมีสายตาเกือบทุกคู่มองมาที่เขา เพราะตอนนี้เขาราวกับเทพบุตรยังไงยังงั้นเลย
ชุดสูตรสีขาว ถือช่อดอกไม้ขนาดพอดีมือ รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาเข้ากับทรงผมที่เซ็ตมาอย่างดี เขาเลือกชุดนี้เพราะอยากให้หญิงสาวประทับใจเพราะการพบเจอกันแต่ละครั้งนั้นเขาอยู่ในชุดคนไข้ตลอดเลย
ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานของคุณหมอสาวที่อาทิตย์ก่อนเขามาที่นี่บ่อยๆเพราะอยากเจอเธอ เลยไม่แปลกที่เขาจะเดินมาถูกห้อง เขาเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าไฟในห้องถูกปิดไว้ นั่นแสดงว่าเธอกลับบ้านไปแล้วนั่นเอง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง
นี่เขามาช้าไปเหรอ ก็พยายามรีบแล้วนะ แต่ไม่ทัน เขาคิดพลางเกินไปยังโต๊ะทำงานของเธอก่อนจะวางช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะหวังว่าพรุ่งนี้เธอมาคงจะเห็นช่อดอกไม้ของเขานะ ก่อนที่จะหมุนตัวออกไปจากห้องทำงานของเธอ
“เฮ้อคิดถึงจัง” เขาพึมพำเบาๆกับตัวเอง ถ้าการที่มีความรักแล้วรู้สึกอย่างนี้เขาก็ไม่อยากมีเลย ไอ้ความรู้สึกคิดถึงตลอกเวลา อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแต่ทำไม่ได้เนี่ยมันทรมานจริงๆ
แต่เอ๊ะ รักเหรอ นี่เขารักเธอเหรอ ความคิดชายหนุ่มเริ่มสับสน แต่จะว่าไม่ได้รักก็คงไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อนเลย คิดถึง ห่วงหา แค่คิดถึงก็มีความสุข นี่แหละคงจะเป็นความรัก
เขาคิดพลางเดินกลับออกไปที่รถยนต์ของตนเองก่อนจะยกโทศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนทันที
“เฮ้ จิมมี่ แกอยู่ไหนวะ” เขาถามขึ้น
“ตอนนี้กำลังขับรถไปที่ผับ พวกไอ้ธันรออยู่ แล้วแกละตกลงมาไหมวันนี้ เห็นเลขาแกโทรมาว่าแกไม่ว่าง” เพื่อนของชายหนุ่มพูดออกมา
“เออว่างแล้วๆกำลังจะไปแล้วเจอกันที่โน่นเลย ฉันคงไปถึงช้าหน่อยนะ งั้นแค่นี้ละแล้วเจอกัน” ชายหนุ่มพูดก่อนจะวางสายแล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที
คุณหมอทั้งสองมาถึงผับก็เกือบจะสองทุ่มแล้วเพราะรถติดและพวกเธอแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมาที่นี่ด้วยเลยกินเวลาไปหลายชั่วโมง
วันนี้ทั้งสองแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่เว้าหน้าเว้าหลังหน่อยๆ แต่ไม่ถือว่าโป๊สักเท่าไหร่ ร่องรอยรักถูกปิดด้วยครีมรอพื้นอย่างดี สองสาวเดินเข้ามาในผับ ก่อนจะเดินเข้าไปเข้าไปยังโซนวีไอพีที่จองไว้ ตลอดการเดินทางมาที่โต๊ะของพวกเธอมีหนุ่มๆหลายคนที่มองมาทางพวกเธออย่างสนอกสนใจ แต่สองสาวหาได้สนใจคนพวกนั้น เพราะเธอมาที่นี่ก็เพราะต้องการมาคลายเครียดพบปะเพื่อนฝูง ดื่มเหล้าบ้างเต้นบ้างตามอารมณ์ พาไป แต่วันนี้พวกเธอมาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงด้วยการยักย้ายส่ายสะโพก ถึงแม้พวกเธอจะเป็นหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลที่มีแต่คนนับหน้าถือตาแต่พอหลังเลิกงานพวกเธอจะปลดปล่อยมันอย่างเต็มที่ถือเป็นกำไรให้ชีวิต
เธอเดินไปนั่งตรงที่ว่างของโต๊ะที่จองไว้เพราะเพื่อนๆบางคนก็มาถึงกันก่อนแล้ว
“ว้าววันนี้สองคุณหมอทั้งสองมาแนวไหนเนี่ย สวยเซ็กซี่เป็นบ้าเลยอ่า” เพื่อนสาวคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น
“เออ ใช่ วันนี้พวกแกมาแปลกนะ เกิดอะไรขึ้น” อีกคนสมทบ
“ป่าวหรอกวันนี้ฉันแค่อยากสวยไม่ได้เลยรึไงเล่า” หมอมิวพูดขึ้นก่อนจะสั่ง มาการิต้าสองแก้วพร้อมกับของหมอตา
พวกเธอดื่มได้สักพักก็มีเพื่อนอีกสองคนมาสมทบโดยหนึ่งในนั้นมีหมอภัทร ทันตแพทย์หนุ่มที่แอบรักหมอมิวเข้ามาร่วมวงด้วย เขาเดินมาที่โต๊ะก่อนจะทักทายทุกคนแต่สายตากลับจ้องไปที่คุณหมอสาวอย่างรู้สึกหลงใหลในตัวหญิงสาว พลางคิดว่า วันนี้คุณหมอของเขาสวยจังเลยน้า ก่อนจะนั่งลงข้างๆหญิงสาวที่ยังว่างอยู่
เขาสั่งเครื่องดื่มสักพักจึงชวนหญิงสาวคุย
“มิว ทำงานเป็นไงบ้างช่วงนี้ คนไข้เยอะรึเปล่า” เขาถามขึ้นมาเบาๆ
“ก็เรื่อยๆนะ เยอะบ้างน้อยบ้างแต่ไม่เคยจะไม่มี ฮะฮะฮะ” หญิงเล่นมุกใส่คุณหมอหนุ่มที่บัดนี้นั่งยิ้มกับมุกที่หญิงสาวพูดออกมา เพราะน้อยครั้งนักที่จะได้เห็นเธอผ่อนคลายแบบนี้
“แหมมีเล่นมุก มุกฝืดๆของแกเก็บไว้เล่นที่โรงบาลเยอะยะ” นนนี่ เพื่อนสาวประเภทสองพูดขึ้นมา จนคนทั้งโต๊ะหัวเราหญิงสาวออกมาพร้อมกัน
“นี่แกว่าฉันเหรอแม่นนนี่คนขี้เหร่” หญิงสาวรีบตอบกลับเพื่อนสาว ทันที นนนี่เป็นกระเทยที่ตัวสูงๆหน้าหล่อๆหุ่นเหมือนนายแบบแต่ไม่ชอบผู้หญิง
“นี่แกว่าใครขี้เหร่ฉันออกจะสวยผู้ชายเรียงคิวกันไม่เว้นแต่ละวัน ชิส์ ว่าแต่พวกแกเถอะวันๆอยู่แต่กับคนไข้ มีคนไข้มาให้เชือดบ้างมัยละชะนี” เขาลากเสียงยาวตบท้ายจนทุกคนต้องขำออกมาพร้อมหันมารอคำตอบจากสองสาว
“วันๆฉันทำแต่งานจะไปมีเวลาว่างที่ไหนมาหาละยะ ถ้าแกมีเยอะก็แบ่งมาให้ฉันบ้างสิ” หมอตาพูดขึ้นแบบขำๆ
“พวกผู้ชายของฉันเขาไม่ชอบชะนี เขาบอกว่าไม่ใช่สเป็คอะนะ” นนนี่ตอบก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
“วันนี้อยากปลดปล่อยงั้นฉันลงฟลอร์ก่อนนะ ใครจะไปก็ตามมาละกัน” หมอมิวพูดก่อนที่จะเดินออกไปจากโต๊ะทันที
“วันนี้มันเป็นอะไรอะ มาแปลก” นนนี่เอ่ยขึ้น
“ฉันก็ไม่รู้ฉันก็อยากปลดปล่อยฉันไปก่อนนะ” หมอตาพูดขึ้นก้อนจะเดินตามหมอมิวไปยังฟลอร์ด้านล่าง
“ฉันไปด้วย” หมอภัทรพูดขึ้น
“ฉันไปด้วย” เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นก่อนจะเดินตามกันมายังฟลอร์ที่มีไว้สำหรับเต้นอยู่ด้านล่าง
หญิงสาวทั้งสองที่ตอนนี้กำลังเต้นยักย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามันอยู่ตรงฟลอร์ด้านล่าง พร้อมกับเพื่อนๆของเธอ จนผ่านไปพักใหญ่ไหมอตาที่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยหอบก็ขอตัวขึ้นไปนั่งพักที่โต๊ะ โดยปล่อยหมอมิวไว้กับเพื่อนๆด้านล่าง
คุณหมอมิวที่บัดนี้เต้นลืมโลก เธอไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบข้างรู้แค่ว่าต้องการปลดปล่อยอารมไปกับเสียงเพลง มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาขายขนมจีบบ้างชวนเต้นบ้างชนแก้วบ้าง เธอก็แค่รับๆไปตามมารยาทเพราะไม่อยากมีปัญหาเดี๋ยวหมดสนุก เธอเต้นโดยมีหมอภัทรเต้นอยู่ข้างๆคอยกันท่าผู้ชายที่คิดจะเข้ามาหาคุณหมอสาว แต่ถึงจะกีดกันเท่าไหร่ก็ยังมีเล็ดรอดมาได้อยู่ดี เพราะคนเยอะแยะเต้นเบียดเสียดกันไปมา
ทางด้านคิณฑ์ ชายหนุ่มขับรถมาถึงที่ผับเกือบจะ สี่ทุ่มแล้ว เพราะบนถนนเกิดอุบัติเหตุรถจึงติดยาวจนชายหนุ่มคิดที่จะหันรถกลับไปพักที่คอนโดแทนการมาผับครั้งนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ยังขับตรงมาที่ผับเหมือนเดิมจนกระทั้งตอนนี้จอดอยู่หน้าผับเรียบร้อยแล้ว เขารีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างในทันที
วันนี้ที่นี่คนมากเป็นพิเศษเพราะได้เชิญดีเจชื่อดังมาเปิดเพลงให้นักท่องราตรีทั้งหลายได้ส่ายสะโพกกัน
ชายหนุ่มเดินผ่านฝูงคนที่กำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์ขึ้นไปยังชั้นบนของผับแห่งนี้ทันที เพราะเพื่อนเขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่
พอไปถึงโซนที่จัดไว้สำหรับเจ้าของร้านชายหนุ่มก็ทักทายเพื่อนๆของเขาแล้วนั่งลงตรงที่ว่างแล้วสั่งเครื่องดื่มทันที
“เฮ้ย เทพบุตรที่ไหนตกลงมาจากสวรรค์วะ ชุดนี่ขาวออร่ามาทั้งตัวเชียว” จิมมี่หนุ่มตาสีฟ้าลูกครึ่งอิตาลีพูดขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนั่งลงแล้ว
“นั่นนะสิแกคิดยังไงใส่ชุดขาวมาผับวะ ช่างเข้ากันเหลือเกิ๊นนน” ธันรีบเสริม
“เออๆๆ พอดีกูมีนัดแล้วไปไม่ทันน่ะเลยแวะมาที่นี่เลยไม่ได้เปลี่ยนชุด” ชายหนุ่มอธิบายออกไป
“แล้วมึงเป็นไรเนี่ยนั่งเงียบเชียว” คิณฑ์พูดขึ้นก่อนหันไปทางเจมส์ชายหนุ่มลูกครึ่งสวีเดน ที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่กระดกเหล้าเข้าปาก
“มันโดนหญิงทิ้งเว้ยปล่อยมันไปเถอะว่ะ ให้เหล้าช่วยย้อมใจมัน” จิมมี่พูดขึ้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาเพราะเขาก็พึ่งเคยเห็นหมาหงอยก็คราวนี้แหละ
“เออพวกมึงแม่งจำไว้เลยนะ ถ้าใครโดนแบบกูนะกูจะสมน้ำหน้าให้ ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอเว้ย” เจมส์พูดออกมาก่อนจะนั่งกินเหล้าต่อ
“ช่างมันเถอะ ปล่อยแม่ง แต่ว่าแกว่าสาวสวยชุดแดงที่เต้นอยู่ตรงนั้นน่าสนใจไหมวะ แม่งหุ่นนี่อกเป็นอกเอวเป็นเอว ผู้หญิงอะไรหุ่นดีเป็นบ้าเลยวะ" ธันพูดออกมาก่อนจะเสตาไปมองสาวสวยชุดแดงที่เต้นอยู่กลางฟลอร์
“ไหนๆกูดูดิ ว่าจะเด็ดขนาดไหนเชียว” จิมมี่พูดพร้อมกับหันไปตามสายตาของธันที่มองอยู่
“โหวแม่เจ้านางฟ้าชัดๆ ดูเธอเต้นสิ โอ้ยยยยกูแทบอยากกระโดดลงไปจากฟรอร์นี้” จิมมี่ยังไม่หยุดพูด
เจมส์ที่ได้ยินเสียงเพื่อนทั้งสองชายตาไปมองตาม
เออสวยจริงวะ ยังกะนางฟ้า เขาคิดในใจก่อนนะหันหน้ากลับมาดื่มเหล้าต่อ
ส่วนคิณฑ์นั่งจิบเหล้าไปพลางๆในขณะที่จิตใจก็คิดถึงแต่คุณหมอสาวคนสวยว่าจำทำอะไรอยู่น้า เบอร์โทรก็ไม่มี ถ้าเจอกันอีกทีชายหนุ่มจะเอาขอเบอร์ของหญิงสาวเป็นสิ่งแรกเลย
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวจนหมด
“เฮ้ยคิณฑ์แกไม่สนใจเหรอวะ แม่สาวชุดแดงนั่นอะแซบถึงทรวงเลยนะเว้ย ดูสิเวลาเธอส่ายสะโพกนะมึงเอ้ย” ธันพูดพร้อมทั้งเชิญชวนให้ชายหนุ่มมองไปยังด้านล่าง
คิณฑ์ที่ตอนนี้ความคิดเริ่มกลับมายังปัจจุบันแล้ว เขามองไปตามที่เพื่อนแนะนำก็เจอเข้ากับสาวชุดสีแดงรัดรูปเว้าหน้าเว้าหลังแถมยังสั้นจุ๊ดจู๋อีก กำลังเต้นส่ายสะโพกอย่างเมามัน รอบๆกายเธอมีชายหนุ่มมากมายรายล้อม บ้างเต้นบ้างชวนชนแก้ว
อะไรจะฮอตขนาดนั้น เขาคิดในใจพลางจ้องมองลงไป
แต่เอ๊ะ คุ้นๆแฮะ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันรู้สึกว่าคุ้นๆกับร่างนั้น หรือจะเป็นคนรู้จัก
ร่างบางที่ตอนนี้กำลังเต้นอย่างสุดเหวี่ยงหวังให้ความสนุกสนาน ความเหนื่อยล้าช่วยให้ลืมเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมา เธอส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลงอย่างเมามันส์
คิณฑ์ที่บัดนี้นั่งจ้องร่างบางอย่างไม่รู้ตัว จนร่างบางสะบัดผมแล้วเงยหน้าขึ้นเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มถึงกับลุกขึ้นยืนวางแก้วเสียงดังจนเพื่อนๆต่างหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว
“เคร้ง”
จากนั้นเขารีบเดินลงไปในกลุ่มคนด้านล่าง เขาเดินแหวกผู้คนมากมายเข้าไปหาหญิงสาวชุดแดงที่บัดนี้เขารู้แล้วว่าเป็นใคร ถึงว่าละเขารู้สึกคุ้นๆ ระหว่างกลุ่มคนที่กำลังเต้นมีหญิงสาวหลายคนพยายามที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับชายหนุ่มแต่เขาหาได้สนใจ ตอนนี้ในจิตใจร้อนลุ่มไปด้วยความโกรธหวังเพียงจะไปให้ถึงร่างบางเร็วๆเท่านั้น
จนในที่สุดชายหนุ่มก็พบร่างบางที่กำลังเต้นอยู่ตรงกลางกลุ่มคน เธอเต้นแบบไม่สนใจใคร หลับหูหลับตาเต้น จนตอนนี้เขามายืนข้างๆเธอยังไม่รู้เลย
นี่มันชุดบ้าอะไรขอเธอ ขาดหน้าขาดหลัง ข้างล่างก็ขาด ถ้าจะใส่แบบนี้อย่าใส่เลยดีกว่ารึเปล่า เขาคิดในใจด้วยความโมโห
“นี่คุณขอโทษนะครับ มีอะไรกับเพื่อนผมรึป่าว” ภัทรที่ตอนนี้สังเกตเห็นชายหนุ่มมายืนทำหน้าโกรธเกี้ยวอยู่ข้างๆเพื่อนเธอก็ถามขึ้นกลัวจะมาไม่ดี
กลุ่มคนที่เต้นอยู่ตอนนี้เริ่มถอยห่างเพราะกลัวลูกหลง ส่วนหมอมิวหรือหญิงสาวชุดแดงก็หยุดเต้นพร้อมทั้งเบิกตากว้างเมื่อเห็นผู้ชายชุดขาวที่ยืนทะเลาะกับเพื่อนเธออยู่ เธอจึงเดินไปจับแขนภัทรไว้เพราะกลัวมีเรื่องกัน
แต่นั่นกลับเป็นการเพิ่มโทสะให้กับคิณฑ์เป็นอย่างมากที่เห็นเธอไปยืนจับแขนผู้ชายคนอื่นอยู่
“ภัทรใจเย็นๆอย่ามีเรื่องเลยนะ กลับกันเถอะ” หมอสาวว่าพลางดึงแขนเพื่อนแรงๆ
ส่วนชายหนุ่มชุดขาวซึ่งบัดนี้หน้าแดงไปด้วยความโกรธเดินไปกระชากแขนเรียวออกจากหมอภัทรทันที
“นี่คุณจะทำอะไรปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ” เธอร้องออกมา
“คุณจะไปกับผมดีๆหรือต้องให้มีใครเจ็บตัว เลือกมา” ชายหนุ่มพูดออกไป
หมอมิวนิ่งไปสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาว่า
“ภัทรเดี๋ยวนายกลับไปหาเพื่อนเรานะแล้วฝากบอกยัยตาด้วยว่าให้ขับรถมิวกลับฝากให้เอากระเป๋ามิวที่โต๊ะกลับด้วยนะ แล้วเจอกันใหม่ มิวไปนะ” เธอบอกเพื่อนชายออกไปก่อนจะเดินตามแรงกระชากของร่างสูงที่กำข้อมือของเธอแน่นจนเจ็บไปหมด
ส่วนภัทรได้แต่เดินกลับขึ้นไปตรงโซนวีไอพีที่มีเพื่อนๆของตนนั่งดื่มอยู่โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้ด้านล่างมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“อ่าวภัทรแล้วมิวละ ยังไม่ขึ้นมาอีกเหรอ ยัยนี่สงสัยจะเครียดหนักว่ะ” นนนี่ถามขึ้น
“เอ่อ มิวบอกไม่ค่อยสบายขอกลับก่อนนะ แล้วมิวฝากบอกให้ตาขับรถกลับเองนะ เอากระเป๋ามิวกลับไปด้วยเลย งั้นเราขอตัวกลับก่อนนะ พอดีมีธุระต่อน่ะ ไปละ บาย” ชายหนุ่มรีบพูดออกมาแล้วขอตัวกลับทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้เพื่อนได้ถามอะไรมาก
เอ๋ ยัยมิวเนี่ยนะกลับไปก่อน กระเป๋าอยู่นี่ กุญแจรถอยู่นี่ เงินอยู่นี่ แล้วมันเอาตังไหนกลับอะ ต้องมีอะไรแน่ๆ หมอตาคิดในใจคนเดียว สักพักก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่าพรุ่งนี้มีงานเช้า
ส่วนทางด้านคุณหมอมิวนั้นตอนนี้นั่งอยู่บนรถของชายหนุ่ม เขาเหยียบคันเร่งแบบไม่ได้สนใจกฎหมายของประเทศไทยเลย เหยียบจนแทบมิดไมล์ แซงซ้ายแซงขวา ปาดคันนั้นคันนี้จนกระทั่งมาจอดอยู่ใต้คอนโดสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของ พอจอดรถเสร็จเขารีบเดินไปเปิดประตูแล้วกระชากร่างบางออกมาจากรถอย่างรุนแรง แล้วากเธอขึ้นไปตามทางเดินจนกระทั่งเข้าไปในลิฟต์ ชายหนุ่มกดลิฟต์ไปยังชั้นสูงสุดทันที
พอลิฟต์เปิดออกเขารีบดึงร่างบางให้เดินออกมาทันที ชายหนุ่มพาร่างบางมาหยุดยืนกลางห้องชุดสุดหรู
“นี่คุณแต่งตัวบ้าอะไรของคุณห๊ะ ดูซิเว้าหน้าเว้าหลัง แถมข้างล่างจะสั้นไปไหม” เขาถามขึ้นพร้อมกับใช้สายตาสำรวจหญิงสาวไปด้วย
“ฉันจะใส่ยังไงมันก็เรื่องของฉันคุณมายุ่งอะไรด้วย แล้วปล่อยฉันกลับไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอพูดออกมาอย่างอารมณ์เสียเช่นกัน
“สงสัยต้องให้ย้ำเตือนว่าคุณเป็นอะไรกับผม” เขาพูดพลางเดินเข้ามาหาหญิงสาว
“อย่าเข้ามานะ ถอยออกไป เราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น กะอีแค่นอนด้วยกันครั้งเดียวคุณจะมาทึกทักแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่งั้นผู้หญิงที่นอนกับคุณทุกคนก็คงเป็นเมียคุณหมดเลยสิ หึ” เธอพูดออกมาแล้วยกยิ้มที่มุมปาก
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงสาวเท้าเข้าไปกระชากแขนเรียวเข้าหาตัวเองก่อนจะใช้ปากหยัก ประกบลงไปบนปากเรียวอย่างไม่ปราณี
เขาดูดดึงเรียวปากเล็กจนหญิงสาวรู้สึกถึงกลิ่นเลือดของตนเองที่ตอนนี้ปากบางเริ่มบวมเจ่อเพราะพิษจูบของชายหนุ่ม เธอพยายามเม้มปากไว้แน่นเพื่อไม่ให้เขารุกล้ำเข้ามาได้ จนสุดท้ายจึงได้ตัดสินใจตวัดฝ่ามือเรียวไปบนหน้าชายหนุ่มสุดแรง
“คนเลว ฉันบอกให้พอ ฮึก จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบงั้นเหรอ ฮึก คุณเห็นฉันเป็นอะไร ห๊า” เธอสุดจะกลั้นร้องออกมาทั้งน้ำตา
ชายหนุ่มที่ตอนนี้สติกลับคืนมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วหันไปมองร่างบางที่ตอนนี้กำลังร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
นี่เขาทำอะไรลงไป ชายหนุ่มพึ่งคิดได้ว่าเขาทำรุนแรงกับเธอไปหรือเปล่า เพราะความโกรธปนหึงหวงแท้ๆทำให้เขาทำอะไรไปโดยไม่คิดให้ดีๆก่อน
“เอ่อ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษนะ” ชายหนุ่มกล่าวคำขอโทษก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนร้องให้อยู่ไม่ไกล
“ฮือๆ หยุดอย่าเข้ามานะ ไอ้คนเลว แกมันเลว ฮือออ” เธอพูดออกมาทั้งน้ำตา
ชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังเดินไปหาหญิงสาวหยุดชะงักนิดนึงก่อนจะสาวท้าวเดินไปต่อจนสามารถรวบร่างบางมาไว้ในอ้อมกอดจนสำเร็จ
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่หึงคุณที่คุณแต่งตัวแบบนี้ไปในที่แบบนั้น คุณรู้ไหมผมแทบอยากจะควักลูกตาผู้ชายพวกนั้นออกมาเมื่อรู้ว่ามันใช้ตานั้นมองคุณ” เขารีบอธิบายออกไปเมื่อเห็นหญิงสาวหยุดดิ้น
“นะ ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะ ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีก ผมจะพยายามใจเย็นนะ” เขาบอกออกไป
“เลิกแล้วต่อกันเถอะนะต่างคนต่างอยู่อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ” เธอหยุดสะอื้นแล้วขอร้อง
“ไม่เอาผมไม่ยอม ผมเป็นผัวคุณนะคุณจะทิ้งผมไปแบบนี้เหรอ” เขาเริ่มใช้ไม้อ่อน
“ใครผัวฉัน คุณเหรอเหอะ ฉันเคยพูดเหรอว่าคุณเป็นผัวฉัน” เธอเริ่มโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
“เคยสิคุณบอกตั้งหลายครั้งว่าผมเป็นผัวคุณ เห็นครางผัวจ๋าๆๆๆตอนเรามีอะไรกัน คุณจำไม่ได้เหรอ” เขาพูดถึงตอนที่ร่วมรักกันครั้งก่อน
“อ่าวก็ผมพูดความจริง” เขาพูดอ้อมแอ้มอยู่ข้างหนูของหญิงสาว
“พอเลย ฉันว่าเราควรมาคุยกันให้รู้เรื่องสักทีนะ ว่าจะเอายังไงต่อไป ทุกอย่างมันจะได้จบๆสักที” เธอว่าพลางเดินไปนั่งลงที่โซฟานุ่ม
“โอเค” เขาตอบรับพร้อมเดินไปนั่งข้างๆร่างบาง
“อย่ามานั่งใกล้ฉันที่นั่งเยอะแยะไปนั่งโน่น” เธอบอกพร้อมชี้ไปที่โซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่
“ไม่เอาผมจะนั่งใกล้คุณ” ชายหนุ่มยังดื้อ
สุดท้ายหญิงสาวเป็นฝ่ายยอมแพ้ออกมา
“ก็ได้ๆ นั่งเฉยๆนะ” เธอปรามออกมา เขาพยักหน้าหงึกหงักๆ
“ฉันอยากให้เราสองคนเลิกแล้วกันไปต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด แล้วคุณละคิดว่ายังไง” เธอเสนอออกมา
นี่สงสัยเขาบ้าไปแล้วจริงๆ พึ่งเจอกันไม่นานจะให้แต่งงานกัน เหอะ ไม่ใช่ว่าเล่นตัวหรอกนะ แต่นี่มันบ้าแท้ๆชื่อเขาเธอยังไม่รู้จักเลย เธอคิด
“ผมชื่อคิณฑ์ เทวทัต ตอนนี้คุณก็รู้จักชื่อผมแล้ว งั้นเราก็แต่งงานกันได้สิทีนี้” เขารวบรัดเธอ
“งั้นเอาแบบนี้ เรามาลองคบกันดู ถ้าคบกันแล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจเราจะเลิกกันทันที โอเคไหม” เธอเสนอออกมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มย่นคิ้วคิดหนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน
“ถ้างั้นผมขอ ต่อไปนี้คุณท่านแต่งตัวโป๊ ห้ามคุยกับผู้ชายคนอื่น ห้ามนอกใจผม ห้าม...” เขาต่อรองออกมา
“ถ้าห้ามขนาดนี้ คุณไปหาแฟนใหม่เถอะเพราะฉันคงทำไม่ได้ จะห้ามอะไรกันนักกันหนา” เธอพูดพลางถอนหายใจออกมา
ชายหนุ่มทำหน้าตาเหรอหราก่อนจะพูดออกมาว่า
“งั้นไม่ห้ามก็ได้” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มตอบกลับไปเสียงเบา
นี่ขนาดยังไม่แต่งงานเขายังกลัวเธอขนาดนี้ถ้าแต่งงานกันไปเขาจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของเธอเลยเหรอเนี่ย ผู้หญิงอะไรดูภายนอกออกจะอ่อนหวานเรียบร้อย ดูซิมาทำให้เขาตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ได้ขนาดนี้ แล้วจะให้ทำไงละ เขาคิดพลางถอนหายในออกมา
“เฮ้อ”
“ถอนหายใจทำไม หรือว่าคุณคิดจะเปลี่ยนใจ ก็ได้นะฉันไม่ว่า”
“ป่าวสักหน่อยผมไม่ได้เปลี่ยนใจ" เขารีบพูดออกมา
“งั้นจบแล้วนะ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนแล้วกันนี่ก็ดึกแล้วพรุ่งนี้ฉันต้องทำงานอีก แต่ฉันรบกวนอีกอย่างหนึ่งได้ไหมขอยืมเงินหน่อยพอดีกระเป๋าตังค์อยู่ที่ผับน่ะ” หญิงสาวพูดออกมาพร้อมทั้งยื่นมือแบไปตรงหน้าของชายหนุ่ม
“เฮ้อ โอเค” เธอตอบออกมาเพราะยังไงเธอก็ตกเป็นของเขาแล้ว จะกลัวเสียอะไรอีกล่ะสิ่งมีค่าที่สุดก็สูญเสียให้กับชายหนุ่มไปแล้ว
“งั้นเดี๋ยวคุณไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวผมเตรียมผ้าเช็ดตัวให้น้องน้ำอยู่ตรงโน้นในตู้ด้านบนมีแปรงสีฟันอันใหม่และของใช้คุณหยิบใช้ได้เลยนะ” เขาพูดออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนของชายหนุ่ม
หญิงสาวพอตกลงกันได้แล้วจึงหันไปสำรวจห้องชุดสุดหรูของชายหนุ่มที่นี่จะกินพื้นที่ชั้นบนทั้งชั้น เพราะมันใหญ่โตหรูหราเสียยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวเสียอีกพื้นที่ในห้องเน้นโทนสีเทาทำให้ดูอบอุ่นและบ่งบอกลักษณะตัวตนของชายหนุ่มเป็นอย่างดีเธอดูรอบรอบไปสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งพอเปิดประตูออกมาเธอก็เบิกตากว้างนี่มันห้องน้ำหรือว่าห้องนอนเนี่ยใหญ่โตจริงๆ ทุกอย่างตกแต่งไปด้วยสีเทาดูเรียบหรูตรงกลางห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูแล้วน่าจะลงไปอาบได้ประมาณสามสี่คนหญิงสาวเดินสำรวจห้องน้ำสักพักก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ ใต้ฝักบัวทันที“เฮ้อออสดชื่นจัง” เธอพูดพร้อมกับทำความสะอาดร่างบางของตนเองไปด้วย จนผ่านไปประมาณ 10 นาทีเธอก็อาบเสร็จ แต่ เธอลืมไปว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวแล้วก็ไม่มีชุดด้วยหรือเธอจะใส่ชุดเดิมแต่ก็ไม่มีผ้าเช็ดตัวอยู่ดีทางด้านชายหนุ่มที่ ตอนนี้ยืนมองร่างบางกำลังอาบน้ำอยู่จากทางด้านนอกของห้องน้ำเพราะห้องน้ำห้องนี้มีสองประตูที่สามารถเปิดเข้าถึงได้ โดยประตูบานหนึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งผนังของด้านนั้นเป็นกระจกแบบสามารถมองเห็นได้เพียงทางเดียวเท่านั้นเขาเฝ้ามองดูร่างบางตั้งแต่เ
“มิวครับ ที่รักตื่นได้แล้ว สายแล้วนะครับ คุณต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ” คิณฑ์พยายามปลุกร่างบางขึ้นมาจากที่นอนเธอบิดตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะแน่นิ่งไปอีกครั้ง“ที่รักถ้ายังไม่ตื่น งั้นผมจะปลุกด้วยวิธีของผมแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างแยกสาบเสื้อเชิดสีขาวของเขาที่สวมให้กับเธอเมื่อเสร็จศึกรักตอนค่อนรุ่ง เขาค่อยๆลูบไล้หน้าท้องเรียบเรื่อยๆขึ้นไปจนถึงหน้าอกอวบที่ไร้การปกปิดของเธอก่อนจะคลึงเบาๆ“อือออ หยุดคะ มิวตื่นแล้วๆ อย่าแกล้งสิคะนี่กี่โมงแล้วคะ” เธองัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย“จะ 10 โมงแล้วครับที่รัก” เขาบอกออกมาหญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วราวติดสปริงก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายส่วนชายหนุ่มนอนรอเธออยู่บนเตียงกว้างเพราะเขาอาบน้ำแต่งตัวก่อนเธอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คอีเมล ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับอีเมลที่เลขาหนุ่มส่งมาให้อืมเดี๋ยวเขาค่อยไปจัดการทีหลังละกัน ตอนนี้จัดการกับคนรักของคนก่อนดีกว่า เขาคิดพลางอมยิ้มออกมาตายๆๆๆแน่สายแล้วๆ เธอตายแน่ๆ ลืมโทรไปบอกพี่ชายกับเพื่อนสาวว่าจะขอไปทำงานสาย ก็คนห
ทางด้านของมาร์กที่ตอนนี้ลากหมอตาเข้ามาในห้องนอนเล็กจนสำเร็จ เขายืนมองร่างเล็กที่ตอนนี้หน้างอง้ำจนปากกับจมูกแทบจะติดกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่ขอนะ นะที่รัก ตอนนี้พี่อยากมากเลย ไม่เชื่อตาลองจับดูสิ มังกรพี่แข็งโป๊กเลย” ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งจับมือหญิงสาวให้เข้าไปสัมผัสตรงเป้าของเขาที่ตุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด“ว้ายคนบ้า ทำอะไรห๊ะ” หญิงสาวตะโกนออกมาพร้อมกับรีบชักมือกลับแต่เขาจับมือเธอไว้แน่น“อ่าวก็มันจริงนี่นา ตอนนี้มังกรอยากกลับเข้าถ้ำแล้วช่วยมันหน่อยเถอะนะที่รัก นะนะนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหาเธอที่ตอนนี้อายจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดีแล้ว“กะ ก็ได้ แต่แค่รอบเดียวพอนะ ตายังช้ำไม่หายเลย” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาสินะ“ครับ รับรองแค่น้ำเดียวจริงๆ” เขาพูดออกมาพร้อมทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่หญิงสาวก่อนที่จะดันร่างบางให้นอนลงไปที่เตียงกว้าง“นั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา หึหึ”เขาพูดเสร็จก็รีบประกบปากลงมาทันทีหญิงสาวใช้แขนสองข้างคล้องไปที่คอของชายหนุ่มแล้วรั้งคอขอเขาเอาไว้ให้สนิทแนบยิ่งขึ้นทั้งเขาและเธอต่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบท
ชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนมองหน้าหมอสาวอยู่ในห้องนอนของเขา ทีแรกเขาก็รู้สึกโกรธที่เธอปฏิเสธแต่พอได้เห็นหน้าสวยที่งอง้ำอยู่ตอนนี้เขากลับคิดว่ามันตลก ปากเล็กยื่นออกมาแทบชนจมูกสวย“โถ่ที่รัก ปฏิเสธผมทำไม ผมอยากแต่งงานกับมิวจริงๆนะ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะแล้วด้วย” เขาบอกออกมาพลางเดินไปโอบกอดร่างบาง“ก็คุณไม่ถามมิวสักคำ อยู่ดีๆพามาบ้านแล้วบอกจะแต่งงาน ใครจะไปตั้งตัวทันเล่า” เธอพูดออกมา คนอะไรไม่โรแมนติกเอาซะเลย“ก็ผมรีบนี่ กลัวคนอื่นมาแย่งมิวไป” เขาอธิบายพลางเอาคางไปเกยอยู่ที่ไหล่ของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น“ใครจะมาแย่ง คุณก็คิดมากไป” เธอว่าพลางเอื้อมมือไปกอดเขาตอบ“มิวรักผมบ้างรึเปล่า” อยู่ดีๆเขาก็ถามออกมาจนหญิงสาวไม่รู้จะตอบยังไง“เอ่อ คือ มิวก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักหรือป่าว มิวหวงเวลาคุณอยู่กับคนอื่น คิดถึงคุณเวลาไม่เจอ” เธอพูดก่อนจะกอดเขาแน่นขึ้น“................” เงียบ ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาคลายมือออกแล้วเดินไปหยุดยืนริมหน้าต่างแล้วทอดสายตาออกไปข้างนอกหญิงสาวที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มคงงอนที่เธอไม่บอกว่ารักเขาสินะ จากนั้นเธอจึงเดินไปกอดเขาจากทางด้านหลัง“มิวรักคิณฑ์นะ” เธอตัดสินใ
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้เจอคุณหมอสาว เขาพยายามที่จะติดต่อเธอแต่มือถือก็ปิด ไปหาที่โรงพยาบาลก็โดนกีดดันไม่ให้พบได้แต่กลับมานั่งคอตกอยู่ที่บ้านส่วนทางด้านคุณหมอมิวที่ตอนนี้มาสัมมนาที่หัวหินได้สามวันแล้ว ก็พี่ชายเธอนะสิพยายามกีดกันให้เธอมาสัมมนาต่างจังหวัดทั้งที่ไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่ จนวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการอบรม เธอคิดถึงคนรักนะแต่ไม่รู้จะติดต่อเขายังไงมือถือพี่ชายก็เอาไปอ้างว่าไปทำงานไม่จำเป็นต้องพกไปเถียงกันอยู่สักพักเธอก็ยอมแพ้พี่ชายทั้งสองคนไป พอกลับมาจากสัมมนาก็เลือกที่จะไปพักที่คอนโดของเธอก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่อยากกลับบ้านตั้งแต่วันนั้นพี่ชายทั้งสองก็คุมเข้มไมให้เธอนอนที่คอนโดเธอขี้เกียจจะเถียงเลยทำตามที่ทั้งสองบอกทางด้านคิณฑ์พอกลับมาถึงบ้านเขาก็มานั่งถอนหายใจอยู่ข้างๆมารดาเพราะคิดถึงคุณหมอสาว 'นี่เขาคลั่งเธอขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เจอกันแค่สองสามวันยังขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งเธอจากเขาไปมีคนอื่นละ เขาจะทำยังไง' เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็หันหน้าไปหามารดาทันที“มัมครับหน้าผมหายดีแล้วนะครับมัมไปขอมิวให้ผมได้รึยังครับมัม นะนะไปวันนี้เลย นะครับ” เขาพูดพลางขยับไปจับแขนมารดาเขย่าเบาๆ
หมอมิวตอนนี้ตื่นขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมไปซื้อของใช้ส่วนตัวเธอคิดว่าจะพักที่นี่สักสองคืน แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อ แต่ก่อนอื่นเธอต้องบอกทางบ้านก่อนเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วงตอนนี้มิวมาพักผ่อน ถ้ามิวพร้อมเดี๋ยวมิวจะกลับไปนะคะ ไม่ต้องห่วงมิวสบายดีเธอพิมพ์ข้อความออกไปแค่นั้นก่อนจะกดส่งให้กับ บิดามารดา พี่ชายทั้งสอง แล้วก็คุณหมอตาเท่านั้นก่อนจะกดปิดเครื่องทันทีเธอเดินออกมาจากห้องพักแล้วเดินเล่นเลียบชายหาดมาเรื่อยๆเพื่อนผ่อนคลายความเครียด หญิงสาวเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดบวกเสมอในเรื่องต่างๆ เธอเสียใจที่คนรักนอกใจ แต่จะให้ทำยังไงจะให้เธอเอาแต่ร้องไห้เก็บตัวนะเหรอเธอไม่เอาหรอก ชีวิตเป็นของเธอ ร้องไห้เสียใจได้แต่ไม่ใช่ว่าต้องทนทุกข์ไปกับมันทุกเวลานี่ เธอเดินเหม่อคิดอะไรมาเรื่อยๆจนมาชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งเข้าจนเซไปเกือบล้ม โชคดีที่เขาคว้าแขนเธอไว้ทัน“อุ๊ยขอโทษคะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอรีบพูดขอโทษออกไปทันที“เอ่อไม่เป็นรัยครับ คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มรีบถามออกไป“อ้อป่าวคะไม่เป็นไร ขอบคุณนะคะที่ช่วย ไม่งั้นฉันต้องล้มลงไปแน่ๆเลย” เธอพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มคู่กรณีที่ตอนนี้ยืนมองหน้
เช้าวันรุ้งขึ้น คิณฑ์กับหมอมิวที่กำลังเดินออกจากห้องจะไปทานข้าวเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ทก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงทักขึ้นมาจากทางด้านหลัง“มอนิ่งครับคุณมิว”“อ่าวคุณต้น มอนิ่งคะ ไปไหนมาแต่เช้าคะเนี่ย” หมอมิวทักกลับเพราะคนที่ทักทายเธอคือเจ้าของไร่แห่งนี้“ไปเดินดูไร่มาครับ เอ่อแล้วนี่ใครครับ” เขามองไปด้านหลังหญิงสาวที่มีผู้ชายตัวโตหน้าตาหล่อเหลาออกไปทางตะวันตกยืนอยู่“เอ่อ คนนี้คือ คุณคิณฑ์คะ เขาเป็นเอ่อ” หญิงสาวไม่รู้จะบอกชายหนุ่มออกไปยังไงดีเพราะเธอรู้ว่าเจ้าของไร่หนุ่มแอบสนใจเธออยู่“เป็นแฟนมิวครับ” เขารีบพูดออกมาก่อนจะเดินมากอดร่างบางไว้อย่างเป็นเจ้าของ“อ่อแฟนคุณมิวที่เคยเล่าให้ผมฟังว่านอกใจนะเหรอครับ” ต้นพูดขึ้นแบบยียวนออกไป เพราะเขายังคิดว่าคิณฑ์นอกใจมิวจริงๆแล้วตอนนี้ก็กำลังมาง้อขอคืนดีสินะ“นี่มิวบอกเขาไปแบบนั้นเหรอ แบบนี้มันต้องโดนลงโทษให้หนักกว่าเดิม” เขาว่าพลางขู่เธอออกมาเพราะเมื่อวานเขาก็ลงโทษแม่ตัวดีทั้งวันทั้งคืนกว่าจะเสร็จก็เกือบตีสองแล้วเพราะเธอเล่นหลับกลางอากาศเขาจึงต้องหยุดเกมรักลง“แล้วขอโทษนะครับ ผมรักแฟนผมมากกกกก และไม่เคยนอกใจเธอด้วย เข้าใจใหม่นะครับ” ชายหนุ่มร
อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา พิธีหมั้นตอนเช้าถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายหญิง โดยจะมีการตักบาตรพระและสวมแหวนหมั้นกันที่นี่ ส่วนงานแต่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูในเครือบริษัทของเจ้าบ่าว“ฉันดีใจด้วยนะแก วันนี้แกสวยมากเลยนะ ทีแรกฉันนึกว่าจะได้แต่งก่อนแกซะอีกแต่ที่ไหนได้แกรีบแต่งก่อนฉันซะงั้น” หมอตาที่มาช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวบอกออกไปเพราะที่จริงคู่เขาต้องได้แต่งก่อนคู่ของหมอมิวด้วยซ้ำแต่กลับพลิกผันเป็นหมอมิวแต่งก่อน“แกก็ลองถามหลานแกดูสิว่าทำไมต้องรีบมาเกิด ฮะฮะฮะ” หญิงสาวโบ้ยให้ไปถามลูกในท้องเธอแทน“ย่ะเห็นแกหลานชั้นยอม ปะงั้นออกไปกันเถอะจะถึงเวลาแล้ว แต่ฉันยินดีกับแกด้วยจริงๆนะเพื่อนรัก” ว่าแล้วหมอตาก็เดินเข้าไปกอดเจ้าสาวของงานที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอก่อนจะพาเจ้าสาวออกมาส่งให้เจ้าบ่าวที่รออยู่ก่อนแล้วทั้งคู่ตอนนี้อยู่ในชุดไทยประยุกต์สีทอง ชายหนุ่มสวมใส่โจงกระเบนเข้าชุด ส่วนหญิงสาวอยู่ในชุดไทยสีทองอร่ามปักมือทั้งชุดอย่างประณีตพุงป่องออกมาเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ครรภ์ของหญิงสาว 17 สัปดาห์แล้ว เธอไปดูเพศของลูกมาปรากฏว่าชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เธอได้ลูกแฝดชายหญิง คุณพ่อนี่ยิ้มแก้มแทบฉีกเมื่อรู้เพศลูก พลางคุยอวดคน
3 ปีต่อมา“แดดดี๊ฮะ แดดดี๊ ตื่นได้แล้วฮะ มามี้ให้มาตามลงไปทานข้าวฮะ” เสียงเด็กชายตฤณ เทวทัต ร้องเรียกผู้เป็นพ่อออกมาเสียงดังก่อนจะปีนขึ้นไปบนที่นอนแล้วเขย่าร่างใหญ่ไปมา“ฮือออแดดดี๊ยังง่วงอยู่เลยครับ ขอแดดดี๊นอนต่อแปปนึงนะครับ” เขาพูดเสร็จก็มุดหัวลงนอนต่อทันที“มามี้บอกว่าถ้าแดดดี๊ไม่ยอมตื่นคืนนี้มามี่จะไปนอนห้องตฤณคร้าบ”เสียงใสยังเอ่ยออกมาเจื้อยแจ้วคิณฑ์ที่กำลังจะหลับต่อเด้งตัวตื่นขึ้นมาทันที“เดี๋ยวตฤณรอแดดดี๊แปปนึงนะครับแดดดี๊ไปอาบน้ำก่อน” พูดเสร็จชายหนุ่มก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที พออาบเสร็จเขาก็เดินออกมาหาลูกชายที่นั่งรออยู่บนเตียง“ปะแดดดี๊เสร็จแล้วไปกันเถอะครับ” เขาเดินมาจับมือลูกชายก่อนจะเดินลงไปทานข้าวด้านล่างส่วนทางด้านห้องครัวที่ตอนนี้กำลังจัดโต๊ะอาหารกันอยู่“มามี้คะ เอาอันนี้วางไว้ตรงไหนคะ” เสียงเล็กดังขึ้นเมื่อไม่รู้จะวางจานในมือไว้ตรงไหนดี“ต้นข้าวเอามาวางไว้ตรงนี้คะลูก” อรัญญา หรือหมอมิวบอกลูกสาวออกมา“คะมามี้ แล้วทำไมแดดดี๊กับพี่ตฤณยังไม่ลงมาอีกคะมามี้ ต้นข้าวหิวแล้วคะมามี้” เสียงเล็กเริ่มงอแงออกมาเมื่อเริ่มหิวข้าวแล้ว“มาแล้วครับต้นข้าวแดดดี๊มาแล้ว มาให้แดดดี๊จุ๊บหนึ่
อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา พิธีหมั้นตอนเช้าถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายหญิง โดยจะมีการตักบาตรพระและสวมแหวนหมั้นกันที่นี่ ส่วนงานแต่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูในเครือบริษัทของเจ้าบ่าว“ฉันดีใจด้วยนะแก วันนี้แกสวยมากเลยนะ ทีแรกฉันนึกว่าจะได้แต่งก่อนแกซะอีกแต่ที่ไหนได้แกรีบแต่งก่อนฉันซะงั้น” หมอตาที่มาช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวบอกออกไปเพราะที่จริงคู่เขาต้องได้แต่งก่อนคู่ของหมอมิวด้วยซ้ำแต่กลับพลิกผันเป็นหมอมิวแต่งก่อน“แกก็ลองถามหลานแกดูสิว่าทำไมต้องรีบมาเกิด ฮะฮะฮะ” หญิงสาวโบ้ยให้ไปถามลูกในท้องเธอแทน“ย่ะเห็นแกหลานชั้นยอม ปะงั้นออกไปกันเถอะจะถึงเวลาแล้ว แต่ฉันยินดีกับแกด้วยจริงๆนะเพื่อนรัก” ว่าแล้วหมอตาก็เดินเข้าไปกอดเจ้าสาวของงานที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอก่อนจะพาเจ้าสาวออกมาส่งให้เจ้าบ่าวที่รออยู่ก่อนแล้วทั้งคู่ตอนนี้อยู่ในชุดไทยประยุกต์สีทอง ชายหนุ่มสวมใส่โจงกระเบนเข้าชุด ส่วนหญิงสาวอยู่ในชุดไทยสีทองอร่ามปักมือทั้งชุดอย่างประณีตพุงป่องออกมาเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ครรภ์ของหญิงสาว 17 สัปดาห์แล้ว เธอไปดูเพศของลูกมาปรากฏว่าชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เธอได้ลูกแฝดชายหญิง คุณพ่อนี่ยิ้มแก้มแทบฉีกเมื่อรู้เพศลูก พลางคุยอวดคน
เช้าวันรุ้งขึ้น คิณฑ์กับหมอมิวที่กำลังเดินออกจากห้องจะไปทานข้าวเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ทก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงทักขึ้นมาจากทางด้านหลัง“มอนิ่งครับคุณมิว”“อ่าวคุณต้น มอนิ่งคะ ไปไหนมาแต่เช้าคะเนี่ย” หมอมิวทักกลับเพราะคนที่ทักทายเธอคือเจ้าของไร่แห่งนี้“ไปเดินดูไร่มาครับ เอ่อแล้วนี่ใครครับ” เขามองไปด้านหลังหญิงสาวที่มีผู้ชายตัวโตหน้าตาหล่อเหลาออกไปทางตะวันตกยืนอยู่“เอ่อ คนนี้คือ คุณคิณฑ์คะ เขาเป็นเอ่อ” หญิงสาวไม่รู้จะบอกชายหนุ่มออกไปยังไงดีเพราะเธอรู้ว่าเจ้าของไร่หนุ่มแอบสนใจเธออยู่“เป็นแฟนมิวครับ” เขารีบพูดออกมาก่อนจะเดินมากอดร่างบางไว้อย่างเป็นเจ้าของ“อ่อแฟนคุณมิวที่เคยเล่าให้ผมฟังว่านอกใจนะเหรอครับ” ต้นพูดขึ้นแบบยียวนออกไป เพราะเขายังคิดว่าคิณฑ์นอกใจมิวจริงๆแล้วตอนนี้ก็กำลังมาง้อขอคืนดีสินะ“นี่มิวบอกเขาไปแบบนั้นเหรอ แบบนี้มันต้องโดนลงโทษให้หนักกว่าเดิม” เขาว่าพลางขู่เธอออกมาเพราะเมื่อวานเขาก็ลงโทษแม่ตัวดีทั้งวันทั้งคืนกว่าจะเสร็จก็เกือบตีสองแล้วเพราะเธอเล่นหลับกลางอากาศเขาจึงต้องหยุดเกมรักลง“แล้วขอโทษนะครับ ผมรักแฟนผมมากกกกก และไม่เคยนอกใจเธอด้วย เข้าใจใหม่นะครับ” ชายหนุ่มร
หมอมิวตอนนี้ตื่นขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมไปซื้อของใช้ส่วนตัวเธอคิดว่าจะพักที่นี่สักสองคืน แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อ แต่ก่อนอื่นเธอต้องบอกทางบ้านก่อนเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วงตอนนี้มิวมาพักผ่อน ถ้ามิวพร้อมเดี๋ยวมิวจะกลับไปนะคะ ไม่ต้องห่วงมิวสบายดีเธอพิมพ์ข้อความออกไปแค่นั้นก่อนจะกดส่งให้กับ บิดามารดา พี่ชายทั้งสอง แล้วก็คุณหมอตาเท่านั้นก่อนจะกดปิดเครื่องทันทีเธอเดินออกมาจากห้องพักแล้วเดินเล่นเลียบชายหาดมาเรื่อยๆเพื่อนผ่อนคลายความเครียด หญิงสาวเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดบวกเสมอในเรื่องต่างๆ เธอเสียใจที่คนรักนอกใจ แต่จะให้ทำยังไงจะให้เธอเอาแต่ร้องไห้เก็บตัวนะเหรอเธอไม่เอาหรอก ชีวิตเป็นของเธอ ร้องไห้เสียใจได้แต่ไม่ใช่ว่าต้องทนทุกข์ไปกับมันทุกเวลานี่ เธอเดินเหม่อคิดอะไรมาเรื่อยๆจนมาชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งเข้าจนเซไปเกือบล้ม โชคดีที่เขาคว้าแขนเธอไว้ทัน“อุ๊ยขอโทษคะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอรีบพูดขอโทษออกไปทันที“เอ่อไม่เป็นรัยครับ คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มรีบถามออกไป“อ้อป่าวคะไม่เป็นไร ขอบคุณนะคะที่ช่วย ไม่งั้นฉันต้องล้มลงไปแน่ๆเลย” เธอพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มคู่กรณีที่ตอนนี้ยืนมองหน้
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้เจอคุณหมอสาว เขาพยายามที่จะติดต่อเธอแต่มือถือก็ปิด ไปหาที่โรงพยาบาลก็โดนกีดดันไม่ให้พบได้แต่กลับมานั่งคอตกอยู่ที่บ้านส่วนทางด้านคุณหมอมิวที่ตอนนี้มาสัมมนาที่หัวหินได้สามวันแล้ว ก็พี่ชายเธอนะสิพยายามกีดกันให้เธอมาสัมมนาต่างจังหวัดทั้งที่ไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่ จนวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการอบรม เธอคิดถึงคนรักนะแต่ไม่รู้จะติดต่อเขายังไงมือถือพี่ชายก็เอาไปอ้างว่าไปทำงานไม่จำเป็นต้องพกไปเถียงกันอยู่สักพักเธอก็ยอมแพ้พี่ชายทั้งสองคนไป พอกลับมาจากสัมมนาก็เลือกที่จะไปพักที่คอนโดของเธอก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่อยากกลับบ้านตั้งแต่วันนั้นพี่ชายทั้งสองก็คุมเข้มไมให้เธอนอนที่คอนโดเธอขี้เกียจจะเถียงเลยทำตามที่ทั้งสองบอกทางด้านคิณฑ์พอกลับมาถึงบ้านเขาก็มานั่งถอนหายใจอยู่ข้างๆมารดาเพราะคิดถึงคุณหมอสาว 'นี่เขาคลั่งเธอขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เจอกันแค่สองสามวันยังขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งเธอจากเขาไปมีคนอื่นละ เขาจะทำยังไง' เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็หันหน้าไปหามารดาทันที“มัมครับหน้าผมหายดีแล้วนะครับมัมไปขอมิวให้ผมได้รึยังครับมัม นะนะไปวันนี้เลย นะครับ” เขาพูดพลางขยับไปจับแขนมารดาเขย่าเบาๆ
ชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนมองหน้าหมอสาวอยู่ในห้องนอนของเขา ทีแรกเขาก็รู้สึกโกรธที่เธอปฏิเสธแต่พอได้เห็นหน้าสวยที่งอง้ำอยู่ตอนนี้เขากลับคิดว่ามันตลก ปากเล็กยื่นออกมาแทบชนจมูกสวย“โถ่ที่รัก ปฏิเสธผมทำไม ผมอยากแต่งงานกับมิวจริงๆนะ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะแล้วด้วย” เขาบอกออกมาพลางเดินไปโอบกอดร่างบาง“ก็คุณไม่ถามมิวสักคำ อยู่ดีๆพามาบ้านแล้วบอกจะแต่งงาน ใครจะไปตั้งตัวทันเล่า” เธอพูดออกมา คนอะไรไม่โรแมนติกเอาซะเลย“ก็ผมรีบนี่ กลัวคนอื่นมาแย่งมิวไป” เขาอธิบายพลางเอาคางไปเกยอยู่ที่ไหล่ของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น“ใครจะมาแย่ง คุณก็คิดมากไป” เธอว่าพลางเอื้อมมือไปกอดเขาตอบ“มิวรักผมบ้างรึเปล่า” อยู่ดีๆเขาก็ถามออกมาจนหญิงสาวไม่รู้จะตอบยังไง“เอ่อ คือ มิวก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักหรือป่าว มิวหวงเวลาคุณอยู่กับคนอื่น คิดถึงคุณเวลาไม่เจอ” เธอพูดก่อนจะกอดเขาแน่นขึ้น“................” เงียบ ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาคลายมือออกแล้วเดินไปหยุดยืนริมหน้าต่างแล้วทอดสายตาออกไปข้างนอกหญิงสาวที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มคงงอนที่เธอไม่บอกว่ารักเขาสินะ จากนั้นเธอจึงเดินไปกอดเขาจากทางด้านหลัง“มิวรักคิณฑ์นะ” เธอตัดสินใ
ทางด้านของมาร์กที่ตอนนี้ลากหมอตาเข้ามาในห้องนอนเล็กจนสำเร็จ เขายืนมองร่างเล็กที่ตอนนี้หน้างอง้ำจนปากกับจมูกแทบจะติดกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่ขอนะ นะที่รัก ตอนนี้พี่อยากมากเลย ไม่เชื่อตาลองจับดูสิ มังกรพี่แข็งโป๊กเลย” ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งจับมือหญิงสาวให้เข้าไปสัมผัสตรงเป้าของเขาที่ตุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด“ว้ายคนบ้า ทำอะไรห๊ะ” หญิงสาวตะโกนออกมาพร้อมกับรีบชักมือกลับแต่เขาจับมือเธอไว้แน่น“อ่าวก็มันจริงนี่นา ตอนนี้มังกรอยากกลับเข้าถ้ำแล้วช่วยมันหน่อยเถอะนะที่รัก นะนะนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหาเธอที่ตอนนี้อายจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดีแล้ว“กะ ก็ได้ แต่แค่รอบเดียวพอนะ ตายังช้ำไม่หายเลย” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาสินะ“ครับ รับรองแค่น้ำเดียวจริงๆ” เขาพูดออกมาพร้อมทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่หญิงสาวก่อนที่จะดันร่างบางให้นอนลงไปที่เตียงกว้าง“นั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา หึหึ”เขาพูดเสร็จก็รีบประกบปากลงมาทันทีหญิงสาวใช้แขนสองข้างคล้องไปที่คอของชายหนุ่มแล้วรั้งคอขอเขาเอาไว้ให้สนิทแนบยิ่งขึ้นทั้งเขาและเธอต่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบท
“มิวครับ ที่รักตื่นได้แล้ว สายแล้วนะครับ คุณต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ” คิณฑ์พยายามปลุกร่างบางขึ้นมาจากที่นอนเธอบิดตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะแน่นิ่งไปอีกครั้ง“ที่รักถ้ายังไม่ตื่น งั้นผมจะปลุกด้วยวิธีของผมแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างแยกสาบเสื้อเชิดสีขาวของเขาที่สวมให้กับเธอเมื่อเสร็จศึกรักตอนค่อนรุ่ง เขาค่อยๆลูบไล้หน้าท้องเรียบเรื่อยๆขึ้นไปจนถึงหน้าอกอวบที่ไร้การปกปิดของเธอก่อนจะคลึงเบาๆ“อือออ หยุดคะ มิวตื่นแล้วๆ อย่าแกล้งสิคะนี่กี่โมงแล้วคะ” เธองัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย“จะ 10 โมงแล้วครับที่รัก” เขาบอกออกมาหญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วราวติดสปริงก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายส่วนชายหนุ่มนอนรอเธออยู่บนเตียงกว้างเพราะเขาอาบน้ำแต่งตัวก่อนเธอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คอีเมล ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับอีเมลที่เลขาหนุ่มส่งมาให้อืมเดี๋ยวเขาค่อยไปจัดการทีหลังละกัน ตอนนี้จัดการกับคนรักของคนก่อนดีกว่า เขาคิดพลางอมยิ้มออกมาตายๆๆๆแน่สายแล้วๆ เธอตายแน่ๆ ลืมโทรไปบอกพี่ชายกับเพื่อนสาวว่าจะขอไปทำงานสาย ก็คนห
หญิงสาวพอตกลงกันได้แล้วจึงหันไปสำรวจห้องชุดสุดหรูของชายหนุ่มที่นี่จะกินพื้นที่ชั้นบนทั้งชั้น เพราะมันใหญ่โตหรูหราเสียยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวเสียอีกพื้นที่ในห้องเน้นโทนสีเทาทำให้ดูอบอุ่นและบ่งบอกลักษณะตัวตนของชายหนุ่มเป็นอย่างดีเธอดูรอบรอบไปสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งพอเปิดประตูออกมาเธอก็เบิกตากว้างนี่มันห้องน้ำหรือว่าห้องนอนเนี่ยใหญ่โตจริงๆ ทุกอย่างตกแต่งไปด้วยสีเทาดูเรียบหรูตรงกลางห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูแล้วน่าจะลงไปอาบได้ประมาณสามสี่คนหญิงสาวเดินสำรวจห้องน้ำสักพักก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ ใต้ฝักบัวทันที“เฮ้อออสดชื่นจัง” เธอพูดพร้อมกับทำความสะอาดร่างบางของตนเองไปด้วย จนผ่านไปประมาณ 10 นาทีเธอก็อาบเสร็จ แต่ เธอลืมไปว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวแล้วก็ไม่มีชุดด้วยหรือเธอจะใส่ชุดเดิมแต่ก็ไม่มีผ้าเช็ดตัวอยู่ดีทางด้านชายหนุ่มที่ ตอนนี้ยืนมองร่างบางกำลังอาบน้ำอยู่จากทางด้านนอกของห้องน้ำเพราะห้องน้ำห้องนี้มีสองประตูที่สามารถเปิดเข้าถึงได้ โดยประตูบานหนึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งผนังของด้านนั้นเป็นกระจกแบบสามารถมองเห็นได้เพียงทางเดียวเท่านั้นเขาเฝ้ามองดูร่างบางตั้งแต่เ