“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ขออนุญาตคะ อ่าวคุณหมอหายไปไหน” พยาบาลสาวเปิดประตูเข้ามาพลางมองหาคุณหมอคนสวยไปทั่วห้องตรวจ
“คุณหมอไปไหนนะ รึว่ากลับบ้านไปแล้วนี่มันก็ 5 โมงกว่าแล้วนี่น่า แต่ทำไมไม่เห็นเดินออกไปนอกห้อง รึว่าจะออกไปตอนเราไม่เห็น” เธอพูดอยู่คนเดียวแล้วเดินไปปิดไฟในห้องตรวจก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้เมื่อปิดไฟเรียบร้อยแล้ว
ทางด้านคุณหมอสาวที่ตื่นขึ้นมาเพระได้ยินเสียงเคาะประตู เธอพยายามนอนให้เงียบที่สุดเพราะกลัวคนที่มาเคาะจะได้ยินเสียงเธอแล้วเปิดประตูเข้ามาในอีกห้องหนึ่ง พอได้ยอนเสียงปิดประตูดังขึ้น เธอก็เริ่มสำรวจไปรอบๆที่ๆเธออยู่ทันที
เอ๊ะนี่มันห้องรีดน้ำเชื้อนี่ เธอคิดพลางค่อยๆมองรอบห้องช้าๆแล้วเหตุการณ์ต่างๆก่อนหน้านี้ค่อยๆไหลเข้ามาในความคิดของหญิงสาว เธอร่วมรักกับไอ้คนไข้โรคจิตจนสลบไปเลยเหรอเนี่ย
เธอมองแขนใหญ่ที่พาดอยู่บนเอวบางก่อนจะค่อยๆยกขึ้นเบาๆแล้วเคลื่อนตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ซี๊ด โอ้ย ทำไมเธอเจ็บแบบนี้เนี่ย ไอ้บ้านี่ทำกับเธอไปกี่รอบเนี่ยหวังว่าคงไม่ลักหลับเราต่อใช่ไหมเนี่ย เธอคิดพลางค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นยืน ปวดแสบไปหมดกลางร่างกาย
เธอลุกขึ้นยืนมองร่างหนาที่สวมแต่กางเกงแล้วเปลือยท่อนอกแกร่งนอนกอดเธอไว้บนเตียง
นี่เขาคงสวมเสื้อผ้าให้เธอสินะ คิดพลางแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ดีนะที่เขายังมีจิตสำนึกบ้าง
จากนั้นเธอค่อยๆย่องออกจากห้องนั้นไปอย่างเบาที่สุดเพระกลัวเขาจะตื่นขึ้นมา
เธอเดินออกจากห้องตรวจด้วยท่าทีแปลกๆพร้อมกับขยับเสื้อคลุมของหมอขึ้นมาปกปิดร่องรอยบนซอกคอที่เขาทำไว้ กลัวว่าคนอื่นจะเห็นแล้วเอาไปนินทา
“อ่าวคุณหมอมิว ทำไมออกมาจากห้องตรวจละคะ เมื่อกี้ปลาเดินเข้าไปไม่เห็นเจอคุณหมอเลยคะ” พยาบาลสาวที่เดินเข้าไปตรวจเช็คห้องเมื่อกี้ถามขึ้น
“เอ่อ เอ่อ พอดีมิวเข้าไปอีกห้องนึกเพื่อเก็บของนะคะ สงสัยพี่ปลาคงเข้าไปตอนนั้นแน่เลย” เธอว่าพลางมองไปที่หน้าของพยาบาลสาว
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วมิวขอตัวนะคะ” เธอบอกก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยท่าทางแปลกๆ
“คะ” พยาบาลสาวตอบรับ
เอ๋ทำไมคุณหมอเดินแปลกๆ รึว่าจะไม่สบาย เธอคิดในใจก่อนจะเดินออกไปเพื่อทำงานต่อ
“เฮ้อ” พอมาถึงห้องทำงาน คุณหมอคนสวยนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างอ่อนแรง
“จะทำยังไงดีเนี่ย โอ๊ยปวดหัว ค่อยคิดละกัน” เธอบ่นอยู่คนเดียว จากนั่นรีบเก็บของกลับไปคิดที่คอนโดดีกว่า คุณหมอสาวเดินออกมาขึ้นรถที่ลานจอดรถก่อนจะขับออกไปทันที ระหว่างทางเธอไม่ลืมแวะซื้อยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ดีกว่าแก้
จากนั้นเธอก็ขับรถมาจนถึงคอนโด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก เธอขึ้นห้องอาบน้ำอาบท่าแล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ทางด้านชายหนุ่มเมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นหญิงสาวก็รีบใส่เสื้อแล้วออกไปจากห้องตรวจทันที ซึ่งนี่เป็นเวลา สองทุ่มกว่าแล้ว
นี่เขานอนหลับยาวขนาดไม่รู้เรื่องเลยเหรอ เขาคิดพลางรีบเปิดประตูออกไปจากห้องตรวจทันที
“เธอนะเธอทิ้งเขาไว้คนเดียวได้ไง แทนที่จะปลุกกันบ้าง ฮึ่ย” เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาลไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
เขาขับรถมาเรื่อยๆจนมาถึงบ้านหลังใหญ่ของบิดามารดาแล้วจอดรถก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
“อ่าวตาคิณฑ์ ทำไมวันนี้กลับมานอนบ้านได้ละลูก ลมอะไรหอบลูกแม่มาน้า” คุณหญิงศจีแกล้งแหย่ลูกชายเล่นเพราะส่วนใหญ่แล้วชายหนุ่มมักจะนอนพักที่คอนโดเสียเป็นส่วนใหญ่ เขาให้ข้ออ้าวว่าใกล้ที่ทำงานบ้างละขี้เกียจกลับบ้านรถติดบ้างละ เธอเลยไม่เซ้าซี้เพราะรู้ว่าลูกชายทำงานหนัก ต้องรับผิดชอบกิจการต่างๆมากมายหลายประเทศ เธอจึงคิดอยากให้เขามีครอบครัวจะได้มีคนมาคอยช่วยดูแลชายหนุ่มด้วยไม่ใช่เอาแต่ทำงานหนักอยู่อย่างนี้
“ก็ผมคิดถึงมัมอะครับ ไม่ได้กอดมันตั้งหลายวัน คิดถึงมัมที่สุดเลย” เขาว่าพลางเดินไปกอดแล้วหอมลงไปที่แก้มอวบนั้นแรงๆหนึ่งที
“นี่ๆหยุดเลยนั่นแก้มเมียพ่อนะเว้ย ถ้าอยากหอมก็ไปหาเมียมาสิ อย่ามายุ่งกับเมียพ่อนะ คนนี้พ่อหวง” คุณฟรานซิสพูดก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดภรรยาของตัวเองแล้วดึงเบาๆออกมาจากกอดของลูกชายตัวดี
“แด๊ดครับ นี่มัมเป็นแม่ผมนะครับแด๊ด หวงได้แม้กระทั่งลูกของตัวเอง” ชายหนุ่มว่าพร้อมทั้งทำท่างอนก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำอาบท่านอนเพราะวันนี้ใช้พลังงานไปเยอะต้องพักผ่อนเอาแรงก่อน
“อ่าวแล้วกินข้าวมายังละลูก” แม่ของชายหนุ่มตะโกนตามหลังลูกชายที่เดินขึ้นบันไดไปแล้ว
“ไม่หิวครับมัม ผมขอพักผ่อนก่อนครับ เหนื่อยมากเลยวันนี้” เขาบอกออกไปพร้อมทั้งก้าวเดินไปยังห้องของตนเอง
“เฮ้อทำงานหนักอย่างนี้ เมื่อไหร่เราจะมีหลานมาวิ่งเล่นในบ้านเราละคุณ ฉันอยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้วนะ” คุณหญิงศจีพูดกับสามีออกมา เธอก็อายุเยอะแล้วความฝันของเธอตอนนี้คืออยากอุ้มหลานไวๆเพราะกลัวจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหลานนะสิ
“คุณก็หาๆผู้หญิงมาให้เจ้าคิณฑ์มันเลือกบ้างสิ เพื่อนคุณก็เยอะแยะ ลูกสาวก็หน้าตาสวยๆทั้งนั้นนี่” คุณฟรานซิสบอกภรรยาออกไป
“ใช่เลยคุณ เดี๋ยวฉันต้องไปคัดเลือกมาให้ตาคิณฑ์ดูตัวเสียหน่อยแล้วไม่งั้นไม่ทันได้อุ้มหลานแน่”เธอพูดพร้อมกับทำตาเป็นประกาย
“นี่ความคิดผมเลยนะเนี่ยคุณ เพราะฉะนั้นคุณต้องมีรางวัลให้ผมชุดใหญ่เลยนะเนี่ย” คุณฟรานซิสว่าพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
“นี่อะไรคุณ คุณไม่คิดจะหยุดพักบ้างเลยรึไงคะ คุณนี่มันจริงๆเลย” เธอเอ็ดสามีไปไม่จริงจังนัก เธอรู้ว่าสามีเธอนั้นรักเธอมากเพียงใด ตั้งแต่แต่งานอยู่กินกันมาเขาแทบไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลย เรื่องชู้สาวก็ไม่เคยมี
“น่านะนิดเดียวนะคุณ นะนะนะ ปะขึ้นห้องกัน” เขาพูดหน้าเปื้อนยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับกอดเอวภรรยาเดินขึ้นไปยังห้องนอนใหญ่
“คุณก็...” คุณหญิงพูดได้แค่นั้นก็ยอมเดินตามแรงฉุดของร่างสูงขึ้นไปบนห้องนอนทันที
เช้าวันถัดมา
มาร์กตื่นนอนได้สักพัก เขานอนมองร่างเล็กที่กำลังนอนเกยอยู่บนตัวชายหนุ่ม แขนเรียวเล็กข้างหนึ่งพาดผ่านหน้าอกเขาส่วนอีกข้างเกาะไหลชายหนุ่มเอาไว้หลับตาพริ้ม ดูแล้วเหมือนเธอกำลังมีความสุข
สงสัยจะฝันดี เขาคิดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปกหน้าหญิงสาวออกอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ยกหัวขึ้นไปจูบเข้าที่หน้าผากมนเบาๆหนึ่งทีก่อนที่จะลดหัวลงมานอนต่อเพราะเกรงว่าจะรบกวนเวลานอนอันมีค่าของเธอ
เวลาผ่านไปสักพักหญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมาก่อนจะพบความผิดปกติรอบๆกายเธอ
เอ๊ะนี่ไม่ใช่ห้องนอนเรานี่ แล้วที่นี่ที่ไหน เธอคิดในใจพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆห้องอีกครั้งและไปสะดุดตรงใต้ร่างตัวเองเหมือนมีอะไรอุ่นๆรองรับอยู่เธอค่อยๆลดสายตาลงไปมอง หญิงสาวเบิกตากว้าง
เธอกับเขามีอะไรกันจากนั้นเธอก็... หญิงสาวจำเรื่องราวต่อจากนั้นไม่ได้ เธอพยายามลุกขึ้นจากตัวของชายหนุ่ม
มาร์กที่ตื่นมาได้สักพักใหญ่ๆแกล้งหลับเพื่อดูปฏิกิริยาของหญิงสาวว่าตื่นมาเจอแบบนี้จะทำยังไง เขาแกล้งดิ้นใช้แขนทั้งสองข้างไปโอบกอดหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้เธอลุกขึ้นได้
เธอพยายามเเกะเเขนเขาออกให้เบาที่สุด เพราะกลัวเขาตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว พอแกะแขนหนาออกได้เธอค่อยๆคลานลงจากเตียงใหญ่ พอเธอขยับได้นิดเดียวก็รู้สึกเจ็บตรงใจกลางลำตัวขึ้นมา แต่ก็รีบสลัดความเจ็บนั้นก่อนจะรีบคลานลงจากเตียงใหญ่ พร้อมทั้งรีบสวมใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แต่ร่างเล็กยังไม่ได้ออกจากห้องก็ถูกยกลอยหวือกลับมานอนที่เดิมด้วยฝีมือของชายหนุ่ม
“จะรีบไปไหนละยังเช้าอยู่เลย” ชายหนุ่มบอกออกไปพร้อมกับกระชับอ้อมแขนมากยิ่งขึ้น
“เช้าอะไรละคะสายแล้ว แล้วนี่ตาหายมาตั้งแต่เที่ยงของเมื่อวานไม่รู้จะมีคนสงสัยไหม ปล่อยตานะคะพี่มาร์กตาจะไปทำงาน” เธอรีบเอาเรื่องงานมาอ้าง
“แล้วตาไม่เหนื่อยเหรอ เมื่อวานก็เสร็จไปตั้งหลายยก พี่เหนื่อยจะแย่” เขาพูดแหย่ออกไปให้เธอได้น่าแดงเล่น
“พี่มาร์กบ้าพูดอะไรไม่อายฟ้าอายดิน ไม่เอาแล้วตาจะไปทำงาน” เธอพยายามไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน จะโทษเขาก็ไม่ได้ก็เธอกลับยินยอมพร้อมใจไปกับเขาด้วยนะสิ
“แล้วตาจะใส่ชุดนี้ออกไปจากห้องนี้ตอนนี้เนี่ยนะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเบนสายตาไปมองสำรวจเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่
“เอ่อ” หญิงสาวพูดไม่ออกเพราะตอนนี้เสื้อผ้าของเธอยับยู่ยี่จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ
“รอพี่อยู่นี่ก่อนพี่ขอทำธุระแป๊บหนึ่งเดี๋ยวพี่จะไปเอาชุดยัยมิวมาให้ แล้วอย่าออกไปไหนล่ะถ้าไม่อยากเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน” เขาพูดกันเธอเอาไว้แล้วแกล้งแหย่ออกไป แต่ใครจะไปรู้เพราะเขาน่ะฮอตจะตาย ถ้าใครเห็นเธอในสภาพนี้เดินออกไปก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น
“คะ รีบๆกลับมานะคะ มันสายแล้วตาจะลงไปทำงาน” เธอรีบบอกออกไปเพราะตอนนี้สายแล้วด้วย
“จ้า พี่รู้แล้ว” เขาตอบรับออกไปก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ พอทำธุระส่วนตัวเสร็จเขาก็เดินออกมา มองหญิงสาวที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะพูดออกไป
“เดี๋ยวตาอาบน้ำแปรงฟันที่นี่เลยนะ ของใช้ในห้องน้ำก็มีใช้ได้เลย เดี๋ยวพี่ลงไปไม่เกิน 10 นาที” พูดเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที
พอลับตาชายหนุ่มเธอรีบเดินไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำแปรงฟันอย่างเร่งรีบเพราะเขาบอกอีก 10นาทีจะกลับมา ดีนะที่ห้องของเขามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครัน
ผ่านไปเกือบสิบนาที ชายหนุ่มก็เดินเข้ามาภายในห้องนอนเล็ก สายตาสอดส่องหาร่างเล็กที่ตอนนี้นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาถือของที่ชายหนุ่มเอามาให้ นั่นก็คือชุดของเพื่อนสาวนั่นเอง
“อ่ะ นี่ของยัยมิว ใช้ไปก่อนนะแก้ขัดไปก่อน” เขาพูดพร้อมกับยื่นของเหล่านั้นให้เธอ
“ขอบคุณคะ” เธอกล่าวขอบคุณแล้วรับของเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปเปลี่ยนชุดทันที
“เดี๋ยวพี่รออยู่ข้างนอกนะครับ เสร็จแล้วไปเจอพี่ที่โต๊ะทำงานนะพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เขารีบบอกก่อนจะเดินออกไป
“คะ” เธอตอบรับ
หญิงสาวรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที
ดีนะที่ชุดของเพื่อนเธอเรียบร้อยเลยปิดรอยแดงได้จนเกือบหมด เธอคิดออกมาพลางรีบเก็บเสื้อผ้าของตนเพื่อออกไปพบชายหนุ่มที่รออยู่ด้านนอก
เวลาผ่านไปสักพักเธอก็เดินออกมาจากห้องนอนเล็กมานั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม พร้อมกับดึงเสื้อกาวที่สวมใส่อยู่มาปิดรอยแดงที่เขาทำไว้
“พี่มาร์คมีอะไรจะคุยกับตาคะ” เธอพูดหลังจากนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“คือเรื่องของเราพี่จริงจังนะ พี่ชอบตาจริงๆ เราเป็นแฟนกันนะ ถ้าตาให้โอกาสพี่ พี่สัญญาจะดูแลตาไม่ทำให้ตาเสียใจ” เขาพูดพร้อมกับเดินอ้อมมาหาเธอก่อนจะรั้งร่างบางขึ้นมากอดไว้
“เอ่อคือ ตาคิดว่ามันเร็วไปนะคะพี่มาร์ก” เธอพูดไปหน้าแดงไป
“มันไม่เร็วไปหรอกตาเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีละนะแล้วพี่ก็แอบชอบเรามาตั้งนานแล้วด้วย คบกับพี่นะ” เขาอ้อนวอนเธอออกมา
“เอ่องั้นก็ได้คะ แต่พี่มาร์กต้องเก็บไว้เป็นความลับก่อนนะคะอย่าพึ่งบอกให้ใครรู้ ถ้าตาพร้อมตาจะเป็นคนบอกเอง โอเคไหมคะ” เธอบอกเขาออกไปเพราะเธอยังคิดว่ามันเร็วไปอยู่ดี
“ก็ได้ครับที่รัก งั้นเราเป็นแฟนกันแล้วนะ ห้ามนอกใจพี่ด้วย ห้ามมองคนอื่น ห้ามคุยกับผู้ชายคนอื่นด้วยเข้าใจไหม” ได้ทีเขารีบต่อรองทันที
“เอ...พี่ว่ามันก็เป็นความคิดที่ดีนะ จะได้ไม่มีใครมาแย่งตาไปจากพี่” เขาพูดพลางยิ้มออกมา
“โอเคคะที่รัก ต่อไปนี้พี่จะเรียนเราว่าที่รักๆๆๆๆนะ” เขาพูดพลางยิ้มตาหยีออกมา
“เรียกแค่ตอนอยู่กันสองคนนะคะ” เธอรีบบอกออกไปเผื่อชายหนุ่มเผลอไปเรียกให้คนอื่นได้ยินจะเป็นเรื่องเอาได้
“งั้นตาไปแล้วนะคะ” เธอพูดก่อนจะเปิดประตูห้องของชายหนุ่มออกไป
“ครับ” เขาตอบรับก่อนจะมองร่างเล็กที่เดินออกจากประตูไปแล้ว จากนั้นก็ยิ้มกริ่มออกมา สุดท้ายแล้วหญิงสาวก็หนีเขาไปไม่พ้น
ทางด้านของหญิงสาวพอเดินออกมาก็เจอกับเลขาหน้าห้องของชายหนุ่ม เธอเงยหน้าขึ้นมามองคุณหมอสาวอย่างงงๆ
“อ่าวสวัสดีคะคุณหมอ แต่ว่าเข้าไปในห้องตอนไหนคะ ดิฉันไม่เห็นเลยไม่ได้เสิร์ฟกาแฟให้” เธอรีบบอกออกไปเพราะเธอไม่เห็นตอนที่คุณหมอสาวเดินเข้าไป สงสัยเป็นตอนที่เธอไปเข้าห้องน้ำแน่เลย
“เอ่อ พอดีตาเข้ามาได้สักพักแล้วคะ พี่มาร์กโทรเรียกมาปรึกษาเรื่องงานนิดหน่อยนะคะ งั้นตาขอตัวก่อนนะคะ” เธอรีบบอกออกไปพร้อมกับกล่าวขอตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนที่เลขาของชายหนุ่มจะถามมากกว่านี้
คุณหมอสาวลงลิฟต์มาจนถึงด้านล่างสุดจากนั้นเธอรีบเดินตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองทันทีเพราะตอนนี้เธอไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น
พอเธอเดินมาได้สักพักก็เจอกับเพื่อนสาวของเธอ คุณหมอมิวที่เห็นเพื่อนรีบเดินก็เข้ามาทักทายตามปกติ
“ยัยตาจะรีบไปไหนยะ มาทำงานก็สาย” หมอมิวพูดออกไปเพราะปกติเพื่อนเธอแทบจะไม่มาทำงานสายเลยด้วยซ้ำ แต่เอ๊ะเพื่อนเธอไม่ได้ถือกระเป๋าสะพายนี่
“แต่ ไหนกระเป๋าแกละ รึว่าแกมาทำงานนานละ แต่ทำไม่ฉันไม่เห็นแกละ” หมอสาวสงสัย
“อ่าวแกจะเห็นฉันได้ยังไง ฉันก็ไปทำงานของฉันสิ” เธอรีบแก้ตัวออกไป
“เออใช่ แต่เอ๊ะนี่มันชุดของฉันนิแล้วไปอยู่ที่แกได้ยังไง” หมอมิวสงสัยออกไป
“เอ่อพอดีเมื่อคืนมีเคสด่วนฉันเลยต้องทำงานดึกจึงนอนที่นี่ไม่มีชุดเปลี่ยนเลยเข้าไปยืมชุดแกในห้องทำงาน แกมาน่ะ” หมอตารีบพูดออกไปยาวเหยียดเพราะกลัวเพื่อนจะสงสัย
“อ้อฉันเข้าใจแล้วงั้นแกไปทำงานเถอะเดี๋ยวฉันก็จะไปทำงานเหมือนกัน เออ แต่เย็นนี้ฉันนัดเพื่อนๆไว้นะแกอยากคลายเครียด” หญิงสาวบอกออกไป เพราะเธอต้องการคลายเครียดจากเรื่องที่เจอมา
“อืมแต่ไปรถแกนะ ฉันขี้เกียจขับ แล้วเจอกันหลังเลิกงาน ไปละบาย” หมอสาวพูดก่อนจะขอตัวเดินเข้าไปในห้องทำงานเพื่อพักผ่อน
“โอเคบายแล้วเจอกัน” หมอมิวบอกลาเพื่อนแล้วเดินตรงไปทำงานต่อทันที
คิณฑ์นั่งทำงานอย่างอารมณ์ดี เขากะว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะแวะไปหาคุณหมอสาวสักหน่อย วันนี้งานของเขาค่อนข้างยุ่งเพระตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาเอาแต่ตามหาหญิงสาวเลยไม่เป็นอันทำการทำงาน เขาเลยต้องเคลียร์กองเอกสารที่อยู่ตรงหน้ามีแฟ้มหนาๆสามแถวเรียงกันอยู่เพื่อให้เขาตรวจ ด้วยงานที่เขาต้องรับผิดชอบไม่ได้มีแค่ที่เดียว ตั้งแต่ที่บิดาของเขาวางมือชายหนุ่มก็เข้ามาบริหารงานแทนตั้งแต่เขาอายุแค่ 27 ปี เท่านั้น แต่ชายหนุ่มก็ทำมันออกมาได้ดี เขาขยายสาขาของบริษัทออกไปทั่วโลก และชายหนุ่มถือเป็นผู้บริหารอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีในนามเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ชีวิตชายหนุ่มนั้นเวลาของเขาส่วนมากยกให้กับการทำงานเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อดูแลธุรกิจในส่วนที่เขาบริหารงานเอง ส่วนบางสาขาเขาก็มีตัวแทนในการบริหารงานร่วมเข้าบริหารงานแทน เขาจะได้รับแค่รายงานสรุปยอดทุกเดือนเท่านั้น มีบ้างที่เขาสังสรรค์กันกับเพื่อนๆแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยนักเพราะชายหนุ่มต้องทำงาน แต่เพื่อนๆของเขาก็แวะเวียนมาหาบ้างไม่เคยขาดการติดต่อ ซึ่งเพื่อนของเขามีหลากหลายชนชาติ ทั้งเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่เจอกันในการทำงาน“วิน เข้ามาหาฉันหน่
หญิงสาวพอตกลงกันได้แล้วจึงหันไปสำรวจห้องชุดสุดหรูของชายหนุ่มที่นี่จะกินพื้นที่ชั้นบนทั้งชั้น เพราะมันใหญ่โตหรูหราเสียยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวเสียอีกพื้นที่ในห้องเน้นโทนสีเทาทำให้ดูอบอุ่นและบ่งบอกลักษณะตัวตนของชายหนุ่มเป็นอย่างดีเธอดูรอบรอบไปสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งพอเปิดประตูออกมาเธอก็เบิกตากว้างนี่มันห้องน้ำหรือว่าห้องนอนเนี่ยใหญ่โตจริงๆ ทุกอย่างตกแต่งไปด้วยสีเทาดูเรียบหรูตรงกลางห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูแล้วน่าจะลงไปอาบได้ประมาณสามสี่คนหญิงสาวเดินสำรวจห้องน้ำสักพักก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ ใต้ฝักบัวทันที“เฮ้อออสดชื่นจัง” เธอพูดพร้อมกับทำความสะอาดร่างบางของตนเองไปด้วย จนผ่านไปประมาณ 10 นาทีเธอก็อาบเสร็จ แต่ เธอลืมไปว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวแล้วก็ไม่มีชุดด้วยหรือเธอจะใส่ชุดเดิมแต่ก็ไม่มีผ้าเช็ดตัวอยู่ดีทางด้านชายหนุ่มที่ ตอนนี้ยืนมองร่างบางกำลังอาบน้ำอยู่จากทางด้านนอกของห้องน้ำเพราะห้องน้ำห้องนี้มีสองประตูที่สามารถเปิดเข้าถึงได้ โดยประตูบานหนึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งผนังของด้านนั้นเป็นกระจกแบบสามารถมองเห็นได้เพียงทางเดียวเท่านั้นเขาเฝ้ามองดูร่างบางตั้งแต่เ
“มิวครับ ที่รักตื่นได้แล้ว สายแล้วนะครับ คุณต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ” คิณฑ์พยายามปลุกร่างบางขึ้นมาจากที่นอนเธอบิดตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะแน่นิ่งไปอีกครั้ง“ที่รักถ้ายังไม่ตื่น งั้นผมจะปลุกด้วยวิธีของผมแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างแยกสาบเสื้อเชิดสีขาวของเขาที่สวมให้กับเธอเมื่อเสร็จศึกรักตอนค่อนรุ่ง เขาค่อยๆลูบไล้หน้าท้องเรียบเรื่อยๆขึ้นไปจนถึงหน้าอกอวบที่ไร้การปกปิดของเธอก่อนจะคลึงเบาๆ“อือออ หยุดคะ มิวตื่นแล้วๆ อย่าแกล้งสิคะนี่กี่โมงแล้วคะ” เธองัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย“จะ 10 โมงแล้วครับที่รัก” เขาบอกออกมาหญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วราวติดสปริงก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายส่วนชายหนุ่มนอนรอเธออยู่บนเตียงกว้างเพราะเขาอาบน้ำแต่งตัวก่อนเธอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คอีเมล ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับอีเมลที่เลขาหนุ่มส่งมาให้อืมเดี๋ยวเขาค่อยไปจัดการทีหลังละกัน ตอนนี้จัดการกับคนรักของคนก่อนดีกว่า เขาคิดพลางอมยิ้มออกมาตายๆๆๆแน่สายแล้วๆ เธอตายแน่ๆ ลืมโทรไปบอกพี่ชายกับเพื่อนสาวว่าจะขอไปทำงานสาย ก็คนห
ทางด้านของมาร์กที่ตอนนี้ลากหมอตาเข้ามาในห้องนอนเล็กจนสำเร็จ เขายืนมองร่างเล็กที่ตอนนี้หน้างอง้ำจนปากกับจมูกแทบจะติดกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่ขอนะ นะที่รัก ตอนนี้พี่อยากมากเลย ไม่เชื่อตาลองจับดูสิ มังกรพี่แข็งโป๊กเลย” ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งจับมือหญิงสาวให้เข้าไปสัมผัสตรงเป้าของเขาที่ตุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด“ว้ายคนบ้า ทำอะไรห๊ะ” หญิงสาวตะโกนออกมาพร้อมกับรีบชักมือกลับแต่เขาจับมือเธอไว้แน่น“อ่าวก็มันจริงนี่นา ตอนนี้มังกรอยากกลับเข้าถ้ำแล้วช่วยมันหน่อยเถอะนะที่รัก นะนะนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหาเธอที่ตอนนี้อายจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดีแล้ว“กะ ก็ได้ แต่แค่รอบเดียวพอนะ ตายังช้ำไม่หายเลย” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาสินะ“ครับ รับรองแค่น้ำเดียวจริงๆ” เขาพูดออกมาพร้อมทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่หญิงสาวก่อนที่จะดันร่างบางให้นอนลงไปที่เตียงกว้าง“นั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา หึหึ”เขาพูดเสร็จก็รีบประกบปากลงมาทันทีหญิงสาวใช้แขนสองข้างคล้องไปที่คอของชายหนุ่มแล้วรั้งคอขอเขาเอาไว้ให้สนิทแนบยิ่งขึ้นทั้งเขาและเธอต่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบท
ชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนมองหน้าหมอสาวอยู่ในห้องนอนของเขา ทีแรกเขาก็รู้สึกโกรธที่เธอปฏิเสธแต่พอได้เห็นหน้าสวยที่งอง้ำอยู่ตอนนี้เขากลับคิดว่ามันตลก ปากเล็กยื่นออกมาแทบชนจมูกสวย“โถ่ที่รัก ปฏิเสธผมทำไม ผมอยากแต่งงานกับมิวจริงๆนะ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะแล้วด้วย” เขาบอกออกมาพลางเดินไปโอบกอดร่างบาง“ก็คุณไม่ถามมิวสักคำ อยู่ดีๆพามาบ้านแล้วบอกจะแต่งงาน ใครจะไปตั้งตัวทันเล่า” เธอพูดออกมา คนอะไรไม่โรแมนติกเอาซะเลย“ก็ผมรีบนี่ กลัวคนอื่นมาแย่งมิวไป” เขาอธิบายพลางเอาคางไปเกยอยู่ที่ไหล่ของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น“ใครจะมาแย่ง คุณก็คิดมากไป” เธอว่าพลางเอื้อมมือไปกอดเขาตอบ“มิวรักผมบ้างรึเปล่า” อยู่ดีๆเขาก็ถามออกมาจนหญิงสาวไม่รู้จะตอบยังไง“เอ่อ คือ มิวก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักหรือป่าว มิวหวงเวลาคุณอยู่กับคนอื่น คิดถึงคุณเวลาไม่เจอ” เธอพูดก่อนจะกอดเขาแน่นขึ้น“................” เงียบ ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาคลายมือออกแล้วเดินไปหยุดยืนริมหน้าต่างแล้วทอดสายตาออกไปข้างนอกหญิงสาวที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มคงงอนที่เธอไม่บอกว่ารักเขาสินะ จากนั้นเธอจึงเดินไปกอดเขาจากทางด้านหลัง“มิวรักคิณฑ์นะ” เธอตัดสินใ
คิณฑ์ เทวทัต เจ้าของรูปร่างที่แสนจะเพอร์เฟค ด้วยความสูง 189 เซนติเมตร เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมซึ่งมีสาขาต่างๆอยู่ทั่วโลกเกือบร้อยแห่ง กำลังนั่งมองออกไปนอกตึกสูง 89 ชั้น กลางกรุงโรม ด้วยความคิดต่างๆมากมาย และหนึ่งในความคิดนั้นคือ เรื่องครอบครัวของเขา เมื่อวานมารดาของเขาโทรสายตรงมาจากประเทศไทยเรื่องการหาคู่ครองให้แก่เขาซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูล ด้วยอายุขนาดเขาสมควรจะต้องมีครอบครัวได้แล้ว นั่นคือความคิดของมารดาเขา แต่ชายหนุ่มเองกลับยังไม่คิดแบบนั้น ชีวิตโสดแบบนี้เขาก็มีความสุขดี มีเพื่อน เฮฮา สังสรรค์กันบ้าง และมีสาวๆเข้ามาให้ควงไม่เว้นในแต่ละวัน แล้วทำไมเขาจะต้องมีครอบครัวด้วย“นีน่า เข้ามาพบผมหน่อย” ชายหนุ่มกดโทรศัพท์เรียกเลขาหน้าห้องเข้ามาพบ“สวัสดีคะ ท่านประธาน มีอะไรให้นีน่ารับใช้คะ” หญิงสาวเป็นเลขาให้กับชายหนุ่มได้ประมาณ 2 ปีแล้ว นีน่าเป็นผู้หญิงสวยมีรูปร่างดี และทำงานเก่ง“พรุ่งนี้เช้าผมจะกลับประเทศไทย เตรียมเครื่องให้พร้อม แล้วคุณมีงานอะไรด่วนที่ค้างรีบเอามาให้ผมเซ็นเลยนะ อ้อ อีกอย่าง ถ้ามีใครมาถามหาผมบอกว่าผมไปต่างประเทศไม่มีกำหนดกลับนะ ถ้ามีงานด่วนก็ส่งให้ผมท
และแล้ววันหยุดของสองคุณหมอสาวก็ผ่านไป เข้าสู่โหมดของการทำงานอีกครั้ง คุณหมอสาวมาทำงานด้วยความสดชื่นหลังจากได้ปลดปล่อยความเมื่อยล้าจากการทำงานติดต่อกันมาหลายปี พอกลับเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลก็อดนึกถึงเรื่องวันนั้นไม่ได้ หญิงสาวรีบสลัดภาพนั้นทิ้งแล้วกลับมาตั้งใจทำงานอย่างเดิมเพราะคิดว่า ผู้ชายคนนั้นคงจะไม่มาติดตามสนในเธอหรอกมั้ง เพราะเขาก็หน้าตาหล่อเหลา เรื่องวันนั้นคงแค่คิดเล่นๆกับเธอเพียงแค่นั้นแหละ ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปตรวจคนไข้ตามปกติ ก่อนจะแวะเข้าไปหาพี่ชายในห้องทำงานของชายหนุ่มก๊อก ก๊อก ก๊อก คุณหมอสาวเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปทันทีโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของห้อง“เห้ย ยัยมิว จะเข้ามา ทำไมไม่ขออนุญาต ห๊ะ โธ่เอ้ย” ชายหนุ่มรีบจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเองให้เข้าที่ ก่อนที่จะเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้าไว้ในกระเป๋าตามเดิม“โธ่พี่มาร์กคะ ทำไมไม่ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสดีๆละคะ นี่มันห้องทำงานนะคะพี่มาร์ก เดี๋ยวสาวๆคนอื่นมาเห็นก็ใจแตกกันพอดี ที่นี่ยิ่งมีแต่พยาบาลสาวๆสวยๆอยู่ด้วย” หญิงสาวพูดพลางทำหน้ายู่ใส่พี่ชาย“ก็พี่มีเวลาที่ไหนละ เราก็รู้นี่ วันๆทำแต่งานที่โรงพยาบาลเวลาพี่ก็หมดแล้ว
ส่วนทางด้านคุณหมอมิวหลังจากที่ลงมาจากห้องทำงานพี่ของพี่ชายแล้วเธอก็เดินเข้าตรวจเยี่ยมคนไข้ตามปกติจนกระทั่งเที่ยงวันเธอกะว่าจะเดินไปชวนเพื่อนสาวของเธอออกไปทานข้าวด้วยกันเพราะเธอพยายามโทรหาแล้วแต่ไม่มีคนรับสายสงสัยเพื่อนเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลารับโทรศัพท์เป็นแน่“สวัสดีคะหมอมิว มาหาหมอตาเหรอคะ” พยาบาลสาวที่ทำงานประจำหน้าห้องตรวจของคุณหมอตาพูดขึ้น“ใช่คะ หมอตาอยู่รึเปล่าคะ พอดีมิวว่าจะชวนไปทานข้าวเห็นโทรมาไม่มีคนรับสายเลยมาตามเองคะ” เธอพูดพร้อมกับมองไปยังประตูห้องทำงานของเพื่อนสาว“อ้อ พอดีหมอตาไปพบท่านประธานยังไม่กลับมาเลยคะ” พยาบาลสาวบอกออกไป“อ้อ งั้นเหรอคะ ไม่เป็นรัยเดี๋ยวมิวไปทานคนเดียวได้คะ พอดีบ่ายโมงมีตรวจคนไข้ด้วย งั้นมิวไปนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินออกมาเพื่อจะไปทานข้าวแถวๆหน้าโรงพยาบาลหน้าโรงพยาบาลแห่งนี้มีร้านอาหารหลากหลายอย่างให้เลือก และหญิงสาวเลือกที่จะมาทานร้านอาหารเจ้าประจำของเธอกับเพื่อนสาวซึ่งมีทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยวให้เลือกทาน เธอเป็นคนทานง่ายและจะชอบทานอาหารที่รสชาติจัดจ้านพอทานอาหารเสร็จหญิงสาวก็ขึ้นมาตรวจคนไข้ตามปกติ แต่ช่วงบ่ายนั้นมีตรวจคนไข้แค่รายเดียวซึ่งจองคิวตรว
ชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนมองหน้าหมอสาวอยู่ในห้องนอนของเขา ทีแรกเขาก็รู้สึกโกรธที่เธอปฏิเสธแต่พอได้เห็นหน้าสวยที่งอง้ำอยู่ตอนนี้เขากลับคิดว่ามันตลก ปากเล็กยื่นออกมาแทบชนจมูกสวย“โถ่ที่รัก ปฏิเสธผมทำไม ผมอยากแต่งงานกับมิวจริงๆนะ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะแล้วด้วย” เขาบอกออกมาพลางเดินไปโอบกอดร่างบาง“ก็คุณไม่ถามมิวสักคำ อยู่ดีๆพามาบ้านแล้วบอกจะแต่งงาน ใครจะไปตั้งตัวทันเล่า” เธอพูดออกมา คนอะไรไม่โรแมนติกเอาซะเลย“ก็ผมรีบนี่ กลัวคนอื่นมาแย่งมิวไป” เขาอธิบายพลางเอาคางไปเกยอยู่ที่ไหล่ของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น“ใครจะมาแย่ง คุณก็คิดมากไป” เธอว่าพลางเอื้อมมือไปกอดเขาตอบ“มิวรักผมบ้างรึเปล่า” อยู่ดีๆเขาก็ถามออกมาจนหญิงสาวไม่รู้จะตอบยังไง“เอ่อ คือ มิวก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักหรือป่าว มิวหวงเวลาคุณอยู่กับคนอื่น คิดถึงคุณเวลาไม่เจอ” เธอพูดก่อนจะกอดเขาแน่นขึ้น“................” เงียบ ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาคลายมือออกแล้วเดินไปหยุดยืนริมหน้าต่างแล้วทอดสายตาออกไปข้างนอกหญิงสาวที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มคงงอนที่เธอไม่บอกว่ารักเขาสินะ จากนั้นเธอจึงเดินไปกอดเขาจากทางด้านหลัง“มิวรักคิณฑ์นะ” เธอตัดสินใ
ทางด้านของมาร์กที่ตอนนี้ลากหมอตาเข้ามาในห้องนอนเล็กจนสำเร็จ เขายืนมองร่างเล็กที่ตอนนี้หน้างอง้ำจนปากกับจมูกแทบจะติดกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่ขอนะ นะที่รัก ตอนนี้พี่อยากมากเลย ไม่เชื่อตาลองจับดูสิ มังกรพี่แข็งโป๊กเลย” ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งจับมือหญิงสาวให้เข้าไปสัมผัสตรงเป้าของเขาที่ตุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด“ว้ายคนบ้า ทำอะไรห๊ะ” หญิงสาวตะโกนออกมาพร้อมกับรีบชักมือกลับแต่เขาจับมือเธอไว้แน่น“อ่าวก็มันจริงนี่นา ตอนนี้มังกรอยากกลับเข้าถ้ำแล้วช่วยมันหน่อยเถอะนะที่รัก นะนะนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหาเธอที่ตอนนี้อายจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดีแล้ว“กะ ก็ได้ แต่แค่รอบเดียวพอนะ ตายังช้ำไม่หายเลย” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาสินะ“ครับ รับรองแค่น้ำเดียวจริงๆ” เขาพูดออกมาพร้อมทำท่าเจ้าเล่ห์ใส่หญิงสาวก่อนที่จะดันร่างบางให้นอนลงไปที่เตียงกว้าง“นั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา หึหึ”เขาพูดเสร็จก็รีบประกบปากลงมาทันทีหญิงสาวใช้แขนสองข้างคล้องไปที่คอของชายหนุ่มแล้วรั้งคอขอเขาเอาไว้ให้สนิทแนบยิ่งขึ้นทั้งเขาและเธอต่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบท
“มิวครับ ที่รักตื่นได้แล้ว สายแล้วนะครับ คุณต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ” คิณฑ์พยายามปลุกร่างบางขึ้นมาจากที่นอนเธอบิดตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะแน่นิ่งไปอีกครั้ง“ที่รักถ้ายังไม่ตื่น งั้นผมจะปลุกด้วยวิธีของผมแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างแยกสาบเสื้อเชิดสีขาวของเขาที่สวมให้กับเธอเมื่อเสร็จศึกรักตอนค่อนรุ่ง เขาค่อยๆลูบไล้หน้าท้องเรียบเรื่อยๆขึ้นไปจนถึงหน้าอกอวบที่ไร้การปกปิดของเธอก่อนจะคลึงเบาๆ“อือออ หยุดคะ มิวตื่นแล้วๆ อย่าแกล้งสิคะนี่กี่โมงแล้วคะ” เธองัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย“จะ 10 โมงแล้วครับที่รัก” เขาบอกออกมาหญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วราวติดสปริงก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายส่วนชายหนุ่มนอนรอเธออยู่บนเตียงกว้างเพราะเขาอาบน้ำแต่งตัวก่อนเธอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คอีเมล ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับอีเมลที่เลขาหนุ่มส่งมาให้อืมเดี๋ยวเขาค่อยไปจัดการทีหลังละกัน ตอนนี้จัดการกับคนรักของคนก่อนดีกว่า เขาคิดพลางอมยิ้มออกมาตายๆๆๆแน่สายแล้วๆ เธอตายแน่ๆ ลืมโทรไปบอกพี่ชายกับเพื่อนสาวว่าจะขอไปทำงานสาย ก็คนห
หญิงสาวพอตกลงกันได้แล้วจึงหันไปสำรวจห้องชุดสุดหรูของชายหนุ่มที่นี่จะกินพื้นที่ชั้นบนทั้งชั้น เพราะมันใหญ่โตหรูหราเสียยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวเสียอีกพื้นที่ในห้องเน้นโทนสีเทาทำให้ดูอบอุ่นและบ่งบอกลักษณะตัวตนของชายหนุ่มเป็นอย่างดีเธอดูรอบรอบไปสักพักก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งพอเปิดประตูออกมาเธอก็เบิกตากว้างนี่มันห้องน้ำหรือว่าห้องนอนเนี่ยใหญ่โตจริงๆ ทุกอย่างตกแต่งไปด้วยสีเทาดูเรียบหรูตรงกลางห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งดูแล้วน่าจะลงไปอาบได้ประมาณสามสี่คนหญิงสาวเดินสำรวจห้องน้ำสักพักก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ ใต้ฝักบัวทันที“เฮ้อออสดชื่นจัง” เธอพูดพร้อมกับทำความสะอาดร่างบางของตนเองไปด้วย จนผ่านไปประมาณ 10 นาทีเธอก็อาบเสร็จ แต่ เธอลืมไปว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวแล้วก็ไม่มีชุดด้วยหรือเธอจะใส่ชุดเดิมแต่ก็ไม่มีผ้าเช็ดตัวอยู่ดีทางด้านชายหนุ่มที่ ตอนนี้ยืนมองร่างบางกำลังอาบน้ำอยู่จากทางด้านนอกของห้องน้ำเพราะห้องน้ำห้องนี้มีสองประตูที่สามารถเปิดเข้าถึงได้ โดยประตูบานหนึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งผนังของด้านนั้นเป็นกระจกแบบสามารถมองเห็นได้เพียงทางเดียวเท่านั้นเขาเฝ้ามองดูร่างบางตั้งแต่เ
คิณฑ์นั่งทำงานอย่างอารมณ์ดี เขากะว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะแวะไปหาคุณหมอสาวสักหน่อย วันนี้งานของเขาค่อนข้างยุ่งเพระตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาเอาแต่ตามหาหญิงสาวเลยไม่เป็นอันทำการทำงาน เขาเลยต้องเคลียร์กองเอกสารที่อยู่ตรงหน้ามีแฟ้มหนาๆสามแถวเรียงกันอยู่เพื่อให้เขาตรวจ ด้วยงานที่เขาต้องรับผิดชอบไม่ได้มีแค่ที่เดียว ตั้งแต่ที่บิดาของเขาวางมือชายหนุ่มก็เข้ามาบริหารงานแทนตั้งแต่เขาอายุแค่ 27 ปี เท่านั้น แต่ชายหนุ่มก็ทำมันออกมาได้ดี เขาขยายสาขาของบริษัทออกไปทั่วโลก และชายหนุ่มถือเป็นผู้บริหารอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีในนามเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ชีวิตชายหนุ่มนั้นเวลาของเขาส่วนมากยกให้กับการทำงานเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อดูแลธุรกิจในส่วนที่เขาบริหารงานเอง ส่วนบางสาขาเขาก็มีตัวแทนในการบริหารงานร่วมเข้าบริหารงานแทน เขาจะได้รับแค่รายงานสรุปยอดทุกเดือนเท่านั้น มีบ้างที่เขาสังสรรค์กันกับเพื่อนๆแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยนักเพราะชายหนุ่มต้องทำงาน แต่เพื่อนๆของเขาก็แวะเวียนมาหาบ้างไม่เคยขาดการติดต่อ ซึ่งเพื่อนของเขามีหลากหลายชนชาติ ทั้งเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่เจอกันในการทำงาน“วิน เข้ามาหาฉันหน่
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น“ขออนุญาตคะ อ่าวคุณหมอหายไปไหน” พยาบาลสาวเปิดประตูเข้ามาพลางมองหาคุณหมอคนสวยไปทั่วห้องตรวจ“คุณหมอไปไหนนะ รึว่ากลับบ้านไปแล้วนี่มันก็ 5 โมงกว่าแล้วนี่น่า แต่ทำไมไม่เห็นเดินออกไปนอกห้อง รึว่าจะออกไปตอนเราไม่เห็น” เธอพูดอยู่คนเดียวแล้วเดินไปปิดไฟในห้องตรวจก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้เมื่อปิดไฟเรียบร้อยแล้วทางด้านคุณหมอสาวที่ตื่นขึ้นมาเพระได้ยินเสียงเคาะประตู เธอพยายามนอนให้เงียบที่สุดเพราะกลัวคนที่มาเคาะจะได้ยินเสียงเธอแล้วเปิดประตูเข้ามาในอีกห้องหนึ่ง พอได้ยอนเสียงปิดประตูดังขึ้น เธอก็เริ่มสำรวจไปรอบๆที่ๆเธออยู่ทันทีเอ๊ะนี่มันห้องรีดน้ำเชื้อนี่ เธอคิดพลางค่อยๆมองรอบห้องช้าๆแล้วเหตุการณ์ต่างๆก่อนหน้านี้ค่อยๆไหลเข้ามาในความคิดของหญิงสาว เธอร่วมรักกับไอ้คนไข้โรคจิตจนสลบไปเลยเหรอเนี่ยเธอมองแขนใหญ่ที่พาดอยู่บนเอวบางก่อนจะค่อยๆยกขึ้นเบาๆแล้วเคลื่อนตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มซี๊ด โอ้ย ทำไมเธอเจ็บแบบนี้เนี่ย ไอ้บ้านี่ทำกับเธอไปกี่รอบเนี่ยหวังว่าคงไม่ลักหลับเราต่อใช่ไหมเนี่ย เธอคิดพลางค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นยืน ปวดแสบไปหมดกลางร่างกายเธอลุกขึ้นยืนมองร่างหนาที
ส่วนทางด้านคุณหมอมิวหลังจากที่ลงมาจากห้องทำงานพี่ของพี่ชายแล้วเธอก็เดินเข้าตรวจเยี่ยมคนไข้ตามปกติจนกระทั่งเที่ยงวันเธอกะว่าจะเดินไปชวนเพื่อนสาวของเธอออกไปทานข้าวด้วยกันเพราะเธอพยายามโทรหาแล้วแต่ไม่มีคนรับสายสงสัยเพื่อนเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลารับโทรศัพท์เป็นแน่“สวัสดีคะหมอมิว มาหาหมอตาเหรอคะ” พยาบาลสาวที่ทำงานประจำหน้าห้องตรวจของคุณหมอตาพูดขึ้น“ใช่คะ หมอตาอยู่รึเปล่าคะ พอดีมิวว่าจะชวนไปทานข้าวเห็นโทรมาไม่มีคนรับสายเลยมาตามเองคะ” เธอพูดพร้อมกับมองไปยังประตูห้องทำงานของเพื่อนสาว“อ้อ พอดีหมอตาไปพบท่านประธานยังไม่กลับมาเลยคะ” พยาบาลสาวบอกออกไป“อ้อ งั้นเหรอคะ ไม่เป็นรัยเดี๋ยวมิวไปทานคนเดียวได้คะ พอดีบ่ายโมงมีตรวจคนไข้ด้วย งั้นมิวไปนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินออกมาเพื่อจะไปทานข้าวแถวๆหน้าโรงพยาบาลหน้าโรงพยาบาลแห่งนี้มีร้านอาหารหลากหลายอย่างให้เลือก และหญิงสาวเลือกที่จะมาทานร้านอาหารเจ้าประจำของเธอกับเพื่อนสาวซึ่งมีทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยวให้เลือกทาน เธอเป็นคนทานง่ายและจะชอบทานอาหารที่รสชาติจัดจ้านพอทานอาหารเสร็จหญิงสาวก็ขึ้นมาตรวจคนไข้ตามปกติ แต่ช่วงบ่ายนั้นมีตรวจคนไข้แค่รายเดียวซึ่งจองคิวตรว
และแล้ววันหยุดของสองคุณหมอสาวก็ผ่านไป เข้าสู่โหมดของการทำงานอีกครั้ง คุณหมอสาวมาทำงานด้วยความสดชื่นหลังจากได้ปลดปล่อยความเมื่อยล้าจากการทำงานติดต่อกันมาหลายปี พอกลับเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลก็อดนึกถึงเรื่องวันนั้นไม่ได้ หญิงสาวรีบสลัดภาพนั้นทิ้งแล้วกลับมาตั้งใจทำงานอย่างเดิมเพราะคิดว่า ผู้ชายคนนั้นคงจะไม่มาติดตามสนในเธอหรอกมั้ง เพราะเขาก็หน้าตาหล่อเหลา เรื่องวันนั้นคงแค่คิดเล่นๆกับเธอเพียงแค่นั้นแหละ ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปตรวจคนไข้ตามปกติ ก่อนจะแวะเข้าไปหาพี่ชายในห้องทำงานของชายหนุ่มก๊อก ก๊อก ก๊อก คุณหมอสาวเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปทันทีโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของห้อง“เห้ย ยัยมิว จะเข้ามา ทำไมไม่ขออนุญาต ห๊ะ โธ่เอ้ย” ชายหนุ่มรีบจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเองให้เข้าที่ ก่อนที่จะเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้าไว้ในกระเป๋าตามเดิม“โธ่พี่มาร์กคะ ทำไมไม่ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสดีๆละคะ นี่มันห้องทำงานนะคะพี่มาร์ก เดี๋ยวสาวๆคนอื่นมาเห็นก็ใจแตกกันพอดี ที่นี่ยิ่งมีแต่พยาบาลสาวๆสวยๆอยู่ด้วย” หญิงสาวพูดพลางทำหน้ายู่ใส่พี่ชาย“ก็พี่มีเวลาที่ไหนละ เราก็รู้นี่ วันๆทำแต่งานที่โรงพยาบาลเวลาพี่ก็หมดแล้ว
คิณฑ์ เทวทัต เจ้าของรูปร่างที่แสนจะเพอร์เฟค ด้วยความสูง 189 เซนติเมตร เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมซึ่งมีสาขาต่างๆอยู่ทั่วโลกเกือบร้อยแห่ง กำลังนั่งมองออกไปนอกตึกสูง 89 ชั้น กลางกรุงโรม ด้วยความคิดต่างๆมากมาย และหนึ่งในความคิดนั้นคือ เรื่องครอบครัวของเขา เมื่อวานมารดาของเขาโทรสายตรงมาจากประเทศไทยเรื่องการหาคู่ครองให้แก่เขาซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูล ด้วยอายุขนาดเขาสมควรจะต้องมีครอบครัวได้แล้ว นั่นคือความคิดของมารดาเขา แต่ชายหนุ่มเองกลับยังไม่คิดแบบนั้น ชีวิตโสดแบบนี้เขาก็มีความสุขดี มีเพื่อน เฮฮา สังสรรค์กันบ้าง และมีสาวๆเข้ามาให้ควงไม่เว้นในแต่ละวัน แล้วทำไมเขาจะต้องมีครอบครัวด้วย“นีน่า เข้ามาพบผมหน่อย” ชายหนุ่มกดโทรศัพท์เรียกเลขาหน้าห้องเข้ามาพบ“สวัสดีคะ ท่านประธาน มีอะไรให้นีน่ารับใช้คะ” หญิงสาวเป็นเลขาให้กับชายหนุ่มได้ประมาณ 2 ปีแล้ว นีน่าเป็นผู้หญิงสวยมีรูปร่างดี และทำงานเก่ง“พรุ่งนี้เช้าผมจะกลับประเทศไทย เตรียมเครื่องให้พร้อม แล้วคุณมีงานอะไรด่วนที่ค้างรีบเอามาให้ผมเซ็นเลยนะ อ้อ อีกอย่าง ถ้ามีใครมาถามหาผมบอกว่าผมไปต่างประเทศไม่มีกำหนดกลับนะ ถ้ามีงานด่วนก็ส่งให้ผมท