"หล่อนเก่งจะตายไป คนธรรมดาทำอะไรหล่อนไม่ได้หรอก" ตอนนี้ฮั่วซินไม่คิดจะไปหาเรื่องหลีเกอ เธอกลัวว่าฮั่วจิ้นเฉิงจะรู้ แล้วเธอจะอยู่ที่เมืองปินเฉิงไม่ได้อีกต่อไปแต่กู้หว่านชิงกลับรู้สึกเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเธอพูดตามตรง "ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ฉันก็คงไม่ตกงาน ตอนนี้ไม่มีงานทำเลย ต้องมานั่งแช่อยู่ในบาร์ทุกวัน เธอลองคิดดูสิว่าหล่อนมันน่ารังเกียจมากแค่ไหน"ฮั่วซินพยักหน้าแต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก ความแค้นระหว่างกู้หว่านชิงกับหลีเกอ เธอไม่ออยากวิจารณ์ใด ๆ"พี่หว่านชิง ในเมื่อเกลียดหล่อนเข้าไส้ขนาดนั้น ทำไมไม่สั่งสอนหล่อนซะล่ะ?"กู้หว่านชิงยิ้มเธอเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา ไม่ได้ตอบคำถามของฮั่วซิน แต่กลับพูดว่า "เธอเองก็เกลียดหล่อนเข้าไส้เหมือนกันไม่ใช่หรือไง?"ฮั่วซินส่ายหัว"ถึงจะเกลียด ฉันก็ทำอะไรหล่อนไม่ได้ ได้แต่เกลียดอยู่ในใจเท่านั้นแหละ"กู้หว่านชิงหัวเราะเสียงเย็น"ขี้ขลาดขนาดนี้เชียว หรือกลัวจะสู้หล่อนไม่ได้?"ฮั่วซินรู้สึกโกรธขึ้นมาเธอเคยสู้กับหลีเกอมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยชนะได้เลยสักครั้ง รู้สึกไม่พอใจอยู่ลึก ๆทำไมหลีเกอถึงมีชีวิตที่ราบรื่นอยู่เสมอ คนทั้งโลกพร้อมจะเ
หลังจากส่งต่อคำสั่งเรียบร้อยดวงตาของกู้หว่านชิงก็ฉายประกายความโหดเหี้ยมขึ้นมาแวบหนึ่งเวลานี้เธอเหมือนงูพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในโพรงมืดรอหาจังหวะที่เหมาะสม แล้วก็พุ่งออกมาฉกคนคนนั้นอย่างแรงกู้หว่านชิงตบไหล่ฮั่วซิน แล้วกระซิบข้างหู "อย่าลืมถ่ายคลิปไว้ด้วยล่ะ ฉันจะทำให้หล่อนเสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วก็โดนสังคมขับไล่ออกจากปินเฉิงไปตลอดกาล"ฮั่วซินตัวสั่นเทากู้หว่านชิงมีท่าทีแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง"ฉัน... ฉันไม่ถ่าย"กู้หว่านชิงไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ "หึ ไม่ถ่ายแล้วยังไง เราเป็นตั๊กแตนที่ไต่อยู่บนเส้นเชือกเดียวกันแล้วนะ เธอคิดว่าไงล่ะ?"คำพูดของเธอเต็มไปด้วยการคุกคามฮั่วซินมองไปทางหลีเกอดวงตาจมมืดลงในใจพลันตัดสินใจอย่างลับ ๆในเวลาเดียวกัน บนชั้นสองของบาร์"ผมก็นึกว่าใคร คุณชายฟู่นี่เอง ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่ครับ" คนที่พูดเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ แต่คำพูดของเขากลับเต็มไปด้วยการหยอกล้อฟู่ซิวเป่ยเห็นคนที่เดินเข้ามาทักทายเขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ท่าทางสง่างามเช่นกัน ยื่นมือออกไปจับมือกับอีกฝ่าย"ไม่ได้เจอกันนานเลย""โอ้โฮ นานแล้วจริง ๆ ครับ คุณย้ายมาที่
ฟู่ซิวเป่ยเป็นคนแรกที่ตอบสนองเขาแทบไม่ใช้เวลาลังเล ฟู่ซิวเป่ยหันหลังกลับลงบันไดไปทันทีในขณะนี้ หลีเกอกำลังนั่งพักอยู่หน้าโต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลิกดูอย่างเบื่อหน่าย ในขณะนั้น พนักงานเสิร์ฟก็ถือถาดเข้ามา"คุณผู้หญิง นี่คือเครื่องดื่มที่บาร์ของเราแจกฟรีในคืนนี้ ลองชิมสักหน่อยไหมครับ?"ไม่รอให้หลีเกอปฏิเสธเขาวางเครื่องดื่มไว้ตรงหน้าหลีเกอโดยตรงหลีเกอหยิบแก้วขึ้นมา ยังไม่ทันได้ดื่ม ฟู่ซิวเป่ยก็ขัดจังหวะด้วยเสียงอันดัง "คุณหนูหลี!"ก้าวเดินของฟู่ซิวเป่ยดูเร่งรีบอย่างเห็นได้ชัดเขาก้าวสองสามขั้นลงบันไดในคราวเดียวไปอยู่ตรงหน้าหลีเกอ แล้วคว้าแก้วจากมือเธอไปหลีเกอดูการกระทำของเขาด้วยความสงสัยสี่ตาสบประสานกันฟู่ซิวเป่ยยื่นมือออกมากอดไหล่เธอไว้โดยไม่พูดอะไร ในสายตาคนนอก การกระทำของทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากแต่ฟู่ซิวเป่ยใช้โอกาสนี้กระซิบข้างหูเธอ "มีอะไรผสมอยู่ในแก้ว"เขาพูดประโยคสั้น ๆหลีเกอเข้าใจทันที"พี่ซิวเป่ย หายไปไหนมาคะ ทำไมเพิ่งมาถึงล่ะ?"ฟู่ซิวเป่ยยิ้มพราว "มาได้สักพักแล้ว บาร์นี้รุ่นน้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของผมเป็นเจ้าของ อยากไปทักทายเขาหน่อยไหม?"หลีเกอยิ้ม"เอ
พูดจบ สายตาก็ไปตกที่ฮั่วซินซึ่งอยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย"สองคนนี้สมรู้ร่วมคิดกันงั้นเหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยก็เห็นฮั่วซินเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเธออีกต่อไป"ปล่อยให้ผมจัดการเอง"แต่หลีเกอกลับขวางเขาไว้ "ในเมื่อพวกเธอตั้งใจจะหาเรื่องฉัน ก็ปล่อยให้ฉันจัดการเองเถอะค่ะ"ฟู่ซิวเป่ยเห็นดังนั้นเขาตอบรับ อืม ในลำคอแล้วพูดว่า “ได้”เสิ่นเหยียนจั่วที่อยู่ข้าง ๆ ก็เข้าใจเช่นกันจึงถามเธอ"งั้นคุณหลี คุณอยากจัดการเรื่องนี้ยังไงครับ วางใจได้เลย ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมจะสนับสนุนคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข"ดวงตาของหลีเกอค่อย ๆ จมลง พูดออกมาด้วยเสียงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง"ง่ายมาก เอาคืนในแบบเดียวกัน"พูดจบหลีเกอหยิบเครื่องดื่มที่ผสมใส่อะไรบางอย่างขึ้นมา มุมปากมีรอยยิ้มเยาะเย้ย "ไหน ๆ เจ้านี่ก็ได้ผลชะงัดนัก งั้นก็ให้พวกเธอลองชิมบ้าง"เสิ่นเหยียนจั่วเข้าใจทันที"ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้"ในห้องโถงด้านล่าง กู้หว่านชิงมองไม่เห็นหลีเกอ จึงคิดว่าแผนของตัวเองสำเร็จแล้ว ภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโอหัง หันไปบอกพนักงานเสิร์ฟเพื่อสั่งไวน์ขวดหนึ่ง
"คุณผู้หญิง ไม่สบายหรือเปล่าครับ" บริกรเดินเข้ามาหาฮั่วซิน ถามด้วยความห่วงใยฮั่วซินขยี้หัวตัวเอง ส่ายหน้า แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบริกร ร่างกายก็ยิ่งร้อนรุ่มชั่วครู่หนึ่งเธอเผลอตอบสนองโดยสัญชาตญาณ อยากเบียดร่างกายเข้าไปใกล้บริกรคนนั้น"...ร้อนนิดหน่อย..."บริกรเข้าใจ"ข้าง ๆ บาร์ของเรามีโรงแรมที่สามารถเปิดห้องพักได้นะครับ ต้องการให้ผมพาไปไหม?"ฮั่วซินพยักหน้า ใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิมฮั่วซินเดินตามบริกรไปอย่างมึนงงชั้นบน"คุณเสิ่น เรียบร้อยแล้วครับ" เสิ่นเหยียนจั่วหันไปมองหลีเกอ แล้วยักไหล่ "คุณหนูหลี มีอะไรให้ผมทำอีกไหม"หลีเกอเขย่าแก้วไวน์ในมือ ทั่วทั้งร่างกายเปล่งประกายความงามอันโดดเดี่ยว แต่ริมฝีปากกลับเผยรอยยิ้มร้ายกาจ"ขอบคุณค่ะ คุณเสิ่น ต่อไปก็อยู่ที่ว่าพวกเธอจะขุดหลุมฝังตัวเองกันลึกแค่ไหนแล้วล่ะ"เสิ่นเหยียนจั่วสั่นไปทั้งตัวเป็นอย่างที่คนโบราณว่าไว้จริง ๆอย่ายุแหย่ผู้หญิง!"คุณเสิ่น ไวน์ร้านคุณดีมากเลยนะคะ" หลีเกอชื่นชมจากใจจริงเสิ่นเหยียนจั่วขมวดคิ้วตอบกลับ "ถ้าคุณหนูหลีชอบ เชิญมาชิมไวน์ใหม่ ๆ ของร้านเราได้ทุกเมื่อเลยครับ"พูดจบก็เหลือบมองไปทางฟู่ซิ
เมตตาต่อศัตรูเท่ากับโหดร้ายต่อตนเองนี่คือสิ่งที่หลีหานมักจะพูดกับเธอเสมอ"ผมจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง คุณแค่เตรียมตัวสำหรับงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ให้เต็มที่ก็พอ""ค่ะ"หลีเกอกลับถึงบ้าน ทันใดนั้นก็มีแฮชแท็กใหม่ถูกดันขึ้นอันดับหนึ่งในหัวข้อค้นหายอดนิยม #ลูกสาวเศรษฐีปะทะเหล่าผู้กล้า 3P ตัวจริง มีภาพ มีหลักฐานหน้าห้องหมายเลข 8888สื่อบันเทิงชื่อดังต่าง ๆ ในเมืองปินเฉิงต่างก็มารวมตัวกัน กล้องและไมโครโฟนทั้งหมดเล็งไปยังประตูที่ปิดสนิท"ได้ยินมาว่าข้างในห้องนี้เป็นฉากที่ดาราสาวชื่อดังกำลังเริงรักกับแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอ ช่างภาพเตรียมเล็งกล้องไว้ให้ดีนะ"สื่ออีกเจ้าแทรกขึ้น "ดาราสาวชื่อดังอะไรกัน ไม่ใช่ข่าวซุบซิบของดาราสาวหน้าใหม่หรอกเหรอ""ไม่จริงอ่ะ ฉันได้รับข่าวมาว่า เป็นข่าวฉาวของนักแสดงหญิงชื่อดังต่างหาก""..."สื่อหลายเจ้ามองหน้ากัน ทำไมข่าวที่ได้รับถึงไม่เหมือนกันนะทุกคนสบตากัน ทันใดนั้นก็เกิดความสนใจอย่างมากต่อตัวบุคคลและเหตุการณ์ในห้องมีแม้กระทั่งพิธีกรชื่อดังคนหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดไลฟ์ "สวัสดีค่ะทุกคน ห้องนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ เดี๋ยวเราจะมาลุ้นไปพร้อมกันนะ
แต่เธอกลับตื่นตระหนกจนลืมตัวผ้าห่มที่คลุมอยู่บนตัวเลื่อนหลุดไหลลงมาตามไหล่ ฮั่วซินเปลือยล่อนจ้อน!"อู้ ว้าวว เซ็กซี่เป็นบ้า คุณหนูตระกูลดัง ๆ นี่มีรสนิยมส่วนตัวแบบนี้หรอกเหรอ?""รออะไรอยู่ล่ะ ถ่ายเลยสิ แค่รูปพวกนี้ก็พอให้เรามีกินมีใช้ทั้งชาติได้แล้ว""ตระกูลฮั่วจบเห่แน่""..."ฮั่วซินได้ยินคำนินทาเหล่านี้แล้วรู้สึกเหมือนสมองจะระเบิดนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?เมื่อกวาดตามองฉากโกลาหลที่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงง่าย ๆ ฮั่วซินหายใจไม่ทัน ถึงกับเป็นลมล้มพับไปกู้หว่านชิงอยากจะหนี แต่กลับหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ ตอนนี้เธอเปลือยกายอยู่ หนีไปไหนไม่ได้เลยได้แต่ปล่อยให้ผู้สื่อข่าวเหล่านี้รัวชัดเตอร์ภาพนู้ดของตัวเองไม่หยุดกู้หว่านชิงรู้ตัวว่าคราวนี้เธอ... จบเห่แล้วอย่างไรก็ตาม เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเนื่องจากมีการไลฟ์สดทางอินเทอร์เน็ต ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องจึงอยู่ในสายตาของชาวเน็ตนับหมื่นที่กำลังรับชม ในเวลาอันรวดเร็ว ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกโซเชียลชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์และถกเถียงกันอย่างดุเดือด"...จะบ้าตาย นี่คุณหนูตระกูลฮั่วจริง ๆ เหรอ ของดีไ
"ที่รัก เห็นข่าวหรือยัง?"จู้หว่านอี้ถามทางโทรศัพท์"เห็นแล้ว ที่รัก เธอนี่นับวันยิ่งเก่งจริง ๆ" หลีเกอเปิดรูปภาพที่ฮั่วซินและกู้หว่านชิงถูกถ่ายไว้ ต้องบอกว่าช่างภาพพวกนี้มีฝีมือจริงมื??ๆทุกภาพถ่ายออกมาได้เร้าใจมาก กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมอย่างเต็มที่จู้หว่านอี้ยิ้มและพูดต่อ "ฉันจัดการกับข่าวนี้เรียบร้อย ไม่มีทางถูกลบออกจากเทรนด์หัวข้อข่าวภายในสามวันสามคืนนี้หรอก ในเมื่อหล่อนอยากดังนัก ก็จัดให้หล่อนโด่งดังเต็มที่ไปเลย"ต้องบอกเลยว่าจู้หว่านอี้มีมาตรการในการจัดการที่เด็ดขาด ไม่ยืดเยื้อมีเพื่อนที่ดีแบบนี้ หลีเกอรู้สึกอุ่นใจมาก"ขอบคุณนะเพื่อนรัก ว่าแต่เธอจะกลับปินเฉิงเมื่อไหร่?""ยังมีงานที่ต้องสะสางในดูไบอีกเพียบ คาดว่าจะกลับสิ้นเดือนนี้ กลับไปเมื่อไหร่จะรีบติดต่อเธอกับอีอีเลย""ได้ พวกเราเตรียมฉลองการกลับมาของเธอไว้แล้วล่ะ"หลังจากพูดคุยกันสักพัก สองสาวก็วางสายในเวลาเดียวกันหุ้นของตระกูลฮั่วเริ่มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากข่าวฉาวของฮั่วซิน ในเวลาเพียงครึ่งวัน มูลค่าตลาดก็หายไปหลายสิบล้านสำนักงานใหญ่ชั้นบนสุดของอาคารฮั่วกรุ๊ปหลานหนีรา