ฟู่ซิวเป่ยเป็นคนแรกที่ตอบสนองเขาแทบไม่ใช้เวลาลังเล ฟู่ซิวเป่ยหันหลังกลับลงบันไดไปทันทีในขณะนี้ หลีเกอกำลังนั่งพักอยู่หน้าโต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลิกดูอย่างเบื่อหน่าย ในขณะนั้น พนักงานเสิร์ฟก็ถือถาดเข้ามา"คุณผู้หญิง นี่คือเครื่องดื่มที่บาร์ของเราแจกฟรีในคืนนี้ ลองชิมสักหน่อยไหมครับ?"ไม่รอให้หลีเกอปฏิเสธเขาวางเครื่องดื่มไว้ตรงหน้าหลีเกอโดยตรงหลีเกอหยิบแก้วขึ้นมา ยังไม่ทันได้ดื่ม ฟู่ซิวเป่ยก็ขัดจังหวะด้วยเสียงอันดัง "คุณหนูหลี!"ก้าวเดินของฟู่ซิวเป่ยดูเร่งรีบอย่างเห็นได้ชัดเขาก้าวสองสามขั้นลงบันไดในคราวเดียวไปอยู่ตรงหน้าหลีเกอ แล้วคว้าแก้วจากมือเธอไปหลีเกอดูการกระทำของเขาด้วยความสงสัยสี่ตาสบประสานกันฟู่ซิวเป่ยยื่นมือออกมากอดไหล่เธอไว้โดยไม่พูดอะไร ในสายตาคนนอก การกระทำของทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากแต่ฟู่ซิวเป่ยใช้โอกาสนี้กระซิบข้างหูเธอ "มีอะไรผสมอยู่ในแก้ว"เขาพูดประโยคสั้น ๆหลีเกอเข้าใจทันที"พี่ซิวเป่ย หายไปไหนมาคะ ทำไมเพิ่งมาถึงล่ะ?"ฟู่ซิวเป่ยยิ้มพราว "มาได้สักพักแล้ว บาร์นี้รุ่นน้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของผมเป็นเจ้าของ อยากไปทักทายเขาหน่อยไหม?"หลีเกอยิ้ม"เอ
พูดจบ สายตาก็ไปตกที่ฮั่วซินซึ่งอยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย"สองคนนี้สมรู้ร่วมคิดกันงั้นเหรอ?"ฟู่ซิวเป่ยก็เห็นฮั่วซินเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเธออีกต่อไป"ปล่อยให้ผมจัดการเอง"แต่หลีเกอกลับขวางเขาไว้ "ในเมื่อพวกเธอตั้งใจจะหาเรื่องฉัน ก็ปล่อยให้ฉันจัดการเองเถอะค่ะ"ฟู่ซิวเป่ยเห็นดังนั้นเขาตอบรับ อืม ในลำคอแล้วพูดว่า “ได้”เสิ่นเหยียนจั่วที่อยู่ข้าง ๆ ก็เข้าใจเช่นกันจึงถามเธอ"งั้นคุณหลี คุณอยากจัดการเรื่องนี้ยังไงครับ วางใจได้เลย ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมจะสนับสนุนคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข"ดวงตาของหลีเกอค่อย ๆ จมลง พูดออกมาด้วยเสียงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง"ง่ายมาก เอาคืนในแบบเดียวกัน"พูดจบหลีเกอหยิบเครื่องดื่มที่ผสมใส่อะไรบางอย่างขึ้นมา มุมปากมีรอยยิ้มเยาะเย้ย "ไหน ๆ เจ้านี่ก็ได้ผลชะงัดนัก งั้นก็ให้พวกเธอลองชิมบ้าง"เสิ่นเหยียนจั่วเข้าใจทันที"ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้"ในห้องโถงด้านล่าง กู้หว่านชิงมองไม่เห็นหลีเกอ จึงคิดว่าแผนของตัวเองสำเร็จแล้ว ภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโอหัง หันไปบอกพนักงานเสิร์ฟเพื่อสั่งไวน์ขวดหนึ่ง
"คุณผู้หญิง ไม่สบายหรือเปล่าครับ" บริกรเดินเข้ามาหาฮั่วซิน ถามด้วยความห่วงใยฮั่วซินขยี้หัวตัวเอง ส่ายหน้า แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบริกร ร่างกายก็ยิ่งร้อนรุ่มชั่วครู่หนึ่งเธอเผลอตอบสนองโดยสัญชาตญาณ อยากเบียดร่างกายเข้าไปใกล้บริกรคนนั้น"...ร้อนนิดหน่อย..."บริกรเข้าใจ"ข้าง ๆ บาร์ของเรามีโรงแรมที่สามารถเปิดห้องพักได้นะครับ ต้องการให้ผมพาไปไหม?"ฮั่วซินพยักหน้า ใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิมฮั่วซินเดินตามบริกรไปอย่างมึนงงชั้นบน"คุณเสิ่น เรียบร้อยแล้วครับ" เสิ่นเหยียนจั่วหันไปมองหลีเกอ แล้วยักไหล่ "คุณหนูหลี มีอะไรให้ผมทำอีกไหม"หลีเกอเขย่าแก้วไวน์ในมือ ทั่วทั้งร่างกายเปล่งประกายความงามอันโดดเดี่ยว แต่ริมฝีปากกลับเผยรอยยิ้มร้ายกาจ"ขอบคุณค่ะ คุณเสิ่น ต่อไปก็อยู่ที่ว่าพวกเธอจะขุดหลุมฝังตัวเองกันลึกแค่ไหนแล้วล่ะ"เสิ่นเหยียนจั่วสั่นไปทั้งตัวเป็นอย่างที่คนโบราณว่าไว้จริง ๆอย่ายุแหย่ผู้หญิง!"คุณเสิ่น ไวน์ร้านคุณดีมากเลยนะคะ" หลีเกอชื่นชมจากใจจริงเสิ่นเหยียนจั่วขมวดคิ้วตอบกลับ "ถ้าคุณหนูหลีชอบ เชิญมาชิมไวน์ใหม่ ๆ ของร้านเราได้ทุกเมื่อเลยครับ"พูดจบก็เหลือบมองไปทางฟู่ซิ
เมตตาต่อศัตรูเท่ากับโหดร้ายต่อตนเองนี่คือสิ่งที่หลีหานมักจะพูดกับเธอเสมอ"ผมจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง คุณแค่เตรียมตัวสำหรับงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ให้เต็มที่ก็พอ""ค่ะ"หลีเกอกลับถึงบ้าน ทันใดนั้นก็มีแฮชแท็กใหม่ถูกดันขึ้นอันดับหนึ่งในหัวข้อค้นหายอดนิยม #ลูกสาวเศรษฐีปะทะเหล่าผู้กล้า 3P ตัวจริง มีภาพ มีหลักฐานหน้าห้องหมายเลข 8888สื่อบันเทิงชื่อดังต่าง ๆ ในเมืองปินเฉิงต่างก็มารวมตัวกัน กล้องและไมโครโฟนทั้งหมดเล็งไปยังประตูที่ปิดสนิท"ได้ยินมาว่าข้างในห้องนี้เป็นฉากที่ดาราสาวชื่อดังกำลังเริงรักกับแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอ ช่างภาพเตรียมเล็งกล้องไว้ให้ดีนะ"สื่ออีกเจ้าแทรกขึ้น "ดาราสาวชื่อดังอะไรกัน ไม่ใช่ข่าวซุบซิบของดาราสาวหน้าใหม่หรอกเหรอ""ไม่จริงอ่ะ ฉันได้รับข่าวมาว่า เป็นข่าวฉาวของนักแสดงหญิงชื่อดังต่างหาก""..."สื่อหลายเจ้ามองหน้ากัน ทำไมข่าวที่ได้รับถึงไม่เหมือนกันนะทุกคนสบตากัน ทันใดนั้นก็เกิดความสนใจอย่างมากต่อตัวบุคคลและเหตุการณ์ในห้องมีแม้กระทั่งพิธีกรชื่อดังคนหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดไลฟ์ "สวัสดีค่ะทุกคน ห้องนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ เดี๋ยวเราจะมาลุ้นไปพร้อมกันนะ
แต่เธอกลับตื่นตระหนกจนลืมตัวผ้าห่มที่คลุมอยู่บนตัวเลื่อนหลุดไหลลงมาตามไหล่ ฮั่วซินเปลือยล่อนจ้อน!"อู้ ว้าวว เซ็กซี่เป็นบ้า คุณหนูตระกูลดัง ๆ นี่มีรสนิยมส่วนตัวแบบนี้หรอกเหรอ?""รออะไรอยู่ล่ะ ถ่ายเลยสิ แค่รูปพวกนี้ก็พอให้เรามีกินมีใช้ทั้งชาติได้แล้ว""ตระกูลฮั่วจบเห่แน่""..."ฮั่วซินได้ยินคำนินทาเหล่านี้แล้วรู้สึกเหมือนสมองจะระเบิดนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?เมื่อกวาดตามองฉากโกลาหลที่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงง่าย ๆ ฮั่วซินหายใจไม่ทัน ถึงกับเป็นลมล้มพับไปกู้หว่านชิงอยากจะหนี แต่กลับหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ ตอนนี้เธอเปลือยกายอยู่ หนีไปไหนไม่ได้เลยได้แต่ปล่อยให้ผู้สื่อข่าวเหล่านี้รัวชัดเตอร์ภาพนู้ดของตัวเองไม่หยุดกู้หว่านชิงรู้ตัวว่าคราวนี้เธอ... จบเห่แล้วอย่างไรก็ตาม เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเนื่องจากมีการไลฟ์สดทางอินเทอร์เน็ต ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องจึงอยู่ในสายตาของชาวเน็ตนับหมื่นที่กำลังรับชม ในเวลาอันรวดเร็ว ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกโซเชียลชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์และถกเถียงกันอย่างดุเดือด"...จะบ้าตาย นี่คุณหนูตระกูลฮั่วจริง ๆ เหรอ ของดีไ
"ที่รัก เห็นข่าวหรือยัง?"จู้หว่านอี้ถามทางโทรศัพท์"เห็นแล้ว ที่รัก เธอนี่นับวันยิ่งเก่งจริง ๆ" หลีเกอเปิดรูปภาพที่ฮั่วซินและกู้หว่านชิงถูกถ่ายไว้ ต้องบอกว่าช่างภาพพวกนี้มีฝีมือจริงมื??ๆทุกภาพถ่ายออกมาได้เร้าใจมาก กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมอย่างเต็มที่จู้หว่านอี้ยิ้มและพูดต่อ "ฉันจัดการกับข่าวนี้เรียบร้อย ไม่มีทางถูกลบออกจากเทรนด์หัวข้อข่าวภายในสามวันสามคืนนี้หรอก ในเมื่อหล่อนอยากดังนัก ก็จัดให้หล่อนโด่งดังเต็มที่ไปเลย"ต้องบอกเลยว่าจู้หว่านอี้มีมาตรการในการจัดการที่เด็ดขาด ไม่ยืดเยื้อมีเพื่อนที่ดีแบบนี้ หลีเกอรู้สึกอุ่นใจมาก"ขอบคุณนะเพื่อนรัก ว่าแต่เธอจะกลับปินเฉิงเมื่อไหร่?""ยังมีงานที่ต้องสะสางในดูไบอีกเพียบ คาดว่าจะกลับสิ้นเดือนนี้ กลับไปเมื่อไหร่จะรีบติดต่อเธอกับอีอีเลย""ได้ พวกเราเตรียมฉลองการกลับมาของเธอไว้แล้วล่ะ"หลังจากพูดคุยกันสักพัก สองสาวก็วางสายในเวลาเดียวกันหุ้นของตระกูลฮั่วเริ่มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากข่าวฉาวของฮั่วซิน ในเวลาเพียงครึ่งวัน มูลค่าตลาดก็หายไปหลายสิบล้านสำนักงานใหญ่ชั้นบนสุดของอาคารฮั่วกรุ๊ปหลานหนีรา
"แม่ ฉันจะทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี" ฮั่วซินถามซ้ำ ๆ พร้อมกับร้องไห้หลี่ซูฉินสงสารลูกสาวมาก พยายามพูดปลอบโยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า"ไม่เป็นไรนะลูก ไม่ต้องกังวล อีกสองวันแม่จะส่งลูกไปอยู่ต่างประเทศ ไปหลบอยู่ที่นั่นสักสองสามปี รอให้เรื่องนี้เงียบก่อน ทุกคนลืมแล้วค่อยกลับมา""ฮือฮือฮือฮือ... แม่คะ หนูไม่อยากไปต่างประเทศ หนูไม่อยากไป...""ลูกเอ๋ย ตอนนี้เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าลูกไม่ไปต่างประเทศก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ดีนะที่ตอนนี้หนูลาออกจากมหาวิทยาลัยปินเฉิงแล้ว แม่จะให้พี่ชายลูกหาช่องทางให้สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ไปแล้วต้องตั้งใจเรียนให้ดีนะ"หลี่ซูฉินถอนหายใจน้ำตาคลอเบ้าฮั่วซินร้องไห้จนตาบวม แต่แล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้จึงหยุดร้องทันที "แม่ เป็นฝีมือนังหลีเกอ ต้องเป็นฝีมือนังหลีเกอแน่ ๆ มันเป็นคนทำให้หนูตกอยู่ในสภาพนี้"หลี่ซูฉินไม่เชื่อ"พูดอะไรนะ หลีเกอเหรอ?"ฮั่วซินมัวแต่เสียใจจนไม่ทันคิดว่าทำไมเรื่องราวถึงกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้ไปได้ ตอนนี้เมื่อใจเย็นลงแล้วถึงค่อย ๆ นึกทบทวน เห็นได้ชัดว่าคนที่ควรจะนอนอยู่ในโรงแรมแทนเธอคือหลีเกอต่างหากทำไมถึงกลายเป็นเธอกับกู้หว่านชิ
"คุณย่า เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบสืบหาความจริงให้กระจ่าง"คุณย่าฮั่วโบกมือ ปล่อยให้เขาจัดการตามสบายหลังจากฮั่วจิ้นเฉิงได้คำอนุญาตเขาจึงหันไปมองฮั่วซิน แม้ว่าตอนนี้ฮั่วซินจะร้องไห้จนแทบจะเป็นลม แต่ฮั่วจิ้นเฉิงก็ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย"เล่ามาเดี๋ยวนี้ เรื่องจริงมันเป็นยังไง?"เสียงร้องไห้ของฮั่วซินหยุดลงทันทีไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆเธอไม่กล้าเล่าความจริงให้ฮั่วจิ้นเฉิงรับรู้ เพราะฮั่วจิ้นเฉิงเคยเตือนเธอแล้วว่าห้ามยุ่งกับหลีเกอเด็ดขาด แต่สุดท้ายเธอก็อดใจไม่ไหว ตอนนี้ตัวเองยังกลายเป็นแบบนี้อีก เธอไม่มีหน้าจะเผชิญความจริงกับฮั่วจิ้นเฉิงเลยไม่เหลือใบหน้าจะเผชิญความจริงกับตระกูลฮั่วด้วยซ้ำเธอกลัวว่าหากพูดความจริงออกไป บ้านหลังนี้ก็คงไม่มีที่ยืนให้เธออีกต่อไป"แม่คะ..." ฮั่วซินทำได้แค่เรียกหลี่ซูฉินแต่หลี่ซูฉินสังเกตเห็นสีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร"ฮั่วซิน พูดความจริงมา"ฮั่วจิ้นเฉิงอดทนไม่ไหวฮั่วซินตัวสั่น "พี่ชาย อย่าโกรธสิ ตอนนี้ฉันเป็นเหยื่อนะ พี่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของฉัน จะไม่ช่วยฉันทวงความยุติธรรมเลยเหรอ?""ฮั่วซิน พอได้แล้ว" ฮั่วจิ้นเฉิงอดทนอดกลั้นมา