Home / แฟนตาซี / เวียงแสนพรหม / ตอนที่ 3 ผู้เฝ้าดูแห่งป่าดงเลือด

Share

ตอนที่ 3 ผู้เฝ้าดูแห่งป่าดงเลือด

last update Last Updated: 2025-04-11 14:18:31

“เจ้าชื่ออะหยัง?เจ้าเป๋นไผ? ออ!! รู้ละ! หรือว่าเจ้าเป็นญาติของข้า คนตี้แม่คำปันบอกจะพามาหา?”

เสียงของแสงคำสั่นเครือ เบือนหน้าหนีทันทีที่ถามจบ เธอกลั้นใจรอฟังคำตอบ… ถ้ามันจะตอบ

เงาดำทะมึน ยืนนิ่ง

เงียบ!

เงียบมาก!

เงียบจนน่าขนลุก เงียบจนแสงคำเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า

และจากนั้น… มันก็ขยับ

“……”

ริมฝีปากที่ไม่อาจมองเห็นได้ชัด ค่อย ๆ ขยับขึ้นราวกับกำลังเปล่งเสียง

แสงคำเบิกตากว้าง

แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลย

“เฮ้ย!” แสงคำสะดุ้ง ขนแขนกระทั่งผมลุกชัน

“มันจะพูด หรือมันจะสวาปามกลืนข้าลงท้องกันแน่ บรึ๊ยย! “

แม่คำปันยืนกอดอก มองเงานั้นอย่างสงบ

“ดูเหมือนว่ามันอยากจะตอบ แต่ตอบไม่ได้”

“หา! ผีติดอ่างอั้นกาเจ้าแม่?”

แม่คำปันถอนหายใจส่ายหัวเบา ๆ

“มันบ่ะได้ติดอ่าง”

เธอหันไปมองเงาดำ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ

“เจ้าถูกปิดปากใช่หรือไม่?”

ทันใดนั้น

เงานั้นขยับตัวอย่างรุนแรง!

“อึก… กรรรร…”

เสียงแหบพร่าดังลอดออกมาจากเงาดำนั้น ราวกับว่ามันกำลังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

ร่างของมันสั่นสะท้าน เหมือนกำลังดิ้นรนต่อสู้กับบางสิ่งที่มองไม่เห็น

แสงคำตัวแข็งทื่อ เธอรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวเริ่มเย็นลงผิดปกติ

“แม่… ข้าเริ่มคิดว่าข้าน่าจะถอยออกไปก่อนได้ก่อ?”

“เจ้าถอยได้ ลูกแม่… ถ้าเจ้าต้องการทิ้งสิ่งที่เจ้าอุตส่าห์ถามไปเมื่อครู่นี้”

“เฮ้ออออ!” แสงคำบีบมือแน่น ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเงานั้นอีกครั้ง

“เจ้าถูกปิดปากเลยทำฮื่ออู้บ่ะได้(ทำให้พูดไม่ได้)แม่นก่อ?”

เงานั้น หยุดชะงัก

ก่อนที่ดวงตาสีแดงของมัน… จะมองตรงมายังแสงคำ

เงาดำขยับปากอีกครั้ง

และคราวนี้…

เสียงแหบต่ำก็ดังขึ้นในอากาศ

“ข้าถูก… คำสาป…”

“ข้าคือ… ผู้เฝ้าดู…”

“และข้ากำลังรอ… เจ้า…”

แสงคำตาโตทำตาโต ถอยกรูดออกไปห่างจากสิ่งนั้นโดยอัตโนมัติ

“รอข้า! ข้าทำไม? ข้ายังบ่ะทันได้ทำบาปเลยนะ!”

แม่คำปันจ้องเงานั้นนิ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

“เจ้ารอแสงคำ… เพื่ออะไร....ตอบนางให้หายสงสัยได้ไหม?”

เงานั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง

“รอฮื่อเจ้า… จำได้…”

แสงคำขมวดคิ้ว

“จำอะหยัง ? เรื่องอะหยัง?”

เงานั้นยืนนิ่ง…

ก่อนที่มันจะเอื้อมมืออันบิดเบี้ยวออกมาทางแสงคำ

และพูดออกมาสามคำ…

“อดีต… ของ… เจ้า”

เงาดำเอื้อมมืออันบิดเบี้ยวออกมา นิ้วเรียวยาวเกินมนุษย์สั่นไหวราวกับเถาวัลย์แห้งที่ถูกลมพัด

แสงคำตัวแข็งทื่อ สมองเธอกำลังพยายามประมวลผลว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

“อดีตของข้า?” เธอพูดเสียงสั่น “ข้าไปติดหนี้ผีตั้งแต่เมื่อใด!? เจ้าจำคนผิดละก้า?”

“ไม่ได้ติดหนี้” แม่คำปันพูดเสียงเรียบ “แต่เจ้าลืมบางอย่างไป”

“ลืม! ข้าจะลืมได้จะใดเจ้าแม่  ตั้งแต่จำความได้ ข้าก่ออยู่แต่ในหมู่บ้าน บ่ะได้ออกไปไหน แม่ก่อฮู้ก่อหัน”

“เพราะมันถูกทำให้ลืม”

“หา! หยั่งใด ! ใครทำให้ข้าลืม? ผีตัวนี้ก๋า?”

เงาดำไม่ตอบ… แต่มัน ก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกก้าว

“เฮ้ย! ข้ายังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับความจริงนะ!”

“ความทรงจำของเจ้า… ถูกปิดผนึก…”

เสียงของเงาดำแหบพร่า แต่ดังก้องอยู่ในหัวของแสงคำราวกับเสียงกระซิบจากนรก

“โอ๊ย! ข้าเริ่มหายใจบ่ะทั่วท้องแล้ว!”

“ตั้งสติไว้” แม่คำปันเตือน “มันไม่ได้มาทำร้ายเจ้า”

“แม่แน่ใจนะ? ผ่อดูมือมันก่า! ยาวยิ่งกว่ากิ่งไม้! แถมเล็บยาวขนาดนั้น ตัดได้ตั้งแต่คอไปยันตาตุ่มเลยนะ!”

“ดักปาก ทำใจกล้า ๆ แล้วฟังมัน!”

“ข้าจะฟัง! แต่ข้าต้องแน่ใจว่าข้ายังมีชีวิตรอดก่อน!”

เงานั้นเอื้อมมือเข้ามาใกล้ขึ้น… ปลายนิ้วของมันลอยอยู่ห่างจากหน้าผากของแสงคำเพียงคืบเดียว

“แม่… ข้าแตะมือมันแล้วข้าจะตายก่อ?”

“บ่ะเป๋นหยัง แต่เจ้าอาจเห็นอดีต”

“อาจจะ! โคะ ! นี่อิแม่ก่อยังไม่แน่ใจ๋ แล้วจะฮื่อข้าไว้ใจ๋มันได้กา เป๋นต๋ายร้ายดี ข้าตึงบ่ะเอา!”

“ถ้าเจ้าบ่ะแตะ เจ้าก่อจะบ่ะมีวันรู้ ว่าสิ่งตี้เจ้าสงสัยในใจ๋มันคือเรื่องราวใด”

แสงคำเบ้หน้า แม้ปากจะบอกว่าเธอไม่ได้อยากรู้สักนิด! ทั้งที่ในใจเริ่มลังเล

แต่…

ทำไมลึก ๆ ในใจเธอถึงรู้สึกว่าเธอต้องรู้

เธอสูดหายใจเข้าลึก…

“ก่อได้เจ้า…ฮึ ! จะซักมอกใด(จะแค่ไหน)”

แล้วเธอก็ยื่นมือออกไป…

และปลายนิ้วของเธอสัมผัสเงานั้น

“วูบบบบบ!”

ทันใดนั้น

ภาพในหัวของแสงคำแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ !

เธอเห็นภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว

หญิงสาวในชุดเจ้านางโบราณกำลังร้องไห้

เปลวเพลิงที่เผาผลาญกำแพงเมือง

เงาสีดำที่แผ่ขยายออกไปทั่วเวียง

“ข้าขอโทษ… ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”

เสียงของหญิงสาวคนนั้นดังสะท้อนอยู่ในหัวของเธอ

“เจ้าคือผู้ที่ต้องกลับมา… เพื่อชดใช้”

“เพราะเจ้าคือ......”

“พอแล้วววววว!”

แสงคำสะดุ้งเฮือก ผงะถอยหลังเหมือนโดนน้ำร้อนลวก!

“ข้าเห็นอะหยังบางอย่าง! แต่ข้าบ่ะอยากเห็นต่อแล้ว!”

เงาดำยืนนิ่ง… ก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ

“นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของอดีต…”

“ถ้าเจ้าต้องการรู้ทั้งหมด…”

“เจ้าต้องเดินหน้าต่อไป”

แสงคำหายใจหอบ เธออยากจะเดินหน้ากลับบ้านมากกว่า!

“แม่…” แสงคำหันไปหาแม่คำปัน “บอกข้ามาตามตรง…”

“ว่า?”

“ข้าไปทำผีตนใดโกรธไว้ก๋า! ยิหยังข้าต้องมาเผชิญเรื่องแบบนี้! แล้วญาติผะกู๋น หมายถึงสิ่งนี้ตี้แม่พาข้ามาหา แม่นก่อเจ้า ?”

แม่คำปันพยักหน้ายอมรับยิ้มบาง ๆ

“จากนี้เรื่องราวทั้งหมด เจ้าจะรู้… เมื่อถึงเวลา”

“ข้าเริ่มจัง(เกลียด)คำว่าเมื่อถึงเวลาแล้วนา!”

“แต่ตอนนี้.....” แม่คำปันพูดต่อ “ถึงเวลาไปต่อแล้ว”

“อ๊ากกก ! เฮาต้องไปต่อแหมกานิเจ้า ? ”

“แม่นแล้ว แสงคำ ลูกต้องไปต่อ”

“ข้าขอปิ๊กบ้านได้ก่อเจ้า?”

“บ่ะได้”

“อั้นข้าขอตายไปเลยก่อได้!”

“ยิ่งบ่ะได้!!”

“โอ้ยยยยย! ไผก่อได้มาช่วยข้ากำ !! ”

แสงคำตะโกนลั่นป่า แต่แม่คำปันยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างสงบนิ่ง ราวกับว่าเธอเพิ่งพาลูกสาวมาจ่ายตลาด ไม่ใช่เผชิญหน้ากับเงาปริศนาแห่งป่าดงเลือด

“แม่! ข้ายังบ่ะได้ทำใจ๋!”

“เจ้ามีเวลาทำใจตอนที่เราเดินไป บ่ะต้องอู้นัก !”

“แม่! ข้ายังเดินบ่ะได้นะ! ขาข้าอ่อนขนาด! ข้าเดินบ่ะไหวแล้ว แม่เจ้า! แม่คำปันคนงาม!”

“งั้นก็คลานมา”

“โอยย!! แม่ !!”

“แต่ถ้าเจ้าจะคลานแต้ ๆ ก่อคงถูกอะไรสักอย่างลากไปก่อน”

“เฮือกกกก!”

ทันใดนั้นแสงคำรีบกระโดดขึ้นยืนเต็มสองเท้า พร้อมเดินตามแม่อย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการขาอ่อนแม้แต่นิดเดียว!

เส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้าเต็มไปด้วยความเงียบ… เงียบเกินไป

ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสูงตระหง่าน บดบังแสงจันทร์จนแทบไม่เหลือช่องว่างให้เห็นท้องฟ้า

แสงคำรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในโลกอีกใบที่ไม่ใช่ของมนุษย์

“แม่…” เธอเรียกเสียงเบา “แน่ใจนะว่าเราไปถูกทาง?”

“แน่ใจ”

“แน่ใจแต้ ๆ?”

“แน่ใจที่สุด”

“แน่ใจว่าเราไม่ได้กำลังเดินเข้าสู่ความตาย?”

แม่คำปันหันมาสบตาเธอ… แล้วแสยะยิ้มจาง ๆ

“บ่ะแน่เน่อ”

“เฮ้ยยยยย!”

“กรรรร…”

เสียงขู่ต่ำดังมาจากด้านหลัง!

“แม่… ข้าได้ยินะหยังบางอย่าง…” แสงคำกระซิบ

“อย่าหันไปมอง”

“ก่อได้! ถ้าอั้นข้าจะไม่หันกลับไป!”

แต่แล้วเธอก็หันไปดู…

“เฮ้ยยยยยย!”

ในเงามืด… มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่จริง ๆ

เงาดำอีกตัว ไม่สิ หลายตัว!

“แม่! ผ่อลอ ! มันมานักขนาด มากกว่าหนึ่งตัว!”

“ข้ารู้”

“แล้วยิหยัง(ทำไม)แม่ยังนิ่ง?”

“เพราะข้ารู้ว่าสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่วิ่งหนี”

แสงคำตัวแข็งทื่อ หูกำลังแว่วเสียงขู่ต่ำของเงาดำเหล่านั้น

“ข้าเดาได้ว่าแม่จะให้ข้าทักทายพวกมันอีก”

“ถูกต้อง”

“แม่! ข้าบ่ะใช่คนตี้นิสัยดี เข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะ! แม่ก่อรู้”

“แต่เจ้าควรลองดู คนเฮามันเปลี่ยนกั๋นได้”

“ข้าจะบ่ะลอง!”

“งั้นก็ให้พวกมันลองทำอะไรก่อนแทนคำทักทายจากเจ้าก็แล้วกัน”

“โอ้ยย!! ข้ายอมลองก่อได้!”

แสงคำหันหน้าไปทางเงาดำที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่เกินระยะสามเมตร พวกมันยังไม่ขยับ… แต่เธอรู้ว่าพวกมันกำลังจ้องเธออยู่

เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะโบกมือให้พวกมัน มือเธอสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้ เธอแข็งใจสืบเท้าเดินเข้าไปใกล้พวกมัน

“เอ้อ วันนี้วันดีเนาะ…เฮาได้มาปะกั๋น ข้าดีใจ๋ขนาดเจ้าค่ะ?”

เงียบกริบ

ไม่มีเสียงตอบกลับมา

แสงคำแอบหันไปกระซิบแม่

“แม่… พวกมันไม่ตอบ ข้าสามารถใช้สิทธิ์เผ่นหนีได้ก่อ?”

“บ่ะได้”

“ข้าว่าข้าควรได้สิทธิ์นะ!”

“เจ้ายังไม่ได้ถามพวกมันว่าต้องการอะไรเลย”

“เฮ้ย! ข้าบ่ะอยากรู้สักนิด!”

“แต่ข้าจะต้องฮื่อเจ้ารู้ให้ได้”

แม่คำปันก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม ดวงตาของเธอนิ่งสงบ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่มีชีวิต

เธอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่น

“พวกเจ้า… ต้องการสิ่งใด?”

ลมเย็นยะเยือกพัดผ่าน…

เงาดำเหล่านั้นสั่นไหว…

แล้วหนึ่งในพวกมัน… ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงแหบพร่า

“คืนมันมา…”

“คืนอะหยัง(อะไร)?” แสงคำถามขึ้นทันที

“คืนสิ่งที่ถูกพรากไป…”

“คืนสิ่งใด?”

เงาดำเงียบไปชั่วขณะ…

ก่อนที่ดวงตาสีแดงของพวกมันจะเปล่งแสงวาบ…

“คืนเวียงแสนพรหมมา…”

แสงคำขมวดคิ้ว “เวียงแสนพรหม?”

“มันคือเมืองที่เคยตั้งอยู่บนดินแดนนี้” แม่คำปันตอบเสียงเรียบ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?”

เงาดำตัวหนึ่งค่อย ๆ ก้าวออกมาจากเงามืด มันมาหยุดตรงหน้าแสงคำ… ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ

“เพราะเจ้า… คือผู้ที่ทำให้มันพินาศ แหลกสลายด้วยน้ำมือเจ้า”

“....”

แสงคำตัวแข็งทื่อ หัวสมองหมุนคว้าง

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ! ข้าพึ่งเกิดมาได้สิบหกปีนะ! ข้ายังไม่ทันได้ทำลายอะไรเลย!”

เงาดำยังคงยืนนิ่ง แต่ดวงตาของมันฉายแววเกลียดชัง

“แต่เจ้า… เคยทำมาแล้ว”

“เป็นไปบ่ะได้! ข้าบ่ะเกยไปที่ไหน หรือแม้แต่ทำร้ายใครให้เลือดตกยางออกเลยนะ!”

“เจ้าเคยทำ !”

“ข้าบ่ะเคยทำ!”

“เจ้า… จำไม่ได้เท่านั้นเอง”

“อั้นแหมเมาะอิ๊(อย่างนั้นจริงหรือนี่)!”

แสงคำรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอก เธอหันขวับไปมองแม่คำปัน

“แม่! เรื่องนี้เป๋นเรื่องแต้ก๋า!? เขาจุ(หลอก)เฮา แม่นก่อ ?”

แม่คำปันมองเธอ ดวงตาของแม่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ

“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร?”

“แม่! อย่าตอบแบบนี้สิ!”

เงาดำนั้นขยับเข้าใกล้เธออีกก้าว…

“ถึงเวลาแล้ว…”

“เจ้า… ต้องจำให้ได้”

“ก่อนที่ทุกอย่างจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง…”

แสงคำหายใจหอบ เธอไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือเรื่องโกหก

แต่เธอรู้ว่า…นี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ

“ข้า… จะทำหยั่งใดต่อไป?”

แม่คำปันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดช้า ๆ

“เดินหน้าต่อไป”

แสงคำเม้มปากแน่น… ก่อนจะกำมือแน่น แล้วพยักหน้า

“ก็ได้… ข้าจะเดินต่อ”

แต่ในใจของเธอมีเพียงคำถามเดียว

“ข้าคือใครกันแน่?”

คำถามนั้นก้องอยู่ในหัวของแสงคำ แต่ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เลย

เงาดำยืนเรียงรายอยู่รอบตัว พวกมันไม่มีทีท่าจะเข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่ยอมจากไป

ดวงตาสีแดงของพวกมัน สั่นไหวระริกเหมือนเปลวเทียนกลางสายลม

แม่คำปันมองแสงคำ ราวกับกำลังรอว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร

“ข้าคิดว่า…” แสงคำหายใจหอบ “ข้าไม่บ่ะอยากรู้แล้วได้ก่อ!?”

เงาดำนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดขึ้นเสียงเย็น

“ไม่ได้”

“เฮ้ยยยย! อย่าบังคับกั๋นก่ะ”

“เจ้าต้องจำให้ได้…”

“ข้าไม่อยากจำ!”

“เจ้าต้องเผชิญหน้ากับมัน…”

“ข้าอยากเผชิญหน้ากับข้าวเย็นมากกว่า!”

“หากเจ้าไม่จำ…”

“ข้าก็จะใช้ชีวิตแบบไม่รู้เรื่อง!”

“อดีตจะตามเจ้าไป…”

“ทุกชาติภพ”

“เฮ้ยๆๆๆๆ! อย่ามาพูดแบบนี้ ข้าขนลุก!”

เงาดำนั้นยืนนิ่ง ก่อนที่มันจะยกมือขึ้น…

“ดูมันซะ”

“ดูอะหยัง! ข้าไม่อยากดูวววว!”

แต่มันสายไปแล้ว…

ทันใดนั้น

“ฟุ่บบบบบ!”

ลมแรงพัดผ่าน เงาดำนั้นขยับมือขึ้นกลางอากาศ… และบางอย่างก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

ภาพของเมืองโบราณ… เมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ

แสงคำตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นรัวเมื่อเห็นภาพที่คุ้นเคยอย่างประหลาด

กำแพงเมืองถล่มลงมา เสียงกลองศึกดังลั่น

เสียงของผู้คน กรีดร้องดังก้องไปทั่วเมือง

“ข้า… ข้าเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน…”

เงาดำกระซิบเสียงเย็น

“เวียงแสนพรหม… เมืองที่เจ้าทำลาย”

“ข้าไม่เคยทำลายเมืองไหนทั้งนั้น!”

“เจ้าทำ”

“ข้าไม่เคยไปที่นั่นด้วยซ้ำ!”

“เจ้ากลับมาแล้ว”

“ข้าไม่ได้กลับ! ข้าเพิ่งมาครั้งแรก!”

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงจำภาพนี้ได้?”

แสงคำชะงัก…

เธอ… จำได้จริง ๆ

ภาพของกำแพงเมือง ภาพของเปลวไฟ… ภาพของตัวเธอเอง ที่ยืนอยู่ในชุดเจ้านางโบราณ

“ไม่นะ… นี่มันเป็นไปไม่ได้…”

“ข้าคือ… ข้าคือใครกันแน่!?”

เงาดำนั้นไม่ตอบ แต่มันขยับเข้ามาใกล้

“เจ้าต้องจำมันให้ได้…”

แสงคำหายใจหอบ หัวสมองสับสนไปหมด

“แม่! ข้าควรทำยังไง?”

แม่คำปันมองเธอสายตาห่วงใยเต็มไปด้วยความเข้าใจ

“เจ้าต้องเผชิญหน้ากับมัน เผชิญหน้ากับความจริง”

“เผชิญหน้ายังไง? ให้ข้าไปยืนอยู่กลางเปลวไฟกา?”

“บางที…” แม่คำปันพูดช้า ๆ “เปลวไฟนั้นอาจยังไม่ดับลงก็ได้”

“....”

“เวียงแสนพรหม… ยังมีบางสิ่งรอเจ้าอยู่”

เงาดำนั้นกล่าวเสียงก้อง ร่างของมันสั่นไหวไปมาก่อนจะจางหายไป… ทิ้งไว้เพียงความหนาวเยือกเย็นในอากาศ

แสงคำตัวสั่น… เธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความกลัว หรือความจริงที่เธอเริ่มจะรับรู้

“แม่…” เธอกระซิบเสียงแผ่ว “เวียงแสนพรหมตี้เขาบอกมามันมีอยู่แต้ ๆ แม่นก่อ?”

แม่คำปันพยักหน้า

“แม่น”

“แล้วข้าต้องไปที่นั่น?”

“แม่น”

แสงคำกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพูดสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวเธอ

“อั้นข้าจะบ่ะไปแล้ว ข้าจะปิ๊กเมือบ้านได้ก่อ?”

“ข้าว่าต๋อนนี้ ถึงเจ้าจะปิ๊กไปบ้าน หมู่เขาก่อจะโตย(ตาม) ลากเจ้าคืนมาแน่ ๆ”

“โอ้ยย! ขอฮื่อเรื่องนี้เป๋นความฝันได้ก่อ ข้ากลัว !”

ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ลมเย็นโชยผ่านหลังคาเรือน แสงแดดยามเย็นทอดผ่านหมอกบาง ๆ ที่ลอยเหนือพื้นดิน ให้บรรยากาศขมุกขมัวชวนให้รู้สึกแปลกประหลาด

จันทร์ผา บุญปั๋น และ มังคละ ยืนอยู่หน้าบ้านของแสงคำ ต้นเหตุที่พวกเขามาที่นี่เพราะได้ยินเสียงกระซิบล่องหนให้มาหาแม่คำปันแม่ของแสงคำ เพื่อนร่วมหมู่บ้านที่แทบจะไม่เคยพูดคุยสุงสิงกัน แต่น่าแปลกที่เสียงกระซิบนั้นเกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งสามคนราวกับจงใจ

“แน่ใจนะว่าแสงคำอยู่บ้าน?” จันทร์ผาหรี่ตา มองไปที่ประตูบ้านที่ปิดสนิท

“ข้าว่าน่าจะอยู่นา แสงคำจะไปไหนได้!” บุญปั๋นยักไหล่

“ก็มันยังไม่มืด แม่สาวนั่นบ่ะน่าจะออกไปไหนไกล ๆ”

“งั้นข้าจะเคาะ” มังคละพูดจบก็ยกมือเคาะประตู “ก๊อก ๆ ๆ”

ไม่มีเสียงตอบรับ...

บุญปั๋นเคาะซ้ำแรงกว่าเดิม “ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !”

ประตูเปิดออกทันที!

“โอ๊ยย! ข้าสะดุ้งสะเด็นหมด!” บุญปั๋นสะดุ้งถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ขณะที่ ยายคำก๋อง เดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“โวยวายอะหยังนักหนา หมู่สูมายะหยั๋งกั๋น ปอค่ำปอมืดหา!” อุ้ยคำก๋องพูดพลางยกพัดขึ้นมาพัดเบา ๆ

“เอ่อ... แสงคำอยู่ก่อ?” จันทร์ผารีบถาม

ยายคำหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า

“แสงคำบ่ะอยู่ตี้นี่”

“ฮะ!” ทั้งสามคนร้องออกมาพร้อมกัน

“แล้วแม่ของแสงคำล่ะ?” มังคละถามต่อ

“ไปกับแสงคำแล้ว” เสียงใหม่ดังขึ้นจากด้านหลังของแม่อุ้ยคำก๋อง ป้าคำป้อนั่นเอง หล่อนก้าวออกมายืนข้าง ๆ ผู้เป็นแม่

“เขาปากั๋นไปไหนเจ้า?” จันทร์ผาถามทันที

“เข้าป่าล่าผี” ป้าคำป้อตอบสั้น ๆ ยิ้ม ๆ พลางมองหน้าพวกเขาแววตาขบขัน

“หา!! เข้าป่าตอนนี้เนี่ยนะ!” บุญปั๋นร้องลั่น

“ข้าพึ่งได้ยินเสียงกระซิบเมื่อคืนนี้เองนะ! นี่พวกนางคิดอะไรอยู่!”

“ข้าไม่รู้” ยายคำก๋องพูดพลางโบกพัดไปมาเหมือนไม่ทุกข์ร้อน

“มีธุระอะหยังก่อบอกมาตอนนี้ ถ้าบอกข้าได้ แต่ถ้าอยากตามไปก็รีบ ๆ หน่อย ก่อนฟ้าจะมืด”

ทั้งสามคนหันมองหน้ากัน ก่อนที่จันทร์ผาจะพยักหน้า

“ไปเถอะ!”

“เอ้า ๆ! จะไปจริงเรอะ!? ข้ายังไม่ทันได้กินข้าวเย็นเลยนะ!” บุญปั๋นร้องโอดครวญ แต่ก็ต้องวิ่งตามไปอยู่ดี

“กินทีหลัง!” จันทร์ผาตัดบท ก่อนจะรีบก้าวตามมังคละที่เดินนำออกไปจากบ้าน

เข้าสู่ป่าท้ายหมู่บ้าน...

แม้จะเป็นป่าที่พวกเขาเคยเดินผ่านมาหลายครั้ง แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกไป ทุกอย่างเงียบกว่าปกติ

ไม่มีเสียงจิ้งหรีด ไม่มีเสียงนกร้อง... มีเพียงเสียงลมหวิว ๆ ที่ดังอยู่รอบตัว

“ข้าว่ามันเงียบเกินไปนะ...” จันทร์ผาพึมพำ

“ใช่ ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” มังคละขมวดคิ้ว “เจ้าสองคนคอยระวังตัวไว้”

“เฮ้ย ข้ากลัวแล้วนะ!” บุญปั๋นพูดเสียงสั่น “ถ้าผีโผล่มาข้าเผ่นก่อนเลยนะ!”

“แล้วเจ้าจะทิ้งข้ากับมังคละให้เผชิญชะตากรรมเรอะ?” จันทร์ผาแหวกลับ

“ก็ข้ามีหน้าที่รักษาชีวิตข้าไว้ก่อน!” บุญปั๋นพูดเสียงดัง “ข้าจะไม่ยอมเป็นเหยื่อในตำนานผีป่าหรอก!”

ทันใดนั้นเอง...

“แกรกกก...”

เสียงกิ่งไม้หักดังขึ้นจากด้านหน้า ทั้งสามคนหยุดชะงักทันที

“ใคร!?” มังคละตะโกนถาม มือขยับไปแตะดาบที่เอว

ไม่มีเสียงตอบรับ...

“แกรก...”

เสียงนั้นดังขึ้นอีก คราวนี้อยู่ใกล้กว่าเดิม

“ข้าไม่ชอบแบบนี้เลย...” บุญปั๋นกระซิบเสียงสั่น

“อย่าขยับ” จันทร์ผากระซิบตอบ มือคว้าคันธนูขึ้นมาอย่างระแวดระวัง

มังคละค่อย ๆ ขยับก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะฟันดาบใส่พุ่มไม้ข้างหน้าเต็มแรง!

“ฉัวะ!”

พุ่มไม้สั่นไหว...

เงาดำบางอย่างกระโจนออกมาเร็วปานสายฟ้า

“เฮ้ยย ผี!”

บุญปั๋นร้องลั่นพร้อมวิ่งหนีไปก่อนใครเพื่อน!

“หยุดนะ!” มังคละกระโจนไปขวางเงาดำนั้น พร้อมยกดาบขึ้นอย่างระวัง

จันทร์ผายกธนูขึ้นยิงทันที  ลูกธนูพุ่งแหวกอากาศไปอย่างรวดเร็ว

“ฟ้าววว!”

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น ทำให้ทั้งสองคนยืนนิ่งอย่างตกตะลึง

ลูกธนู ทะลุผ่านร่างของเงาดำนั้นไป  ราวกับมันไม่มีตัวตน

“เฮ้ย อะไรวะ ยิงบ่ะเข้า!” จันทร์ผาอุทาน

เงาดำนั้นหันมาทางพวกเขาช้า ๆ  ดวงตาของมันเปล่งแสงแดงวาบในความมืด

“พวกเจ้า... กลับมาแล้วสินะ...ตามแสงคำไป!”

เสียงแหบต่ำดังขึ้นจากเงาดำนั้น

“เฮ้ย! ข้าจะเป็นลมแล้ว!” บุญปั๋นร้องเสียงหลง ขณะที่มังคละยังคงยืนตั้งท่าต่อสู้

จันทร์ผากัดฟันแน่น มือกำลูกธนูอีกดอกเตรียมยิง

“แกเป็นใคร? ต้องการอะไร?”

เงาดำนั้นไม่ได้ตอบ มันเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่ง ๆ... จ้องมองพวกเขา

ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ถอยหลัง... แล้วจมหายไปในหมอกอย่างไร้ร่องรอย

พวกเขายืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง

“มัน... หายไปแล้ว?” บุญปั๋นกระพริบตาปริบ ๆ

“ข้าก็ไม่รู้...” จันทร์ผาพูดเสียงแผ่ว “แต่ข้ารู้ว่าเราต้องรีบไปหาแสงคำกับแม่ของนางแล้ว!”

“ใช่!” มังคละพยักหน้า “เราต้องรู้ให้ได้ว่า...เสียงกระซิบนั่นบอกให้เราตามนางไปทำไม ?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 5 ปิดตาเข้าเมือง

    “โอ๊ย!ข้าบ่ะอยากเป็นนักรบ! ข้าอยากปิ๊กบ้านไปนึ่งข้าวเผาปลาให้อุ้ยคำก๋องกิ๋นลำ ๆ ฮึ !นี่แน่ะ ๆ ต๋ายไปให้หมด หมู่ผีบ้า!”แสงคำกรีดร้องขณะที่เหวี่ยงท่อนไม้ไปมา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสับสนและความหวาดกลัวสุดขีด“เจ้ามีทางเลือกก๋า”มังคละตะโกน ก่อนจะฟันดาบเหล็กใส่ร่างประหลาดอีกตัวที่พุ่งเข้ามาฟั่บ!“ข้าบ่ะอยากเลือกอะไรทั้งนั้น!”“งั้นเจ้าก่อเลือกเป็นข้าวต้มกล้วยใส่ถั่วดำสำหรับพวกมันเหียเต๊อะ น่าจะดีที่สุด !”“ฮึบ! ข้าจะตีแล้วนะ!”แสงคำตั้งท่ายืนให้มั่นแล้วตวัดท่อนไม้เต็มแรง“ปั่ก!”ไม้ฟาดเข้ากลางหน้าของร่างประหลาดตัวหนึ่ง เสียงกระแทกดังสะใจ ก่อนที่มันจะกระเด็นไปกลิ้งลงข้างทาง“เฮ้ย !นี่ข้าทำได้แหมแล้วกานิ!”“ข้าว่าเจ้าอาจมีพรสวรรค์ด้านการตีหัวคน”บุญปั๋นพูดขึ้น ขณะที่ใช้หอกจ้วงแทงศัตรูที่ใกล้เข้ามา“ข้าไม่ต้องการพรสวรรค์แบบนี้!”“แต่เจ้าใช้มันได้ดี” จันทร์ผาเสริมพลางยิงลูกธนูใส่เป้าหมายที่พุ่งมาจากอีกด้าน“ข้าขอพรสวรรค์ในการนึ่งข้าวให้นุ่มกว่านี้ได้ก่อ?”มังคละหัวเราะเสียงดัง“ไม่ได้แล้วล่ะ! ตอนนี้เจ้าเป็นนักรบไปแล้ว!”แสงคำหน้าบิดเบี้ยว “ฮึ!ข้าบ่ะอยากเป็น!”“งั้นก็ตายไปแล้วไปเกิดใหม่ ยอ

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 6 เจ้าของบัลลังก์ที่ถูกลืม

    “กู้เวียงแสนพรหม?”แสงคำแทบสำลักอากาศ นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกแล้วเธอกลับมาที่เวียงแสนพรหม เมืองที่เธอเคยทำลายเธอคือเจ้านาง ผู้ที่ถูกจดจำเธอมีลูกชาย และเขากำลังบอกให้เธอกู้คืนเมืองนี้“นี่ข้าต้องเป็นเจ้านางคนนั้นแต้ ๆ กานิ?”เธอหันขวับไปมองอินทร์แปง หวังว่าจะได้รับคำอธิบายดี ๆ สักอย่างแม่คำปันยืนกอดอก สีหน้าของนางนิ่งสนิทราวกับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว“แม่!” แสงคำเรียกเสียงหลง “ข้าเจ้าควรจะทำจะใดดี?”“เจ้าเป็นเจ้านาง” แม่คำปันตอบสั้น ๆ “เจ้าต้องตัดสินใจเอง”“เฮ้อ! ขอเต๊อะบ่ะเอาคำตอบแบบนี้ได้ก่อ!”“ใจเย็นก่อน เจ้านางสร้อยคำ”เสียงทุ้มของอินทร์แปงดังขึ้น เขามองแสงคำด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น“ท่านอาจจำอะไรไม่ได้ แต่ข้ามั่นใจว่า… ความรู้สึกของท่านที่มีต่อเวียงแสนพรหม ยังไม่เปลี่ยนไป”“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร!”แสงคำพยายามจะถอยหนี แต่ทุกสายตารอบตัวกลับจับจ้องเธออย่างแน่วแน่ชาวเมืองมองเธอเหมือนเป็นความหวังอินทร์แปงมองเธอเหมือนเป็นคำตอบอินทร์แปงมองเธอเหมือนเป็นปริศนาที่เธอต้องแก้ให้ได้เองและที่สำคัญที่สุดเธอเองก็มองตัวเองไม่ออกว่

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 7 เงาของคนทรยศ

    “มันต้องมีเหตุผลอื่น…”“มันต้องมีใครบางคนทำให้ข้าต้องเลือกแบบนี้!”“ถูกต้อง”เสียงของอินทร์แปงเยือกเย็น เขาหันมามองแสงคำอย่างจริงจัง“และเจ้าจะได้เห็นว่า… ใครคือคนที่ทำให้เจ้าเลือกทางนี้”แสงคำกลืนน้ำลาย เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมหรือไม่แสงคำหลับตาลง ทำดวงจิตให้นิ่ง ภาพในอดีตถูกฉาย เธอเห็นมังคละ เคยเป็นองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้านางสร้อยคำบุญปั๋น เป็นขุนนางผู้กล้าหาญที่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเวียงสร้อยคำจันทน์ผา เป็นผู้คุมคลังสมบัติและเป็นผู้ดูแลเจ้านางสร้อยคำแต่เมื่อเธอมองไปที่ภาพอดีตอีกครั้งเธอเห็นตัวเองในอดีตหันไปมองใครบางคนที่ยืนอยู่กลางพระราชวังบุคคลหนึ่ง… ที่ทำให้เธอตัดสินใจเผาเมืองร่างนั้นยืนอยู่ท่ามกลางเงา สีหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาเต็มไปด้วยเล่ห์กลเธอเพ่งมอง และเมื่อร่างนั้นก้าวออกมาจากเงามืด…เธอเห็นใบหน้าของจันทน์ผา“จันทน์ผา… เป็นคนทรยศงั้นหรือ?”แสงคำหันขวับไปมองจันทน์ผาในปัจจุบัน หญิงสาวผู้นั้นยืนนิ่ง สีหน้าของนางไม่ได้แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อยแต่ดวงตาของนาง… เต็มไปด้วยบางอย่างที่ยากจะคาดเดาแสงคำหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทุกคน ราวกับเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 8 คำบอกเล่าของนักโทษ

    “อิ๊! กลิ่นอะหยังบ่ะฮู้!” บุญปั๋นยกแขนปิดจมูกทันทีกลิ่นที่บุญปั๋นพูด มาจากภายในห้องนั้นซึ่งมืดสนิทรไม่มีแสงใดจากภายนอกเล็ดรอดเข้าไปได้ อินทร์แปงยกคบเพลิงเข้าไปใกล้ ช่องว่างระหว่างบานประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นบางสิ่ง......บางสิ่งที่ขยับได้“เฮ้ย ๆๆๆ ผ่อฮั่น! มีอะหยังอยู่ในนั้น!” บุญปั๋นร้องเสียงหลงดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง... ค่อย ๆ เปิดขึ้นจากความมืด“เจ้ามาแล้วสินะ... เจ้านางของข้า”“ฟึ่บบบบ!”จู่ ๆ เงามืดในคุกใต้ดินก็มีบางสิ่งเคลื่อนไหวและร่างของใครบางคน… ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากความมืดแสงจากคบเพลิงกระพริบไหว ราวกับไม่อยากส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของบุคคลนั้นแต่แสงคำรู้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้คือเขาที่อินทร์แปงพูดถึงนักโทษที่ถูกขังอยู่ใต้ดินผู้ที่เกี่ยวข้องกับเธอในอดีตและอาจเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด“เจ้ามาแล้ว…”เสียงของเขานุ่มลึก แต่แฝงไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้ขนลุก“ข้ารอเจ้านานเหลือเกิน… เจ้านางของข้า”แสงคำหายใจสะดุด เธอรู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงให้อยู่กับที่เธอจ้องมองบุคคลปริศนาตรงหน้า… แต่เงามืดบดบังใบหน้าของเขาไว้เกือบหมด“เจ้าคือใคร?” เธอถามเสียงสั่นแม้ในความมืดก็รู้ได้ว่าชา

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 9 ความทรงจำที่ไม่อาจลบ

    “เจ้าก็ยังไม่ลืมข้าจริง ๆ”คำพูดของเจ้าทิพย์อมร ยังคงดังก้องในหูของแสงคำเธอยืนหอบหายใจ เหงื่อชื้นไหลซึมอยู่บนใบหน้า แม้ปีศาจเสือดำจะหายไปแล้ว แต่ในอกของเธอกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดเหมือน… มันยังไม่จบ“ข้าว่า… เราควรกลับไปพักก่อนดีไหม?”มังคละเอ่ยขึ้น ดวงตาของเขามองแสงคำด้วยความเป็นห่วง“ข้าก็คิดแบบนั้น”บุญปั๋นพยักหน้า“ข้ารู้สึกเหมือนพวกเราเพิ่งวิ่งหนีผีมาเป็นร้อยเป็นพันตัว”“พวกเจ้าลืมไปหรือว่า…”จันทน์ผาแทรกขึ้นมาช้า ๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ“เรื่องนี้… ยังไม่จบ”“จบสิ!”แสงคำโพล่งขึ้นมาทันที“ข้าปราบปีศาจไปแล้วนะ! เห็นกับตาแล้วว่าเจ้าอสุรกายดำ ๆ ผีเสือดำตัวเหม็นสาบ นั่น แหลกเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว!”“แต่เจ้าเคยเห็นอะหยังในชีวิตนี้… ที่ง่ายขนาดนั้นก๋า?” จันทน์ผาเลิกคิ้ว น้ำเสียงของเธอแฝงความไม่ไว้ใจเต็มที่“เอ่อ…” แสงคำอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ก็จริง… ตั้งแต่มาเวียงแสนพรหม ไม่มีอะไรสักอย่างที่ง่ายเลยเจ้าทิพย์อมรยังยืนมองพวกเธออยู่จากมุมห้อง สายตาของเขายังเต็มไปด้วยเจ้าเล่ห์และบางอย่างที่คาดเดาได้ยาก“เจ้านาง…” เขาเอ่ยขึ้นช้า ๆ“เจ้าจำข้าได้จริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าก่อดายพร่ำแต่ถา

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 10 คำสาปตราศิลากัลป์

    “อย่าคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เจ้าไม่ใช่ผู้ชนะ…”“…เพราะมันกำลังมา”เสียงกระซิบจากเงามืด… ฟังดูทั้งแผ่วเบาและน่าขนลุกจนทุกคนเย็นวาบไปทั้งตัว“อะหยังแหมเหมาะ! ไผแหมล่ะเนี่ย? มาติก ๆ บ่ะฮู้จักจบจักสิ้น”แสงคำบ่นปนเดือดดาล ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด“ป้อเฒ่ามันก่ะ ! นี่มันจะมีผีกี่ตั๋วกันแน่?”มังคละมองซ้ายมองขวา “ข้าว่าข้าจะเริ่มนับจำนวนผีไว้แล้วนะ… นี่ตัวที่หนึ่งร้อยห้าแม่นก่อ?”“หนึ่งร้อยหกแล้วจ้า” บุญปั๋นเสริมหน้าตาย “ข้านับมาตั้งแต่ที่หมู่บ้านแล้ว”“เอ่อ… พวกเจ้าช่วยเครียดกับข้าพ่องได้ก่อ?”อินทร์แปงเอนตัวพิงกำแพง ร่างของเขาอ่อนแรงจากการใช้พลังมหาศาลในการสู้เมื่อครู่“เสียงเมื่อกี้…”เขาพูดช้า ๆ พลางหายใจแรง“มันไม่ใช่เสียงของเสนาบดีศรีพงษาแน่นอน”“ข้าเห็นด้วย”จันทน์ผาพยักหน้า “เสียงนี้… ฟังดูเหมือนบางสิ่งที่อยู่มานาน… นานยิ่งกว่าศรีพงษาเสียอีก”“ปั๊ดโทะ?”แสงคำเบิกตาโต“อย่าบอกนะว่าเรากำลังรับมือกับตัวร้ายตำนานตัวป้อตัวแม่ ที่เป๋นตัวต้นตระกูลสิ่งชั่วร้ายของทั้งหมด ขั้นสูงสุด อะหยังสักอย่างน่ะ!”มังคละถอนหายใจหนัก ๆ“ข้าว่าตั้งแต่เจ้าก้าวเท้าเข้ามาในเวียงแสนพรหม… ชีวิตเจ้าก็เป็นตำนานไปแล

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 11 ปลุกปีศาจที่หลับใหล

    “ระวังฮื่อดี !”คำพูดของอุ้ยคำก๋องดังก้องอยู่ในหัวของแสงคำ ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกว่าเรื่องเลวร้ายยังไม่จบ“ห้ะ! “ แสงคำร้องเสียงหลง “ก่อตะกี้ศรีพงษาโดนข้าสลายร่างเป๋นปุ๋ยไปแล้วบ่ะใจ้กาเจ้าแม่อุ้ย?”“แม่น” อุ้ยคำก๋องพยักหน้า “แต่ศรีพงษาเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น”“เบี้ยตัวหนึ่ง หมายถึงลูกหาบลูกน้องแม่นก่อเจ้า เอ่อนั่น ! ไปกั๋นใหญ่ละทีนี้?”แสงคำอ้าปากค้าง “แล้วตัวจริงมันเป๋นไผเจ้าแม่อุ้ย?”อุ้ยคำก๋องจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ…“ตัวจริง… คือปีศาจที่หลับใหลอยู่ใต้วิหารศิลากัลป์นี้”“และมันกำลังจะตื่นขึ้นมา”“โอ้ย! อะหยังแหมล่ะเนี่ย!” แสงคำโอดครวญพลางขยุ้มผมตัวเอง“ข้าแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่อยากปิ๊กบ้านไปกิ๋นข้าวกับแม่อุ้ยคำก๋อง! ยะหยังต้องมาสู้กับปีศาจโตยกา?”“ตอนนี้เจ้าไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาอีกแล้ว” เอื้องฟ้าแทรกขึ้น “เจ้าคือผู้ที่สืบสายเลือดเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม…”“และเจ้านั่นแหละ…” อุ้ยคำก๋องเสริมเสียงหนักแน่น“ต้องเป๋นเจ้านางสร้อยคำเต้าอั้นที่จะหยุดปีศาจตนนั้นได้”“โอ๊ย! ทำไมทุกอย่างต้องมาลงที่ข้าด้วย!”“เพราะเจ้าสร้างมันขึ้นมา”“เฮอะ !” แสงคำหันขวับไปทางอุ้ยคำก๋อง “

    Last Updated : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 12 อาถรรพ์แห่งเวียงแสนพรหม

    เวียงแสนพรหม คืนสู่ความสงบอีกครั้งหลังจากพายุแห่งความวุ่นวายผ่านพ้นไป...แสงคำยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงจันทร์ส่องแสงนวลตา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลแม้เจ้าเมืองศิลป์จะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว... แต่บางอย่างยังคงคลุมเครือและดูเหมือนความกังวลนี้จะทำให้แสงคำเครียดยิ่งขึ้น“ข้าว่าข้าควรดีใจที่เรื่องมันจบแล้วนะ…” แสงคำพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“แต่ใจข้ายังรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่”“ข้าก็เหมือนกัน” เอื้องฟ้า ซึ่งในชาติปัจจุบันคือป้าคำป้อของเธอเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้มัน… ง่ายเกินไป”“โอยน่อ !” มังคละร้องเสียงหลง “นี่เจ้ายังคิดว่าเรื่องมันง่ายอยู่แหมกานิ!”“แม่น” เอื้องฟ้าตอบจริงจัง “ข้าว่ามีบางอย่าง… ที่หมู่เฮายังบ่ะฮู้กั๋นแต้เตื้อ”“เจ้าอย่ามาหลอกข้านักนา!” บุญปั๋นร้องลั่น “ข้าอิดข้าเหนื่อยจ๋นจะเป็นลมแล้วเนี่ย!”“แล้วถ้ามันยังมีอะหยังโผล่มาแหม เจ้าจะเยียะจะใด จะทำยังไง ฮือ พ่อหนุ่มนักหนี?” เอื้องฟ้าเลิกคิ้ว“ก็… ก็…” บุญปั๋นหันไปมองจันทน์ผาที่หน้าเริ่มซีดไม่แพ้กัน“ข้า… ข้าจะอยู่ข้างหลังเจ้าไง”“เฮ้ย!” จันทน์ผาแหวเสียงสูง “ใครอยากเป็นโล่ให้เจ้ากันเล่า!”“พอ ๆ เถอะ!” แสงคำตวาดขึ้นพลางตบมือดังป

    Last Updated : 2025-04-11

Latest chapter

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 15 ปลดปล่อยวิญญาณ

    “เจ้าว่าตอนนี้หมู่เฮาบ่ะต้องเจอผีสางปีศาจแหมแล้วแม่นก่อ?”เสียงของมังคละถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ หลังจากเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายที่วิหารศิลากัลป์จบลง ทุกคนกลับมารวมตัวกันในหอเจ้านาง เพื่อหารือถึงสิ่งที่เกิดขึ้น“ข้าว่ามันหยั่งใดบ่ะฮู้” มังคละพูดต่อ “ถ้ามันจบแต้แล้ว ยิหยังตราศิลากัลป์ถึงยังมีแสงแดงส่องวาบเป็นระยะล่ะ?”แสงคำมองไปที่ตราศิลากัลป์ที่วางอยู่บนพาน แสงสีแดงริบหรี่นั้นยังคงเต้นระยิบระยับ ราวกับบางสิ่งกำลังรอจังหวะปะทุอีกครั้ง“เจ้ามันกึ้ดนัก(คิดมาก)ไปเองหรอกมังคละ?” บุญปั๋นพูดพลางขยับตัวออกห่างจากพานเล็กน้อย “อย่าให้มันมีเรื่องอีกเลยเถอะ… ข้าขออยู่แบบสงบ ๆ สักสองวันก็ยังดี!”“ข้าว่า… มังคละอาจพูดถูก” เจ้าเมืองศิลป์แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “วิญญาณของเจ้ามหาคำหลวงอาจหลุดพ้นแล้ว… แต่คำสาปนั้น…”“ยังไม่หมดไป” แสงคำพูดเสียงแผ่ว สายตาแน่วแน่จ้องตราศิลากัลป์ไม่กะพริบป้าคำป้อที่นั่งเงียบอยู่นาน พลันพูดขึ้นว่า...“ยังมีวิญญาณอีกดวง… ที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย”“ใครอีกล่ะป้า!?” บุญปั๋นร้อง “ข้าขนลุกหมดแล้วนะ!”“ข้ากำลังจะบอกว่า…” ป้าคำป้อหันมาสบตาทุกคน “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคำสาปนี้

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 14 กับดักอำพราง

    “ข้าไม่ชอบเลย…” แสงคำพึมพำ “หมอกนี้… มันแปลกเกินไป”“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” เจ้าเมืองศิลป์เดินเข้ามายืนข้าง ๆ “ข้าว่า… มันไม่ได้เป็นหมอกธรรมดา”แสงคำยืนอยู่บนกำแพงเมืองของเวียงแสนพรหม สายตาจ้องมองไปยังทิวเขาที่เคยสว่างไสว แต่ตอนนี้ถูกหมอกทึบปกคลุมจนมืดครึ้มราวกับหุบเขาปีศาจเวียงแสนพรหมในตอนรุ่งเช้า...หมอกหนาจัดแผ่ปกคลุมทั่ว ราวกับม่านสีเทาหนาเตอะที่บดบังทุกสิ่งจนแทบมองไม่เห็นปลายทาง “ข้าก็ว่าแบบนั้น” จันทน์ผาเสริม “หมอกนี้มีกลิ่นเหมือนควันธูปจาง ๆ ด้วย…”“แล้วพวกเจ้าคิดว่า…” มังคละเอ่ยเสียงเครียด “หมอกนี้มันเกี่ยวกับอสุราแห่งคำสาปก่อ?”“ถ้ามันใช่…” บุญปั๋นพึมพำ “งั้นหมอกนี่… อาจไม่ใช่แค่หมอกก็ได้…”พวกเขาเก็บความสงสัยไว้ และนำเรื่องที่มาปรึกษากันในเรือนพักของแสงคำ ขณะที่กำลังแสดงความคิดเห็นกันอยู่นั้น“ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าเรือนพัก ทุกคนสะดุ้งพร้อมหันไปมองทันที“ไผน่ะ?” แสงคำเอ่ยถาม“ข้าเอง…” เสียงของชายชราสั่นเครือดังลอดเข้ามา “ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกพวกเจ้า…”เมื่อประตูเปิดออก ชายชราผู้หนึ่งก้าวเข้ามาช้า ๆ เขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าซีดเผือดราวกับไร้เลือดฝาด“ท่าน

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 13 คำสาปที่เหลืออยู่

    “โหหห…วับวิบละลานตาข้าขนาด!”บุญปั๋นถึงกับหลุดคำอุทาน เมื่อสายตากวาดผ่านห้องสมบัติเก่าแก่ตรงหน้าทองคำแท่งเรียงซ้อนเป็นชั้น เหรียญเงินโบราณที่มีตราสัญลักษณ์ประหลาด อัญมณีที่ส่องแสงเยือกเย็นเหมือนแช่น้ำแข็งมาร้อยปี ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แสงคบเพลิงที่ไม่รู้จุดขึ้นเองได้ยังไง...เขาเดินเข้าไปช้าๆ หัวใจเต้นตุบตับแต่ยังไม่ทันได้แตะสมบัติ...เสียงเย็นเยียบ กังวาน ราวกับลมพัดจากปล่องนรก ดังขึ้นจากมุมมืดของห้อง“ข้า... ยังไม่อนุญาต...”เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่หนักแน่นจนพื้นสะเทือนบุญปั๋นสะดุ้ง หันขวับไปทางเสียง เหงื่อแตกซิกจากเงาดำมืดหลังเสาไม้ผุ เงาตะคุ่มรูปร่างสูงใหญ่ปรากฏ ดวงตาสีแดงฉาน ลุกโชนราวกับถ่านไฟเขาก้าวออกมาช้าๆ ผ้าคลุมสีดำยาวลากพื้น ไหลลมไม่มีลมพัดฝ่าเท้าไม่ได้สัมผัสพื้น... เขาลอยศรีพงษา... ปรากฏกาย“เฮ้ย !! ศรีพงษา? มาได้หยั่งใด เจ้าต๋ายไปแล้วบ่ะใจ้กา ”“แล้วใคร... บอกเจ้าว่าความตายจะหยุดข้าได้?”เสียงศรีพงษาเยือกเย็น แต่ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยแววโกรธแค้นสะสมพันปี“ข้า... รักษาขุมทรัพย์นี้ไว้ด้วยชีวิต และแม้แต่หลังความตาย เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์แตะ!”บุญปั๋นถอยหลังจนสะดุดกองทอง มือไม้

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 12 อาถรรพ์แห่งเวียงแสนพรหม

    เวียงแสนพรหม คืนสู่ความสงบอีกครั้งหลังจากพายุแห่งความวุ่นวายผ่านพ้นไป...แสงคำยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงจันทร์ส่องแสงนวลตา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลแม้เจ้าเมืองศิลป์จะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว... แต่บางอย่างยังคงคลุมเครือและดูเหมือนความกังวลนี้จะทำให้แสงคำเครียดยิ่งขึ้น“ข้าว่าข้าควรดีใจที่เรื่องมันจบแล้วนะ…” แสงคำพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“แต่ใจข้ายังรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่”“ข้าก็เหมือนกัน” เอื้องฟ้า ซึ่งในชาติปัจจุบันคือป้าคำป้อของเธอเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้มัน… ง่ายเกินไป”“โอยน่อ !” มังคละร้องเสียงหลง “นี่เจ้ายังคิดว่าเรื่องมันง่ายอยู่แหมกานิ!”“แม่น” เอื้องฟ้าตอบจริงจัง “ข้าว่ามีบางอย่าง… ที่หมู่เฮายังบ่ะฮู้กั๋นแต้เตื้อ”“เจ้าอย่ามาหลอกข้านักนา!” บุญปั๋นร้องลั่น “ข้าอิดข้าเหนื่อยจ๋นจะเป็นลมแล้วเนี่ย!”“แล้วถ้ามันยังมีอะหยังโผล่มาแหม เจ้าจะเยียะจะใด จะทำยังไง ฮือ พ่อหนุ่มนักหนี?” เอื้องฟ้าเลิกคิ้ว“ก็… ก็…” บุญปั๋นหันไปมองจันทน์ผาที่หน้าเริ่มซีดไม่แพ้กัน“ข้า… ข้าจะอยู่ข้างหลังเจ้าไง”“เฮ้ย!” จันทน์ผาแหวเสียงสูง “ใครอยากเป็นโล่ให้เจ้ากันเล่า!”“พอ ๆ เถอะ!” แสงคำตวาดขึ้นพลางตบมือดังป

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 11 ปลุกปีศาจที่หลับใหล

    “ระวังฮื่อดี !”คำพูดของอุ้ยคำก๋องดังก้องอยู่ในหัวของแสงคำ ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกว่าเรื่องเลวร้ายยังไม่จบ“ห้ะ! “ แสงคำร้องเสียงหลง “ก่อตะกี้ศรีพงษาโดนข้าสลายร่างเป๋นปุ๋ยไปแล้วบ่ะใจ้กาเจ้าแม่อุ้ย?”“แม่น” อุ้ยคำก๋องพยักหน้า “แต่ศรีพงษาเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น”“เบี้ยตัวหนึ่ง หมายถึงลูกหาบลูกน้องแม่นก่อเจ้า เอ่อนั่น ! ไปกั๋นใหญ่ละทีนี้?”แสงคำอ้าปากค้าง “แล้วตัวจริงมันเป๋นไผเจ้าแม่อุ้ย?”อุ้ยคำก๋องจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ…“ตัวจริง… คือปีศาจที่หลับใหลอยู่ใต้วิหารศิลากัลป์นี้”“และมันกำลังจะตื่นขึ้นมา”“โอ้ย! อะหยังแหมล่ะเนี่ย!” แสงคำโอดครวญพลางขยุ้มผมตัวเอง“ข้าแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่อยากปิ๊กบ้านไปกิ๋นข้าวกับแม่อุ้ยคำก๋อง! ยะหยังต้องมาสู้กับปีศาจโตยกา?”“ตอนนี้เจ้าไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาอีกแล้ว” เอื้องฟ้าแทรกขึ้น “เจ้าคือผู้ที่สืบสายเลือดเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม…”“และเจ้านั่นแหละ…” อุ้ยคำก๋องเสริมเสียงหนักแน่น“ต้องเป๋นเจ้านางสร้อยคำเต้าอั้นที่จะหยุดปีศาจตนนั้นได้”“โอ๊ย! ทำไมทุกอย่างต้องมาลงที่ข้าด้วย!”“เพราะเจ้าสร้างมันขึ้นมา”“เฮอะ !” แสงคำหันขวับไปทางอุ้ยคำก๋อง “

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 10 คำสาปตราศิลากัลป์

    “อย่าคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เจ้าไม่ใช่ผู้ชนะ…”“…เพราะมันกำลังมา”เสียงกระซิบจากเงามืด… ฟังดูทั้งแผ่วเบาและน่าขนลุกจนทุกคนเย็นวาบไปทั้งตัว“อะหยังแหมเหมาะ! ไผแหมล่ะเนี่ย? มาติก ๆ บ่ะฮู้จักจบจักสิ้น”แสงคำบ่นปนเดือดดาล ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด“ป้อเฒ่ามันก่ะ ! นี่มันจะมีผีกี่ตั๋วกันแน่?”มังคละมองซ้ายมองขวา “ข้าว่าข้าจะเริ่มนับจำนวนผีไว้แล้วนะ… นี่ตัวที่หนึ่งร้อยห้าแม่นก่อ?”“หนึ่งร้อยหกแล้วจ้า” บุญปั๋นเสริมหน้าตาย “ข้านับมาตั้งแต่ที่หมู่บ้านแล้ว”“เอ่อ… พวกเจ้าช่วยเครียดกับข้าพ่องได้ก่อ?”อินทร์แปงเอนตัวพิงกำแพง ร่างของเขาอ่อนแรงจากการใช้พลังมหาศาลในการสู้เมื่อครู่“เสียงเมื่อกี้…”เขาพูดช้า ๆ พลางหายใจแรง“มันไม่ใช่เสียงของเสนาบดีศรีพงษาแน่นอน”“ข้าเห็นด้วย”จันทน์ผาพยักหน้า “เสียงนี้… ฟังดูเหมือนบางสิ่งที่อยู่มานาน… นานยิ่งกว่าศรีพงษาเสียอีก”“ปั๊ดโทะ?”แสงคำเบิกตาโต“อย่าบอกนะว่าเรากำลังรับมือกับตัวร้ายตำนานตัวป้อตัวแม่ ที่เป๋นตัวต้นตระกูลสิ่งชั่วร้ายของทั้งหมด ขั้นสูงสุด อะหยังสักอย่างน่ะ!”มังคละถอนหายใจหนัก ๆ“ข้าว่าตั้งแต่เจ้าก้าวเท้าเข้ามาในเวียงแสนพรหม… ชีวิตเจ้าก็เป็นตำนานไปแล

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 9 ความทรงจำที่ไม่อาจลบ

    “เจ้าก็ยังไม่ลืมข้าจริง ๆ”คำพูดของเจ้าทิพย์อมร ยังคงดังก้องในหูของแสงคำเธอยืนหอบหายใจ เหงื่อชื้นไหลซึมอยู่บนใบหน้า แม้ปีศาจเสือดำจะหายไปแล้ว แต่ในอกของเธอกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดเหมือน… มันยังไม่จบ“ข้าว่า… เราควรกลับไปพักก่อนดีไหม?”มังคละเอ่ยขึ้น ดวงตาของเขามองแสงคำด้วยความเป็นห่วง“ข้าก็คิดแบบนั้น”บุญปั๋นพยักหน้า“ข้ารู้สึกเหมือนพวกเราเพิ่งวิ่งหนีผีมาเป็นร้อยเป็นพันตัว”“พวกเจ้าลืมไปหรือว่า…”จันทน์ผาแทรกขึ้นมาช้า ๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ“เรื่องนี้… ยังไม่จบ”“จบสิ!”แสงคำโพล่งขึ้นมาทันที“ข้าปราบปีศาจไปแล้วนะ! เห็นกับตาแล้วว่าเจ้าอสุรกายดำ ๆ ผีเสือดำตัวเหม็นสาบ นั่น แหลกเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว!”“แต่เจ้าเคยเห็นอะหยังในชีวิตนี้… ที่ง่ายขนาดนั้นก๋า?” จันทน์ผาเลิกคิ้ว น้ำเสียงของเธอแฝงความไม่ไว้ใจเต็มที่“เอ่อ…” แสงคำอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ก็จริง… ตั้งแต่มาเวียงแสนพรหม ไม่มีอะไรสักอย่างที่ง่ายเลยเจ้าทิพย์อมรยังยืนมองพวกเธออยู่จากมุมห้อง สายตาของเขายังเต็มไปด้วยเจ้าเล่ห์และบางอย่างที่คาดเดาได้ยาก“เจ้านาง…” เขาเอ่ยขึ้นช้า ๆ“เจ้าจำข้าได้จริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าก่อดายพร่ำแต่ถา

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 8 คำบอกเล่าของนักโทษ

    “อิ๊! กลิ่นอะหยังบ่ะฮู้!” บุญปั๋นยกแขนปิดจมูกทันทีกลิ่นที่บุญปั๋นพูด มาจากภายในห้องนั้นซึ่งมืดสนิทรไม่มีแสงใดจากภายนอกเล็ดรอดเข้าไปได้ อินทร์แปงยกคบเพลิงเข้าไปใกล้ ช่องว่างระหว่างบานประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นบางสิ่ง......บางสิ่งที่ขยับได้“เฮ้ย ๆๆๆ ผ่อฮั่น! มีอะหยังอยู่ในนั้น!” บุญปั๋นร้องเสียงหลงดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง... ค่อย ๆ เปิดขึ้นจากความมืด“เจ้ามาแล้วสินะ... เจ้านางของข้า”“ฟึ่บบบบ!”จู่ ๆ เงามืดในคุกใต้ดินก็มีบางสิ่งเคลื่อนไหวและร่างของใครบางคน… ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากความมืดแสงจากคบเพลิงกระพริบไหว ราวกับไม่อยากส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของบุคคลนั้นแต่แสงคำรู้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้คือเขาที่อินทร์แปงพูดถึงนักโทษที่ถูกขังอยู่ใต้ดินผู้ที่เกี่ยวข้องกับเธอในอดีตและอาจเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด“เจ้ามาแล้ว…”เสียงของเขานุ่มลึก แต่แฝงไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้ขนลุก“ข้ารอเจ้านานเหลือเกิน… เจ้านางของข้า”แสงคำหายใจสะดุด เธอรู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงให้อยู่กับที่เธอจ้องมองบุคคลปริศนาตรงหน้า… แต่เงามืดบดบังใบหน้าของเขาไว้เกือบหมด“เจ้าคือใคร?” เธอถามเสียงสั่นแม้ในความมืดก็รู้ได้ว่าชา

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 7 เงาของคนทรยศ

    “มันต้องมีเหตุผลอื่น…”“มันต้องมีใครบางคนทำให้ข้าต้องเลือกแบบนี้!”“ถูกต้อง”เสียงของอินทร์แปงเยือกเย็น เขาหันมามองแสงคำอย่างจริงจัง“และเจ้าจะได้เห็นว่า… ใครคือคนที่ทำให้เจ้าเลือกทางนี้”แสงคำกลืนน้ำลาย เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมหรือไม่แสงคำหลับตาลง ทำดวงจิตให้นิ่ง ภาพในอดีตถูกฉาย เธอเห็นมังคละ เคยเป็นองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้านางสร้อยคำบุญปั๋น เป็นขุนนางผู้กล้าหาญที่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเวียงสร้อยคำจันทน์ผา เป็นผู้คุมคลังสมบัติและเป็นผู้ดูแลเจ้านางสร้อยคำแต่เมื่อเธอมองไปที่ภาพอดีตอีกครั้งเธอเห็นตัวเองในอดีตหันไปมองใครบางคนที่ยืนอยู่กลางพระราชวังบุคคลหนึ่ง… ที่ทำให้เธอตัดสินใจเผาเมืองร่างนั้นยืนอยู่ท่ามกลางเงา สีหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาเต็มไปด้วยเล่ห์กลเธอเพ่งมอง และเมื่อร่างนั้นก้าวออกมาจากเงามืด…เธอเห็นใบหน้าของจันทน์ผา“จันทน์ผา… เป็นคนทรยศงั้นหรือ?”แสงคำหันขวับไปมองจันทน์ผาในปัจจุบัน หญิงสาวผู้นั้นยืนนิ่ง สีหน้าของนางไม่ได้แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อยแต่ดวงตาของนาง… เต็มไปด้วยบางอย่างที่ยากจะคาดเดาแสงคำหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทุกคน ราวกับเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status