Beranda / แฟนตาซี / เวียงแสนพรหม / ตอนที่ 5 ปิดตาเข้าเมือง

Share

ตอนที่ 5 ปิดตาเข้าเมือง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-11 14:20:02

“โอ๊ย!ข้าบ่ะอยากเป็นนักรบ! ข้าอยากปิ๊กบ้านไปนึ่งข้าวเผาปลาให้อุ้ยคำก๋องกิ๋นลำ ๆ ฮึ !นี่แน่ะ ๆ ต๋ายไปให้หมด  หมู่ผีบ้า!”

แสงคำกรีดร้องขณะที่เหวี่ยงท่อนไม้ไปมา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสับสนและความหวาดกลัวสุดขีด

“เจ้ามีทางเลือกก๋า”

มังคละตะโกน ก่อนจะฟันดาบเหล็กใส่ร่างประหลาดอีกตัวที่พุ่งเข้ามา

ฟั่บ!

“ข้าบ่ะอยากเลือกอะไรทั้งนั้น!”

“งั้นเจ้าก่อเลือกเป็นข้าวต้มกล้วยใส่ถั่วดำสำหรับพวกมันเหียเต๊อะ น่าจะดีที่สุด !”

“ฮึบ! ข้าจะตีแล้วนะ!”

แสงคำตั้งท่ายืนให้มั่นแล้วตวัดท่อนไม้เต็มแรง

“ปั่ก!”

ไม้ฟาดเข้ากลางหน้าของร่างประหลาดตัวหนึ่ง เสียงกระแทกดังสะใจ ก่อนที่มันจะกระเด็นไปกลิ้งลงข้างทาง

“เฮ้ย !นี่ข้าทำได้แหมแล้วกานิ!”

“ข้าว่าเจ้าอาจมีพรสวรรค์ด้านการตีหัวคน”

บุญปั๋นพูดขึ้น ขณะที่ใช้หอกจ้วงแทงศัตรูที่ใกล้เข้ามา

“ข้าไม่ต้องการพรสวรรค์แบบนี้!”

“แต่เจ้าใช้มันได้ดี” จันทร์ผาเสริมพลางยิงลูกธนูใส่เป้าหมายที่พุ่งมาจากอีกด้าน

“ข้าขอพรสวรรค์ในการนึ่งข้าวให้นุ่มกว่านี้ได้ก่อ?”

มังคละหัวเราะเสียงดัง

“ไม่ได้แล้วล่ะ! ตอนนี้เจ้าเป็นนักรบไปแล้ว!”

แสงคำหน้าบิดเบี้ยว “ฮึ!ข้าบ่ะอยากเป็น!”

“งั้นก็ตายไปแล้วไปเกิดใหม่ ยอมฮื่อผีกิ๋นหัวเหียเต๊อะ”

“เอ่อนั่นเต๊อะ! ถ้าจะอั้น ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะสู้!”

พวกเขาสู้กันอย่างดุเดือด ร่างประหลาดล้มลงทีละตัว

แต่ไม่ว่าพวกมันจะถูกทำให้ล้มลงไปกี่ตัว… มันก็ยังคงมาไม่หยุด! มันลุกขึ้นมาสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

“พวกมันบ่ะมีแววว่าจะต๋ายกาว่าจะไดนิ?”

แสงคำตะโกน หอบหายใจหนักจากการฟาดไม้ใส่หัวผีไปแล้วนับไม่ถ้วน

แม่คำปันขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเย็น

“ข้าว่า....พวกมัน… กำลังถ่วงเวลา”

“หา! แม่คำปันหมายความว่าจะใด”

มังคละหยุดเคลื่อนไหวไปเสี้ยววินาที ก่อนจะตาเบิกกว้าง

“พวกมันกำลังกักหมู่เฮาไว้ที่นี่!”

“เหอะ! นี่พวกมันไม่ใช่แค่ผีธรรมดา แต่เป็นผีนักวางแผนโตยกานิ”

แสงคำแทบอยากจะเขวี้ยงไม้ทิ้ง

“พวกมันไม่ใช่แค่ซากเดินได้” จันทร์ผาพูดเสียงเรียบ “พวกมันคือเงาของอดีต”

“เงาอะหยัง? มันเป๋นหยั่งใด?”

“เงาของคนที่เคยอยู่ในเวียงแสนพรหม”

“……”

แสงคำรู้สึกเหมือนลมเย็นพัดผ่านตัว ความหนาวแผ่ซ่านไปถึงกระดูก

“หมายความว่า…” เธอกลืนน้ำลาย “พวกมันคือ… คนจากเมืองนั้น?”

แม่คำปันพยักหน้า “แม่น”

“เฮ้ย! นี่ข้ากำลังสู้กับภาพลวงตากานิ?”

“อาจจะใช่ แต่มันฆ่าเราได้จริง”

“เฮ้อ! ถ้าหมู่เฮาหมดแฮง ก่อคงโดนมันเล่นงานจนตายแน่?”

“แล้วหมู่เฮาจะหนียังไง?”

บุญปั๋นถามขึ้น เขาหอบหายใจหนัก เริ่มจะหมดแรง

แม่คำปันหันมองรอบตัว สายตาของเธอวาววาบ หลังจากประเมินเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว

“พวกมันพยายามกักหมู่เฮาไว้ที่นี่ มันอาจมีหลายพวก มีทั้งหมู่ที่อยากให้เราเข้าไปเวียงแสนพรหม กับหมู่ที่บ่ะอยากให้เข้าไป”

“เอ๊า ! แล้วหมู่เฮาจะหนีไปหยั่งใดแม่ ข้าบ่ะไหวแล้วนา ฮือ ๆ” แสงคำถามเสียงสั่น

แม่คำปันหันมามองลูกสาวตรง ๆ ก่อนจะพูดคำที่ทำให้แสงคำอยากเป็นลมอีกรอบ

“เราต้องข้ามไปอีกฝั่ง’”

“ปั๊ดโทะ! ก่อนึกว่าแม่จะหาทางออกดี ๆ ได้ นี่ต้องข้ามฝั่งไปแหม  ฝั่งไหนล่ะแม่ !”

แม่คำปันไม่ตอบ แต่เธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้า

และที่นั่น… คือรอยแยกของม่านหมอก

ที่นำไปสู่เวียงแสนพรหม

“เอ้อเอ้ย! แม่! นี่แม่พาข้าจะข้ามไปเมืองผีแต้กาเจ้า?”

“มันเป็นทางเดียว”

“ข้ายังบ่ะอยากไป!”

“แต่เจ้าต้องไป”

“ข้าจะเถียงจนกว่าข้าจะชนะ!”

แม่คำปันยกคิ้ว “เจ้าคิดว่าจะชนะข้าได้กา แล้วเจ้าเกยชนะข้าได้ก่อ หือ ..?”

“เอ่อ…” แสงคำชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว ๆ

“ก่อได้…” เธอกลืนน้ำลาย “ข้าจะไป…”

มังคละยิ้มมุมปาก “ป้าคำปัน แล้วเฮาจะไปกันยังไง?”

แม่คำปันหันไปมองเพื่อนใหม่ของลูกสาว ก่อนจะพูดคำที่ทำให้ทุกคนหน้าถอดสี

“เราต้องกระโดดข้ามไปแหมฝั่ง”

“หา! แม่หมายถึงกระโดดจากฝั่งนี้ไปฝั่งนั้นกา?”

“แม่น”

“ข้ากระโดดลงเหวไปแล้วครั้งหนึ่งนะ! ข้ายังต้องกระโดดยิหยังแหม ปอละ บ่ะเอา !”

“ครั้งนี้… ไม่ใช่แค่เหว”

“แล้วมันคืออะหยัง?”

แม่คำปันหันไปมองม่านหมอกที่แหวกออกช้า ๆ

“มันคือประตูไปสู่อดีต”

“แม่! ข้าอยากกลับไปไซ้หงอกฮื่อป้าคำป้อ!”

“เจ้าบ่ะมีเวลาแล้ว”

“แต่! ถ้าข้ากระโดดแล้ว ข้าไม่รอดล่ะ ข้านอนต๋ายแอ้งในเหวลึกฮั่นหล่ะ?”

“เจ้าจะรอด”

“ข้าบ่ะเชื่อ หลายเตื้อแล้ว อันนี้ผีเข้าสิงแม่คำปันเหียก้า!”

แม่คำปันเดินมาตีแขนลูกสาวหนึ่งที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น

“เจ้าต้องเชื่อแม่”

“อยากจะบ้าต๋าย! ข้าหมดคำจะเถียง!”

แม่คำปันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าข้อมือของลูกสาว

“ไปกันเถอะ”

มังคละ บุญปั๋น และจันทร์ผามองหน้ากัน ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจ

แล้วทั้งหมดก็กระโดดเข้าสู่ม่านหมอกพร้อมกัน

สู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ

 “วูบบบบบ!”

ทันทีที่พวกเขากระโดดเข้าไปในม่านหมอก ทุกสิ่งรอบตัวเปลี่ยนไปในพริบตา

ร่างของแสงคำลอยคว้างอยู่ในอากาศ เธอไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ไม่มีพื้น ไม่มีท้องฟ้า มีเพียงหมอกหนาทึบที่ไหลเวียนรอบตัวเหมือนสายน้ำไร้จุดจบ

และความรู้สึกเหมือนหัวใจถูกดึงออกจากร่าง

“แม่! ข้าจะตายก่อนี่ ฮือออ!!”

เสียงของเธอก้องสะท้อน… แต่ไม่มีคำตอบกลับมา

“แม่คำปัน! มังคละ! บุญปั๋น! จันทร์ผา!”

เธอเรียกชื่อเพื่อนร่วมชะตากรรมทุกคน แต่มีเพียงความเงียบตอบกลับ

เธอกำลังลอยอยู่ในความว่างเปล่าเพียงลำพัง

หรือเธอกำลังตกลงไปสู่บางสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้?

“กรรรรร!”

ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำดังขึ้นจากม่านหมอกสีขาวหนาทึบ

แสงคำตัวแข็งทื่อ เธอรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวเธอ

มันอยู่ในหมอก มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามันอยู่ที่นั่น

“ไค่ไห้ ไค่หุย ! ข้าต้องเจออะหยังแหม!”

เธอพยายามจะขยับร่างกาย แต่เหมือนถูกตรึงไว้กลางอากาศ

แล้วเธอก็เห็นมัน…

เงาสีดำที่มีดวงตาสีแดงเรืองรอง

มันไม่ได้มีแค่หนึ่งตัว… แต่มันมีนับสิบ!

“เวียงแสนพรหม… ไม่ต้อนรับเจ้า ...ออกไป !”

เสียงเย็นยะเยือกดังก้อง ก่อนที่เงาดำหลายสิบตัวจะพุ่งเข้าใส่แสงคำพร้อมกัน!

“เฮ้ย! ไม่เอานะ แล้วถามข้าหรือยัง ว่าข้าอยากจะมาที่นี่ก่อ!”

เธอพยายามดิ้นสุดชีวิต แต่ร่างของเธอยังคงลอยคว้างเหมือนไร้น้ำหนัก

“แม่! ข้าถูกโจมตีแล้ว! มังคละ! ใครก็ได้ช่วยข้าที!”

“ฟุบ!”

ทันใดนั้น  เสียงดาบฟันผ่านอากาศดังขึ้น เงาดำตัวหนึ่งกรีดร้อง ก่อนจะกระเด็นออกไปในหมอก และเธอเห็นร่างของใครบางคน

มังคละนั่นเอง!

“โอ้ย! ข้าเจอคนแล้ว!”

มังคละม้วนตัวกลางอากาศ ก่อนจะคว้าข้อมือของแสงคำเอาไว้

“เจ้าไหวก่อ เป๋นจะใดพ่อง?”

“ข้าบ่ะไหวแล้ว ข้ากลัว! ข้ากำลังลอย ข้าถูกผีไล่ ข้ากำลังเป็นลม!”

“ใจเย็นไว้!”

“ข้าทำไม่ได้!”

“งั้นก็ทำซะ!”

มังคละเหวี่ยงดาบอีกครั้ง ปัดเงาดำที่พุ่งเข้ามาออกไป

“แม่คำปันอยู่ไหน?”

“ข้าก็ไม่รู้! ข้าบ่าหันแม่คำปัน หลังจากหมู่สูเขากระโดดลงมา แต่ข้าหันเจ้า!”

“บุญปั๋น! จันทร์ผา”

“หายไปเหมือนกัน!”

“โอย! แบบนี้เราจะรอดได้จะใด?”

มังคละหอบหายใจหนัก ก่อนจะกัดฟันแน่น

“มีแค่ทางเดียว”

“ทางไหน ? ตังใด ?ขะใจ๋บอกมา”

“ข้าต้องดึงเจ้าให้ตกลงไปเร็วขึ้น”

“หา! เจ้าอู้ใหม่  “

“ข้าจะถีบเจ้าให้ตกไปข้างล่าง!”

“เฮ้ยยยยย!”

“ตูมมมมมม!”

ร่างของแสงคำตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง! เธอร้องลั่น ก่อนจะกลิ้งหลุน ๆ ลงตามเนินหิน

“อั่นลา โอ๊ย ๆๆเจ็บ ๆ ๆ ข้าเกลียดการเดินทางแบบนี้ที่สุด”

“อย่างน้อยเจ้าก็ยังรอด”

เธอเงยหน้าขึ้นมอง มังคละกระโดดลงมาตามหลังเธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ชิชะ มาให้ข้าด่าเสียดี ๆ ! เจ้าถีบข้าลงมาแบบนี้ได้หยั่งใด ?”

“ข้าช่วยให้เจ้าลงมาถึงพื้นเร็วขึ้น”

“ข้าขอวิธีที่นุ่มนวลอ่อนโยนกว่านี้ได้ก่อ?”

“บ่ะมี”

“นั่นเต๊อะ น่าจังขนาด !”

แสงคำยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ

เบื้องหน้าของพวกเขา…

คือกำแพงเมืองโบราณที่พังทลาย

อากาศรอบตัวเย็นยะเยือก แต่ไม่ใช่เพราะลมหนาว

มันเป็นความเย็นของเมืองที่ถูกทิ้งร้าง…

เมืองที่เคยถูกเปลวเพลิงเผาผลาญ

“เวียงแสนพรหม…”

เธอพึมพำออกมา หัวใจเต้นรัวเมื่อมองเห็นซากเมืองที่เหมือนเคยเห็นมาก่อน

“นี่มัน…”

“อดีตของเจ้า”

เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

“แม่คำปัน!”

แสงคำหันไปมอง แม่คำปันยืนอยู่ตรงนั้น

ข้าง ๆ นางคือบุญปั๋นและจันทร์ผา ทั้งสองคนดูอิดโรยเล็กน้อย แต่ยังแข็งแรงดี

“เจ้าเป๋นใดพ่อง?” จันทร์ผาถาม

“ข้ารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด เหมือนปาฏิหาริย์ ถึงจะเจ็บตั๋วไปสักหน้อย!”

“ข้าว่าไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นโชคร้ายที่หนักกว่าเดิม” บุญปั๋นพึมพำ

“ข้าไม่อยากฟังอะไรที่ทำให้ข้ากลัวไปกว่านี้แล้ว!”

แม่คำปันก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะมองไปรอบ ๆ

“เราอยู่ที่เวียงแสนพรหมแล้ว”

“แม่นแล้ว… แต่เมืองนี้มัน…”

“มันยังบ่ะใจ้เมืองที่เจ้าควรจำ”

แสงคำขมวดคิ้ว “หมายความว่าไง?”

แม่คำปันหันมาสบตาเธอ

“เจ้าจะได้เห็นมัน… ในวันที่มันยังมีชีวิต”

“และเจ้าจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”

เวียงแสนพรหมในปัจจุบัน

จากเมืองที่เคยยิ่งใหญ่รุ่งเรืองในอดีต บัดนี้เหลือเพียงซากปรักหักพัง

กำแพงหินที่เคยสูงตระหง่านถูกเถาวัลย์พันเกี่ยว เจดีย์ที่เคยเป็นศูนย์กลางของเมืองเอียงตัวราวกับจะล้ม ถนนที่เคยเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ขาย บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยดินแห้งและเศษหินที่แตกร้าว

แสงคำยืนมองมันอย่างเงียบงัน หัวใจเธอเต้นแรงอย่างประหลาด

เธอเคยเห็นมันมาก่อน… ไม่ใช่ในสภาพนี้… แต่ในช่วงที่มันยังมีชีวิต

เธอสั่นศีรษะแรง ๆ พยายามไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไป

“แม่…” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว “นี่คือที่ที่ข้าต้องมาแต้ ๆ กาเจ้า?”

แม่คำปันพยักหน้า สายตาของนางไม่ได้มีแค่ความเคร่งขรึม แต่มันเต็มไปด้วยอะไรบางอย่าง… ที่แสงคำอ่านไม่ออก

“เจ้าต้องเห็นมัน… ในแบบที่มันเคยเป็น”

“ข้าควรทำยังไง?”

“เดินไปข้างหน้า”

แสงคำกลืนน้ำลาย เท้าของเธอหนักราวกับถูกถ่วงด้วยหิน

เธอพยายามจะก้าวขาไปทางข้างหน้า แต่ร่างกายของเธอกลับสั่นเทา

“ข้า…”

“เจ้ากลัวหรือ?” แม่คำปันถาม

“ข้าไม่รู้” เธอส่ายหน้า “ข้ารู้สึกเหมือน…”

เธอมองไปยังซากปรักหักพังเบื้องหน้า ก่อนจะพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ข้าไม่ควรกลับมา”

ทุกคนเงียบกริบ แม้แต่สายลมยังหยุดพัดชั่วขณะ

มังคละมองแสงคำด้วยแววตาครุ่นคิด

“เจ้าแน่ใจไหมว่าเจ้าพูดแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว?”

“ข้า…” แสงคำเม้มปากแน่น ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นออกไป?

“เจ้าควรกลับมา” แม่คำปันพูดเสียงเรียบ “เพราะเวียงแสนพรหมเรียกหาเจ้า”

“ข้าไม่เข้าใจ!”

แสงคำกรีดร้อง เธอรู้สึกเหมือนถูกโยนเข้าไปในเกมที่เธอไม่รู้กฎกติกา!

“ข้าเป็นใครกันแน่? แล้วข้าต้องรู้อะหยัง? ทำไมข้าต้องเป็นคนที่มาที่นี่?”

แม่คำปันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดคำที่ทำให้ทุกคนขนลุก…

“เพราะเจ้าคือผู้ที่ทำให้มันพินาศ ล่มสลายอย่างที่เห็นในตอนนี้”

“และเจ้าคือผู้เดียวที่จะกอบกู้มันได้”

“เฮ้ย! ข้าแหมแล้วกา เป็นคนอื่นได้ก่อ? “

แสงคำแทบจะเป็นลม เธอรู้สึกเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

“ข้าทำลายเมือง! ข้าจะทำได้ยังไง?”

“เพราะเจ้า…” แม่คำปันพูดช้า ๆ

“ไม่ใช่คนแรกที่มาอยู่ในร่างนี้”

“หะ…”

“แสงคำในตอนนี้… ไม่ใช่แสงคำเพียงคนเดียวที่เคยมีอยู่”

“เจ้าเคยมีชีวิตมาก่อน”

“และในชาตินั้น เจ้าคือผู้ที่ทำให้เวียงแสนพรหมล่มสลาย”

แสงคำหายใจหอบถี่ เธอเริ่มเข้าใจสิ่งที่แม่คำปันพยายามบอก

เธอ… ไม่ใช่แค่เด็กสาวธรรมดา

เธอเคยมีชีวิตมาก่อน

เธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

และเธอ… อาจเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่นี่

เธอหันไปมองมังคละ บุญปั๋น และจันทร์ผา พวกเขาก็จ้องเธออย่างไม่เชื่อสายตา

“แปลว่า…” บุญปั๋นพูดขึ้นช้า ๆ “แสงคำ… คือเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหมงั้นหรือ?”

“เจ้านาง! “

แสงคำแทบสำลักอากาศ “ข้าเป็นเจ้านาง!”

แม่คำปันพยักหน้า “ในชาติก่อน… เจ้าไม่ได้เป็นแค่หญิงสาวธรรมดา”

“แต่เจ้าเป็นเจ้านางสร้อยคำ”

“ผู้ที่เป็นเจ้าของเวียงแสนพรหม”

“และผู้ที่ทำให้มันล่มสลาย”

“เฮ้อ! ข้าอยากเป็นลมแล้ว!”

“แล้วพวกข้าล่ะ?” มังคละถามขึ้นมา “ถ้าแสงคำเคยเป็นเจ้านาง… ข้าล่ะ? บุญปั๋นล่ะ? จันทร์ผาล่ะ?”

แม่คำปันมองพวกเขาอย่างเยือกเย็น ก่อนจะพูดออกมาช้า ๆ

“พวกเจ้า…”

“คือคนที่เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของเวียงแสนพรหมทั้งหมด”

“หา!”

“มังคละ… เจ้าเคยเป็นขุนพลเอกของเมืองนี้ แต่เจ้ามีส่วนทำให้ศัตรูล้อมเมือง เข่นฆ่าชาวเมืองเวียงแสนพรหม”

มังคละตาโต “ข้า! เป็น..... นักรบ! แต่ข้าทำผิดต่อเมือง”

“บุญปั๋น… เจ้าเคยเป็นลูกชายของคหบดีผู้มั่งคั่งร่ำรวยในเมืองนี้ และเป็นข้าราชบริพารของเจ้านางสร้อยคำ เจ้าหูเบาเชื่อศัตรู”

บุญปั๋นขมวดคิ้วทำหน้าเจื่อน “แต่ถึงอย่างงั้นข้าก่อเป็นคนรวยคนเก่งแม่นก่อ?”

“จันทร์ผา…”

จันทร์ผาเลิกคิ้วรอคำตอบ

แม่คำปันมองเธอ… ก่อนจะพูดเสียงเบา

“เจ้า… คือคนสนิทของเจ้านางและเป็นคนทำร้ายผู้คนในเวียงแสนพรหม”

“……”

“เฮ้ย! นี่มันเหลือเชื่อชัด ๆ!” แสงคำร้องลั่น “ข้าเป็นเจ้านาง เพื่อนข้าเป็นขุนพล มีขุนนางด้วย แล้วจันทร์ผายังเป็นคนทรยศอีก”

จันทน์ผามองแม่คำปันด้วยสีหน้าซีดเผือด มือเย็นเฉียบ

“ข้าทำอะหยังบ่ะดีไว้กาเจ้า แม่คำปัน ได้โปรดบอกข้า?”

“เจ้าคือคนที่เปิดประตูเมืองให้ศัตรูเข้ามา”

“หา!”

“และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมด”

“เพราะพวกเจ้าทุกคนหักหลังเวียงแสนพรหม”

แสงคำแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น มันมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว

“นี่ข้ากำลังอยู่ในเรื่องอะไรกันแน่…”

“ในเรื่องที่เจ้าเป็นต้นเหตุของทั้งหมด” แม่คำปันพูด “และเจ้าคือผู้เดียวที่ต้องแก้มัน”

“ข้าต้องแก้มันยังไง!”

“เริ่มจากการเห็นมันก่อน”

แม่คำปันยกมือขึ้น…

ก่อนที่อากาศรอบตัวพวกเขาจะเริ่มเปลี่ยนไป

“วูบบบบบ!”

ทุกสิ่งรอบตัวหมุนคว้าง

เงาหมอกกระจายออกจากพื้น แสงสีทองอ่อน ๆ สาดส่องขึ้นมาจากรอยแตกร้าวของดิน

และเวียงแสนพรหม… ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ไม่ใช่เวียงแสนพรหมที่เป็นซากปรักหักพัง

แต่เป็นเวียงแสนพรหม ในช่วงที่มันยังรุ่งเรือง

และแสงคำกำลังยืนอยู่ท่ามกลางมันในอดีต

 “วูบบบบบ!”

โลกฉากเดิมเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา

แสงคำรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่มิติที่แตกต่าง อากาศรอบตัวเธอร้อนขึ้น กลิ่นเถ้าถ่านจาง ๆ คละคลุ้งอยู่ในจมูก แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้น…

เธอไม่ได้อยู่ในซากเมืองร้างอีกต่อไป

เบื้องหน้าเธอ

เวียงแสนพรหมในอดีตปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์

“โอ้วว…นั่นมัน...เหลือจะเชื่อ !”

แสงคำอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างขณะที่มองรอบตัว

กำแพงเมืองที่เคยเป็นซากหินแตกร้าว… ตอนนี้สูงตระหง่าน แข็งแกร่ง และถูกประดับด้วยธงผืนใหญ่

ลานกว้างที่เคยเต็มไปด้วยฝุ่นดิน… ตอนนี้มีพ่อค้าแม่ค้าขายของกันอย่างคึกคัก

เสียงฆ้องดังขึ้น ทหารในชุดเกราะเดินลาดตระเวน ชาวเมืองแต่งกายด้วยผ้าทอสีสดใส แต่ละคนมีรอยยิ้ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความรุ่งเรือง

มันคือเมืองที่มีชีวิต… ไม่ใช่ซากปรักหักพังอีกต่อไป

“แม่!” แสงคำหันขวับไปมองแม่คำปัน “นี่มันตี้ไหน?”

“นี่คือเวียงแสนพรหม”

“ข้าเจ้ารู้แล้ว! แต่ทำไมข้าถึงมาเห็นมันแบบนี้?”

แม่คำปันไม่ตอบ เธอเพียงยิ้มบาง ๆ

มังคละ บุญปั๋น และจันทร์ผาก็มองรอบตัวด้วยความตื่นตะลึงไม่แพ้กัน

“นี่มัน…” บุญปั๋นพูดเสียงแผ่ว “เป็นไปได้หยั่งใด?”

มังคละเอื้อมมือไปแตะกำแพงเมืองเบื้องหน้า สัมผัสของมันเย็นและแข็งจริง ๆ

“นี่มัน… ไม่ใช่แค่ภาพลวงตา”

“ของแท้หมู่เฮา!”

“ข้าบ่ะเข้าใจ…” แสงคำกระซิบ หัวใจของเธอเต้นรัวแรงจนแทบหลุดออกมา

เธอกำลังยืนอยู่ในอดีตจริง ๆ หรือ?

นี่คือเมืองที่เธอเคยทำลายจริง ๆ หรือ?

และ… เธอเป็นใครกันแน่?

เธอหันไปมองรอบตัว แล้วจู่ ๆ คนในตลาดก็เริ่มหันมามองเธอ

“นางมาแล้ว!”

เสียงใครบางคนตะโกนขึ้น!

“เจ้านางสร้อยคำเสด็จมาแล้ว!”

“หาาาา!” แสงคำร้องลั่น “ใครเสด็จ?ข้างั้นเรอะ?”

ไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว… กลุ่มชาวเมืองจำนวนหนึ่งก็พากันก้มศีรษะลง ทำความเคารพเธอ!

“ถวายบังคมเจ้านาง!”

“เฮ้ย!”

แสงคำแทบอยากวิ่งหนี เธอหันไปมองแม่คำปันอย่างตื่นตระหนก

“แม่! นี่มันอะไร? ทำไมพวกเขาเรียกข้าเจ้าแบบนั้น?”

แม่คำปันยังคงสงบนิ่ง ราวกับทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น

“เพราะในอดีต… เจ้าคือเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม”

“และตอนนี้เจ้ากลับมาสู่ตำแหน่งของตนเองอีกครั้ง”

“โอ้ยยย! ข้ายังบ่ะพร้อมสำหรับเรื่องนี้!”

แสงคำถอยหลังไปสองก้าว แต่กลุ่มคนที่ล้อมเธอไว้กลับเดินเข้ามาใกล้ขึ้น

“เจ้านาง ข้าคิดถึงท่านยิ่งนัก!” หญิงชราผู้หนึ่งพูดขึ้น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม

“เจ้านางสร้อยคำของเรา!” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยิ้มกว้าง “ท่านเสด็จกลับมาแล้ว!”

“ข้ายังไม่แน่ใจว่าข้ากลับมาถูกหรือเปล่า! แล้วกลับมาทำไม?”

“เจ้ากลับมาถูกต้องแล้ว”

เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

ทุกคนแหวกทางออก… ก่อนที่ร่างของชายคนหนึ่งจะก้าวออกมาจากเงาไม้

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดชาวบ้านธรรมดา แต่ทว่าเขามีลักษณะแตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าคมคาย ดวงตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและแฝงแววบางอย่างที่แสงคำอ่านไม่ออก

“ข้ารอท่านมานานเหลือเกิน… เจ้านางสร้อยคำ”

เขาโค้งศีรษะให้เธอ แต่ดวงตากลับจ้องเธอราวกับกำลังประเมินบางสิ่ง

“เฮ้ยย! นี่มันเรื่องอะหยังแหมแล้ว! อ้ายเป็นไผกาเจ้า ?”

“ไผน่ะ หล่อน้อยกว่าข้าหน้อย?” มังคละกระซิบกับบุญปั๋น

“ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน” บุญปั๋นตอบเสียงแผ่ว

“ข้าคือ อินทร์แปง”

ชายหนุ่มพูดช้า ๆ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องมาที่แสงคำ

“อินทร์แปง…” แสงคำพึมพำ ชื่อนี้… ทำไมเธอรู้สึกคุ้นเคย?

“ท่านจำข้าไม่ได้หรือ?”

เขายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพูดต่อ

“ข้าเคยเป็นอาวุธและคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่าน”

“อาวุธและคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์!”

แสงคำแทบหายใจไม่ออก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอีก!

“เจ้าสร้างข้ามา ฉะนั้นเจ้าคือผู้ให้กำเนิดข้า”

“เฮ้ย ! อย่าบอกนะ ว่าเจ้าคือลูกชายของข้า ! นี่ข้ามีผัวแล้วหรือนี่ ไม่นะ !”

อินทร์แปงหัวเราะเบา ๆ

“ท่านจำไม่ได้… จะว่าใช่ก็ได้ ไม่ใช่ก็ได้”

“ข้า…” แสงคำตัวแข็ง นี่มันมากเกินไปแล้ว!

เธอกลับมาที่เวียงแสนพรหม…

เธอเป็นเจ้านาง…

เธอมีลูกชายที่บอกว่าตัวเองเป็น อาวุธและคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์…

และเขายังมองเธอเหมือนรู้อะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้…

“ข้าจะเป็นลมแล้วแม่!”

แม่คำปันระบายยิ้มด้วยความเอ็นดู “เจ้าจะหมดสติตอนนี้บ่ะได้ เพราะเจ้ามีเรื่องต้องรู้มากกว่านี้อีก”

“โอ้ย! ข้ารับไม่ไหวแล้ว!”

ชายแปลกหน้าค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้แสงคำ ก่อนจะพูดขึ้นมาช้า ๆ น้ำเสียงของเขาก้องกังวาน ทุกคนยืนนิ่งตั้งใจฟัง

“ข้ารอท่านกลับมา… เพื่อทำในสิ่งที่ท่านเคยตั้งใจจะทำ”

“อะไร?”

“ข้าเป็นของของเจ้านาง”

ชายหนุ่มพูดเรียบ ๆ แต่ในน้ำเสียงของเขามีบางอย่างที่ทำให้ทุกคนสะดุด

“ข้าเป็นเงาของนาง เป็นดาบเป็นอาวุธคู่ใจของนาง เป็นสิ่งที่นางสร้างขึ้นมาเอง”

แสงคำหน้าซีดเผือด “ข้า… สร้างเจ้าขึ้นมาอั้นกา? แต่อันที่จริง ถ้าเป็นลูกข้าจริง เจ้าดูแก่กว่าข้าหลายปีเลยละ “

“เอ่อ ! ข้าล้อเล่น คราวนี้จริงจังละ ข้าจะสร้างเจ้าไปทำไม? ไหนบอกมาให้เข้าใจกำ? ตอนนี้ในหัวข้าจะระเบิดแล้ว  ปล่อยข้าฮื่อทำใจก่อนได้ก่ออ้ายอินทร์แปง!”

 “เดี๋ยวก่อนเน่อ ข้าอยากให้ทุกคนหยุดก่อน!”

แสงคำยกมือขึ้น ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียว

“ข้าจะสติแตกแล้ว! ข้าขอเวลาเรียบเรียงเรื่องตึงหมดตึงมวล! ข้าต้องการน้ำเย็น ๆ !”

มังคละเลิกคิ้ว เขากอดอกก่อนจะหันไปมองชายลึกลับ

“สิ่งที่เจ้าอู้มาเป็นความจริงแม่นก่อ ?”

ชายหนุ่มหันมามองมังคละ เขายิ้มกว้างแต่แววตาเย็นยะเยือก

“ข้าคือผู้ที่ภักดีต่อเจ้านางสร้อยคำ ชื่อข้า อินทร์แปง ก็เป็นชื่อที่ท่านตั้งให้”

“โอ้ย! บ่ะเอาคำตอบแบบนี้!” แสงคำกรีดร้อง

บุญปั๋นขมวดคิ้ว “ชื่อนั้นมันฟังดู… อันตรายแปลก ๆ”

จันทร์ผาพยักหน้า “มันแปลกจริง ๆ เหมือนชื่อของใครบางคนที่ไม่ควรมีตัวตน”

แสงคำเหงื่อแตกพลั่ก เธอรู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่ที่ได้ยินชื่อเขา

“ข้าคือดาบของเจ้า คือมือสังหารของเจ้า คือเงาที่ติดตามเจ้าทุกที่”

เขาหยุดเดิน… ก่อนจะจ้องตาเธอแน่วแน่

“และข้า… คือต้นเหตุที่ทำให้เจ้าเผาเมือง”

“เดี๋ยวๆๆๆๆ!” แสงคำยกมือขึ้นรัว ๆ “หยุดก่อน! ข้าต้องรับรู้ความจริงไปกี่เรื่องกี่ราวกันแน่ ?”

“จนกว่าความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย”

มังคละมองอินทร์แปงด้วยสายตาเย็นชา เขายกมือจับดาบเหล็กข้างเอวทันที

“แล้วเจ้าจะทำอะไรกับแสงคำอีก?”

อินทร์แปงหันไปมองมังคละช้า ๆ สายตาของเขาเฉียบคมเหมือนใบมีด

“ข้ากลับมาเพื่อทำในสิ่งที่ข้ายังทำไม่สำเร็จ”

“ทำอะหยัง?”

“ทำให้เจ้านางสร้อยคำระลึกถึงอดีตทั้งหมด”

แสงคำหันไปหาแม่คำปัน เธอเริ่มสติแตกจริง ๆ แล้ว!

“แม่! นี่ข้าเคยเป็นหัวหน้าโจรชั่วลัทธิหลอกจุคนแม่นก่อ”

แม่คำปันถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบเรียบ ๆ

“บ่ะใจ้  แต่เจ้าคือเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม”

“แล้วทำไมข้ามีเงาสังหารตามติดตัว!”

“เพราะเจ้าสร้างเขาขึ้นมา”

“โอ้ยน่อ! ข้าต้องถามคำนี้กี่รอบ! ข้าสร้างเขาขึ้นมาทำไม?”

อินทร์แปงหัวเราะเบา ๆ น้ำเสียงของเขาฟังดูรื่นหู แต่มันกลับแฝงไปด้วยความน่ากลัวบางอย่าง

“เพราะเจ้า… ต้องการให้ข้าฆ่าศัตรูของเจ้า”

ทุกคนเงียบกริบ

มังคละกำดาบในมือแน่นขึ้น บุญปั๋นขยับมาจับด้ามหอกของเขา จันทร์ผามองอินทร์แปงด้วยสายตานิ่ง ราวกับเธอกำลังวิเคราะห์บางอย่างอยู่

แสงคำกลืนน้ำลายลงคอ เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลยแม้แต่น้อย

“ข้า…” เธอพึมพำ “ข้าเป็นคนสั่งให้เจ้าฆ่าคนจริง ๆ หรือ?”

อินทร์แปงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย

แสงคำแทบกรี๊ดลั่นป่า เธอแทบอยากจะวิ่งเอาหัวโขกต้นไม้แล้วตื่นขึ้นมานอนในบ้านอุ้ยก๋องคำ!

“ข้าไม่มีทางสั่งแบบนั้น!”

“แต่นั่นคือสิ่งที่เจ้าทำ”

“ข้าคงถูกผีเข้าแน่ ๆ! ข้าไม่มีทางเผาเมืองตัวเองแน่ ๆ!”

“แต่เจ้าทำไปแล้ว”

“เฮ้ยยยยย!”

มังคละรีบขยับตัวไปยืนขวางหน้าแสงคำทันที เขาจ้องมองอินทร์แปงอย่างระแวง

“ถ้าเจ้าคิดจะทำอะไรแสงคำ ข้าจะฟันหัวแบะเลย”

อินทร์แปงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นในท่าทางยอมแพ้

“ข้าไม่ได้มาทำร้ายเจ้านาง”

“แล้วเจ้ามาทำอะหยัง?”

อินทร์แปงหยุดนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาช้า ๆ

“ข้ามาเพื่อพาเจ้านาง… ไปยังสถานที่ที่ทุกอย่างเริ่มต้น

และกู้เวียงแสนพรหมคืนมา !!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 6 เจ้าของบัลลังก์ที่ถูกลืม

    “กู้เวียงแสนพรหม?”แสงคำแทบสำลักอากาศ นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกแล้วเธอกลับมาที่เวียงแสนพรหม เมืองที่เธอเคยทำลายเธอคือเจ้านาง ผู้ที่ถูกจดจำเธอมีลูกชาย และเขากำลังบอกให้เธอกู้คืนเมืองนี้“นี่ข้าต้องเป็นเจ้านางคนนั้นแต้ ๆ กานิ?”เธอหันขวับไปมองอินทร์แปง หวังว่าจะได้รับคำอธิบายดี ๆ สักอย่างแม่คำปันยืนกอดอก สีหน้าของนางนิ่งสนิทราวกับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว“แม่!” แสงคำเรียกเสียงหลง “ข้าเจ้าควรจะทำจะใดดี?”“เจ้าเป็นเจ้านาง” แม่คำปันตอบสั้น ๆ “เจ้าต้องตัดสินใจเอง”“เฮ้อ! ขอเต๊อะบ่ะเอาคำตอบแบบนี้ได้ก่อ!”“ใจเย็นก่อน เจ้านางสร้อยคำ”เสียงทุ้มของอินทร์แปงดังขึ้น เขามองแสงคำด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น“ท่านอาจจำอะไรไม่ได้ แต่ข้ามั่นใจว่า… ความรู้สึกของท่านที่มีต่อเวียงแสนพรหม ยังไม่เปลี่ยนไป”“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร!”แสงคำพยายามจะถอยหนี แต่ทุกสายตารอบตัวกลับจับจ้องเธออย่างแน่วแน่ชาวเมืองมองเธอเหมือนเป็นความหวังอินทร์แปงมองเธอเหมือนเป็นคำตอบอินทร์แปงมองเธอเหมือนเป็นปริศนาที่เธอต้องแก้ให้ได้เองและที่สำคัญที่สุดเธอเองก็มองตัวเองไม่ออกว่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 7 เงาของคนทรยศ

    “มันต้องมีเหตุผลอื่น…”“มันต้องมีใครบางคนทำให้ข้าต้องเลือกแบบนี้!”“ถูกต้อง”เสียงของอินทร์แปงเยือกเย็น เขาหันมามองแสงคำอย่างจริงจัง“และเจ้าจะได้เห็นว่า… ใครคือคนที่ทำให้เจ้าเลือกทางนี้”แสงคำกลืนน้ำลาย เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมหรือไม่แสงคำหลับตาลง ทำดวงจิตให้นิ่ง ภาพในอดีตถูกฉาย เธอเห็นมังคละ เคยเป็นองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้านางสร้อยคำบุญปั๋น เป็นขุนนางผู้กล้าหาญที่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเวียงสร้อยคำจันทน์ผา เป็นผู้คุมคลังสมบัติและเป็นผู้ดูแลเจ้านางสร้อยคำแต่เมื่อเธอมองไปที่ภาพอดีตอีกครั้งเธอเห็นตัวเองในอดีตหันไปมองใครบางคนที่ยืนอยู่กลางพระราชวังบุคคลหนึ่ง… ที่ทำให้เธอตัดสินใจเผาเมืองร่างนั้นยืนอยู่ท่ามกลางเงา สีหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาเต็มไปด้วยเล่ห์กลเธอเพ่งมอง และเมื่อร่างนั้นก้าวออกมาจากเงามืด…เธอเห็นใบหน้าของจันทน์ผา“จันทน์ผา… เป็นคนทรยศงั้นหรือ?”แสงคำหันขวับไปมองจันทน์ผาในปัจจุบัน หญิงสาวผู้นั้นยืนนิ่ง สีหน้าของนางไม่ได้แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อยแต่ดวงตาของนาง… เต็มไปด้วยบางอย่างที่ยากจะคาดเดาแสงคำหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทุกคน ราวกับเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 8 คำบอกเล่าของนักโทษ

    “อิ๊! กลิ่นอะหยังบ่ะฮู้!” บุญปั๋นยกแขนปิดจมูกทันทีกลิ่นที่บุญปั๋นพูด มาจากภายในห้องนั้นซึ่งมืดสนิทรไม่มีแสงใดจากภายนอกเล็ดรอดเข้าไปได้ อินทร์แปงยกคบเพลิงเข้าไปใกล้ ช่องว่างระหว่างบานประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นบางสิ่ง......บางสิ่งที่ขยับได้“เฮ้ย ๆๆๆ ผ่อฮั่น! มีอะหยังอยู่ในนั้น!” บุญปั๋นร้องเสียงหลงดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง... ค่อย ๆ เปิดขึ้นจากความมืด“เจ้ามาแล้วสินะ... เจ้านางของข้า”“ฟึ่บบบบ!”จู่ ๆ เงามืดในคุกใต้ดินก็มีบางสิ่งเคลื่อนไหวและร่างของใครบางคน… ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากความมืดแสงจากคบเพลิงกระพริบไหว ราวกับไม่อยากส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของบุคคลนั้นแต่แสงคำรู้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้คือเขาที่อินทร์แปงพูดถึงนักโทษที่ถูกขังอยู่ใต้ดินผู้ที่เกี่ยวข้องกับเธอในอดีตและอาจเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด“เจ้ามาแล้ว…”เสียงของเขานุ่มลึก แต่แฝงไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้ขนลุก“ข้ารอเจ้านานเหลือเกิน… เจ้านางของข้า”แสงคำหายใจสะดุด เธอรู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงให้อยู่กับที่เธอจ้องมองบุคคลปริศนาตรงหน้า… แต่เงามืดบดบังใบหน้าของเขาไว้เกือบหมด“เจ้าคือใคร?” เธอถามเสียงสั่นแม้ในความมืดก็รู้ได้ว่าชา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 9 ความทรงจำที่ไม่อาจลบ

    “เจ้าก็ยังไม่ลืมข้าจริง ๆ”คำพูดของเจ้าทิพย์อมร ยังคงดังก้องในหูของแสงคำเธอยืนหอบหายใจ เหงื่อชื้นไหลซึมอยู่บนใบหน้า แม้ปีศาจเสือดำจะหายไปแล้ว แต่ในอกของเธอกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดเหมือน… มันยังไม่จบ“ข้าว่า… เราควรกลับไปพักก่อนดีไหม?”มังคละเอ่ยขึ้น ดวงตาของเขามองแสงคำด้วยความเป็นห่วง“ข้าก็คิดแบบนั้น”บุญปั๋นพยักหน้า“ข้ารู้สึกเหมือนพวกเราเพิ่งวิ่งหนีผีมาเป็นร้อยเป็นพันตัว”“พวกเจ้าลืมไปหรือว่า…”จันทน์ผาแทรกขึ้นมาช้า ๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ“เรื่องนี้… ยังไม่จบ”“จบสิ!”แสงคำโพล่งขึ้นมาทันที“ข้าปราบปีศาจไปแล้วนะ! เห็นกับตาแล้วว่าเจ้าอสุรกายดำ ๆ ผีเสือดำตัวเหม็นสาบ นั่น แหลกเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว!”“แต่เจ้าเคยเห็นอะหยังในชีวิตนี้… ที่ง่ายขนาดนั้นก๋า?” จันทน์ผาเลิกคิ้ว น้ำเสียงของเธอแฝงความไม่ไว้ใจเต็มที่“เอ่อ…” แสงคำอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ก็จริง… ตั้งแต่มาเวียงแสนพรหม ไม่มีอะไรสักอย่างที่ง่ายเลยเจ้าทิพย์อมรยังยืนมองพวกเธออยู่จากมุมห้อง สายตาของเขายังเต็มไปด้วยเจ้าเล่ห์และบางอย่างที่คาดเดาได้ยาก“เจ้านาง…” เขาเอ่ยขึ้นช้า ๆ“เจ้าจำข้าได้จริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าก่อดายพร่ำแต่ถา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 10 คำสาปตราศิลากัลป์

    “อย่าคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เจ้าไม่ใช่ผู้ชนะ…”“…เพราะมันกำลังมา”เสียงกระซิบจากเงามืด… ฟังดูทั้งแผ่วเบาและน่าขนลุกจนทุกคนเย็นวาบไปทั้งตัว“อะหยังแหมเหมาะ! ไผแหมล่ะเนี่ย? มาติก ๆ บ่ะฮู้จักจบจักสิ้น”แสงคำบ่นปนเดือดดาล ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด“ป้อเฒ่ามันก่ะ ! นี่มันจะมีผีกี่ตั๋วกันแน่?”มังคละมองซ้ายมองขวา “ข้าว่าข้าจะเริ่มนับจำนวนผีไว้แล้วนะ… นี่ตัวที่หนึ่งร้อยห้าแม่นก่อ?”“หนึ่งร้อยหกแล้วจ้า” บุญปั๋นเสริมหน้าตาย “ข้านับมาตั้งแต่ที่หมู่บ้านแล้ว”“เอ่อ… พวกเจ้าช่วยเครียดกับข้าพ่องได้ก่อ?”อินทร์แปงเอนตัวพิงกำแพง ร่างของเขาอ่อนแรงจากการใช้พลังมหาศาลในการสู้เมื่อครู่“เสียงเมื่อกี้…”เขาพูดช้า ๆ พลางหายใจแรง“มันไม่ใช่เสียงของเสนาบดีศรีพงษาแน่นอน”“ข้าเห็นด้วย”จันทน์ผาพยักหน้า “เสียงนี้… ฟังดูเหมือนบางสิ่งที่อยู่มานาน… นานยิ่งกว่าศรีพงษาเสียอีก”“ปั๊ดโทะ?”แสงคำเบิกตาโต“อย่าบอกนะว่าเรากำลังรับมือกับตัวร้ายตำนานตัวป้อตัวแม่ ที่เป๋นตัวต้นตระกูลสิ่งชั่วร้ายของทั้งหมด ขั้นสูงสุด อะหยังสักอย่างน่ะ!”มังคละถอนหายใจหนัก ๆ“ข้าว่าตั้งแต่เจ้าก้าวเท้าเข้ามาในเวียงแสนพรหม… ชีวิตเจ้าก็เป็นตำนานไปแล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 11 ปลุกปีศาจที่หลับใหล

    “ระวังฮื่อดี !”คำพูดของอุ้ยคำก๋องดังก้องอยู่ในหัวของแสงคำ ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกว่าเรื่องเลวร้ายยังไม่จบ“ห้ะ! “ แสงคำร้องเสียงหลง “ก่อตะกี้ศรีพงษาโดนข้าสลายร่างเป๋นปุ๋ยไปแล้วบ่ะใจ้กาเจ้าแม่อุ้ย?”“แม่น” อุ้ยคำก๋องพยักหน้า “แต่ศรีพงษาเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น”“เบี้ยตัวหนึ่ง หมายถึงลูกหาบลูกน้องแม่นก่อเจ้า เอ่อนั่น ! ไปกั๋นใหญ่ละทีนี้?”แสงคำอ้าปากค้าง “แล้วตัวจริงมันเป๋นไผเจ้าแม่อุ้ย?”อุ้ยคำก๋องจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ…“ตัวจริง… คือปีศาจที่หลับใหลอยู่ใต้วิหารศิลากัลป์นี้”“และมันกำลังจะตื่นขึ้นมา”“โอ้ย! อะหยังแหมล่ะเนี่ย!” แสงคำโอดครวญพลางขยุ้มผมตัวเอง“ข้าแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่อยากปิ๊กบ้านไปกิ๋นข้าวกับแม่อุ้ยคำก๋อง! ยะหยังต้องมาสู้กับปีศาจโตยกา?”“ตอนนี้เจ้าไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาอีกแล้ว” เอื้องฟ้าแทรกขึ้น “เจ้าคือผู้ที่สืบสายเลือดเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม…”“และเจ้านั่นแหละ…” อุ้ยคำก๋องเสริมเสียงหนักแน่น“ต้องเป๋นเจ้านางสร้อยคำเต้าอั้นที่จะหยุดปีศาจตนนั้นได้”“โอ๊ย! ทำไมทุกอย่างต้องมาลงที่ข้าด้วย!”“เพราะเจ้าสร้างมันขึ้นมา”“เฮอะ !” แสงคำหันขวับไปทางอุ้ยคำก๋อง “

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 12 อาถรรพ์แห่งเวียงแสนพรหม

    เวียงแสนพรหม คืนสู่ความสงบอีกครั้งหลังจากพายุแห่งความวุ่นวายผ่านพ้นไป...แสงคำยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงจันทร์ส่องแสงนวลตา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลแม้เจ้าเมืองศิลป์จะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว... แต่บางอย่างยังคงคลุมเครือและดูเหมือนความกังวลนี้จะทำให้แสงคำเครียดยิ่งขึ้น“ข้าว่าข้าควรดีใจที่เรื่องมันจบแล้วนะ…” แสงคำพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“แต่ใจข้ายังรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่”“ข้าก็เหมือนกัน” เอื้องฟ้า ซึ่งในชาติปัจจุบันคือป้าคำป้อของเธอเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้มัน… ง่ายเกินไป”“โอยน่อ !” มังคละร้องเสียงหลง “นี่เจ้ายังคิดว่าเรื่องมันง่ายอยู่แหมกานิ!”“แม่น” เอื้องฟ้าตอบจริงจัง “ข้าว่ามีบางอย่าง… ที่หมู่เฮายังบ่ะฮู้กั๋นแต้เตื้อ”“เจ้าอย่ามาหลอกข้านักนา!” บุญปั๋นร้องลั่น “ข้าอิดข้าเหนื่อยจ๋นจะเป็นลมแล้วเนี่ย!”“แล้วถ้ามันยังมีอะหยังโผล่มาแหม เจ้าจะเยียะจะใด จะทำยังไง ฮือ พ่อหนุ่มนักหนี?” เอื้องฟ้าเลิกคิ้ว“ก็… ก็…” บุญปั๋นหันไปมองจันทน์ผาที่หน้าเริ่มซีดไม่แพ้กัน“ข้า… ข้าจะอยู่ข้างหลังเจ้าไง”“เฮ้ย!” จันทน์ผาแหวเสียงสูง “ใครอยากเป็นโล่ให้เจ้ากันเล่า!”“พอ ๆ เถอะ!” แสงคำตวาดขึ้นพลางตบมือดังป

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 13 คำสาปที่เหลืออยู่

    “โหหห…วับวิบละลานตาข้าขนาด!”บุญปั๋นถึงกับหลุดคำอุทาน เมื่อสายตากวาดผ่านห้องสมบัติเก่าแก่ตรงหน้าทองคำแท่งเรียงซ้อนเป็นชั้น เหรียญเงินโบราณที่มีตราสัญลักษณ์ประหลาด อัญมณีที่ส่องแสงเยือกเย็นเหมือนแช่น้ำแข็งมาร้อยปี ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แสงคบเพลิงที่ไม่รู้จุดขึ้นเองได้ยังไง...เขาเดินเข้าไปช้าๆ หัวใจเต้นตุบตับแต่ยังไม่ทันได้แตะสมบัติ...เสียงเย็นเยียบ กังวาน ราวกับลมพัดจากปล่องนรก ดังขึ้นจากมุมมืดของห้อง“ข้า... ยังไม่อนุญาต...”เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่หนักแน่นจนพื้นสะเทือนบุญปั๋นสะดุ้ง หันขวับไปทางเสียง เหงื่อแตกซิกจากเงาดำมืดหลังเสาไม้ผุ เงาตะคุ่มรูปร่างสูงใหญ่ปรากฏ ดวงตาสีแดงฉาน ลุกโชนราวกับถ่านไฟเขาก้าวออกมาช้าๆ ผ้าคลุมสีดำยาวลากพื้น ไหลลมไม่มีลมพัดฝ่าเท้าไม่ได้สัมผัสพื้น... เขาลอยศรีพงษา... ปรากฏกาย“เฮ้ย !! ศรีพงษา? มาได้หยั่งใด เจ้าต๋ายไปแล้วบ่ะใจ้กา ”“แล้วใคร... บอกเจ้าว่าความตายจะหยุดข้าได้?”เสียงศรีพงษาเยือกเย็น แต่ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยแววโกรธแค้นสะสมพันปี“ข้า... รักษาขุมทรัพย์นี้ไว้ด้วยชีวิต และแม้แต่หลังความตาย เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์แตะ!”บุญปั๋นถอยหลังจนสะดุดกองทอง มือไม้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11

Bab terbaru

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 15 ปลดปล่อยวิญญาณ

    “เจ้าว่าตอนนี้หมู่เฮาบ่ะต้องเจอผีสางปีศาจแหมแล้วแม่นก่อ?”เสียงของมังคละถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ หลังจากเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายที่วิหารศิลากัลป์จบลง ทุกคนกลับมารวมตัวกันในหอเจ้านาง เพื่อหารือถึงสิ่งที่เกิดขึ้น“ข้าว่ามันหยั่งใดบ่ะฮู้” มังคละพูดต่อ “ถ้ามันจบแต้แล้ว ยิหยังตราศิลากัลป์ถึงยังมีแสงแดงส่องวาบเป็นระยะล่ะ?”แสงคำมองไปที่ตราศิลากัลป์ที่วางอยู่บนพาน แสงสีแดงริบหรี่นั้นยังคงเต้นระยิบระยับ ราวกับบางสิ่งกำลังรอจังหวะปะทุอีกครั้ง“เจ้ามันกึ้ดนัก(คิดมาก)ไปเองหรอกมังคละ?” บุญปั๋นพูดพลางขยับตัวออกห่างจากพานเล็กน้อย “อย่าให้มันมีเรื่องอีกเลยเถอะ… ข้าขออยู่แบบสงบ ๆ สักสองวันก็ยังดี!”“ข้าว่า… มังคละอาจพูดถูก” เจ้าเมืองศิลป์แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “วิญญาณของเจ้ามหาคำหลวงอาจหลุดพ้นแล้ว… แต่คำสาปนั้น…”“ยังไม่หมดไป” แสงคำพูดเสียงแผ่ว สายตาแน่วแน่จ้องตราศิลากัลป์ไม่กะพริบป้าคำป้อที่นั่งเงียบอยู่นาน พลันพูดขึ้นว่า...“ยังมีวิญญาณอีกดวง… ที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย”“ใครอีกล่ะป้า!?” บุญปั๋นร้อง “ข้าขนลุกหมดแล้วนะ!”“ข้ากำลังจะบอกว่า…” ป้าคำป้อหันมาสบตาทุกคน “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคำสาปนี้

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 14 กับดักอำพราง

    “ข้าไม่ชอบเลย…” แสงคำพึมพำ “หมอกนี้… มันแปลกเกินไป”“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” เจ้าเมืองศิลป์เดินเข้ามายืนข้าง ๆ “ข้าว่า… มันไม่ได้เป็นหมอกธรรมดา”แสงคำยืนอยู่บนกำแพงเมืองของเวียงแสนพรหม สายตาจ้องมองไปยังทิวเขาที่เคยสว่างไสว แต่ตอนนี้ถูกหมอกทึบปกคลุมจนมืดครึ้มราวกับหุบเขาปีศาจเวียงแสนพรหมในตอนรุ่งเช้า...หมอกหนาจัดแผ่ปกคลุมทั่ว ราวกับม่านสีเทาหนาเตอะที่บดบังทุกสิ่งจนแทบมองไม่เห็นปลายทาง “ข้าก็ว่าแบบนั้น” จันทน์ผาเสริม “หมอกนี้มีกลิ่นเหมือนควันธูปจาง ๆ ด้วย…”“แล้วพวกเจ้าคิดว่า…” มังคละเอ่ยเสียงเครียด “หมอกนี้มันเกี่ยวกับอสุราแห่งคำสาปก่อ?”“ถ้ามันใช่…” บุญปั๋นพึมพำ “งั้นหมอกนี่… อาจไม่ใช่แค่หมอกก็ได้…”พวกเขาเก็บความสงสัยไว้ และนำเรื่องที่มาปรึกษากันในเรือนพักของแสงคำ ขณะที่กำลังแสดงความคิดเห็นกันอยู่นั้น“ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าเรือนพัก ทุกคนสะดุ้งพร้อมหันไปมองทันที“ไผน่ะ?” แสงคำเอ่ยถาม“ข้าเอง…” เสียงของชายชราสั่นเครือดังลอดเข้ามา “ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกพวกเจ้า…”เมื่อประตูเปิดออก ชายชราผู้หนึ่งก้าวเข้ามาช้า ๆ เขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าซีดเผือดราวกับไร้เลือดฝาด“ท่าน

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 13 คำสาปที่เหลืออยู่

    “โหหห…วับวิบละลานตาข้าขนาด!”บุญปั๋นถึงกับหลุดคำอุทาน เมื่อสายตากวาดผ่านห้องสมบัติเก่าแก่ตรงหน้าทองคำแท่งเรียงซ้อนเป็นชั้น เหรียญเงินโบราณที่มีตราสัญลักษณ์ประหลาด อัญมณีที่ส่องแสงเยือกเย็นเหมือนแช่น้ำแข็งมาร้อยปี ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แสงคบเพลิงที่ไม่รู้จุดขึ้นเองได้ยังไง...เขาเดินเข้าไปช้าๆ หัวใจเต้นตุบตับแต่ยังไม่ทันได้แตะสมบัติ...เสียงเย็นเยียบ กังวาน ราวกับลมพัดจากปล่องนรก ดังขึ้นจากมุมมืดของห้อง“ข้า... ยังไม่อนุญาต...”เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่หนักแน่นจนพื้นสะเทือนบุญปั๋นสะดุ้ง หันขวับไปทางเสียง เหงื่อแตกซิกจากเงาดำมืดหลังเสาไม้ผุ เงาตะคุ่มรูปร่างสูงใหญ่ปรากฏ ดวงตาสีแดงฉาน ลุกโชนราวกับถ่านไฟเขาก้าวออกมาช้าๆ ผ้าคลุมสีดำยาวลากพื้น ไหลลมไม่มีลมพัดฝ่าเท้าไม่ได้สัมผัสพื้น... เขาลอยศรีพงษา... ปรากฏกาย“เฮ้ย !! ศรีพงษา? มาได้หยั่งใด เจ้าต๋ายไปแล้วบ่ะใจ้กา ”“แล้วใคร... บอกเจ้าว่าความตายจะหยุดข้าได้?”เสียงศรีพงษาเยือกเย็น แต่ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยแววโกรธแค้นสะสมพันปี“ข้า... รักษาขุมทรัพย์นี้ไว้ด้วยชีวิต และแม้แต่หลังความตาย เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์แตะ!”บุญปั๋นถอยหลังจนสะดุดกองทอง มือไม้

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 12 อาถรรพ์แห่งเวียงแสนพรหม

    เวียงแสนพรหม คืนสู่ความสงบอีกครั้งหลังจากพายุแห่งความวุ่นวายผ่านพ้นไป...แสงคำยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงจันทร์ส่องแสงนวลตา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลแม้เจ้าเมืองศิลป์จะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว... แต่บางอย่างยังคงคลุมเครือและดูเหมือนความกังวลนี้จะทำให้แสงคำเครียดยิ่งขึ้น“ข้าว่าข้าควรดีใจที่เรื่องมันจบแล้วนะ…” แสงคำพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“แต่ใจข้ายังรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่”“ข้าก็เหมือนกัน” เอื้องฟ้า ซึ่งในชาติปัจจุบันคือป้าคำป้อของเธอเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้มัน… ง่ายเกินไป”“โอยน่อ !” มังคละร้องเสียงหลง “นี่เจ้ายังคิดว่าเรื่องมันง่ายอยู่แหมกานิ!”“แม่น” เอื้องฟ้าตอบจริงจัง “ข้าว่ามีบางอย่าง… ที่หมู่เฮายังบ่ะฮู้กั๋นแต้เตื้อ”“เจ้าอย่ามาหลอกข้านักนา!” บุญปั๋นร้องลั่น “ข้าอิดข้าเหนื่อยจ๋นจะเป็นลมแล้วเนี่ย!”“แล้วถ้ามันยังมีอะหยังโผล่มาแหม เจ้าจะเยียะจะใด จะทำยังไง ฮือ พ่อหนุ่มนักหนี?” เอื้องฟ้าเลิกคิ้ว“ก็… ก็…” บุญปั๋นหันไปมองจันทน์ผาที่หน้าเริ่มซีดไม่แพ้กัน“ข้า… ข้าจะอยู่ข้างหลังเจ้าไง”“เฮ้ย!” จันทน์ผาแหวเสียงสูง “ใครอยากเป็นโล่ให้เจ้ากันเล่า!”“พอ ๆ เถอะ!” แสงคำตวาดขึ้นพลางตบมือดังป

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 11 ปลุกปีศาจที่หลับใหล

    “ระวังฮื่อดี !”คำพูดของอุ้ยคำก๋องดังก้องอยู่ในหัวของแสงคำ ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกว่าเรื่องเลวร้ายยังไม่จบ“ห้ะ! “ แสงคำร้องเสียงหลง “ก่อตะกี้ศรีพงษาโดนข้าสลายร่างเป๋นปุ๋ยไปแล้วบ่ะใจ้กาเจ้าแม่อุ้ย?”“แม่น” อุ้ยคำก๋องพยักหน้า “แต่ศรีพงษาเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น”“เบี้ยตัวหนึ่ง หมายถึงลูกหาบลูกน้องแม่นก่อเจ้า เอ่อนั่น ! ไปกั๋นใหญ่ละทีนี้?”แสงคำอ้าปากค้าง “แล้วตัวจริงมันเป๋นไผเจ้าแม่อุ้ย?”อุ้ยคำก๋องจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ…“ตัวจริง… คือปีศาจที่หลับใหลอยู่ใต้วิหารศิลากัลป์นี้”“และมันกำลังจะตื่นขึ้นมา”“โอ้ย! อะหยังแหมล่ะเนี่ย!” แสงคำโอดครวญพลางขยุ้มผมตัวเอง“ข้าแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่อยากปิ๊กบ้านไปกิ๋นข้าวกับแม่อุ้ยคำก๋อง! ยะหยังต้องมาสู้กับปีศาจโตยกา?”“ตอนนี้เจ้าไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาอีกแล้ว” เอื้องฟ้าแทรกขึ้น “เจ้าคือผู้ที่สืบสายเลือดเจ้านางแห่งเวียงแสนพรหม…”“และเจ้านั่นแหละ…” อุ้ยคำก๋องเสริมเสียงหนักแน่น“ต้องเป๋นเจ้านางสร้อยคำเต้าอั้นที่จะหยุดปีศาจตนนั้นได้”“โอ๊ย! ทำไมทุกอย่างต้องมาลงที่ข้าด้วย!”“เพราะเจ้าสร้างมันขึ้นมา”“เฮอะ !” แสงคำหันขวับไปทางอุ้ยคำก๋อง “

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 10 คำสาปตราศิลากัลป์

    “อย่าคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เจ้าไม่ใช่ผู้ชนะ…”“…เพราะมันกำลังมา”เสียงกระซิบจากเงามืด… ฟังดูทั้งแผ่วเบาและน่าขนลุกจนทุกคนเย็นวาบไปทั้งตัว“อะหยังแหมเหมาะ! ไผแหมล่ะเนี่ย? มาติก ๆ บ่ะฮู้จักจบจักสิ้น”แสงคำบ่นปนเดือดดาล ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด“ป้อเฒ่ามันก่ะ ! นี่มันจะมีผีกี่ตั๋วกันแน่?”มังคละมองซ้ายมองขวา “ข้าว่าข้าจะเริ่มนับจำนวนผีไว้แล้วนะ… นี่ตัวที่หนึ่งร้อยห้าแม่นก่อ?”“หนึ่งร้อยหกแล้วจ้า” บุญปั๋นเสริมหน้าตาย “ข้านับมาตั้งแต่ที่หมู่บ้านแล้ว”“เอ่อ… พวกเจ้าช่วยเครียดกับข้าพ่องได้ก่อ?”อินทร์แปงเอนตัวพิงกำแพง ร่างของเขาอ่อนแรงจากการใช้พลังมหาศาลในการสู้เมื่อครู่“เสียงเมื่อกี้…”เขาพูดช้า ๆ พลางหายใจแรง“มันไม่ใช่เสียงของเสนาบดีศรีพงษาแน่นอน”“ข้าเห็นด้วย”จันทน์ผาพยักหน้า “เสียงนี้… ฟังดูเหมือนบางสิ่งที่อยู่มานาน… นานยิ่งกว่าศรีพงษาเสียอีก”“ปั๊ดโทะ?”แสงคำเบิกตาโต“อย่าบอกนะว่าเรากำลังรับมือกับตัวร้ายตำนานตัวป้อตัวแม่ ที่เป๋นตัวต้นตระกูลสิ่งชั่วร้ายของทั้งหมด ขั้นสูงสุด อะหยังสักอย่างน่ะ!”มังคละถอนหายใจหนัก ๆ“ข้าว่าตั้งแต่เจ้าก้าวเท้าเข้ามาในเวียงแสนพรหม… ชีวิตเจ้าก็เป็นตำนานไปแล

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 9 ความทรงจำที่ไม่อาจลบ

    “เจ้าก็ยังไม่ลืมข้าจริง ๆ”คำพูดของเจ้าทิพย์อมร ยังคงดังก้องในหูของแสงคำเธอยืนหอบหายใจ เหงื่อชื้นไหลซึมอยู่บนใบหน้า แม้ปีศาจเสือดำจะหายไปแล้ว แต่ในอกของเธอกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดเหมือน… มันยังไม่จบ“ข้าว่า… เราควรกลับไปพักก่อนดีไหม?”มังคละเอ่ยขึ้น ดวงตาของเขามองแสงคำด้วยความเป็นห่วง“ข้าก็คิดแบบนั้น”บุญปั๋นพยักหน้า“ข้ารู้สึกเหมือนพวกเราเพิ่งวิ่งหนีผีมาเป็นร้อยเป็นพันตัว”“พวกเจ้าลืมไปหรือว่า…”จันทน์ผาแทรกขึ้นมาช้า ๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ“เรื่องนี้… ยังไม่จบ”“จบสิ!”แสงคำโพล่งขึ้นมาทันที“ข้าปราบปีศาจไปแล้วนะ! เห็นกับตาแล้วว่าเจ้าอสุรกายดำ ๆ ผีเสือดำตัวเหม็นสาบ นั่น แหลกเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว!”“แต่เจ้าเคยเห็นอะหยังในชีวิตนี้… ที่ง่ายขนาดนั้นก๋า?” จันทน์ผาเลิกคิ้ว น้ำเสียงของเธอแฝงความไม่ไว้ใจเต็มที่“เอ่อ…” แสงคำอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ก็จริง… ตั้งแต่มาเวียงแสนพรหม ไม่มีอะไรสักอย่างที่ง่ายเลยเจ้าทิพย์อมรยังยืนมองพวกเธออยู่จากมุมห้อง สายตาของเขายังเต็มไปด้วยเจ้าเล่ห์และบางอย่างที่คาดเดาได้ยาก“เจ้านาง…” เขาเอ่ยขึ้นช้า ๆ“เจ้าจำข้าได้จริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าก่อดายพร่ำแต่ถา

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 8 คำบอกเล่าของนักโทษ

    “อิ๊! กลิ่นอะหยังบ่ะฮู้!” บุญปั๋นยกแขนปิดจมูกทันทีกลิ่นที่บุญปั๋นพูด มาจากภายในห้องนั้นซึ่งมืดสนิทรไม่มีแสงใดจากภายนอกเล็ดรอดเข้าไปได้ อินทร์แปงยกคบเพลิงเข้าไปใกล้ ช่องว่างระหว่างบานประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นบางสิ่ง......บางสิ่งที่ขยับได้“เฮ้ย ๆๆๆ ผ่อฮั่น! มีอะหยังอยู่ในนั้น!” บุญปั๋นร้องเสียงหลงดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง... ค่อย ๆ เปิดขึ้นจากความมืด“เจ้ามาแล้วสินะ... เจ้านางของข้า”“ฟึ่บบบบ!”จู่ ๆ เงามืดในคุกใต้ดินก็มีบางสิ่งเคลื่อนไหวและร่างของใครบางคน… ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากความมืดแสงจากคบเพลิงกระพริบไหว ราวกับไม่อยากส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของบุคคลนั้นแต่แสงคำรู้ทันทีว่าคนตรงหน้านี้คือเขาที่อินทร์แปงพูดถึงนักโทษที่ถูกขังอยู่ใต้ดินผู้ที่เกี่ยวข้องกับเธอในอดีตและอาจเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด“เจ้ามาแล้ว…”เสียงของเขานุ่มลึก แต่แฝงไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้ขนลุก“ข้ารอเจ้านานเหลือเกิน… เจ้านางของข้า”แสงคำหายใจสะดุด เธอรู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงให้อยู่กับที่เธอจ้องมองบุคคลปริศนาตรงหน้า… แต่เงามืดบดบังใบหน้าของเขาไว้เกือบหมด“เจ้าคือใคร?” เธอถามเสียงสั่นแม้ในความมืดก็รู้ได้ว่าชา

  • เวียงแสนพรหม   ตอนที่ 7 เงาของคนทรยศ

    “มันต้องมีเหตุผลอื่น…”“มันต้องมีใครบางคนทำให้ข้าต้องเลือกแบบนี้!”“ถูกต้อง”เสียงของอินทร์แปงเยือกเย็น เขาหันมามองแสงคำอย่างจริงจัง“และเจ้าจะได้เห็นว่า… ใครคือคนที่ทำให้เจ้าเลือกทางนี้”แสงคำกลืนน้ำลาย เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมหรือไม่แสงคำหลับตาลง ทำดวงจิตให้นิ่ง ภาพในอดีตถูกฉาย เธอเห็นมังคละ เคยเป็นองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้านางสร้อยคำบุญปั๋น เป็นขุนนางผู้กล้าหาญที่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเวียงสร้อยคำจันทน์ผา เป็นผู้คุมคลังสมบัติและเป็นผู้ดูแลเจ้านางสร้อยคำแต่เมื่อเธอมองไปที่ภาพอดีตอีกครั้งเธอเห็นตัวเองในอดีตหันไปมองใครบางคนที่ยืนอยู่กลางพระราชวังบุคคลหนึ่ง… ที่ทำให้เธอตัดสินใจเผาเมืองร่างนั้นยืนอยู่ท่ามกลางเงา สีหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาเต็มไปด้วยเล่ห์กลเธอเพ่งมอง และเมื่อร่างนั้นก้าวออกมาจากเงามืด…เธอเห็นใบหน้าของจันทน์ผา“จันทน์ผา… เป็นคนทรยศงั้นหรือ?”แสงคำหันขวับไปมองจันทน์ผาในปัจจุบัน หญิงสาวผู้นั้นยืนนิ่ง สีหน้าของนางไม่ได้แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อยแต่ดวงตาของนาง… เต็มไปด้วยบางอย่างที่ยากจะคาดเดาแสงคำหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทุกคน ราวกับเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status