ผ่านมาสามวันแล้วแต่อัญชิสาก็ยังจำอดีตของตนเองไม่ได้เลยสักนิดทุกครั้งที่พยายามคิดก็จะปวดศีรษะจนอาจารย์หมอสุชาติบอกให้เธอพักสมองและมองไปที่อนาคต เพราะถึงแม้จะจำอดีตได้แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี
พรุ่งนี้อาจารย์หมอสุชาติอนุญาตให้หญิงสาวกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว วันนี้เอกอาทิตย์กับอังคณาเพื่อนสนิทของเธอจึงพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้จำเป็นบางอย่างเตรียมไว้ก่อนที่อัญชิสาจะออกจากโรงพยาบาล
แม้จะมีของใช้บางส่วนที่อังคณาช่วยเอามาจากห้องพักของอัญชิสาไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วแต่หมอเอกอาทิตย์ก็อยากจะเตรียมเพิ่มเพราะอยากให้หญิงสาวได้รับความสะดวกสะบายมากที่สุด
“ขาดเหลืออะไรคุณไม่ต้องเกรงใจผมน เลือกซื้อได้ตามสบายเลย”
“ที่อุ๋มเลือกมานี่ก็เยอะแล้วค่ะ น่าจะอยู่ได้ประมาณสองสัปดาห์ ถ้าหลังจากนั้นต้องการอะไรเพิ่มเดี๋ยวอุ๋มจะเป็นคนซื้อไปให้เอง ขอบคุณหมอมากนะคะที่ดูแลอัญเป็นอย่างดี”
“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนในแผนกที่ช่วยผมดูแลอัญตลอดเวลาที่เธออยู่โรงพยาบาล”
“ที่บ้านคุณหมอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช้ไหมคะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ ครับผมให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักแขกที่อยู่ชั้นล่างไว้รอแล้วเพราะถ้าจะให้อัญเดินขึ้นไปชั้นสองก็คงจะค่อนข้างลำบาก”
“แล้วหมอล่ะคะนอนอยู่ชั้นไหน”
“ห้องนอนของผมอยู่ชั้นสองนะ แต่ช่วงที่อัญไปอยู่ผมว่าจะมานอนในห้องหนังสือข้างๆ ห้องนอนแขกนั่นแหละ ถ้าคุณว่างก็ไปนอนกับอัญได้บ้านผมยินดีต้อนรับเสมอ อัญเองก็คงอยากให้เพื่อนไปหาบ่อยๆ”
“ขอบคุณค่ะ อุ๋มกับน้องในแผนกอาจจะผลัดกันไปเยี่ยมอัญที่บ้านคุณหมอ หวังว่าคุณหมอคงไม่รำคาญนะ”
“ไม่หรอกครับ ผมคิดว่าถ้าอัญเขากลับไปอยู่บ้านผมตามลำพังก็คงจะเหงามากๆ ถ้ามีคนในแผนกแวะเวียนไปหาก็น่าจะดีขึ้น”
“หมอแน่ใจแล้วใช่ไหมคะเรื่องที่จะพาอัญไปอยู่ที่บ้าน”
“เราเตรียมซื้อของกันเยอะขนาดนี้ทำไมคุณยังจะถามผมอีกล่ะว่าผมแน่ใจไหม”
“คืออุ๋มกลัวจะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง อุ๋มขอถามอะไรคุณหมอตรงๆ ได้ไหมคะ แต่ถ้าหมอไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไร” แม้รู้ว่าคำถามจะค่อนข้างส่วนตัวไปหน่อยแต่อังคณาก็อยากจะรู้เพราะเธอป็นห่วงเพื่อนรักอย่างอัญชิสา
“ถามผมมาได้เลยครับ”
“หมอมีแฟนหรือมีคนรักอยู่หรือเปล่าคะ”
“ผมโสดสนิทเลยครับ”
“แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งหมอไปมีแฟนแล้วอัญยังจำอะไรไม่ได้ล่ะคะแฟนหมอเขาจะรับได้ไหมที่หมอจะต้องดูแลผู้หญิงคนอื่นภายในบ้าน”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยเพราะตอนนี้ผมกับอัญก็อยู่ในฐานะแฟนกันนะ คุณอุ๋มลืมไปหรือเปล่า”
“มันก็แค่เรื่องที่เรารวมหัวกันโกหกอัญนี่คะ เรื่องนี้ถ้าเกิดอัญรู้ความจริงขึ้นมาอุ๋มว่าพวกเราคงซวยกันแน่ เห็นอัญเรียบร้อยอ่อนหวานแบบนั้นแต่ถ้าลองได้โกรธหรือโมโหขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องใหญ่”
“แต่ผมว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นประโยชน์กับตัวเขานะ ถ้าให้อัญต้องอยู่ที่ห้องพักคนเดียวผมก็กลัวว่าเธอจะคิดมาก การไปอยู่ที่บ้านของผมสถานที่และบริเวณบ้านมันก็กว้างขวางเหมาะกับการพักผ่อน ถ้าต้องอุดอู้อยู่ที่ห้องพักผมว่าคงไม่ดีต่อคนไข้”
“หมอทำเกินหน้าที่ไปหรือเปล่าจริงๆ แล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงพยาบาลและกล้องจากรถของคุณหมอก็ประมาทด้วยกันทั้งคู่”
“แต่รถใหญ่ยังไงก็ผิด”
“การที่หมอต้องมารับผิดชอบแบบนี้อุ๋มคิดว่ามันน่าจะมากเกินไป ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็คงจะให้เงินเงินชดเชยค่าเสียหายแต่ไม่ถึงขั้นพาไปอยู่บ้านแบบนี้หรอก หมอบอกอุ๋มมาตรงๆ เลยแล้วกันนะคะว่าหมอคิดอะไรกับเพื่อนของอุ๋มหรือเปล่า”
“ทำไมคุณอุ๋มคิดแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็สายตาที่หมอมองอัญมันไม่เหมือนสายตาของคนที่รู้สึกผิดเพราะขับรถชนเลย แต่สายตาของหมอมันห่วงใยอัญมากๆ”
“ดูท่าทางคุณจะอุ๋มจะอ่านสายตาคนเก่งเหมือนกันนะ”
“ตกลงหมอคิดอะไรกับเพื่อนอุ๋มใช่ไหมล่ะ”
“ผมยอมรับก็ได้ ตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ผมก็รู้สึกชอบเพื่อนคุณนะ แต่ไม่มีโอกาสได้คุยหรืออยู่กันตามลำพังเลย”
“เป็นไปไม่ได้หรอกหมอแทบจะไม่คุยกับอัญเลยด้วยซ้ำแล้วจะบอกว่าชอบได้ยังไง”
“ผมไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกันเธอยังไง เวลาทำงานอัญเขาดูตั้งใจมาก”
“หมอคะถ้าอัญจำเรื่องราวทุกอย่างได้หมอจะบอกเรื่องนี้กับเธอไหม”
“หมายถึงเรื่องไหนล่ะครับเรื่องที่ผมโกหกว่าเป็นแฟนเธอหรือเรื่องที่ผมชอบเธอล่ะ”
“ก็ทั้งสองเรื่อง”
“ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ผมก็คงสารภาพความผิดและให้อัญเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเอายังไงต่อ”
“หมอซันคะแล้วในทางกลับกันอัญเขาจำไม่ได้ตลอดไปล่ะคะ หมอจะรับได้ไหม”
“ถึงจะจำอะไรไม่ได้แต่อัญก็ยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติ ผมว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกนะครับ ความทรงจำในอดีตของอัญอาจจะหายไปแต่เราก็ช่วยกันสร้างความทรงจำใหม่ๆ ให้เธอได้”
“หมอแน่ใจใช่ไหมคะว่าจะอยู่กับอัญได้ตลอด ถ้าหากอัญยังเป็นแบบนี้”
“ผมแน่ใจบางทีการที่ผมกับอัญได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นมันอาจจะทำให้เราเรียนรู้กันและกันและเป็นแฟนกันจริงๆ ก็ได้นะครับ”
“อุ๋มขอให้หมอกับอัญเข้าใจกันและใช้เวลาตรงนี้ศึกษานิสัยใจคอกันนะคะ อัญไม่เหลือใครแล้วถ้าหมอคิดจะหลอกลวงเธอหรือทำให้เธอเสียใจอุ๋มก็อยากให้หมอถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะพวกเราในแผนกยินดีจะรับอัญมาดูแลค่ะ”
“ผมไม่เคยคิดจะหลอกลวงเพื่อนคุณเลยนะเชื่อใจผมเถอะ ผมเต็มใจทำทุกอย่างให้กับอัญไม่ใช่เพราะผมเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทั้งหมดแต่พอผมอยากดูแลเธอจริงๆ”
“อุ๋มจะเชื่อใจหมอและหวังว่าหมอจะไม่ทำให้เราทุกคนผิดหวังนะคะ”
“แน่นอนครับ”
วันนี้อาจารย์หมอสุชาติมาตรวจอาการของอัญชิสาเมื่อเห็นว่าอาการทางร่างกายของเธอไม่มีอะไรเป็นห่วงแล้วอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว “กลับไปอยู่บ้านก็อย่าเครียดนะครับ ทำใจให้สบายอย่าคิดอะไรมาก ผ่อนคลายให้มากที่สุดผมเชื่อว่าไม่นานคุณจะจำทุกอย่างได้ ถ้าระหว่างนี้มีอาการผิดก็รีบแจ้งนะครับ” อาจารย์หมอบอกกับคนไข้ที่ดูจะเครียดมากกับอาหารของคนเอง “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” “ขอบคุณนะครับอาจารย์” “หมอซันก็ดูแลเธอดีๆ นะ อย่าให้เธอเอาแต่คิดเรื่องอดีตมากจนเกินไป ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า” “ครับอาจารย์” เมื่ออาจารย์หมอออกจากห้องไปแล้วอังคณาก็ช่วยเก็บของเพื่อจะเดินทางไปยังบ้านของหมอเอกอาทิตย์ “หมอซันคะ อัญขอกลับไปที่ห้องก่อนได้ไหมคะ” “แต่เราตกลงกันแล้วนะครับอัญว่าคุณจะไปอยู่ที่บ้านของผมนะ” “อัญอยากไปดูห้องของตัวเองก่อนค่ะ “เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าหอนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” หมอเอกอาทิตย์มาส่งสองสาวที่หน้าหอพักแล้วก็รออยู่ในรถส่วนอังคณาก็พาอัญชิสาเดินเข้าลิฟต์และไปยังห้องพักของเธอที่อยู่บนชั้นสี่ “นี่ห้องของอัญเหรอ” “อือ นี่ห้องอัญ ติดกันก็เป็นห้องของอุ๋ม อัญอยากเอาอะไรไปเพิ่มไหม” “อุ๋มเอ
บ้านของหมอเอกอาทิตย์เป็นบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นด้านบนมีสามห้องนอนสองห้องน้ำส่วนด้านล่างมีห้องอ่านหนังสือและอีกห้องหนึ่งซึ่งเดิมทีไม่ได้เปิดใช้งานอะไรแต่ตอนนี้คุณหมอหนุ่มปรับปรุงห้องนั้นเป็นห้องนอนสำหรับอัญชิสาเพราะคิดว่าถ้าจะให้เธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทุกวันก็คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่บริเวณบ้านของคุณหมอค่อนข้างกว้างมีต้นไม้รายล้อมดูร่มรื่นมากๆ เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านผักบุ้งสาวใช้ที่ธีรการต์เป็นคนจัดหาให้ก็รีบออกมาต้อนรับ“สวัสดีค่ะ” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้หญิงสองคนที่เดินลงจากรถ“ผักบุ้งฉันจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้ชื่อคุณอัญจะมาอยู่ที่นี่ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของคุณอัญชื่อคุณอุ๋ม” “สวัสดีค่ะคุณอัญ คุณอุ๋มหนูชื่อผักบุ้งนะคะ” “สวัสดีจ้ะผักบุ้ง” อัญชิสากล่าวทักทายเด็กสาวที่ยิ้มต้อนรับเธอออย่างเป็นมิตร“มีของอะไรให้ผักบุ้งช่วยขนลงจากรถไหมคะ” “มีกระเป๋าใบเล็กหลังรถใบเดียวจ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้านายเด็กสาวก็รีบเปิดกระโปรงหลังรถและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วเดินตามทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน“ให้ผักบุ้งเอากระเป๋าเก็บที่ไหนคะ” “ห้องที่ฉันให้ผักบุ้งทำความสะอาดนั่นแหละ” “ได้ค่ะคุณหมอ” “ผมให้อัญอ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อัญชิสามาอยู่บ้านของหมอเอกอาทิตย์ ตอนนี้เธอเริ่มปรับตัวได้และสนิทสนมกับคุณหมอหนุ่มมากขึ้นกว่าวันแรกที่เข้ามาอยู่ ในทุกวันทั้งสองจะรับประทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นหมอเอกอาทิตย์จะไปทำงานที่โรงพยาบาล ส่วนหญิงสาวก็อยู่บ้านกับผักบุ้งเด็กรับใช้และเขาก็จะกลับมารับประทานอาหารกับเธอทุกเย็นถึงแม้งานจะยุ่งแต่ชายหนุ่มก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี ในบางวันเอกอาทิตย์มีผู้ป่วยที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องแต่เขาก็จะกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสาก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะว่าระหว่างบ้านของเขากับโรงพยาบาลนั้นอยู่ห่างกันไม่มากนัก ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เขารีบกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสา หญิงสาวรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้เขาต้องเหนื่อยมากขึ้นแบบนี้ “อัญว่าถ้าหมอซันมีคนไข้ก็ไม่ต้องกลับมากินข้าวกับอัญหรอกนะคะ” “แต่ผมไม่อยากให้อัญกินข้าวคนเดียว แล้วโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลเลยนะครับ” “แต่อัญเกรงใจหมอค่ะ ไหนจะต้องทำงานแล้วไหนจะต้องมาคอยกังวลเรื่องอัญอีก อัญคิดว่าอัญดูแลตัวเองได้ค่ะ” “อย่าคิดมากอย่างนั้นสิครับอัญ สิ่งที่ผมทำอยู่มันไม่ได้ลำบา
หญิงสาวนั่งรอหมอเอกอาทิตย์จนเผลอหลับอยู่บนโซฟาและตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถของชายหนุ่มเข้ามาจอด เมื่อประตูบ้านเปิดออกและเห็นว่าตอนนี้อัญชิสานั่งรออยู่คุณหมอหนุ่มก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง “คุณไม่น่าจะรอผมเลยนะอัญ” “อัญนอนไม่หลับค่ะ” “ผมขอโทษนะที่คืนนี้กลับดึกกว่าทุกคืนเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ อัญรู้ว่าหมอไปทำงาน เหนื่อยไหมคะ” “มากเลยครับ สงสัยว่าหัวถึงหมอนหลับเป็นตายเลย” “หมอรีบไปนอนเถอะค่ะ อัญก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน” “ขอบคุณนะครับอัญที่รอผม ผมรู้สึกหายเหนื่อยเลยเวลาที่กลับมาบ้านแล้วมีคุณรออยู่ คุณเข้านอนเลยนะเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมก็จะเข้านอนเหมือนกัน ฝันดีนะอัญ” “ฝันดีค่ะหมอซัน” อัญชิสาเดินเข้าห้องนอนของตนเองส่วนหมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอนบนชั้นสองก่อนจะกลับลงมานอนที่ห้องหนังสือ ตั้งแต่อัญชิสาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เขาก็นอนในห้องหนังสือทุกคืนเพราะเป็นห่วงถ้าจะให้เธอนอนที่ชั้นล่างคนเดียวและถ้าหากหญิงสาวไม่สบายหรือเป็นอะไรเขาก็จะได้ช่วยทัน หมอเอกอาทิตย์รู้สึกดีมากเวลาที่กลับบ้านแล้วมีคนรออยู่ ถึงแม้อัญชิสาจะทำไปเพราะคิดว่าขาคือแฟนของเธอ แต่คุณหมอหนุ่มก็ค
เช้าวันเสาร์หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสาออกจากบ้านตั้งแต่เช้าทั้งสองมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่หัวหินเขาพาแวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพราะสะดวกกับการขึ้นลงรถของอัญชิสา หลังทานอาหารเสร็จก็แวะซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง“นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันใช่ไหมคะหมอซัน” หญิงสาวหันมาถามเพราะเธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยแม้จะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และเท่าที่ได้ถามจากอังคณาก็คือเธอกับหมอเอกอาทิตย์ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปค้างคืนที่ไหนด้วยกันเลย“ก็ประมาณนั้นครับ” “แล้วปกติถ้าวันหยุดเราจะทำอะไรกันคะ” “เราหยุดไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าได้หยุดตรงกันก็จะไปดูหนังหรือไม่ก็ไปกินกาแฟตามคาแฟ่ครับ” เขาตอบไปตามที่ได้คุยกับอังคณาจนรู้มาว่าปกติแล้ววันหยุดอัญชิสาจะทำอะไรบ้าง“ทำไมหมอซันตอบเหมือนอุ๋มเลยล่ะคะ นัดกันตอบหรือเปล่า” อัญชิสาถามออกไปด้วยความสงสัย“ทำไมอัญคิดแบบนั้นล่ะ ที่ผมกับคุณอุ๋มตอบเหมือนกันก็เพราะเราสองคนตอบไปตามความจริงนี่ครับ ผมจะนัดกับคุณอุ๋มตอบแบบนี้ทำไมล่ะ” หมอเอกอาทิตย์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว“ขอโทษนะ
เสียงเบรกของรถยนต์ดังลั่นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกระแทกดังโครมแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คนขับรถรีบวิ่งลงมาดูคนเจ็บจากนั้นเขาก็ตะโกนให้คนที่อยู่ใกล้ๆ วิ่งไปตามพนักงานรับส่งผู้ป่วยที่หน้าโรงพยาบาล ไม่นานนักพนักงานแปลก็เข็นรถมาพร้อมกับพยาบาลที่แผนกห้องฉุกเฉินเพื่อมารับผู้ป่วยที่นอนหมดสติอยู่ บริเวณข้างๆ กันมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งล้มอยู่ ชายหนุ่มเจ้าของรถยนต์จับมันขึ้นมาจอดข้างทาง แล้วรีบหยิบกระเป๋าถือที่หล่นอยู่ก่อนจะวิ่งตามเข้าไปในโรงพยาบาล “เกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ” พยาบาลอีกคนรีบวิ่งออกมารับรถเข็นคนเจ็บ “ผมขับรถชนผู้หญิงคนเมื่อกี้ ฝากด้วยนะครับ” เขารีบบอกกับพยาบาลจากนั้นคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินก็รีบเข้าไปดูคนเจ็บส่วนตัวเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็เลยนั่งรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงคุณหมอภายในห้องฉุกเฉินก็ออกมาแจ้งข่าว “ใครเป็นญาติคนไข้ครับ” คุณหมอประจำห้องฉุกเฉินถาม “ผมยังไม่ได้ติดต่อญาติเธอเลย” “หมอซันรู้จักเธอเหรอครับ” “เปล่าครับแต่ผมเป็นคนขับรถชนเธอครับ” “ใครก็ช่วยติดต่อญาติเธอด้วยนะ” “เธอไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ” พยาบาลคน
เอกอาทิตย์นอนเฝ้าอัญชิสาจนเช้าแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตื่นเขาจึงบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ให้จัดการเรื่องพยาบาลพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาราวน์จนเสร็จก็มาตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก “หมอซันคะ” ศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหลังจากที่ผู้ป่วยคนล่าสุดเดินออกไปแล้ว “มีอะไรครับพี่ณี” “แผนกผู้ป่วยในโทรมาแจ้งว่าตอนนี้อัญฟื้นแล้ว” “จริงเหรอครับ แต่ทำไมหน้าของพี่ณีดูไม่ดีเท่าไหร่เลย” “ก็เขาบอกว่าอัญจำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิคะหมอซัน พี่ก็เลยจะมาชวนหมอซันขึ้นไปดูหน่อย” “อะไรนะครับพี่ณี” คุณหมอหนุ่มตกใจมากเพราะไม่คิดว่าอาการของเธอจะหนักถึงเพียงนี้ เมื่อเช้าเขาได้รับแจ้งจากหมอแผนกออร์โธปิดิกส์ว่ากระดูกข้อเท้าด้านซ้ายของเธอมีรอยร้าวและจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกซึ่งเขาก็รับทราบ แต่ไม่คิดว่าอาการทางสมองของเธอจะแย่กว่าที่คิดไว้ หมอเอกอาทิตย์ดูผลซีทีสแกนแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเลือดออกหรือเลือดคั่งตรงจุดไหน ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างเบาใจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเธอจำอะไรไม่ได้ก็เลยตกใจและกังวลเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องประสบชะตา
“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา“เรื่องอัญใช่ไหม”“ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน”“ฉันไปด้วยนะ”“นายจะไปทำไม”“ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ”ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป“นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ”“ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม”“โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ”“นานไหมคะหมอ” “บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้” “แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย” “เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง“ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมค
เช้าวันเสาร์หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสาออกจากบ้านตั้งแต่เช้าทั้งสองมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่หัวหินเขาพาแวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพราะสะดวกกับการขึ้นลงรถของอัญชิสา หลังทานอาหารเสร็จก็แวะซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง“นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันใช่ไหมคะหมอซัน” หญิงสาวหันมาถามเพราะเธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยแม้จะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และเท่าที่ได้ถามจากอังคณาก็คือเธอกับหมอเอกอาทิตย์ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปค้างคืนที่ไหนด้วยกันเลย“ก็ประมาณนั้นครับ” “แล้วปกติถ้าวันหยุดเราจะทำอะไรกันคะ” “เราหยุดไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าได้หยุดตรงกันก็จะไปดูหนังหรือไม่ก็ไปกินกาแฟตามคาแฟ่ครับ” เขาตอบไปตามที่ได้คุยกับอังคณาจนรู้มาว่าปกติแล้ววันหยุดอัญชิสาจะทำอะไรบ้าง“ทำไมหมอซันตอบเหมือนอุ๋มเลยล่ะคะ นัดกันตอบหรือเปล่า” อัญชิสาถามออกไปด้วยความสงสัย“ทำไมอัญคิดแบบนั้นล่ะ ที่ผมกับคุณอุ๋มตอบเหมือนกันก็เพราะเราสองคนตอบไปตามความจริงนี่ครับ ผมจะนัดกับคุณอุ๋มตอบแบบนี้ทำไมล่ะ” หมอเอกอาทิตย์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว“ขอโทษนะ
หญิงสาวนั่งรอหมอเอกอาทิตย์จนเผลอหลับอยู่บนโซฟาและตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถของชายหนุ่มเข้ามาจอด เมื่อประตูบ้านเปิดออกและเห็นว่าตอนนี้อัญชิสานั่งรออยู่คุณหมอหนุ่มก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง “คุณไม่น่าจะรอผมเลยนะอัญ” “อัญนอนไม่หลับค่ะ” “ผมขอโทษนะที่คืนนี้กลับดึกกว่าทุกคืนเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ อัญรู้ว่าหมอไปทำงาน เหนื่อยไหมคะ” “มากเลยครับ สงสัยว่าหัวถึงหมอนหลับเป็นตายเลย” “หมอรีบไปนอนเถอะค่ะ อัญก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน” “ขอบคุณนะครับอัญที่รอผม ผมรู้สึกหายเหนื่อยเลยเวลาที่กลับมาบ้านแล้วมีคุณรออยู่ คุณเข้านอนเลยนะเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมก็จะเข้านอนเหมือนกัน ฝันดีนะอัญ” “ฝันดีค่ะหมอซัน” อัญชิสาเดินเข้าห้องนอนของตนเองส่วนหมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอนบนชั้นสองก่อนจะกลับลงมานอนที่ห้องหนังสือ ตั้งแต่อัญชิสาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เขาก็นอนในห้องหนังสือทุกคืนเพราะเป็นห่วงถ้าจะให้เธอนอนที่ชั้นล่างคนเดียวและถ้าหากหญิงสาวไม่สบายหรือเป็นอะไรเขาก็จะได้ช่วยทัน หมอเอกอาทิตย์รู้สึกดีมากเวลาที่กลับบ้านแล้วมีคนรออยู่ ถึงแม้อัญชิสาจะทำไปเพราะคิดว่าขาคือแฟนของเธอ แต่คุณหมอหนุ่มก็ค
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อัญชิสามาอยู่บ้านของหมอเอกอาทิตย์ ตอนนี้เธอเริ่มปรับตัวได้และสนิทสนมกับคุณหมอหนุ่มมากขึ้นกว่าวันแรกที่เข้ามาอยู่ ในทุกวันทั้งสองจะรับประทานอาหารเช้าด้วยกันจากนั้นหมอเอกอาทิตย์จะไปทำงานที่โรงพยาบาล ส่วนหญิงสาวก็อยู่บ้านกับผักบุ้งเด็กรับใช้และเขาก็จะกลับมารับประทานอาหารกับเธอทุกเย็นถึงแม้งานจะยุ่งแต่ชายหนุ่มก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี ในบางวันเอกอาทิตย์มีผู้ป่วยที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องแต่เขาก็จะกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสาก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะว่าระหว่างบ้านของเขากับโรงพยาบาลนั้นอยู่ห่างกันไม่มากนัก ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เขารีบกลับมารับประทานอาหารเย็นกับอัญชิสา หญิงสาวรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้เขาต้องเหนื่อยมากขึ้นแบบนี้ “อัญว่าถ้าหมอซันมีคนไข้ก็ไม่ต้องกลับมากินข้าวกับอัญหรอกนะคะ” “แต่ผมไม่อยากให้อัญกินข้าวคนเดียว แล้วโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลเลยนะครับ” “แต่อัญเกรงใจหมอค่ะ ไหนจะต้องทำงานแล้วไหนจะต้องมาคอยกังวลเรื่องอัญอีก อัญคิดว่าอัญดูแลตัวเองได้ค่ะ” “อย่าคิดมากอย่างนั้นสิครับอัญ สิ่งที่ผมทำอยู่มันไม่ได้ลำบา
บ้านของหมอเอกอาทิตย์เป็นบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นด้านบนมีสามห้องนอนสองห้องน้ำส่วนด้านล่างมีห้องอ่านหนังสือและอีกห้องหนึ่งซึ่งเดิมทีไม่ได้เปิดใช้งานอะไรแต่ตอนนี้คุณหมอหนุ่มปรับปรุงห้องนั้นเป็นห้องนอนสำหรับอัญชิสาเพราะคิดว่าถ้าจะให้เธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทุกวันก็คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่บริเวณบ้านของคุณหมอค่อนข้างกว้างมีต้นไม้รายล้อมดูร่มรื่นมากๆ เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านผักบุ้งสาวใช้ที่ธีรการต์เป็นคนจัดหาให้ก็รีบออกมาต้อนรับ“สวัสดีค่ะ” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้หญิงสองคนที่เดินลงจากรถ“ผักบุ้งฉันจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้ชื่อคุณอัญจะมาอยู่ที่นี่ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของคุณอัญชื่อคุณอุ๋ม” “สวัสดีค่ะคุณอัญ คุณอุ๋มหนูชื่อผักบุ้งนะคะ” “สวัสดีจ้ะผักบุ้ง” อัญชิสากล่าวทักทายเด็กสาวที่ยิ้มต้อนรับเธอออย่างเป็นมิตร“มีของอะไรให้ผักบุ้งช่วยขนลงจากรถไหมคะ” “มีกระเป๋าใบเล็กหลังรถใบเดียวจ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้านายเด็กสาวก็รีบเปิดกระโปรงหลังรถและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วเดินตามทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน“ให้ผักบุ้งเอากระเป๋าเก็บที่ไหนคะ” “ห้องที่ฉันให้ผักบุ้งทำความสะอาดนั่นแหละ” “ได้ค่ะคุณหมอ” “ผมให้อัญอ
วันนี้อาจารย์หมอสุชาติมาตรวจอาการของอัญชิสาเมื่อเห็นว่าอาการทางร่างกายของเธอไม่มีอะไรเป็นห่วงแล้วอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว “กลับไปอยู่บ้านก็อย่าเครียดนะครับ ทำใจให้สบายอย่าคิดอะไรมาก ผ่อนคลายให้มากที่สุดผมเชื่อว่าไม่นานคุณจะจำทุกอย่างได้ ถ้าระหว่างนี้มีอาการผิดก็รีบแจ้งนะครับ” อาจารย์หมอบอกกับคนไข้ที่ดูจะเครียดมากกับอาหารของคนเอง “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” “ขอบคุณนะครับอาจารย์” “หมอซันก็ดูแลเธอดีๆ นะ อย่าให้เธอเอาแต่คิดเรื่องอดีตมากจนเกินไป ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า” “ครับอาจารย์” เมื่ออาจารย์หมอออกจากห้องไปแล้วอังคณาก็ช่วยเก็บของเพื่อจะเดินทางไปยังบ้านของหมอเอกอาทิตย์ “หมอซันคะ อัญขอกลับไปที่ห้องก่อนได้ไหมคะ” “แต่เราตกลงกันแล้วนะครับอัญว่าคุณจะไปอยู่ที่บ้านของผมนะ” “อัญอยากไปดูห้องของตัวเองก่อนค่ะ “เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าหอนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” หมอเอกอาทิตย์มาส่งสองสาวที่หน้าหอพักแล้วก็รออยู่ในรถส่วนอังคณาก็พาอัญชิสาเดินเข้าลิฟต์และไปยังห้องพักของเธอที่อยู่บนชั้นสี่ “นี่ห้องของอัญเหรอ” “อือ นี่ห้องอัญ ติดกันก็เป็นห้องของอุ๋ม อัญอยากเอาอะไรไปเพิ่มไหม” “อุ๋มเอ
ผ่านมาสามวันแล้วแต่อัญชิสาก็ยังจำอดีตของตนเองไม่ได้เลยสักนิดทุกครั้งที่พยายามคิดก็จะปวดศีรษะจนอาจารย์หมอสุชาติบอกให้เธอพักสมองและมองไปที่อนาคต เพราะถึงแม้จะจำอดีตได้แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี พรุ่งนี้อาจารย์หมอสุชาติอนุญาตให้หญิงสาวกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว วันนี้เอกอาทิตย์กับอังคณาเพื่อนสนิทของเธอจึงพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้จำเป็นบางอย่างเตรียมไว้ก่อนที่อัญชิสาจะออกจากโรงพยาบาล แม้จะมีของใช้บางส่วนที่อังคณาช่วยเอามาจากห้องพักของอัญชิสาไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วแต่หมอเอกอาทิตย์ก็อยากจะเตรียมเพิ่มเพราะอยากให้หญิงสาวได้รับความสะดวกสะบายมากที่สุด “ขาดเหลืออะไรคุณไม่ต้องเกรงใจผมน เลือกซื้อได้ตามสบายเลย” “ที่อุ๋มเลือกมานี่ก็เยอะแล้วค่ะ น่าจะอยู่ได้ประมาณสองสัปดาห์ ถ้าหลังจากนั้นต้องการอะไรเพิ่มเดี๋ยวอุ๋มจะเป็นคนซื้อไปให้เอง ขอบคุณหมอมากนะคะที่ดูแลอัญเป็นอย่างดี” “ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนในแผนกที่ช่วยผมดูแลอัญตลอดเวลาที่เธออยู่โรงพยาบาล” “ที่บ้านคุณหมอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช้ไหมคะ” “เรียบร้อยแล้วครับ ครับผมให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักแขกที่อยู่ชั้นล่างไว
หลังจากตรวจคนไข้เสร็จในเวลา 17.00 น. หมอเอกอาทิตย์ก็ขึ้นมาบนห้องพักของอัญชิสาอีกครั้ง ตอนนี้หญิงสาวกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนสนิทร่วมแผนกซึ่งเธอกำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับอัญชิสาฟัง “สวัสดีค่ะหมอซัน” “สวัสดีครับอุ๋ม อัญเขาเป็นยังไงบ้างจำอะไรได้บ้างหรือยัง” “ยังจำอะไรไม่ได้เลยค่ะหมอซันตอนนี้อุ๋มกำลังให้อัญดูรูปและเป็นเพื่อนใน Facebook แล้วก็ไอจีอยู่ค่ะ” “อัญมีปวดหัวไหม” เอกอาทิตย์หันไปถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง “ไม่ปวดค่ะ สงสัยว่าจะได้นอนพักเต็มที่” “แล้วที่ข้อเท้าล่ะปวดไหม” “ไม่ปวดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็แค่เจ็บแผลถลอกที่ข้อศอกเท่านั้นค่ะ หมอคิดว่ามันจะเป็นแผลเป็นไหมคะ” อัญชิสาค่อนข้างกังวลกับแผลที่ข้อศอกของตนเอง “แผลไม่ลึกเท่าไหร่ ผมว่าอาจจะมีรอยแผลจางๆ เดี๋ยวผมหายาลดรอยแผลเป็นให้ครับ” คุณหมอหนุ่มรีบเสนอตัวเพราะรู้สึกผิดเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “หมอซันคะ คืนนี้อุ๋มขอเป็นคนเฝ้าอัญได้ไหม” “แต่พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงานนะ” “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของอุ๋มค่ะ หมอซันเฝ้ามาคืนหนึ่งแล้วคืนนี้จะได้พักผ่อน” “ผมจ้างพยาบาลพิเศษไว้แล้วนะครับ” “แต่อุ๋มว่าพยาบาลพิเศษก็สู้คน
“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา“เรื่องอัญใช่ไหม”“ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน”“ฉันไปด้วยนะ”“นายจะไปทำไม”“ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ”ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป“นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ”“ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม”“โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ”“นานไหมคะหมอ” “บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้” “แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย” “เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง“ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมค
เอกอาทิตย์นอนเฝ้าอัญชิสาจนเช้าแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตื่นเขาจึงบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ให้จัดการเรื่องพยาบาลพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาราวน์จนเสร็จก็มาตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก “หมอซันคะ” ศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหลังจากที่ผู้ป่วยคนล่าสุดเดินออกไปแล้ว “มีอะไรครับพี่ณี” “แผนกผู้ป่วยในโทรมาแจ้งว่าตอนนี้อัญฟื้นแล้ว” “จริงเหรอครับ แต่ทำไมหน้าของพี่ณีดูไม่ดีเท่าไหร่เลย” “ก็เขาบอกว่าอัญจำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิคะหมอซัน พี่ก็เลยจะมาชวนหมอซันขึ้นไปดูหน่อย” “อะไรนะครับพี่ณี” คุณหมอหนุ่มตกใจมากเพราะไม่คิดว่าอาการของเธอจะหนักถึงเพียงนี้ เมื่อเช้าเขาได้รับแจ้งจากหมอแผนกออร์โธปิดิกส์ว่ากระดูกข้อเท้าด้านซ้ายของเธอมีรอยร้าวและจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกซึ่งเขาก็รับทราบ แต่ไม่คิดว่าอาการทางสมองของเธอจะแย่กว่าที่คิดไว้ หมอเอกอาทิตย์ดูผลซีทีสแกนแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเลือดออกหรือเลือดคั่งตรงจุดไหน ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างเบาใจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเธอจำอะไรไม่ได้ก็เลยตกใจและกังวลเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องประสบชะตา