ภายในห้องทำงานชั้นสองของผับหรู อคิณกำลังนั่งคุยกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่หล่อกันคนละแบบ ผับนี้เค้าหุ้นกับเพื่อนตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นคนชอบดื่มเหมือนกันและเป็นพวกนักล่าตอนกลางคืน
" กูอยากให้มึงสั่งสอนไอ่เสี่ยนั่นให้หน่อย เอาแค่พอสนุก "
" ไอ่เสี่ยที่มันมีปัญหากับแม่ยายมึงอะนะ " เสียงทุ้มของลมหยอกล้อคนตรงหน้า
" ไอ่สัด "
"มึงก็นะไอ่ลม ไอ่คิณมันขอให้ช่วยเรื่องที่มึงถนัดๆนั่นแหละ เรื่องสนุกๆทั้งนั้น ฮ่าฮ่าฮ่า " เสียงของดินผู้เป็นน้องชายของลมที่ห่างกันแค่ไม่กี่เดือนแย้งขึ้น
" กูจัดให้ มึงอยากได้แบบไหนบัญชามาเลยครับเพื่อน ช่วงนี้กูว่าง " ที่จริงก็ว่างทั้งวันแหละ เพราะลมมีหน้าที่หลักคือดูแลผับที่นี้ทั้งหมด ส่วนดินเป็นทนายความที่เข้ามาดูผับบ้างแค่เวลาหิวเท่านั้นแหละ กับลโลแกนที่ว่า หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา~
" มึงอยากจัดแบบไหนตามใจมึงเลย แค่อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่ก็พอ " อีกคนถนัดใช้กำลัง อีกคนถนัดใช้สมอง สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน
" จัดไป~ แต่คืนนี้กูมีน้องๆมาแนะนำเว้ย พวกมึงเลือกได้เลยตามสบายหรือจะควบสองควบสามก็ตามสะดวก " เสียงของลมสไตล์ลุคแบดบอยบวกกับรอยสักที่หน้าอกยิ่งดึงดูดสาวๆได้ไม่ยาก ไหนจะเทคนิคแพรวพราว แค่พอได้จ้องตากับสาวคนไหนเป็นต้องจบลงบนเตียง บ้างก็ในห้องน้ำในผับนี่แหละ ดีลครบจบในที่เดียว
ผู้เป็นน้องชายอย่างดินยิ้มกริ่ม แต่อคิณปฎิเสธและตอบกลับเพื่อนไป " คืนนี้กูมีของกูแล้ว " พร้อมนั่งไขว่ห้างหยิบแก้วเหล้าจิบอย่างสบายใจ หึ! รอให้เด็กของเขาเมาได้ที่นิด....
บรรยากาศข้างล่างยังคงสนุกสนาน ยิ่งดึกยิ่งเมา ยิ่งดึกยิ่งมันส์ นักท่องราตรียังคงแข่งกันวาดลวดลายตามสเต็ปของแต่ละคน เปิดบนเปิดล่าง มีเท่าไรงัดมันออกมาให้หมด
เหนื่อยมาทั้งวัน ได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้คอก็ผ่อนคลายไปอีกแบบ แต่ฉันรู้ลิมิตตัวเองดีพอว่าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว การตอบสนองเริ่มเชื่องช้า ประสาทตาเริ่มมึนกับแสงไฟวูบวาบ ก่อนจะบอกว่าเพื่อนสนิทขอกลับก่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้ร่างกายกับสมองสู้รบปรบมือทั้งงานทั้งคนอีกทั้งวันแม่เจ้า !? แค่นั่งอยู่ในห้องทำงานเดียวกันก็ดูดพลังงานฉันจนแห้งเหี่ยวไปหมด
ฉันเดินแบบตัวลอยๆหวิวๆเบียดเสียดคนมากมายเพื่อมุ่งหาทางออก 'ปึก' ฉันเดินชนกับหน้าอกแข็งๆของใครสักคนแต่อยู่ดีๆร่างสูงตรงหน้าก็คว้ามือฉันแล้วจูงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันเดินตามออกมาหยุดที่รถสปอร์ตสีดำคันนึงแบบงงๆ
" ขึ้นรถ " เอ๊ะ!เสียงคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน
พอฉันเงยหน้ามองเท่านั้นแหละ คุณพระ!? นี่มันเจ้านายปากหมาของฉัน แต่การแต่งตัวนี่ขัดกับลุคเมื่อตอนกลางวันชะมัด กลางวันเต็มยศ พอตกกลางยืนก็ลอกคราบผู้บริหารสุดเนี้ยบ ใส่แต่เชิ้ตตัวเดียวพับแขน ปลดกระดุมสองเม็ดโชว์หน้าอกขาวๆแน่นๆนั่นคืออะไร อ่อยหรอ!?
" เช็ดน้ำลายหน่อย จะไหลถึงคางอยู่แล้ว " บอกฉันด้วยเสียงแหบพร่าที่กระซิบข้างหู แถมใช้นิ้วชี้เชยคางขึ้นมาจ้องตากันเนี่ยนะ ฉันกำลังเมาเหล้าที่ดื่มเข้าไปหรือเค้ากำลังมอมเมาฉันด้วยสายตาคมที่ซ่อนอะไรบางอย่างในนั้นกันแน่ 'แกร๊ก' มือหนาเปิดประตูและดันตัวฉันนั่งลงไปปิดประตูแล้วรีบเดินมานั่งฝั่งคนขับ ปึง! เค้าปิดประตูรถแล้ว แต่ฉันยังมึนๆงงๆเอ๋อๆกับตัวเองอยู่เลย จนกระทั่งเค้าเอื้อมตัวมาดึงสายเบลล์ให้ฉัน แต่ยื่นหน้ามาใกล้ขนาดนี้ต้องการอะไรก่อน แต่ทำไมตัวเค้าหอมจังวะ ทั้งๆที่มีทั้งกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ปนกันแต่มันทำให้ยิ่งจมดิ่งลุ่มหลงกับสิ่งที่เค้ากำลังทำ ตอนนี้หน้าเราใกล้กันจนปลายจมูกชนกันแล้ว
" เอ่อออ " ยังไม่ได้ได้เอ่ยอะไรปากฉันก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนานั่น พยายามขบเม้มและแทรกลิ้นร้อนเข้ามาในปากเล็ก จากที่กำลังเมาตอนนี้สมองฉันเบลอไปหมด แล้วค่อยๆหลับตารับรสจูบของคนตรงหน้า เค้าเพิ่มความเร่าร้อนด้วยการกอบกุมหน้าอกจนเต็มมือและค่อยๆขย้ำปลุกอารมณ์ด้านมืดของฉันออกมา ซึ่งมันได้ผล ตอนนี้ฉันรู้สึกแปลกๆอยากให้เค้าสัมผัสมากกว่านี้ ไวเท่าความคิด มือหนาอีกข้างกำลังลูบต้นขาด้านในและใช้นิ้วลากขึ้นมาจนถึงเนินสามเหลี่ยมที่มีแค่แพนตี้ตัวบางกั้นไว้ นิ้วซนลูบกลีบมะลิอูมๆผ่านผ้าบางและแหวกมันไปด้านข้าง 'อาาาา' ฉันหายใจไม่ทัน นิ้วเรียวยาวเริ่มสะกิดติ่งเร็วระรัว ริมฝีปากหนาเริ่มย้ายลงมาที่ซอกคอขาว " อืม เธอหอมเหมือนกลิ่นมะลิ " พึมพำด้วยน้ำเสียงแหบๆ แล้วใช้มือที่ขย้ำหน้าอกเริ่มปลดสายคล้องจนมันหลุดมากองตรงหน้าท้องหญิงสาว ไม่รอช้าปากหนาใช้ลิ้นโลมเลียกับยอดอกสีชมพูหวานจนมันเริ่มแข็งสู้ลิ้น ดูดกินอย่างถนัด นิ้วเรียวพยายามค่อยๆแทรกเข้าสู่ช่องอ่อนไหวช้าๆเพราะกลัวเธอจะตกใจจนเตลิด
" อืมมม เธอแฉะแล้ว " เค้าเริ่มดันเรียวนิ้วยาวเข้าออกพร้อมน้ำหวานที่กำลังหลั่งออกมา จากนั้นเพิ่มเป็นสองนิ้ว "อ๊ะ" ฉันเชิดหน้าขึ้นทั้งเจ็บทั้งเสียว มันดีมาก ฉันขยุ้มผมดกดำนั่นให้กดปรนเปรอหน้าอกอีกข้าง ข้างบนโดนรัวลิ้น ข้างล่างโดนรัวนิ้ว ฉันกำลังจะตายแล้ว "อ๊า อ๊า อ๊ายยยยย " ฉันเสร็จคานิ้วร้ายๆของเค้าที่กำลังผ่อนความเร็ว และถอนออกมาเลียดูดเข้าปากต่อหน้าฉัน แววตาเค้ากำลังดึงดูดฉัน ใจฉันเต้นแรงไปหมด เหมือนสติสัมปชัญญะตัวเองกำลังจะดับวูบ
" เก่งมาก เด็กดี " ชมเสร็จก็ให้รางวัลด้วยจูบดูดดื่มอีกหนึ่งกรุบ
" นอนพักซะ เดี๋ยวถึงแล้วฉันจะปลุก "
เค้าจัดแจงเสื้อผ้าให้เธอ แถมยังหาเศษหาเลยกับร่างกายขาวผ่องบนเบาะข้างๆ กว่าจะแต่งตัวให้เธอเสร็จ ในใจนึกอยากจะกระโจนอัดเธอตรงนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด
อดทนไว้ อดทนไว้ก่อน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
แต่ประเด็นเธอหวานอย่างเดียวนี่สิ ต้องทำยังไง ลิ้นใหญ่เลียชิมรสชาติของเธอที่ขอบปากตัวเอง อื้ม.. หวาน หอม กินทั้งวันทั้งคืนก็ไม่เบื่อ
........................................................
อ๊ายยยยย เค้าจิ้มกันแล้วค่าาาาา
ผมดับเครื่องยนต์เมื่อมาถึงชั้นจอดรถหน้าเพ้นท์เฮ้าส์ตัวเอง เมื่อหันไปดูคนตัวเล็กที่นั่งหลับอยู่เบาะข้างๆก็พลันนึกถึงเสียงใสๆของเธอที่ครวญครางตอนตกอยู่ภายใต้นิ้วยาวของผม เธอเสร็จ..ได้น่ารักมาก น่ารักซะจนต้องข่มอารมณ์ดิบตัวเองไม่ให้กระแทกเธอคาเบาะนั่น ขายาวก้าวลงจากรถหรูเดินอ้อมอีกฝั่งเพื่อค่อยๆช้อนตัวคนที่กำลังหลับพริ้มขึ้นมาแนบอกเดินเข้าห้องหรูของตัวเอง ผมค่อยๆวางเธอลงบนเตียงขนาดใหญ่ ในใจก็เกิดคำถามกับตัวเองว่าจะเอายังไงกับแม่เมรีมะลิลานี่ยังไงดี 'หรือเอาท่ามาตรฐานไปก่อน' สมองกับสายตาตอนนี้คิดออกอยู่เรื่องเดียวเมื่อจ้องดูชุดที่เธอส่วมใส่ 'ชุดบ้าอะไรว่ะนั่น' พลันมือหนาย้ายลงไปลูบน้องชายของตัวเองที่แข็งขันตั้งแต่ล้วงเธอตอนอยู่บนรถ ตอนนี้มันแข็งจนปวดหนึบไปหมด อีกทั้งยังผงกหัว งึกๆ อยากจะออกมารับอากาศภายนอกจะแย่ แต่ดูยัยเด็กนี่สิ! เสร็จแล้วก็ชิ่งหลับเฉย 'อาาาา ใจเย็นลูกพ่อ จะได้เข้าไปสำรวจในโพรงมะลิคับแคบนั่นแน่นอน แต่ไม่ใช่วันนี้' เอาว่ะ! ปล่อยเธอไปก่อน เค้
" ไงคะเพื่อนรัก มีอะไรจะเล่ามั้ย " ค่ะ! ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในโรงอาหารที่ถูกสายตาเพื่อนสนิททั้งสองกดดัน "แหมมม ข้าวไม่ได้กิน กินแต่เผือกนะพวกมึงเนี่ย" ถามว่าสะทกสะท้านกันมั้ย ไม่! เราสามคนมักจะมีเรื่องพูดคุยปรึกษากันอยู่ตลอดเสมอ ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ! แล้วฉันก็ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ต่างๆของเมื่อคืน(ลงดีเทลนิดหน่อยให้ต่อมเผือกสั่น)รวมถึงตอนเสิร์ฟชามะลิให้เค้าตอนเช้าด้วย อ๊ายย พูดแล้วเขิน! " กรี๊ดดดดดด "" มึงจะกรี๊ดหาตีนคนในโรงอาหารหรออีฝ้าย " อาเจกันฟันด่าเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆกัน " แล้วยังไงต่ออะมึงงงง นอกจากนิ้ว เค้าเอาอะไรจิ้มมึงอีกป่ะ? " ยัง! ยังไม่หยุด ไอ่อาการดี๊ด๊า สายตาแพรวพราวนั่นดูก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรในก่อไผ่! ฉันรีบลุกเอาจานไปเก็บ พวกมันก็ตามมาติดๆ มันสองคนแนะนำวิธีต่างๆที่ฟังแล้ว กูรู้สึกว่าต้องเส
ฉันลากสังขารตัวเองเดินลงบันไดมา เพื่อมาส่งเค้าถึงประตูรถ! คนตัวโตหยุดเดินแล้วก้มดูชุดนอนที่ฉันใส่ เป็นชุดนอนกระโปรงผ้าซาตินรูปคัพเค้กตะมุตะมิสีม่วงสดใส เค้าเอามือสอดกระเป๋ากางเกงแล้วก้มลงมากระซิบที่ข้างหู" ฉันกินข้าวแล้ว แต่ยังไม่ได้กินของหวานเลย " แล้วไงย่ะ! เกี่ยวอะไรกับฉัน เลี้ยงหมาในปากไว้เยอะล่ะสิ!? หิวบ่อยเชียว" ระวังจะเป็นเบาหวานตายนะคะ " ฉันยิ้มหวานตอบกลับ แต่มีหรือที่คนตัวโตจะสะทกสะท้าน " หึ ระวังปากเล็กๆของเธอไว้ให้ดีละกัน " ฉันเบะปากตอบ แล้วเค้าก็หมุนตัวเข้าไปนั่งในรถขับออกไปหน้าตาเฉย กวนตีน! ตื่นเช้ามาแม่ก็มายืนหน้าห้องพร้อมหอบชุดราตรงราตรีหางยาว แถมกล่องเครื่องประดับเต็มมือ ฉันเลือกชุดเองส่วนเครื่องประดับก็เอาที่คิดว่ามันเ
ร่างบางเดินตามมาถึงกลางห้องมืดๆที่แทบจะมองอะไรไม่เห็น แต่ต่างกับเจ้าของที่คุ้นชินกับทางเดินเป็นอย่างดี เธอพยายามกระพริบตาหลายๆครั้งเพื่อปรับม่านตาให้มองเห็นผ่านความมืด แต่ยังไม่ทันได้สังเกตรอบๆ ข้อมือเล็กก็ถูกกระชากเข้าหาอกแกร่ง อาการมึนเมาทำให้สมองคิดตามไม่ทันกับการกระทำของคนตัวสูง แขนแกร่งรวบเอวเข้าหาตัวเองและเอียงหน้ามอบรสจูบกลิ่นแชมเปญอย่างนุ่มนวล และค่อยๆไต่ระดับความร้อนแรงโดยการแลบลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กเพื่อชิมความหวาน ท่อนขายาวค่อยก้าวถอยหลังโดยโอบร่างเล็กให้เดินตาม แต่ไม่ปล่อยให้ริมฝีปากเล็กได้เอื้อนเอ่ยอะไร พอเข้ามาถึงห้องนอนใหญ่ก็ค่อยๆละริมฝีปากออก"คืนนี้ ฉันขอนะ" ไม่รอคำตอบกลับช้อนอุ้มคนตัวเล็กลงบนเตียงนอนใหญ่สีขาวกลางห้องแล้วพลิกเธอให้นอนคว่ำหน้าลง ก่อนจะย้ายตัวเองคร่อมทับทางด้านหลังสูดดมความหอมของเรือนผม ไล่ลงมาซอกคอขาว กัดเบาๆพอให้คนใต้ร่างสะดุ้ง ''อ๊ะ'' แล้วลากเลียลิ้นหนาวนตรงหัวไหล่ขาวพร้อมค่อยๆใช้มือรูดซิปข้างหลังลงมาจนสุดเอวคอด
"อื้ออออ ทำไมปล่อยใน""โทษที พอดีมันเสียวเลยดึงออกไม่ทัน" ตาแก่เจ้าเล่ห์ แต่ฉันไม่มีแรงด่าเค้าหรอกนะตอนนี้ ครางจนคอแห้งไปหมด แรงจะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไม่มีปัญญาเลย ตาจะปิดมะลอมมะล่อแล้ว"อย่าพึ่งหลับ ไปล้างตัวก่อน" พูดเสร็จ ก็เป็นเค้าที่อุ้มฉันเข้าห้องน้ำไปยืนซ้อนกันอยู่ใต้ฝักบัว ฉันยืนแทบไม่ไหว แข้งขาอ่อนไปหมด ไม่คิดว่าครั้งแรกจะเจอของใหญ่ขนาดนี้ ฉันหลับตาเอนหลังเพื่อหาที่พิงกันล้ม "หึ ยั่วฉันหรอ" ยั่วบ้าอะไร!? แล้วใครกันล่ะที่ทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพนี้อะ! ขนาดเค้าเสร็จไปแล้วทำไมมันแข็งถูก้นฉันอยู่แบบนี้ล่ะ?! เค้าเอื้อมมือไปเปิดน้ำให้ชำระเหงื่อไคลและน้ำกามต่างๆ และเป็
ฉันเริ่มรู้สึกตัวตอนสายๆ ไม่อยากขยับลุกไปไหนเลย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทุกส่วน ยิ่งช่วงล่างไม่ต้องพูดถึง ทั้งเจ็บทั้งแสบและคงแดงบวมอวบยิ่งกว่าเดิม คนอะไรจะหื่นได้ขนาดนี้ ฉันยังนอนนิ่งหลับตานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆเมื่อคืนว่ามันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง จริงอยู่ที่เรารู้จักกับมาเกือบสองเดือน เจอกันเกือบทุกวัน ทำงานด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน บางทีเค้าก็ไปกินข้าวที่บ้านกับแม่ฉันด้วย เข้าๆออกๆทั้งสองบริษัทจนพนักงานซุบซิบกันไปต่างๆนาๆ ลึกๆแล้วฉันคิดว่าเค้าก็ไม่ได้แย่ ถ้าลดความปากจัดลงเยอะๆ ความรู้สึกดีๆนี้เริ่มก่อขึ้นมาในใจเมื่อไหร่ฉันไม่รู้ตัว มันอาจจะเกิดจากความใกล้ชิด และความช่วยเหลือของเค้ามาโดยตลอด พอคิดแล้วรู้สึกใจเต้นแรงจัง ถ้าถามว่ารักมั้ย... คงยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าพูดว่าชอบเค้ารึยัง คงตอบไปได้เต็มปากเต็มคำว่า...ฉันคงแอบชอบเค้าแล้วล่ะเปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นหันมามองคนตัวโตที่นอนข้างๆกัน อืมมมม...เค้าทำแบบนี้ เค้าจะคิดแบบเดียวกับฉันมั้ยนะ ใจเราจะตรงกันรึเปล่า?! เราไม่เคยคุยเรื่องนี้กับจริงๆจังๆเลยคนตัวโตเปิดตาจ้องมองตาใสๆที่แอบมองเค้าอยู่แล้วยิ้มมุมปาก แถมยังวาดแขนแกร่งไปโอบเอวคอดไว้ "ไง ยังเจ็
ตอนนี้เราสองกำลังนั่งอยู่ในรถ ที่จอดอยู่หน้าบ้านฉันแล้ว แต่ยังไม่มีใครลง เนื่องจากยังตกลงกันไม่ลงตัว "ฉันว่าอย่าพึ่งบอกแม่เรื่องของเราเลย""ทำไม" เสียงเค้าฟังดูหงุดหงิด แต่ยังคงความหน้านิ่ง"รอให้มันชัดเจนกว่าดีปะ ประมาณว่าเรามั่นใจว่าจะคบกัน ถึงตอนนั้นค่อยบอกก็ยังไม่สาย"คนข้างๆฉันยังนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดใช่! ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะไปกันรอดหรือเปล่า เซ็กส์แค่ครั้งเดียว ไม่สิ! ก็หลายครั้งอยู่ มันวาดอนาคตไม่ได้ ฉันอยากชัวร์ในความรู้สึกของเค้าที่มีต่อฉันมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ความหลง หรือความใคร่เท่านั้น
รถหรูแล่นออกจากร้านอาหารใหญ่ใจกลางเมือง แต่ภายในรถกลับเงียบไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ที่ฉันเงียบ ฉันไม่ได้โกรธหรืองอนไร้สาระอะไรทั้งนั้น แต่กูเพลียค่ะ! หิวด้วย! เมื่อกี้ต่อหน้าลูกค้าไม่กล้ากินเยอะ ต้องคีพลุค ฉันไม่คิดมากเรื่องผู้หญิงคนเมื่อกี้หรอก ถึงจะดูพยายามเข้าหาคนของฉัน แต่ขอดูพฤติกรรมคนข้างๆก่อน ไม่อยากงี่เง่าโวยวาย จนกลายเป็นผู้หญิงน่าเบื่อน่ารำคาญ" ผู้หญิงคนเมื่อกี้เราแค่เคยสนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย " จากที่เห็นคงอยากมากกว่าสนิทสินะ! ผู้หญิงด้วยกันดูออก ขอดูความดอกต่อไปเรื่อยๆละกัน " ไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ อย่าคิดมากเลย " เค้าหันมาทำหน้างงนิดหน่อย" แล้วเงียบทำไม "
1 สัปดาห์ต่อมาฉันทำงานหนักขึ้น แต่ก็คล่องแคล่วกว่าช่วงแรกๆเหมือนเป็นพนักงานคนนึงของบริษัทเลย การที่เข้ามาเรียนรู้บริษัทเค้าควบคู่ไปด้วยทำให้ฉันเปิดโลกเห็นระบบการทำงานที่หลากหลายและกว้างขึ้น ตอนนี้เลิกเรียนแล้ว ฉันกำลังขับรถมุ่งหน้าไปบริษัทผู้ชาย อิอิ ว่าจะไปเซอร์ไพรส์ที่ห้องทำงานแล้วชวนทานข้าวกลางวันด้วยกันดีกว่า~พอลิฟต์ถึงชั้นห้องทำงานเค้า ฉันหันซ้ายหันขวา โอเคทางสะดวก เลขาหน้าห้องคงลงไปทานข้าว พี่ทามน่าจะลงไปกินข้าวด้วยมั้งไม่ก็อยู่กับเค้าในห้อง ฉันใช้หูแนบประตูเพื่อฟังเสียงข้างใน เงียบ..มีแต่เสียงกุกๆกักๆ คงจะเป็นเสียงแฟ้มกระทบกับโต๊ะละมั้ง เอาวะ! ฉันก็เปิดประตูเข้าไปพรวดเดียว "เซอร์ไพรส์....."
ก๊ก ก๊ก ก๊ก (เสียงเคาะประตู)(อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา พิมพ์เอาฮาเฉยๆ)"เข้ามา" เสียงทุ้มหนาเอ่ยตอบ ปรากฎร่างผู้ช่วยมือขวาเดินเข้ามารายงานเรื่องของคนตัวเล็ก"คุณมะลิเข้าบริษัทและรับทราบเรื่องเอกสารเรียบร้อยครับ..." ท่าทีอึกอักของของทาม ทำให้คิ้วหนาขมวด ละความสนใจจากเอกสารตรงหน้า "มีอะไร" มือขวากระแอมเล็กน้อยก่อนรายงานเรื่องที่เห็น "คุณมะลิเข้าบริษัทพร้อมคุณคเชนครับ และดูเหมือนจะสนิทสนมกันพอสมควรครับ" คิ้วหนาขมวดเข้าหากันยิ่งกว่าเดิม พรางนึกในใจเจ้าตัวไปสนิทกับหลานชายคุณหญิงตอนไหนกัน ทั้งที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนวันเกิดคุณหญิงไม่ใช่รึ
"ตื่นได้แล้ว""มะลิ..."" ถ้ายังไม่ตื่นฉันจะเอาเธออีกรอบก่อนไปทำงาน" " อือออออออ "สภาพฉันตอนนี้มีปัญญาแค่ลืมตามองไปทางต้นเสียงเท่านั้นแหละ แต่ต่างจากคนบ้าพลังที่ตอนนี้ยืนกอดอกอยู่ในชุดสูทพร้อมทำงานเหมือนเมื่อคืนไม่ได้ใช้แรงงานอะไรเลยยยย"เธอซ้อมตายเหรอ รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เธอมีเรียน 10 โมง และฉันก็มีประชุม 10 โมงเหมือนกัน" ถ้าบ่นต่ออีกนิดนี่แม่ฉันแล้วนะ ฉันพยายามลุกนั่งปรับสภาพร่างกาย แต่รู้สึกเหมือนโดนสูบพลังงานไปหมดเลย ฮืออออ ฉันลาได้ไหมมมม~ ขายังสั่นอยู่เลย แสบจิ๊มิด้วย
จากนั้นเค้าก็ใช้มือข้างขวาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดลงมาเรื่อยๆเผยให้เห็นกล้ามท้องแน่นๆ สายตาแพรวพราวนั่นจ้องมองคนตัวเล็กด้านล่างอย่างเปิดเผย"อื้อออออ" เค้าจับท้ายทอยฉันให้แหงนหน้ารับจูบที่เค้าส่งมาอย่างรุนแรง แถมยังใช้มือบีบหนัาอกฉันจนเจ็บไปทั้งเต้า แรงเกินไปแล้ว ฉันตั้งตัวไม่ทัน!!"ว้ายยยย" เค้านั่งลงข้างๆฉันแล้วพลิกให้ฉันนั่งควบทับแก่นกายที่มันกำลังผงาดอวดความยิ่งใหญ่ ไม่รอช้า หน้าคมซุกดมเต้าอวบพร้อมและดูดปลายยอดพร้อมรัวลิ้นจนฉันห่อไหล่ "อ๊าาาาา"เค้ากางขาตัวเองออกแล้วใช้นิ้วยาวเขี่ยติ่งสวาทปลุกอารมณ์ฉันตอนนี้จนกู่ไม่กลับแล้ว ฉันร่อนเอวหาความเสียว จนนิ้วยาวสอดเข้ามาทางช่องรักที่ตอนนี้เปียกไปด้วยน้ำหวานสีใส
ฉันเดิมตามมือที่เค้าจูงเข้าห้องมาต้อยๆ เหมือนเดจาวูเป๊ะๆ "ไหนอะ ผัดกะเพรา" ตอนนี้ข้าวต้องมาอันดับหนึ่ง อย่างอื่นค่อยว่ากัน "กำลังจะทำ ให้พิเศษไข่สองฟองไปเลย อ่ะ!นั่งรอก่อน" แล้วนางก็จูงมือฉันมานั่งโซฟาแล้วตัวเองก็นั่งลงบนพื้นพรมคนตัวสูงนั่งคุกเข่าเอื้อมมือไปถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วยกขาข้างนึงมาวางบนบ่าแกร่ง จากนั้นไม่รอช้า ริมฝีปากหนาไล่พรมจูบเบาๆที่ข้อเท้าขาว ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึงต้นขาด้านใน พร้อมถกปลายกระโปรงขึ้นมากองไว้ที่เอวคอด "เกะกะ" สายตาจ้องไปที่แพนตี้ตัวบางที่ปกปิดกลีบชมพูอวบนูนแทบไม่มิด มันช่างชูช่อล่อน้ำลายให้เข้าไปชิม เรียวนิ้วยาวเกี่ยวขอบแพนตี้ออกเพื่อถอดมันจากเรียวขาสวยจรดปลายเท้าให้พ้นสายตาคนข้างบนเริ่มหายใจหอบ อกนุ่มกร
รถหรูแล่นออกจากร้านอาหารใหญ่ใจกลางเมือง แต่ภายในรถกลับเงียบไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ที่ฉันเงียบ ฉันไม่ได้โกรธหรืองอนไร้สาระอะไรทั้งนั้น แต่กูเพลียค่ะ! หิวด้วย! เมื่อกี้ต่อหน้าลูกค้าไม่กล้ากินเยอะ ต้องคีพลุค ฉันไม่คิดมากเรื่องผู้หญิงคนเมื่อกี้หรอก ถึงจะดูพยายามเข้าหาคนของฉัน แต่ขอดูพฤติกรรมคนข้างๆก่อน ไม่อยากงี่เง่าโวยวาย จนกลายเป็นผู้หญิงน่าเบื่อน่ารำคาญ" ผู้หญิงคนเมื่อกี้เราแค่เคยสนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย " จากที่เห็นคงอยากมากกว่าสนิทสินะ! ผู้หญิงด้วยกันดูออก ขอดูความดอกต่อไปเรื่อยๆละกัน " ไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ อย่าคิดมากเลย " เค้าหันมาทำหน้างงนิดหน่อย" แล้วเงียบทำไม "
ตอนนี้เราสองกำลังนั่งอยู่ในรถ ที่จอดอยู่หน้าบ้านฉันแล้ว แต่ยังไม่มีใครลง เนื่องจากยังตกลงกันไม่ลงตัว "ฉันว่าอย่าพึ่งบอกแม่เรื่องของเราเลย""ทำไม" เสียงเค้าฟังดูหงุดหงิด แต่ยังคงความหน้านิ่ง"รอให้มันชัดเจนกว่าดีปะ ประมาณว่าเรามั่นใจว่าจะคบกัน ถึงตอนนั้นค่อยบอกก็ยังไม่สาย"คนข้างๆฉันยังนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดใช่! ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะไปกันรอดหรือเปล่า เซ็กส์แค่ครั้งเดียว ไม่สิ! ก็หลายครั้งอยู่ มันวาดอนาคตไม่ได้ ฉันอยากชัวร์ในความรู้สึกของเค้าที่มีต่อฉันมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ความหลง หรือความใคร่เท่านั้น
ฉันเริ่มรู้สึกตัวตอนสายๆ ไม่อยากขยับลุกไปไหนเลย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทุกส่วน ยิ่งช่วงล่างไม่ต้องพูดถึง ทั้งเจ็บทั้งแสบและคงแดงบวมอวบยิ่งกว่าเดิม คนอะไรจะหื่นได้ขนาดนี้ ฉันยังนอนนิ่งหลับตานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆเมื่อคืนว่ามันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง จริงอยู่ที่เรารู้จักกับมาเกือบสองเดือน เจอกันเกือบทุกวัน ทำงานด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน บางทีเค้าก็ไปกินข้าวที่บ้านกับแม่ฉันด้วย เข้าๆออกๆทั้งสองบริษัทจนพนักงานซุบซิบกันไปต่างๆนาๆ ลึกๆแล้วฉันคิดว่าเค้าก็ไม่ได้แย่ ถ้าลดความปากจัดลงเยอะๆ ความรู้สึกดีๆนี้เริ่มก่อขึ้นมาในใจเมื่อไหร่ฉันไม่รู้ตัว มันอาจจะเกิดจากความใกล้ชิด และความช่วยเหลือของเค้ามาโดยตลอด พอคิดแล้วรู้สึกใจเต้นแรงจัง ถ้าถามว่ารักมั้ย... คงยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าพูดว่าชอบเค้ารึยัง คงตอบไปได้เต็มปากเต็มคำว่า...ฉันคงแอบชอบเค้าแล้วล่ะเปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นหันมามองคนตัวโตที่นอนข้างๆกัน อืมมมม...เค้าทำแบบนี้ เค้าจะคิดแบบเดียวกับฉันมั้ยนะ ใจเราจะตรงกันรึเปล่า?! เราไม่เคยคุยเรื่องนี้กับจริงๆจังๆเลยคนตัวโตเปิดตาจ้องมองตาใสๆที่แอบมองเค้าอยู่แล้วยิ้มมุมปาก แถมยังวาดแขนแกร่งไปโอบเอวคอดไว้ "ไง ยังเจ็
"อื้ออออ ทำไมปล่อยใน""โทษที พอดีมันเสียวเลยดึงออกไม่ทัน" ตาแก่เจ้าเล่ห์ แต่ฉันไม่มีแรงด่าเค้าหรอกนะตอนนี้ ครางจนคอแห้งไปหมด แรงจะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไม่มีปัญญาเลย ตาจะปิดมะลอมมะล่อแล้ว"อย่าพึ่งหลับ ไปล้างตัวก่อน" พูดเสร็จ ก็เป็นเค้าที่อุ้มฉันเข้าห้องน้ำไปยืนซ้อนกันอยู่ใต้ฝักบัว ฉันยืนแทบไม่ไหว แข้งขาอ่อนไปหมด ไม่คิดว่าครั้งแรกจะเจอของใหญ่ขนาดนี้ ฉันหลับตาเอนหลังเพื่อหาที่พิงกันล้ม "หึ ยั่วฉันหรอ" ยั่วบ้าอะไร!? แล้วใครกันล่ะที่ทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพนี้อะ! ขนาดเค้าเสร็จไปแล้วทำไมมันแข็งถูก้นฉันอยู่แบบนี้ล่ะ?! เค้าเอื้อมมือไปเปิดน้ำให้ชำระเหงื่อไคลและน้ำกามต่างๆ และเป็