หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ธาราก็เดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีเพียงมารดาของเธอนั่งอยู่
“มานั่งนี่สิ พ่อกับคุณหมออยู่นอกบ้านกัน...เรามาคุยกันหน่อยไหม?”
แม่เลี้ยงนาราพูดขึ้นเมื่อเห็นธาราเดินลงมาจากบนห้องแล้ว ทำเอาเธอถึงกับแปลกใจ เมื่อบิดาขอคุยกับโรมันเป็นการส่วนตัว
“มันเกิดอะไรขึ้น ลูกทะเลาะกับคุณหมอเหรอถึงได้หนีกลับมาที่นี่”
“คะ? เปล่าค่ะ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน”
ธาราบอกออกมาตามความจริง จนคนเป็นแม่ได้แต่มองอย่างนึกแปลกใจ เพราะทั้งการที่ธารากลับมาที่นี่คนเดียวและการที่โรมันโผล่มาโดยไม่บอกสถานะที่มีกับธาราอีก นอกจากทะเลาะกันก็ไม่มีคำอื่นที่ใช้ได้ดีกว่านี้แล้ว
“เล่าให้แม่ฟังได้รึเปล่า ยังไงแม่ก็อยากรู้สาเหตุว่าทำไมลูกถึงหอบท้องกลับมาคนเดียวโดยไม่พูดอะไรเลย”
“ธาร...นี่มันอะไรกัน...แล้วนี่...มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว...”ไม่กี่วันต่อมา ธารากลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับโรมันเพื่อบอกข่าวดีแก่วารีและคนทั้งโรงพยาบาล เมื่อเธอกับโรมันตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกันก่อนที่ลูกในท้องจะคลอดออกมา ทำเอาช็อกไปตามๆกันรวมทั้งวารีเองก็ด้วย เมื่อเธอกำลังมองตรงท้องที่นูนเด่นของธาราอย่างตกใจ เพราะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่ไม่เจอกันแต่ทำไมท้องถึงใหญ่ได้ขนาดนี้“ฉันท้อง 6 เดือนแล้ว”“ห๊ะ! 6 เดือน!”“อื้อ...ส่วนนี่ เดือนหน้าฉันจะแต่งงาน”“นี่มันบ้าไปแล้ว...”วารียกการ์ดงานแต่งงานที่ธารายื่นให้ขึ้นมาดูอย่างไม่อยากเชื่อ ทำเอาธาราอดขำไม่ได้เมื่อเธอเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน“ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกเรื่องที่ฉันท้อง&rd
หมับ!“ออกไปห่างๆ ยัยนี่แฟนฉัน”เสียงห้ามอันเย็นเยียบบอกขึ้น เมื่อมือของชายหนุ่มที่อยู่ในงานเลี้ยงกำลังจะแตะต้องถูกตัวของวารี เทวารีบเอื้อมมือจับมันเอาไว้แน่น“เอ่อ ขอโทษที พอดีแค่จะทักทาย”หนุ่มหล่อบอกขึ้นพร้อมกับรีบดึงมือกลับ“ไม่จำเป็น ยัยนี่ของฉัน”เทวายังคงแสดงความเป็นเจ้าของ โดยมีวารียืนอมยิ้มอย่างถูกใจกับอาการหึงหวงของคนรักก่อนหนุ่มคนนั้นจะเดินหนีออกไป“ชอบจัง”เธอบอกขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขา“เลิกยิ้ม! คนอื่นมองอยู่”“อะไร หวงแม้กระทั่งยิ้ม แล้วนี่บ่าวสาวจะไม่ลงมาจริงๆเหรอ เริ่มดึกแล้วนะ”
“แก! ฉันรักเขา อ๊ายยยยย ผู้ชายอะไรหล่อเว่อร์วังขนาดนั้น”“ใช่...หล่อ รวย เรียนก็เก่ง แถมเป็นแบดบอยอีก โอ๊ย! ฉันอยากได้เขาอ่ะแก”“เฮ้อ ถ้าไม่ใช่ระดับดาวมหาลัยก็แทบไม่มีสิทธิ์ได้คุยกับเขาหรอก”“ขนาดดาวอย่างยัยพิมพ์ยังถูกไล่ออกมาเลยอ่ะแก อย่างพวกเรานี่ ได้มองไกลๆแบบนี้ก็บุญแล้ว”เสียงสาวๆมหาลัยที่พากันนั่งจับกลุ่มอยู่ในสวนดังขึ้นไม่ขาดสาย เมื่อมีนักศึกษาหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินผ่านพวกเธอไป“มาตึกนี้ทีไรเป็นต้องรำคาญทุกที”ศิวะ นักศึกษาแพทย์ปี 5 อดพูดขึ้นอย่างรู้สึกรำคาญไม่ได้“แหม เขากรี๊ดแกไหมล่ะ ไอ้สองตัวนี่ต่างหากที่พวกนั้นกรี๊ดอ่ะ”เทวา หนึ่งในหนุ่มฮอตอดหันไปพูดตอกหน้าเพื่อนไม่ได้ เพราะทั้งกลุ่มนั้นศิวะดูท่าจะหล่อน้อยที่สุด หรือเรียกได้ว่าธรรมดาเลยก็ยังได้ ดีแค่มีผิวสีขาวราวน้ำนมก็เพียงเท่านั้นที่ทำให้เขาพอจะดูดีบ้างส่วนอีกสองหนุ่มที่ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากเดินหน้านิ่งเขาไปในอาคารเรียน ที่วันนี้ต้องเขาเรียนทฤษฎีกับอาจารย์ที่เรียกได้ว่าเข้มงวดที่สุด พวกเขาเลยต้องจำใจมาอย่างเลี่ยงไม่ได้รามินทร์ หรือ ราม หนุ่มหล่อ พ่อรวย แถมเรียนดีจนติดอันดับของมหาลัย นิสัยนิ่งเงียบแต่น่าเข้าหาด้วยรอยยิ้ม
พลั๊ก!“ว๊าย! เอ่อ...ขอโทษนะ...”“ขอโทษแล้วมันหายเจ็บไหม?”ศิวะที่นั่งยื่นขายาวออกไปนอกโต๊ะเพราะอยากนั่งเรียนแบบสบายๆแต่กลับเกะกะทางเดินจนคนที่เดินผ่านสะดุดเกือบล้ม ดีที่เกาะเพื่อนอีกคนเอาไว้ทัน“เอ่อ ฉัน...ฉันมองไม่เห็น...”เธอรีบเอ่ยขอโทษอย่างหวาดกลัว เพราะต่างก็รู้กิตติศัพท์ของหนุ่มๆกลุ่มนี้“จะมองเห็นได้ไงใส่แว่นซะใหญ่กว่าหน้าขนาดนี้! เรียนห้องนี้เหรอ?”ส่วนคนที่ถูกกระทำยังคงพูดออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างรู้สึกเคืองสายตา“อื้อ...”“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอเข้าห้องผิดรึเปล่า นี่มันนักศึกษาแพทย์นะ ไม่ใช่วรรณกรรมดึกดำบรรพ์ ดูสภาพ เชยสิ้นดี”ศิวะดึงขาหลบพร้อมกับดูถูกเธอออกมา จนคนที่ถูกดูถูกถึงกับก้มหน้าหนีความอาย เมื่อเพื่อนๆทั้งห้องกำลังจ้องมองมาที่เธออยู่“พอได้แล้ว! ขอโทษแล้วก็แล้วๆไปสิ จะต้องมาพูดดูถูกคนอื่นทำไม?”เพื่อนสนิทที่ยืนฟังอย่างไม่พอใจอดต่อว่าขึ้นไม่ได้“นี่ยัยอ้วน! มาแส่อะไรด้วยห๊ะ! ดูสารรูปแต่ละคน แน่ใจเหรอว่ามาเรียนหมอ!”“นี่!...”“พอได้แล้ว! เสียงดังออกไปนอกห้องโน่น ไปนั่งที่ก่อนจะถูกหักคะแนน”และเสียงของอาจารย์ก็ดังขึ้นห้ามศึกที่ไม่มีท
“อ๊ายๆๆๆ แก! ฉันนึกว่าฉันฝันไป 5 ปีที่ผ่านมาฉันไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมาถึงไม่เคยเห็นเทพบุตรอย่างราม คนอะไร ยิ้มทีเหมือนสวรรค์”พอการเรียนจบลง วารีก็เอาแต่พูดถึงรามินทร์อย่างเพ้อฝัน เพราะพึ่งเคยพูดกับเขาทั้งๆที่เรียนด้วยกันมาตั้ง 5 ปี จากที่รู้สึกไม่ชอบเธอกลับกำลังหลงรักเขาเข้าอย่างจัง ด้วยความน่ารัก สุภาพแถมขี้เล่น ทำให้สาวๆอดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเป็นแถบๆ ไม่เว้นแม้แต่ธารา ที่แอบยิ้มแทบทุกครั้งที่เขาเล่นมุกตลกๆและแอบเขินทุกครั้งที่เขาหันมามองหรือพูดกับเธอ“เขาก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว...แกแค่ไม่เคยสังเกตเองต่างหาก”ธาราอดพูดขึ้นไม่ได้“อะไรๆๆ แสดงว่าแกแอบมองเขามาตั้งนานแล้วสิใช่ไหม? ฮั่นแน่ ธาร แกก็ชอบรามใช่ไหม? บอกฉันมานะ ใช่รึเปล่า...”วารีที่จับสังเกตได้พยายามคาดคั้นเอาคำตอบ จนธาราเขินจนต้องรีบเดินหนี ส่านวารีก็เอาแต่เดินตามเพื่อล้อเพื่อนสนิทจนธาราต้องรีบวิ่งซ่อนพลั๊ก!“โอ๊ย! เอ่อ ขอโทษ...!?”ธาราที่เอาแต่มองไปด้านหลังเพราะกลัววารีจะวิ่งตามมาทันจนไม่ทันได้ดูเลยชนเข้ากับใครอีกคน และพอเงยหน้าขึ้นมองเธอก็ต้องตกใจถอยหลังหนี“ไม่มีตาเหรอ...แว่นก็ใหญ่เท่าใบลาน”โรมันพูดออมาอย่างรู้สึกหงุดหงิ
“ถึงห้องแล้ว เอ่อ นายเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยเดินตามเข้าไป”ธาราบอกขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องเรียนแล้ว“อ่าว ทำไมล่ะ เธอจะไปไหน?”“ฉันไม่อยากให้คนอื่นมอง นายพอเข้าใจใช่ไหม ถ้าเกิดฉันเดินเข้าไป เอ่อ กับนาย ชีวิตฉันอาจไม่สงบสุขอีกต่อไป...”และรามินทร์ก็เข้าใจ เขามองท่าทางวิตกของเธออย่างรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเขานั้นไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบที่เธอพูดแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้เมื่อลับหลังเขานั้นเธออาจถูกรังแกได้“งั้นก็ได้”เขายอมเดินเข้าไปคนเดียว ส่วนธาราก็รอเวลา ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป“ใครน่ะ?...”“เด็กใหม่เหรอ?”“เข้าผิดห้องรึเปล่า?”“หรือว่าหลงทางมา”“แต่คุ้นๆอยู่นะ...”และพอธาราเดินเข้าไปในห้องเรียน คำถามมากมายก็หลุดออกมาจากปากของเพื่อนๆเมื่อดันจำเธอไม่ได้กันเสียอย่างนั้น เพราะตลอด 5 ปีที่เรียนที่นี่เธอมักบดบังหน้าตาด้วยแว่นตาอันใหญ่ยักษ์นั่นเอง“ธาร! ทางนี้ๆๆ”เป็นวารีที่กวักมือเรียกเพื่อนสนิท เมื่อเธอนั้นมาถึงห้องเรียนก่อน ทำเอาพวกเพื่อนในห้องเรียนต่างพากันมองจ้องธาราอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น“ธารเหรอ?”“เฮ้ย! ใช่เหรอ?”“โอ้มายก๊อด!”“ทำไมไม่เหมือน”“ใช่จริงเหรอ?”ธาราเดินผ่านกลุ่ม
หมับ!“อึ๊ อื้อ...”หลังจากดื่มต่อกับซาร่าพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็เดินออกมาจากงานปาร์ตี้ เมื่อต่างก็พอรู้ถึงความต้องการของกันและกัน ซาร่าพาโรมันมาที่หอพักของเธอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงห้องทั้งสองก็ไม่ได้รีรอสวบ!!“อ๊ะ!...”โรมันที่รูดซิบกางเกงลงมาแล้วสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ก่อนจะดันมันเข้าไปในรูรักแสนหวานของซาร่าอย่างรวดเร็วและรุนแรงจะเธอถึงกับอ้าปากค้างด้วยความเจ็บจุกปึก!“อ๊ะ! โรม...โรมคะ ซาร่า อ๊ะ!...”ซาร่ารีบเอามือไปดันท้องเขาเอาไว้ เมื่อขนาดที่เขาส่งเข้ามานั้นมันใหญ่จนเกินที่เธอจะรับไหว ร่างสาวงองุ้มอย่างเจ็บจุก แต่โรมันไม่สนใจ เขาเริ่มกระหน่ำแทงหนักหน่วง เมื่อตอนนี้ต้องการจนแทบบ้าอยู่แล้วปึก! ปึก!“โอ๊ย! โรม อ๊ะ! โรมคะ อื้อ โรม อ๊า ซาร่าเจ็บ อึก! โรม...”ซาร่าไม่ได้มีความสุขร่วมด้วยกับเขาเลยสักนิด เมื่อหน้าสวยเหยเก เต็มไปด้วยความเจ็บและทรมาน สองมือกำเข้าหากันแน่น เมื่อเคยได้ยินว่าเขาดุดันเรื่องบนเตียง แต่ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!ส่วนโรมัน เขาเอาแต่กระแทกเข้าใส่เธอเหมือนกับเห็นเธอเป็นแค่ที่รองรับความต้องการที่เกิดขึ้น เขาไม่แม้แต่จะโอ้โลม หรือพาเธอไปม
“ห๊ะ?...เธอว่ายังไงนะ...”ขณะนั่งรอเรียน อยู่ดีๆธาราก็เดินก้มหน้าตรงเข้ามาหาโรมัน ทำเอากลุ่มของหนุ่มหล่อถึงกับมองจ้องเธออย่างตกใจ“ช่วยติววิชานิติเวชฯ เอ่อ ให้หน่อยได้ไหม?...”ธาราพูดขึ้นทั้งๆที่ก้มหน้างุดจนแทบมองหน้าเธอไม่เห็น“ใครวะ...ไม่เคยเห็นหน้า”ศิวะที่มองจ้องตั้งแต่เห็นธาราเดินเข้ามาอย่างมีคำถาม เมื่อเขาจำเธอไม่ได้เพราะไม่ได้ใส่แว่น เขาลุกเดินเข้ามามองเธอใกล้ๆ ทั้งก้ม ทั้งเบี่ยงตัวไปมาแต่ก็มองไม่ชัดเมื่อธาราพยายามก้มหน้าหลบเขา“ไม่ต้องยุ่งน่า!...เดี๋ยวฉันติวให้เอง...”เป็นรามินทร์ที่บอกขึ้น พร้อมกับตำหนิศิวะ จนศิวะต้องเดินกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนโรมัน ตอนนี้เขากำลังมองรามินทร์ด้วยสีหน้าและสายตาเป็นคำถาม เพราะปกติรามินทร์ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นแท้ๆ“ไม่ต้อง ฉันตกลง”โรมันบอกขึ้น ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง ไม่เว้นแม้แต่ธาราที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมา“ขอบคุณนะ! ขอบคุณจริงๆ”เธอเอ่ยขอบคุณเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ โดยทิ้งให้สองหนุ่ม ทั้งรามินทร์และโรมันได้แต่มองตามหลังเธอไปเหมือนถูกมนต์สะกดกับรอยยิ้มของเธอตึกตัก ตึกตัก ตึก
หมับ!“ออกไปห่างๆ ยัยนี่แฟนฉัน”เสียงห้ามอันเย็นเยียบบอกขึ้น เมื่อมือของชายหนุ่มที่อยู่ในงานเลี้ยงกำลังจะแตะต้องถูกตัวของวารี เทวารีบเอื้อมมือจับมันเอาไว้แน่น“เอ่อ ขอโทษที พอดีแค่จะทักทาย”หนุ่มหล่อบอกขึ้นพร้อมกับรีบดึงมือกลับ“ไม่จำเป็น ยัยนี่ของฉัน”เทวายังคงแสดงความเป็นเจ้าของ โดยมีวารียืนอมยิ้มอย่างถูกใจกับอาการหึงหวงของคนรักก่อนหนุ่มคนนั้นจะเดินหนีออกไป“ชอบจัง”เธอบอกขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขา“เลิกยิ้ม! คนอื่นมองอยู่”“อะไร หวงแม้กระทั่งยิ้ม แล้วนี่บ่าวสาวจะไม่ลงมาจริงๆเหรอ เริ่มดึกแล้วนะ”
“ธาร...นี่มันอะไรกัน...แล้วนี่...มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว...”ไม่กี่วันต่อมา ธารากลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับโรมันเพื่อบอกข่าวดีแก่วารีและคนทั้งโรงพยาบาล เมื่อเธอกับโรมันตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกันก่อนที่ลูกในท้องจะคลอดออกมา ทำเอาช็อกไปตามๆกันรวมทั้งวารีเองก็ด้วย เมื่อเธอกำลังมองตรงท้องที่นูนเด่นของธาราอย่างตกใจ เพราะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่ไม่เจอกันแต่ทำไมท้องถึงใหญ่ได้ขนาดนี้“ฉันท้อง 6 เดือนแล้ว”“ห๊ะ! 6 เดือน!”“อื้อ...ส่วนนี่ เดือนหน้าฉันจะแต่งงาน”“นี่มันบ้าไปแล้ว...”วารียกการ์ดงานแต่งงานที่ธารายื่นให้ขึ้นมาดูอย่างไม่อยากเชื่อ ทำเอาธาราอดขำไม่ได้เมื่อเธอเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน“ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกเรื่องที่ฉันท้อง&rd
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ธาราก็เดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีเพียงมารดาของเธอนั่งอยู่“มานั่งนี่สิ พ่อกับคุณหมออยู่นอกบ้านกัน...เรามาคุยกันหน่อยไหม?”แม่เลี้ยงนาราพูดขึ้นเมื่อเห็นธาราเดินลงมาจากบนห้องแล้ว ทำเอาเธอถึงกับแปลกใจ เมื่อบิดาขอคุยกับโรมันเป็นการส่วนตัว“มันเกิดอะไรขึ้น ลูกทะเลาะกับคุณหมอเหรอถึงได้หนีกลับมาที่นี่”“คะ? เปล่าค่ะ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน”ธาราบอกออกมาตามความจริง จนคนเป็นแม่ได้แต่มองอย่างนึกแปลกใจ เพราะทั้งการที่ธารากลับมาที่นี่คนเดียวและการที่โรมันโผล่มาโดยไม่บอกสถานะที่มีกับธาราอีก นอกจากทะเลาะกันก็ไม่มีคำอื่นที่ใช้ได้ดีกว่านี้แล้ว“เล่าให้แม่ฟังได้รึเปล่า ยังไงแม่ก็อยากรู้สาเหตุว่าทำไมลูกถึงหอบท้องกลับมาคนเดียวโดยไม่พูดอะไรเลย”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน...ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ถ้าจะมาก็ควรติดต่อมาก่อนสิ เกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะทำยังไง”ทางด้านธารา พอเดินเข้าห้องนอนมาเธอแทบหมดเรี่ยวแรงเมื่ออยู่ดีๆโรมันก็โผล่มาที่บ้านโดยไม่คิดแม้แต่จะโทรมาบอกเธอก่อน“แล้วจะทำยังไง...ถ้าเกิดเขารู้ว่าเราท้อง เขาจะดีใจ...หรือเสียใจ...จะเชื่อไหมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา...แม่ควรทำยังไงดี...”ธาราเอาแต่คิดฟุ้งซ่าน เมื่อสิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือเขาไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อเขาหายไปตั้ง 4 เดือนแบบนั้นแต่เธอดันมาท้อง ยิ่งคิดธาราก็ยิ่งหนักใจจากนั้นเวลาอาหารเย็นก็มาถึง จากที่คิดว่าจะปฏิเสธแต่ลูกในท้องดันเอาแต่ประท้วงหิวจนธาราต้องยอมร่วมโต๊ะอาหาร ซึ่งมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด เมื่อแม่เลี้ยงนาราอยากขอบคุณที่โรมันช่วยชีวิตสามีของเธอ“เชิญตามสบายเลยนะคะคุณหมอ ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตพ่อเลี้ยงเ
3 เดือนต่อมา“ลาออก! เกิดอะไรขึ้น...ธาร นี่ทำไมแกถึงตัดสินใจอะไรโดยไม่ปรึกษาฉันก่อนล่ะ”“ฉันคิดมาดีแล้วล่ะ อีกอย่างพ่อกับแม่ก็แก่มากแล้วด้วย ฉันคงต้องกลับไปดูแลงานในไร่ต่อ”“เฮ้ออออ แล้วฉันจะอยู่โดยไม่มีแกได้ยังไงกัน...”วารีที่พึ่งรู้เรื่องการลาออกของธาราจากผู้อำนวยการของโรงพยาบาลถึงกับตีโพยตีพาย“ฉันไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย จากนี่ไปก็แค่ชั่วโมงเดียว แกไปกลับทุกวันได้สบายเลย”ธาราที่ทั้งเก็บของทั้งแกล้งพูดเล่นกับวารีเพื่อไม่ให้เพื่อนรักของเธอโศกเศร้ากับการลาออกจากงานในครั้งนี้“เวลานอนยังแทบไม่มี แล้วฉันจะเอาเวลาที่ไหนบินไปกลับได้ทุกวันล่ะ...ว่าแต่...ไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”“หือ?
“ไอ้เทพ ผู้หญิงที่แกถ่ายรูปด้วยคือใครวะ ดูคุ้นๆ”ศิวะ ที่ข้องใจจนทนไม่ไหวถึงกับต้องถ่อมาหาเทวาที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นรูปในโซเชียลมีเดียที่เทวาอัพโหลดลงไป“เมียฉันเอง”เทวาบอกออกมาอย่างไม่ต้องคิด เมื่อเขาจงใจจะประกาศบอกทั้งโลกอยู่แล้ว“เมียเหรอ? แกไปมีเมียตั้งแต่ตอนไหน...แล้วใครกันเมียแก”ศิวะถามขึ้นอย่างแปลกใจ“นั่นไง เมียฉันกำลังเดินมาโน่นแล้ว”เทวาบอกขึ้นพร้อมกับมองไปยังทางเดิน ที่มีใครอีกคนกำลังเดินมา“ไอ้เทพ...อย่าบอกนะว่าแกกับคุณหมอ...ไอ้นี่ ไม่บอกกันก่อนวะ ไวเหมือนกันนะแก”“ก็ธรรมด๊า ฉันรักของฉัน ไม่อยากให้ใครมายุ่งนี่หว่า”
“อะไรนะ! นายนั่นไม่อยู่อีกแล้วเหรอ? หายตัวไปอีกใช่ไหม?”“เปล่า มีเรื่องจำเป็นต้องไปน่ะ”“แล้วแกล่ะ จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“อื้อ คิดว่าไม่...เขาบอกจะกลับมาให้เร็วที่สุด”“เร็วที่สุด? ไม่ใช่แกต้องรอจนแก่หงำเหงือกหมอนั่นถึงกลับมาหรอกนะ”“.................”ไม่กี่วันต่อมา โรมันที่เคลียร์ทุกอย่างจนเรียบร้อยก็ทำเรื่องลายาวโดยให้นนนน์เป็นคนดูแลงานแทนเขา ทำเอาเรื่องที่เขาหายตัวไปเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะตั้งแต่เขาเริ่มทำงานมา ก็ดูเหมือนจะติดขัดไปหมด ทั้งเรื่องที่อยู่ดีๆเขาก็บินไปเชียงใหม่ พอกลับมาก็กลับมาด้วยร่างกายที่เกือบจะไม่หายใจอีก แล้วยังมาขอลายาวทั้งๆที่พึ่งเริ่มทำงานได้จริงจังเพียงไม่กี่วัน ทำเอาพวกผู้บริหารพากันจัดประชุมขอถอดถอนโรมันกันจ้าละหวั่น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขอเข้าไปได้ไหม?...”“................”หลังจากจัดการงานเสร็จ วารีที่รู้สึกผิดเดินมาหาเทวาที่ห้องทำงาน เธอเคาะประตูหน้าห้องแต่เขากลับไม่ตอบรับ เธอเลยเปิดประตูเข้าไปและก็พบว่าเขานั่งทำงานอยู่ไม่เงยหน้าขึ้นมาสนใจเธอเลยสักนิด“นาย ฉัน เอ่อ ฉัน...”“................”เอาไงดีเนี่ย! หรือควรกลับออกไป ไม่ๆๆๆทำผิดก็ต้องกล้ารับผิดสิ...แต่ถ้าหมอนี่ไม่หายโกรธล่ะ...“ฉันขอ...”“ไปกินข้าวมาคงอร่อยจนลืมเวลางานเลยงั้นสิ”นั่นไง อีตาบ้านี่โกรธจริงๆด้วยวารีที่ยังพูดไม่ทันจบแต่เทวาพูดขึ้น
“คุณหมอคะ โน่นค่ะ แฟนคลับคุณหมอมาอีกแล้ว”“คะ?...”เวรแล้ววววว ทำไงดีๆๆ หลบๆๆๆ อ๊ายยย ไม่ทันแล้ววววารีที่กำลังยืนเช็คเอกสารอยู่มองไปตามที่พยาบาลสาวบอก ก่อนจะเจอเข้ากับศิวะที่เดินยิ้มร่าตรงมาหาเธอ ในมือถือช่อดอกไม้เล็กๆน่ารักมาด้วย“คุณหมอครับ นี่ครับผมเอามาฝาก”ศิวะรีบยื่นดอกไม้ในมือให้กับวารี ที่มองหน้าเขาพร้อมยิ้มฝืดๆส่งไปให้“ฉันไม่ค่อยชอบดอกไม้ ถ้าจะเป็นของฝากก็ขอเป็นกระเป๋าหลุยส์คอลเลคชั่นใหม่ที่พึ่งออกจะดีมากเลยค่ะ”หลุยส์คอลเลคชั่นใหม่...2 ล้าน 5 ! โอ้วววแม่เจ้า!!พอได้ยินของที่เธออยากได้ ศิวะที่เป็นเจ้าพ่อแฟชั่นถึงกับอ้าปากค้างเมื่อของที่เธออยากได้มันพึ่งเปิดตัวเม