สีหน้าขุ่นเคืองใจของเจ้านายค่อยคลายลง ในสายตาของลูกน้อยที่ตั้งใจรอ...
กระดาษแต่ละใบสอดไว้ข้างใต้ล่างสุด แต่ละรูป ดวงตาที่ฉายแววเย็นยะเยือกอยู่เสมอใช้เวลาจับจ้องมันอยู่สักพัก
ใบหน้าหวานหมดจดลงตัวไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่ชอบเลย ดวงตาคู่กลมโตดูใสซื่อบริสุทธิ์กับเดรสทรงคุณหนูเฉิ่ม ๆ ดูยังไงก็เป็นผู้หญิงเรียบร้อย ช่างห่างไกลจากผู้หญิงในอุดมคติ...
สเปคของเมธพนธ์ต้องนมโตเท่าหัวเด็ก! แต่ถึงเขาจะเป็นอย่างนั้น หัวสมองกลับโลดแล่นจินตนาการฉากสวาท วาบหวามน้ำรักน้ำกามเต็มหน้าสวย ๆ และก็ยังคิดอยู่ว่าเธอมีใครจับจองเป็นเจ้าของหรือยัง ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเธอมีความสัมพันธ์อย่างไรกับศัตรูตัวฉกาจ
เจ้าของฟาร์มม้า รีสอร์ตเชิงท่องเที่ยวธรรมชาติ ดำเนินกิจการมาก่อนฟาร์มองุ่นของเขาถึงสามสิบปี ก็คงจะต้องเขม่นกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ปลายนิ้วยกขึ้นรูปไล้ใบหน้าของหญิงสาวในภาพถ่ายอย่างหลงใหล ราวกับว่าตกอยู่ในห้วงมนต์ ก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
“เด็กไอ้พิภพงั้นเหรอ...?”
“ลูกสาวของพลตำรวจเอกปรีชา ผู้หญิงที่ไอ้พิภพกำลังติดพัน พวกผมตามสืบอยู่ น่าสนใจกว่านังอริสเยอะ นังนั่นมันไล่ยิงพวกเราตั้งหลายคน มาป่วนฟาร์มเราอีก” คนพูดมีท่าทีโกรธแค้น แววตาวาวโรจน์บอกนายที่ยกมือแตะคางด้วยท่าทางครุ่นคิด
“จริงอย่างที่แกว่า... วิทยา หัวดีเหมือนกันนะ ไม่เสียแรงที่ฉันนับเป็นน้องเป็นนุ่ง” นายยกมือลูบศีรษะผู้ชายตัวโตที่แค่ยิ้มแหย ก่อนจะหน้าเข้มเครียดขึ้น
“ผมได้ยินมาจากชาวบ้านว่าเธออัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย ช่วงนี้พวกผู้หมวดผู้กองยุ่งกับคดีใหญ่ของท่านรองฯ คดียาเสพติดจับปลาใหญ่ไม่ได้สักตัว เธอเลยไม่มีตำรวจคอยตาม ถ้านายอยากแก้แค้นไอ้พิภพเพื่อความสะใจ ผมว่าเหมาะ”
“อืม... สงสัยจะมีเรื่องสนุกทำ แกไม่ต้องยุ่งอะไรทั้งนั้นนะ ฉันจะจัดการเอง”
ความคิดร้ายกาจบอกเมธพนธ์ได้ทันทีว่าควรทำอย่างไรกับแม่สาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอสรพิษอย่างอริสา ยังมีอีกเรื่องที่เขาเพิ่งจะนึกออกพอพิจารณาวงหน้าหวานงามดูให้ดี ๆ ทำหน้าเครียดให้ลูกน้องคนสนิทเกิดสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ? นายหัว...”
ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบขึ้นมองคนถามแต่เขาคงไม่บอก แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะปกปิดเรื่องอะไรได้จากวิทยาได้บ้างไหม
“เปล่า... ไม่มีอะไร แกไปสืบเรื่องผู้หญิงคนนี้มาให้ฉัน” แล้วส่งสายตาคมวับไปยังแก้วทรงสวยบนโต๊ะ
“จะรอให้ยุงไข่ในไวน์รสเลิศของฟาร์มฉันก่อนหรือยังไง? เสียมารยาทสุด ๆ ไปเลยนะไอ้วิทย์”
ความสนิทสนมกันไม่มีใครถือสาใคร วิทยาโน้มตัวลงจับก้านแก้วใสขึ้นดมกลิ่นหอมขององุ่นที่มักบ่มมานาน ด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มก่อนยกขึ้นแตะริมฝีปาก จิบชิมทีละเล็กละน้อย
ฟาร์ม ‘พีควัลเลย์’ เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศสุดแสนธรรมชาติท่ามกลางขุนเขา
ไวน์คุณภาพของเมืองไทยหมักบ่มจากองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ใครจะรู้ว่าทีแรกนั้นนายทุนใหญ่นำเงินหมุนเวียนจากธุรกิจสีเทา ๆ มาลงไว้ เพื่อให้เงินพวกนั้นให้กลายเป็นเงินสะอาด
“เธอชื่ออะไร?” เสียงเข้มถามขึ้นมา ทำคนเป็นลูกน้องแปลกใจแต่ก็รีบตอบ
“คุณพายครับ”
“ชื่อ นามสกุล...”
“ขณิกา อรรถ..? อะไรสักอย่างน่ะครับ นามสกุลเธอยาวมาก เอ๊ะ..? นายไม่เคยถามชื่อใครนี่” ลูกน้องหนุ่มมีสีหน้างุนงงสุดๆ เพราะแม้แต่คู่นอนของนายแต่ละคน สาวคนโปรดนายยังเรียกหาแบบส่ง ๆ ยัยนางแบบ ยัยขายาว ยัยนมโต...
“ก็แค่ถาม มันจะไปแปลกอะไร เหมือนคุณกิ้บ... ฉันยังเรียกหล่อนว่าคุณกิ้บเลย” แก้ตัวพลางคว้าขวดสีเขียวเข้มรินลงในแก้วอีกใบหนึ่งให้ตัวของเขาเอง กลบเกลื่อนอาการโกหกที่คนสนิทนับสิบปีอย่างวิทยาต้องรู้
“นายเรียกยัยแม่บ้านนมโต... ผมเพิ่งได้ยินนายเรียกคุณกิ้บ เพราะว่าเธอแทนตัวเองว่ากิ้บแค่หนเดียว”
“แกจะมาเถียงฉันเรื่องชื่อให้มันได้อะไรล่ะ? หืม...” เลิกคิ้วถามพร้อมด้วยรอยแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างสูงโน้มตัวลงจับก้านแก้วทรงสวยขึ้น ยื่นไปข้างหน้าเพื่อแตะแก้วกับลูกน้องหนุ่มเบา ๆ พอวิทยาจิบชิมไวน์รสชาติดีอย่างชื่นใจ เขาถึงได้วนน้ำสีแดงสดไปมาอย่างนึกอารมณ์ดี ทว่าประกายไฟเดือดดาลปะทุขึ้นในดวงตา
“ไอ้โคแก่คิดจะกินหญ้าอ่อนสินะ... ฉันคงต้องรีบไปแย่งน้องพายมาซะแล้ว”
-------------------------------
สามเดือนที่แล้ว...
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้านี้ก็ถึงฟาร์มนายภพ รุ่นน้องพ่อแล้วล่ะ อย่าลืมที่พ่อบอกนะลูก” ปรีชาหันไปย้ำเรื่องสำคัญอีกครั้งหนึ่งในที่ข้างหลังของเขากับลูกสาว
“ค่ะพ่อ ห้ามพูดเรื่องรัก ๆ กับอาภพ เท่านี้สบายมาก พายทำได้ รูดซิบปิดปากสนิทไม่มีปัญหาแน่นอน” เสียงเจื้อยแจ้วตอบพลันส่งยิ้มหวาน มือกอดรัดแขนพ่อประสาคนช่างอ้อน ก่อนจะชะเง้อคอหาคนขับรถยนต์ส่วนตัวข้างหน้า “ลุงนิ่มไปเที่ยวกับพายด้วยนะ”
“ได้เลยครับคุณพาย”
ลุงนิ่มทำงานให้ครอบครัวอรรถจิรานนท์มานาน คอยรับส่งหญิงสาวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ช่วงนี้คงบ่อยขึ้นพอขณิกามาอยู่เขาใหญ่กับครอบครัว ไปกรุงเทพเป็นบางครั้งบางคราวเฉพาะเวลาเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัท
ปรีชาคิดว่าลูกสาวคงกำลังตื่นเต้นเพราะเป็นลูกคุณหนูผู้ดีมาแต่เกิด จึงเดินห้างสรรพสินค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่เคยได้มีโอกาสท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ถึงได้รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้า
ในเดรสสีครีมหวานเข้ากันกับหมวกปีกกว้างและกระเป๋างานแบรนด์เนมใบเล็กๆ ดวงตากลมโตเปล่งประกาย ริมฝีปากได้รูปอมชมพูแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“พายอ่านรีวิวก่อนมาแล้วพ่อ รีสอร์ตฟาร์มม้าของคุณอาสวยมาก ข้างในมีห้องพักเห็นภูเขา 360 องศาด้วยค่ะ เขาบอกกันว่าเป็นรีสอร์ตที่สวยที่สุดในเขาใหญ่”
คนพ่อเลื่อนมือไปจับมือเรียวเล็กของลูกสาวไว้ พลางเอ่ยชมไม่ขาดปาก “รับรองว่าลูกจะติดใจ จนต้องขอนอนชมวิวที่นี่บ่อย ๆ”
“แน่ ๆ เลยค่ะพ่อ นี่พอพายบอกเพื่อนในไลน์กลุ่มว่าจะมาที่นี่ ยัยฟ้ายัยพิมพ์อิจฉากันใหญ่ พ่อเลิกงานแล้วมาเที่ยวกับพายนะ”
“อืม... พ่อเสร็จงานแล้วจะโทรหา ฝากพายด้วยตานิ่ม ฉันขับรถไปทำงานเอง เย็น ๆ ฉันมารับแกกับพายเนอะ” ปลายเสียงบอกกับสารถีคนดีประจำบ้าน หนุ่มวัยหกสิบตอบรับด้วยรอยยิ้ม ผ่านกระจกมองหน้า
“ครับ ท่าน”
เป็นความหวังดีของพ่อที่กลัวลูกสาวเบื่อหน่ายระหว่างที่เขาติดภารกิจสำคัญ คดีใหญ่ระดับชาติ ตั้งแต่พลตำรวจเอกปรีชาพาครอบครัวย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ตัวของเขาเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลา การพาลูกสาวมาเที่ยวมาฝากรุ่นน้องที่ฟาร์มม้าแห่งนี้ ลูกได้เที่ยวแล้วตัวเขายังไม่ต้องเป็นห่วงลูกสาวมาก
“ช่วงนี้เราเที่ยวให้หนำใจไปเลยนะ วันไหนพ่อกลับดึก จะได้ไม่ต้องอยู่รอ อยู่กับนายภพกับลูกสาวแกจะได้ไม่เหงา”
คุณหนูของบ้านยังคงมีสีหน้าสงสัยอยู่ “อืม... พ่อบอกว่ารู้จักอาภพมานานแล้วใช่เปล่า?”
“ตั้งแต่พ่อเป็นตำรวจใหม่ ๆ เลยล่ะลูก ตอนนั้นแก้วใจ เมียแกก็ยังอยู่ เป็นรุ่นน้องพ่อทั้งสองคนนั่นแหละ”
ในหน้าตาเข้มเครียดขึ้นเล็กน้อยพอเอ่ยถึงอดีตภรรยาของนายหัวฟาร์มม้า ปรีชารู้จักกับสองสามีภรรยาที่รักใคร่กันมาก เสียอยู่เรื่องเดียวคือพิภพเป็นคนสูบบุหรี่จัด ทว่าพอภรรยาต้องมาเสียชีวิตไปเพราะควันบุหรี่มือสอง เจ้าตัวจึงเลิกบุหรี่เป็นการถาวร
คุณพ่อนั้นแน่ใจว่าเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันมานานนับหลายสิบปีจะดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี ไม่มีนอกลู่นอกทาง โดยไม่ได้เอะใจอะไร...
กระทั่งใบหน้าสดสวยเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม หรี่ตาเล็กจนเหยียดตรง
“พายว่าพายเคยได้ยินอยู่ค่ะ นายหัวฟาร์มม้าเป็นคนดังละแวกนี้ แปลว่าตอนนี้คุณพิภพโสดน่ะสิ”
คนพ่อหัวเราะเสียงดัง “ตั้งแต่เมียตายตาภพก็อย่างนั้น อยู่คนเดียวน่ะสิลูก ทำไมรึ?”
“พายจีบเพื่อนพ่อได้เปล่า?”
“ลามปาม” ดุทันที วงหน้าหวานเสแสร้งเป็นเศร้าอยู่ครู่ ทว่าพอมุมปากหนาหยักได้รูปกระตุกว่า “ถ้าแกมีปัญญานะ ยัยพาย” “อุ๊ย...! พ่อดูถูกพายอ่ะ” เสียงตกใจตอบพลางยกมือแนบอก ขณิกาแน่ใจว่าเธอไม่ได้ขี้เหร่เลย ยังดูแลตัวเองอยู่เสมอประสาลูกคนมีเงิน ทว่าสำหรับปรีชาที่รู้จักหนุ่มใหญ่มานานมั่นใจว่าความสวยไม่ใช่ประเด็น เศรษฐีพ่อม่ายลูกติด เจ้าของรีสอร์ตฟาร์มม้ากว้างขวางพื้นที่กว่าร้อยไร่ มีสาวน้อยใหญ่มารุมล้อมทอดสะพานให้มากมาย ไม่เคยจะได้สนใจใครนอกจากลูกสาว ด้วยเหตุว่าเขายังฝังใจกับภรรยาที่ลาจากโลกไปถึงสิบห้าปี “พ่อพูดเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นพ่อจะกล้าพาลูกสาวสุดที่รักของพ่อมาฝากรึ?” “เชื่อแล้วค่ะ คุณพ่อขา...” แล้วเธอก็ซุกแก้มลงบนไหล่พ่อ ที่รักและเอาใจใส่เธอเป็นที่สุดด้วยความเป็นลูกคนเดียว “เดี๋ยวตอนเย็น ลูกคงได้เจอพี่อริสา ลูกสาวนายภพ พ่อโทรหาแล้วล่ะ เห็นว่าจะกลับมาทานข้าวที่บ้านด้วยกัน กับข้าวที่นี่อร่อยมาก ถ้าลูกหิวลูกกินไปก่อนเลยนะ” “ค่ะพ่อ เอ... พี่อริส.. ที่พ่อเล่าให้ฟัง เป็นครูสอนยิงปืนด้วยใช่ป่ะ?” คนถามเชยหน้าขึ้นมองเจ้าของบ่า
“ไอ้ยักษ์...! มึงไปเต้นกินรำกินตามงานวัดทำเหี้ยอะไร!? บ้านช่องไม่เคยกลับ ไปอยู่กับไอ้ครูโขนนั่นอีกแล้วใช่ไหม ค่อยดูเถอะมึง กูจะตามไปถล่มแม่ง!” ถ้อยคำสบถด่าของแม่ฟาดลงพร้อมฝ่ามือพิฆาต บนแผ่นหลังของเด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีที่ยกมือขึ้นปัดป้องกอดกุมตัวเอง ด้วยความที่เขาเป็นเด็กตัวใหญ่หากเทียบกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน พ่อแม่หรือใครก็เรียกเขาว่า ‘ไอ้ยักษ์’ ใหญ่ขนาดว่าเพื่อน ๆ ที่โรงละครโขนเล็ก ๆ ของลุงก็ยังให้เขาเล่นแต่บทยักษ์ “โอ๊ย! แม่ อะไรของแม่เนี่ย มันเรื่องของผมป่ะ” ในน้ำเสียงขุ่นเคืองเถียงอย่างก้าวร้าว เด็กหนุ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นความที่ดีในมุมของตัวเขา ไม่ใช่กับแม่... “ไอ้ห่า...! ได้แค่เศษเงิน มันพอแดกไหม มาช่วยกูส่งของให้ลูกค้านี่” “ไม่ไป... ไม่อยากไป มาบังคับอะไร ผมโตแล้วนะไม่ใช่เด็กชาย!” เสียงตะคอกอย่างโกรธขึ้งเรียกโทสะลูกใหญ่ของหญิงอ้วนท้วม ปั่ก! มืออวบกำหมัดแน่นฟาดเข้ากลางกระหม่อมตามด้วยลูกถีบจนเด็กชายตัวใหญ่กระเด็นไปตามแรงเหวี่ยง กระแทกเข้ากับสังกะสีของบ้านหลังเก่าซอมซ่อ บ้านที่ไม่เคยเป็นบ้านสำหรับเ
เจ้าของฟาร์มองุ่นชอบงานปาร์ตี้นารีกับบรรดาลูกน้องอยู่แล้ว เหลือบตามองตามก่อนปัดจอโทรศัพท์ทำไม่สนใจอย่างเดิม วิทยาคงมีเรื่องสำคัญมากพอที่จะทำให้เขาให้หงุดหงิดอีกรอบสอง “เอ้อ... ครูนพป่วยหนัก ผมได้ยินว่าเป็นอัมพาตครึ่งตัว นายจะไปเยี่ยมไหม?” ดวงตาคู่คมเหลือบขึ้นมองคนพูด ก่อนหลุบตาลงมองน้ำสีแดงสดที่ถูกรินเทจากปลายขวดลงในแก้ว มันไหลวนอย่างไม่มีทางออก... อาจเปรียบเสมือนความสัมพันธ์อันไม่สามารถตัดขาดจากกันของเขากับครูนพเพราะความเป็นเจ้าบุญนายคุณ ไม่ใช่ต่อเขาคนเดียว... แต่กับอีกหลายชีวิตด้วยเช่นกัน คุณลุงใจดีเจ้าของค่ายกระบี่กระบอง โรงโขนเล็ก ๆ ในชุมชนสลัมผู้มีอุดมคติแน่วแน่ ท่านหวังดีกับเด็ก ๆ จึงจัดตั้งแหล่งกิจกรรมแทนการมั่วสุม จากพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยระบบวงจรชีวิตสุดเลวทราม ชีวิตของเขาก่อนจะมายืน ณ จุดนี้ผ่านอะไรมาโชกโชน “ไปเยี่ยมแกกันนะครับ โรงโขนของลุงกำลังจะปิด แกเป็นหนี้เพราะไอ้ถินมันติดพนัน เข้าบ่อนเล่นยา ขาก็เดี้ยง แกต้องจบความฝันของแก คงเศร้ามาก ๆ” คำขอร้องของวิทยาจริงจังทั้งสีหน้าแววตา
“พี่อริสหัวเราะใหญ่เลย... หัวเราะท้องแข็งขนาดนั้นคุยอะไรกัน?” “นี่... พาย” บ่ามนถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วชี้ที่แตะลงหลายครั้ง หญิงสาวแค่ปัดออกไปเหมือนปัดแมลงวันตอม “อย่าเพิ่งกวนค่ะอาภพ พายกำลังใช้สมาธิขั้นสุดยอด ถ้าพายเป็นผู้ชาย พายคงแจกขนมจีบเช้าเย็นแบบคุณหมอนี่ล่ะ เฮ้อ.. ทำไมพายไม่เกิดมาเป็นผู้ชายนะ หรือให้พี่อริสเกิดมาเป็นไอดอลแบบลิซ่าก็ได้ พายจะตามไปติ่ง! เกาะติดขอบเวที ซื้อตั๋วคอนทุกใบ” “พาย... ขออาดูด้วยคนสิ” เสียงทุ้มอ้อนขอ พิภพโน้มตัวลงหาคนตัวเล็ก ปลายจมูกรับรู้กลิ่นหอมอ่อนจากเส้นผมดำขลับสลวยเข้าทีหนึ่ง ใจสั่นไหวไปตามประสาโคแก่... “นี่ของของพาย อาภพขับรถไปซื้อกล้องเองนะคะ ไม่ก็สั่งช้อปปี้เอานะ” ขณิกายังคงไม่สนใจ ด้วยความจงรักภักดีที่มีต่ออริสานั้นสูงมาก เธอชื่นชมผู้หญิงคนนี้มานานเพราะทั้งสวยทั้งเก่ง ดันทำให้คนเป็นพ่อแท้ ๆ รู้สึกไม่พอใจ แต่เขายังทำอ้อนขอ “ขออาดูหน่อยนะ นะ.. เดี๋ยวอาพาไปขี่ม้าเล่นดีไหม?” “น้อยไปค่ะ แลกกับกล้องส่องทางไกลรุ่นลิมิเต็ดของพายไม่ได้ พายซื้อมาแพงมากเพื่องานนี้ค่ะ พายเป็นแม่คุณทุ่ม ติ่งตั
หลังเรียนจบมาด้วยทุนทรัพย์จากพ่อแม่ ลงหุ้นเปิดบริษัทกันสามคนมีอิงฟ้า ขณิกา พิมพ์ลภัส ปริญญาโทด้านการตลาด Newcastle University มหา’ลัยอันดับหนึ่งของ UK ไม่ได้ช่วยอะไรสักอย่าง “ฉันว่า... ปริญญาไม่ต่างจากกระดาษใบเดียว หางานทำ หาเงินยากกว่าเป็นร้อยเท่า” คนบ่นหยิบแป้งตลับออกมาจากกระเป๋าเพื่อจัดการกับสภาพใบหน้าของตัวเองให้ดูดีมากพอไปพบลูกน้องอย่างสง่าผ่าเผย “แต่จะให้เกาะพ่อแม่กินไปตลอดชีวิตก็ไม่ไหวอ่าเนอะ” “เออ... ก็ต้องทนกันไป... จนกว่าจำได้ดีล่ะ มันต้องมีสักวัน” ขณิกาบ่นปนให้กำลังใจเพื่อนและตัวเอง ขณะที่อิงฟ้ามีเรื่องคันปากอยากเม้าท์กับกลุ่มเพื่อนสนิทจนตัวสั่น วางแก้วพลาสติกในมือลง ลดน้ำเสียงลงเอ่ย “เออ... พาย แกได้ข่าวยัยวาป่ะ ฉันได้ยินว่านางรับช่วงต่อบริษัทโฆษณาจากพ่อ ที่นางชอบโม้อ่ะว่าเปิดเป็นเจ้าแรกรุ่นเดอะอะไรของนางสักอย่าง นางลงเฟซไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์กับหนุ่มหล่อด้วยนะ ดูอู้ฟู่เชียว” แค่ได้ยินชื่อเพื่อนร่วมรุ่นอีกคน ขณิกาชะงักนิ่ง เก็บแป้งใส่กระเป๋าด้วยหน้าตาเจื่อน ๆ “ออ... ก็ดีนะ ฉันดีใจกับนางด้วย”
“ใช่เสียงเจ้านายคุณหรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกถาม เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาเข้าใบหน้าคมคาย มานั่งรอเจ้าของบริษัทได้สักพัก ในท่านั่งสบาย ๆ พาดหน้าขาไขว่ห้างเหยียดกายพิงแผ่นหลังบนโซฟา หยิบนิตยสารบนโต๊ะขึ้นมาพลิกไปมา พนักงานออฟฟิศสาววัยสามสิบปลาย ๆ ที่เพิ่งมานั่งลงตรงข้ามเขากลับมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เอ่อ... คือ ถ้าคุณเมฆสะดวกวันอื่น ไม่เป็นไรนะคะ” “ผมว่างแค่วันนี้ ผมจะรอจนกว่าคุณพายเธอจะมา” ชายหนุ่มขัดด้วยท่าทีวางอำนาจ ส่งสายตาดุคมวาววับจนอีกคนนั้นหลุบหนี “ลูกค้าอย่างผมควรจะมาเมื่อไรก็ได้ ไม่ใช่หรือไง? คิดว่าผมโอนเงินมัดจำสามแสนบาทเข้าบริษัทคุณ ทั้งที่ยังไม่เห็นงาน ผมเดินเข้ามาโดยไม่รู้อะไรเลยสักอย่างหรือ? คุณญาดา” ถึงจะมาก่อนนัดหมายในอาทิตย์หน้า เมธพนธ์คิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขาอย่างเต็มที่ ลูกน้องอย่างหล่อนดันไม่พยายามที่จะเข้าใจเอาเสียเลย “คือ ฉันเกรงว่า...” “ลูกสาวคุณกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย วันนี้มีเรียนพิเศษแถวสยาม รถมันจะติดนะครับ จะไปก็รีบไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับเรื่องนี้เลย”
“ใกล้ออฟฟิศ และน่าจะใกล้ที่พักของคุณพายด้วยหรือเปล่า? ผมไม่แน่ใจ ผมว่าสะดวกกว่าเส้นอื่น รถมันออกจะติดนะครับ” เขาให้เหตุผลที่พาเธอมาร้านนี้ พลางสาวเท้าก้าวให้ช้าลงเท่ากันกับคนตัวเล็กกว่า ร่างสูงเดินนำไปยังโต๊ะที่จองไว้ นั่งทับที่เดิมของใครบางคนอย่างจงใจ พอถึงเวลาที่บริกรหนุ่มมารับรายการอาหาร เขายังสั่งอาหารเมนูที่เธอจะมาสั่งมันเป็นประจำ “ต้มยำ... ผัดผัก ยำ...” บริกรหนุ่มยิ้มรับรายการอาหารจากลูกค้าที่ยังบอกด้วยว่า ‘เผ็ดน้อย’ และไม่เอาหัวหอม ส่วนสำหรับตัวเขาเป็นน้ำผลไม้ เพราะว่าขับรถมาเองเขาก็จะไม่แตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองชายตรงหน้าด้วยความคิดหลายอย่าง อันที่จริงเธอเอะใจมาได้สักพักแล้วว่าคำพูดจาของเขาแปลกๆ “คุณเมฆคะ ถ้าฉันจะถามตรง ๆ...” “คุณคิดว่าผมเป็นใคร? ผมจะเดินเข้าไปหาคุณเฉย ๆ ทำไม ผมไปจ้างบริษัทอื่นที่เปิดมาเป็นสิบยี่สิบปี เก๋ากว่าบริษัทคุณก็ได้” ตาคมลืมพรึบจากเมนูอาหาร วางมันไว้บนโต๊ะ รวบมือไว้บนหน้าตักด้วยกิริยาเชิดหยิ่งทุกกระเบียดนิ้ว “ตามผมมาครับ...” ร่างสูง
“ใครสั่งให้พวกมึงไปกระทืบหมอหมา!?” เสียงตะคอกอย่างโกรธขึ้ง นายหัวสาดอารมณ์เกรี้ยวกราดพอได้เรื่องว่ามีคนทำงานเกินคำสั่ง ทั้งที่มันเคยเป็นเรื่องปรกติในฟาร์มแห่งนี้ งานประจบเอาใจเป็นที่หนึ่งยกให้วิทยา คนอื่นที่หวังโบนัสจากนายก็ไม่น้อยหน้า “อ้าว.. นายบอกพวกผมเองว่าอย่าให้ใครมาแตะของเล่นนาย” “พวกมึงจะทำอะไร ทำไมไม่มาถามกูก่อน! ไอ้ควาย มีสมองกันบ้างไหม?” นับครั้งได้ที่คนสุภาพร้ายกาจอย่างเมธพนธ์จะขึ้นกูมึง ลูกน้องสามคนโดนตบกบาลเรียงตัว ตามด้วยลูกถีบสุดจุกล้มลงไปกองกับพื้น ส่งเสียงครวญครางไปตาม ๆ กัน เป็นที่รู้ว่านายหัวแต่เก่าก่อนเคยอยู่โรงโขน กระบี่กระบอง เขาก็ต้องเป็นวิชาป้องกันตัว ถึงไม่ค่อยจะได้ลงมือกันบ่อย ๆ แต่ถ้าได้โมโหแล้วล่ะก็ มือหนักตีนหนัก! “อย่าสะเออะหาเรื่องให้กูอีก แค่นี้กูก็ปวดกบาลจะตายห่า!” ฝ่ามือหนาง้างขึ้นกลางอากาศเตรียมสาดโทสะอีกรอบ ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาพอดี วิทยาไปให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวก่อเรื่อง กลุ่มนักเลงที่เจตนาไปสั่งสอนคุณหมอ แต่ดันถูกหมอหมาซ้อมเสียยับเยินสภาพดูไม่ได้ ไม่พอ
เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งโรงละครกว้างขวาง ครอบคลุมด้วยระบบเสียงดิจิตัลรอบทิศทาง ตกแต่งด้วยลวดลายงามแบบไทย โขนละครรามเกียรติ์ตอนยกทัพไปรบ หนุมานชูกล่องดวงใจ หนุมานรบมัจฉานุ ลักสีดา พิเภกสวามิภักดิ์ อีกหลากหลายตอนที่เธอมารอชม ไม่มีรอบไหนพลาด ซื้อตั๋วไม่มีขาด FC แฟนพันธุ์แท้ กดจองได้เร็วเสียยิ่งกว่าตั๋วงานคอนฯ BTS ในที่สุดเธอก็กลายเป็นเจ้าแม่จนต้องได้ที่นั่งด้านหน้าสุดทุกครั้ง! ขณิกากลายเป็นหนึ่งคนที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย บางครั้งยังนุ่งซิ่นมานั่งชมละครโขน ละครเพลง กับพี่สาวคนสนิทและคุณอา ทว่าสิ้นสุดงานแสดงจบลงมีสิ่งเดียวที่เธอไม่เคยนึกชอบ! คือตอนถอดหัวโขน มักจะมีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาว ๆ เบา ๆ ‘นายหัวเมฆแห่งไร่องุ่น พีควัลเลย์’ กลายเป็นคนดังในวงการเซเลบด้วยความหล่อเหลากระชากใจด้วยรอยยิ้มตรงมุมปาก ชายหนุ่มยังได้ตำแหน่งครองใจสาวน้อยใหญ่เป็น ‘ทศกัณฐ์ที่หล่อที่สุด!’ ทั้งโลกโซเชียลแชร์กันแค่ข้ามคืน เรื่องที่เขาถูกใส่ร้ายได้รับการเปิดเผยความจริง สาวไหน ๆ มาต่อคิวรอเสนอตัวให้ด้วยความอยากจะเป็นนางสีดากันทั้งนั้น
แผนการร้ายของทินกรนั้นคาเดาได้ไม่ยาก เขาคงคิดจะสั่งสอนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้นำเงินก้อนนี้ไปตั้งตัว หนีไปกบดานประเทศอื่น ทว่าทันใดนั้นเอง หมับ! แรงหนักแน่นจับเข้าต้นแขนพาความรู้สึกเย็นวาบ เมื่อทินกรหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ปกปิดใบหน้าเกรี้ยวโกรธไว้ด้วยผ้าปิดปากสีดำลายยักษ์! ไม่มีใครรู้ว่าชายแปลกหน้าเป็นใคร เว้นเพียงหญิงสาวที่จับจ้องมองเขาด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “ของผัวเขาให้เมียไว้ใช้ ส่วนของเมียมันต้องเยอะกว่าสิวะ ไอ้น้องชาย...” “พะ... พี่ยักษ์” เสียงสั่นขลาดกลัว ทินกรยืนตัวสั่นเทาหลังจากที่เขาพยายามหลบชายตรงหน้ามาตลอดหลายเดือนหลังทุบตีครูนพ นำเงินไปใช้หนี้บ่อน ที่น่ากลัวกว่าติดคุกน่าจะเป็น ‘ไอ้เมธพนธ์’ “มึงหนีหน้ากูทำไม ไอ้ถิน... กลัวตายอย่างนั้นเหรอ? เจ้าหนี้มึงโดนตำรวจรวบเมื่อเช้า... อย่าบอกนะว่าไม่รู้?” เสียงหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีดังพร้อมกับนายตำรวจใหญ่อีกคน ปรีชาได้สั่งให้ผู้หมวดผู้กองติดตามนายทินกรจนรวบตัวเจ้าหนี้ ซึ่งก็คือเจ้าของยาเสพติดล็อตใหญ่ได้สำเร็จที่หน้าบ่อน เป็นข่าวดังประจำวันแต่ดูเหม
เรื่องที่ได้ยินจากปากของขณิกานับว่าช่วยตำรวจได้ไม่น้อย วิทยาไม่ลืมบอกเรื่องสำคัญอีกอย่าง “ฟาร์มองุ่น... บ้าน ที่ดิน เพนท์เฮ้าส์ศรีราชา นายหัวเคยบอกผมว่ายกให้คุณพาย...” “เขา... ให้พายเหรอ? ให้... ทำไม...” ทั้งน้ำเสียงและแววตาตัดพ้อมองวิทยาอย่างต้องการคำตอบที่เขาไม่สามารถให้เธอได้ แม้แต่ปรีชาเองก็ส่ายหน้าไปมาว่าไม่รู้... “คุณเมฆ... ไม่สิ เขายังไม่ตาย... ไหนศพคุณเมฆ?” นั่นคือที่เธอไม่เชื่อคนตรงหน้ากับภาพที่เห็น ก่อนจะเริ่มส่งเสียงดังร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนเสียสติ ขณะที่กนิษฐามาถึงในอีกไม่นานด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ในห้องผู้ป่วยพิเศษ คนเป็นพ่อจำต้องหันหลังให้ลูกสาวในคราวนี้ นายตำรวจใหญ่อย่างเขามีจิตใจเข้มแข็งมากพอ เพราะอีกหลายชีวิตบริสุทธิ์ยังเฝ้ารอแสงแห่งความหวัง ท่ามกลางความมืดมิดมัวเมาของการเป็นทาสยาเสพติด วิทยาปิดประตูปิดลงด้วยท่าทางเป็นห่วง ปล่อยให้สองแม่ลูกอยู่กันตามลำพัง ก่อนเดินตามนายตำรวจในชุดลำลอง อึกอักถาม “เอ่อ... ไหวไหมครับท่านรอง? ฝั่งผมน่ะไหว... แต่ลูกสาวท่าน...” “ไม่... ต้องจับมันกับเจ้าหนี้มันให้ได้... ฉันจะต้องปิดค
การหายตัวอย่างไร้ร่องรอยของนายทินกรที่ไม่ยอมมาตามหมายศาล เดือดร้อนถึงพลตำรวจเอกปรีชาและนายหัวไร่องุ่น ตำรวจยังไม่สามารถทำการเข้าจับกุมในเมื่อเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาในการประกันตัวสู้คดี จำเลยยังไม่ยอมรับสารภาพตามหลักฐานการจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด และซัดทอดไปที่นายเมธพนธ์ว่าเป็นคนบงการ แม้ไม่มีหลักฐานบางครั้งศาลอาจรับฟังคำซัดทอดลงโทษได้เช่นกัน ปัญหานี้คงจะมีแต่เขาสามารถจัดการกับนายถิน ร้อยตำรวจตรีพิมฐาติดต่อมาขอเจรจากับเขาว่าท่านอยากลงตำแหน่งอย่างสวย ๆ ในวัยใกล้เกษียณ แผนการนี้อาจจับตัวการใหญ่ได้แบบไม่ต้องมีใครเสียเลือดเนื้อ... ตัวเขาเองก็จะไม่ต้องเดือดร้อนยังเป็นการจับแก๊งค้ายานรกแบบละมุนละม่อมที่สุด “นายหัวจะทำตามที่ท่านรองฯ ขอไหม?” วิทยาถามนายที่มีท่าทีหงุดหงิด ทว่าเขาและนายเห็นด้วยกับนายตำรวจกับวิธีการนี้ “มันมีทางเลือกไหมล่ะ?” “ผมจะคุ้มกันความปลอดภัยของคุณพายให้ นายลุยได้เลย ไม่ต้องห่วง เรื่องทนายของเราผมเตรียมไว้แล้วครับ” เมื่อลูกน้องคนสนิทรับปากเป็นมั่นเหมาะ เจ้าของร่างสูงในเสื้อแขนยาวคอเต่าตามสภา
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาไว ๆ “ไม่ดีค่ะ... พายไม่อยากกอด ตัวพาย เส้นผมของพาย... หัวใจพายมีเจ้าของ... จะทำอะไรต้องขออนุญาต ห้ามไม่ให้ผู้ชายคนไหนแตะเป็นคำสั่ง แฟนพายดุมาก อาภพจะเดือดร้อนเอา” ขณิกาทวนคำพูดของบางคนครบถ้วนทุกคำ เธอเป็นคนตรงพอ ๆ กับอริสา ลูกสาวของพิภพ เสียงผ่อนลมหายใจหนัก ๆ ดัง “อาขอโทษนะ... อาเคยเห็นแก่ตัวเพราะเรื่องเมียเก่า ทั้งที่แก้วตายไปตั้งนานแล้ว อารู้ว่าอารัก... อาหวงพายมากแต่อาโง่เอง” “ไม่เป็นไรค่ะ พายไม่โกรธอาภพเลย ถ้าพายไม่วิ่งหนีอาวันนั้น พายคงไม่ได้เจอคุณเมฆ... เขาดูแลพายดีมาก ๆ เขารักพายอย่างที่พายรักเขาคนเดียว” ในแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเคยเป็นเพลย์บอย เธอกลับแน่ใจว่าความรักของเธอและเขาเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง หญิงสาวก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง เผชิญหน้ากับคุณอาที่เธอเคยปันหัวใจให้... “อาภพดูแลตัวเองนะคะ นายหัวฟาร์มม้าเป็นคนดีต้องเจอคนศีลเสมอกันแน่ค่ะ ถ้าไม่เจอก็แก่ตายไปคนเดียวเนอะ อายุเยอะแล้ว... ปลงค่ะปลง” และเป็นอีกครั้งที่เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ พิภพพอจะยิ้มออกบ้างพอเห็นว่าอด
“คุยอะไรกันคะ? หน้าตาคร่ำเครียดเชียว พายพลาดอะไรไปหรือเปล่า?” “นายหัวกำลังพูดถึงงานโฆษณาของคุณพายน่ะครับ” วิทยาหันไปตอบทำเหมือนว่าเขาไม่ได้คุยอะไรกับเจ้านายมาก่อนเลย แผนเซอร์ไพรส์สาวครั้งนี้คงไปได้ด้วยดีถ้าเขาไม่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ วงหน้าหวานขมวดมุ่นมองถ้วยมีหูที่ว่างเปล่า ถามด้วยความหวังดี “คุณวิทย์... กาแฟอีกแก้วไหมคะ? พายไปซื้อให้... มันหมดแล้วนะ” “ไม่เป็นไรครับ...” เจ้านายส่ายหน้าไปมากับความไม่เนียนของลูกน้อง ก่อนที่หญิงสาวจะนั่งลงข้าง ๆ เขาหยิบแท็บเล็ตส่งให้ “ตัวอย่างโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ตรวจดูความเรียบร้อยก่อนได้ คุณลูกค้าไม่ชอบตรงไหน แก้ไขได้ค่ะ” ได้ยินคำว่าตรวจตรา... ดวงตาคู่คมหรี่เล็กลงมองเดรสสีขาวแขนยาวความความยาวคลุมเข่าดูเรียบร้อยแฝงความเย้ายวนไว้ตรงหน้าอกอวบอัดคับแน่นในเสื้อคอลึกกว้างทรงสี่เหลี่ยม “แต่งตัวให้มันดี ๆ เสื้อ... คอลึกเอาผ้าพันคอคลุมไว้ด้วยครับ” “แหม... คุณเมฆหวงพายเหรอ? เมื่อก่อนไม่เห็นจะบ่น... งานจะเอาไหมคะ?” เธอย้ำอีกรอบให้ผู้ชายขี้บ่นรับงานไป ปั
“อะไรนะ!? ไอ้ยักษ์มันเล่นหัวผู้กองเรอะ?” เสียงโวยวายของนายตำรวจใหญ่ ในห้องผู้ป่วยพิเศษที่มีกระเช้าเยี่ยมไข้เต็มโต๊ะ คนไข้เจ้าของห้องนั่งมองหนุ่มวัยหกสิบปีสาดอารมณ์ใส่โทรศัพท์นานหลายนาที เรื่องลูกสาวถูกลักพาเข้าซอยเล็กซอยน้อยในหมู่บ้านสลัมย่านบางยี่เรือ ทะลุออกถนนใหญ่ได้ แต่ละเส้นทางลึกลับงุนงงจนผู้กองหาทางออกไม่เจอ และก็คลาดกับเป้าหมายจนได้ ขณะที่อริสากำลังคิดว่าน้องสาวคนสนิทไม่มาเยี่ยม ไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความเธอเลยเป็นเพราะคำพูดเมื่อหลายวันก่อน มันเคยเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเธอและพ่อกับการว่าสาดเสียเทเสียนายหัวไร่องุ่น กลั่นแกล้งกันมานานนับหลายปี ไม่ใช่ตอนนี้... ‘คุณเมฆไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าพี่อริสจะเกลียดเขาอย่างคนไม่มีเหตุผล แล้วแต่พี่เลย... แต่พี่อย่าด่าว่าเขาให้พายฟัง พายไม่อยากฟังค่ะ’ คนเคยสนิทกันคงไม่สบายใจ หลายวันก่อนรุ่นพี่อย่างชินดนัยมาเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังพร้อมด้วยหลักฐานของร้อยตำรวจตรีพิมฐา ใบหน้าสดสวยซีดขาวราวกระดาษคร่ำเครียดจัด บนเตียงผู้ป่วยที่ถูกปรับให้เอนขึ้นเล็กน้อย ด้วยแผลจากลูกกระสุนที่ทะลุผ่
ร้านอาหารมากมายขายกันแข่งหลายซุ้ม มีกิจกรรมยิงปืน ตักปลา เวทีการแสดงในแบบของวัดไทย ๆ ผู้คนต่างมาเที่ยวกันคึกคัก มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ด้วยความเป็นลูกหลานบ้านเศรษฐีนีต้องแอบหนีเที่ยวอยู่บ่อย ๆ เพราะบ้านของคุณยายเองก็มีกฎกติกา ท่านคงกลัวว่าหลานสาวจะไปคบเด็กเกเรจนเสียผู้เสียคน แต่จนถึงทุกวันนี้เธอยังไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางให้พ่อแม่หรือคุณยายต้องน้ำตาตกในสักครั้ง “เรื่องงานโฆษณา ฝ่ายทีมงานยังต้องตัดต่ออีกหน่อยนะคะ เดี๋ยวพายส่งให้นะ” เธอบอกเขาพอจะเดินเข้าไปหาซื้อของกิน ชายหนุ่มไหวไหล่ตอบหน้าตาเฉย “ครับ... ไม่รีบอยู่แล้ว ผมแค่ตั้งใจไปหาน้องพาย... ไปจีบ” “พายรู้... คุณเมฆอยากแค่แก้เผ็ดอาภพเท่านั้นแหละ ดูตอนหัวเราะเวลาอาภพโมโหเข้าสิ สะใจเหลือเกินนะคะ” คนฟังจำได้ว่าเคยปรับความเข้าใจในเรื่องนี้กับเธอแล้วว่าทีแรกก็เป็นอย่างนั้น เมธพนธ์ไม่ใช่คนพูดอะไรซ้ำซาก ยิ่งวันก่อนนายพิภพโทรมาบอกเรื่องนายตำรวจใหญ่ด้วยตัวเองเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำสนิทรุ่นกันกระสุนของท่านนายพลอยู่ในสภาพยับเยิน ตัวท่านเองต
หมดชั่วโมงสุดท้ายของคาบเรียนบางอาทิตย์ หากว่ามีเจ้ามืออย่างเศรษฐินีประจำหมู่บ้านหรือคนรวยคนอื่น ๆ บริจาคเงินพิเศษมา บ้านหลังนี้ยังมีกับข้าวและขนมฟรีให้เด็ก ๆ และคนทั่วไป พอเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มสอนเด็ก ๆ ครูจึงนั่งดูว่าไม่มีตรงไหนผิด “ท่าซึ่งใช้แทนคำพูดของตัวพระ รับ ปฏิเสธ สั่ง เรียก พี่จะทำให้ดูก่อน” “ลิง ๆ พี่ ผมอยากรำท่าลิง ท่านิลพัทรบหนุมาน หกกระบวนท่า...” “เป็นลิง... ต้องเข้มแข็งและว่องไว...” ว่าพลันกระโดดกระทบขา โบกมือไปมาที่ปากพยักหน้าหัวเราะร่า ในสายของคุณครูชื่นชมสิ่งที่พร่ำสอนไปนับสิบปีแต่นักเรียนยังไม่ลืม ทว่าพอศิษย์เอกเปลี่ยนอิริยาบถเป็นอีกตัวละครหนึ่ง ที่มักวิ่งตามนางเอกอยู่เสมอแม้ว่าเขาจะไม่เคยสมหวังในความรักต้องแย่ง! “เป็นยักษ์! ต้องรักนางให้ได้เท่ากู...!” “กูไม่ได้ให้มึงมาจีบแฟนโว๊ย! สักทีวะ ไอ้ยักษ์... ลีลาเยอะแยะมากมาย” เสียงโวยวายของครูนพเรียกอาการหัวเราะกลิ้งของเด็กน้อยทั้งหลายคนในห้องกว้าง พี่ยักษ์! เร็ว ๆ เลย... กว่าที่ชายหนุ่มจะกรีดกรายร่ายรำกระบวนท่าลิงและย