ฉันเดินออกมาจากห้องของท่านประธานมาที่โต๊ะทำงานหน้าห้องซึ่งมันตั้งอยู่ไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ฉันนั่งลงบนเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ "คุณฟ้าเลขาคุณรองประธาน"ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วหยิบแฟ้มเอกสารลุกขึ้นมุ่งหน้าไปหาคุณฟ้าทันที แน่นอนว่าคุณฟ้าเป็นเลขาคุณเดวินเพราะฉะนั้นเธอต้องอยู่ที่นั้น แต่ทว่าพอมาถึงก็พบกับความว่างเปล่า ฉันไม่เห็นคุณเลขาฟ้านั่งอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่งของเธอ "เอ...หรือจะคุยงานอยู่ด้านในกับคุณเดวิน"ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วจ้องมองไปที่ประตูห้องรองประธาน แล้วก้าวขาเดินไปหยุดตรงหน้าประตู "อื้ออออ.อ่า..."กำลังจะยกมือเคาะจู่ ๆ ก็มีเสียงจากด้านในดังเล็ดลอดเข้ามา.ผลั่บ ๆ "...แรงกว่านี้...อ่า"เสียงกระเส่าพร้อมกับเสียงครางต่ำดังแว่วเข้ามาในหู "สะ เสียว.อ๊ะ"ฉันเอียงหูฟังด้วยความอยากรู้ว่าเป็นเสียงอะไร แต่มันเบามากต่อมความอยากรู้และอยากเห็นก็เริ่มทำงาน ฉันค่อย ๆ แง้มประตูเล็กน้อยพอที่สายตาจะสอดส่งเข้าไปได้ "o.O"OMG! ฉันต้องยกมือปิดปากเมื่อเห็นภาพ18+ต่อหน้าแบบสด ๆ ฉันรีบปิดประตูแล้วเดินย่องออกมาเบา ๆ และให้เบาที่สุด กลับมาที่โต๊ะทำงานตัวเอง ฉันนั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบแฟ้มมาพัดหน้าต
ตอนนี้ฉันนั่งรถคันแพงของคุณรองประธานมายังร้านอาหารแห่งหนึ่ง. พอรถจอดสนิทฉันก็เปิดประตูลงทันที แล้วเดินตามคุณเดวินเข้าไปในร้าน "คุณดูเงียบ ๆ นะ ไม่เต็มใจมากับผม?"ใช่ ฉันไม่อยากมากับเขา ฉันอยากไปกับพี่เหนือมากกว่า "เปล่าค่ะ"แต่ฉันไม่ได้ตอบความจริงหรอก คุณรองประธานยกยิ้มแล้วขยับเก้าอี้ให้ฉันนั่งขณะที่พนักงานเดินมายื่นเมนูให้ "ไม่รู้ว่าคุณชอบทานอาหารแบบนี้หรือเปล่า"พอรับเมนูจากพนักงานคุณเดวินก็พูดขึ้น ซึ่งร้านที่เขาพามาเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน "เอ่อ...ก็พอทานได้ค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วก้มดูเมนูรายการอาหาร แล้วสั่งอาหารง่าย ๆ พร้อมกับสลัด"ปาสตาซอสเนื้อ คาเปรเซ่สลัดค่ะ"ฉันบอกกับพนักงานเสิร์ฟแล้ววางเมนูลง ส่วนของคุณรองประธานก็เป็นสเต็กเนื้อ และคาเปรเซ่สลัดเหมือนกับฉัน ระหว่างรออาหาร "ทำงานกับไอ้...ท่านประธานเป็นยังไงบ้างครับ""ก็ดีค่ะ"ฉันตอบกลับไปแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น "สนใจมาทำงานกับผมไหม""....."ฉันกลับมาจ้องหน้าคุณรองประธานสุดหล่อ แต่น้อยกว่าพี่เหนือของฉันด้วยความมึนงง อะไรกัน บ้าน่าที่ฉันยอมมาทำงานก็เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับว่าที่พ่อของลูกแล้วจะให้ฉันไปทำงานกับเขานี
ฉันวิ่งตามพี่เหนือมาจนถึงตรงหน้าลิฟต์ "บอสจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ"ฉันเอ่ยถามแล้วคลี่ยิ้มหวาน "....."เขาไม่ตอบแต่ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ส่งมา "คือว่า..จาร์กำลังจะไปที่บ้านบอสพอดีน่ะค่ะ แหะ ๆ"ฉันพูดแล้วยกมือเกาท้ายทอย "...."ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา "อ้าว คุณจาร์"ฉันหันไปที่เสียงจากด้านหลังก็พบว่าเป็นคุณเดวินและคุณฟ้าที่เดินก้มหน้าตามหลังมา ที่คอเธอยังมีพ้าพันอยู่ ตึก ตึก "กำลังจะกลับบ้านเหรอครับ"คุณรองประธานเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วสลับหันไปมองพี่เหนือ "ชะ ใช่ค่ะจาร์กำลังจะกลับบ้าน"ฉันโกหกไปเต็ม ๆ จริง ๆ แล้ววันนี้คุณนายแม่วานให้ฉันไปคุยงานกับคุณน้าเทียนเรื่องการตกแต่งผลไม้กระป๋องที่จะไว้เสิร์ฟแขกในงาน "อืม..."คุณเดวินขานรับสั้น ๆ แล้วเอามือล้วงกระเป๋าแล้วหันไปที่พี่เหนือ "แล้วท่านประธานล่ะครับ กลับบ้านเลยไหม""....."พี่เหนือไม่ตอบเขาเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วลอบหายใจเบา ๆ คุณรองประธานก้มหน้าเล็กน้อยแล้วเอามือเขี่ยคิ้วตัวเอง ก่อนที่จะขยับกายเข้าไปใกล้ ๆ พี่เหนือไปกระซิบเบา ๆ "อย่ารีบกลับเลย เดี๋ยวกูจะกินข้าวไม่ลง"ว่าจบก็แสยะยิ้มร้ายเป็นจังหวะที่ประตูลิฟต์เปิดพอดี "เชิญครับคุณจาร์"คุ
ระหว่างที่ฉันขับรถกลับบ้าน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันมองที่หน้าจอรู้ว่าปลายสายเป็นใครจึงกดรับ "ว่าไงมึง"เป็นเพื่อนสนิทของฉันเองที่โทรเข้ามา(ผับ KAI)กิ๊กพูดเข้ามาในสายสั้น ๆ ซึ่งฉันพอเข้าใจ "มีใครบ้าง"ฉันถามกลับไป(พี่ไกด์ และก็พี่เอก)"โอเค อีกสิบห้านาทีเจอกัน"สิ้นเสียงฉันก็ยูเทิร์นรถกลับมุ่งหน้าตรงไปที่ผับ KAI ฉันจอดรถสนิทตรงหน้าผับแล้วลงจากรถเข้ามาในผับขึ้นไปชั้นสองที่ห้องวีไอพีสิบสี่ตามที่เพื่อนสนิทบอกไว้ก่อนหน้า พอเปิดประตูเข้าไปก็พบหญิงสาวหนึ่งคนนั้นคือกิ๊ก และชายหนุ่มอีกสองคนนั้นคือพี่ไกด์และพี่เอก "มาไวเหมือนกันหนิ"เพื่อนสนิทเอ่ยทักขณะที่ฉันกำลังทักทายชายหนุ่มทั้งสองแล้วเดินมานั่งข้าง ๆ กิ๊ก "อยู่แถว ๆ นี้พอดี"ฉันตอบกลับแล้วหันไปสั่งพนักงานเสิร์ฟชงเครื่องดื่มให้ "ทำไมถึงอยู่แถวนี้ได้ ปกติมึงต้องอยู่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ"กิ๊กเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ "คุณนายแม่สั่งให้ฉันไปคุยธุระต่อที่บ้านคุณน้าเทียน"ฉันตอบกลับกิ๊ก ในหัวก็นึกถึงอะไรบางอย่างจึงโน้มหน้าไปพูดกับพี่ไกด์พี่ชายกิ๊ก "พี่ไกด์รู้จักเอ่อ...คุณเดวินหรือเปล่า""อืม ก็รู้จักผิวเผินมีอะไรเหรอ"พี่ไกด์ย้อนถามกลับ "คือ...จา
พอทำแซนวิชเสร็จฉันก็รีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว.แล้วลงมาเอาแซนวิชที่ทำไว้พร้อมกับผลไม้กระป๋องที่แช่เย็นมาที่รถแล้วขับมายังบริษัทด้วยหัวใจที่พองโต ฉันเดินยิ้มร่าเข้ามาในบริษัท อย่างอารมณ์ดี มือถือกล่องใส่แซนวิชที่ตั้งใจทำให้กับพี่เหนือมาด้วย "รอด้วยค่ะ"เสียงหวานดังขึ้นขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดฉันจึงรีบกดเปิดค้างไว้ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าบางเดินเข้ามา "คุณเลขาฟ้านั้นเอง นึกว่าใคร มอนิ่งค่ะ"ฉันเอ่ยทักทายเธอแล้วยิ้มหวาน แต่ต้องสะดุดตาเมื่อพอว่ามุมปากเธอมีรอยซ้ำ ๆ แล้วที่คอยังมีผ้าพันอยู่ "สวัสดีค่ะคุณจาร์"เธอเอ่ยแล้วรีบก้มหน้าลงเมื่อเห็นฉันกำลังจ้องเธออยู่ "เอ่อ ปากคุณไปโดนอะไรมาคะ""มะ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ""แต่ว่า....""คุณจาร์ห่อข้าวมาทานด้วยเหรอคะ"ฉันยังพูดไม่จบคุณเลขาฟ้าก็พูดแทรกขึ้นแล้วจ้องมาที่กล่องแซนวิชที่ฉันทำมาให้พี่เหนือ "อ๋อ ไม่ใช่ข้าวหรอกค่ะ เป็นแซนวิชน่ะค่ะจาร์ทำมาให้บอส"ฉันยิ้มหวานแล้วยกกล่องแซนวิชขึ้นมาชื่นชมกับความตั้งใจของตัวเอง."ดีจัง.. ท่านประธานชอบทานแซนวิชคุณจาร์ช่างรู้ใจจริง ๆ""จริงเหรอคะ"ฉันพูดด้วยความดีใจเพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่เหนือจะชอบกินแซนวิช "ใช่ค่ะ
วันนี้ฉันตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะต้องทำเกี๊ยวซ่าไม่รู้ว่าต้องทำนานแค่ไหน ตื่นเช้าไว้ก่อนล่ะกัน พอลงมาจากห้องฉันก็เจอกับพี่จ้าน ที่เห็นฉันแล้วทำสีหน้าตกใจ "พี่ตาฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นเธอตอน...ตีห้า"พี่จ้านยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือแล้วบอกเวลา "ทำไมคะ น้องจะตื่นเช้าบ้างมันแปลกตรงไหน"ฉันกอดอกแล้วเชิดหน้าพูดใส่พี่ชาย"ไม่แปลกเล้ย...ไหน ๆ ก็ตื่นมาแล้วไปตักบาตรกับพี่เลยล่ะกัน"ฉันหันขวับไปที่พี่ชายแล้วส่ายหน้า "จาร์ต้องรีบลงไปทำเกี๊ยวกับป้าแดง พี่ตักบาตรคนเดียวไปเลย"ฉันพูดจบแล้วกำลังจะก้าวขาเดินหนีแต่ทว่ามือหนาก็คว้าแขนฉันไว้ "ทำเกี๊ยว? อย่างเธอนี่นะจะทำอาหาร"พี่จ้านพูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจไม่ใช่น้อย "พี่จ้านอย่ามาดูถูกน้อง""พี่ไม่ได้จะดูถูกแค่แปลกใจน่ะ แล้วคิดยังไงจะทำเกี๊ยว"พี่จ้านเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วจ้องหน้าฉัน "เอ่อ...จาร์จะทำไปฝากบอสน่ะค่ะ"ฉันก้มหน้ายิ้มกรุ่มกริ่ม "เจ้านายเธอ?"ฉันพยักหน้ารับ "ทำไมต้องทำให้ด้วย...ติดสินบนเขาให้เธอผ่านงาน?"ฉันไม่ได้เล่าให้พี่ชายฟังเรื่องที่แอบชอบพี่เหนือหรอก จึงทำให้พี่จ้านคาดเดาไปอย่างนั้น "ฝีมือการทำงานของจาร์ไม่จำเป็นต้องติดสินบนใครเลย ยังไงจาร์ก
พิธีมงคลสมรสของคุณดริฟและคุณปอนด์"มึงมารับกูด้วย"ระหว่างที่กำลังแต่งตัวฉันก็ได้สนทนากับเพื่อนสนิทในสายไปด้วย (ได้ ๆ แล้วมึงแต่งตัวเสร็จหรือยัง)"เสร็จแล้วเหลือแต่ใส่เครื่องประดับ"ฉันตอบกลับไป (โอเค กูกำลังขับรถออกจากบ้าน)พอสิ้นเสียงฉันก็กดวางสายแล้วหยิบต่างหูเพชรขึ้นมาสวมใส่ เพชรไม่ได้เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป หลังจากสำรวจตัวเองเรียบร้อยฉันก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินลงมาจากห้องรอกิ๊กมารับ ซึ่งพี่ชายฉันได้พาลูกน้องไปที่งานก่อนหน้าแล้วเพื่อไปจัดตกแต่งผลไม้กระป๋องซึ่งทางเจ้าภาพเป็นคนสั่งจากโรงงานฉัน ไม่นานนักเสียงรถยนต์ก็ขับเข้ามา ฉันลุกขึ้นหยิบกระเป๋าแล้วออกมาจากบ้านเพราะจำเสียงรถนั้นได้มันเป็นรถเพื่อนสนิทฉันเอง. ฉันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งที่ข้างเบาะคนขับ แล้วคลี่ยิ้มหวานให้เพื่อน "พี่ไกด์?""ไปที่งานแล้ว"กิ๊กตอบกลับแล้วขับรถออกมาจากบ้าน ระหว่างทางเราก็คุยกันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมาก จนมาถึงที่โรงแรมสถานที่จัดงาน ฉันกับกิ๊กเดินเข้ามาในงานก็เจอกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่รอต้อนรับแขก "วันนี้สวยจังเลย"เจ้าสาวแสนสวยเอ่ยชมทำเอาเขินจนหน้าแดง "พี่ดริฟก็สวยมากเลยค่ะ"ฉันพอจะรู้จักเจ้าสาวคนนี้อยู่บ้าง เ
ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันทำในสิ่งที่มันโง่เง่าในตอนนี้ ประตูลิฟต์เปิดมาที่ชั้น 8 ของโรงแรมที่จัดงานแต่ง พี่เหนือกระชากแขนฉันมายังที่ห้องหรูราคาแพง พอเข้าไปด้านใน ท่านประธานหนุ่มก็เหวี่ยงฉันลงไปกองอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ ก่อนที่จะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองทีละเม็ด ทีละเม็ด เขาจ้องมองมาฉันด้วยสายตาคมกริบ ในขณะที่ฉันนอนกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นรูปร่างของชายหนุ่มที่ดูเฟอร์เฟคสุด ๆ มีกล้ามหน้าท้องเรียงกันเป็นแถวอย่างสวยงาม "ร่านนักใช่ไหม"พลึ่บ! เสื้อเชิ้ตตัวแพงได้ถูกโยนทิ้งลงไปที่พื้นจากนั้นคนตัวโตก็เข้ามาขึ้นคร่อมฉัน "ฉันจะสนองให้ แต่จำไว้ว่านี้คือมันเป็นแค่การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกพันธ์ห้ามเรียกร้องอะไรจากฉันทั้งนั้น....""....เพราะเธอต้องการเอง"แคว่ก! ว่าจบมือหนาก็กระชากชุดเดรสสีฟ้าฉันจะขาดวิ่น เศษผ้าได้บาดผิวเนียนฉันจนเป็นรอยแดง "......"ท่านประธานหนุ่มโน้มหน้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอฉันสลับไปมา ฉันยอมให้เขาทำตามอำเภอใจ เพราะแค่คำว่า...รักคำเดียวบราเซียร์ถูกดึงหลุดคามือ ทำให้เต้าอกอวบอั่นของฉันเด้งขึ้นประชันหน้าชายหนุ่ม เขายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วใช้ปากครอบยอดปทุมถันพร้อมใช้ลิ้นสากตวัดดูด
"ลูกสาวของเราไง"ชายหนุ่มที่ฉันหลงรักครั้งแรกพบตอนนี้เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ใช่คนสุขุม เคร่งขรึมแต่เขาเป็นคนช่างฝัน ลูกสาวอะไรกัน บ้าบอ พี่เหนือชึ้นคร่อมร่างฉันแล้วปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกอย่างชำนาญ เวลาไม่กี่นาทีเสื้อผ้าฉันก็ถูกโยนทิ้งลงพื้นอย่างกับไม่มีค่า เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายโน้มลงมาดูดเลียเม็ดไตที่หน้าอกฉันสลับกันทั้งสองพลางใช้มือบีบเค้นไปด้วย "อะ.."ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บจี๊ดเมื่อถูกมือหน้าบีบที่เต้าอกฉันอย่างแรง"...เบา ๆ หน่อยสิ เดี๋ยวก็แตกคามือหรอก"ฉันเอ่ยแกมประชดประชัน "หึ"ชายหนุ่มบนร่างแสยะยิ้มร้าย แล้วจัดการตะโบมตวัดดูดดุนยอดปทุมถันจนเปียกแฉะไปหมด พอสมใจแล้วพี่เหนือก็ขยับกายลงมายังที่ปลายเท้าฉันแล้วอ้าขาทั้งสองข้างแยกจากกัน ก่อนที่จะก้มลงใช้นิ้วแหวกกลีบกุหลาบ จากนั้นก็ใช้ลิ้นแตะไปที่ติ่งเกสร แล้วใช้ลิ้นสากลากวนไปรอบ ๆ "อะ อร้ายย"ฉันครางด้วยความเสียวขนลุกไปทั้งตัว นิ้วเท้างุ้มเข้าหากันด้วยความเกร็ง "พะ พี่เหนือ จาร์เสียววว"พี่เหนือห่อลิ้นแล้วสอดเข้าไปในร่องแคบ ทำให้ฉันร้องอย่างไม่เป็นภาษาด้วยความกระสันที่เขามอบให้ มือทั้งสองข้างกำหมอนไว้แน่น "อะ อ๊ะ พะ พี่~"ฉันเก
หลังจากทานข้าวกับครอบครัวพี่เหนือจนอิ่มเรียบร้อยฉันก็ลาพ่อแม่รวมถึงน้อง ๆ ของเขากลับมาที่บ้านโดยมีพี่เหนือขับรถมาส่ง พอมาถึงท่านประธานหนุ่มหล่อก็เข้าไปคุยเกริ่นเรื่องการหมั้นกับพ่อแม่ฉันทันที "พรุ่งนี้พ่อแม่ผมจะมาพูดคุยอีกทีอย่างเป็นทางการนะครับ"พ่อแม่ฉันไม่ได้โต้แย้งอะไรเพราะเห็นท่าทางลูกสาวที่ดูจะตกลงตั้งแต่หน้าประตูบ้านแล้ว ใช่ ฉันตกลงที่จะหมั้นกับพี่เหนือ "ผมขออนุญาตท่านทั้งสองอีกสักเรื่องได้ไหมครับ"พี่เหนือพูดจบพ่อแม่ฉันก็หันมองหน้ากันแล้วหันไปที่คนพูด "ถ้าผมอยากจะให้น้องตั้งครรภ์ก่อนที่จะแต่งงานจะได้ไหมครับ"เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง"เอาสิ แม่ก็อยากอุ้มหลานเหมือนกัน"แม่ฉันตอบกลับแล้วยิ้มหวาน"ท้องก่อนแต่งสมัยนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว..."พ่อฉันพูดด้วยน้ำเสียงขรึม ก่อนที่จะหันมาที่ฉันสลับหันไปที่พี่เหนือ "....แต่พ่อขอเรื่องเดียวฝากดูแลจาร์กับหลานพ่อให้ดี ๆ ล่ะ""ครับผมสัญญาจะดูแลจาร์กับลูกอย่างดี"พี่เหนือตอบรับด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังแล้วเอื้อมมาจับมือฉัน หนึ่งเดือนต่อมา...พิธีหมั้นของฉันกับพี่เหนือก็ถูกจัดขึ้น แน่นอนว่าครั้งนี้งานใหญ่กว่าครั้งที่แล้ว.เพราะฉันหมั้นกับ
พี่เหนือไปรับฉันจากบ้านมาที่ผับพี่ทอร์ชน้องชายต่างมารดา เมื่อตอนเย็นเขาได้พูดคุยกับพ่อแม่ฉันเรียบร้อยก็กลับไปที่บ้านก่อนจึงมารับฉันในช่วงค่ำ ๆพอมาถึงที่ผับพี่เหนือก็จับมือฉันเดินเข้ามาด้านในขึ้นไปที่ห้องวีไอพี15 ซึ่งมีกิ๊ก พี่ไกด์ และแฟนกิ๊กนั่นคือพี่เอกรออยู่ ประตูห้องวีไอพีเปิดเข้าไปทุกคนภายในห้องต่างมองฉันกับพี่เหนือด้วยความแปลกใจ และหลุบตามองที่มือฉันขณะที่ถูกกุมไว้ด้วยมือพี่เหนือ "มาด้วยกันได้ยังไง"เป็นพี่ไกด์ที่พูดขึ้นก่อน"ทำไมจะมาด้วยกันไม่ได้?"พี่เหนือตอบแล้วดึงมือฉันไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เขา "ผมตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า จาร์เพิ่งจะถอนหมั้นกับพี่กษะไม่ใช่เหรอ มันเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไม....""เลิกถาม! เดี๋ยวจาร์มันจัดแถลงข่าวให้รู้เองแหละ"กิ๊กแทรกพี่เอกพูดแล้วหันมาที่ฉันด้วยสีหน้ากดดัน "เรื่องมันมีอยู่ว่า...."พี่ไกด์ พี่เอก และกิ๊กตั้งใจฟังกันอย่างพร้อมเพรียงเห็นหน้าทั้งสามก็อดที่จะขำไม่ได้ 'คิกคิก'"จาร์เป็นเมียกูก่อนจะหมั้นกับกษะ"ทุกคนหันขวับไปที่เจ้าของใบหน้าหล่อแม้แต่ฉันหันไปคอแทบเคล็ด "พี่เหนือ!""หรือไม่จริง"ท่านประธานหนุ่มสวนกลับแล้วยักคิ้วใส่ "นี่กูหูแว่วไปใช่ไหม"พี่ไกด์
"...."ฉันถูกชายร่างสูงกอดไว้แน่นมือหนาก็คอยลูบที่หลังเบา ๆ ปากก็พูดจาปลอบใจฉันอยู่ตลอด ฉันพอเข้าใจแล้วล่ะพี่เหนือคงจะคิดว่าฉันเสียใจที่ถูกถอนหมั้น แต่ทำไมนะ ทำไมฉันไม่ผลักเขาออก ยังคงให้เขากอดอยู่แบบนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าโอบกอดของเขาช่างอบอุ่นจัง"พี่จะยืนอยู่ข้างเธอไม่ไปไหน"ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ เอาอีกแล้วหัวใจฉันเกิดเต้นแรงผิดจังหวะอีกแล้ว หลังจากพูดจบพี่เหนือก็ผละจากกอด ฉันรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าลงทันที ชายร่างสูงจับมือฉันไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่จะเอ่ยถาม "ทำไมถึงถอนหมั้นกันล่ะ""เอ่อ..."เอาไงดีวะ พูดยังไงดีไม่ได้เตรียมคำพูดไว้ด้วย "ไม่ต้องบอกพี่ก็ได้ ถ้าเธอพูดแล้วจะทำให้เสียใจ"เฮ้อ..ฉันลอบหายใจเบา ๆ หลังจากที่พี่เหนือพูดจบแล้วตีหน้าเศร้า "...."ฉันไม่พูดอะไรก้มหน้าลงแล้วอมยิ้ม "ถ้าพี่จะเป็นคนดูแลหัวใจเธอจะได้ไหม"ฉันเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองชายหนุ่มรูปหล่อ"ถึงแม้ว่าพี่จะเคยทำร้ายหัวใจดวงนี้...."พี่เหนือหยุดพูดแล้วหลุบตามองลงที่หน้าอกข้างซ้ายของฉัน"....แต่พี่สัญญาว่าครั้งนี้พี่จะไม่ทำให้หัวใจของเธอต้องเจ็บซ้ำอีกต่อไป"หัวใจฉันเกิดเต้นรัว ๆ จนแทบจะทะลุออกมาจากอก เราสองคนสบตากันอย่างลึกซึ้ง
พักเที่ยง...วันนี้ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลา แล้วออกมายืนชะเง้อรอใครบางคน "จาร์ รอใครน่ะ"ฉันหันไปที่เสียง ก็ปรากฏร่างชายหนุ่มที่เดินล้วงกระเป๋าออกมาจากห้องทำงานใหญ่ "เปล่า ไม่ได้รอใคร"ฉันเลือกโกหกพี่ชายเพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันชวนพี่เหนืออดีตคนรักไปทานข้าวกลางวัน "แล้วมายืนทำอะไรตรงนี้ ไม่ไปกินข้าวเหรอ"พี่จ้านเดินมาหยุดยืนตรงหน้าฉันแล้วก็ขมวดคิ้วเอ่ยถาม "ไปสิ พอดีว่า...."ฉันต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรถยนต์คันหรูของพี่เหนือขับเขามาทำให้ดึงความสนใจของพี่ชายของฉันหันไปมองตาม"นั้นมันรถคุณเหนือหนิ"ไม่ทันให้พี่ชายฉันได้ถามอะไร ฉันก็รีบวิ่งไปที่รถพี่เหนือทันที"ไม่ต้องลง"ว่าแล้วฉันก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้าง ๆ เบาะคนขับ ทำให้คนตัวโตหันมามองหน้าฉันด้วยความแปลกใจ "ออกรถเลย"ปากพูดแต่สายตาจ้องไปด้านหน้ารถเพราะฉันเห็นพี่จ้านกำลังเดินมา."ออกรถเร็วสิ"เมื่อพี่เหนือยังไม่ออกรถฉันจึงหันไปบอกเขาอีกครั้ง"ครับ ๆ"สิ้นเสียงท่านประธานหนุ่มก็ขับรถออกมา "ทำไมดูรีบร้อนจัง"ปากหนาเอ่ยพูดขึ้นแต่สายตาจ้องมองไปที่ถนน "...."ฉันนั่งเงียบไม่ตอบอะไรพี่เหนือจึงหันมาที่ฉันเสี้ยววินาที
ฉันหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าบ่งบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าพี่กษะจะเป็น..."คู่หมั้นมึงเป็นเกย์?"กิ๊กเอ่ยออกมาเบา ๆ "กูไม่รู้"ว่าจบ ฉันก็หันกลับไปมองทั้งคู่ต่อ แต่ต้องเบิกตาโตยกมือปิดปากเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม "เฮ้ยย..."ฉันรีบเอามืออีกข้างปิดปากเพื่อนสนิททันที ก่อนที่จะดึงออกมาจากตรงนั้นตอนนี้เราสองคนเข้ามาในห้องน้ำหญิงเราต่างมองหน้ากันแล้วลอบหายใจออกมา "มึงจะเอาไง"เพื่อนสนิทเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ซึ่งเธออาจจะเข้าใจว่าฉันเสียใจแต่ไม่ใช่เลยฉันไม่ได้มีความรู้สึกอะไรแถมยังดีใจด้วยซ้ำเพราะคำพูดที่พี่กษะพูดกับพี่สกายคล้ายกับว่าเขาทั้งคู่กำลังจะบอกเรื่องของเขากับพ่อแม่ แน่นอนว่าต้องไม่มีงานแต่งฉันกับพี่กษะเกิดขึ้น"กูจะถามเขาตรง ๆ"ฉันบอกความคิดที่มีอยู่ในหัวตอนนี้ ถ้าเขาสองคนรักกันจริง ๆ ฉันนี่แหละก็จะช่วยพวกเขา "ที่ฟัง ๆ มาดูท่าพ่อแม่คู่หมั้นมึงจะไม่รู้เรื่องที่เขาเป็นเกย์นะ"กิ๊กสันนิษฐานเหมือนอย่างฉัน "กูก็คิดเหมือนมึง""ดูมึงไม่เสียใจอะไรเลย"ฉันคลี่ยิ้มหวานให้เพื่อนสนิทแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยมีกิ๊กเดินตามมาติด ๆ เช้าวันต่อมา...พี่กษะม
หลังจากงานหมั้นจบลงฉันก็กลับมาทำงานต่อ ฉันตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัว ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายสายตาก็ไปสะดุดกับแหวนหมั้นที่สวมใส่อยู่ที่นิ้วนางข้างซ้าย แล้วลอบหายใจเบา ๆ นี่ฉันคิดผิดหรือคิดถูกนะ ที่อยู่ดี ๆ ก็เป็นคนที่ต้องถูกผูกมัด โดยที่ฉันไม่ได้มีใจให้กับคู่หมั้นตัวเองเลย."เฮ้อ..."ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วจับสายให้กระชับเดินออกจากห้อง พอลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นพี่กษะนั่งรอฉันอยู่ที่ห้องรับแขกจึงรีบเดินเข้าไปหาทันที "วันนี้มีคนติดรถมาด้วยนะ"เมื่อเดินไปถึงพี่กษะก็ลุกขึ้นแล้วเดินมายืนตรงหน้าฉัน "ใครคะ?"ฉันขมวดคิ้วงานจนเป็นปม "สกาย"ว่าจบ พี่กษะก็คว้ามือฉันแล้วพาเดินออกมา ในขณะที่ฉันยังสงสัยอยู่แต่ไม่ได้ถามออกไปจนมาถึงที่รถพี่กษะที่จอดโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์ มองผ่านกระจกไปที่เบาะหลังก็เห็นชายหนุ่มนั่งก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่จนพี่กษะเปิดประตูให้ฉัน เขาจึงเงยหน้าหันมายิ้มให้ "สวัสดีครับจาร์"เขาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสุภาพ "สวัสดีค่ะ"ฉันก็ทักกลับไปแล้วเข้ามานั่งที่เบาะข้าง ๆ คนขับ ระหว่างที่พี่กษะเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ "จะอยู่ไทยนานไหมคะ"ระหว่างทางฉันหันไปพูดคุ
สองเดือนผ่านไป...งานก่อสร้างโรงงานได้เริ่มขึ้น พี่เหนือยังคงมาดูงานตามปกติแต่จะพูดคุยกับฉันน้อยมากนอกจากเรื่องงานเราก็แทบจะไม่คุยกันเลย เขาผอมซูบเซียวใบหน้าแก้มตอบลงและดูโทรมมาก แถมยังไว้หนวดอีกด้วย"พักหลังมานี้คุณเหนือเปลี่ยนไปมากเลย พูดน้อยยังยิ้มยากอีกด้วย"นั้นเป็นคำพูดของคุณเลขาฟ้าที่เดินทางมาตรวจงานกับพี่เหนือ "อืม"ฉันก็ได้แต่ตอบกลับสั้น ๆ ยืนมองเขาที่ตรวจงานอยู่ผ่านกระจกใสในออฟฟิศกับคุณเลขาฟ้า "ไม่เหมือนตอนที่คุณจาร์อยู่เลย"ฉันหันขวับไปที่เลขาท่านประธานหนุ่ม "...."ฉันไม่พูดอะไรมองเธอนิ่ง ๆ "คุณจาร์รู้หรือเปล่าคะว่าคุณแอนนากับคุณเดวินพากันไปแต่งงานและจะคลอดลูกที่ต่างประเทศ""ช่วงนี้จาร์ยุ่ง ๆ น่ะเลยไม่รู้ข่าวแอนนา"พูดจบคุณฟ้าก็ผงกหัวรับ "ฟ้าเข้าใจ ไหนจะเรื่องโรงงานไหนจะงานหมั้น...อีกสามวันเองนี่คะ""ใช่ค่ะ อย่าลืมมานะคะ"คุณเลขาฟ้ายิ้มหวาน"ไปแน่นอนค่ะ"พอพี่เหนือตรวจงานเสร็จก็เขียนรายงานส่งให้ฉัน "ไม่มีอะไรแล้วผมตัวกลับก่อนนะครับ"คำพูดคำจาของพี่เหนือก็ดูเป็นงานเป็นการระหว่างที่พูดคุยเรื่องงาน"ค่ะ"ฉันตอบรับจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องตามด้วยคุณเลขาฟ้า จริง ๆ ฉันก็อยากจะบอกเข
สามวันต่อมา...พี่เหนือยังคงมาหาฉันทุกเช้าเป็นประจำ ไม่แค่นั้นเขายังทำแซนวิช ทำเกี๊ยวซ่ามาให้ด้วย ซึ่งฉันก็ไม่ได้กินของเขาหรอกแต่ไม่ได้ใจร้ายถึงต้องเอาทิ้งมันลงถังขยะ เหมือนอย่างเขา ฉันแจกจ่ายให้กับพนักงานออฟฟิศไปแบ่งกันทาน "ไม่ลองชิมฝีมือพี่หน่อยเหรอ"วันนี้ก็เช่นกันเขาทำแซนวิชมา "ตอนที่จาร์ทำให้ พี่ก็ไม่เคยแตะมันเลยไม่ใช่เหรอ ดีนะที่จาร์ยังใจดีไม่โยนมันทิ้งเหมือนพี่"ฉันสวนกลับ "...."ท่านประธานหนุ่มยกยิ้มเจื่อน ๆ "ทำไรไว้ก็ได้แบบนั้น"ฉันพึมพำพร้อมก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองซึ่งพี่เหนือยังคงนั่งอยู่ตรงกันข้ามไม่ยอมไปสักที "เธอจะไม่ยกเลิกหมั้นจริง ๆ เหรอ"ฉันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของใบหน้าหล่อแล้วลอบหายใจเบา ๆ ที่ผ่านมาเขามักจะพูดให้ฉันยกเลิกที่จะหมั้นกับพี่กษะอยู่ตลอด ถ้าไม่ยกเลิกก็จะขอให้ฉันเลื่อนเวลาหมั้นออกไป "ไม่! ยังไงจาร์ก็จะไม่ยกเลิกพี่หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ"ฉันพูดอย่างหนักแน่น "จะไม่ให้พี่พูดได้ยังไงกันก็ในเมื่อพี่กำลังจะเสียคนที่พี่รักไป"จู่ ๆ หัวใจของฉันก็เต้นแรงผิดจังหวะขึ้นมาเมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดคำว่ารักกับฉันเป็นครั้งแรก ฉันจ้องหน้าเขานิ่งราวกับถูกมนต์สะกด "...."เสียคน'