“ก็แปลกตรงที่ไอ้รัชมันเปิดบ้านพักกับน้องภัทรไง”
คราวนี้ศรุตหันมามองเอมี่แล้วขมวดคิ้วพูด
“มึงควรนึกแปลกใจตั้งแต่ไอ้รัชให้มึงแต่งตัวเรียบร้อยจนเห็นแค่หัวกับมือแล้วช่วยขออนุญาตพาน้องภัทรมาด้วยรึเปล่าวะ”
เอมี่กะพริบตามองเพื่อนปริบๆ “อะไรของมึง น้องภัทรออกจะน่ารักเรียบร้อย หากอยากให้น้องมาด้วยกูก็ต้องทำตัวน่าเชื่อถือเพื่อขออนุญาตคุณอาลินดาที่หวงลูกสาวอย่างกับอะไร ไม่ใช่หรือไง? ไอ้รัชมันบอกกูแบบนี้”
ศรุตยกนิ้วจิ้มหน้าผากผู้หญิงที่โง่ที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมา
“งั้นมึงลองนึกดู ตั้งแต่ขับรถออกมาจากบ้านจนถึงรีสอร์ท กระทั่งเข้าที่พักแล้ว ไหนวะ? แฟนไอ้รัชที่มันบอกว่าจะเปิดตัว”
เอมี่กลอกตาไปมา เริ่มขบคิด “เออว่ะ”
ศรุตถามอีก “มีนัดเจอสาวให้แวะรับกลางทางมั้ย?”
เอมี่ส่ายหน้า “ไม่มี!”
“แล้วมีนัดเจอแถวนี้รึเปล่า?”
“หือ...” อีกคนเอียงคอนึก “ก็ไม่นะ”
ว่าไม่ได้ที่เสือผู้หญิงอย่างศรุตจะหูไวตาไวมองปราดเดียวก็เข้าใจความคิดผู้ชายด้วยกันอย่างนิรัช
ซึ่งชัดเจนแล้วว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่
พี่ชายกับน้องสาวตามกฎหมายแล้วไง...
“แต่กูคิดว่านะ ไอ้รัชแม่งมันต้องล่อลวงน้องภัทรแน่เลยว่ะ ท่าทางน้องภัทรดูเหม่อลอยคล้ายถูกไอ้รัชร่ายมนต์ยั่วยวนยังไงก็ไม่รู้ มึงลองคิดตามดูดิ กูสังเกตตั้งแต่ออกมาจากบ้านแล้ว น้องภัทรเดินตามไอ้รัชต้อยๆ อย่างกับคนละเมอ”
เอมี่เอียงคอคิดตาม “เออว่ะ” สักพักก็ทำสีหน้าหนักอกหนักใจ “แต่เขาเป็นพี่น้องกันนะเว้ย จะเป็นอย่างอื่นได้ยังไงวะ แบบนี้บ้านแตกพอดี พ่อกับแม่จะทำไงอ่ะ เครือญาติอีกเป็นโขยง ทั้งหัวหงอกหัวดำคงได้รวมตัวกันรุมทึ้งด้วยคำครหายิ่งกว่านักเลงคีย์บอร์ดในสื่อโซเชียลรุมถล่มดาราที่พลาดท่าถูกบูลลี่อีกนะกูว่า”
แม้จะเป็นลูกครึ่งอังกฤษแต่อีกครึ่งคือลูกคนไทย เอมี่จึงเข้าใจขนบธรรมเนียมและเรื่องละเอียดอ่อนในสังคมหลายๆ อย่าง
ศรุตถอนหายใจ “เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ไอ้รัชถึงได้บังคับให้พวกเรามาเที่ยวด้วยกัน ให้มึงแต่งตัวดีๆ ก่อนออกปากชวนน้องภัทร พ่อกับแม่เลี้ยงของมันจะได้สบายใจ อนุญาตให้น้องมาด้วยกันได้ มันคงอยากสวีทกับน้องแต่หาโอกาสทำที่บ้านไม่ได้แหละ”
“อ่อ...อย่างนี้นั่นเอง แสดงว่ามันกับน้องภัทรแอบคบกัน แต่ที่บ้านไม่มีใครรู้”
“เป็นกูก็ไม่ให้รู้หรอกว่ะ เสี่ยงเกิน แม่เขาหวงขนาดนั้น”
“นั่นดิ” เอมี่หัวเราะ “ก็น้องเขากำลังอยู่ในวัยน่ารักสดใส”
ศรุตกล่าวเสริม “และน่ากินไปทั้งตัว”
“มึงนี่!”
“ขนาดมึงเป็นผู้หญิงด้วยกันยังชอบน้องเลยไม่ใช่รึไง”
เอมี่พยักหน้าเดินตามศรุตเข้ามาในบ้าน
ชายหนุ่มรีบยกฝ่ามือดันหน้าผากอีกฝ่าย “ไอ้มี่ บ้านพักมึงอยู่อีกหลังนึงโน่น อย่าคิดว่าสวยแล้วจะตามเข้ามาทำพญางูกูตื่น กูไม่ใช่ผัวมึงนะ”
“ไอ้บ้า” คนถูกไล่แยกเขี้ยวยิงฟัน “มึงน่ะผัวของทุกคน เจอใครก็พาเข้าห้องฟันไม่เหลือ”
“อ้อ...มึงอยากโดน ว่างั้น”
“เออ...ไม่โดนมานาน ขอสักที”
เอมี่ทำท่าไล่ปล้ำศรุตอย่างเอาเป็นเอาตายจนคนเจ้าชู้ต้องวิ่งไปหลบอยู่หลังโซฟา
“กูยอมแพ้แล้วครับ กูไม่อยากได้เมียเหมือนแม่แบบมึง”
เอมี่ยกมือเช็ดปากทำท่าหื่นกาม
ศรุตโอดครวญ “มึงรีบไปเลย น่ากลัวเกิน”
“กูไปก็ได้ จะหลับสักงีบ ค่อยออกไปเล่นน้ำกัน โอเค๊!”
อีกคนยอมยกธงขาว “โอเคๆ มึงรีบไปเถอะ กูขอร้อง!”
ณภัทรสะลึมสะลือตื่นเพราะรู้สึกเย็นวาบทั้งตัววูบหนึ่งเมื่อเธอปรือตามองจนขนตายาวงอนกะเพื่อมไหวจึงได้เห็นชุดชั้นในลอยหวือออกไปจากหน้าอก ตามด้วยกางเกงชั้นในของตนถูกใครบางคนถอดออกจากเรียวขาลากไปทางปลายเท้าแล้วโยนไปทางปลายเตียง ตามด้วยเจ้าของประกายร้อนแรงในสายตาคมเข้มลึกประชิดเข้ามายามทั้งร่างของเธอถูกคร่อม จากความเย็นฉับพลันก่อนหน้าเธอสัมผัสได้ถึงแผงอกร้อนฉ่ากับอ้อมแขนอบอุ่นทรงพลัง รวมถึงความกรุ่นร้อนตลอดทั้งลำตัวเรียวปากและปลายลิ้นร้อนประทับจุมพิตตั้งแต่ปลายคางไล้เลียระเรื่อยลงไปตามลำคอระหงเบาๆ ทั้งยั่วเย้ายวนใจผ่อนคลายและเร้าอารมณ์จนผิวกายวาบหวิว ก่อนจะขบเม้มยอดทรวงสีหวาน แล้วดูดดึงอย่างแรงจนณภัทรต้องผวาแอ่นอกยกตัว“พี่รัช!”“นึกว่าจะไม่ตื่นซะแล้ว” นิรัชพูดยิ้มๆ ขณะเงยหน้าจากยอดถันชูชัน เนินอกเต่งตึงชี้หน้าชี้ตาถูกฝ่ามือหนากรุ่นร้อนตะปบแล้วใช้หัวแม่มึงคลึงเบาๆ “ถูกลักหลับจนเปลือยยังไม่รู้ตัว”คนถูกลักหลับหน้าแดงแจ๋ “แค่จำได้ว่าถูกใครอุ้มลงจากรถก็พอแล้วยังต้องรีบตื่นทำไมล่ะ”ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ไว้ใจ?”กล้าถามเนอะ! ณภัทรถลึงตามองอย่างหมั่นไส้คนอะไรยั่วได้ยั่วดี ยั่วแต่ไม่ทำ!เห็นคนหงุ
นิรัชสูดปากขณะกลั้นยิ้มจนไหล่สั่นกล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง รู้สึกพึงพอใจกับคนกระตือรือร้นอยากเรียนรู้เสียจริงชายหนุ่มเอื้อมมือจับคนตัวนุ่มให้นอนหงายขณะที่บางส่วนร้อนผ่าวของร่างกายยังอยู่ในอุ้งมือเธอ พร้อมกับเรียวนิ้วตรงเข้าจับโคนขาอ่อนให้แยกออกแล้วบดคลึงก่อนจะสอดนิ้วแทรกเข้าร่องรัก“อื้อ! พี่รัช”ณภัทรสะดุ้งกับการถูกสอดลึกเข้าส่วนคับแคบกะทันหัน ทว่าฝ่ามือกลับยังกำแน่นตรงส่วนอวบอัดไม่ปล่อยระหว่างรูดขึ้นลงด้วยความเร็วไม่ตกระดับยังรับรู้ได้ชัดเจนถึงความร้อนจัดจากนิ้วมือเขาซึ่งกำลังเข้าออกผสานกับความอุ่นชื้นในกายเธอ ความซาบซ่านแล่นพล่านทันควัน และนั่นยิ่งทำให้อุ้งมือขยับระรัว เร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น“อ่า...ภัทร”กล้ามเนื้อของนิรัชขมวดเกร็งม้วนเป็นเกลียว เส้นเลือดเริ่มขยายตัวสูบฉีดด้วยความดันสูงเขาซบหน้ากดจมูกลงตรงซอกคอขาว สูดความหอมหวานเข้าปอดลึกยาว พลางขบเม้มบนเนื้อเนียนอย่างไม่ปรานีปราศรัยตามอารมณ์หวามไหวที่ก่อตัวพุ่งอย่างเร่งเร้า“อื้ม...พี่รัช...”ณภัทรแหงนหน้าครางเสียว อารมณ์หวิวดิ่งตามอีกฝ่ายนิรัชรู้สึกถึงความสุขจนต้องซุกหน้ากับไหล่มน ไล้ปลายลิ้นเลียและขบเม้มระเรื่อยไปตามเนินเนื้อกา
แม้กระแสเสียงแห่งความสุขสมชวนลุ่มหลงจากการปลดปล่อยจะถูกเสียงอื่นกลืนหายไปแล้วทว่านิรัชกลับฝากตราประทับเอาไว้ให้ณภัทรอย่างต้องการประกาศกร้าวถึงความเป็นเจ้าของแบบเด่นชัด ซึ่งผิดจากการร่วมรักในแต่ละครั้งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ชนิดที่เรียกได้ว่าศรุตกับเอมี่ซึ่งนั่งตากแดดตากลมรอจนตัวดำไม่ต้องเสียเวลาถามสักคำว่าพวกเขาไปทำอะไรกันมาสายตาของรุ่นพี่ที่ทอดมองอย่างรู้เท่าทันทำให้สาวน้อยต้องก้มหน้าหลุบตาลงต่ำ เผยให้เห็นแค่แพขนตายาวงอนดำขลับสั่นไหวกับพวงแก้มแดงก่ำไปทั้งแถบ เธอขัดเขินแทบจะยืนฝังร่างเข้าไปในแผ่นหลังของชายหนุ่มอีกคนตรงหน้าณภัทรคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนเงียบขรึมอย่างนิรัชจะหาญกล้าถึงขั้นประกาศตัวเป็นแฟนกับเธอต่อหน้าเพื่อนสนิทของเขาในวันนี้“เป็นพี่ชายมันยุ่งยาก เป็นแฟนสบายกว่ามาก พี่แค่อยากทำตัวกับเธอในฐานะแฟน อยากสปอยล์ ดูแลเทคแคร์ ไม่ได้เหรอ?”แม้ฟังดูเป็นคำถามแต่นั่นคือคำสั่งอย่างเอาแต่ใจเห็นๆ ณภัทรยิ่งเขินอายจนหน้าแดงหูแดงหนักกว่าเดิม“หลบอะไร?” นิรัชกระซิบถามที่ริมหูขาวก่อนเอื้อมวงแขนอ้อมไปทางด้านหลังเพื่อดึงณภัทรออกมาแล้วโอบกอดต่อหน้าพยานทั้งสอง“นี่น้องภัทร แฟนเราเอง
แดดร่มลมตกอากาศยามบ่ายสามโมงที่ชายทะเลแห่งนี้กำลังสบายไม่ร้อนเกินไปทว่านิรัชก็ยังไม่ให้ณภัทรลงเล่นน้ำทะเลตอนนี้อยู่ดีเนื่องจากเพิ่งจัดหนักให้หลายรอบไปหน่อย“ขนาดเดินยังลำบาก หากภัทรหมดแรงจมน้ำเป็นอะไรไป พี่จะนอนกอดใคร”นับว่ามีเหตุผลจนคนถูกห้ามลงทะเลต้องเม้มปากแน่น แล้วถ้าเธอถูกจัดหนักทุกวันจะได้เล่นน้ำตอนไหน?ขณะบ่นในใจ ณภัทรก็ถูกนิรัชจับมือพาเดินเล่นอย่างใจเย็น นานทีเดียวกว่าจะพากลับมานั่งที่เก้าอี้ชายหาดตัวเดิม“พี่เอมี่ล่ะคะ พี่รุต”ณภัทรถามทันทีเมื่อเห็นศรุตกำลังนั่งอยู่คนเดียว“น่าจะไปห้องน้ำนะ เห็นหายไปนานแล้ว สักชั่วโมงได้มั้ง โทรศัพท์ก็ไม่เอาไป วางอยู่เนี่ย”ไม่มีความห่วงเพื่อนเลย นั่นผู้หญิงนะ สวยมากด้วยณภัทรไม่ได้บ่นออกมาเสียงดังเพียงมองหาเอมี่เงียบๆหญิงสาวมีเพื่อนไม่เยอะและไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆ แต่พอสนิทกันก็มักจะเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้สักพักจึงมองเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายล้วนจากทิศทางไกลๆ แต่ละคนตัวสูงใหญ่ไซส์ชายชาวอเมริกัน เมื่อเพ่งตามองดีๆ อีกทีจึงเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่กลางกลุ่มณภัทรจ้องจนแน่ใจถึงได้ร้องเรียก “พี่เอมี่!”นิรัชมองณภัทรทันที ศ
หลังจากนั้น คนที่สบายใจสบายหูที่สุดเห็นจะเป็นศรุต เพราะไม่มีใครส่งเสียงใกล้ๆ ให้ปวดหัวเนื่องจากเอมี่ถูกเควินพาตัวไป ‘ไถ่โทษ’ โดยการเป็นไกด์จำเป็นพาเขาเที่ยวทั่วเกาะจนจบทริปแน่นอนว่าเควินคนนี้ไว้ใจได้โดยมีนิรัชการันตีให้แล้วอย่างดี ไม่มีทางพาเอมี่เข้าโรงแรมม่านรูดอย่างที่ณภัทรกังวลจนบ่นไม่หยุดศรุตรีบเอ่ยสำทับ “ไอ้มี่มันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว น้องภัทรไม่ต้องห่วงมันมากนักหรอก”ณภัทรจึงหยุดบ่นทำได้แค่ถลึงตามองนิรัชจนแก้มกลมใสบวมเป่งไปหมดเวลาเธองอนก็จะพองลมได้แบบนี้ น่ารักน่าชังเสียจนนิรัชต้องกลั้นยิ้มจนปวดกราม กลัวว่าใครบางคนจะลอยละลิ่วไปไกลเพราะอาการพองลมนั้นอาจจะโต้ลมชายทะเลเอาได้ จึงจับเธอกดลงบนเก้าอี้ไม่ให้ขยับไปทางใดได้ทั้งสิ้นตอนนี้ทั้งสามกลับมานั่งดื่มกินอยู่ริมชายหาดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเอมี่ไม่อยู่แล้วอากาศยามบ่ายสี่โมงยังคงดีอยู่มาก แสงแดดสว่างเจิดจ้าไปทั่วทั้งทะเลซึ่งมีสีครามกลมกลืนกับท้องฟ้าด้านบนขณะที่ณภัทรกำลังนั่งแก้มแดงปลั่งอยู่กับนิรัช เสียงทักทายอันสดใสก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง“สวัสดีจ๊ะภัทร”เจ้าของชื่อหันมองจึงได้เห็นหญิงสาวสามคนเดินตรงเข้ามาแต่ละคนมีรอยยิ้มหวาด
ศรุตเปิดหนังสือที่ปิดหน้าออกโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะเบิกตามองแบบนิ่งค้างเธอคนนี้พูดจาเหน็บแนมสามสาวที่พากันนั่งเบียดณภัทรอีกประโยค “ไม่ใช่ว่าหวังเคลมพี่ชายคนอื่นอยู่รึไง ถึงได้ทำทีตีสนิทน้องสาวเขาซะขนาดนี้ ต้องมั่นหน้ามั่นโหนกขนาดไหนเนี่ย?”เนื่องจากนิรัชเป็นหนุ่มหล่อเบอร์ต้นๆ ของมหาวิทยาลัย จึงไม่มีใครไม่รู้จักและเพราะเขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ณภัทรจึงพลอยถูกรู้จักไปด้วยว่าเป็นน้องสาวของเขาดังนั้นการตีสนิทหรือทำทีให้แนะนำตัวเพื่อชวนคุยแบบนั้น จึงเป็นการเสแสร้งเห็นๆจงใจเข้าหาพี่ชายโดยใช้น้องสาวเป็นเครื่องมืออย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่เซ็กซี่เข็ดฟันคนนี้ก็เป็นที่รู้จักเช่นกัน เธอชื่อโมหรือโมริน เป็นดาวคณะปีหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าร้ายพอตัว ฉายาแซ่บเกินเบอร์ แค่ปรายตามองด้วยสายตาจิกกัดก็ทำคนอื่นแทบไม่กล้าเฉียดใกล้ ยังมีข่าวลือออกมาว่าเธอเป็นพวกตัวอิจฉา ชอบแย่งซีนไปทั่ว มั่วไปหมดไม่ว่าใครเป็นใครและที่ร้ายสุดๆ คือชอบอ่อยแฟนชาวบ้าน มีผู้ชายหลายคนที่เข้าหาหล่อน บางคนถึงขนาดแอบนอกใจแฟนที่คบหากันมานานเพื่ออยากจะเข้าไปตีสนิทกับโมริน อยากสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ จนพวกผู้หญิงด้วยกันเกลียดเธอจนเลือดข
ณภัทรกับโมรินสนิทกันตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมต้นจนเรียนจบมัธยมปลายเธอสองคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเฉพาะช่วงเวลาเรียน แต่พอเลิกเรียนต่างคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อที่บ้าน คือทำงานพิเศษตามแต่ถนัดไปด้วยเรียนไปด้วย จึงไม่เคยนัดเจอหรือสังสรรค์นอกรอบเลยสักครั้ง เมื่อขึ้นมหาวิทยาลัยยังเลือกเรียนคนละคณะ ณภัทรเรียนอักษรศาสตร์ แต่โมรินเรียนศิลปะศาสตร์เกี่ยวกับการออกแบบแฟชั่น โอกาสที่ได้เจอกันจึงแทบไม่มีทว่าเพื่อนอย่างไรก็ยังเป็นเพื่อน ต่อให้ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเป็นเวลาหลายปี เมื่อเจอกันอีกทีก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม‘ยัยแก้มกลม’ คือชื่อที่โมรินเรียกเพื่อนที่แม้ไม่สวยจัดจ้านแต่น่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้อย่างณภัทรแค่คนเดียวหลังจากณภัทรเล่าให้ศรุตฟังจนจบจึงได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มกรุ้มกริ่มขั้นวิกฤต“พี่รุต ชอบโมเหรอ?” ณภัทรถามหยั่งเชิงเพื่อความแน่ใจ ทั้งๆ ที่ก็เห็นๆ กันอยู่เต็มสองตาศรุตไม่ตอบแต่ถามกลับ “โมมีแฟนหรือยัง พี่จีบได้ไหม?”ณภัทรไม่ได้ตอบเพราะไม่ได้เจอกันนานเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ทว่าปกติแม้โมรินจะมีนิสัยร้ายกาจไปบ้าง เป็นมือตบประจำโรงเรียนบ่อยๆ ชอบกราดเกรี้ยวไปทั่ว แ
จังหวะนั้นแอมกับมะนาวหันมาทางโมรินทั้งสองตรงเข้ามาทางโมรินด้วยท่วงท่าชัดเจนว่าจะรุมขณะที่แอมดึงแขนโมรินและมะนาวเงื้อมมือขึ้นตั้งท่าจะตบ ณภัทรพลันวิ่งออกจากที่หลบหลังพุ่มไม้ ตรงเข้าไปผลักมะนาวจนกระเด็นล้มก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้นอย่างแรง ก่อนหันมากระชากผมของแอมแล้วเหวี่ยงออกอย่างเร็วจนอีกฝ่ายกระเด็นไปอีกคนกระถางต้นไม้แถวนั้นล้มระเนระนาด เสียงกรีดร้องดังระงมอย่างแตกตื่นตกใจจากแอมกับมะนาว ขณะที่พวกเธอยังไม่ทันตั้งตัว ณภัทรก็ตรงเข้าไปจับหัวพวกหล่อนโขกกัน กระชากผมให้แหงนจนหน้าหงายและโขกกันอีกหลายทีจนเสียงดังปึกๆดาวพร่างพราวเลยจ้า หัวโนไปตามๆ กันหนึ่งต่อสองต้องลอบกัดแบบนี้แหละโมรินที่เกือบเสียท่าได้แต่ยืนอึ้งหลังจากหายมึนทุกคนก็หันมองณภัทรเป็นตาเดียวสาวน้อยผู้มาใหม่ยืนคู่กับโมริน จ้องสองสาวที่พื้นหญ้าเขม็งแอมจุกจนลุกไม่ขึ้น เป็นมะนาวที่ลุกขึ้นแล้วชี้หน้าณภัทร “ที่แท้เธอก็พวกเดียวกับยัยบ้านี่เหรอ?”“โธ่เอ๊ย! เห็นเรียบร้อยน่ารัก ที่แท้ก็แอ๊บแบ๊ว” แอมสบถมะนาวหันมาเสริม “กูว่าแล้ว ยัยภัทรนี่ต้องแอบร้ายมากๆ ไม่แน่คงคิดไม่ซื่อกับรุ่นพี่นิรัชด้วยแหละ แค่พี่ชายตามกฎหมายใช่มั้ยล่ะ เห็นนั่งชิดกั
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต
แต่ช่วงหลังมานี้ณภัทรกินยาคุมอย่างเคร่งครัด จึงอนุญาตให้นิรัชได้ทำตามใจเป็นบางครั้ง เธอย่อมไร้กังวล“ภัทรทำอะไร?”หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้สึกรู้สาว่าได้ปล่อยระเบิดใส่อีกฝ่ายในเรื่องสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบตรีคนถูกถามสะกดเธอไว้ด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกในระยะประชิด “ภัทรรู้ดีว่าพี่ต้องการรออีกสองปีเพราะอะไร”แน่นอนว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น วิชัยกำหนดเอาไว้ตายตัวตั้งแต่ลูกชายสุดรักอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ คำพูดโต้แย้งของนิรัชจึงไม่ควรมีแต่แรก และณภัทรก็ไม่มีความคิดที่จะรั้งเขาเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว เธอต้องมองให้ทั่วๆ ไม่ใช่แค่ตัวเอง อนาคตของปัญจรักษ์ขึ้นอยู่กับทายาทสายตรงหนึ่งเดียวอย่างนิรัช“ภัทรรู้ แต่...อ๊ะ! พี่รัช เบาๆ”คนกดกระแทกด้วยความมันเขี้ยว ส่งเสียงทุ้มพร่า “รู้? แล้วทำไมไม่ช่วยกันพูด”“จะให้ช่วยพูดอะไร? อื้อ...”น้ำเสียงแม้สั่นเครือเพราะความเสียวรุมเร้า แต่ประโยคที่เอ่ยหนักแน่นและจริงจัง “พี่รัชก็แค่รีบไปเรียนแล้วก็รีบกลับมา”“ห้าปี...” รวมเรียนและฝึกงานอยู่ต่างประเทศตามกำหนด “ไม่ต่ำกว่านั้นแน่...” ห้าปีทีเดียวไม่ใช่ห้าวันหรือห้าเดือน“มันนา