บทที่21เจี้ยนกั๋วคิดว่าเรื่องราวนั้นจัดการได้ง่ายดายแต่กลับไม่ใช่ เขาไม่ได้สืบเรื่องราวของหญิงผู้นั้น จึงไม่รู้ว่านางคือใคร จนต้องมานั่งบ้าใบ้อยู่ตรงนี้“ข้าไม่มีทางให้บุตรสาวแต่งเป็นอนุแน่นอน นางต้องแต่งเข้าจวนหลงในฐานะฮูหยินตราตั้งเท่านั้น” จางเลี่ยง บุกมาถึงจวนราชครู หลังจากจบงานเลี้ยง ฮูหยินแจ้งว่าบุตรสาวหายตัวไป จึงให้คนออกตามหาเงียบๆ ไม่อาจทำให้นางเสียหายได้ เขาเป็นถึงน้องชายของฮองเฮา แม้จางหลันอันจะเป็นเพียงลูกสาวของอนุ แต่นางเป็นลูกสาวคนเดียวของเขา ฮูหยินรับเลี้ยงดูนางเป็นลูก ตอนที่รถม้าตระกูลหลงไปส่งนางที่จวน นางลงม้ามาด้วยสภาพน้ำตานองหน้า เท่านี้เขาก็เดาได้แล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่เกิดต้องปล่อยไปไม่ได้อยู่ดี“ท่านจาง ข้ามีคนที่จะมอบตำแหน่งฮูหยินให้อยู่แล้วมิอาจยกตำแหน่งนั้นให้ได้” เจี้ยนกั๋วกัดฟันแน่น ไม่นึกเลยว่านางจะเป็นถึงหลานสาวฮองเฮา เรื่องคงไม่ง่ายดายอย่างที่คิด เดิมที่คิดว่านางคงเป็นสาวใช้ หรือของกำนัลที่ขุนนางส่งมาให้ แต่ในเมื่อเขาลงมือทำลายความบริสุทธิ์ของนางแล้ว จึงต้องรับผิดชอบแล้วนางซึ่งเป็นถึงหลานสาวของฮองเฮามาอยู่ที่ห้องเขาได้อย่างไร เรื่องนี้คงไม่ธรร
บทที่22“คุณหนู คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านรองแม่ทัพมาขอพบเจ้าค่ะ” จางจิ้งวิ่งกระหืดกระหอบมายังเก๋งริมสระบัว“รองแม่ทัพ คนอย่างข้ารู้จักรองแม่ทัพด้วยเหรอจิ้งเอ๋อร์” ชิงชิงยื่นจอกน้ำชาให้น้ำดื่ม พร้อมส่ายหัว ทำไมต้องวิ่งมาขนาดนี้ มีอะไรน่าตื่นเต้นขนาดนั้นกัน“คุณหนูเจ้าคะ ท่านจำท่านรองแม่ทัพไม่ได้หรือเจ้าคะ”“รองแม่ทัพของเจ้าคือผู้ใดล่ะ”“คุณชายชานตง ไงเจ้าค่ะ” จางจิ้งฉีกยิ้มจนปากเกือบจะถึงหู“ชานตงผู้ช่วยตัวร้ายของรื่องอะนะ” ชิงชิงหลุดร้องจนเสียงหลง ทำไมตัวร้ายถึงมาปรากฏตัวที่จวนหลี่“ตัวร้ายอะไรกัน ถึงท่านจะไม่ค่อยชอบคุนชายแต่ยังไรก็ญาติพี่น้องกัน”ชานตง ญาติผู้พี่ที่เป็นผู้ช่วยตัวร้าย ตอนเด็กๆ ชอบแกล้งนางเอก ข้าลืมตัวร้ายไปได้ยังไง แล้วเขาแล้วในเรื่องเขาไม่ได้เป็นรองแม่ทัพนิ โอ้ยปวดหัว ทำไมตั้งแต่ข้าตัดด้ายแดงจากพระเอกแล้ว นิยายมันไม่เหมือนเดิมเลย“คุณหนูไปหาที่เรือนรับรอง หรือให้ท่านรองแม่ทัพมาที่เก๋งเจ้าค่ะ”“มาที่เก๋งแล้วกัน ให้คนยกน้ำชากับขนมมาให้ด้วย” เป็นญาติกันคงไม่จำเป็นต้องไปหา ระหว่างรอจะได้ค่อยๆ นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับรองแม่ทัพไปด้วย“เดี๋ยวข้าจัดการเองเจ้าค่ะ”“ทำไมข้ารู้
บทที่23ชิงชิงมาขอพบท่านลุงหลี่ เพื่อลากลับเมืองหลวง กลับได้รับคำตอบว่าทางสกุลหลิวส่งจดหมายให้นางกลับหลวงเมืองหลวงภายใน 7 วันตอนขามานางเดินทางถึง 20 วันเชี่ยวนะ 7 วันมันจะไปทันได้อย่างไร ต้องเหาะเหินเดินอากาศไปหรือไง ใครเขียนนิยายเรื่องนี้ ไม่ให้สกิวเทพๆ ให้นางเอกอย่างนางแล้วยังมาให้ทำอะไรยากๆ อีก ชิงชิงเก็บสัมภาระไปบ่นไป เพราะตอนมาบ่าวไพร่สกุลหลิวช่วยขนมา ขากลับมีเพียงนางและจางจิ้งเท่านั้น คนสกุลหลี่ไม่มีใครมาช่วยมานางเลย หลังงานโคมลอย เจี้ยนกั๋วกลับไปแล้วเหมือนท่านลุงจะตัดขาดจากนาง พอไม่มีประโยชน์ก็ไม่สนใจ โชคดีที่ชิงชิงเปลี่ยนสินเดิมของมารดาเป็นตั๋วเงินทั้งหมด เหลือเพียงเครื่องประดับเพียง 2 หีบเท่านั้นแต่ผิดคาด นางเดินทางมาถึงเมืองหลวงในวันที่ 7เพราะท่างรองแม่ทัพคุมขบวนรถม้าเดินทางไม่ได้พัก คนในขบวนทุกคนล้วนคือทหารใต้อำนาจของรองแม่ทัพ หลิวชิงชิงและจางจิ้วแทบจะกินนอนอยู่บนรถม้า ระหว่างทางหลิวชิงชิงก็หวั่นใจ เกิดอะไรขึ้นที่เมืองหลวง ตอนนี้ยากจะเดาเพราะเนื้อหาในนิยายไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมจากที่นางอ่านเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียวชิงชิงเปิดผ้าม่านรถม้า เห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของชานตงก็อดสงสา
บทที่24-25จางหลันอันนั่งอยู่บนเตียงรอเจ้าบ่าว การแต่งงานเพราะความจำยอมของทั้งสองฝ่าย นางไม่มีทางเลือกใดเลย ไม่แต่งก็ไม่ได้ หลันอันจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้แม้แต่นิดเดียว นางยืนอยู่ดับมารดาชาที่ดื่มนางก็รับจากมารดาทุกจอก เป็นไปไม่ได้ที่นางจะถูกวางยาประตูห้องหอเปิดออก หลันอันอยู่ภายใต้ผ้าคลุมเจ้าสาวสีแดงตัวเกร็งขึ้นมาทันตา ผ้าคลุมถูกกระชากออกโยนทิ้งอย่างไร้ค่า“เพราะเจ้า เพราะคนแบบเจ้าหวังสูง จนลืมนึกถึงความรู้สึกคนอื่น” เจ้าบ่าวยืนเซไปเซมา ชี้หน้าเจ้าสาวที่นั่งอยู่บนเตียง“หากเจ้าไม่ปีนเตียงข้า คนที่อยู่กับข้าคืนนี้ก็คือชิงเอ๋อร์ ข้ารักนาง ข้ารักนาง” เจี้ยวจิ้งเดินโซเซไปที่โต๊ะมงคล ยกกาเหล้ามงคลกรอกปากจางหลันอันสะอื้น “ข้าไม่ได้ทำ คืนนั้นข้าจำอะไรไม่ได้เลย”“เฮอะ ถ้าเจ้าไม่ได้ทำแล้วมานอนที่เตียงข้าได้อย่างไรกัน มีคนอุ้มเจ้ามาหรือไง” พูดจบเจี้ยนจิ้งถึงกับชะงัก กลิ่นกำยานเรียนวิถีบัณฑิตและสุภาพบุรุษมาตั้งแต่จำความได้ ต่อให้เมาแค่ไหนเขาก็ไม่ทำกับสตรีแบบนั้น“เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม รู้หรือไม่ว่าเข้าจวนมาแล้วชีวิตของเจ้าเป็นตายคือสิทธิ์ของข้า”“ข้าไม่ได้โกหกเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยรู้จักท่าน ไม่เค
บทที่26หลงเจี้ยนกั๋วยืนรอหลิวชิงชิงที่โถ่งรับแขกด้วยความกระวนกระวายใจ“คุณชายหลง”“ชิงชิง” เจี้ยนกั๋วเดินเข้าไปหานางหมายจะโอบกอดให้หายคิดถึง เมื่อวานเขาสบตานางแค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น แต่เมื่อเห็นสายตาที่ส่งมา เข้าจึงหยุดทันที“ท่านมาหาข้าหลังจากที่เพิ่งแต่งงานเมื่อวาน โอ้ย คุณชายหลงท่านบ้าไปแล้ว” หลิวชิงชิง มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นใครในบริเวณ ก็โวยวายออกมาทันที คนจะคิดยังไง หลันอันจะคิดว่านางกับสามีนางเป็นอะไรกัน โอ้ยไอ้คนสิ้นคิด“เจ้าฟังข้าก่อนชิงชิง ข้าขอโทษ มันเป็นเรื่องผิดพลาด ข้าจำเป็นต้องแต่งกับนาง” เจี้ยนกั๋วเอื้อมมือไปดึงมือนางมากุมไว้ชิงชิงรีบสะบัดมือทิ้งทันที ไม่ได้รังเกียจ ยังไรก็สหายแต่ถึงเนื้อถึงตัวห้ามทำ ยิ่งชายที่มีภรรยาแล้ว สตรีที่เขาจะแตะต้องได้มีเพียงภรรยาเท่านั้น“หากอยากคบข้าเป็นสหายห้ามทำแบบเมื่อกี้อีก”“ชิงชิง เจ้าก็รู้ข้าไม่เคยคิดกับเจ้าอย่างสหายเลยซักครั้ง เพียงเออออไปตามเจ้า เพื่อใช้เวลาอยู่ข้างๆ เจ้าเท่านั้น”เฮ้อ ก็ไม่ใช่ไม่รู้ นางก็ยังรอดูตัวเองเลยว่าจะหวั่นไหวไปกับเจี้ยนกั๋วไหม สุดท้ายก็ไม่“ข้าไม่เคยคิดกับท่านเป็นอื่นนอกจากสหาย”“แต่ข้ารักเจ้า เจ้าก็ไม่ม
บทที่27แลนมาคแรกคงไม่พ้นเหลาอาหาร ก็สาวใช้ตัวน้อยของนางรักการกินเป็นชีวิตจิตใจ ที่แรกที่ต้องมาก็ต้องมาชิมอาหารเมืองหลวงทั้งสองเดินขึ้นขั้นบันไดเพื่อไปชั้นบน เพื่อดูวิวเมืองหลวง“โอ้ย ” ร่างบางหงายหลังมือหนาคว้าเอวบางเอาไว้ โอบกอดนางไว้แนบกายชิงชิงมัวแต่เดินชวนจางจิ้งคุยจนไม่ได้ดูว่ามีคนเดินสวนลงบันไดมา นางหงายหลังเกือบตกลงไปนอนนับดาวเดือนที่พื้นด้านล่างโชคดีที่มีคนช่วยไว้ ใบหน้าของนางเห็นเพียงคางของเขาเท่านั้น“ขออภัยเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ แต่ท่านปล่อยข้าก่อนเถอะ” เมื่อเห็นนานแล้วเขายังไม่ปล่อยมือจากเอว จึงท้วงติง“ขออภัยที่เสียมารยาท หากข้าปล่อยแม่นางตรงจุดเมื่อกี้แม่นางคงได้ตกลงไปเป็นแน่”นอกจากจะไม่ปล่อย เขารวบเอวนางขึ้นไปชั้นบน พอถึงเรียบร้อยจึงปล่อยนางลงยืนกับพื้นพอสองขาแตะพื้นชิงชิงเห็นหน้าเขาเต็มสองตา “ท่าน”“แม่นางรู้จักข้า” ชายหนุ่มแววตาสั่นระริกอย่างมีความหวัง นางจำเขาได้“อ่อ ข้าไม่รู้จักท่านเจ้าค่ะ ข้าขอเลี้ยงอาหารท่านที่ช่วยเอาไว้เมื่อกี้ได้หรือไม่”“คุณหนู” เพิ่งเคยเจอกัน มาชวนกินข้าว เดี๋ยวเป็นแบบคุณชายหลงทำไงเหล่า“ข้ายินดี”“คุณชายจะรังเกียจหรือไม่หากคน
บทที่28หลิวชิงชิงวิ่งอ้อมโต๊ะยกแขนเสื้อเช็ดใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำชาผสมน้ำลายของนาง ปากพล่ำขอโทษ“ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ยกโทษให้ข้า อย่าตีข้าเลยน่ะ”จางจิ้งก็เลิกลั่กไม่เเพ้กัน แต่ทำเพียงนั่งดูเงียบๆ บ่าวไม่อาจสอดเรื่องของเจ้านายจ้าวเย่ชิง คว้าแขนนางไว้ให้หยุดเช็ด “อะไรที่ทำให้แม่นางคิดว่าข้าจะตีแม่นาง”“กะ ก็ ท่านคือจ้าวเยว่ชิง อะ องค์ชายสาม” ตัวร้ายที่คอยไล่ทำร้ายนางเอก และพระเอก“เจ้ารู้ว่าข้าคือใคร ทำไมตอนแรกที่ข้าถามเจ้าบอกไม่รู้จัก” เยว่ชิง มองตรงเข้าไปในดวงตาของนาง เพื่อหาความจริงว่านางโกหกที่บอกว่าไม่รู้จักเขาหรือไม่ กลับเจอเพียงความหวาดระแวง ทำเอาเขาใจสลาย“เจ้ากลับไปนั่งที่เจ้าได้แล้ว” มือหนาปล่อยข้อมือบาง ยกตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารใส่ชามข้าวของหลิวชิงชิง เหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นชิงชิงตารีตาเหลือกกลับเก้าอี้เดิม คีบอาหารใส่ปาก นั่งนิ่งเงียบ อยู่ๆ ก็ป๊ะตัวร้าย ไม่ดิ เคยเจอผ่านๆ แล้วก่อนถึงฉางอันชีวิตนางเอกนี้มันรันทดจริงๆ นี้นางต้องมาลุ้นว่าตัวร้ายจะตามบทนิยายหรือเปล่าใช่ไหม คนอื่นที่ผ่านมาต่อให้เหมือนนิยายก็ไม่น่ากลัว แต่ตัวร้ายตรงหน้านี้ดิ สาธุ พี่ชายอย่าทำตามเนื้อเรื่
บทที่29หลิวชิงชิงเดินกลับจวนด้วยสภาพหมดแรง เจอผู้ชายสายรุกฆาต ดวงข้าจะถึงฆาตแล้วใช่ไหม ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงใบหน้าชุกหมอน กรีดร้องออกมา สองขายกสลับตีไปมา มืออีกสองข้างก็กระหน่ำทุบหมอน“ข้าจะเผานิยายเล่มนั้นทิ้ง ข้าจะเผาแล้วเอาขี้เถ้าไปโรยหน้าบ้านคนเขียน ข้าจะโพสวิจารณ์ให้ขายไม่ได้” เออ ข้าไม่ได้อยู่ยุคโซเชี่ยลนี่หว่า“คุณหนู องค์ชายกับคุณหลง ฐานะต่างกันท่านปฏิเสธไม่ใช่เรื่องง่าย”“ข้ายังไม่ทันปฏิเสธ เขาก็ขู่ข้าแล้วเจ้าก็ได้ยิน”“ถ้าปฏิเสธไม่ได้ คุณหนูจะหนีไปเมืองไหนเจ้าค่ะ ฉางอันคงไม่ได้แล้ว คนจวนนั้นคงไม่ต้อนรับคุณหนูแล้ว”คนไม่มีประโยชน์ไม่ นายท่านหลี่คงจะไม่ต้อนรับจ้าวเย่ชิงกอดอกยืนพิงต้นไม้ ฟังนายบ่าวปรึกษากัน หากสวรรค์ไม่มาขว้างข้า เจ้าคิดว่าหนีข้าได้พ้นเหรอชิงเอ๋อร์ หากเจ้าบินหนีข้าจะใช้สวิงจับเจ้ากลับมา หากเจ้ามุดดินข้าจะดำดินตาม หากเจ้าวิ่งหนีขาสั้นๆ แบบนั้นขาต่อให้ก่อนเลย 10 หลี่ร่างหนาค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง ฟังเสียงจ้อแจ้วของคนที่อยู่ภายในเรือน แค่ได้ยินเสียงของนางจิตใจก็พลันสงบ หวนนึงถึงสัญญาเมื่อภพแรก‘ชิงเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า เจ้าคือดวงดาวที่ค่อยส่องแสงอยู่เคียงข้างข้าเสมอ
บทที่45“พระชายาตั้งครรภ์” เสียงหวีดร้องจากจางจิ้ง หลังจากพระชายาหน้ามืด นางก็รีบไปตามหมอหลวงมากูอาการ หลังจากท่านหมอตรวจเสร็จก็แจ้งว่าพระชายาทรงควรรภ์ได้ 2 เดือนแล้ว“เดือนหน้าเจ้าจะปักปิ่นแล้ว ลดความม้าดีดกะโหลกลงซักนิดเถิดจิ้งเอ๋อร์”“พระชายา” จางจิ้งทำตาปริบๆ นางไม่ได้ซนอะไรขนาดนั้น นางเพียงแค่ทำอะไรคล่องแคล่ว “งั้นข้าให้คนไปแจ้งท่างอ๋องก่อนนะเพค่ะ“ไม่ต้องหรอก ข้าว่าป่านนี้องค์รักษ์เงาวิ่งแจ่นไปบอกแล้วล่ะ เจ้าอยู่ช่วยดูแลข้านี้ล่ะ ข้าเวียนหัวอยากอ้วกตลอดเวลา”“กระหม่อนจัดยาแก้วิงเวียนให้แล้ว ต้มดื่มทุกเช้าอาการจะทุเลาลง” ท่านหมอเก็บของแล้วกล่าวอำลาพอชินอ๋องทราบข่าวว่าพระชายากำลังตั้งครรภ์ก็ขอลากลับวังมาดูแล แต่กลับเป็นต้องลาพักยาวเพราะนอกจากยาแก้วิงเวียนที่พระชายาต้มดื่มทุกเช้า คนที่ดื่มกลับกลายเป็นชินอ๋อง หน้ามืดจะเป็นลมทุกครั้งที่ก้าวขาออกจากวัง จนไม่สามารถเข้าวังหลวงไป ช่วยราชกิจได้“ท่านรู้ว่ากลิ่นจากกระเทียมเจียวจะทำให้ท่านอาเจียน ท่านก็ยังให้คนต้มโจ๊กมาให้ข้าทานทุกเช้า” มือบางลูบหลังพระสวามีที่แพ้ท้องแท้นาง ขอบคุณเขาทุกวันที่แพ้แท้ หากให้นางแพ้แบบนี้คงไม่ได้บำรุงเจ้าก้อนแป
บทที่44ผ่านไป 2 เดือน ฮองเต้มีราชโองการแต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท และแต่งตั้งองค์ชายสามเป็นชินอ๋อง“จากนี้ไปท่านก็อยู่แต่ในวังไม่ได้แล้วสิ ต้องไปช่วยงานในราชวังบ้างแล้ว” ชิงชิง เอี้ยวหน้าไปคุยกับคนที่พายเรือให้นางชมดอกบัวในสระ“ข้าทุ่มแรงกายแรงใจสร้างฐานอำนาจ เพื่อวันที่ได้อยู่กับเจ้าและจะไม่มีปัญหาตามมา ตำแหน่งชินอ๋องนั้นย่อมมีคนเพ่งเล็ง อยากเข้ามาหาผลประโยชน์ด้วย อำนาจมันหอมหวาน”“เหมือนกับตำแหน่งพระชายารองของท่านสิน่ะ” หลังจากแต่งงานแรกวันไปเคาระวะยกน้ำชา ฮองเฮาก็เอ่ยถึงการแต่งพระชายารอง“ที่ข้ายังถือตรากองทัพอยู่และแอบรวบรวมคนไว้ ก็เพราะเหตุนี้ด้วย จะไม่มีใครบังคับให้ข้าแต่งใครเข้าวังชินอ๋องได้” เย่ชิง พายเรือกลับเข้าฝั่ง อุ้มภรรยาตัวน้อยขึ้นจากเรือ ไปนั่งดื่มชาและขนมที่เก๋งต่อ“แต่ท่านไปให้สัญญากับฮองเฮา หากทำให้จางหลันอันกับเจี้ยนกั๋วลงเอยได้จะแต่งพระชายารองจากคนในตระกูลของพระนาง”“แต่ข้าไม่ได้บอกว่าเมื่อไร” เย่ชิงยักไหล่ บิดยิ้ม “ไว้วันที่ข้าลุกจากเตียงไม่ไหวกำลังจะสิ้นลมหายใจ ข้าถึงจะแต่ง เจ้าไม่ต้องคิดมากจะมีเจ้าที่ทำหน้าที่อุ่นเตียงให้ข้าไปตลอดชีวิต” เย่ชิงส่งสายตายิ้ม
บทที่43วันพระราชทานสมรถมาถึง เจ้าบ่าวในชุดแดงมงคลนั่งบนอาชาสีดำคลับ ขี่ม้านำเกี้ยวมารับเจ้าสาว พร้อมขบวนสินสอดยาวจนสุดถนน สินสอดทั้งหมดฮองเต้เป็นผู้พระราชทานให้ว่าที่พระชายาขององค์ชายเมื่อเป็นเช่นนั้น หลิวชิงชิงจึงขอให้หลิวอี้สงไม่ต้องเพิ่มสินสอดเจ้าสาวนางจะเอาไปเพียงสินเดิมของมารดานางเท่านั้น ไม่อยากกลับมาข้องเกี่ยวกับคนในจวนนี้อีก จะว่าตัดขาดกันก็ได้ ตัวนางนั้นไม่ได้มีความผูกพันใดๆ กับคนสุกลหลิวเลยแม้แต่นิด อยู่เพียงอาศัยเป็นที่พึ่งเพราะหลงมาเท่านั้น จะว่านางใจร้ายและใจดำกับบิดาผู้ให้กำเนิด นางก็ขอใจร้าย หากบิดาใส่ใจซักนิดนางคงไม่โดดเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เทพธิดาหงเหม่ยเขียนผ่านในนิยาย หรือที่นางนั้นสัมผัสด้วยตัวเอง หลิวอี้สงมีแค่ความห่างเหินไม่ต่างจากจากคนอื่น สนใจแค่งาน ถึงจะไม่ได้ลงมือรังแกหรือทำร้ายนาง แต่เขาทำร้ายนางทางอ้อม หากเขาใส่ใจนางซักนิดจะรู้ว่านางนั้นไม่มีความสุข ถูกหลิวฮูหยินทำร้าย รักที่ไม่พูดไม่แสดงออกไม่มีวันส่งถึงใจใคร แต่หากวันหนึ่งเขาจะสำนึกได้นางก็คงจะให้อภัย แต่ถ้าไม่รู้สึกก็ปล่อยไปแบบนี้ก็แล้วกันด้วยนางไปใช้ชีวิตในโลกอนาคตถึง 30 ปี จึงมีความคิดอ่านต่าง
บทที่41หลิวฮูหยินส่วจดหมายนัดคุณชายหลงให้ออกมาพบ หวังจะให้เขาทำอะไรซักอย่างไม่ให้มีงานแต่งพระราชทาน ให้เขาลักพาตัวดีไหม หรือให้เขาแอบเข้าเรือนนอนนาง หลิวฮูหยินยืนรอที่จุดนัดพบจนเลยเวลานัดหมายมาเกือบครึ่งชั่วยาม คุณชายหลงก็ยังไม่ปรากฏตัว“หลิวฮูหยิน” ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากเงามืด“คุณชายหลงท่านมาช้า ข้าร้อนใจจะแย่”“เจ้าแก่จนสายตาเลอะเลือนหรืออย่างไร” ร่างสูงกล่าวหลิวฮูหยินเพ่งสายตานมนความมืดยกโคมไฟขึ้นสูงเพื่อมองคนตรงหน้าชัดๆ “อะ..องค์ชาย”“คุณชายหลงคงไม่มา ป่านนี้คงนอนกกกอดฮูหยินรองอยู่คงได้เจ้าก้อนแป้งน้อยในไม่ช้า ส่วนหลิวเจี่ยหลี่จนสิ้นลมหายใจคงไม่อาจมีทายาท เพราะฮูหยินเอกของคุณชายจวงคงไม่มีวันยอม”“องค์ชายรู้เรื่องนี้ “เย่ชิงยิ้มเหี้ยม“ท่านให้คุณชายจวงสั่งให้เจี่ยหลี่เดิมยาห้ามครรภ์”“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ผลักดันให้คุณชายจวงแต่งงานกับบุตรสาวเจ้า แต่เพราะรู้ว่าคนรักของคุณชายจวงมีนิสัยหึงหวงและคุณชายจวงก็รักนางมากยอมทำทุกอย่างเพื่อความสบายใจของนาง นางสั่งให้ห้ามมีบุตรกับบุตรสาวของเจ้า”“เหตุใดท่านถึงทำกับพวกข้าแบบนี้ เจียลี่ไปทำอะไรให้ท่าน”“เพราะบุตรสาวของเจ้าลงมือกลั่นแกล้ง
บทที่40ทำตามหัวใจตัวเอง คำพูดที่ผู้เฒ่าใบ้เอาไว้ ครั้งที่ข้าใจสั่นกับเจี้ยนกั๋วมันเป็นแค่อาการเวลามองไอดอลยิ้มให้ แต่ตอนที่ใจสั่นตอนสบตากับเย่ชิงมันกลับรู้สึกอีกอย่างที่แตกต่างออกไป เย่ชิง ชิงชิง ดาว ชื่อทำไม่ความหมายแฝงคล้ายกันปิ่นหงส์หลิวชิงชิงยกมือขึ้นจับปิ่นหงส์ที่อยู่บนศีรษะ ชื่อนิยายเรื่องนั้น ปิ่นหงส์ แต่รูปภาพบนปกนิยายไม่ได้ปักปิ่นอันนี้ หรือข้าคือแสงสว่างจากดวงจันทร์ส่องลงมายังสระบัวทั้งที่ตะวันเพิ่งลับขอบฟ้าไป กลับมีแสงจันทร์สว่าง เสียงแว่วมาตามสายลม‘ชิงเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า เจ้าคือดวงดาวที่ค่อยส่องแสงอยู่เคียงข้างข้าเสมอ ข้าเยว่ชิงจะเป็นดวงจันทร์ที่ส่องแสงโอบกอดเจ้าไว้ข้างกายไม่ห่าง ข้าสาบานจะรักเจ้าทุกภพทุกชาติไป’‘พี่เยว่ชิง ท่านพูดแล้วห้ามคืนคำ’‘ข้าพูดที่ไหน ข้าสาบานต่างหาก ฟ้าดินเป็นพยาน ข้าจะรักเจ้าเพียงคนเดียว หากชาตินั้นหาเจ้าไม่พบข้าก็จะไม่รักใคร’ร่างบางยืนขาสั่น จนไม่อาจทรงได้ได้ ทรุดลงกับพื้น ก่อนที่ตัวจะถึงพื้น มีมือหนาเข้ามาประคองเอาไว้นางเงยหน้าสบตาคนที่ตะกองกองนางเอาไว้ทั้งน้ำตา“ข้า…ขอโทษที่ลืมเลือนท่าน”เย่ชิงประคองร่างบางไว้ด้วยฝ่ามือเดียว หัวแม่มืออีกข้
บทที่39จวนสกุลหลิวบ่าวต่างวิ่งกันวุ่นวาย เมื่อมีม้าเร็วมาแจ้งว่ามีราชโองการ ให้ทุกคนออกมารอรับหน้าจวน“รับราชโองการ คุณหลิวชิงชิง บุตรสาวหลิวอี้สง งดงาม เพียบพร้อม ไปด้วยคุณธรรมและจริยาธรรม องค์ฮงค์เต้จึงพระราชทานสมรสให้หลิวชงชิงแต่งเข้าจวนองค์ชายสามในตำแหน่งพระชายา อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า จบราชโองการ”หลิวชิงชิง ก้าวออกไปรับม้วนราชโองการด้วยความสับสนมึงงง ไหนเมื่อวานบอกว่าเจี้ยนกั๋วไปขอฮองเต้ ทำไมกลายเป็นองค์ชายสามไปได้ จะมัดมือชกนางเกินไปแล้วหลิวฮูหยินคุกเข่ารับราชโองการแทบลุกไม่ขึ้น ทำไมคนที่หลิวชิงชิงแต่งออกไปด้วยไม่ใช่คุณชายหลง นางเปิดโอกาสให้มาพบหลิวชิงชิงที่เรือนทุกวัน รีบให้นางแต่งออกไป นางจะได้สมุดบัญชีจวนกลับคืนมาซักที่ชิงชิงคลี่ม้วนราชโองการออกดู ว่าตกใจที่มีราชโองการแล้ว กลับต้องมาตกใจวันที่ข้างๆ ตราประทับของฮองเต้ วันที่เมื่อห้าปีที่แล้ว เพราะอะไรเย่ชิงถึงได้ขอประทานสมรสกับหลิวชิงชิง สองคนนี้ในอดีตเคยพบกันงั้นเหรอ แต่ถ้าเคยเจอในความทรงจำเดิมต้องมีอะไรบ้างสิ หรือนั้นเป็นสาเหตุที่นางคุ้นแววตาของเย่ชิง“เจ้าถามข้าได้” เย่ชิงตัดสินใจเดินออกมายืนเคียงข้างนาง“องค์ชายเข้ามาได้
บทที่38จ้าวเย่ชิงเข้าวังหลวงในยามวิกาล มาทวงสัญญาหลังจากที่กลับมาจากชายแดน สัญญาที่เขาขอไว้ ไม่ให้บังคับเขาแต่งพระชายา“เจ้าเข้ามายามวิกาล เจ้าอยากหัวขาดหรือเย่ชิง” ฮองเต้ลุกขึ้นจากเตียงบรรทม หลังจากกงกงมากระซิบปลุกที่ข้างหู“ลูกมาทวงสัญญา”“แล้วถ้าเจิ้นบอกว่าลืมไปแล้วล่ะ” ฮองเต้แกล้งยียวน พระองค์พอจะทราบข่าวเรื่ององค์ชายสาม ประกาศบอกรักคุณหนูหลิวกลางเหลาอาหาร อยากเห็นคุณหนูคนนั้นจริง เอาอะไรมาหลอมหัวใจน้ำแข็งเจ้าลูกคนนี้“ลูกหยิบม้วนราชโองการมาด้วย เสร็จพ่อเพียงเติมชื่อนางลงไป เป็นอันเสร็จสิ้น”“เจ้ารีบ?”“ไม่เลยข้าไม่รีบ ข้าขอราชโองการจากท่านพ่อมาถือไว้ถึง 5 ปี ข้าไม่รีบเลยพ่ะย่ะค่ะ”“เอ้าๆ นางมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร ข้าจะได้นอนต่อ”“หลิวชิงชิง บุตรคหบดีขายผ้าไหม หลิวอี้สง” เย่ชิงรีบปรี่เข้าไป ฝนหมึกให้อย่างเอาใจ พอฮองเต้จดปลายพู่กันลงบนราชโองการ เย่ชิงก็เข้าไปบีบนวดแขนแกร่งของบิดา“เห้ยๆ อย่าบีบแขนแรง หากข้าขีดเส้นผิด ข้าไม่แก้ให้ ไม่ออกราชโองการให้เจ้าใหม่ด้วย”“เสด็จพ่อ”“เสร็จแล้วไสหัวไปได้แล้ว ข้าจะนอน วันๆ ราชสำนักไม่เคยเข้า ไปซุ่มฝึกกองกำลังลับอยู่ได้”“ข้าก็ทำเพื่อพี่ใหญ
บทที่37หลังจากพายุสงบ จึงกลับมาทานอาหารกันต่อแบบประตูเปิดโล่ง องค์ชายดึงดันจะมาส่งนางให้ได้ นางกลัวคนที่จวนแตกตื่น จึงขู่ให้ชานตงมาส่งนางเป็นเพื่อนด้วย หากไม่หลอกนางออกไป นางคงไม่ถูกมัดมือชกแบบนี้มือบางลูบไล้ไปตามปิ่นหยก ตัวปิ่นเป็นสีขาว ส่วนตัวหงส์กลับเป็นสีแดง หยกหายากเช่นนี้คงไม่แปลกที่ข้าจะตกตลึงทันทีที่เห็นมัน แต่ความรู้สึกที่แวบขึ้นมาเพียงแวบหนึ่ง กลับทำให้ข้ายังคิดวนเวียนอยู่แบบนี้เจ้าเป็นอะไรชิงชิง อ่อนไหวง่ายไปหรือเปล่าหลิวชิงชิง เดินไปที่กระจกทองเหลือง ไม่รู้สิ่งดลใจนางดึงปิ่นอันเดิมแล้วปักปิ่นหงส์ลงบนม้วยผม แวบตานางสั่นไหวอย่างรุนแรง ภาพสะท้อนในกระจกทำเอาน้ำตานางไหลอาบแก้ม“จ้าวเย่ชิง เจ้าเป็นใครกันแน่” มือบางเอื้อมหมายจะดึงปิ่นหงส์ออก แต่ก็เปลี่ยนใจชักมือลง จ้าวเย่ชิง ท่านเป็นใครทำไมท่านถึงมีของสิ่งนี้ในมือ ของที่ข้ารู้สึกว่ามันคือของๆ ข้า ของที่ข้าทำหายการกระทำทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาคม เย่ชิงตั้งท่าจะกระโดดเข้าไปในห้องนาง“เจ้าทำแบบนี้ เจ้าได้กลายเป็นโจรเด็ดบุปผาของจริง”มือเหี่ยวย่นดึงไหล่หนาเอาไว้“แต่นางกำลังจะนึกออก” ร่างสูง ตาแดงกล่ำ เห็นนางในดวงใจ ร้องไห้ เขาทนไม
บทที่36หลิวชิงชิงได้รับจดหมายจากชานตงให้มาพบที่เหลาอ่านหาร หลังจากเขามาส่งที่เมืองหลวงก็ไม่ได้พบกันเลยเสี่ยวเอ้อจึงพานางมายังห้องที่จองเอาไว้ เมื่อเปิด ชิงชิงแทบอยากจะร้องออกมาดังๆข้าลืมไปว่าพี่ชานตงเป็นผู้ช่วยตัวเอ้ของตัวร้าย“องค์ชาย ท่านรองแม่ทัพ “ ชิงชิงกัดฟันพูดแล้วเดินเข้าไปนั่ง ค่อยดูข้าจะถล่มให้หยับ บังอาจหลอกข้ามา“เจ้ามองข้าตาเขียวขนาดนั้น เดินมาฟาดข้าเลยเถอะ” ชานตงที่ร่วมเดินทางมาจากฉางอัน พอจะรู้นิสัยนางพอสมควร“ข้าจะทำแบบนั้นต่อหน้าองค์ชายสามได้อย่างไร” นางอุตส่าห์ไม่ออกจากจวนจะได้กลบข่าวลือหนก่อน“หากองค์ชายไม่อยู่เจ้าจะตีข้า เจ้าช่างใจคอโหดเหี้ยม ข้าเห็นเหลาเปิดใหม่เลยอยากพาเจ้ามากิน แต่มีเจ้ามือเสนอเลี้ยง ข้ามิอาจขัดศัทธา” รองแม่ทัพ เอาเท้าเตะขาองค์ชายอยู่ภายใต้โต๊ะ จะนั่งเป็นใบ้อีกนานมั้ย ข้าเปิดให้ขนาดนี้แล้ว“วันนี้เจ้าสวยกว่าทุกวัน” องค์ชายสามเอ่ยชมชุดที่นางสวมใส่วันนี้ สีเขียวรับกับผิวหน้ากระจ่างใส่ของนางเหลือเกินที่เงียบคือมองตาค้างอยู่สิน่ะ เฮอะ !ไอ้ข้าก็หลงเป็นห่วงพอถูกชมซึ่งหน้า ใครไหนเลยจะปั้นหน้าบึ้งอยู่ได้ แม้จะหวั่นๆ ใจในตัวอองค์ชาย แต่นางก็แอบอมยิ้ม