แชร์

น้ำพุวิเศษ

ผู้เขียน: ซูเจิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 16:23:40

“เพล้ง!!!”

“เมิ่งหลันลูกเป็นอะไรหรือเปล่า” พ่อหลิวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหาหารด้วยกันถามขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกสาวอยู่ดีๆก็ทำแก้วน้ำหล่นแตก

“หนูไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูขอเก็บเศษแก้วก่อนนะคะ” เมิ่งหลันเองตอนนี้ก็ใจไม่ค่อยดีนัก เธอรู้สึกใจหายแบบแปลกๆ

“เดี๋ยวน้าเก็บเองค่ะ คุณเมิ่งหลันนั่งพักก่อนะคะ เดี๋ยวน้าจัดการให้เอง” น้าอี้ฝานที่ได้ยินเสียงของแตกก็รีบออกมาดู จึงอาสาที่จะเก็บมันเอง

“ขอบคุณนะคะ” เมิ่งหลันนั่งลงที่เดิม ตอนนี้เธอพยายามนึกถึงแต่สิ่งดี ขออย่าให้เป็นในสิ่งที่เธอหวาดกลัวเลย

แต่สิ่งที่เธอคิดนั้นก็ไม่มีอยู่จริง

“กริ๊ง ๆ ๆ ๆ” เสียงโทรศัพท์บ้านของเมิ่งหลันดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ บ้านคุณเมิ่งหลันค่ะ” น้าอี้ฝานเป็นคนรับโทรศัพท์

“ฉันขอสายเมิ่งหลันหน่อย บอกท่านนายพลหวังโทรมา” พ่อหวังเอ่ยขึ้นเมื่ออีกฝั่งพูดจบ

“ค่ะ รอสักครู่นะคะ” เมื่อพูดจบน้าอี้ฝานก็ไปตามเมิ่งหลันทันที เมิ่งหลันที่ได้ยินว่าใครโทรมาอดที่จะใจแป้วไม่ได้ แต่ก็ไม่รีรอ รีบไปรับสายทันที

“สวัสดีค่ะคุณพ่อ ฉันเมิ่งหลันเองค่ะ” เมิ่งหลันเมื่อรับสายก็ทักทายทันที แต่น้ำเสียงก็ไม่ค่อยดีนัก

“พ่อมีเรื่องเกี่ยวกับเหอตี้จะบอก” พ่อหวังพูดเพียงเท่านั้นเพื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ฟื้นแล้ว

    “แค่กๆๆๆ” ระหว่างที่เมิ่งหลันกำลังป้อนน้ำพุอยู่นั้น เหอตี้ก็ตื่นขึ้นมา ทำให้เขานั้นสำลักน้ำพุที่เมิ่งหลันกำลังป้อน เหอตี้ไอจนหน้าดำหน้าแดง “คุณเป็นยังไงบ้างคะ” เมิ่งหลันถามทันทีที่เหอตี้นั้นหายจากอาการไอ“คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันครับ” เหอตี้ไม่ตอบแต่ถามแทน หรือว่าเขาจะถูกส่งตัวกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว“ฉันมาพร้อมกับคุณพ่อของคุณนั่นแหละค่ะ ท่านบอกจะมาหาคุณที่นี่ฉันก็เลยขอมาด้วย” แต่เมิ่งหลันไม่ยอมบอกว่าเธอนั้นขับรถมาเอง เธอกลัวว่าสามีนั้นจะบ่นเอาได้“แล้วลูกล่ะครับ” เขามองหาเด็กๆแต่ก็ไม่เห็น“ฉันไม่ได้พามาด้วยหรอกค่ะ การเดินทางไกลขนาดนี้ฉันไม่อยากให้ลูกลำบาก” เมิ่งหลันบอกเขา เหอตี้จะได้หยุดมองหาสองแฝดเสียที“คุณยังไม่บอกฉันเลยนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปตามหมอก่อนะคะ” เมิ่งหลันไม่รอคำตอบออกไปเรียกหมทันที ไม่นานก็มีหมอและพยาบาลเข้ามาตรวจอาการ เพราะเหอตี้นั้นนอนหลับไปนานหลายวัน“อาการของคนไข้ ไม่มีอะไรหน้าเป็นห้วงแล้วนะครับ น่าแปลกมากเลยนะครับ เมื่อตอนเช้าที่ผมเข้ามาตรวจ อาการยังไม่ดีขนาดนี้เลย” คุณหมอพูดพร้อมกับพิจารณาเหอตี้ไปด้วย หรือว่าเมื่อเช้านี้เขาตรวจอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ถูกโจรปล้น

    วันนี้ไรท์ลงนิยายสองตอนนะคะ ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว กลับไปอ่านตอนที่แล้วก่อนได้น๊า…“เฮ้ย!!!!!!” เหอตี้ร้องออกมา เพราะอยู่ๆเมิ่งหลันก็ทำการหยุดรถกระทันหัน ทำให้ตอนนี้เขาเจ็บแผลขึ้นมาอีกแล้ว“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันหันไปถามสามี และตกใจที่เขาร้องเสียงดังอีกด้วย“ผมไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณทำไมถึงหยุดรถกระทันหันแบบนี้ล่ะครับ” เหอตี้ถามกลับไป ถ้าเขาไม่มีไอ้สายคาดนี่ เขาคงจะต้องหัวกระแทกหน้ากระจกไปอย่างแน่นอน และเมิ่งหลันที่นึกขึ้นได้ จึงชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้ารถทันทีสาเหตุที่เธอหยุดรถกระทันหันนั้นก็เป็นเพราะว่า เธอเห็นว่ามีคนนอนอยู่กลางถนน เมิ่งหลันกลัวว่าจะเหยียบคนจึงได้หยุดรถกระทันหัน “มีคนอยู่ข้างหน้าค่ะ เราจะทำยังไงดีคะ” เมิ่งหลันหันไปบอกสามี ตรงหน้ารถของเธอนั้นมีผู้ชายนอนอยู่“ผมว่ามันแปลกๆนะครับ” เขาเองรู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจ จึงพยายามเริ่มคิดแผนการณ์“เราควรที่จะลงไปดูหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามอีกครั้ง เธอไม่ได้กลัวอันตราย ถ้าเธอเห็นว่ามันไม่น่าไว้ใจ เธอจะพาเหอตี้เข้าไปในมิติทันที ยังไงพวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่แล้ว“คุณขับรถไปอีกฝั่งเถอะครับ ค่อยๆขับไป ถ้าเราขับผ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ไม่ใช่แค่ยักยอกแล้ว

    ตอนนี้เหอตี้และเมิ่งหลันมาถึงที่หมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนที่ออกมารับที่หน้าหมู่บ้านก็คือชายหน้าโหดเมื่อวานนี้“เชิญครับ ผมคิดว่าพวกคุณจะไม่มาซะแล้ว” ชายหน้าโหดหรือมีชื่อจริงว่าเจิ้งกู่ เอ่ยขึ้นเมื่อเมิ่งหลันจอดรถที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน“ผมพูดคำไหนก็คำนั้นแน่นอนครับ ยังไงเรื่องนี้ผมจะช่วยให้เต็มที่ ว่าแต่คุณห่าวเซียนกับคนอื่นอยู่ที่ไหนกันล่ะครับ” เหอตี้เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีเพียงเจิ้งกู่เท่านั้น“ตอนนี้อยู่ที่แปลงนาครับ พี่ห่าวซวนให้ผมเป็นคนออกมารับ” หมู่บ้านแห่งนี้ยังไม่ได้รับนโยบายจัดสรรค์ที่ดิน จึงยังเป็นระบบคอมมูนอยู่ ดังนั้นคนในหมู่บ้านยังต้องลงแปลงนา และเรื่องนี้แหละที่ทำให้เกิดการฉ้อโกงเกิดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเข้าไปข้างในหมู่บ้านกันเถอะครับ” เหอตี้ให้เจิ้งกู่นั้นขึ้นรถไปด้วย แต่เขาไม่ยอม บอกว่าตนนั้นตัวเปลื้อนไม่กล้าที่จะขึ้นนั่งบนรถจึงขอเดินนำหน้าไปดีกว่าส่วนทางด้านผู้พันต้วน ตอนนี้ก็กำลังเข้าหมู่บ้านมาแล้วเหมือนกัน“นี่เจิ้งกู่ แกมากับใครล่ะ แล้วทำไมไม่ทำงาน เห็นหรือเปล่าว่าคนอื่นกำลังทำงานกันอยู่ วันนี้ฉันจะหักแต้มค่าแรงแก โทษฐานที่อู้งาน” หัวหน้าหมู่บ้านลู่ พู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ถูกจับแต่งงาน (ซูเหวิน+ซูเจิน)

    การเดินทางตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้นทำให้เมิ่งหลันนั้นอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีน้ำพุ คอยช่วยบำรุงกำลังก็เถอะ แต่การที่ต้องขับรถเป็นเวลายาวนานขนาดนี้ก็ย่อมที่ต้องเหนื่อยล้ากันบ้าง“แม่กลับมาแล้ว/พ่อกลับมาแล้ว” สองแฝดที่ได้ยินเสียงรถที่เข้ามาจอดในบ้านก็รีบออกมาดู พวกเขาคิดถึงพ่อกับแม่มาก ถึงแม้ว่าแม่จะโทรหาทุกวัน แต่มันก็ไม่เหมือนกับอยู่ด้วยกันหรอก“อย่าวิ่งครับลูก เดี๋ยวล้ม” เหอตี้ที่ลงมาเปิดประตูรั้วให้เมิ่งหลัน เมื่อเห็นสองแฝดวิ่งมาก็อดที่ร้องเตือนไม่ได้สองแฝดวิ่งเข้ามาเกาะขาของเหอตี้ผู้เป็นพ่อ พร้อมกับแหงนหน้ามองด้วยความคิดถึง“ทำไมพ่อไปนานจังเลยคะ” ฟางหลินเอ่ยถาม“พ่อไปทำงานครับ” เหอตี้ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เด็กๆเข้าใจจึงเลือกที่จะตอบสั้นๆ“พ่อเหนื่อยใหมครับ” เหวินหลงถามขึ้นบ้าง “ตอนแรกก็เหนื่อยครับ แต่ตอนนี้เห็นหน้าลูกแล้วหายเหนื่อยเลยครับ” เหอตี้เอามือลูบหัวเด็กทั้งสองคน“ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าให้พวกเราไปด้วยนะคะ พ่อจะได้ไม่เหนื่อย”“ใช่ครับ พวกเราจะไม่ดื้อ” สองแฝดหว่านล้อมคนเป็นพ่อว่าครั้งหน้าให้เอาพวกตนไปด้วย“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะ ไม่เห็นจะสนใจแม่บ้างเลย” เมิ่งหลันทำท่าน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ตัดขาดรอบสอง

    “หนูไม่แต่ง/ฉันไม่แต่ง” ซูเจินและซูเหวินพูดขึ้นมาพร้อมกัน“พ่อคะ ยังไงหนูก็ไม่แต่งนะคะ” ซูเจินน้องสาวคนเล็กบอกผู้เป็นพ่อ เธอไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก “ฉันเองก็เหมือนกันค่ะพ่อ และฉันเองก็มีคนรักแล้วด้วย” ซูเหวินผู้เป็นพี่สาวพูดตาม และยังบอกด้วยว่าตนนั้นมีคนรักแล้ว จึงทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นตกตลึงไม่ได้ ซูเหวินนั้นมีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ไม่แต่งไม่ได้ ยังไงก็ต้องแต่ง พวกแกจะอกตัญญูกันไปถึงไหนกัน” ย่าซูที่ได้ยินหลานสาวทั้งสองคนพูดแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นจากพื้นทันที“ย่าคะ ย่ายังจำได้หรือเปล่าว่าพวกเราแยกบ้านกันแล้วนะคะ หนังสือตัดขาดก็มี” ซูเจินพูดเตือนความจำ สงสัยว่าย่าเธอคงจะแก่จนเลอะเลือน“แยกบ้านแล้วยังไง การที่ย่าแกๆแบบฉันหาผู้ชายที่ดีมาให้ก็ควรรับไว้ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง” ย่าซูที่เห็นแก่ค่าสินสอดก็ไม่ยอมท่าเดียว ไหนจะเรื่องที่จะให้หลานทั้งสองเข้ามาทำงานแทนอีกระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยโต้เถียงกันอยู่นั้น ทางฝั่งว่าที่เจ้าบ่าวก็เดินเข้ามา“สวัสดีครับแม่เฒ่าซู ขอโทษด้วยที่พวกผมมากันช้า” ว่าที่เจ้าบ่าวของซูเหวินเอ่ยขึ้น“อู้ย ไม่เป็นไรเลยจ้ะ มานี่สิ ฉันจะนำให้ทุกคนได้รู้จั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คุณมาทำงานกับฉันดีหรือเปล่าคะ

    “ก็ไม่นานมานี้หรอกค่ะ คนนั้นก็คือ…” ซูเหวินยังไม่พูดออกไป ตอนนี้เธอกำลังกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ที่นี่ เธอเองก็รู้สึกอายเหมือนกัน ที่อยู่ๆก็ต้องมาพูดเรื่องของตนเองต่อหน้าทุกคนแบบนี้“บอกมาเถอะจ้ะ ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ” เมิ่งหลันเองที่ตอนนี้ก็อยากรู้ว่าผู้ชายคนไหนที่เป็นผู้โชคดี ได้ผู้หญิงที่ดีแบบนี้ไปเป็นคนรัก“เอ่อ..พี่จี้เฉิงค่ะ” ซูเหวินพูดออกมาในที่สุดและพอดีที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ขบวนรถขนสินค้าของลู่เฟยเทียนก็เข้ามาจอดพอดี“สวัสดีครับทุกคน ทำไมวันนี้ถึงได้อยู่กันพร้อมหน้าขนาดนี้ล่ะครับ ไม่ใช่ว่ากำลังรอผมหรอกนะครับ” เฟยเทียนพูดหยอกเหย้าออกมา เพราะเห็นสีหน้าทุกคนตอนนี้เหมือนว่ากำลังตกใจอะไรอยู่“พอดีพวกเรากำลังพูดคุยเรื่องแต่งงานของซูเหวินค่ะ คุณย่าของซูเหวินมาที่ร้านวันนี้ บอกว่าได้หาว่าที่สามีไว้ให้แล้ว” เมิ่งหลันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงเดินเข้ามา “แต่งงานหรือครับ ใครกันนะที่โชคดี” เฟยเทียนเองก็อยากรู้เหมือนกัน เขาเห็นผู้หญิงคนนี้บ่อยครั้ง ซึ่งเขาเองก็ยังคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีคนหนึ่ง“แต่งงาน ซูเหวินจะแต่งงานจริงๆหรือครับ” ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงของเฟยเที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   จ้างงาน

    “ไม่เป็นไรเลยค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ว่าแต่คุณทำงานอะไรหรือคะ ขอโทษนะคะที่ถามแบบนี้” เมิ่งหลันก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใคร แต่ที่เธอเห็นก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้“ฉันไม่มีงานทำหรอกค่ะ ฉันอยู่บ้านทำงานบ้านแล้วก็ดูแลมู่มู่เท่านั้นเองค่ะ” เธอพูดความจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น “ถ้าอย่างนั้นคุณมาทำงานกับฉันดีหรือเปล่าคะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันชื่อหลิวเมิ่งหลันนะคะ ส่วนคนนี้คือสามีของฉัน ชื่อหวังเหอตี้ แล้วคุณชื่ออะไรหรือคะ” เมิ่งหลันคิดว่ายังไงเธอก็ต้องจ้างคนเพิ่มอยู่แล้ว สู้จ้างแม่เพื่อนของลูกดีกว่า ถือเป็นการช่วยเหลือไปในตัว และเธอเองก็คิดว่าเรื่องนี้เธอมองคนไม่ผิด“ฉันชื่อจางมู่ตานค่ะ ส่วนเรื่องทำงาน ฉันจะทำได้แน่หรือคะ ฉันเองก็ไม่เคยทำงานอย่างอื่นมาก่อน” มู่ตานพูดแบบเกรงใจ เธอกลัวว่าจะไปทำให้งานของคนอื่นเสียหาย“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะคะ มีคนสอนงานอยู่ ว่าแต่คุณสะดวกหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันมองแววตาที่มีความดีใจเพียงแวบเดียวก็กลับมาเป็นทุกข์เหมือนก่อนหน้า“คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ ถ้ามันไม่เป็นความลับเล่าให้ฉันฟังได้นะคะ” เมิ่งหลันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามู่ตานนั้นมีปัญหาแบบไหนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ซื้อที่ดินทำหอพัก

    “วันนี้คุณมู่นอนที่นี่ไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้ค่อยไปพักที่บ้านเช่า หรือจะพักที่นี่ก็ได้ เด็กๆจะได้เล่นด้วยกัน" เมิ่งหลันเองก็อยากให้เด็กๆมีเพื่อนเล่น เพราะบ้านหลังนี้เองก็มีห้องว่างที่ชั้นล่างอีกหนึ่งห้อง “ฉันแล้วแต่คุณเมิ่งหลันเลยค่ะ” มู่ตานเองที่ไม่เคยมีความคิดเป็นของตัวเองก็ไม่กล้าที่จะออกความเห็น ตลอดชีวิตก็มักจะมีคนคิดให้เสมอ“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่ว่านะคะ ส่วนเรื่องงานพรุ่งนี้เราค่อยพูดคุยกันอีกที ถ้าอย่างนั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ” เมิ่งหลันที่เห็นว่าตอนนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีแล้วจึงได้ชวนทุกคนทานข้าวกัน“แม่ขา มู่มู่จะมาอยู่กับเราหรือคะ” ฟางหลินถามด้วยความสงสัย เมื่อกี้เธอได้ยินแต่ไม่ค่อยเข้าใจ“ใช่แล้วจ้ะ มู่มู่จะมาอยู่ที่นี่ นอนที่นี่ แล้วก็ไปโรงเรียนพร้อมลูกอย่างไรล่ะจ้ะ” เมิ่งหลันตอบคำถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม“ดีเลยครับ มู่มู่จะได้มีข้าวกินทุกวัน” เหวินหลงเองก็ดีใจเหมือนกันเมิ่งหลันให้น้าอี้ฝานพามู่ตานและลูกไปดูที่พัก และหาอาหารให้กิน “เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” เหอตี้ที่เห็นว่าภรรยาเดินกลับมาที่โต๊ะทานอาหาร ก็อดที่จะถามไม่ได้“ค่ะ วันนี้ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณมากเลยนะคะ ที่ช่วยข่มข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พวกเราคือครอบครัว…

    พวกเราคือครอบครัว…สี่ปีต่อมา…หลังจากวันที่เมิ่งหลันคลอดลูกชายฝาแฝด ก็ผ่านมามานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงดูลูกของเธอช่างวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดีที่เหอตี้ออกจากงานมาช่วยเธอดูแลร้าน ไม่อย่างนั้นเธอเองคงไม่มีเวลาพัก การเลี้ยงลูกถึงสี่คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยฟางหลินและเหวินหลงนั้น ดีที่โตพอจนรู้ความแล้ว ตอนนี้อายุก็เข้าปีที่สิบแล้ว หนูน้อยฟางหลินในตอนนี้ความงดงามนั้นเปล่งประกายมากถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม จนทำให้คุณพ่อนั้นหวงมากเป็นพิเศษ เพราะยิ่งโตหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกับคนเป็นแม่ส่วนแฝดน้องเหวินหลงเองก็ใช่ย่อย ความหล่อเหลาก็ไม่ได้แพ้ใคร ในทุกวันที่ไปโรงเรียนมักจะมีสาวน้อยมอบขนมให้อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สหายมู่มู่ที่ไปโรงเรียนด้วยกันไม่ต้องเสียเงินซื้อขนมเลยส่วนแฝดชาย หวังจางหมิ่น และหวังเจียวจิ้นนั้น ตอนนี้ก็อายุสี่ขวบแล้ว ซึ่งความซุกซนไม่ต้องพูดถึง ขนาดที่ว่าเมิ่งหลันจ้างพี่เลี้ยงมาเพิ่ม ทั้งสองคนก็ยังหลุดลอดสายตาออกไปซนที่อื่นได้ “จางหมิ่น เจียวจิ้น แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามออกมาเล่นข้างนอกแบบนี้” เมิ่งหลันที่ออกมาเจอลูกๆของเธออยู่ที่ด้านนอกพอดี จึงอดที่จะดุไม่ได้“แม่ครับ พวกเราไม่อยากอยู่ในบ้าน” เ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ออกมาแล้ว…

    ออกมาแล้ว…“หลันหลัน คุณไม่ต้องกลัวนะครับ” เหอตี้ผู้เป็นสามีปลอบใจภรรยาอยู่ที่ข้างเตียง วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนั้นนัดผ่าคลอดให้กับเมิ่งหลัน เพราะว่าเธอนั้นมีความเสี่ยงจึงต้องใช้วิธีการผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ“เหอตี้คะ ฉันกลัวจังเลยค่ะ” เธอบอกสามีออกไป นี่คือการคลอดครั้งแรกของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเมิ่งหลันคนก่อนจะเคยคลอดลูกแต่มันก็ไม่ใช่เธออยู่ดี“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะครับ หมอที่นี่เก่งอยู่แล้ว คุณนอนพักก่อนดีกว่า” เมื่อเหอตี้เห็นว่าภรรยานั้นมีความเครียดจึงอยากให้เธอได้พักผ่อน“แล้วสองแฝดอยู่ที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันถามหาลูกทั้งสองคน เพราะเธอมารอคลอดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย“อยู่กับน้าอี้ฝานครับ สองแฝดไม่มีงอแงเลย พูดจารู้เรื่องมาก แค่บอกว่าแม่กำลังจะมาคลอดน้องพวกเขาก็เข้าใจ” เหอตี้เมื่อเช้านี้ได้กลับไปที่บ้านและพูดเรื่องนี้ให้สองแฝดฟัง ซึ่งทั้งสองก็เข้าใจ และบอกว่าจะรอแม่และน้องอยู่ที่บ้าน“คุณจะรอฉันที่ด้านนอกใช่หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามสามีเมื่อมองเวลาแล้วไกล้ที่จะเข้าห้องคลอดเต็มที“ผมจะรอคุณอยู่ข้างนอกห้องคลอดแน่นอน ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณออกมา คุ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน

    งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน…วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันนั้นต้องมาตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สอง และการตรวจก็เป็นไปด้วยดี การเติบโตของทารกในครรภ์นั้นดีมากทีเดียวและอีกเรื่องที่ทำให้หลิวเมิ่งหลันและหวังเหอตี้ ต้องตกตะลึงกันอีกครั้ง นั่นก็คือในท้องของเมิ่งหลันนั้นมีลูกน้อยถึงสองคน นั่นก็หมายความว่าในตอนนี้เมิ่งหลันนั้นกำลังท้องลูกแฝดอีกครั้งนั่นเองแต่การแพทย์ในยุคสมัยนี้ก็ไม่สามารถตรวจได้ว่าเจ้าก้อนแป้งที่กำลังนอนอยู่ในท้องของเมิ่งหลันนั้นเป็นเพศไหน จะเป็นชายชาย หญิงหญิง หรือหญิงชาย ก็ไม่อาจรู้ได้ ถึงแม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะแข็งแรงดี แต่เมิ่งหลันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอกลัวการคลอดลูก เธอกลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย เหอตี้ที่รับรู้ได้ถึงความกังวลก็ได้แต่ปลอบใจภรรยา ไม่ว่าอย่างไรเขาจะหาหมอที่มีฝีมือที่สุดมาทำคลอดให้ภรรยาให้ได้“เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ” เหอตี้เอ่ยขึ้นเมื่อพากันออกมาจากในโรงพยาบาลหลังจากที่ตรวจการตั้งครรภ์เสร็จแล้ว“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็เดาไม่ถูก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปที่ไหนแบบจริงจังสักที เพราะเธอทุ่มเทเวลาใ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คู่มือการเลี้ยงลูก

    คู่มือการเลี้ยงลูก…หลังจากที่ทุกคนรู้ข่าวเรื่องการท้องของเมิ่งหลันก็ยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่หวัง แม่เหอที่รู้ข่าวก็ไปสรรหาของบำรุงต่างๆมาให้เมิ่งหลันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโสมหรือรังนกก็ตาม“ฉันต้องขอบคุณคุณแม่มากเลยนะคะสำหรับของบำรุงพวกนี้” เมิ่งหลันบอกแม่สามี ถึงแม้เธอจะรู้ว่าของพวกนี้ดีมีสรรพคุณมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกินมันได้ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่แม่เหอก็ฝากให้เหอตี้เอามาให้เธอทาน พอเธอทานเข้าไปถึงกับอาเจียนไม่ยอมหยุด “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ เธอต้องกินมันให้หมดนะ หลานของฉันจะได้ออกมาแข็งแรง” แม่เหอบอกด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เจ้าใหญ่ จะแต่งงานเมื่อไหร่ดีล่ะ เหอตี้มีลูกแซงหน้าไปแล้วนะ” แม่เหอเอ่ยถามลูกชายคนโต ที่ตอนนี้สานสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้อย่างราบรื่น“แล้วคุณแม่ว่ายังไงล่ะครับ พร้อมที่จะไปสู่ขอสะใภ้ใหญ่ได้หรือยัง” เหอซานหันมาถามแม่ของตนบ้างแม่เหอที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที นี่เจ้าใหญ่ของเธอกำลังบอกให้ไปขอภรรยาให้เขาใช่หรือไม่“นี่ลูกพูดจริงใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับพ่อจะได้ไปพูดเรื่องนี้กับบ้านกงแต่เช้าเลย” “555” เหอซานอดที่จะยิ้มขำแม่ของตนไม่ได้ คงอยากได้สะใภ้มากเลยถ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   สองแฝดจะมีน้อง

    สองแฝดจะมีน้อง…“ท้อง???”“คุณหมอช่วยพูดอีกครั้งได้หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันที่ต้องการได้ยินอีกครั้ง ว่าอาการที่เธอเป็นนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม“คนไข้ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรนะครับ อาการที่เป็นอยู่ เป็นอาการของคนท้องเท่านั้นครับ” หมอเองได้ตรวจซ้ำถึงสองรอบจากการจับชีพจร ซึ่งผลที่ออกมาก็เหมือนกันทั้งสองครั้งและเขาเองก็มั่นใจเป็นอย่างมากเมิ่งหลันคิดว่ากลับบ้านไปเธออาจจะเรียกเอาชุดทดสอบการตั้งครรค์ออกมาตวจอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจหมอในยุคนี้หรอกนะ แค่เธออยากมีโมเม้นท์ขึ้นสองขีดแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง“แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันท้องกี่เดือนแล้วหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็แอบงงเหมือนกัน ทั้งที่เธอเองก็กินยาคุม แล้วลูกของเธอนั้นทะลุยาคุมออกมาได้ยังไงกัน หรือยาที่เธอกินจะหมดอายุนะ แต่ก็ไม่น่าใช่“ประมาณ เดือนกว่าได้แล้วครับ ช่วงนี้คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ ของหนักก็ห้ามยกเพราะมันจะเสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนในเรื่องของอาหารก็ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และก็อย่าลืมดื่มนมด้วยนะครับ อ้อ…และอีกอย่างเรื่องบนเตียงช่วงนี้ก็ให้งดไปก่อนนะครับจนกว่าจะมีอ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เมิ่งหลันป่วย???

    เมิ่งหลันป่วย???วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ที่เมิ่งหลันและคนงานช่วยกันบรรจุของเพื่อทำถุงยังชีพ และทุกวันก็จะทำได้ประมาณหนึ่งพันชุดทุกวัน“คุณเมิ่งหลันคะ วันนี้มีคนมาโวยวายที่หน้าร้านอีกแล้วค่ะ” ซูเหวินเข้ามารายงานเมิ่งหลัน เพราะหลายวันมานี้มีคนต้องการมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ทางร้านไม่สามารถเปิดขายให้ได้ เพราะต้องนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน นั้นจึงสร้างความไม่พอใจกับลูกค้าบางคน“แล้วได้บอกเหมือนที่ฉันสั่งไว้หรือเปล่าจ๊ะ” เมิ่งหลันเองให้ลูกจ้างทุกคนนั้นบอกลูกค้าไปตามความจริง ว่าทางร้านไมาสามารถขายสินค้าให้ได้ ให้ไปหาซื้อที่อื่นก่อน “บอกแล้วค่ะ….” ทั้งสองพูดกันไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังโวยวายกันอยู่ที่ด้านนอก“เฮอะ ที่ไม่ยอมขายข้าวให้พวกฉัน เป็นเพราะว่าจะเอาไปขายให้กับทางการใช่หรือเปล่าล่ะ” เสียงลูกค้าที่เป็นสตรีเอ่ยขึ้น“ไม่อยากขายให้พวกเราก็พูดมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องอ้างทางการหรอก มันน่าอาย” เธอยังพูดไม่หยุด“ทำมาเป็นบอกว่าเอาไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ฉันเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ของพวกนี้กับฉันด้วย” ผู้หญิงทืี่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    ช่วยเหลือผู้ประสบภัย…….“ทำไมคุณถึงได้ทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ” เมิ่งหลันถามเหอตี้ที่พึ่งจะกลับมาจากที่ทำงาน ก็เห็นว่าสีหน้าของสามีนั้นไม่ค่อยจะดีนัก ทั้งที่ปกติแล้วเวลาที่เขากลับมาบ้านนั้นมักจะส่งยิ้มมาให้ก่อนเสมอเหอตี้ที่ได้ยินเมิ่งหลันถามก็ถอนหายใจ “วันนี้พี่ใหญ่มาหาผมที่ทำงานครับ” เขาเว้นหายใจไปช่วงหนึ่ง จึงทำให้เมิ่งหลันสงสัยเข้าไปอีก“พี่ใหญ่มาขอความช่วยเหลือน่ะครับ ตอนนี้ทางตอนเหนือเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง ฝนตกหนักมาหลายวัน จนตอนนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางพื้นที่ก็มีน้ำป่าลงมาจากเขาทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นอย่างมาก” เหอตี้พูดพร้อมกับจ้องหน้าของภรรยา “แล้วยังไงต่อคะ” เมิ่งหลันอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ที่เหอตี้ไม่ยอมพูดให้เสร็จเสียที“ตอนนี้ประชาชนในแถบนั้นหลายพันคนกำลังเดือดร้อนเรื่องอาหาร และที่อยู่อาศัย พี่ใหญ่เลยอยากจะขอให้คุณช่วยเรื่องอาหารครับ” เหอตี้พูดออกมาได้ในที่สุด ที่เขาไม่กล้าพูดออกมาในทีแรกเพราะกลัวว่าภรรยาจะไม่ยอมช่วยเหลือในเรื่องนี้ ทั้งๆที่เขาก็รู้แหละว่าเมิ่งหลันนั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ในเรื่องนี้ที่ต้องช่วยคนจำนวนมากเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“แค่นี้หรือคะ??” เม

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ธุรกิจขายเหล้า

    หลักจากวันที่ช่วยจางเย่วในวันนั้นก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว จางเย่วเองก็ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านเดิม แต่มาเช่าบ้านเพื่อเปิดร้านค้าตามคำแนะนำของเมิ่งหลันแทนจางเย่วนั้นเปิดร้านขายของชำ ไม่ได้ขายครบทุกอย่างเหมือนร้านของเมิ่งหลัน เพราะเธอนั้นอยู่ตัวคนเดียว เธอจึงเลือกขายของจำพวก ข้าวสาร แป้ง น้ำตาล อาหารแห้ง“คุณจางคะ ของชุดนี้ฉันเตรียมให้แล้วนะคะ ส่วนครั้งหน้าคุณโทรมาบอกที่ร้านก็ได้ค่ะ ฉันจะให้เด็กไปเอาใบรายการที่ร้านให้เอง คุณจางจะได้ไม่ต้องลำบากมาเอง ไหนจะต้องดูแลร้านอีก” เมิ่งหลันที่ให้ความช่วยเหลือก็พร้อมที่จะช่วยแบบเต็มที่ อะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยทันทีถ้าไม่เดือดร้อนตัวเธอ“จะดีหรือคะ มันจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่า ทีี่พวกคุณช่วยฉันเอาไว้ ฉันเองก็ตอบแทนไม่ไหวแล้วค่ะ” จางเย่วนั้นเกรงใจจริงๆ คนที่นี่ช่วยเธอเอาไว้ตั้งมากมาย ชดใช้ด้วยชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้หมดหรือเปล่าและการที่เธอนั้นมีความกล้าเรื่องค้าขายก็เพราะผู้หญิงตรงหน้านี้ จางเย่วชื่นชมเมิ่งหลันเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการค้า การปกครองคน การดูแลครอบครัว ผู้หญิงคนนี้เก่งมากจริงๆ และเธอเองก็หวังที่จะเป

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ทวงสินเดิม

    “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ในเมื่อเธอขอกลับบ้านเดิมไปตั้งหลายวันแล้วก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าหนีไปกับชู้แล้วหรือเปล่า แล้วใครบอกให้พวกคุณมาที่นี่กัน แล้ว….” นายหนิวหันไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจางเย่วก็เอ่ยขึ้นทันที“ฉันเอง…” จางเย่วอดทนไม่ไหวต่อคำพูดของคนเป็นสามีจึงได้แสดงตัวออกมานายหนิวที่ได้ยินเสียงก็หันไปดู ก็เจอเข้ากับภรรยาของตนที่เข้าใจว่าตายไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน เขาเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก ตาของเขาปูดโปนจนแทบจะถลำออกมา“นี่..นี่ เธอยังไม่ตะ..เธอกลับมาแล้วหรือ” ก่อนที่นายหนิวจะเผลอพูดอะไรออกไป เขาเองก็ดึงสติของตัวเองกลับมาเสียก่อน ในเมื่อเรื่องนี้ไม่มีคนรู้เห็นยังไงก็ไม่มีคนเอาผิดเขาได้“ใช่ฉันกลับมาแล้ว ว่าแต่คุณเถอะไปที่ไหนมาหรือคะ อย่าบอกนะว่าออกไปตามหาฉัน” จางเย่วถามขึ้น ทั้งที่รู้ว่าเขาคงออกไปตามสืบเรื่องของตน เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีใครหรือเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเจอศพของเธอ“เธอหายไปไหนมาหลายวันล่ะ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมาก” นายหนิวหยิบยกคนอื่นมาอ้าง ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามเจ้าหน้าที่มาทำเรื่องหย่าและทวงสินเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status