แชร์

ฟื้นแล้ว

ผู้เขียน: ซูเจิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 16:24:23

“แค่กๆๆๆ” ระหว่างที่เมิ่งหลันกำลังป้อนน้ำพุอยู่นั้น เหอตี้ก็ตื่นขึ้นมา ทำให้เขานั้นสำลักน้ำพุที่เมิ่งหลันกำลังป้อน เหอตี้ไอจนหน้าดำหน้าแดง

“คุณเป็นยังไงบ้างคะ” เมิ่งหลันถามทันทีที่เหอตี้นั้นหายจากอาการไอ

“คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันครับ” เหอตี้ไม่ตอบแต่ถามแทน หรือว่าเขาจะถูกส่งตัวกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว

“ฉันมาพร้อมกับคุณพ่อของคุณนั่นแหละค่ะ ท่านบอกจะมาหาคุณที่นี่ฉันก็เลยขอมาด้วย” แต่เมิ่งหลันไม่ยอมบอกว่าเธอนั้นขับรถมาเอง เธอกลัวว่าสามีนั้นจะบ่นเอาได้

“แล้วลูกล่ะครับ” เขามองหาเด็กๆแต่ก็ไม่เห็น

“ฉันไม่ได้พามาด้วยหรอกค่ะ การเดินทางไกลขนาดนี้ฉันไม่อยากให้ลูกลำบาก” เมิ่งหลันบอกเขา เหอตี้จะได้หยุดมองหาสองแฝดเสียที

“คุณยังไม่บอกฉันเลยนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปตามหมอก่อนะคะ” เมิ่งหลันไม่รอคำตอบออกไปเรียกหมทันที ไม่นานก็มีหมอและพยาบาลเข้ามาตรวจอาการ เพราะเหอตี้นั้นนอนหลับไปนานหลายวัน

“อาการของคนไข้ ไม่มีอะไรหน้าเป็นห้วงแล้วนะครับ น่าแปลกมากเลยนะครับ เมื่อตอนเช้าที่ผมเข้ามาตรวจ อาการยังไม่ดีขนาดนี้เลย” คุณหมอพูดพร้อมกับพิจารณาเหอตี้ไปด้วย หรือว่าเมื่อเช้านี้เขาตรวจอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ถูกโจรปล้น

    วันนี้ไรท์ลงนิยายสองตอนนะคะ ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว กลับไปอ่านตอนที่แล้วก่อนได้น๊า…“เฮ้ย!!!!!!” เหอตี้ร้องออกมา เพราะอยู่ๆเมิ่งหลันก็ทำการหยุดรถกระทันหัน ทำให้ตอนนี้เขาเจ็บแผลขึ้นมาอีกแล้ว“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันหันไปถามสามี และตกใจที่เขาร้องเสียงดังอีกด้วย“ผมไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณทำไมถึงหยุดรถกระทันหันแบบนี้ล่ะครับ” เหอตี้ถามกลับไป ถ้าเขาไม่มีไอ้สายคาดนี่ เขาคงจะต้องหัวกระแทกหน้ากระจกไปอย่างแน่นอน และเมิ่งหลันที่นึกขึ้นได้ จึงชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้ารถทันทีสาเหตุที่เธอหยุดรถกระทันหันนั้นก็เป็นเพราะว่า เธอเห็นว่ามีคนนอนอยู่กลางถนน เมิ่งหลันกลัวว่าจะเหยียบคนจึงได้หยุดรถกระทันหัน “มีคนอยู่ข้างหน้าค่ะ เราจะทำยังไงดีคะ” เมิ่งหลันหันไปบอกสามี ตรงหน้ารถของเธอนั้นมีผู้ชายนอนอยู่“ผมว่ามันแปลกๆนะครับ” เขาเองรู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจ จึงพยายามเริ่มคิดแผนการณ์“เราควรที่จะลงไปดูหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามอีกครั้ง เธอไม่ได้กลัวอันตราย ถ้าเธอเห็นว่ามันไม่น่าไว้ใจ เธอจะพาเหอตี้เข้าไปในมิติทันที ยังไงพวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่แล้ว“คุณขับรถไปอีกฝั่งเถอะครับ ค่อยๆขับไป ถ้าเราขับผ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ไม่ใช่แค่ยักยอกแล้ว

    ตอนนี้เหอตี้และเมิ่งหลันมาถึงที่หมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนที่ออกมารับที่หน้าหมู่บ้านก็คือชายหน้าโหดเมื่อวานนี้“เชิญครับ ผมคิดว่าพวกคุณจะไม่มาซะแล้ว” ชายหน้าโหดหรือมีชื่อจริงว่าเจิ้งกู่ เอ่ยขึ้นเมื่อเมิ่งหลันจอดรถที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน“ผมพูดคำไหนก็คำนั้นแน่นอนครับ ยังไงเรื่องนี้ผมจะช่วยให้เต็มที่ ว่าแต่คุณห่าวเซียนกับคนอื่นอยู่ที่ไหนกันล่ะครับ” เหอตี้เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีเพียงเจิ้งกู่เท่านั้น“ตอนนี้อยู่ที่แปลงนาครับ พี่ห่าวซวนให้ผมเป็นคนออกมารับ” หมู่บ้านแห่งนี้ยังไม่ได้รับนโยบายจัดสรรค์ที่ดิน จึงยังเป็นระบบคอมมูนอยู่ ดังนั้นคนในหมู่บ้านยังต้องลงแปลงนา และเรื่องนี้แหละที่ทำให้เกิดการฉ้อโกงเกิดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเข้าไปข้างในหมู่บ้านกันเถอะครับ” เหอตี้ให้เจิ้งกู่นั้นขึ้นรถไปด้วย แต่เขาไม่ยอม บอกว่าตนนั้นตัวเปลื้อนไม่กล้าที่จะขึ้นนั่งบนรถจึงขอเดินนำหน้าไปดีกว่าส่วนทางด้านผู้พันต้วน ตอนนี้ก็กำลังเข้าหมู่บ้านมาแล้วเหมือนกัน“นี่เจิ้งกู่ แกมากับใครล่ะ แล้วทำไมไม่ทำงาน เห็นหรือเปล่าว่าคนอื่นกำลังทำงานกันอยู่ วันนี้ฉันจะหักแต้มค่าแรงแก โทษฐานที่อู้งาน” หัวหน้าหมู่บ้านลู่ พู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ถูกจับแต่งงาน (ซูเหวิน+ซูเจิน)

    การเดินทางตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้นทำให้เมิ่งหลันนั้นอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีน้ำพุ คอยช่วยบำรุงกำลังก็เถอะ แต่การที่ต้องขับรถเป็นเวลายาวนานขนาดนี้ก็ย่อมที่ต้องเหนื่อยล้ากันบ้าง“แม่กลับมาแล้ว/พ่อกลับมาแล้ว” สองแฝดที่ได้ยินเสียงรถที่เข้ามาจอดในบ้านก็รีบออกมาดู พวกเขาคิดถึงพ่อกับแม่มาก ถึงแม้ว่าแม่จะโทรหาทุกวัน แต่มันก็ไม่เหมือนกับอยู่ด้วยกันหรอก“อย่าวิ่งครับลูก เดี๋ยวล้ม” เหอตี้ที่ลงมาเปิดประตูรั้วให้เมิ่งหลัน เมื่อเห็นสองแฝดวิ่งมาก็อดที่ร้องเตือนไม่ได้สองแฝดวิ่งเข้ามาเกาะขาของเหอตี้ผู้เป็นพ่อ พร้อมกับแหงนหน้ามองด้วยความคิดถึง“ทำไมพ่อไปนานจังเลยคะ” ฟางหลินเอ่ยถาม“พ่อไปทำงานครับ” เหอตี้ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เด็กๆเข้าใจจึงเลือกที่จะตอบสั้นๆ“พ่อเหนื่อยใหมครับ” เหวินหลงถามขึ้นบ้าง “ตอนแรกก็เหนื่อยครับ แต่ตอนนี้เห็นหน้าลูกแล้วหายเหนื่อยเลยครับ” เหอตี้เอามือลูบหัวเด็กทั้งสองคน“ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าให้พวกเราไปด้วยนะคะ พ่อจะได้ไม่เหนื่อย”“ใช่ครับ พวกเราจะไม่ดื้อ” สองแฝดหว่านล้อมคนเป็นพ่อว่าครั้งหน้าให้เอาพวกตนไปด้วย“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะ ไม่เห็นจะสนใจแม่บ้างเลย” เมิ่งหลันทำท่าน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ตัดขาดรอบสอง

    “หนูไม่แต่ง/ฉันไม่แต่ง” ซูเจินและซูเหวินพูดขึ้นมาพร้อมกัน“พ่อคะ ยังไงหนูก็ไม่แต่งนะคะ” ซูเจินน้องสาวคนเล็กบอกผู้เป็นพ่อ เธอไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก “ฉันเองก็เหมือนกันค่ะพ่อ และฉันเองก็มีคนรักแล้วด้วย” ซูเหวินผู้เป็นพี่สาวพูดตาม และยังบอกด้วยว่าตนนั้นมีคนรักแล้ว จึงทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นตกตลึงไม่ได้ ซูเหวินนั้นมีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ไม่แต่งไม่ได้ ยังไงก็ต้องแต่ง พวกแกจะอกตัญญูกันไปถึงไหนกัน” ย่าซูที่ได้ยินหลานสาวทั้งสองคนพูดแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นจากพื้นทันที“ย่าคะ ย่ายังจำได้หรือเปล่าว่าพวกเราแยกบ้านกันแล้วนะคะ หนังสือตัดขาดก็มี” ซูเจินพูดเตือนความจำ สงสัยว่าย่าเธอคงจะแก่จนเลอะเลือน“แยกบ้านแล้วยังไง การที่ย่าแกๆแบบฉันหาผู้ชายที่ดีมาให้ก็ควรรับไว้ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง” ย่าซูที่เห็นแก่ค่าสินสอดก็ไม่ยอมท่าเดียว ไหนจะเรื่องที่จะให้หลานทั้งสองเข้ามาทำงานแทนอีกระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยโต้เถียงกันอยู่นั้น ทางฝั่งว่าที่เจ้าบ่าวก็เดินเข้ามา“สวัสดีครับแม่เฒ่าซู ขอโทษด้วยที่พวกผมมากันช้า” ว่าที่เจ้าบ่าวของซูเหวินเอ่ยขึ้น“อู้ย ไม่เป็นไรเลยจ้ะ มานี่สิ ฉันจะนำให้ทุกคนได้รู้จั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คุณมาทำงานกับฉันดีหรือเปล่าคะ

    “ก็ไม่นานมานี้หรอกค่ะ คนนั้นก็คือ…” ซูเหวินยังไม่พูดออกไป ตอนนี้เธอกำลังกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ที่นี่ เธอเองก็รู้สึกอายเหมือนกัน ที่อยู่ๆก็ต้องมาพูดเรื่องของตนเองต่อหน้าทุกคนแบบนี้“บอกมาเถอะจ้ะ ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ” เมิ่งหลันเองที่ตอนนี้ก็อยากรู้ว่าผู้ชายคนไหนที่เป็นผู้โชคดี ได้ผู้หญิงที่ดีแบบนี้ไปเป็นคนรัก“เอ่อ..พี่จี้เฉิงค่ะ” ซูเหวินพูดออกมาในที่สุดและพอดีที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ขบวนรถขนสินค้าของลู่เฟยเทียนก็เข้ามาจอดพอดี“สวัสดีครับทุกคน ทำไมวันนี้ถึงได้อยู่กันพร้อมหน้าขนาดนี้ล่ะครับ ไม่ใช่ว่ากำลังรอผมหรอกนะครับ” เฟยเทียนพูดหยอกเหย้าออกมา เพราะเห็นสีหน้าทุกคนตอนนี้เหมือนว่ากำลังตกใจอะไรอยู่“พอดีพวกเรากำลังพูดคุยเรื่องแต่งงานของซูเหวินค่ะ คุณย่าของซูเหวินมาที่ร้านวันนี้ บอกว่าได้หาว่าที่สามีไว้ให้แล้ว” เมิ่งหลันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงเดินเข้ามา “แต่งงานหรือครับ ใครกันนะที่โชคดี” เฟยเทียนเองก็อยากรู้เหมือนกัน เขาเห็นผู้หญิงคนนี้บ่อยครั้ง ซึ่งเขาเองก็ยังคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีคนหนึ่ง“แต่งงาน ซูเหวินจะแต่งงานจริงๆหรือครับ” ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงของเฟยเที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   จ้างงาน

    “ไม่เป็นไรเลยค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ว่าแต่คุณทำงานอะไรหรือคะ ขอโทษนะคะที่ถามแบบนี้” เมิ่งหลันก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใคร แต่ที่เธอเห็นก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้“ฉันไม่มีงานทำหรอกค่ะ ฉันอยู่บ้านทำงานบ้านแล้วก็ดูแลมู่มู่เท่านั้นเองค่ะ” เธอพูดความจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น “ถ้าอย่างนั้นคุณมาทำงานกับฉันดีหรือเปล่าคะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันชื่อหลิวเมิ่งหลันนะคะ ส่วนคนนี้คือสามีของฉัน ชื่อหวังเหอตี้ แล้วคุณชื่ออะไรหรือคะ” เมิ่งหลันคิดว่ายังไงเธอก็ต้องจ้างคนเพิ่มอยู่แล้ว สู้จ้างแม่เพื่อนของลูกดีกว่า ถือเป็นการช่วยเหลือไปในตัว และเธอเองก็คิดว่าเรื่องนี้เธอมองคนไม่ผิด“ฉันชื่อจางมู่ตานค่ะ ส่วนเรื่องทำงาน ฉันจะทำได้แน่หรือคะ ฉันเองก็ไม่เคยทำงานอย่างอื่นมาก่อน” มู่ตานพูดแบบเกรงใจ เธอกลัวว่าจะไปทำให้งานของคนอื่นเสียหาย“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะคะ มีคนสอนงานอยู่ ว่าแต่คุณสะดวกหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันมองแววตาที่มีความดีใจเพียงแวบเดียวก็กลับมาเป็นทุกข์เหมือนก่อนหน้า“คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ ถ้ามันไม่เป็นความลับเล่าให้ฉันฟังได้นะคะ” เมิ่งหลันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามู่ตานนั้นมีปัญหาแบบไหนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ซื้อที่ดินทำหอพัก

    “วันนี้คุณมู่นอนที่นี่ไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้ค่อยไปพักที่บ้านเช่า หรือจะพักที่นี่ก็ได้ เด็กๆจะได้เล่นด้วยกัน" เมิ่งหลันเองก็อยากให้เด็กๆมีเพื่อนเล่น เพราะบ้านหลังนี้เองก็มีห้องว่างที่ชั้นล่างอีกหนึ่งห้อง “ฉันแล้วแต่คุณเมิ่งหลันเลยค่ะ” มู่ตานเองที่ไม่เคยมีความคิดเป็นของตัวเองก็ไม่กล้าที่จะออกความเห็น ตลอดชีวิตก็มักจะมีคนคิดให้เสมอ“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่ว่านะคะ ส่วนเรื่องงานพรุ่งนี้เราค่อยพูดคุยกันอีกที ถ้าอย่างนั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ” เมิ่งหลันที่เห็นว่าตอนนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีแล้วจึงได้ชวนทุกคนทานข้าวกัน“แม่ขา มู่มู่จะมาอยู่กับเราหรือคะ” ฟางหลินถามด้วยความสงสัย เมื่อกี้เธอได้ยินแต่ไม่ค่อยเข้าใจ“ใช่แล้วจ้ะ มู่มู่จะมาอยู่ที่นี่ นอนที่นี่ แล้วก็ไปโรงเรียนพร้อมลูกอย่างไรล่ะจ้ะ” เมิ่งหลันตอบคำถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม“ดีเลยครับ มู่มู่จะได้มีข้าวกินทุกวัน” เหวินหลงเองก็ดีใจเหมือนกันเมิ่งหลันให้น้าอี้ฝานพามู่ตานและลูกไปดูที่พัก และหาอาหารให้กิน “เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” เหอตี้ที่เห็นว่าภรรยาเดินกลับมาที่โต๊ะทานอาหาร ก็อดที่จะถามไม่ได้“ค่ะ วันนี้ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณมากเลยนะคะ ที่ช่วยข่มข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พ่อหลิวช่วยคน

    “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วยค่ะ” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังแว่วมาให้ได้ยินพ่อหลิวที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็หยุดรถลง แล้วมองหาต้นทางของเสียงว่ามันมาจากที่ใด“ช่วยด้วยค่ะ…” เสียงนั้นยังลอยเข้ามาให้ได้ยินอยู่“คุณครับ คุณได้ยินผมหรือเปล่า” พ่อหลิวที่หาต้นเสียงเจอก็รีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ที่ริมถนน สภาพของหล่อนนั้นเหมือนกับโดนทำร้ายมา ใบหน้าของเธอปูดบวมเหมือนกับหัวหมู ขอบตาเขียวคล้ำ ปากเจ่อ เสื้อผ้ามอมแมมเปลื้อนฝุ่น พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือดูไม่ได้เลยล่ะเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหมดสติไปแล้ว พ่อหลิวก็ตัดสินใจพาเธอคนนั้นไปที่โรงพยาบาลในทันที……………………………………………….“ผู้หญิงคนที่ผมพามาเมื่อสักครู่เป็นอย่างไรบ้างครับ” พ่อหลิวถามทันทีที่เห็นว่านางพยาบาลเดินออกมาจากห้องที่ผู้หญิงคนนั้นเข้าไป“ตอนนี้เธอปลอดภัยดีแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้สติ คงต้องให้เธอนอนพักที่นี่ก่อน ถ้าอย่างไรแล้ว รอคุยกับคุณหมอนะคะ ดิฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก” เมื่อพยาบาลคนนั้นพูดจบก็เดินออกไปทันที เพราะมีงานอื่นที่ต้องทำอีกมากพ่อหลิวที่ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ ตอนที่เห็นผู้หญิงคนนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พวกเราคือครอบครัว…

    พวกเราคือครอบครัว…สี่ปีต่อมา…หลังจากวันที่เมิ่งหลันคลอดลูกชายฝาแฝด ก็ผ่านมามานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงดูลูกของเธอช่างวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดีที่เหอตี้ออกจากงานมาช่วยเธอดูแลร้าน ไม่อย่างนั้นเธอเองคงไม่มีเวลาพัก การเลี้ยงลูกถึงสี่คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยฟางหลินและเหวินหลงนั้น ดีที่โตพอจนรู้ความแล้ว ตอนนี้อายุก็เข้าปีที่สิบแล้ว หนูน้อยฟางหลินในตอนนี้ความงดงามนั้นเปล่งประกายมากถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม จนทำให้คุณพ่อนั้นหวงมากเป็นพิเศษ เพราะยิ่งโตหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกับคนเป็นแม่ส่วนแฝดน้องเหวินหลงเองก็ใช่ย่อย ความหล่อเหลาก็ไม่ได้แพ้ใคร ในทุกวันที่ไปโรงเรียนมักจะมีสาวน้อยมอบขนมให้อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สหายมู่มู่ที่ไปโรงเรียนด้วยกันไม่ต้องเสียเงินซื้อขนมเลยส่วนแฝดชาย หวังจางหมิ่น และหวังเจียวจิ้นนั้น ตอนนี้ก็อายุสี่ขวบแล้ว ซึ่งความซุกซนไม่ต้องพูดถึง ขนาดที่ว่าเมิ่งหลันจ้างพี่เลี้ยงมาเพิ่ม ทั้งสองคนก็ยังหลุดลอดสายตาออกไปซนที่อื่นได้ “จางหมิ่น เจียวจิ้น แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามออกมาเล่นข้างนอกแบบนี้” เมิ่งหลันที่ออกมาเจอลูกๆของเธออยู่ที่ด้านนอกพอดี จึงอดที่จะดุไม่ได้“แม่ครับ พวกเราไม่อยากอยู่ในบ้าน” เ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ออกมาแล้ว…

    ออกมาแล้ว…“หลันหลัน คุณไม่ต้องกลัวนะครับ” เหอตี้ผู้เป็นสามีปลอบใจภรรยาอยู่ที่ข้างเตียง วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนั้นนัดผ่าคลอดให้กับเมิ่งหลัน เพราะว่าเธอนั้นมีความเสี่ยงจึงต้องใช้วิธีการผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ“เหอตี้คะ ฉันกลัวจังเลยค่ะ” เธอบอกสามีออกไป นี่คือการคลอดครั้งแรกของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเมิ่งหลันคนก่อนจะเคยคลอดลูกแต่มันก็ไม่ใช่เธออยู่ดี“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะครับ หมอที่นี่เก่งอยู่แล้ว คุณนอนพักก่อนดีกว่า” เมื่อเหอตี้เห็นว่าภรรยานั้นมีความเครียดจึงอยากให้เธอได้พักผ่อน“แล้วสองแฝดอยู่ที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันถามหาลูกทั้งสองคน เพราะเธอมารอคลอดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย“อยู่กับน้าอี้ฝานครับ สองแฝดไม่มีงอแงเลย พูดจารู้เรื่องมาก แค่บอกว่าแม่กำลังจะมาคลอดน้องพวกเขาก็เข้าใจ” เหอตี้เมื่อเช้านี้ได้กลับไปที่บ้านและพูดเรื่องนี้ให้สองแฝดฟัง ซึ่งทั้งสองก็เข้าใจ และบอกว่าจะรอแม่และน้องอยู่ที่บ้าน“คุณจะรอฉันที่ด้านนอกใช่หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามสามีเมื่อมองเวลาแล้วไกล้ที่จะเข้าห้องคลอดเต็มที“ผมจะรอคุณอยู่ข้างนอกห้องคลอดแน่นอน ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณออกมา คุ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน

    งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน…วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันนั้นต้องมาตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สอง และการตรวจก็เป็นไปด้วยดี การเติบโตของทารกในครรภ์นั้นดีมากทีเดียวและอีกเรื่องที่ทำให้หลิวเมิ่งหลันและหวังเหอตี้ ต้องตกตะลึงกันอีกครั้ง นั่นก็คือในท้องของเมิ่งหลันนั้นมีลูกน้อยถึงสองคน นั่นก็หมายความว่าในตอนนี้เมิ่งหลันนั้นกำลังท้องลูกแฝดอีกครั้งนั่นเองแต่การแพทย์ในยุคสมัยนี้ก็ไม่สามารถตรวจได้ว่าเจ้าก้อนแป้งที่กำลังนอนอยู่ในท้องของเมิ่งหลันนั้นเป็นเพศไหน จะเป็นชายชาย หญิงหญิง หรือหญิงชาย ก็ไม่อาจรู้ได้ ถึงแม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะแข็งแรงดี แต่เมิ่งหลันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอกลัวการคลอดลูก เธอกลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย เหอตี้ที่รับรู้ได้ถึงความกังวลก็ได้แต่ปลอบใจภรรยา ไม่ว่าอย่างไรเขาจะหาหมอที่มีฝีมือที่สุดมาทำคลอดให้ภรรยาให้ได้“เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ” เหอตี้เอ่ยขึ้นเมื่อพากันออกมาจากในโรงพยาบาลหลังจากที่ตรวจการตั้งครรภ์เสร็จแล้ว“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็เดาไม่ถูก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปที่ไหนแบบจริงจังสักที เพราะเธอทุ่มเทเวลาใ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คู่มือการเลี้ยงลูก

    คู่มือการเลี้ยงลูก…หลังจากที่ทุกคนรู้ข่าวเรื่องการท้องของเมิ่งหลันก็ยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่หวัง แม่เหอที่รู้ข่าวก็ไปสรรหาของบำรุงต่างๆมาให้เมิ่งหลันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโสมหรือรังนกก็ตาม“ฉันต้องขอบคุณคุณแม่มากเลยนะคะสำหรับของบำรุงพวกนี้” เมิ่งหลันบอกแม่สามี ถึงแม้เธอจะรู้ว่าของพวกนี้ดีมีสรรพคุณมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกินมันได้ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่แม่เหอก็ฝากให้เหอตี้เอามาให้เธอทาน พอเธอทานเข้าไปถึงกับอาเจียนไม่ยอมหยุด “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ เธอต้องกินมันให้หมดนะ หลานของฉันจะได้ออกมาแข็งแรง” แม่เหอบอกด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เจ้าใหญ่ จะแต่งงานเมื่อไหร่ดีล่ะ เหอตี้มีลูกแซงหน้าไปแล้วนะ” แม่เหอเอ่ยถามลูกชายคนโต ที่ตอนนี้สานสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้อย่างราบรื่น“แล้วคุณแม่ว่ายังไงล่ะครับ พร้อมที่จะไปสู่ขอสะใภ้ใหญ่ได้หรือยัง” เหอซานหันมาถามแม่ของตนบ้างแม่เหอที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที นี่เจ้าใหญ่ของเธอกำลังบอกให้ไปขอภรรยาให้เขาใช่หรือไม่“นี่ลูกพูดจริงใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับพ่อจะได้ไปพูดเรื่องนี้กับบ้านกงแต่เช้าเลย” “555” เหอซานอดที่จะยิ้มขำแม่ของตนไม่ได้ คงอยากได้สะใภ้มากเลยถ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   สองแฝดจะมีน้อง

    สองแฝดจะมีน้อง…“ท้อง???”“คุณหมอช่วยพูดอีกครั้งได้หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันที่ต้องการได้ยินอีกครั้ง ว่าอาการที่เธอเป็นนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม“คนไข้ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรนะครับ อาการที่เป็นอยู่ เป็นอาการของคนท้องเท่านั้นครับ” หมอเองได้ตรวจซ้ำถึงสองรอบจากการจับชีพจร ซึ่งผลที่ออกมาก็เหมือนกันทั้งสองครั้งและเขาเองก็มั่นใจเป็นอย่างมากเมิ่งหลันคิดว่ากลับบ้านไปเธออาจจะเรียกเอาชุดทดสอบการตั้งครรค์ออกมาตวจอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจหมอในยุคนี้หรอกนะ แค่เธออยากมีโมเม้นท์ขึ้นสองขีดแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง“แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันท้องกี่เดือนแล้วหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็แอบงงเหมือนกัน ทั้งที่เธอเองก็กินยาคุม แล้วลูกของเธอนั้นทะลุยาคุมออกมาได้ยังไงกัน หรือยาที่เธอกินจะหมดอายุนะ แต่ก็ไม่น่าใช่“ประมาณ เดือนกว่าได้แล้วครับ ช่วงนี้คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ ของหนักก็ห้ามยกเพราะมันจะเสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนในเรื่องของอาหารก็ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และก็อย่าลืมดื่มนมด้วยนะครับ อ้อ…และอีกอย่างเรื่องบนเตียงช่วงนี้ก็ให้งดไปก่อนนะครับจนกว่าจะมีอ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เมิ่งหลันป่วย???

    เมิ่งหลันป่วย???วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ที่เมิ่งหลันและคนงานช่วยกันบรรจุของเพื่อทำถุงยังชีพ และทุกวันก็จะทำได้ประมาณหนึ่งพันชุดทุกวัน“คุณเมิ่งหลันคะ วันนี้มีคนมาโวยวายที่หน้าร้านอีกแล้วค่ะ” ซูเหวินเข้ามารายงานเมิ่งหลัน เพราะหลายวันมานี้มีคนต้องการมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ทางร้านไม่สามารถเปิดขายให้ได้ เพราะต้องนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน นั้นจึงสร้างความไม่พอใจกับลูกค้าบางคน“แล้วได้บอกเหมือนที่ฉันสั่งไว้หรือเปล่าจ๊ะ” เมิ่งหลันเองให้ลูกจ้างทุกคนนั้นบอกลูกค้าไปตามความจริง ว่าทางร้านไมาสามารถขายสินค้าให้ได้ ให้ไปหาซื้อที่อื่นก่อน “บอกแล้วค่ะ….” ทั้งสองพูดกันไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังโวยวายกันอยู่ที่ด้านนอก“เฮอะ ที่ไม่ยอมขายข้าวให้พวกฉัน เป็นเพราะว่าจะเอาไปขายให้กับทางการใช่หรือเปล่าล่ะ” เสียงลูกค้าที่เป็นสตรีเอ่ยขึ้น“ไม่อยากขายให้พวกเราก็พูดมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องอ้างทางการหรอก มันน่าอาย” เธอยังพูดไม่หยุด“ทำมาเป็นบอกว่าเอาไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ฉันเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ของพวกนี้กับฉันด้วย” ผู้หญิงทืี่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    ช่วยเหลือผู้ประสบภัย…….“ทำไมคุณถึงได้ทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ” เมิ่งหลันถามเหอตี้ที่พึ่งจะกลับมาจากที่ทำงาน ก็เห็นว่าสีหน้าของสามีนั้นไม่ค่อยจะดีนัก ทั้งที่ปกติแล้วเวลาที่เขากลับมาบ้านนั้นมักจะส่งยิ้มมาให้ก่อนเสมอเหอตี้ที่ได้ยินเมิ่งหลันถามก็ถอนหายใจ “วันนี้พี่ใหญ่มาหาผมที่ทำงานครับ” เขาเว้นหายใจไปช่วงหนึ่ง จึงทำให้เมิ่งหลันสงสัยเข้าไปอีก“พี่ใหญ่มาขอความช่วยเหลือน่ะครับ ตอนนี้ทางตอนเหนือเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง ฝนตกหนักมาหลายวัน จนตอนนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางพื้นที่ก็มีน้ำป่าลงมาจากเขาทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นอย่างมาก” เหอตี้พูดพร้อมกับจ้องหน้าของภรรยา “แล้วยังไงต่อคะ” เมิ่งหลันอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ที่เหอตี้ไม่ยอมพูดให้เสร็จเสียที“ตอนนี้ประชาชนในแถบนั้นหลายพันคนกำลังเดือดร้อนเรื่องอาหาร และที่อยู่อาศัย พี่ใหญ่เลยอยากจะขอให้คุณช่วยเรื่องอาหารครับ” เหอตี้พูดออกมาได้ในที่สุด ที่เขาไม่กล้าพูดออกมาในทีแรกเพราะกลัวว่าภรรยาจะไม่ยอมช่วยเหลือในเรื่องนี้ ทั้งๆที่เขาก็รู้แหละว่าเมิ่งหลันนั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ในเรื่องนี้ที่ต้องช่วยคนจำนวนมากเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“แค่นี้หรือคะ??” เม

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ธุรกิจขายเหล้า

    หลักจากวันที่ช่วยจางเย่วในวันนั้นก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว จางเย่วเองก็ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านเดิม แต่มาเช่าบ้านเพื่อเปิดร้านค้าตามคำแนะนำของเมิ่งหลันแทนจางเย่วนั้นเปิดร้านขายของชำ ไม่ได้ขายครบทุกอย่างเหมือนร้านของเมิ่งหลัน เพราะเธอนั้นอยู่ตัวคนเดียว เธอจึงเลือกขายของจำพวก ข้าวสาร แป้ง น้ำตาล อาหารแห้ง“คุณจางคะ ของชุดนี้ฉันเตรียมให้แล้วนะคะ ส่วนครั้งหน้าคุณโทรมาบอกที่ร้านก็ได้ค่ะ ฉันจะให้เด็กไปเอาใบรายการที่ร้านให้เอง คุณจางจะได้ไม่ต้องลำบากมาเอง ไหนจะต้องดูแลร้านอีก” เมิ่งหลันที่ให้ความช่วยเหลือก็พร้อมที่จะช่วยแบบเต็มที่ อะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยทันทีถ้าไม่เดือดร้อนตัวเธอ“จะดีหรือคะ มันจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่า ทีี่พวกคุณช่วยฉันเอาไว้ ฉันเองก็ตอบแทนไม่ไหวแล้วค่ะ” จางเย่วนั้นเกรงใจจริงๆ คนที่นี่ช่วยเธอเอาไว้ตั้งมากมาย ชดใช้ด้วยชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้หมดหรือเปล่าและการที่เธอนั้นมีความกล้าเรื่องค้าขายก็เพราะผู้หญิงตรงหน้านี้ จางเย่วชื่นชมเมิ่งหลันเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการค้า การปกครองคน การดูแลครอบครัว ผู้หญิงคนนี้เก่งมากจริงๆ และเธอเองก็หวังที่จะเป

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ทวงสินเดิม

    “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ในเมื่อเธอขอกลับบ้านเดิมไปตั้งหลายวันแล้วก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าหนีไปกับชู้แล้วหรือเปล่า แล้วใครบอกให้พวกคุณมาที่นี่กัน แล้ว….” นายหนิวหันไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจางเย่วก็เอ่ยขึ้นทันที“ฉันเอง…” จางเย่วอดทนไม่ไหวต่อคำพูดของคนเป็นสามีจึงได้แสดงตัวออกมานายหนิวที่ได้ยินเสียงก็หันไปดู ก็เจอเข้ากับภรรยาของตนที่เข้าใจว่าตายไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน เขาเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก ตาของเขาปูดโปนจนแทบจะถลำออกมา“นี่..นี่ เธอยังไม่ตะ..เธอกลับมาแล้วหรือ” ก่อนที่นายหนิวจะเผลอพูดอะไรออกไป เขาเองก็ดึงสติของตัวเองกลับมาเสียก่อน ในเมื่อเรื่องนี้ไม่มีคนรู้เห็นยังไงก็ไม่มีคนเอาผิดเขาได้“ใช่ฉันกลับมาแล้ว ว่าแต่คุณเถอะไปที่ไหนมาหรือคะ อย่าบอกนะว่าออกไปตามหาฉัน” จางเย่วถามขึ้น ทั้งที่รู้ว่าเขาคงออกไปตามสืบเรื่องของตน เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีใครหรือเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเจอศพของเธอ“เธอหายไปไหนมาหลายวันล่ะ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมาก” นายหนิวหยิบยกคนอื่นมาอ้าง ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามเจ้าหน้าที่มาทำเรื่องหย่าและทวงสินเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status