คอเสื้อของเจเนวีถูกรั้งเอาไว้ซึ่งนั่นมันคือการกระทำที่ไม่เป็นสุภาพบบุรุษเท่าไหร่นัก แกรนด์ดยุคโรแลนด์ ไอแซ็ค ระดับความยาก 7 ดาว ฉันไม่รู้ว่าทำไมในหน้าแนะนำตัวชายผู้นี้ถึงได้มีระดับความยากที่มันมากมายกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขา แต่ดูเหมือนชายผู้นี้จะไม่ได้สนใจใบหน้านี้ของเธอเท่าไหร่นัก เรื่องการตกหลุมรักที่ความงดงามนั้นตัดออกไปได้เลย เขาไม่มีทางตกหลุมรักเธอแบบในนิยายหรือว่าเกมจีบหนุ่มที่สุดแสนจะโรแมนติกอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะงั้นตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือการหนีก่อน..น่าจะดีกว่า แต่ฉันจะหนียังไงในเมื่อเขาจับคอเสื้อของฉันเอาไว้ “ทะ..ท่านแกรนด์ดยุคคะ ปะ..ปล่อยคอเสื้อของฉันก่อนดีไหมคะ” เปลวไฟแห่งโทสะกำลังแผดเผาในใจของไอแซ็ค เขาคิดว่าสตรีที่แสนงดงามและโง่งมอย่างเจเนวี นางจะเป็นเพียงกระต่ายตัวน้อยที่ไร้พิษสงแต่ทว่านางกลับเอายาแปลกๆ ให้เขาดื่ม หลังจากนั้นเขาก็จัดการความรู้สึกเร่าร้อนที่กำลังแผดเผาในใจไม่ได้เลย เธอจงใจวางยาเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะมีสภาพน่าอายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน “เจเนวี เจ้ากล้าคิดวางยาข้าอย่างนั้นหรือ” ครางนี้เขาไม่ได้เอามือดึงคอเสื้อของฉันอีกแล้วแต่เขากำลังยกดาบขึ้นมาจ่อคอของฉันแทน.. สาบานได้เลยว่าฉันไม่เคยถูกมองด้วยสายตาที่จะฆ่าแกงกันแบบนั้นมาก่อน เมื่อฉันค่อยๆ หันหน้าไปสบตาเขาก็พบว่าแกรนด์ดยุคไม่ได้มีแววตาที่เต็มไปด้วยความพิศวาสอะไรกับเจเนวีเลย เขามองฉันด้วยแววตาโกรธแค้นราวกับฉันไปทำร้ายเขาตั้งแต่ชาติปางก่อน “ว่าไง มีอะไรจะแก้ตัวรึเปล่าเจเนวี เจ้ามันเป็นสตรีที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องอย่างว่าจนคิดว่าข้าจะยอมเจ้าง่ายๆ เหมือนกับบุรุษที่ผ่านมาแบบนั้นสินะ” เจเนวีก้มลงเพื่อมองมือตัวเอง ที่ขวดเขียนเอาไว้ว่ายาบำรุงกำลังจริงๆ นี่หว่า แล้วทำไมเขากำลังแล้วถึงได้ปึ๋งปั๋งแบบนั้นกันล่ะโว้ย!! ไม่ได้นะ ฉันมามาตายง่ายๆ ที่นี่ไม่ได้ ยังไม่ได้ทำภารกิจให้สำเร็จอีกทั้งฉันอยากจะกลับไปปรับความเข้าใจกับเบรเดนก่อน ทว่าในยามนี้ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขาเพื่ออธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ ฉันจึงก้มหน้าลงแต่ในช่วงเวลาที่ก้มหน้าลง สายตาของตัวเองก็ละออกไปจาก..ส่วนนั้นของเขาไม่ได้เลย..ให้ตายสิ ขนาดนั้นของมันน่าจะเท่ากับแขนของเธอเลยไม่ใช่เรอะ เขากล่าวว่าให้เธอรับผิดชอบ เธอก็นึกว่าจะให้รับผิดชอบโดยการทำให้มันสงบลงเหมือนกับเกมหรือว่านิยายเรื่องอื่นๆ สิ แต่นี่เขาจะมาให้เธอรับผิดชอบที่ทำให้จูดี้ของเขาแข็งด้วยชีวิตเลยงั้นเรอะ..เสียดายหน้าหล่อๆ นั่นชะมัด หากจะนิสัยแย่แบบนี้ก็ไม่ควรจะเกิดมาหล่อให้คนเป็นเมียไม่ได้มันทรมาน.. เส้นเลือดที่ขมับของไอแซ็คปูดโปนขึ้นมาด้วยความโกรธเมื่อเห็นเจเนวีเงียบลงและกำลังมองส่วนนั้นของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจและเปิดเผย เธอกำลังทำให้เขาโกรธจนสติแตกอย่างนั้นสินะ เขาขึงตาใส่อย่างขุ่นเคือง “เจ้านี่มันต่ำช้ามากจริงๆ เจ้าไม่ควรเกิดมาเป็นสายเลือดของราชวงศ์เซอร์เรียลอิล..” “...” เจเนวีไม่ได้สนใจที่เขาด่าเธอแบบนั้นหรอก เธอยกมือขั้นมาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนแผลที่ถูกแทงของท่านแกรนด์ดยุค “การที่ท่านยืนได้พร้อมกับเปล่งเสียงด่าข้าแบบเสียงดังฟังชัดเช่นนี้..ท่านไม่เจ็บแล้วอย่างนั้นหรือคะ แผลพวกนี้สมานกันแล้วเห็นไหม เลือดไม่ออกแล้วด้วย” ไอแซ็คก้มหน้าลงเพื่อมองไปยังปลายนิ้วของเจเนวีทีกำลังจิ้มอยู่บนหน้าอกของเขาอยู่ เธอยกยิ้ม..เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและละมุนละไมราวกับว่าดาบที่กำลังจ่อที่คอของเธอมันเป็นเพียงกิ่งไม้แห้งเท่านั้น เขาก้มมองดูแผลที่ถูกแทงของตัวเองก็พบว่ามันสมานเข้าหากันราวกับว่ามีนักเวทที่สุดแสนจะเก่งกาจมารักษาให้เขา “บอกแล้วไงคะว่าฉันให้ท่านดื่มยาเข้าไปจริงๆ มันเป็นยาที่ช่วยบำรุงกำลังไม่ใช่ยาแปลกๆ สักหน่อย” เอาล่ะแกรนด์ดยุค ตอนนี้ได้เวลาเอาคืนเรื่องที่ท่านด่าฉันเอาไว้ก่อนหน้าแล้วนะ เขาลดดาบลงแต่ยังคงมองหน้าเธอด้วยแววตาที่ไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก “ข้าไม่อาจทำใจให้เชื่อเจ้าได้ในทันที” “โอ้ท่านดยุค ฉันไม่ได้ร้องขอให้ท่านมาเชื่อฉันสักหน่อย” ฉันลากไล้เรียวนิ้วลงมาที่ด้านลงตรงจุดที่ต่ำมากกว่ากระดุมกางเกงของเขาเล็กน้อย “แต่บางทีที่ส่วนนั้นของท่านมีสภาพเช่นนี้มันอาจจะมาจากความต้องการของท่านที่มีต่อฉันก็ได้นะคะ ฉันไม่อาจทราบได้ว่าคำว่ารับผิดชอบที่ท่านบอกนั้นหมายถึงให้ฉันรับผิดชอบถึงการทำให้มันสงบลงอะไรแบบนั้นด้วยรึเปล่า” เขาปัดมือของเจเนวีออกในทันที ก่อนจะเดินกระแทกเท้าจากไปอย่างขุ่นเคือง “ชิ! ขอบคุณสักคำก็ไม่มี น่าจะปล่อยให้เลือดออกตายไปเลย” ไอแซ็คหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดิน “ข้าได้ยินนะ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเจ้าไมได้เอายาแปลกๆ ให้ข้ากิน ข้ายังไม่สามารถไว้ใจเข้าได้หรอกนะ” เธอกอดอกมองหน้าเขาพร้อมกับถอนหายใจ ให้ตายสิหมอนี่สมกับเป็นระดับความยากเจ็ดดาวจริงๆ ไอแซ็ครีบเดินเข้ามาในตึกหลักซึ่งเป็นห้องพักของเขา เขาบอกกล่าวกับข้ารับใช้ว่าต้องการให้เรียกหมอมาโดยด่วนที่สุด การระงับความต้องการที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมอีกฝ่ายยังเป็นเจเนวีที่แสนงดงามผู้นั้นอีกด้วย “เป็นสมุนไพรที่หาได้ยากมาเลยครับท่านแกรนด์ดยุค มีชื่อว่าหญ้ากาเรรานี มีสรรพคุณในการสมานแผลหรือชาวบ้านบางคนเรียกมันว่าเป็นยาชุบชีวิต แต่ทว่าหญ้านี่มีผลข้างเคียงที่เหล่าชนชั้นสูงหาซื้อกันอย่างลับๆ นั่นก็คือการทำให้ความเป็นชาย..อะ..เอ่อ” ไอแซ็คยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ “มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แล้วมีอะไรที่สามารถทำให้มันสงบลงได้บ้าง” อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าสิ่งที่สตรีผู้นั้นให้เขากินเข้าไปมันคือยาช่วยชีวิตจริงๆ แต่ผลข้างเคียงของหญ้าบ้าบอนั่นทำให้เขานึกอยากจะฆ่าเจเนวีซะให้รู้แล้วรู้รอดไป “ประมาณ..หนึ่งเดือนครับ จะเป็นเช่นนี้รางหนึ่งเดือนและไม่มีสมุนไพรอันใดที่จะรักษาอาการของท่านแกรนด์ดยุคได้นอกจากวิธีทางธรรมชาติ..” วิธีธรรมชาติ? อย่าบอกนะว่าเขาจะต้อง.. “ท่านหมอแน่ใจแล้วใช่ไหมครับว่าไม่มีหนทางรักษามันจริงๆ” นี่คือหมอหลวงที่เก่งที่สุดในจักรวรรดิ หากชายชราผู้นี้ไร้หนทาง ก็ดูเหมือนไม่มีวิธีจะรักษาจริงๆ “ครับท่านแกรนด์ดยุค เพราะไม่มีวิธีใดจะทำให้กลับไปเป็นสภาพปกติ ชนชั้นสูงที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงหาซื้อกันอย่างลับๆ ทำให้ราคาของหญ้าชนิดนี้มีราคาสูงมากพอสมควร..” เจเนวีนะเจเนวี หากเป็นแผลเขารักษาเต็มที่สามวันก็หายเป็นปกติแล้ว แต่นี่นางทำให้เขาต้องมามีสภาพน่าอดสูเช่นนี้..เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ แค้น!! เขาแค้นมากเหลือเกิน!!
เจเนวีพาตัวเองกลับมายังที่พัก แน่นอนที่ด้านหน้าประตูทางเข้าเรือนรับรองของเธอ ผู้ที่ยืนอยู่ยังคงเป็นเบรเดนที่มีสีหน้าเย็นชาประดุจเจ้าชายน้ำแข็งแน่นอนว่าเมื่อเขาเห็นเธอที่กำลังเดินเข้ามายังเรือนรับรอง สิ่งที่เบรเดนทำคือการก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพตามปกติ หลังจากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดแยแสเธอเลยเจเนวีได้แต่มองหน้าของเบรเดนนิ่งๆ นั่นสินะ..เธอควรจะให้เวลาเขาหน่อย ให้เวลาเขาได้จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ส่วนเธอเองก็ควรจะให้เวลาตัวเองได้คิดจัดการหาข้ออ้างในการพบเจอเขาอีกหน่อยหรือว่าจะช่างแม่งภารกิจแล้วใช้ชีวิตสวยๆ รวยๆ ที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปฉันล้มตัวนอนลงบนเตียง ชีวิตของฉันมันไม่เคยได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือว่ามีความรักที่แสนดีอะไรแบบนั้นอยู่ ฉันมีชีวิตที่ต้องทำงานหนักและต้องดิ้นรนทำงานเพื่อให้มีเงินใช้จ่าย พอช่วงเย็นหลังจากกลับมาจากที่ทำงาน ฉันก็มักจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าอยู่เสมอๆ มันเป็นการทำงานอย่างหนักที่ได้พักสัปดาห์ละหนึ่งวันการอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนี่ ฉันในตอนนี้คือเจ้าหญิงเจเนวี แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย ฉันมีเงินที่ใช้จ่ายสบายๆ ไปท
ความกระอักกระอ่วนใจมันเริ่มต้นขึ้นมาจากตรงนี้แหละ ตรงที่ท่านป้าสั่งให้ท่านคาดินันอีริคที่ไม่ชอบขี้หน้าของฉันอยู่แล้วมาอยู่ดูแลฉันป้าคะ..คือว่าหนูอาจจะไม่ได้เหงามากขนาดนั้นในตอนที่อยู่คนเดียวก็ได้ ท่านป้าอย่างพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรแบบนั้นสิคะ..“ที่นี่คือห้องรับรองพ่ะย่ะค่ะ และที่ด้านในมีหนังสือมากมายที่อาจจะทำให้องค์หญิงทรงเพลิดเพลินไปกับมัน วางเรียงรายเอาไว้ แต่..กระหม่อมคงลืมไปว่าไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พระองค์ทรงเพลิดเพลินได้เท่ากับร่างกายบุรุษ..ขออภัยอย่างสุดซึ้งที่วิหารไม่มีผู้ใดอาจหาญทำเรื่องเช่นนั้นกับองค์หญิงหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ”อีริคกล่าวออกมาโดยไม่ขยับฝ่ามือหรือว่าเปลี่ยนสีหน้า เขาตรึงสายตาที่เย็นชาเอาไว้ที่เธอและนัยน์ตานั้นไม่สั่นคลอนแม้แต่นิดเดียวถึงแม้ว่าเจเนวีจะพยายามส่งยิ้มแสนงดงามให้เขาก็ตามทีคาดินันอีริคเองก็ค่อนแคะกันไม่เลิกเลยแฮะ ฉันไม่ค่อยแน่ใจเรื่องที่ทำให้เขาเกลียดฉัน ว่าเรื่องนั้นมันคือเรื่องอะไรกันแน่ เพราะในช่วงเวลาที่ NPCยังคงทำงาน ฉันไม่สามารถผ่านด่านของเขาได้เลยสักครั้งเดียว เพราะตัวละครอีริคนั้นมีอารมณ์ที่ซับซ้อนยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจ แต่สิ่งที่เย้ายวนใจคือในห
ชีวิตแสนสุขของเจเนวี- รวย- พ่อแม่รัก- พี่ชายทะนุถนอม- หน้าตาดี- มีบุรุษมาให้กินไม่ขาดนิ้วของฉันมันยังไม่พอที่จะนับข้อดีของการเป็นเจเนวีเลยนะ แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกถึงลางบอกเหตุแปลกๆ ที่มันไม่สู้ดีเอาซะเลยฉันนั่งเท้าคางมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างในห้องนอน มีนากำลังปูเตียงพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี“..มีนา ข้าเป็นยังไงบ้าง”เจเนวีลุกขึ้นพร้อมกับกางแขนออกเพื่อถามมีนาสาวใช้คนสนิท“? ..”บนใบหน้าของสาวใช้นั้นมีแต่คำถามมากมายเต็มไปหมด ถึงอย่างนั้นมีนาก็ยินยอมว่างผ้าปูเตียงแล้วเดินเข้าไปหาองค์หญิง“พระองค์ยังทรงงดงามเช่นเดิม เหมือนกับทุกวันเพคะ..วันนี้งดงามมากกว่าเมื่อวานนิดหน่อย”นั่นมันใช่คำตอบที่เธออยากได้ยินที่ไหนกันล่ะ“มีนา..ข้าหมายถึงที่ผ่านมานั่นข้าเป็นอย่างไรบ้าง แบบ..ข้าเป็นคนไม่ดีอะไรแบบนั้นใช่ไหม แล้ว..เสด็จพ่อและเสด็จแม่ไม่ด่าข้าเลยงั้นเหรอ”มีนาขมวดคิ้ว“วันนี้ที่วิหารเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับพระองค์รึเปล่าเพคะ หรือว่าอยากให้หม่อมฉันเรียกหมอหลวงมาตรวจดูอาการสักหน่อย”ฉันถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าแต่ถึงอย่างนั้นในใจก็ยังคงคาดหวัง“ที่จริงแล้ว วันนี้ข้าไปพบคาดินันมาน่ะ และท่าน
ไอแซ็คมั่นใจมากว่าเขาไม่ใช่บุรุษที่มีความอดทนมากมายอะไรนัก เขาน่ะ..ไม่เคยจินตนาการถึงเรื่องสตรีและตัวเขาเองเลยสักครั้งเดียว ราวกับว่าเขาคิดภาพในอนาคตระหว่างเขาและการจัดงานแต่งงานหรือว่าการนอนร่วมเตียงกับสตรีไม่ออกเลย ในชีวิตของไอแซ็คนั้นเขามีเรื่องมากมายที่มันมีค่ามากกว่าการเอาเวลาที่แสนมีค่าของตัวเองไปทิ้งเอาไว้ที่สตรีผู้เดียวมันไร้ค่าและเสียเวลาเป็นอย่างมาก..เขากดปลายนิ้วลงไปบนเนินอกคู่งาม มันนุ่มฟูราวกับฟองครีมที่เขาเคยเล่นตอนอาบน้ำในยามที่เขาเป็นเด็ก อีกทั้งน่าแปลกที่แค่ได้สัมผัสลงไปบนนั้น เขาก็รู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาไม่ร้อนรนกระวนกระวายเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว บอกตามตรงว่าวิธีทางธรรมชาติที่หมอบอกเขานั้น มันไม่ได้ช่วยให้อาการกระหายอยากเหล่านั้นทุเลาลงเลยแม้แต่นิดเดียว การใช้มือของตัวเองเพื่อทำให้มันจบๆ ไปไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ตรงกันข้ามมันกำลังทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปหมดเมื่อการสัมผัสตัวเองไม่สามารถนำพาให้ถึงฝั่งฝันได้อีกต่อไปเขาอยากได้มากกว่านั้น สตรีสักคนที่นอนราบเรียบอยู่บนเตียง กางขาของนางออกให้กว้างและรับเขาเข้าไปด้วยความเต็มใจ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เรื่องมากจนถึงขั้นอยากได้
คิ้วของเธอขมวดมุ่น ดวงตาทั้งสองข้างหลับพริ้ม ริมฝีปากเผยอออกน้อยๆ ใบหน้านั้นดูเย้ายวนมากยากจะบรรยาย แน่นอนว่าไอแซ็คกำลังจดจำภาพแสนหวานและงดงามนั่นเอาไว เขาบอกตามตรงว่าในยามนี้เขาอาจจะแสดงด้านที่ไม่ใช่ตัวเองออกไป เพราะว่าสตรีเบื้องหน้าทำให้สติที่มีอยู่น้อยนิดของเขาจางหายไปเรียบร้อยยิ่งขยับส่วนนั้นของเราก็ยิ่งเสียดสีและชื้นแฉะไปหมด ร่างกายของเขากำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเขาไม่สามารถปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดออกไปได้ การทำเช่นนี้ดีมากกว่าการใช้มือนั่นคือเรื่องจริง ทว่าเขาสามารถรู้สึกลึกซึ้งได้มากกว่านี้อีก แค่เขาฉีกทึ้งกางเกงซับในที่ขวางกั้นเราเอาไว้ออกเสีย เขาอาจจะรู้สึกสุขสมมากกว่านี้ลมหายใจของเจเนวีกระชั้นและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งที่อีกฝ่ายมิได้เคลื่อนไหวรุนแรงอะไรเลย ทุกครั้งที่เขาขยับร่างกายมันเสียดสีและแตะครูดลงไปบนจุดที่ไวต่อสัมผัสของเธอได้อย่างแม่นยำจนเจเนวีหลุดเสียงร้องครางออกมา ใจจริงเธออยากร้องขอให้เขาทำมากกว่านั้น..ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วทำให้ถึงขั้นสุดท้ายไปเลยท่าจะดี แต่ทว่าเพราะชายเบื้องหน้าคือแกรนด์ดยุคโรแลนด์ บุรุษซึ่งเดาความคิดยากเย็นยิ่งนัก หากว่าเธอโลภมากและร้องขอเขามา
“รบกวนท่านออกไปก่อนที่จะมีคนอื่นเข้ามาเถอะค่ะ!”เมื่อคืนนี้มันคืออะไรกัน? ฉันแทบไม่ได้นอนเพราะเขาพยายามมากวนฉันในทุกๆ สิบนาที“แล้วที่ข้าต้องเป็นเช่นนี้เพราะใครกัน คราวหลังไม่ต้องมาหวังดีเพื่อช่วยข้า ข้ามิได้ร้องขอความเมตตาจากเจ้าสักหน่อย”แล้วเธอจะรู้ไหมว่าในยาบำรุงของเกมนี่ มันจะมีส่วนผสมของไอ้หญ้าโด่ไม่รู้ล้มแบบนั้นอยู่น่ะ ไม่งั้นเธอก็ไม่คิดให้เขากินหรอก!!แต่เถียงออกไปแบบนั้นไม่ได้สิ เพราะไม่ว่าจะมองทางไหน คนผิดก็คือเธออยู่ดี..การเถียงออกไปแบบข้างๆ คูๆ มันไม่น่ารักหรอกนะ คนสวยเขาไม่ทำแบบนั้น“ฉันขอโทษค่ะ ในยามนั้นความคิดของฉันก็แค่อยากช่วยเหลือท่านแกรนด์ดยุคจากความตายเท่านั้นเอง ฉันไม่รู้ว่าในยามีส่วนผสมของหญ้าสมุนไพรที่ทำให้ท่านเป็นแบบนี้..”เธอกล่าวพร้อมกับหัวคิ้วที่ลู่ลงเล็กน้อยราวกับว่าเจเนวีกำลังรู้สึกผิดไอแซ็คกระแอมเบาๆ“อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่ไม่รู้จักความผิดของตัวเอง เช่นนั้นก็ดี เตรียมตัวให้ดีเพราะคืนนี้ข้าจะมาใหม่..”ห้ะ! คืนนี้เขาก็จะมาอีกงั้นเรอะ!บอกตามตรงว่ามันดี..สิ่งที่เขาทำนั่นจัดเข้าขั้นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเรื่องบนเตียงเลย แต่ว่ามันเหนื่อยล้ามากเกินไป
มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เบรเดนไม่เข้าใจในตัวเอง ว่าในยามนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ความหลงใหลที่เขามีต่อองค์หญิงเจเนวีนั้นจางหายไปจนหมด หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ความว่างเปล่าและความหวาดระแวงเท่านั้น ทว่าเมื่อพี่มีนาบอกกล่าวกับเขาถึงเรื่องหน้าที่การงานของเขา..มันถูกต้องที่สุดที่ว่าในยามนี้เขากำลังเอาเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวมารวมกัน และมันไม่ถูกต้องเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน พี่มีนาซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของท่านป้าถูกส่งมาที่เมืองหลวง และท่านพี่ทำงานได้ดีจนถูกส่งเข้าไปทำงานในพระราชวัง พี่มีนาทำงานอย่างหนักจนสามารถเข้าไปรับใช้ใกล้ชิดองค์หญิงในที่สุด และนั่นคือจุดเปลี่ยนของครอบครัวเราเลย พี่มีนาส่งเขาเข้าไปเรียนการเป็นอัศวินเพื่อมาเป็นองครักษ์ขององค์หญิง ครอบครัวของเราดีขึ้นตามลำดับเพราะมีเขาและพี่มีนาช่วยกันหาเงินส่งไปให้คนทางบ้านจริงอยู่ที่เขาควรลาออกจากตำแหน่งอัศวินขององค์หญิง หากไม่มีใจที่จะทำงาน แต่ทว่าไม่มีงานไหนที่จะได้เงินดีเท่ากับการ..เป็นอัศวินขององค์หญิงอีกแล้ว เขาลาออกไม่ได้และไม่มีวันทำเช่นนั้น ตัวเลือกเดียวของเขาในยามนี้คือการตั้งใจทำงานให้ดีเบรเดนกำม
“องค์รัชทายาทส่งจดหมายมาครับท่านแกรนด์ดยุค..”ข้ารับใช้ของไอแซ็คนำจดหมายเข้ามาในห้องนอนของเขา“เอาวางไว้บนโต๊ะ..แล้วก็วันนี้เจเนวีทำอะไรบ้าง”เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะตัวเองยังคงนอนอยู่บนเตียงนอน“องค์หญิงเก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนรับรองตลอดช่วงเช้าครับ ส่วนตอนบ่ายทรงออกมาทานอาหารที่สวนกับองครักษ์คนสนิท”คิ้วของไอแซ็คกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเธอมาทานอาหารกับองครักษ์ที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่“สตรีผู้นั้น..โง่งมจริงๆ ด้วยสินะ”ขนาดถูกปฏิเสธเช่นนั้นแล้ว นางยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะเข้าหาองครักษ์ผู้นั้นเลย ช่าง..โง่เขลาเมื่อข้ารับใช้เดินออกไป ไอแซ็คก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดจดหมายของจีซัสออกมาอ่านเนื้อความในจดหมายนั้นมีเพียงแค่สองบรรทัดเท่านั้น"เลื่อนวันสังหารเจเนวีไปก่อน พยายามจับตาดูนางเอาไว้ เสด็จพ่อของข้าต้องการให้เจ้าแต่งงานกับนาง..หากไม่อยากแต่งก็จงรีบเร่งหาสตรีที่เหมาะสมเพื่อหมั้นหมายซะ"เมื่ออ่านจดหมายฉบับนี้จบมันทำให้ไอแซ็คหัวเราะออกมาเสียงดัง เรื่องการแต่งงานเขาไม่เคยคิดอยู่แล้วว่ามันจะมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง มารดาของเขาหนีตามชายชู้ไป ส่วนท่านพ่อก็แต่งงานกับคนในราชว
คืนนี้มันคืออะไรกัน เจเนวีมั่นใจว่าตัวเองเมา..ใช่คราแรกมันเป็นเช่นนั้นและท่านอีริค นั้นแสนอ่อนโยนกับเธอมากเหลือเกินจนเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเมาสุราหรือว่าเมาท่านอีริคกันแน่ทว่าในยามนี้ความอ่อนโยนจางหายไปจนหมดสิ้น บนเตียงนอนไม่เหมือนกับสนามรักอีกแล้วแต่ทว่ามันคือสนามรบ จอมปีศาจที่อยู่ในตัวของท่านอีริคกำลังโอ้อวดความสามารถของเขาผ่านทางท่าท่างมากมายที่สรรหาทำ..เขาจับเธอนอนคว่ำก่อนจะใช้หมอนรองเพื่อยกให้ตัวโก่ง แล้วใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอดิ้นหนี“ข้าแค่คาดหวังว่าท่านจะยินยอมให้ข้าได้พัก..อื้อ!! พักหายใจ..อ๊ะ!”เขาจับเข้าที่แก่นกายก่อนจะเคาะรอบรอยแยก แล้วสอดทแยงเข้าไปในครั้งเดียวจนสุดลำแท่ง เธอหลับตาลงพร้อมกับหยาดน้ำตาแวววาวที่กำลังไหลเอ่อ ตอนนี้เจเนวีมั่นใจว่าตนเองไม่ได้เมาแล้ว เธอสร่างเมาตั้งแต่ที่เขาพาเธอเดินรอบห้องไปเมื่อครู่แล้ว เราเสร็จสมนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าเขากลับไม่ยินยอมที่จะรู้จักคำว่าพอ เธอเองก็ไม่ร้องห้าม..เอาสิ! หากมันจะขาดใจตายก็ให้ตายลงไปด้วยความสุขสมที่เขากำลังจะมอบให้เธอซะเถิด..อย่างน้อยที่สุดการเสียชีวิตไปแบบนั้นอาจจะดีก็ได้เพราะเธอได้ขึ้นสวรรค์ตั้
คราแรกอีริคนั้นไม่มีความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น ว่าเหตุใดทางวิหารเน้นย้ำถึงข้อห้ามเรื่องความผิดบาปเรื่องตัณหาและราคะ ท่านคาดินันลำดับที่หนึ่งที่พาเขาเข้าสู่หนทางที่แสนบริสุทธิ์นั้นได้กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่า หนทางที่จะนำไปสู่ความสุขที่แท้จริงจะต้องปราศจากเรื่องพวกนั้น จะต้องไม่มีตัณหาและความลุ่มหลงมาครอบงำจิตใจ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถเดินทางเข้าสู้หนทางอันเต็มไปด้วยแสงสว่างพวกนั้นได้..เขาพึ่งเข้าใจในยามนี้เองว่าเหตุใดเขาจึงถูกสั่งให้ระงับอารมณ์ตัณหาของตัวเอง กดข่มมันเอาไว้ภายใต้จิตใจไม่ให้แสดงออกมาให้ใครหน้าไหนมองเห็น..เขาเข้าใจได้ในทันทีว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงมากแค่ไหนก็ในยามที่เขาได้ยินเสียงครางหวานๆ ของเจเนวี เธอหลุดเสียงครางออกมาทุกครั้งที่หายใจ ใบหน้างามแหงนขึ้นพร้อมกับเรียวนิ้วที่จิกทึ้งลงไปบนแผ่นหลังของเขา เล็บยาวๆ จิกลึกลงไปบนชั้นผิวหนังของเขาเพื่อระบายความรู้สึกรุ่มร้อนที่นางได้รับออกไป แน่นอนว่ามันเจ็บ..ถึงจะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอยู่ดี แต่ในยามนี้เขาไม่คิดจะผลักไสปลายนิ้วนั้นออกไปจากร่างกายเลย หากว่าการจิกทึ้งลงไปบนแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกดีมากยิ่ง
อีริคกำลังเฝ้าภาวนาอย่างสุดหัวใจ ขอให้ทุกการกระทำของเขาไม่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจหรือว่ารู้สึกไม่ชอบใจ ใครๆ ต่างบอกกับเขาอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนที่มักจะทำอะไรๆ ได้ดีตั้งแต่ในครั้งแรก แต่ถึงอย่างนั้นในเรื่องนี้ก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกมั่นใจได้เลยเขายังคงประหม่า..แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความต้องการอัดแน่นในหัวใจเช่นเดียวกันอีริควางมือลงเบาๆ บนทรวงอกอวบอิ่ม สัมผัสที่นุ่มนวลทำให้เจเนวีหายใจไม่ทั่วท้อง นิ้วมือเรียวยาวจิกแน่นลงบนผ้าปูเตียงราวกับต้องการผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดเธอช้อนสายตามองหน้าเขา เมื่อใบหน้าที่หล่อเหลาพลันพรมจูบที่รอบเรียวขาขาวเนียน เขาใช้ปลายลิ้นขบเม้มไล้ขึ้นมาจนถึงโคนขาอ่อนด้านใน จ้องมองร่องรักสีชมพูราวกับผลไม้สุกงอม กลีบเนื้ออ่อนนุ่มเหมือนดอกบัวที่แรกแย้มบานรับแสงแรกของดวงตะวัน เขาหลับตาลงก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหาส่วนนั้นอย่างไม่คิดรั้งรอ..“อะ..อีริค อื้อ!!”ความร้อนและเปียกชื้นกำลังทำให้สะโพกของเธอแอ่นขึ้นมาในทันที ขณะที่เธอแอ่นขั้นกลีบปากของเขาก็ไล่ตามขึ้นมาอย่างไม่ลดละ หยาดน้ำหวานสีใสถูกดูดกลืนจากกลีบปากของเธอด้วยเสียงแห่งความลามก แน่นอนว่ามันน่าอายแต่ทว่าเธอเปียกชื้นตั้งแ
เจเนวีหน้าแดงก่ำ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังเมาเหล้าหรือว่าเมาความหล่อของท่านอีริคกันแน่พระเจ้าช่วย เขาพาเธอมาที่บ้านของเขา..บ้านของเขาที่ไม่ใช่ที่วิหารแต่มันคือบ้านที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร บ้านไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบสุดๆ ที่ด้านหน้าคือน้ำตกที่ได้ยินเสียงน้ำไหลลงมาเอื่อยๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านในก็พบความเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบสุดๆ ..ภาพลักษณ์ของเขาก็ดูไม่เหมือนคนที่จะทำบ้านรกอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว“อะ..เอ่อ ถึงแม้ว่าข้าจะรวบรวมความกล้าเพื่อพูดไปแบบนั้น แต่ว่า..ข้าอยากให้องค์หญิงให้เวลาข้าสักหน่อย”อีริคหน้าแดงก่ำ เขาพึ่งเคยพาสตรีมาที่บ้านของตัวเองครั้งแรกเลย ไม่รู้ว่าองค์หญิงเจเนวีจะคิดว่าที่นี่มันซอมซ่อมากเกินไปรึเปล่า แต่ว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะพาพระองค์ไปที่ไหนที่มันจะเป็นส่วนตัวมากพอ จนเราทั้งคู่สามารถพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาได้“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจดีว่า..ท่านกำลังประหม่า..”ดูแล้วเขาก็ไม่น่าจะเป็นพวกปิดประตูปุ๊บใส่ยับกันเลยอะไรแบบนั้น แต่ว่า..นี่เรายังจะคุยกันอีกงั้นเรอะ ฉันนึกว่าที่เขาพาฉันมาที่นี่เพราะว่าเรามีความต้องการอันแรงกล้าที่จะ..ถาโถมร่างกายใส่กันให้ย่อยยั
“ไอแซ็คลูกรัก..จงจดจำเอาไว้ในใจอยู่เสมอว่าอย่าหลงรักใครอย่างเด็ดขาด..ความรักจะกัดกินหัวใจของลูกให้แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เมื่อหัวใจถูกย่ำยีจนไม่หลงเหลือจิตวิญญาณ เมื่อนั้นชีวิตของลูกก็จะสูญสิ้นตามไป..”เขาเฝ้ามองมารดาที่ร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าอาดูรมาเป็นระยะเวลาเนิ่นนานในช่วงวัยเด็ก ทั้งๆ ที่บิดาของเขาคือผู้กล้าแห่งยุค คือทหารรับจ้างที่สามารถดำรงยศขุนนางได้ด้วยความสามารถของตัวเอง มิใช่จากชาติกำเนิดหรือว่าจากเงินทอง..ชื่อของอีรอน โรแลนด์นั้นเด่นหราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับ ถึงแม้ว่าในยามนั้นเขาจะยังอ่านไม่ออกแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าข้อความบนหนังสือพิมพ์เหล่านั้นมันคือข้อความสรรเสริญอย่างแน่นอน..ไอแซ็คในวัยเด็กเคยรู้สึกโชคดีมากกว่าใครที่วีรบุรุษในสงครามคือท่านพ่อของเขาทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นและสวยงาม เส้นทางการเป็นท่านดยุคของท่านพ่อราวกับโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ..จนถึงงานเลี้ยงต้อนรับท่านดยุคแห่งโรแลนด์ที่ท่านแม่จัดขึ้นมาในคฤหาสน์ที่ได้รับพระราชวังทานจากองค์จักรพรรดิ..ไม่มีชนชั้นสูงผู้ใดเข้าร่วมงานเลยแม้แต่ผู้เดียว..ท่านแม่ที่เฝ้าทุ่มเทจัดงานเลี้ยงยืนมองบรรยากาศที่แสนว่างเปล่าในงานด้วยด
ไอแซ็คอุ้มเจเนวีขึ้นมาจากโต๊ะอาหารเมื่อเธอไม่สามารถนั่งตัวตรงได้อีกแล้ว เขาปรายสายตามองหน้าอีริคเล็กน้อย“อย่าให้ถึงขั้นทำให้องค์หญิงสลบไปอีกนะครับ”เขารู้ดีว่าคำกล่าวเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่ใครจะไปสนใจคำพูดของหมอนี่กันล่ะ“เรื่องของข้า ต่อให้นางสลบไปนางก็สลบในอ้อมแขนของข้าต่างหาก”เมื่อกล่าวจบไอแซ็คก็พาเจเนวีมาที่เรือนหลัก เขาไม่ได้พาเธอกลับไปที่ห้องนอนของเธอแต่เขากำลังพาเจเนวีมาที่ห้องนอนของเขา..“ท่านแกรนด์ดยุคครับ..องค์หญิงจำเป็นจะต้องกลับไปยังเรือนรับรอง..”เบรเดนใช้ตัวเขาขวางทางของไอแซ็คเอาไว้ และนั่นทำให้ไอแซ็ครู้สึกหงุดหงิดมากทีเดียว เขาอยากจะเดินเข้าไปแล้วใช้กำปั้นทุบหน้าของหมอนี่สักหน กล้าดีอย่างไรถึงได้มาขัดขวางเขาน่ะ..“เจนนี่เต็มใจไปกับข้า ไม่เชื่อเจ้าก็ถามนางดูสิ..เจนนี่เจ้ายินดีไปกับข้ารึเปล่า”ดวงตาของเธอฉ่ำวาว เนื้อตัวแดงก่ำด้วยฤทธิ์ของไวน์ที่ดื่มเข้าไป“ค่ะ..ข้ายินดีไปกับท่านไอแซ็คเองค่ะ..แต่ว่า..หากครั้งนี้ท่าน..ทรมานข้าอีก..ละก็ ข้าจะ..ไม่”เขารีบก้มใบหน้าลงไปเพื่อจูบปิดปากของเจเนวีเร็วๆ ให้เธอหยุดยั้งคำกล่าวต่อไป“เห็นไหม..นางเต็มใจไปกับข้า..ส่วนเจ้าน่ะกลับไ
ใบหน้าของหญิงชราฉายแววตื้นตันใจที่ได้พบเจอลูกชายที่ไม่ได้พบเจอหน้ากันมานานแรมปี เซียร่าโผเข้ากอดเอเรนด้วยความรู้สึกคิดถึง“ให้ตายสิเอเรน เราจะได้พบเจอกันปีละหนึ่งครั้งจริงๆ นะหรือลูกรัก”เอเรนมองหน้าท่านแม่ของเขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่าไปหมด เขามีความสุขดีในยามที่อยู่ที่อคาเด็มมี่เพราะแบบนั้นเอเรนจึงคิดว่าเขาจะเรียนไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นเขาจะเป็นนักเดินทางที่สามารถเดินทางไปทุกทีที่เขาต้องการได้ตามใจ..เขาไม่ได้อยากจะเข้าไปอยู่ระหว่างความบาดหมางของท่านแม่และท่านพี่ไอแซ็ค เรื่องการเป็นแกรนด์ดยุคนั้นเขาไม่เคยต้องการมันแม้แต่น้อย..ไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิดเดียว“ท่านแม่ ลูกมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ครับ ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องราวมากมายที่รู้ยังไม่รู้ ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องต่างๆ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้”เซียร่ากุมมือของลูกชายเอาไว้“แล้ว..แม่ล่ะเอเรน ลูกไม่ได้มีความคิดที่อยากจะกลับไปอยู่กับแม่บ้างอย่างนั้นหรือ? ไม่ได้อยากกลับไปทำเพื่อแม่สักครั้งเลยหรือ?”เขาไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบคำถามนั้นออกไปอย่างไรไม่ให้ท่านแม่เสียใจ จะตอบไปตามความจริงหรือว่าจะโกหกเพื่อให้ท่านแม่สบายใจ..“ลูก..อกตัญญูยิ่งนัก”เซ
ได้ทีแล้วใส่ร้ายกันใหญ่เลยนะท่านแกรนด์ดยุค“องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงรู้ดีว่าพลังของกระหม่อมในยามนั้นไม่เสถียร..กระหม่อมมิได้ตั้งใจที่จะปกปิดซ่อนเร้นเรื่องพลังต่อพระองค์เลยนะพ่ะย่ะค่ะ”อีริคกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ“ข้าเชื่อท่านอยู่แล้วค่ะ การที่เรากลับมาที่นี่ได้อย่างปลอดภัย แค่เท่านั้นก็พอแล้ว..ใช่ไหมคะท่านแกรนด์ดยุค"ตอนนี้เธออยากจะเริ่มลงมือทานมื้อเย็นแล้วแยกย้ายกันไปนอน..เรื่องราวมันจะได้จบลงที่ตรงนี้“เจ้าเชื่อเขาง่ายจังเลยนะ ทีกับข้าไม่เห็นเชื่อแบบนี้เลย”เธอเอียงคอเล็กน้อยเพื่อมองหน้าของท่านแกรนด์ดยุค“มีเรื่องไหนบ้างคะที่ฉันไม่เชื่อท่าน..”ไอแซ็คมองสบตากับเจเนวี เมื่อสายตาของเราสอดประสานหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที“ก็อย่างเช่นเรื่องที่ข้าต้องการแต่งงานกับเจ้าอะไรแบบนั้น”เธอยังคงมองหน้าเขาเหมือนเดิมไม่ละสายตาไปไหน“ใครบอกท่านกันคะว่าฉันไม่เชื่อ..ฉันรู้ว่าตำแหน่งแกรนด์ดยุคมีความหมายกับท่านมากแค่ไหน และ..หากท่านแต่งงานกับฉันตำแหน่งของท่านก็จะมั่นคงมากกว่านี้ เพียงแต่ว่า..ฉันยังไม่อยากจะแต่งงานค่ะ ทั้งในตอนนี้และในอนาคต หากว่าฉันจะแต่งงานแน่นอนว่าฉันจ
มีนาใช้เวลาในการแต่งกายองค์หญิงของนางนานมากกว่าทุกวัน นานมากทีเดียวเพราะว่านางอยากจะแต่งกายขององค์หญิงให้พิถีพิถันสักหน่อย..ท่านแกรนด์ดยุคนั้นถึงแม้ว่าท่านจะมีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ทว่าคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงกันได้ ยิ่งบุรุษที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักย่อมต้องมีความอยากจะดูดีในสายตาของสตรีที่รักอยู่เสมอ อีกทั้งคาดินันอีริคเองก็จะสนใจองค์หญิงเช่นกัน แถมท่านคาดินันคือบุรุษที่ท่านหญิงเซียร่าหมายมั่นตั้งใจว่าจะให้ผูกความสัมพันธ์กับองค์หญิงอีกต่างหากไม่ว่าจะมองทางไหนวันนี้องค์หญิงของเธอคือดาวเด่นท่ามกลางบุรุษที่ทั้งหล่อเหลาและดีพร้อมทั้งสองท่าน“จะต้องยิ้มแย้มให้เยอะๆ นะเพคะ แล้วอย่าลืมกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจที่ท่าน แกรนด์ดยุคและท่านคาดินันพาองค์หญิงกลับมาอย่างปลอดภัย”เจเนวีกำลังนั่งมองหน้าตัวเองในกระจก เธอไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนี้เท่าไหร่นัก มัน..แปลกๆ ชอบกล หากเลือกได้เธอก็ไม่ได้อยากจะไปทานมื้อเย็นอะไรนั่นในวันนี้เลย เธออยากวิ่งหนีไปจากที่นี่เพราะมันน่าอายเกินไปแต่ไม่มีใครที่สามารถหลบหนีไปได้ตลอด..ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเธอย่อมต้องออกมาเผชิญหน้ากับทั้งท่านแกรนด์ดยุคไอแซ็คและ