พี่แอลตันทำไมไม่ห้ามน้องเลย สนับสนุนให้น้องเมาปลิ้นแบบนี้มีแผนอะไรใช่ไหม บอกมาซะดี ๆ นะ
หลังจากกิตติยศกลับไปแล้ว แอลตันก็มองดูคนตัวเล็กที่ตอนนี้เธอกำลังนั่งพิงโซฟาอยู่ ดวงตาคู่สวยของเธอหวานเชื่อมมากๆ ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วก้มหน้าลงหวังจะจูบเธอให้หายคิดถึง แต่ฝ่ามือเรียวสวยกลับดันใบหน้าของเขาออกอย่างช้าๆ"พี่แอลจาทำอารายคะ ห้ามทามอารายป่านเลยนะ ตอนนี้เราเป็นแค่รูมเมทกันเฉยๆ น้าาา.." สายป่านอ้อแอ้พูด เสียงยานคาง"เปล่า พี่ไม่ได้จะทำอะไรนะครับ แค่จะดูว่ายัยตัวเล็กของพี่เมาแบบที่พี่ยศบอกหรือเปล่า จะได้เก็บเหล้า" แอลตันทำทีพูดจาขึงขัง แล้วเอื้อมมือจะเก็บเหล้าดองลำไยในโหลนั้น"อื้อๆ..อย่าเพิ่งเก็บ ป่านจากินอีก ยังม่ายเมาสักหน่อย ..""งั้นพี่ให้ดื่มต่ออีกหน่อยก็ได้" แอลตันยิ้มอย่างใจดี"อื๊อ..แฟนป่านน่ารัก ใจดีที่สุดเลย" สายป่านโน้มตัวชายหนุ่มเข้ามากอดแอลตันรินเหล้าดองลำไยเพิ่มให้แฟนสาวและสำหรับตัวเอง เขายอมรับว่ารสชาติของมันช่างหอมหวานจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่แฟนสาวชอบดื่มมันเอามากๆ ดังนั้นแผนการมอมเหล้าเมียเพื่ออัพเกรดสถานะตัวเองจึงทำได้อย่างง่ายดายครึ่งชั่วโมงผ่านไป..."พี่แอลขา ป่านร้อนจังค่ะ"ยัยตัวเล็กของเขาใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงก่ำ เธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออก
"อ๊ะ~อ๊ะ~อ๊าาาา~"เสียงครวญครางด้วยความเสียวกระสัน พร้อมกับเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างแกร่งยืนซ้อนหลังคนตัวเล็ก ในขณะที่เธอใช้ฝ่ามือดันผนังห้องเอาไว้เพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้นของคนตัวโต"อื้มมมม"เสียงทุ้มต่ำของแอลตันร้องครางออกมา เนื่องจากช่องทางรักของคนตัวเล็กที่ตอดรัดความเป็นชายของเขาแน่นๆ จนหวิดจะเสร็จอยู่รอมร่อ"อื๊อ.. พี่แอลขา ไปต่อที่เตียงได้ไหมคะ ป่านยืนไม่ไหวแล้ว ขาสั่นไปหมดเลย"สายป่านออดอ้อนคนรัก ก็จะให้เธอยืนไหวได้อย่างไร เพราะเมื่อคืนเขาจับเธอกินเกือบทั้งคืน พอเสร็จสมก็พากันนอนหลับไปพร้อมกัน พอเขารู้สึกตัวตื่นก็จับเธอกินต่อ วนลูปไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เกือบจะสิบโมงเช้าอยู่แล้วร่างแกร่งอุ้มกระเตงคนตัวเล็กเดินไปที่เตียง แล้ววางเธอลงอย่างนุ่มนวล เขาจับคนตัวเล็กคุกเข่าแล้วหันหลังมาทางเขา แอลตันจับแท่งรักสอดเข้าไปยังร่องสวาทที่ตอนนี้เป็นสีแดงเข้มจากการเสียดสีมาเกือบทั้งคืน ครืดดดด~ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ของสายป่านสั่นอยู่ใกล้ๆ เธอมองไปที่หน้าจอแสดงชื่อของมาลารินทร์เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที ในขณะที่คนตัวโตยังกระแทกแท่งรักเข้าใส่เธออย่างต่อเนื่อง"อ๊ะ..อ๊า
ครืดดด~ครืดดด เสียงสมาร์ทโฟนของสายป่านสั่นระรัว ในขณะที่เธอเพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ คนตัวเล็กงัวเงียลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอปรากฏชื่อของปริณ น้องชายของมาลารินทร์ สายป่านขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่จะรีบรับสายทันที"ว่าไงปริณ""พี่ป่านครับ วันนี้พี่มีธุระที่ไหนหรือเปล่าครับ พอดีผมมีเรื่องจะรบกวนพี่สักหน่อย" ปริณเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสดงความเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด"ไม่มีธุระที่ไหนหรอก มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้เลยจ้ะ" สายป่านตอบกลับเด็กหนุ่มซึ่งเธอเองก็รักเขาเหมือนน้องชายคนหนึ่งเช่นเดียวกัน"พอดีวันนี้หมอนัดตรวจแม่น่ะพี่ แต่รถผมดันมาเกเร สตาร์ทยังงัยก็ไม่ติด จะโทรหาพี่รินทร์ก็เกรงใจเขา ป่านนี้คงวุ่นกับการเตรียมตัวไปเจอพ่อกับแม่ของพี่เซดริกตอนเย็น ผมก็เลยต้องรบกวนพี่ป่าน" ปริณสาธยายยืดยาว"ได้ๆ แหม..เรื่องแค่นี้เองแม่เธอก็เหมือนแม่พี่แหละน่า.. ทำเป็นคนอื่นคนไกลกันไปได้ ว่าแต่จะไปกี่โมงล่ะ เดี๋ยวพี่ขับรถไปรับที่บ้าน""หมอนัดบ่ายสองครับพี่ โรงพยาบาลเดิมที่แม่ผ่าตัดนั่นแหละครับ""โอเคจ้ะ งั้นเดี๋ยวราวๆ เที่ยงครึ่งพี่ไปรับที่บ้านนะ""ครับพี่ป่าน ขอบคุณมากนะครับ"หลังจากวางสายจา
สายป่านเดินก้าวท้าวยาวๆ ออกมาจากแผนกสูติ-นรีเวช เธออยากไปให้พ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ร่างเล็กเดินลัดไปยังมุมสวนหย่อมของโรงพยาบาลที่มีโต๊ะม้าหินอ่อนตั้งเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สะโพกกลมกลึงทิ้งตัวลงบนม้าหินอ่อนอย่างหมดแรง ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นและกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยดน้ำตาที่ยังคงรินไหลไม่หยุด "คุณทำกับฉันขนาดนี้ได้ยังไง" สายป่านพูดกับตัวเองแล้วพยายามกลั้นเสียงสะอื้นนั้นไว้ในอก ความจริงที่เจ็บปวดในวันนี้ที่เธอได้เห็นกับตาได้ยินกับหู มันช่างเจ็บปวดและทุกข์ทรมานสิ้นดี แต่ความจริงก็คือความจริง รู้เร็วยังดีกว่ารู้ช้าแล้วถลำลึกไปมากกว่านี้ ครืดดดด~ครืดดดด เสียงสมาร์ทโฟนของสายป่านสั่น เธอปรายสายตามองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นปริณนั่นเอง "ว่าไงปริณ .. อ้อ.. เสร็จแล้วเหรอ งั้นรอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่ไป" สายป่านวางสายจากปริณแล้วจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองคืนกลับมา หลังจากที่สายป่านไปส่งปริณกับแม่วิมาลาเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขับรถกลับมาที่หอพักทันที ร่างเล็กเดินเข้าไปที่เตียงนอน เธอก้มลงมองดูตู้เซฟนิรภัยขนาดย่อมที่อยู่ใต้เตียงตรงหัวนอนแล้วหยิบมันขึ้นมา กดรหัสเปิ
"หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" เสียงสัญญาณปลายทางดังอยู่เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นานนับชั่วโมงที่แอลตันพยายามต่อสายถึงสายป่าน เขายังอยู่ในรถหรูบนถนนในกรุงเทพฯ ที่ช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้รถจะติดมากเป็นพิเศษ แอลตันเริ่มหงุดหงิดและมีลางสังหรณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในใจรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังเพนท์เฮาส์ เขารีบมองดูที่ลานจอดรถแต่ไม่มีรถของสายป่านจอดอยู่ ทั้งที่ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว แอลตันรีบก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นไปยังเพนท์เฮาส์แล้วกดรหัสเข้าห้องทันที ภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาของคนรัก ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องนอน แต่ก็ไร้วี่แววของเธออีกตามเคย ดวงตาคมสังเกตุเห็นบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงนอน เขารีบเข้าไปดูก็เห็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน ซองจดหมาย และซองเอกสารบางอย่าง วางอยู่ใกล้ๆ กัน ใจของชายหนุ่มก็กระตุกวูบทันทีฝ่ามือสั่นเทาหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นมาเปิดดู พบเครื่องเพชรทุกชิ้นอยู่ครบถ้วน รวมถึงแหวนเพชรใบมะกอกที่สายป่านใส่ติดนิ้วเป็นประจำก็ถูกถอดเก็บไว้ในกล่องนี้ด้วยเช่นกัน ซองเอกสารถูกเปิดออกดู แอลตันพบเช็คห้าสิบล้านบาทที่มีลายเซ็นต์ของตนเองที่สั่งจ่ายให้กับสายป่าน มันยังอยู่แล
ตลอดเวลาที่มาลารินทร์กับสายป่านอาศัยอยู่ที่นี่ สองสาวก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียนทำขนมกับน้ามาศ บางวันก็ไปส่งขนมกับน้องญา หรือไปตลาดในเมือง เพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาทำขนมบ้าง ทำให้สองสาวคลายเหงาลงไปได้มากแต่ถ้าช่วงไหนที่ว่าง มาลารินทร์ก็มักจะนั่งเศร้าอยู่ลำพังคนเดียว ส่วนสายป่านเองก็ได้แต่อยู่เงียบๆ คอยห่วงใยอยู่ห่าง ๆเธอหวังว่าเวลาจะช่วยทำให้เพื่อนรักของเธอดีขึ้นในสักวัน ทั้งๆ ที่ใจของเธอเองก็แหลกสลายไม่ได้ต่างไปจากมาลารินทร์เลย แต่สายป่านเลือกที่จะเก็บเอาไว้ ไม่ได้บอกหรือแสดงอาการใดๆ ให้เพื่อนรักได้รับรู้ เพราะลำพังปัญหาของรินทร์เองก็มากมายอยู่แล้วเธอจึงไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเป็นกังวลในเรื่องของเธออีกสายป่านลงมาเดินเล่นที่ชายหาดในตอนเย็นเพียงลำพัง แดดร่มลมตก บรรยากาศดีทำให้เธอค่อยสดชื่นขึ้นมาบ้าง ส่วนมาลารินทร์ขอตัวขึ้นไปนอนพักตั้งแต่บ่าย ช่วงหลังนี้รินทร์ไม่ค่อยแข็งแรง ทานอาหารได้น้อยและอ่อนเพลีย คงเป็นเพราะความเครียดที่สะสมจนทำให้มีผลกระทบต่อร่างกาย สายป่านจึงปล่อยให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่ ร่างเล็กนั่งลงที่ชิงช้าบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอเหม่อมองทะเลไปจนสุดสายตา"ขอให้คุณอยู่กับลูกเมียขอ
กิตติยศถอนหายใจยาว มองแอลตันที่นั่งน้ำตาไหล ดวงตาแดงก่ำ"อย่าหาว่าพี่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของแกเลยนะป่าน แต่ยังงัยแกก็เป็นน้องสาวคนเดียวของพี่ พี่ก็อดห่วงแกไม่ได้อยู่ดี"กิตติยศบอกกับน้องสาว"ป่านรู้ค่ะ พี่ยศมีอะไรก็พูดมาเถอะ""แกมีปัญหาอะไรกับคุณแอลตัน ทำไมถึงไม่พูดคุยกันให้เข้าใจล่ะ จะได้แก้ไขปัญหา หนีหายไปแบบนี้แล้วจะเข้าใจกันได้ยังงัย""มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะพี่ยศ" สายป่านพูดเสียงปนสะอื้น"ทำไมล่ะ เรื่องมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?""คุณแอลตันเขามีเมียอยู่แล้ว ตอนนี้เมียเขากำลังตั้งท้องอยู่ด้วย แล้วแบบนี้มันจะยังแก้ไขอะไรได้อีกคะ"สายป่านปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา เธอก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง ได้แต่เก็บเอาไว้คนเดียวมาตลอดกิตติยศมองหน้าแอลตันแล้วขมวดคิ้ว สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุดันในทันที"อ้าว..คุณแอลตัน แบบนี้มันหมายความว่ายังงัย" กิตติยศเอ่ยถามแอลตัน ในขณะที่เขาเองก็ยัง งงๆ ในสิ่งที่แฟนสาวของเขาบอกกับพี่ชาย"พี่ยศ พี่พูดกับใคร คุณแอลตันอยู่กับพี่เหรอ?" สายป่านเอ่ยถามด้วยความสงสัย"ใช่ เขามาหาพี่ที่ปางไม้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้คุยกันให้เคลียร์ไปเลย" กิตติ
อีกสองอาทิตย์ก็จะถึงกำหนดเปิดเทอมแล้ว มาลารินทร์บอกกับน้ามาศว่าพรุ่งนี้ เธอจะกลับบ้านพร้อมกับสายป่าน เธอตั้งใจจะบอกแม่เรื่องที่กำลังตั้งท้องด้วยตนเองวันนี้เธอกับสายป่านเตรียมเก็บข้าวของแล้ว เพราะพรุ่งนี้จะออกเดินทางกันแต่เช้า หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ สายป่านก็เดินถือถาดมะม่วงน้ำปลาหวานมาให้เพื่อนรัก หลังจากที่เพื่อนสาวของเธอไปนอนมองลูกมะม่วงที่ห้อยย้อยลงมาจากต้นเมื่อตอนเช้า มาลารินทร์ยิ้มชอบใจ เหมือนเด็กดีใจตอนได้ของเล่นก็ไม่ปาน“ขอบใจมากนะป่าน ที่ทำของอร่อยให้กิน จะกินให้หายอยากไปเลย ขอบคุณน้าป่านหรือยังคะลูก” เธอกล่าวขอบคุณเพื่อน พร้อมกับเอามือลูบท้องเบา ๆ และคุยกับลูกของเธออย่างอารมณ์ดี“วันนี้ฉันว่าแกไม่ต้องไปทำขนมแล้วนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก กินเสร็จก็ไปอาบน้ำ นอน กลางวัน พักผ่อนบ้างก็ได้” สายป่านบอกเธอด้วยความห่วงใย มาลารินทร์เคี้ยวตุ้ย ๆ พลางพยักหน้ารับคำหลังจากกินเสร็จ มาลารินทร์ก็ขอตัวไปอาบน้ำเพื่อพักผ่อน สายป่านเองก็กลับเข้ามาในห้องของตัวเองเช่นเดียวกัน แต่เพียงแค่ครู่เดียวสายป่านก็ได้ยินเสียงของมาลารินทร์ร้องเรียกเสียงดังด้วยความตกใจ สายป่านจึงรีบวิ่งมาเปิดประต
16 ปีผ่านไป@มาร์ตินกรุ๊ป ประเทศไทยก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนที่จะถูกเปิดออกโดยหญิงสาวลูกครึ่งหน้าตาสะสวย เธอก้าวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง ร่างสูงหุ่นดีในชุดนักศึกษาเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน"เฮียฟาขาาาาา" เสียงหวานของเธอเอ่ยเรียกชายหนุ่มพร้อมกับทิ้งสะโพกลงนั่งตักแกร่งของเขาทันที"แอลลี่ เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ ตอนนี้เธอโตเป็นสาวอายุยี่สิบสองแล้ว ไม่ใช่เด็กสองขวบเหมือนเมื่อก่อนนี้นะ" ฟาเบียนบอกแอลลี่พร้อมกับจับเอวคอดให้ลุกขึ้นจากตักแกร่ง"เฮียฟาดุอีกแล้ว แอลลี่น้อยใจนะคะ" หญิงสาวลุกขึ้นยืนทำหน้ายู่ใส่ชายหนุ่ม"เฮียไม่ได้ดุแอลลี่นะ แต่มันไม่เหมาะจริงๆ" ฟาเบียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แอลลี่ติดเขาแจตั้งแต่ตอนเป็นเด็กจนตอนนี้เธอเป็นสาวอายุยี่สิบสองปี ส่วนเขาอายุจะยี่สิบห้าปีแล้ว แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"แหม!!! เด็กมันยั่วขนาดนี้ เฮียก็น่าจะสงเคราะห์สักหน่อย จะได้สมใจ" เสียงฟาบริซเอ่ยขึ้นหลังจากที่เมื่อสักครู่เขาคุยงานกับพี่ชายและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่พอออกมาก็เห็นคู่ปรับตลอดกาลอย่างแอลลี่ กำลังออดอ้อนพี่ชายของ
สามปีต่อมา ณ.คฤหาสน์แอลตันวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบสามขวบของน้องไอด้า ลูกสาวคนที่สองของแด๊ดแอลตันกับมัมป่าน ทั้งสองครอบครัวจึงตกลงกันไว้ว่าจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดพร้อมกับเป็นวันรวมญาติของทั้งสองครอบครัวไปด้วยกันเลย เพราะนานๆ ทีจึงจะมีโอกาสได้พบเจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาสักที โดยงานนี้คุณปู่ปิแอร์บินมาจากฝรั่งเศส คุณตาเวทย์ และคุณลุงกิตติยศของน้องไอด้าก็ได้มาร่วมงานด้วยส่วนครอบครัวมาร์ติน นอกจากแด๊ดเซดริกกับมัมรินทร์แล้วก็ยังมี คุณปู่โนแอลคุณย่ามาริสา พร้อมกับเออเนสและปฏิญญาที่พาน้องเอเรสลูกชายวัยขวบครึ่ง บินมาจากฝรั่งเศสด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนคุณยายวิมาลา คุณยายปทุมมาศ และน้าปริญ ก็เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วยครบทุกคนสายป่านเลือกจัดงานที่บริเวณสวนหย่อมขนาดใหญ่ด้านหลังของคฤหาสน์ เพราะเด็กๆ จะได้วิ่งเล่นกันได้โดยไม่อึดอัด ส่วนอาหารถูกสั่งมาจากโรงแรมทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบาย เพราะตอนนี้สายป่านตั้งท้องลูกคนที่สาม อายุครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว โดยท้องนี้แด๊ดแอลตันได้ลูกชายสมใจ ซึ่งทำให้มัมป่านพลอยโล่งอกโล่งใจไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องรับหน้าที่เป็นแม่พันธุ์ให้สามีจนกว่าจะได้ลูกชาย นับว่า
3 ปีต่อมาณ.คฤหาสน์มาร์ติน "หิวกันมั้ยคะเด็กๆ มาเร็ว มาทานขนมกับน้ำหวานกันก่อนลูก" เสียงมัมรินทร์เรียกลูกๆ ทั้งสามคนของเธอเอง พร้อมกับอุ้มน้องแอลลิต้าหรือน้องแอลลี่วัยสองขวบครึ่ง ลูกสาวของแด๊ดแอลตันกับมัมสายป่าน เข้ามาทานขนมกับพี่ๆวันนี้เป็นวันนัดตรวจครรภ์ของสายป่าน อีกไม่ถึงสองเดือนสายป่านก็จะครบกำหนดคลอดลูกคนที่สองแล้ว แอลตันจึงพาสายป่านไปหาหมอ มัมรินทร์กับแด๊ดเซดริกจึงต้องรับหน้าที่เลี้ยงหลานสาวตัวน้อยให้ในทุกครั้งที่คุณหมอนัดตรวจครรภ์ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะน้องแอลลี่เลี้ยงง่ายมากๆแด๊ดเซดริกเดินจูงมือน้องเซลีนวัยสามขวบครึ่ง มาที่โต๊ะยาว ที่มีทั้งขนมและน้ำหวานคอยท่าอยู่ โดยมีเด็กชายฟาเบียนวัยห้าขวบและเด็กชายฟาบริซ วัยสี่ขวบ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังมาติดๆ"หาเฮียฟา"เสียงน้องแอลลี่พูดอ้อแอ้พร้อมกับขยับมือไหวๆ จะลงจากอ้อมกอดไปหาฟาเบียนเสียให้ได้ จนมาลารินทร์ต้องรีบวางน้องแอลลี่ลง เด็กน้อยจึงรีบเดินเข้าไปหาฟาเบียนหรือ "เฮียฟา" ของเธอทันทีฟาเบียนอุ้มน้องแอลลี่ขึ้นนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับจุ๊บพวงแก้มยุ้ยนั้นอย่างรักใคร่"มาๆ ขอพี่หอมแก้มบ้าง" ฟาบริซเดินเข้าไปหาเด็กสาวตัวกลมแต่เธอกลับดิ้
สองเดือนต่อมา สายป่านกับแอลตันมาที่เวดดิ้งสตูดิโอตั้งแต่เก้าโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดลองชุดแต่งงานเพื่อใช้ สำหรับวันแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้ในเดือนหน้า และนัดลองชุดที่จะต้องใช้ในการใส่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่จะเริ่มถ่ายในอีกสามวันข้างหน้าด้วย ซึ่งทั้งสองคนเลือกถ่ายรูปนอกสถานที่ทั้งหมดสามที่ ซึ่งสายป่านเป็นคนเลือกธีมและสถานที่เองทั้งหมดโดยแอลตันนั้นก็ตามใจเมียรักของเขาทุกอย่างสายป่านเลือกธีมแรกเป็นเจ้าหญิงแอเรียลกับเจ้าชายอีริคโดยเธอลือกใช้โลเคชั่นชายทะเลที่รีสอร์ตสวยของมิกกี้ที่เกาะสีชัง ส่วนธีมที่สองเป็นธีมหนุ่มสาวล้านนาโดยเลือกใช้โลเคชั่นสวนดอกไม้สวยที่เชียงใหม่ และธีมสุดท้ายคือธีมของหนุ่มสาวชาวสวนที่ใช้โลเคชั่นที่ปางไม้ของเธอและสวนผลไม้ของกิตติยศกว่าจะลองชุดเสร็จเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง สายป่านชวนแอลตันแวะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อของสดเข้าบ้าน เพราะวันนี้ครอบครัวเธอมีนัดทานอาหารเย็นกับครอบครัวของมาลารินทร์ที่คฤหาสน์แอลตัน หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้วทั้งสองหนุ่มสาวก็เดินทางกลับคฤหาสน์แอลตันทันทีสายป่านจัดเตรียมของเข้าครัวเพื่อเตรียมไว้สำหรับอาหารเย็นของพวกเธอและหลานๆ ส่วนแอลตันไม
แอลตันคลายอ้อมกอดออกจากแฟนสาว แล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของสายป่าน เขากุมมือของเธอไว้บนตัก"พี่มีของขวัญแต่งงานให้หนูด้วยนะ" แอลตันบอกกับสายป่าน"ของขวัญแต่งงาน? เรายังไม่ได้แต่งงานเลย มีของขวัญให้แล้วเหรอคะคุณสามีสายเปย์" สายป่านเอ่ยแซว"ของขวัญแต่งงานล่วงหน้าไงครับ" แอลตันตอบยิ้มๆ"ตัวเล็กว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นยังงัยบ้างครับ""สวยมากเลยค่ะ""แล้วชอบไหมล่ะ""ก็ชอบค่ะ""พี่ดีใจที่ตัวเล็กชอบนะ ถ้าอย่างนั้นเราย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กันเลยไหม?" สายป่านทำหน้างง เมื่อได้ยินคำถามนี้จากเขา"หมายความว่ายังงัยคะพี่แอล""ก็หมายความว่าคฤหาสน์นี้เป็นของเราไง พี่ตั้งใจสร้างไว้ใกล้กับคฤหาสน์มาร์ติน หนูกับน้องรินทร์จะได้อยู่ใกล้ๆ กัน แล้วพี่ก็ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอของเราด้วยครับ""พี่แอลพูดจริงเหรอคะ" สายป่านถามพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง"จริงสิครับ ความจริงพี่อยากขอหนูแต่งงานนานแล้ว แต่อยากหาที่อยู่ให้มั่นคงก่อน เพราะพี่เพิ่งบินมาอยู่ไทยได้ไม่กี่ปี ก่อนมีหนูพี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่อยู่มากนัก แต่พอเราจะแต่งงาน จะมีลูกก็ต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าสักหน่อย พี่ขอโทษนะครับที่ขอแต่งงานช้าไป ทำให้ห
@คฤหาสน์มาร์ติน แอลตันลงจากรถหรูแล้วเดินเข้ามายังคฤหาสน์ เขาเดินตรงมายังห้องอาหารทันที เพราะรู้ดีว่าเวลานี้เป็นเวลาอาหารเช้าของที่นี่"แด๊ดแอวววค้าบบบ" เสียงฟาบริซร้องตะโกนอย่างดังพลางวิ่งเตาะแตะมาหาแอลตันทันที ใบหน้าของเด็กน้อยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แอลตันอุ้มร่างเล็กของหลานชายแล้วหอมแก้มตุ่ยฟอดใหญ่ เขาอุ้มฟาบริซเดินไปยังโต๊ะอาหารที่ทุกคนกำลังนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา"อ้าว..ไอ้แอล มาๆ กินข้าวด้วยกัน" เซดริกเอ่ยชวนเพื่อนรัก แอลตันนั่งลงทานข้าวต้มและป้อนข้าวต้มให้หนูน้อยฟาบริซที่นั่งอยู่บนตัก จนฟาบริซกับฟาเบียนทานอาหารเสร็จแล้ว พี่เลี้ยงก็พาเด็กๆ ไปห้องนั่งเล่น เพื่อให้พวกผู้ใหญ่ได้คุยกันโดยสะดวก"วันนี้เป็นวันหยุด มึงมีอะไรด่วนถึงได้มาแต่เช้าวะ""กูมาดูบ้านกูไง เมื่อไรจะตกแต่งเสร็จวะ มึงเร่งให้กูรึยัง" แอลตันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง"กูเร่งให้มึงแล้ว ทางช่างเขาก็บอกอยู่ว่าไม่เกินสองอาทิตย์ คฤหาสน์มึงอย่างใหญ่เลยนะ แถมเฟอร์นิเจอร์ก็นำเข้าเกือบทั้งหมดอีก มึงจะไม่ให้เวลาเขาหน่อยรึไง"เซดริกตอบเพื่อนพลางส่ายหัวให้กับความใจร้อนของแอลตัน เพราะอยู่ๆ เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแอลตันมาขอซื้อที่ดิ
"พี่แอลคะ ไหนล่ะคะแขกอีกคนนึง ใครเหรอคะป่านยังไม่เห็นมีใครมาเลย" สายป่านเอ่ยถามแฟนหนุ่ม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบอะไร มีแค่เพียงรอยยิ้มที่ส่งมาให้เธอเท่านั้น ตึก ตึก ตึกสายป่านละสายตาจากแอลตันทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนที่เดินเข้ามา คนตัวเล็กอ้าปากค้าง เพ่งมองชายวัยห้าสิบต้นๆ ที่ดูภูมิฐาน กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะ สายป่านลุกขึ้นยืนทันที"พ่อ" คนตัวเล็กเรียกชื่อชายผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาใสไหลรินลงมาเปียกแก้มนวลทั้งสองข้าง"สายป่าน ... สายป่านลูกพ่อ" นายปิยะเวชเอ่ยปากเรียกลูกสาวคนเดียวของเขาที่ไม่ได้พบเจอกันเลยตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาสองพ่อลูกโผเข้าหากัน สายป่านกอดผู้เป็นพ่อแล้วซบหน้าลงร้องไห้สะอึกสะอื้น ปิยะเวชลูบศรีษะทุยเล็กนั้นอย่างเอ็นดู"พ่อขอโทษป่านนะลูก พ่อผิดเองที่หลงมัวเมา เห็นคนอื่นดีกว่าลูกของตัวเอง"ปิยะเวชบอกกับลูกสาวคนเดียวในอ้อมกอด ตั้งแต่วันที่สายป่านออกจากบ้านไป เขาเองก็รู้สึกผิดที่ทำให้ลูกต้องเสียใจ เขาพยายามตามหาลูกสาวแต่ก็ไม่รู้ข่าวคราว จนเขาล้มป่วยลง กิตติยศจึงได้บอกกับเขาว่าสายป่านเดินทางมาเรียนที่กรุงเทพ เธอปลอดภัยและสุขสบายดี จนทำให้เขาคลายความเป
3 ปี ผ่านไป@ มหาวิทยาลัย BB วันนี้เป็นวันรับปริญญาบัตรของบัณฑิตใหม่ สายป่านสวมชุดครุยดูมีสง่า ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ในขณะที่มีเพื่อนๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับสายป่านและเจษนิพิฐที่จบพร้อมกันเซดริกกับมาลารินทร์ พาหนูน้อยฟาเบียนลูกชายวัยสองขวบครึ่ง และน้องฟาบริซอายุขวบครึ่งซึ่งกำลังน่ารักน่าชังทั้งคู่มาร่วมแสดงความยินดีด้วย"ยินดีด้วยนะป่าน ในที่สุดแกก็เรียนจบสมที่ตั้งใจไว้แล้ว ฉันดีใจกับแกจริงๆ นะ" มาลารินทร์โอบกอดสายป่านด้วยความดีใจที่เพื่อนรักของเธอส่งตัวเองเรียนจนจบได้สำเร็จ"นี่เป็นของขวัญรับปริญญาจากฉันกับพี่เซดริกนะ" มาลารินทร์ส่งกล่องของขวัญขนาดเท่าฝ่ามือที่ถูกห่อหุ้มอย่างดีให้กับสายป่าน"ขอบใจมากนะรินทร์" สายป่านยิ้มให้กับเพื่อนรัก แล้วส่งกล่องของขวัญให้แอลตันเก็บไว้"ส่วนนี่ของขวัญของเจ จากเรากับพี่เซดริกนะ" มาลารินทร์ส่งกล่องของขวัญให้กับเจษนิพิฐ เขารับมาพร้อมกับกล่าวขอบใจมาลารินทร์"มาๆๆ มาถ่ายรูปกันเถอะ" สายป่านเอ่ยเรียกทุกคนมาถ่ายรูปร่วมกัน"ยินดีด้วยนะครับสายป่าน" เสียงทุ้มน่าฟังที่คุ้นหูดังขึ้นทำให้สายป่านรีบหันไปตามเสียงทันที"มิกกี้ ป่านดีใจจังเลยที่คุณมา ขอบคุ
คู่รักทั้งสองคู่อยู่พักผ่อนที่โรงแรม JC อีกเกือบหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้มาลารินทร์ได้พักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงอีกสักหน่อย เมื่อครบกำหนดของการพักผ่อนแล้วจึงได้เดินทางกลับกรุงเทพ สายป่านเองก็ต้องกลับไปเตรียมตัวเรียนต่อเพราะอีกไม่กี่วันมหาลัยก็จะเปิดเทอมแล้ว@ เพนท์เฮาส์แอลตัน "พี่แอลให้ป่านมาที่นี่ทำไมคะ ป่านอยากจะกลับหอพัก อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว" สายป่านเอ่ยถามแอลตันที่นั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกอยู่ที่โซฟา"อีกตั้งสิบกว่าวันกว่าจะเปิดเทอม จะรีบร้อนหนีผัวไปไหน ยังมีเรื่องต้องตกลงกันอีกตั้งเยอะนะยัยตัวเล็ก""จะตกลงอะไรกันอีกล่ะคะ ข้อตกลงเยอะจังนะคะ" สายป่านบ่นกระปอดกระแปด"มานั่งนี่มา" แอลตันตบเบาๆ ที่หน้าตักของตัวเองเพื่อเรียกให้คนรักมานั่ง คนตัวเล็กก็ฟังอย่างว่าง่าย เธอเดินนวยนาดเข้าไปหาเขาแล้วหย่อนสะโพกลงที่ตักแกร่ง ส่วนแขนเรียวสวยคล้องอยู่ที่ลำคอของชายหนุ่ม"ว่ายังงัยคะพ่อรูปหล่อ" สายป่านเอ่ยหยอกเย้า แกล้งมองเขาด้วยสายตาที่ยั่วยวนแล้วก้มลงแนบแก้มถูไปมาเบาๆบริเวณคางสากของเขา"พี่จะให้หนูย้ายออกจากหอพักแล้วมาอยู่ที่เพนท์เฮาส์กับพี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" สายป่านได้ยินถึงกับอ้าปากหวอ"ย