สายป่านเดินก้าวท้าวยาวๆ ออกมาจากแผนกสูติ-นรีเวช เธออยากไปให้พ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ร่างเล็กเดินลัดไปยังมุมสวนหย่อมของโรงพยาบาลที่มีโต๊ะม้าหินอ่อนตั้งเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สะโพกกลมกลึงทิ้งตัวลงบนม้าหินอ่อนอย่างหมดแรง ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นและกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยดน้ำตาที่ยังคงรินไหลไม่หยุด
"คุณทำกับฉันขนาดนี้ได้ยังไง" สายป่านพูดกับตัวเองแล้วพยายามกลั้นเสียงสะอื้นนั้นไว้ในอก ความจริงที่เจ็บปวดในวันนี้ที่เธอได้เห็นกับตาได้ยินกับหู มันช่างเจ็บปวดและทุกข์ทรมานสิ้นดี แต่ความจริงก็คือความจริง รู้เร็วยังดีกว่ารู้ช้าแล้วถลำลึกไปมากกว่านี้ ครืดดดด~ครืดดดด เสียงสมาร์ทโฟนของสายป่านสั่น เธอปรายสายตามองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นปริณนั่นเอง "ว่าไงปริณ .. อ้อ.. เสร็จแล้วเหรอ งั้นรอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่ไป" สายป่านวางสายจากปริณแล้วจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองคืนกลับมา หลังจากที่สายป่านไปส่งปริณกับแม่วิมาลาเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขับรถกลับมาที่หอพักทันที ร่างเล็กเดินเข้าไปที่เตียงนอน เธอก้มลงมองดูตู้เซฟนิรภัยขนาดย่อมที่อยู่ใต้เตียงตรงหัวนอนแล้วหยิบมันขึ้นมา กดรหัสเปิดเซฟ หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง ชุดเครื่องเพชรใบมะกอกที่ส่องแสงระยิบระยับสวยงามยามต้องแสงไฟ สายป่านถอดแหวนเพชรใบมะกอกที่นิ้วนางข้างซ้ายที่สวมไว้ตลอดเวลานั้นเก็บคืนเข้าสู่กล่อง และหยิบซองเช็คจำนวนห้าสิบล้านบาทที่แอลตันเคยให้ ใส่กระเป๋าแล้วขับรถไปที่เพนท์เฮาส์ของแอลตันทันที สายป่านกดรหัสเข้าไปยังเพนท์เฮาส์แล้วตรงเข้าไปที่ห้องนอนของแอลตัน เธอวางกล่องเครื่องเพชรและซองที่บรรจุเช็คไว้ใกล้ๆ กัน พร้อมกับจดหมายอีกหนึ่งฉบับ แล้วหยิบกระเป๋าเดินทางของเธอที่เก็บไว้ออกมา แล้วจัดการเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองลงสู่กระเป๋า แล้วขับรถกลับมายังหอพัก เมื่อกลับมาถึงหอพัก สายป่านก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จนเผลอหลับไป นานแค่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เธอรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าห้อง สายป่านงัวเงียลุกขึ้นจากเตียงนอน "ใครมาเคาะประตูนะ .. หรือว่าจะเป็นเขา" สายป่านพูดกับตัวเองพร้อมกับแนบสายตาส่องไปที่ตาแมว ก็พบว่าเป็นมาลารินทร์นั่นเอง เธอจึงรีบเปิดประตูให้ผู้มาเยือนในทันที ร่างบางที่เพิ่งมาถึงโผเข้ากอดสายป่านและร้องไห้โฮ ทำเอาสายป่านเองนั้นตกใจเป็นอย่างมาก “รินทร์ แกเป็นอะไร ทำไมร้องไห้หนักขนาดนี้ล่ะ เข้ามาก่อน ๆ” สายป่านจูงมือเพื่อนรักมานั่งที่โซฟา พลางกอดปลอบเพื่อนสาวที่ยังร้องไห้ไม่หยุด เธอกอดร่างบางไว้ พลางลูบหัวลูบไหล่อย่างปลอบประโลม “รินทร์ แกใจเย็น ๆ ก่อน เลิกร้องไห้ แล้วเล่าให้ฉันฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” สายป่านมองหน้าเพื่อนสาว เธอเห็นร่างบางตรงหน้าดวงตาบวมช้ำ หล่อนเช็ดน้ำตาให้เพื่อนรัก มาลารินทร์สะอื้นเบาๆ “ฮึก...ฮือ... พี่เซดริก เขา..เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วแก.. ฮืออ” ร่างบางร้องไห้ สะอื้นจนตัวโยน สายป่านกอดปลอบร่างบาง พลางน้ำตาคลอเพราะสงสารเพื่อนรัก ทำไมทั้งเธอและเพื่อนถึงต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้ในวันและเวลาเดียวกันแบบนี้ด้วย ทั้งสองกอดกันอยู่ครู่ใหญ่ จนมาลารินทร์หยุดร้องไห้ สายป่านจึงคลายอ้อมกอดออกจากร่างบาง “ไหน..เรื่องราวมันเป็นยังงัย แกบอกฉันมาสิ” มาลารินทร์เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนรักฟังอย่างไม่ปิดบัง “แล้วแกจะเอายังงัยต่อไปล่ะรินทร์ ถ้าแกจะไปเคลียร์กับเขา ฉันจะเป็นคนพาแกไปเอง” สายป่านบอกร่างบางที่ยังเช็ดน้ำตาอยู่ “ฉันไม่กล้าหรอกป่าน พี่เซดริกเองก็พูดรับปากกับมัมของเขาว่าจะจัดการเรื่องหมั้นให้เรียบร้อย ฉันได้ยินมากับหูนะป่าน แล้วถ้าเขาต้องบอกเลิกฉันจริง ๆ ฉันคงทำใจไม่ได้ ฉันจะเป็นฝ่ายไปจากเขาเอง แกช่วยฉันได้ไหม” มาลารินทร์ถามสายป่าน เธอพยักหน้าตอบรับ เพราะตอนนี้เธอเองก็อยากจะหายตัวไปจากที่นี่เหมือนกัน อีกด้านหนึ่ง แอลตันกำลังขับรถกลับเพนท์เฮาส์ หลังจากที่เขาส่งเดมี่ถึงโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าจอแสดงชื่อเซดริก แอลตันจึงกดรับทันที “ไงมึง .. โทรมาทำไม วันนี้มีนัดกินข้าวเปิดตัวเมียรักนี่หว่า อย่าบอกว่าเมียหายอีกล่ะ” แอลตันรับสาย พลางเอ่ยกระเซ้าเพื่อนรักตามนิสัยของเขา "ไอ้แอลตัน รินทร์น่าจะได้ยินมัมคุยกับกูเรื่องกูกับโอลิเวีย รินทร์หนีกูไปแล้ว โทรไปก็เป็นสัญญาณปิดเครื่อง มึงช่วยติดต่อคุณสายป่านให้กูที ว่ารินทร์อยู่ที่นั่นไหม” น้ำเสียงเซดริกดูร้อนรนใจเป็นอย่างมาก “อ้าว .. ชิบหายละ .. เออๆ เดี๋ยวกูลองโทรตามให้” แอลตันวางสายไป แล้วรีบโทรไปที่สายป่าน เสียงสัญญาณดังขึ้นหลายครั้ง แต่ปลายทางไม่รับสาย แอลตันก็ไม่ละความพยายาม ยังคงโทรและรอสายต่อไป “ใครโทรมาน่ะป่าน ทำไมไม่รับสาย” มาลารินทร์เอ่ยถามเพื่อนรัก สายป่านกำลังขับรถอยู่ ในขณะที่มาลารินทร์นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ “คุณแอลตันน่ะ รินทร์ .. แกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม?” สายป่านเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หลังจากที่มาลารินทร์บอกกับเธอว่าเธอจะกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของนางวิมาลาที่จังหวัดชลบุรี “ฉันแน่ใจแล้วป่าน ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนขี้ขลาด แต่ฉันทนเจอหน้าเขาอีกไม่ได้ .. ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงในชีวิตเขา เขามีคู่หมั้นที่เหมาะสมกับเขาอยู่แล้ว ทั้งฐานะ ทั้งหน้าตาทางสังคม เขาเหมาะสมกัน ทุกอย่าง ฉันจะเอาอะไรไปสู้เขา” มาลารินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงปวดร้าว “ถ้าแกยืนยันอย่างนั้นฉันก็โอเค ฉันจะไปอยู่กับแกเอง” สายป่านบอกพลางกดปิดโทรศัพท์มือถือ ที่มีเสียงเรียกเข้าจากแอลตันที่ดังไม่หยุด "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" เสียงสัญญาณตอบกลับอัตโนมัติดังขึ้นหลังจากที่แอลตันเริ่มต่อสายถึงสายป่านอีกครั้ง "อ้าว.. ทำไมเบอร์ป่านติดต่อไม่ได้แล้วล่ะ" แอลตันเริ่มรู้สึกตะหงิดใจ แล้วจึงลแล้วจึงลองต่อสายใหม่อีกครั้ง"หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" เสียงสัญญาณปลายทางดังอยู่เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นานนับชั่วโมงที่แอลตันพยายามต่อสายถึงสายป่าน เขายังอยู่ในรถหรูบนถนนในกรุงเทพฯ ที่ช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้รถจะติดมากเป็นพิเศษ แอลตันเริ่มหงุดหงิดและมีลางสังหรณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในใจรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังเพนท์เฮาส์ เขารีบมองดูที่ลานจอดรถแต่ไม่มีรถของสายป่านจอดอยู่ ทั้งที่ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว แอลตันรีบก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นไปยังเพนท์เฮาส์แล้วกดรหัสเข้าห้องทันที ภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาของคนรัก ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องนอน แต่ก็ไร้วี่แววของเธออีกตามเคย ดวงตาคมสังเกตุเห็นบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงนอน เขารีบเข้าไปดูก็เห็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน ซองจดหมาย และซองเอกสารบางอย่าง วางอยู่ใกล้ๆ กัน ใจของชายหนุ่มก็กระตุกวูบทันทีฝ่ามือสั่นเทาหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นมาเปิดดู พบเครื่องเพชรทุกชิ้นอยู่ครบถ้วน รวมถึงแหวนเพชรใบมะกอกที่สายป่านใส่ติดนิ้วเป็นประจำก็ถูกถอดเก็บไว้ในกล่องนี้ด้วยเช่นกัน ซองเอกสารถูกเปิดออกดู แอลตันพบเช็คห้าสิบล้านบาทที่มีลายเซ็นต์ของตนเองที่สั่งจ่ายให้กับสายป่าน มันยังอยู่แล
ตลอดเวลาที่มาลารินทร์กับสายป่านอาศัยอยู่ที่นี่ สองสาวก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียนทำขนมกับน้ามาศ บางวันก็ไปส่งขนมกับน้องญา หรือไปตลาดในเมือง เพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาทำขนมบ้าง ทำให้สองสาวคลายเหงาลงไปได้มากแต่ถ้าช่วงไหนที่ว่าง มาลารินทร์ก็มักจะนั่งเศร้าอยู่ลำพังคนเดียว ส่วนสายป่านเองก็ได้แต่อยู่เงียบๆ คอยห่วงใยอยู่ห่าง ๆเธอหวังว่าเวลาจะช่วยทำให้เพื่อนรักของเธอดีขึ้นในสักวัน ทั้งๆ ที่ใจของเธอเองก็แหลกสลายไม่ได้ต่างไปจากมาลารินทร์เลย แต่สายป่านเลือกที่จะเก็บเอาไว้ ไม่ได้บอกหรือแสดงอาการใดๆ ให้เพื่อนรักได้รับรู้ เพราะลำพังปัญหาของรินทร์เองก็มากมายอยู่แล้วเธอจึงไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเป็นกังวลในเรื่องของเธออีกสายป่านลงมาเดินเล่นที่ชายหาดในตอนเย็นเพียงลำพัง แดดร่มลมตก บรรยากาศดีทำให้เธอค่อยสดชื่นขึ้นมาบ้าง ส่วนมาลารินทร์ขอตัวขึ้นไปนอนพักตั้งแต่บ่าย ช่วงหลังนี้รินทร์ไม่ค่อยแข็งแรง ทานอาหารได้น้อยและอ่อนเพลีย คงเป็นเพราะความเครียดที่สะสมจนทำให้มีผลกระทบต่อร่างกาย สายป่านจึงปล่อยให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่ ร่างเล็กนั่งลงที่ชิงช้าบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอเหม่อมองทะเลไปจนสุดสายตา"ขอให้คุณอยู่กับลูกเมียขอ
กิตติยศถอนหายใจยาว มองแอลตันที่นั่งน้ำตาไหล ดวงตาแดงก่ำ"อย่าหาว่าพี่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของแกเลยนะป่าน แต่ยังงัยแกก็เป็นน้องสาวคนเดียวของพี่ พี่ก็อดห่วงแกไม่ได้อยู่ดี"กิตติยศบอกกับน้องสาว"ป่านรู้ค่ะ พี่ยศมีอะไรก็พูดมาเถอะ""แกมีปัญหาอะไรกับคุณแอลตัน ทำไมถึงไม่พูดคุยกันให้เข้าใจล่ะ จะได้แก้ไขปัญหา หนีหายไปแบบนี้แล้วจะเข้าใจกันได้ยังงัย""มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะพี่ยศ" สายป่านพูดเสียงปนสะอื้น"ทำไมล่ะ เรื่องมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?""คุณแอลตันเขามีเมียอยู่แล้ว ตอนนี้เมียเขากำลังตั้งท้องอยู่ด้วย แล้วแบบนี้มันจะยังแก้ไขอะไรได้อีกคะ"สายป่านปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา เธอก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง ได้แต่เก็บเอาไว้คนเดียวมาตลอดกิตติยศมองหน้าแอลตันแล้วขมวดคิ้ว สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุดันในทันที"อ้าว..คุณแอลตัน แบบนี้มันหมายความว่ายังงัย" กิตติยศเอ่ยถามแอลตัน ในขณะที่เขาเองก็ยัง งงๆ ในสิ่งที่แฟนสาวของเขาบอกกับพี่ชาย"พี่ยศ พี่พูดกับใคร คุณแอลตันอยู่กับพี่เหรอ?" สายป่านเอ่ยถามด้วยความสงสัย"ใช่ เขามาหาพี่ที่ปางไม้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้คุยกันให้เคลียร์ไปเลย" กิตติ
อีกสองอาทิตย์ก็จะถึงกำหนดเปิดเทอมแล้ว มาลารินทร์บอกกับน้ามาศว่าพรุ่งนี้ เธอจะกลับบ้านพร้อมกับสายป่าน เธอตั้งใจจะบอกแม่เรื่องที่กำลังตั้งท้องด้วยตนเองวันนี้เธอกับสายป่านเตรียมเก็บข้าวของแล้ว เพราะพรุ่งนี้จะออกเดินทางกันแต่เช้า หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ สายป่านก็เดินถือถาดมะม่วงน้ำปลาหวานมาให้เพื่อนรัก หลังจากที่เพื่อนสาวของเธอไปนอนมองลูกมะม่วงที่ห้อยย้อยลงมาจากต้นเมื่อตอนเช้า มาลารินทร์ยิ้มชอบใจ เหมือนเด็กดีใจตอนได้ของเล่นก็ไม่ปาน“ขอบใจมากนะป่าน ที่ทำของอร่อยให้กิน จะกินให้หายอยากไปเลย ขอบคุณน้าป่านหรือยังคะลูก” เธอกล่าวขอบคุณเพื่อน พร้อมกับเอามือลูบท้องเบา ๆ และคุยกับลูกของเธออย่างอารมณ์ดี“วันนี้ฉันว่าแกไม่ต้องไปทำขนมแล้วนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก กินเสร็จก็ไปอาบน้ำ นอน กลางวัน พักผ่อนบ้างก็ได้” สายป่านบอกเธอด้วยความห่วงใย มาลารินทร์เคี้ยวตุ้ย ๆ พลางพยักหน้ารับคำหลังจากกินเสร็จ มาลารินทร์ก็ขอตัวไปอาบน้ำเพื่อพักผ่อน สายป่านเองก็กลับเข้ามาในห้องของตัวเองเช่นเดียวกัน แต่เพียงแค่ครู่เดียวสายป่านก็ได้ยินเสียงของมาลารินทร์ร้องเรียกเสียงดังด้วยความตกใจ สายป่านจึงรีบวิ่งมาเปิดประต
สายป่านเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย แล้วรีบตรงไปยังลานจอดรถทันที เพราะเธอเกรงว่าจะเจอกับแอลตันและเซดริกที่กำลังจะมาถึง คนตัวเล็กก้มหน้าก้มตาเดินโดยไม่ได้ระมัดระวังจนชนกับใครคนหนึ่ง ปึ่ก .. โอ๊ย.. สายป่านเซถลาไปตามแรงชน แต่โชคดีที่เจ้าของร่างแกร่งนั้นพยุงเธอไว้ได้ทัน"คุณป่านนั่นเอง เป็นอะไรไหมครับ?" เซดริกเอ่ยถามเธอ เมื่อเธอเห็นเซดริกเธอก็รีบมองไปรอบๆบริเวณนั้นทันที"อ้อ..ไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณเซดริกขึ้นไปเยี่ยมรินทร์ก่อนเถอะค่ะ คุณแม่รออยู่"เธอบอกให้เซดริกรีบไปเพราะเธอเองก็อยากจะไปให้พ้นจากบริเวณนี้เหมือนกัน เธอกลัวว่าจะเจอใครบางคนที่เธอไม่อยากจะเจอนั่นเอง"อ้อ..ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" เซดริกกล่าวแล้วรีบเดินไปทันที"ฟู่วววว เกือบไปแล้วเรา ดีนะที่ไม่เจอ" สายป่านเป่าลมออกจากปากแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก"เขาคงไม่ได้มาหรอก เขาจะมาทำไมล่ะ ลูกเมียเขาก็มี" สายป่านแค่นยิ้มแล้วพูดกับตัวเองร่างเล็กค่อยๆ เดินอ้อยอิ่งไปยังบริเวณที่เธอจอดรถอยู่ เพราะตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องรีบแล้ว เธอคิดว่าจะกลับไปบ้านน้ามาศแล้วจะเก็บเสื้อผ้าบางส่วนไปเที่ยวพักผ่อนคนเดียวสักวันสองวันแล้วค่อยกลับมา เพราะตอนนี
หลังจากที่พนักงานเดินมาส่งสายป่านที่ห้องพักแล้ว เธอก็ลากกระเป๋าเข้ามาในห้อง ภายในห้องสวยงามหรูหรามาก บรรยากาศดีและติดกับชายทะเล แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วย สายป่านเข้าไปยังห้องนอนแล้วเลือกเสื้อผ้าสี่ห้าชุด สำหรับใส่อยู่ที่นี่ออกมาแขวนในตู้เสื้อผ้าครืดดดด ครืดดด เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งสั่นขึ้น สายป่านจึงหยิบมาดู เธอยิ้มมุมปากแล้วกดรับสายทันที"หวัดดีจ้ามิกกี้" สายป่านทักทายมิกกี้เสียงใส"หวัดดีครับป่าน ยินดีต้อนรับสู่ Queen รีสอร์ท นะครับ เป็นยังงัยบ้าง ห้องสวยถูกใจไหม""สวยที่สุดเลยมิกกี้ แต่ป่านไม่ขอพักฟรีนะคะ จ่ายครึ่งนึงก็ยังดี ป่านเกรงใจ" เธอบอกกับมิกกี้เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ"เห็นจะไม่ได้หรอกครับ เพราะชื่อของป่านถูกคีย์เข้าระบบเป็น VVIP ไปแล้ว เวลาเข้าพักในที่พักที่เป็นเครือของผม ก็จะขึ้นแบบนี้ทุกที่เลย""โห..แบบนี้ต้องไปแอบสืบแล้วล่ะ ว่ามิกกี้มีที่พักที่ไหนบ้างจะได้ไปพักทุกวัน ให้เจ้าของขนหน้าแข้งร่วงให้หมดไปเลย ดีมั้ย ฮ่าๆๆ" ทั้งสองคนหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน"ตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศ คงไม่ได้ไปหาป่านที่รีสอร์ตนะ ไว้มีโอกาสค่อยนัดป่านกับเจษทานข้าวกันนะครับ"ท
สายป่านร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาของเธอไหลเปียกสองแก้ม ในตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก"คิดถึงพี่ แล้วหนีพี่ไปทำไมครับ"น้ำเสียงคุ้นหูที่ตอบกลับมาทำให้สายป่านลืมตาโพลง เธอหยุดร้องไห้ทันทีแล้วลุกพรวดขึ้นมามองไปยังคนที่นอนอยู่ข้างๆ คนตัวเล็กอ้าปากค้างด้วยความงุนงงอย่างที่สุด"คะ..คุณแอลตัน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" สายป่านถามเสียงสั่น เพราะเธอยังไม่หายตกใจต่อการมาของเขา"เมื่อคืนเจโทรหาพี่ เขาบอกพี่ว่าหนูอยู่ที่นี่ เจพยายามติดต่อหนูหลายครั้งหลังจากโทรหาหนูครั้งสุดท้ายตอนหัวค่ำแต่หนูไม่รับสาย เขาเลยตัดสินใจโทรมาบอกพี่"แอลตันบอกสายป่านไปตามความเป็นจริง เจเป็นห่วงสายป่านมากเพราะติดต่อสายป่านไม่ได้ และเจรู้ว่าเธอดื่มไปเยอะแถมยังอยู่คนเดียวอีกด้วยก่อนหน้าที่แอลตันจะมาที่ชลบุรีกับเซดริก เขาได้โทรส่งข่าวให้เจรู้ด้วยเหมือนกัน เพราะเขารู้ว่าเจเองก็เป็นห่วงเพื่อนสาวทั้งสองคนมาก"แล้วคุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไงคะ ใครอนุญาต" สายป่านเอ่ยถามเสียงเขียว รีสอร์ตหรูขนาดนี้แต่ปล่อยให้คนอื่นเข้ามาในห้องของลูกค้าได้ยังไงกัน"มิกกี้เป็นคนอนุญาตครับ เพราะเมื่อคืนเจพยายามโทรหาหนูหลายรอบแต่หนูไม่รับสายเลย ส
แอลตันมองหน้าสายป่านด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความรักอย่างเต็มเปี่ยม จนคนถูกมองเองก็รับรู้ได้ ก้อนเนื้อในอกของซ้ายของเธอเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรู้ตัวดีว่าตอนนี้เธอรักเขา แล้วก็รักจนหมดหัวใจเสียด้วย"พี่กับเดมี่ไม่ได้มีอะไรกันนะครับ เดมี่เขามีสามีอยู่แล้ว จะให้พี่ไปเป็นชู้กับเมียคนอื่นได้ยังงัย และที่สำคัญพี่ก็มีหนูอยู่แล้วและพี่ก็รักหนูคนเดียว รักมากด้วย" แอลตันพูดแล้วหยุดมองใบหน้าคนตัวเล็ก"แต่ฉันได้ยินคุณคุยกันทุกคำเลยนะคะ" สายป่านพูดย้ำสิ่งที่เธอได้ยินในวันนั้น"เดมี่ คุณท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้เลย" "คงตั้งแต่ครั้งแรกที่มาหาคุณเมื่อสองเดือนก่อนนั่นแหละ คือเมื่ออาทิตย์ก่อนฉันป่วยเลยไปหาหมอ หมอ ตรวจแล้วบอกว่าฉันท้องได้เกือบสี่เดือนแล้ว" "แล้วอาทิตย์ก่อนมาหาหมอคนเดียวได้ แต่ทำไมอาทิตย์นี้ถึงมาคนเดียวไม่ได้ล่ะ" "แอลคะ ใจคอคุณจะให้เดมี่มาคนเดียวแบบไม่มีสามีมาด้วยเหรอคะ เดมี่อายหมอนะคะ แค่ขอให้คุณมามันทำให้คุณลำบากใจมากเลยเหรอ" ทุกถ้อยคำสายป่านยังจดจำมันได้ดี รวมถึงความรู้สึกของเธอในวันนั้นด้วย"เดมี่บอกกับพี่ว่าเธอน่าจะท้องอ่อนๆ ตั้งแต่ตอนที่สามีเธอมีปัญหากับแกงค์มาเฟีย แ
16 ปีผ่านไป@มาร์ตินกรุ๊ป ประเทศไทยก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนที่จะถูกเปิดออกโดยหญิงสาวลูกครึ่งหน้าตาสะสวย เธอก้าวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง ร่างสูงหุ่นดีในชุดนักศึกษาเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน"เฮียฟาขาาาาา" เสียงหวานของเธอเอ่ยเรียกชายหนุ่มพร้อมกับทิ้งสะโพกลงนั่งตักแกร่งของเขาทันที"แอลลี่ เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ ตอนนี้เธอโตเป็นสาวอายุยี่สิบสองแล้ว ไม่ใช่เด็กสองขวบเหมือนเมื่อก่อนนี้นะ" ฟาเบียนบอกแอลลี่พร้อมกับจับเอวคอดให้ลุกขึ้นจากตักแกร่ง"เฮียฟาดุอีกแล้ว แอลลี่น้อยใจนะคะ" หญิงสาวลุกขึ้นยืนทำหน้ายู่ใส่ชายหนุ่ม"เฮียไม่ได้ดุแอลลี่นะ แต่มันไม่เหมาะจริงๆ" ฟาเบียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แอลลี่ติดเขาแจตั้งแต่ตอนเป็นเด็กจนตอนนี้เธอเป็นสาวอายุยี่สิบสองปี ส่วนเขาอายุจะยี่สิบห้าปีแล้ว แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"แหม!!! เด็กมันยั่วขนาดนี้ เฮียก็น่าจะสงเคราะห์สักหน่อย จะได้สมใจ" เสียงฟาบริซเอ่ยขึ้นหลังจากที่เมื่อสักครู่เขาคุยงานกับพี่ชายและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่พอออกมาก็เห็นคู่ปรับตลอดกาลอย่างแอลลี่ กำลังออดอ้อนพี่ชายของ
สามปีต่อมา ณ.คฤหาสน์แอลตันวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบสามขวบของน้องไอด้า ลูกสาวคนที่สองของแด๊ดแอลตันกับมัมป่าน ทั้งสองครอบครัวจึงตกลงกันไว้ว่าจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดพร้อมกับเป็นวันรวมญาติของทั้งสองครอบครัวไปด้วยกันเลย เพราะนานๆ ทีจึงจะมีโอกาสได้พบเจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาสักที โดยงานนี้คุณปู่ปิแอร์บินมาจากฝรั่งเศส คุณตาเวทย์ และคุณลุงกิตติยศของน้องไอด้าก็ได้มาร่วมงานด้วยส่วนครอบครัวมาร์ติน นอกจากแด๊ดเซดริกกับมัมรินทร์แล้วก็ยังมี คุณปู่โนแอลคุณย่ามาริสา พร้อมกับเออเนสและปฏิญญาที่พาน้องเอเรสลูกชายวัยขวบครึ่ง บินมาจากฝรั่งเศสด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนคุณยายวิมาลา คุณยายปทุมมาศ และน้าปริญ ก็เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วยครบทุกคนสายป่านเลือกจัดงานที่บริเวณสวนหย่อมขนาดใหญ่ด้านหลังของคฤหาสน์ เพราะเด็กๆ จะได้วิ่งเล่นกันได้โดยไม่อึดอัด ส่วนอาหารถูกสั่งมาจากโรงแรมทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบาย เพราะตอนนี้สายป่านตั้งท้องลูกคนที่สาม อายุครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว โดยท้องนี้แด๊ดแอลตันได้ลูกชายสมใจ ซึ่งทำให้มัมป่านพลอยโล่งอกโล่งใจไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องรับหน้าที่เป็นแม่พันธุ์ให้สามีจนกว่าจะได้ลูกชาย นับว่า
3 ปีต่อมาณ.คฤหาสน์มาร์ติน "หิวกันมั้ยคะเด็กๆ มาเร็ว มาทานขนมกับน้ำหวานกันก่อนลูก" เสียงมัมรินทร์เรียกลูกๆ ทั้งสามคนของเธอเอง พร้อมกับอุ้มน้องแอลลิต้าหรือน้องแอลลี่วัยสองขวบครึ่ง ลูกสาวของแด๊ดแอลตันกับมัมสายป่าน เข้ามาทานขนมกับพี่ๆวันนี้เป็นวันนัดตรวจครรภ์ของสายป่าน อีกไม่ถึงสองเดือนสายป่านก็จะครบกำหนดคลอดลูกคนที่สองแล้ว แอลตันจึงพาสายป่านไปหาหมอ มัมรินทร์กับแด๊ดเซดริกจึงต้องรับหน้าที่เลี้ยงหลานสาวตัวน้อยให้ในทุกครั้งที่คุณหมอนัดตรวจครรภ์ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะน้องแอลลี่เลี้ยงง่ายมากๆแด๊ดเซดริกเดินจูงมือน้องเซลีนวัยสามขวบครึ่ง มาที่โต๊ะยาว ที่มีทั้งขนมและน้ำหวานคอยท่าอยู่ โดยมีเด็กชายฟาเบียนวัยห้าขวบและเด็กชายฟาบริซ วัยสี่ขวบ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังมาติดๆ"หาเฮียฟา"เสียงน้องแอลลี่พูดอ้อแอ้พร้อมกับขยับมือไหวๆ จะลงจากอ้อมกอดไปหาฟาเบียนเสียให้ได้ จนมาลารินทร์ต้องรีบวางน้องแอลลี่ลง เด็กน้อยจึงรีบเดินเข้าไปหาฟาเบียนหรือ "เฮียฟา" ของเธอทันทีฟาเบียนอุ้มน้องแอลลี่ขึ้นนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับจุ๊บพวงแก้มยุ้ยนั้นอย่างรักใคร่"มาๆ ขอพี่หอมแก้มบ้าง" ฟาบริซเดินเข้าไปหาเด็กสาวตัวกลมแต่เธอกลับดิ้
สองเดือนต่อมา สายป่านกับแอลตันมาที่เวดดิ้งสตูดิโอตั้งแต่เก้าโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดลองชุดแต่งงานเพื่อใช้ สำหรับวันแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้ในเดือนหน้า และนัดลองชุดที่จะต้องใช้ในการใส่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่จะเริ่มถ่ายในอีกสามวันข้างหน้าด้วย ซึ่งทั้งสองคนเลือกถ่ายรูปนอกสถานที่ทั้งหมดสามที่ ซึ่งสายป่านเป็นคนเลือกธีมและสถานที่เองทั้งหมดโดยแอลตันนั้นก็ตามใจเมียรักของเขาทุกอย่างสายป่านเลือกธีมแรกเป็นเจ้าหญิงแอเรียลกับเจ้าชายอีริคโดยเธอลือกใช้โลเคชั่นชายทะเลที่รีสอร์ตสวยของมิกกี้ที่เกาะสีชัง ส่วนธีมที่สองเป็นธีมหนุ่มสาวล้านนาโดยเลือกใช้โลเคชั่นสวนดอกไม้สวยที่เชียงใหม่ และธีมสุดท้ายคือธีมของหนุ่มสาวชาวสวนที่ใช้โลเคชั่นที่ปางไม้ของเธอและสวนผลไม้ของกิตติยศกว่าจะลองชุดเสร็จเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง สายป่านชวนแอลตันแวะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อของสดเข้าบ้าน เพราะวันนี้ครอบครัวเธอมีนัดทานอาหารเย็นกับครอบครัวของมาลารินทร์ที่คฤหาสน์แอลตัน หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้วทั้งสองหนุ่มสาวก็เดินทางกลับคฤหาสน์แอลตันทันทีสายป่านจัดเตรียมของเข้าครัวเพื่อเตรียมไว้สำหรับอาหารเย็นของพวกเธอและหลานๆ ส่วนแอลตันไม
แอลตันคลายอ้อมกอดออกจากแฟนสาว แล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของสายป่าน เขากุมมือของเธอไว้บนตัก"พี่มีของขวัญแต่งงานให้หนูด้วยนะ" แอลตันบอกกับสายป่าน"ของขวัญแต่งงาน? เรายังไม่ได้แต่งงานเลย มีของขวัญให้แล้วเหรอคะคุณสามีสายเปย์" สายป่านเอ่ยแซว"ของขวัญแต่งงานล่วงหน้าไงครับ" แอลตันตอบยิ้มๆ"ตัวเล็กว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นยังงัยบ้างครับ""สวยมากเลยค่ะ""แล้วชอบไหมล่ะ""ก็ชอบค่ะ""พี่ดีใจที่ตัวเล็กชอบนะ ถ้าอย่างนั้นเราย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กันเลยไหม?" สายป่านทำหน้างง เมื่อได้ยินคำถามนี้จากเขา"หมายความว่ายังงัยคะพี่แอล""ก็หมายความว่าคฤหาสน์นี้เป็นของเราไง พี่ตั้งใจสร้างไว้ใกล้กับคฤหาสน์มาร์ติน หนูกับน้องรินทร์จะได้อยู่ใกล้ๆ กัน แล้วพี่ก็ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอของเราด้วยครับ""พี่แอลพูดจริงเหรอคะ" สายป่านถามพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง"จริงสิครับ ความจริงพี่อยากขอหนูแต่งงานนานแล้ว แต่อยากหาที่อยู่ให้มั่นคงก่อน เพราะพี่เพิ่งบินมาอยู่ไทยได้ไม่กี่ปี ก่อนมีหนูพี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่อยู่มากนัก แต่พอเราจะแต่งงาน จะมีลูกก็ต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าสักหน่อย พี่ขอโทษนะครับที่ขอแต่งงานช้าไป ทำให้ห
@คฤหาสน์มาร์ติน แอลตันลงจากรถหรูแล้วเดินเข้ามายังคฤหาสน์ เขาเดินตรงมายังห้องอาหารทันที เพราะรู้ดีว่าเวลานี้เป็นเวลาอาหารเช้าของที่นี่"แด๊ดแอวววค้าบบบ" เสียงฟาบริซร้องตะโกนอย่างดังพลางวิ่งเตาะแตะมาหาแอลตันทันที ใบหน้าของเด็กน้อยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แอลตันอุ้มร่างเล็กของหลานชายแล้วหอมแก้มตุ่ยฟอดใหญ่ เขาอุ้มฟาบริซเดินไปยังโต๊ะอาหารที่ทุกคนกำลังนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา"อ้าว..ไอ้แอล มาๆ กินข้าวด้วยกัน" เซดริกเอ่ยชวนเพื่อนรัก แอลตันนั่งลงทานข้าวต้มและป้อนข้าวต้มให้หนูน้อยฟาบริซที่นั่งอยู่บนตัก จนฟาบริซกับฟาเบียนทานอาหารเสร็จแล้ว พี่เลี้ยงก็พาเด็กๆ ไปห้องนั่งเล่น เพื่อให้พวกผู้ใหญ่ได้คุยกันโดยสะดวก"วันนี้เป็นวันหยุด มึงมีอะไรด่วนถึงได้มาแต่เช้าวะ""กูมาดูบ้านกูไง เมื่อไรจะตกแต่งเสร็จวะ มึงเร่งให้กูรึยัง" แอลตันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง"กูเร่งให้มึงแล้ว ทางช่างเขาก็บอกอยู่ว่าไม่เกินสองอาทิตย์ คฤหาสน์มึงอย่างใหญ่เลยนะ แถมเฟอร์นิเจอร์ก็นำเข้าเกือบทั้งหมดอีก มึงจะไม่ให้เวลาเขาหน่อยรึไง"เซดริกตอบเพื่อนพลางส่ายหัวให้กับความใจร้อนของแอลตัน เพราะอยู่ๆ เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแอลตันมาขอซื้อที่ดิ
"พี่แอลคะ ไหนล่ะคะแขกอีกคนนึง ใครเหรอคะป่านยังไม่เห็นมีใครมาเลย" สายป่านเอ่ยถามแฟนหนุ่ม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบอะไร มีแค่เพียงรอยยิ้มที่ส่งมาให้เธอเท่านั้น ตึก ตึก ตึกสายป่านละสายตาจากแอลตันทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนที่เดินเข้ามา คนตัวเล็กอ้าปากค้าง เพ่งมองชายวัยห้าสิบต้นๆ ที่ดูภูมิฐาน กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะ สายป่านลุกขึ้นยืนทันที"พ่อ" คนตัวเล็กเรียกชื่อชายผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาใสไหลรินลงมาเปียกแก้มนวลทั้งสองข้าง"สายป่าน ... สายป่านลูกพ่อ" นายปิยะเวชเอ่ยปากเรียกลูกสาวคนเดียวของเขาที่ไม่ได้พบเจอกันเลยตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาสองพ่อลูกโผเข้าหากัน สายป่านกอดผู้เป็นพ่อแล้วซบหน้าลงร้องไห้สะอึกสะอื้น ปิยะเวชลูบศรีษะทุยเล็กนั้นอย่างเอ็นดู"พ่อขอโทษป่านนะลูก พ่อผิดเองที่หลงมัวเมา เห็นคนอื่นดีกว่าลูกของตัวเอง"ปิยะเวชบอกกับลูกสาวคนเดียวในอ้อมกอด ตั้งแต่วันที่สายป่านออกจากบ้านไป เขาเองก็รู้สึกผิดที่ทำให้ลูกต้องเสียใจ เขาพยายามตามหาลูกสาวแต่ก็ไม่รู้ข่าวคราว จนเขาล้มป่วยลง กิตติยศจึงได้บอกกับเขาว่าสายป่านเดินทางมาเรียนที่กรุงเทพ เธอปลอดภัยและสุขสบายดี จนทำให้เขาคลายความเป
3 ปี ผ่านไป@ มหาวิทยาลัย BB วันนี้เป็นวันรับปริญญาบัตรของบัณฑิตใหม่ สายป่านสวมชุดครุยดูมีสง่า ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ในขณะที่มีเพื่อนๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับสายป่านและเจษนิพิฐที่จบพร้อมกันเซดริกกับมาลารินทร์ พาหนูน้อยฟาเบียนลูกชายวัยสองขวบครึ่ง และน้องฟาบริซอายุขวบครึ่งซึ่งกำลังน่ารักน่าชังทั้งคู่มาร่วมแสดงความยินดีด้วย"ยินดีด้วยนะป่าน ในที่สุดแกก็เรียนจบสมที่ตั้งใจไว้แล้ว ฉันดีใจกับแกจริงๆ นะ" มาลารินทร์โอบกอดสายป่านด้วยความดีใจที่เพื่อนรักของเธอส่งตัวเองเรียนจนจบได้สำเร็จ"นี่เป็นของขวัญรับปริญญาจากฉันกับพี่เซดริกนะ" มาลารินทร์ส่งกล่องของขวัญขนาดเท่าฝ่ามือที่ถูกห่อหุ้มอย่างดีให้กับสายป่าน"ขอบใจมากนะรินทร์" สายป่านยิ้มให้กับเพื่อนรัก แล้วส่งกล่องของขวัญให้แอลตันเก็บไว้"ส่วนนี่ของขวัญของเจ จากเรากับพี่เซดริกนะ" มาลารินทร์ส่งกล่องของขวัญให้กับเจษนิพิฐ เขารับมาพร้อมกับกล่าวขอบใจมาลารินทร์"มาๆๆ มาถ่ายรูปกันเถอะ" สายป่านเอ่ยเรียกทุกคนมาถ่ายรูปร่วมกัน"ยินดีด้วยนะครับสายป่าน" เสียงทุ้มน่าฟังที่คุ้นหูดังขึ้นทำให้สายป่านรีบหันไปตามเสียงทันที"มิกกี้ ป่านดีใจจังเลยที่คุณมา ขอบคุ
คู่รักทั้งสองคู่อยู่พักผ่อนที่โรงแรม JC อีกเกือบหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้มาลารินทร์ได้พักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงอีกสักหน่อย เมื่อครบกำหนดของการพักผ่อนแล้วจึงได้เดินทางกลับกรุงเทพ สายป่านเองก็ต้องกลับไปเตรียมตัวเรียนต่อเพราะอีกไม่กี่วันมหาลัยก็จะเปิดเทอมแล้ว@ เพนท์เฮาส์แอลตัน "พี่แอลให้ป่านมาที่นี่ทำไมคะ ป่านอยากจะกลับหอพัก อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว" สายป่านเอ่ยถามแอลตันที่นั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกอยู่ที่โซฟา"อีกตั้งสิบกว่าวันกว่าจะเปิดเทอม จะรีบร้อนหนีผัวไปไหน ยังมีเรื่องต้องตกลงกันอีกตั้งเยอะนะยัยตัวเล็ก""จะตกลงอะไรกันอีกล่ะคะ ข้อตกลงเยอะจังนะคะ" สายป่านบ่นกระปอดกระแปด"มานั่งนี่มา" แอลตันตบเบาๆ ที่หน้าตักของตัวเองเพื่อเรียกให้คนรักมานั่ง คนตัวเล็กก็ฟังอย่างว่าง่าย เธอเดินนวยนาดเข้าไปหาเขาแล้วหย่อนสะโพกลงที่ตักแกร่ง ส่วนแขนเรียวสวยคล้องอยู่ที่ลำคอของชายหนุ่ม"ว่ายังงัยคะพ่อรูปหล่อ" สายป่านเอ่ยหยอกเย้า แกล้งมองเขาด้วยสายตาที่ยั่วยวนแล้วก้มลงแนบแก้มถูไปมาเบาๆบริเวณคางสากของเขา"พี่จะให้หนูย้ายออกจากหอพักแล้วมาอยู่ที่เพนท์เฮาส์กับพี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" สายป่านได้ยินถึงกับอ้าปากหวอ"ย