“เราไปก่อนนะน้ำมนต์” เสียงของจันทร์เจ้าบอกลาเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอทันทีเพราะตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว
จันทร์เจ้าต้องแยกกับน้ำมนต์เพื่อที่จะไปทำงานที่ร้านเจ๊เพ็ญส่วนน้ำมนต์เพื่อนสนิทก็ต้องแยกตัวไปเรียนพิเศษ
“บ๊ายบายนะจันทร์เจ้าเจอกันพรุ่งนี้” น้ำมนต์ตอบกลับมาพร้อมยกมือขึ้นโบกลาเพื่อนสนิท
หลังจากนั้นเด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าก็ตรงมาที่ร้านอาหารของเจ๊เพ็ญทันที
“มีอะไรหรือเปล่าจันทร์เจ้าสีหน้าแกไม่ค่อยดีเลยนะ” เจ๊เพ็ญทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเด็กสาวพนักงานเสิร์ฟในร้านเคร่งเครียดเกินกว่าทุกวัน
“เจ๊เพ็ญพอรู้ไหมคะว่าพอมีงานอะไรบ้างที่ได้เงินง่ายๆได้เงินเยอะๆ” จันทร์เจ้าถามออกไปทันที
“มีอะไรหรือเปล่าจันทร์เจ้า” เจ๊เพ็ญเมื่อเห็นท่าทางของจันทร์เจ้าก็ถามขึ้น
“พอดีแม่ของหนูต้องเข้ารับการผ่าตัดในอาทิตย์นี้ หนูต้องจ่ายค่าผ่าตัดงวดแรกสองหมื่นห้าแต่มันมากไปกว่าเงินที่หนูมีตอนนี้ หนูเลยอยากหางานที่ได้เงินเยอะๆทำเพิ่ม” จันทร์เจ้าบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกไปทันที
เจ๊เพ็ญเองก็เอ็นดูจันทร์เจ้าไม่น้อยแต่ร้านอาหารทำธรรมดาใช่ว่าจะมีเงินมากมายพอให้จันทร์เจ้ายืมได้ เพราะตัวเองก็ต้องเก็บไว้ใช้ซื้อของทำทุนในวันถัดไป
“งานที่ได้เงินง่ายๆ ได้เงินเยอะๆ มันก็มีอยู่นะ” เหมือนมีแสงสว่างส่องบนหัวของจันทร์เจ้าเมื่อเจ๊เพ็ญพูดขึ้นเด็กสาวมีความหวังขึ้นทันที
“งานอะไรคะ พาหนูไปทำได้ไหม” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้ง
ในหัวภาวนาไม่น้อยขอให้งานที่เจ๊เพ็ญบอกมามันจะไม่ยากเกินไปที่เธอจะทำได้
“ขายตัวนะ แกจะทำได้หรอจันทร์เจ้า” เด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าชะงักขึ้นทันที
“ขายตัวหรอคะ” จันทร์ถามกลับไปอีกครั้งเพราะอาชีพนี้ใช่ว่าเธอจะไม่เคยได้ยินเพียงแต่ไม่คิดว่าเจ๊เพ็ญจะแนะนำให้เธอ
“ถ้าแกอยากได้เงินง่ายๆ เงินเยอะๆ ก็มีแค่อาชีพนี้แหละจันทร์เจ้า” เจ๊เพ็ญพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนักของจันทร์เจ้า
“ฉันพอรู้จักที่แบบนี้อยู่บ้าง แกเก็บเอาไปคิดนะจันทร์เจ้า ถ้าสนใจก็บอกฉันจะพาแกไปเอง” เจ๊เพ็ญพูดขึ้นอีกครั้ง
เธอเองก็สงสารเด็กอย่างจันทร์เจ้าไม่น้อยแต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะให้จันทร์เจ้า
จึงได้แต่แนะนำอาชีพนี้ให้กับเด็กสาวถึงมันจะไม่ค่อยจะดีนักแต่อาชีพนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรเพียงแต่คนไม่ยอมรับกันก็เท่านั้น
“ฉันเคยทำอาชีพนี้มาก่อน ฉันเลยแนะนำแก” เจ๊เพ็ญพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นเด็กสาวตรงหน้าเงียบลง
“มันไม่ใช่อาชีพที่ผิดหรอกนะจันทร์เจ้าเพียงแต่คนไม่ยอมรับ งานง่ายๆเงินดีๆ ที่แกอาจจะทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง”
“หนูรู้ว่าอาชีพนี้มันไม่ผิด จะระลาบระล้วงไปไหมถ้าหนูขอถามเจ๊เพ็ญว่าตอนทำงานนี้เจ๊เพ็ญรู้สึกยังไงบ้าง” จันทร์เจ้าถามออกไปทันทีเพราะหากเจ๊เพ็ญเคยทำงานนี้มาก็เท่ากับว่าเจ๊เพ็ญมีประสบการณ์โดยตรงมากพอที่จะแนะนำตัวเธอได้บ้าง
“แรกๆมันก็แย่นะจันทร์เจ้า ต้องเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้แต่มันก็แลกมาด้วยจำนวนเงินที่เยอะ ทำงานไปสักพักเดี๋ยวก็จะชินจนไม่รู้สึกอะไร” เจ๊เพ็ญพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมนึกไปถึงวันแรกที่ตัวเองทำงาน
“ถ้าหนูทำอาชีพนี้มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เด็กสาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อย เธอชั่งใจอยู่นานกว่าจะกล้าถามเจ๊เพ็ญออกไป
“แกทำแล้วเอาเงินไปรักษาแม่แค่นี้มันก็ไม่มีอะไรผิดหรอก แต่แกต้องยอมรับให้ได้ว่าคนที่มองเข้ามาจะติฉินนินทาแกว่าเป็น ผู้หญิงขายตัว แกพร้อมจะรับคำนี้หรือเปล่า”
เพราะตลอดระยะเวลาของการทำอาชีพขายตัวของ เจ๊เพ็ญเธอมักจะถูกตราหน้าว่าเป็น อีตัว ผู้หญิงขายตัว แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของเธอไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน
เธอมอบความสุขให้ผู้ชายและเธอได้ผลตอบแทนเป็นเงินซึ่งมันก็แฟร์แล้ว แต่ทำไมผู้คนที่โดนตราหน้ากับเป็นผู้หญิงที่ทำอาชีพนี้ทั้งที่ผู้ชายต่างหากที่เข้ามาซื้อบริการเอง
“หนูสนใจค่ะเจ๊เพ็ญ” เด็กสาวพูดขึ้นอีกครั้ง
เธอไม่มีทางเลือกอะไรมากหากต้องยอมแลกร่างกายเพื่อให้ได้เงินมาและรักษาแม่ของเธอ เธอก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ในเมื่อแม่ของเธอก็เสียสละร่างกายรับความเจ็บปวดแทนเธอเหมือนกัน
“แกคิดดีแล้วนะจันทร์เจ้า” เจ๊เพ็ญถามขึ้นอีกครั้งเพื่อเอาคำตอบที่มั่นใจจากเด็กตรงหน้า
“หนูคิดดีแล้วค่ะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ตอนนี้เธอไม่กลัวอะไรแล้วเธอกลัวเพียงอย่างเดียวคือหาเงินมารักษาแม่ไม่ทัน
“งั้นเจ๊จะพาแกที่ไปคลับของคุณทัต”
“คุณทัต” จันทร์เจ้าเอ่ยชื่อออกมาทันที
“เจ้าของคลับบ่อนพนันและสถานที่เริงรมย์ที่ฉันจะพาแกไปสมัครงาน” เจ๊เพ็ญพูดขึ้นอีกครั้ง
“หนูเคยได้ยินชื่อของเขาจากเพื่อนๆ เห็นบอกว่ารวยมากเพราะมีธุรกิจหลายอย่าง” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งเจ๊เพ็ญก็พยักหน้ารับทันที
เพราะมันเป็นอย่างที่จันทร์เจ้าพูดมาทุกอย่างคุณทัตรวยมากเพราะมีธุรกิจหลายอย่างจริงๆ แต่ที่ผู้คนรู้และดังมากๆก็คงไม่พ้น คลับ บ่อนพนันและสถานที่เริงรมย์ไว้สนองตัณหาของผู้ชาย
“แกต้องเตรียมตัวให้ดีนะจันทร์เจ้าเพราะคนที่จะไปสมัครอาชีพนี้ คุณทัตเขาเป็นคนคัดเองกับมือ”
“คัดเองกับมือคือยังไงหรอคะเจ๊เพ็ญ”
“ก็ทดลองของก่อนทำงานจริงไงละจันทร์เจ้า”
❤️
หึหึ คุณทัต
“คุณทัต พอดีใจ๋จะมาถามเรื่องเด็กขายตอนนี้มีมาบ้างไหมคะ” เสียงของคุณใจ๋ผู้จัดการคลับหรูพ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดการบ่อนพนันและสถานที่เริงรมย์ถามเจ้าของอย่างคุณทัตขึ้นทันที“ผมพึ่งเช็คของไปไม่ผ่านสักคนไม่อยากรับเข้ามาเดี๋ยวจะเสียเครดิต” ด้านเจ้าของอย่างคุณทัตก็ตอบกลับไปเช่นกันถ้าถามว่าเช็คของยังไงก็ต้องบอกตรงนี้ว่าคือการทำเรื่องอย่างว่านั่นก็คือ การมีเซ็กซ์ เพราะสำหรับเด็กที่จะรับเข้ามาทำงานบริการประเภทนี้ต้องมีประสบการณ์และร่างกายดูดีซึ่งเจ้าของอย่างคุณทัตก็จะเป็นคนเช็คของเองก่อนรับเข้าทำงานทุกครั้ง“ทางลูกค้าของเรารีเควสมาว่าอยากได้เด็กใหม่ๆบ้างเพราะวีวีไอพีของเรางานดีก็จริงแต่ซ้ำหน้าเขาเบื่อแล้ว” ผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋พูดขึ้นอีกครั้ง“คุณใจ๋เปิดรับสมัครได้เลยครับ” แน่นอนว่าเจ้าของสถานที่ก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะเดือนนี้ทั้งเดือนเขาก็ยังไม่ได้รับเด็กเข้ามาสักคนและสถานที่เริงรมย์ของเขาก็เป็นสถานที่ทำเงินมหาศาลให้กับตัวเขาและเด็กที่มาทำงาน“ได้ค่ะ ถ้าได้เรื่องยังไงใจ๋จะนัดให้เข้ามาหาคุณทัต”อาจจะสงสัยว่าทำไมเขาต้องเช็คของเองเพราะนั่นคือการที่เขาจะมั่นใจได้ว่าเด็กที่จะมาทำงานมีประสบการณ์
คุณทัตชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินออกจากบ้านด้วยความหงุดหงิดหลังจบมื้ออาหารเย็นกับครอบครัวและเรื่องที่หงุดหงิดก็เป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องการถูกบังคับให้แต่งงานอาหารมื้อนี้เป็นอาหารมื้อแรกในรอบอายุสามสิบปีก็ว่าได้ที่เขารู้สึกว่ารสชาติมันแย่ที่สุดอาจจะเพราะบรรยากาศที่เขาไม่ชอบเนื่องจากคนเป็นแม่เอาแต่จะยัดเยียดการแต่งงานให้กับเขาร่างสูงใหญ่ของคุณทัตเปิดประตูรถซุปเปอร์คาร์ราคาแพงที่มีไม่กี่คันในประเทศพร้อมกับตรงมายังคลับหรูของตัวเองทันที“คุณทัตคะ คืนนี้เที่ยงคืนพอจะว่างไหมคะ” เสียงผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋ถามขึ้นทันที“ผมว่าง คุณใจ๋มีอะไร” คุณทัตถามกลับไปทันทีเพราะเขาก็ว่างทุกคืนอยู่แล้วแต่ละคืนก็สิงอยู่ในคลับนานๆจะแวะเวียนไปบ่อนพนันหรือสถานที่เริงรมย์บ้าง เพราะห้องทำงานส่วนตัวที่รวมเอกสารทุกอย่างของเขาอยู่ที่คลับ“เด็กคนนั้นที่ใจ๋บอกจะเข้ามาคืนนี้แต่ขอเป็นเวลาเที่ยงคืน” ผู้จัดการสาวบอกขึ้นอีกครั้ง“ถ้ามาแล้วก็จัดการได้เลย”จัดการได้เลยที่คุณทัตหมายถึงก็คือการเปิดห้องให้เขากับเด็กคนนั้นที่จะมาสมัครงานเพราะหลังจากคุยกันเสร็จ ถ้าเด็กคนนั้นมั่นใจในประสบการณ์ของตัวเองก็ต้องให้คุณทัตลองสั
“คุณรู้หรือเปล่าว่าหนูไม่มีประสบการณ์” จันทร์เจ้าถามขึ้นทันทีเพราะนี่คือสิ่งกังวลกำลังเธอ ก่อนเข้ามาในห้องนี้ผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋อธิบายให้เธอฟังในเรื่องนี้“ฉันรู้ตั้งแต่เห็นหน้าของเธอและอาการประหม่าของเธอ” เพราะคุณทัตเองก็รู้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยความสนใจและความชอบทำให้เขาเลือกที่จะฉีกกฎเหล็กของตัวเอง“แล้วทำไมคุณยังให้หนูทำ” เด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามกลับมาทันที“ทั้งที่เธอรู้ว่าฉันไม่รับคนไม่มีประสบการณ์แต่ทำไมยังเลือกโกหกที่จะผู้จัดการของฉันแล้วเข้ามาในห้องนี้”คุณทัตถามเด็กสาวตรงหน้าออกไปทันทีเพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าเด็กคนนี้คิดอะไรอยู่ถึงไม่กลัวและกล้าที่จะเข้ามา“เธอยังไม่ต้องตอบฉันตอนนี้ก็ได้ ถ้าอยากได้โอกาสในการทำงานที่นี่ก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก” เมื่อเห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าไม่ตอบคุณทัตก็พูดขึ้นอีกครั้งสายตาคมคายมองตรงไปยังเด็กสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ค่อยๆยกมือถอดเสื้อยืดตัวเก่าๆของตัวเองออกจนเห็นบราสีชมพูอ่อนๆตัดกับผิวขาวๆ เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขาหายใจแทบไม่ทั่วท้อง“นะ…หนูต้องถอดหมดเลยหรอ” น้ำเสียงสั่นๆของเด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้แค่เธอถอดเสื้อยืดตัวบ
“อ่า…โทษทีปากเธอนุ่มจนฉันหยุดไม่ได้” ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตที่นอนมองหน้าเด็กสาวพูดขึ้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเขาก็เป็นอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ ปากเด็กสาวตรงหน้านุ่มกว่าอะไรนุ่มกว่าปากของใครที่เคยออรัลให้เขา“ไม่เป็นไรค่ะ หลังจากนี้คุณจะให้หนูทำอะไรต่อ” เด็กสาวถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ตัวเธอเองก็รู้สึกประหม่าอย่างมาก“มีเซ็กซ์กับฉันเพราะฉันอยากลองของใหม่แกะกล่องอย่างเธอจะแย่” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจับตัวเด็กสาวตรงหน้าให้นอนลงกับเตียงกว้าง “คะ…คุณ” “รอฉันถอดเสื้อผ้าแล้วเราจะเริ่มกันเด็กน้อย” คุณทัตจับปลายคางเด็กสาวแล้วพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเขาที่ลุกขึ้นเต็มความสูงถอดกางเกงที่อยู่ที่ปลายขาออกและถอดเสื้อเชิ้ตออกเช่นกัน แน่นอนว่าทุกคนการกระทำของคนอายุมากกว่าอยู่ในสายตาของเด็กสาว หลังจากนั้นร่างกายสูงใหญ่ของคุณทัตก็ขึ้นค่อมเด็กสาวตรงหน้าไว้ทันที เขาซุกไซร้ไปตามลำคอขาวดอมดมกลิ่นกายความหอมที่ส่งกลิ่นออกมา “อื้ออ…คุณ” เสียงเด็กสาวร้องขึ้นทันทีเพราะการกระทำของคุณทัตทำเธอใจเต้นไม่น้อย นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเธอและเธอเองก็ตื่นเต้นมากๆเพราะมันคือครั้งแรกของเธอที่จะพิสูจน์ว่าเธอจ
ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตนอนมองเด็กสาวที่ตอนนี้สลบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใจจริงคุณทัตเองก็อยากจะถนอมเธอไว้แต่เมื่อได้กระแทกแก่นกายเข้าไปรัวๆในร่องรักที่คับแน่นทำเอาเขาไม่สามารถห้ามกามอารมณ์ไว้ได้ คุณทัตลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับแต่งตัวและจัดการล็อกประตูห้องจากด้านนอกเพื่อไม่ให้คนด้านในออกมาได้ก่อนที่เขาจะเดินตรงมายังโซนวีไอพีของคลับปากหนาพ่นควันบุหรี่ออกมาหลังจากอันนิโคตินเข้าปอดไปเต็มๆ ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วแอลกอฮอล์สีสวยเข้าปาก เขากำลังคิดทบทวนตัวเองและเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ถึงเด็กสาวคนนั้นจะไม่มีประสบการณ์ไม่รู้ประสีประสาแต่เซ็กซ์ของเธอถูกใจเขามากจริงๆ ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตเดินกลับเข้าไปในห้องที่พึ่งผ่านสมรภูมิเซ็กซ์อีกครั้ง ตอนนี้เด็กสาวบนเตียงตื่นเรียบร้อยแล้วเพราะตอนนี้ก็เกือบเช้าแล้วเหมือนกัน คุณทัตเดินตรงไปยังโต๊ะหน้าเตียงพร้อมกับมองหน้าเด็กสาวที่ก้มหน้างุดอยู่บนเตียง “คุณจะรับหนูเข้าทำงานไหม” เด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามออกมาทันทีเพราะสิ่งเดียวในหัวเธอคือเธออยากรู้ว่าเธอจะได้ทำงานหรือเปล่า “ฉันมีเรื่องจะถามเธอ” คุณทัตไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะพูดออกไปเพราะตอนนี้เขาอยากรู้มา
“เรียกฉันว่าคุณทัตดีกว่านะจันทร์เจ้า” เจ้าของร่างสูงใหญ่ของคุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะตลอดทั้งคืนจันทร์เจ้าเอาแต่เรียกเขาว่าคุณ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถูกใจนักเท่าไหร่จึงเอ่ยปากบอกคนตรงหน้า “คุณทัต” จันทร์เจ้าทำตามอย่างง่าย เธอเปล่งเสียงเรียกชื่อเขาออกมาทำเอาคนโตกว่ายกยิ้ม “แบบนั้นแหละเด็กดีของฉัน” ไม่ว่าเปล่าอีกทั้งยังยกมือลูบหัวเด็กสาวตรงหน้าอีกด้วย “วะ…วันนี้หนูต้องไปหาคุณหรือเปล่า” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้ง“ฉันให้เธอพักหนึ่งวันแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยมาหาฉัน” คุณทัตตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก็เดินออกไปทันที ธุระของเขาคือการเอาบัตรประชาชนมาคืนเธอนั่นแหละแต่ไม่รู้ทำไมถึงต้องรีบร้อนเอามาคืนทั้งที่รอให้เธอมาหาแล้วค่อยคืนก็ได้ “คุณเขากลับไปแล้วหรอจันทร์เจ้า” เสียงคนเป็นแม่ถามขึ้นทันที “กลับไปแล้วค่ะ” “ทำงานกับคุณเขาทำตัวดีๆนะจันทร์เจ้า สายตาที่เขามองจันทร์เจ้าดูเอ็นดูลูกไม่น้อยเลย” เพราะคนเป็นแม่เองก็มองขาดอยู่แล้วในเรื่องแบบนี้ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าสายตาคุณทัตคนที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายคนใหม่ของลูกสาวเอ็นดูลูกสาวของเธอไปทางไหน“หนูเป็นเด็กดีแน่นอนค่ะแม่” จันทร์เจ้าตอบกลับไปทันทีถึงแม่ไม่บอกเธอก็ตั้
“อยากรู้จริงๆหรอจันทร์เจ้าว่าฉันมองเธอว่าเป็นอะไร” เสียงทุ้มพูดขึ้นข้างหูเด็กสาวทำเอาจันทร์เจ้าขนลุกซู่ ยิ่งสันจมูกคมๆของคุณทัตกำลังถูไปมาตามใบหูก็ยิ่งทำให้เด็กสาวเกิดความรู้สึกสยิว “อยากรู้สิ ยิ่งคุณพูดแบบนี้หนูยิ่งอยากรู้เพราะสิ่งที่หนูทำมันไม่ต่างกับเด็กขายเลยนะ” จันทร์เจ้าตอบกลับมาทันทีเมื่อคนที่โตกว่าอย่างคุณทัตได้ยินคำตอบก็อยากจะจับเด็กตรงหน้าลงโทษให้หลาบจำเพราะเขาไม่เคยมองเธอแบบนั้นเลยแต่จะว่าเธอก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่เคยพูดออกไปเพราะเรื่องราวของเขาและเธอมันเกิดขึ้นเร็วแต่ความรู้สึกของเขาดันไปไกลแล้ว “เธอต่างเพราะเธอทำแบบนี้แค่กับฉันคนเดียว”“ฉันเลยไม่เคยมองว่าเธอเป็นเด็กขายกลับกันฉันมองว่าเธอเป็น เด็กของฉัน จันทร์เจ้า”ใบหน้าสวยของจันทร์เจ้าแดงขึ้นสีทันทีเมื่อคนที่โตกว่าพูดขึ้น เด็กสาวได้แต่ซบหน้าลงบนอกแกร่งอย่างลืมตัวเพราะความเขินอายส่วนคนตัวโตที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยกมือลูบหัวเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู “เข้าใจคำว่าเด็กของฉันไหมจันทร์เจ้า” คุณทัตถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาอะไรแต่เขาก็พอดูออกว่าอาการที่เด็กบนตัวเขาเป็นอยู่คืออาการเขินอายไห
“เย็นนี้เธอว่างใช่ไหม” หลังจากคุยโทรศัพท์กับคนเป็นแม่เสร็จคุณทัตก็ตรงมาหาเด็กสาวที่รออยู่และถามขึ้นทันที “หนูว่างค่ะ” เด็กสาวจันทร์เจ้าพูดขึ้นเพราะเธอว่างตลอดอยู่แล้ว “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย” เด็กสาวเอียงหน้ามองคุณทัตอย่างไม่เข้าใจ เรื่องอะไรกันที่คุณเขาถึงเอ่ยปากขอให้เธอช่วย “ช่วยอะไรหรอคะ” ไม่รีรอให้นานมากกว่านี้เพราะความสงสัยที่มีอยู่มันมากจนทำให้จันทร์เจ้าถามออกไป “ช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันตบตาแม่ของฉันหน่อย” เด็กสาวตกใจไม่น้อยกับคำพูดของคุณทัต ให้เธอแกล้งเป็นแฟนคุณเขาอะนะ “จะดีหรอคะ หนูว่าหนูไม่เหมาะกับคุณหรอก” เพราะเธอเองก็เจียมตัวอยู่ตลอด เธอก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาไม่ได้มีหน้ามีตาอะไรในสังคมต่างกับคุณทัตที่เป็นคนมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างรู้จัก การที่คุณเขาจะมาคบเด็กกะโปโลอย่างเธอมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย “ฉันเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงต้องการให้เธอมีเซ็กซ์กับฉันแค่คนเดียว” คุณทัตถามขึ้นทันทีเพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคยบอกเด็กสาวตรงหน้าไปหรือยัง “มะ…ไม่เคยค่ะ” น้ำเสียงสั่นๆของเด็กสาวตอบมาทันทีเพราะคุณทัตไม่เคยบอกอะไรกับเธอเพียงแต่บอกให้เธอขายตัวให้ก
“เห็นไหม หม่าม้าบอกแล้วเดี๋ยวฟันจะหลุด” หม่าม้าคนสวยพูดขึ้นทันทีพร้อมกับหยิบแอปเปิลออกจากมือลูกชายทั้งสองดูไปดูมาก็อดจะขำไม่ได้ เด็กอะไรไม่รู้ฟันหลุดออกมากับแอปเปิลที่กัด น่าขำเสียจริง “สมุทรอดเป็นคนหล่อเลย” เหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ฟันน้ำนมของตัวเองหลอไปสองซี่ยิ่งกว่าเหนือนทีกับเหนือนภาเสียอีก “เวหาว่าเรายังหล่อเหมือนเดิม” เหนือเวหาที่กำลังปลอบใจตัวเองก็หันไปปลอบใจพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรเพราะทั้งสองคนฟันหลุดออกมาสองซี่หน้าบ้านเหมือนกัน“ฮ่าๆ ดีนะเลือดไม่ออก” ป๊ะป๋าที่สำรวจดูปากของลูกชายตัวแสบพูดขึ้นทันที ใจจริงก็อยากสงสารอยู่หรอกแต่ตอนนี้มันสงสารไม่ได้จริงๆ “ยินดีต้อนรับสู่แก๊งฟันหลอ” เหนือนภาพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้พี่ชายทั้งสามคนฟันหลอเหมือนกับเธอหมดแล้ว“ไม่ได้อยากเข้าหรอก” เหนือเวหาพูดขึ้นเพราะตัวเองไม่ได้อยากฟันหลอสักนิดและมันก็เป็นเพราะเจ้าแอปเปิลลูกนั้น“ต่อจากนี้สมุทรจะไม่กัดแอปเปิลแบบนั้นอีกแล้ว” เหนือสมุทรพูดขึ้นอีกครั้งเพราะฟังใจไปแล้วว่าการกัดแอปเปิลทำเอาฟันหลุดถึงสองซี่ “เวหาด้วย” เหนือเวหาที่เห็นดีเห็นงามกับพี่ชายคนโตก็พูดขึ้นทันที ก่อนที่เหตุการณ์ในห้
หลายปีผ่านไป “หม่าม้า สมุทรอยากกินช็อกโกแลต” เสียงพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้หม่าม้าคนสวยกำลังยืนจัดขนมอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว“หม่าม้าจะให้กินต่อเมื่อสมุทรไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆขึ้นจากสระน้ำ” เพราะตอนนี้แฝดอีกสามคนรวมถึงป๊ะป๋าอย่างคุณทัตไม่ยอมขึ้นจากน้ำสักที มีแต่เหนือสมุทรพี่คนโตของบ้านนี่แหละที่ขึ้นมาหวังจะอ้อนหม่าม้าเพื่อเอาช็อกโกแลต “หม่าม้าให้สมุทรก่อนหนึ่งชิ้น เดี๋ยวสมุทรไปตามให้” นั่นแหละนิสัยหนึ่งอย่างของพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทร เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน “ให้สองชิ้นเลยครับแล้วไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆนะ” หม่าม้าคนสวยอย่างจันทร์เจ้าส่งช็อกโกแลตให้ลูกชายคนโตก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแจ้นออกไปที่สระว่ายน้ำข้างบ้าน “ป๊ะป๋า ขึ้นได้แล้วหม่าม้าให้มาตามแล้วนะ” เหนือสมุทรเดินตรงไปหาป๊ะป๋าที่กำลังยืนพิงขอบสระ“โอเคครับ สมุทรรอป๋าก่อนนะ ป๋าไปพาน้องๆขึ้นก่อน” ป๊ะป๋าแฝดสี่พูดขึ้นทันทีก่อนจะตรงไปอุ้มแฝดสามที่อยู่ในน้ำขึ้นข้างบนทีเดียวพร้อมกันสามคน “หนูยังไม่อยากขึ้นเลยป๊ะป๋า” น้องเล็กอย่างเหนือนภาที่มีนิสัยขี้อ้อนกอดขาป๊ะป๋าพร้อมกับพูดขึ้น “รีบไปอาบน้ำกันดีกว่าเพราะช้ากว่านี้หม่าม้
“เป็นยังไงบ้างจันทร์เจ้า โอเคไหม” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของคุณทัตเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยขึ้นทันทีเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าออกจากห้องคลอดได้สักพักแล้ว “หนูโอเค แล้วลูกล่ะคะป๋า” แน่นอนว่าหม่าม้ามือใหม่ที่ตื่นขึ้นมาก็ได้แต่ถามหาเจ้าเด็กแฝดสี่เพราะตอนนี้ไม่เห็นลูกน้อยของเธอสักคน “เดี๋ยวพยาบาลพามาครับ รู้ไหมลูกของเราไม่ต้องอยู่ในตู้อบนะ แข็งแรงทุกคนเลย”“ดีแล้วค่ะ หนูอยากอุ้มลูกแล้ว ป๋าไปตามให้หน่อยได้ไหม” เพราะหม่าม้ามือใหม่คนนี้เห็นหน้าลูกแค่ตอนที่คุณหมอรุ่นพี่เอาออกมาเท่านั้นและตอนนี้เธอก็อยากอุ้มเจ้าเด็กแฝดสี่แล้ว “ฮ่าๆ ใจเย็นๆนะครับหม่าม้า เดี๋ยวเขาพามานะ” คุณทัตลูบหัวเมียเด็กของตัวเองทันทีเพราะดูเหมือนตอนนี้จันทร์เจ้าจะไม่เอาอะไรแล้วนอกจากเจ้าเด็กแฝดสี่อย่างเดียว “เอาน้องมาส่งค่ะ” เสียงของคุณหมอรุ่นพี่ที่ทำคลอดให้กับจันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับพยาบาลอีกสามคนที่ช่วยกันเข็นเตียงสำหรับเด็กแรกเกิดเข้ามาในห้อง จันทร์เจ้าที่พึ่งได้เป็นหม่าม้าเต็มตัวในวันแรกก็ได้แต่น้ำตาไหลออกมาเมื่อมองภาพเจ้าเด็กแฝดกำลังนอนเรียงกันอยู่ “น่ารักจนใจเจ็บเลยลูกหม่าม้า” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับลงจากเตียงเ
หลายอาทิตย์ผ่านไป “ตื่นเต้นไหมคะจะได้รู้เพศลูกแล้ว” จันทร์เจ้าถามคุณป๋าขึ้นทันทีเพราะตอนนี้คุณป๋าของเธอมาหาเธอที่โรงพยาบาลเตรียมจะไปตรวจเพศลูก“ตื่นเต้นสิ ไม่รู้ว่าเจ้าแฝดในท้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” คุณทัตพูดขึ้น แต่ในใจก็กลับภาวนาขอให้เป็นลูกชายเพราะถ้าเป็นลูกสาวเขาคงต้องหวงมากแน่ๆ “ป๋าอยากได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ” จันทร์เจ้าถามขึ้นทันทีพร้อมลูบท้องโตๆของตัวเองไปด้วย “อยากได้ลูกชายทั้งสามคน” คุณทัตตอบกลับไปตามตรง ไม่ใช่ไม่อยากได้ลูกสาวแต่แค่คิดถึงอนาคตตอนมีคนมาจีบลูกสาวก็แทบจะบ้าแล้ว “เพราะอะไรคะ” จันทร์เจ้าถามกลับอีกครั้ง เธออยากรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมคุณป๋าของเธอถึงอยากได้ลูกชายอย่างเดียว“เพราะถ้าเป็นลูกสาวหากมีคนมาจีบ ฉันคงหวงมากแน่ๆ” ประโยคนี้ของคุณทัตทำเอาจันทร์เจ้าหลุดหัวเราะออกมาเพราะเธอก็ไม่คิดหรอกว่าป๊ะป๋าของเจ้าแฝดจะคิดไปไกลขนาดนี้ “เดี๋ยวจะออกมาเป็นลูกสาวทั้งสาวคน” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีทำเอาคุณทัตหน้าบึ้งในทันตาเพราะถ้าเป็นลูกสาวสามคนมีหวังป๊ะป๋าของเจ้าแฝดคงไว้หนวดไว้เคราทำตัวเซอร์ๆแล้วล่ะ “มาเถอะ ลูกสาวหรือลูกชายก็ลูกฉันทั้งนั้น” สุดท้ายก็ได้แต่จำยอมเพราะยังไงเข
“ถ้าลูกเรียกฉันว่าป๊ะป๋า รู้ไหมว่าลูกต้องเรียกเธอว่าอะไร” คุณทัตพูดขึ้นทันทีทำจันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นอีกครั้งเพราะเธอคิดคำที่จะให้เจ้าแฝดเรียกไว้แล้วล่ะ“ลูกก็เรียกหนูว่าหม่าม้า” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะคำว่าหม่าม้าเข้ากับป๊ะป๋าสุดๆไปเลย“ส่วนฉันก็จะเรียกเธอว่าหม่าม้าด้วยดีไหมจันทร์เจ้า” แน่นอนว่าคำพูดนี้ของคุณทัตทำเอาเมียเด็กอย่างจันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นสีเพราะความเขินอาย “หม่าม้าจันทร์เจ้า แบบนี้โอเคไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเมียเด็กเกิดอาการเขินเพราะท่าทางของเธอมันน่ารักจนอดใจที่จะแกล้งไม่ได้ “ไม่โอเคเพราะหนูเขิน” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะตอนนี้เธอเขินจนตัวแทบแตกแล้ว“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหม่าม้านี่แหละ เธอจะได้หายเขินดีไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าจันทร์เจ้าส่ายหัวอย่างไวเพราะเธอไม่มีทางหายเขินหรอก ขนาดคำว่าเมียเธอยังเขินไปสิบวัน ขืนคุณทัตเรียกเธอว่าหม่าม้าเธอได้เขินไปเป็นเดือนแน่ “ให้ลูกเรียกได้อย่างเดียว” จันทร์เจ้ายื่นคำขาดออกมาทำเอาหัวใจคุณป๋าห่อเหี่ยวเพราะแกล้งเมียเด็กไม่ได้แล้ว “ยอมก็ได้ เห็นว่าเป็นลูกหรอกนะ” พูดจบคุณทัตก็ก้มหน้าลงไปแนบกับหน้าท้องที่นูนออกมาเล
หลายปีผ่านไป “เป็นยังไงบ้างคุณหมอตัวน้อยของฉัน” คุณทัตกางแขนออกกว้างเพื่อรอคุณหมอตัวน้อยหรือเมียเด็กของเขาเข้ามากอดเพราะตอนนี้เมียเด็กของเขาเรียนจบแล้วอีกทั้งยังเป็นแพทย์หญิงสุดสวยประจำโรงพยาบาลอีกด้วย “เหนื่อยมากเลยค่ะ วันนี้คนไข้เยอะมาก” ด้านจันทร์เจ้าเองก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปหาคุณป๋าของตัวเองเพราะทุกวันที่เธอกลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็จะมีอ้อมกอดอุ่นๆของคุณป๋ารออยู่เสมอ “เหนื่อยก็ลาออกมาอยู่เฉยๆ ฉันเลี้ยงเธอได้สบายเลยนะ” นี่ก็เป็นประโยคที่คุณทัตพูดขึ้นทุกวันเมื่อเมียเด็กบ่นว่าเหนื่อย “ทำงานยังไม่คุ้มกับที่เรียนมาเลย หนูไม่ลาออกหรอกนะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีเพราะเธอรักการเป็นหมอและรักในการได้รักษาคนอื่น “ตามใจเธอ แต่รู้ใช่ไหมเรียนจบแล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เธอต้องทำ” คุณทัตพูดขึ้นเพราะสิ่งเดียวที่เขารอมานานมันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “อะไรหรอคะ” ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่จันทร์เจ้าก็เลือกที่จะถามออกไป “มีลูกกับฉันไงจันทร์เจ้า รู้ไหมว่าฉันเลี้ยงลูกของเพื่อนมานานถึงหกปีแล้วนะ” ฟังไม่ผิดหรอกเพราะทุกวันนี้คุณทัตอยากมีลูกเต็มแก่แล้วเพราะอายุของเขาก็ปาไปถึงวัยสามสิบหกแต่ยังไม่มีลูกสั
“สัญญาเลยนะว่าฉันจะพาเธอเที่ยวที่สวยๆแบบนี้บ่อยๆ” สำหรับเมียเด็กของเขาแล้ว เธอควรได้รับอะไรดีๆพวกนี้และแน่นอนเขาจะเป็นคนมอบมันให้กับเธอ “ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีป๋าหนูก็พร้อมจะไปกับป๋าทุกที่” คุณทัตยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของจันทร์เจ้าเพราะไม่ว่่าเวลาจะผ่านมากี่เดือน เธอก็ยังน่ารักกับเขาอยู่เสมอ “เด็กดีของฉัน” แน่นอนว่าจันทร์เจ้าเองก็เขินจนตัวบิดกับคำพูดของคุณทัตก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนท่ายืนเป็นจันทร์เจ้าที่กำลังหันหน้าออกไปมองบอลลูนต่างๆที่อยู่บนท้องฟ้าและแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า คุณทัตที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพด้านหลังของเมียเด็กและบรรยากาศรอบๆ ก่อนจะสะกิดเมียเด็กให้หันมาถ่ายรูปด้วยกัน “ขออีกรูปนะจันทร์เจ้า” คุณทัตพูดขึ้นทันทีพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆเพราะไม่ว่าถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด สวยทั้งบรรยากาศ ทั้งเมียเด็กของเขา นานนับชั่วโมงที่บอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนข้างบนได้ชมบรรยากาศ แน่นอนว่าทั้งคุณทัตกับจันทร์เจ้าไม่ปฏิเสธเลยว่ามันไม่สวยเพราะมันสวยมาก สวยจนไม่อยากละสายตาและไม่อยากให้เวลาหมดไปเพราะอยากจะอยู่บนบอลลูนนานๆ “ง่วงหรือเปล่า” คุณทัตถา
สนามบิน “เราจะไปประเทศอะไร ป๋ายังไม่ได้บอกหนูเลยนะ” เสียงหวานของจันทร์เจ้าถามคุณทัตขึ้นทันทีเพราะขนาดตอนนี้ที่กำลังจะบินแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าคุณป๋าจะพาไปที่ไหน “อยากรู้หรอ” คุณทัตถามขึ้นเพราะที่เขาไม่บอกเพราะเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์เมียเด็กทีเดียวแต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเพราะเมียเด็กของเขาเอาแต่ถามเพราะความอยากรู้ “อยากรู้สิคะ อีกอย่างบินครั้งแรกของหนูด้วย หนูต้องอยากรู้อยู่แล้ว” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกครั้งเพราะเธอตื่นเต้นและอยากรู้มากๆ “ไปตุรกี” แน่นอนว่าตอนนี้จันทร์เจ้าตกใจไม่น้อยกับคำตอบของคุณทัต “ไหนป๋าบอกว่าไปประเทศใกล้ๆ แต่นี่ไปถึงตุรกีเลยหรอ” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู เธอก็ไม่คิดหรอกว่าคุณป๋าจะพาเธอไปไกลถึงขนาดนี้ “ฉันอยากพาเธอไปเที่ยวในที่สวยๆบรรยากาศดีๆ ครั้งนี้เลยเลือกไปตุรกี” คุณทัตบอกเหตุผลไปตามตรงเพราะที่เขาเลือกสถานที่นี้ก็เพราะบรรยากาศและความสวยงาม “เราจะขึ้นเครื่องตอนไหน รู้ไหมว่าหนูตื่นเต้นมาก” คุณทัตเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเมียเด็ก เขาได้แต่ยกยิ้มออกมาเพราะมือเล็กของเมียเด็กเย็นไปหมด “ตื่นเต้นจนมือเย็นเลยหรอ” “ขะ…ขึ้นเครื่องครั้งแรก ไปต่างประเทศครั
“เด็กดีรู้หรือเปล่าว่ามีคนกำลังมองเราสองคนเยอะเลย” คุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะไอ้คนที่มองมาไม่ได้พึ่งจะมามองตอนเขามาหรอกแต่มองตั้งแต่แรกตั้งแต่ตอนที่เมียเด็กของเขาอยู่กับเพื่อนสนิท “มองแล้วทำไมหรอ ป๋าอายหรอที่หนูนั่งแบบนี้” จันทร์เจ้าที่คร่อมอยู่บนตักมุ่ยหน้าทันที อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยที่ทำให้เธองอแงขนาดนี้“ไม่อายหรอกเพราะฉันอยากให้เธอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ” เพราะการที่จันทร์เจ้าทำมากกว่านี้มันก็เหมือนเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือของเขา “ไม่ได้หรอกคนมองเยอะ” ถึงปากจะบอกไม่ได้แต่ตอนนี้ใบหน้าสวยก้มลงคลอเคลียกับลำคอของเขาไปแล้ว แน่นอนว่าคุณทัตเองก็เอียงคอให้จันทร์เจ้าทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะไม่งั้นเมียเด็กที่กำลังเมาอาจจะงอแงมากกว่าเดิม “ถ้าป๋ามีรอยคงจะดีไม่น้อยเลย จริงไหม” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับมือเล็กที่ลูบไปตามลำคอของคุณป๋า “อยากทำอะไรก็ทำเลย” จันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของคุณทัตก่อนที่เธอจะดูดและขบเม้มเบาๆที่ลำคอของคุณป๋าจนเป็นสีดอกกุหลาบจางๆ “ถ้ามีผู้หญิงเข้าใกล้ ป๋าโชว์รอยเลยนะ” “แค่เธอนั่งบนตักฉันแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งแล้วล่ะจันทร์เจ้า” ทุกคนก็ได