“คุณทัต พอดีใจ๋จะมาถามเรื่องเด็กขายตอนนี้มีมาบ้างไหมคะ” เสียงของคุณใจ๋ผู้จัดการคลับหรูพ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดการบ่อนพนันและสถานที่เริงรมย์ถามเจ้าของอย่างคุณทัตขึ้นทันที
“ผมพึ่งเช็คของไปไม่ผ่านสักคนไม่อยากรับเข้ามาเดี๋ยวจะเสียเครดิต” ด้านเจ้าของอย่างคุณทัตก็ตอบกลับไปเช่นกัน
ถ้าถามว่าเช็คของยังไงก็ต้องบอกตรงนี้ว่าคือการทำเรื่องอย่างว่านั่นก็คือ การมีเซ็กซ์ เพราะสำหรับเด็กที่จะรับเข้ามาทำงานบริการประเภทนี้ต้องมีประสบการณ์และร่างกายดูดีซึ่งเจ้าของอย่างคุณทัตก็จะเป็นคนเช็คของเองก่อนรับเข้าทำงานทุกครั้ง
“ทางลูกค้าของเรารีเควสมาว่าอยากได้เด็กใหม่ๆบ้างเพราะวีวีไอพีของเรางานดีก็จริงแต่ซ้ำหน้าเขาเบื่อแล้ว” ผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋พูดขึ้นอีกครั้ง
“คุณใจ๋เปิดรับสมัครได้เลยครับ” แน่นอนว่าเจ้าของสถานที่ก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะเดือนนี้ทั้งเดือนเขาก็ยังไม่ได้รับเด็กเข้ามาสักคนและสถานที่เริงรมย์ของเขาก็เป็นสถานที่ทำเงินมหาศาลให้กับตัวเขาและเด็กที่มาทำงาน
“ได้ค่ะ ถ้าได้เรื่องยังไงใจ๋จะนัดให้เข้ามาหาคุณทัต”
อาจจะสงสัยว่าทำไมเขาต้องเช็คของเองเพราะนั่นคือการที่เขาจะมั่นใจได้ว่าเด็กที่จะมาทำงานมีประสบการณ์ที่ดีพอที่จะทำให้ลูกค้าติดใจได้และที่เขาเลือกเฉพาะคนที่มีประสบการณ์เพราะเขาเองไม่อยากเปิดบริสุทธิ์ผู้หญิงคนไหนต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะมาสมัครด้วยความเต็มใจก็เถอะและคนที่มีประสบการณ์มักจะทำงานได้ดีไม่มีอิดออดนั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญ
“มีอะไรอีกหรือเปล่าคุณใจ๋” คุณทัตถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าผู้จัดการสาวยังยืนอยู่ที่เดิม
“พอดีว่าคนที่ใจ๋รู้จักเขาอยากจะพาเด็กมาสมัครงาน ใจ๋เลยจะถามว่าถ้าเขาไม่ได้มาสมัครเองโดยตรงแต่มีคนแนะนำมาคุณทัตจะรับไหม”
“เขาเต็มใจที่จะมาทำใช่ไหมเด็กคนนั้น” เขาถามออกไปทันทีเพราะเขาเองก็กลัวว่าเด็กคนนั้นจะถูกหลอกมา
“เห็นบอกว่าเต็มใจทำเอง แต่เหตุผลเพราะอะไรใจ๋ก็ไม่แน่ใจ” คุณใจ๋ผู้จัดการสาวพูดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าเขาพร้อมก็ให้เข้ามา ผมไม่เลือกอะไรมากหรอกเด็กหายากแล้วช่วงนี้” เขาตอบกลับไปทันทีพร้อมกับก้มหน้าลงสนใจกับเอกสารตรงหน้าต่อ
ไม่ว่าใครจะแนะนำหรือใครจะพามาแต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วเจ้าตัวเต็มใจเองเขาก็ไม่ขัด
หลังจากนั้นก็ค่อยมาดูกันอีกทีว่ามีประสบการณ์ดีพอที่จะรับเข้าทำงานหรือเปล่า
หลังจากเสร็จจากงานตรงหน้าร่างสูงเจ้าของสถานที่อย่างคุณทัตก็ลุกออกจากที่ทำงานตรงกลับมาที่บ้านเพราะวันนี้คุณแม่ของเขานัดทานข้าวและคงมีเรื่องอะไรอีกสักอย่างที่ไม่พ้นเรื่องแต่งงานให้เขาปวดหัว
“สวัสดีครับ” ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตเอ่ยปากขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะนั่งลงบนโซฟากลางบ้านตรงข้ามคนเป็นพ่อเป็นแม่ทันที
“รู้ใช่ไหมที่แม่เรียกลูกมาจะคุยเรื่องอะไร” เจ้าของน้ำเสียงนุ่มนวลของคนเป็นแม่ถามขึ้น
“รู้ครับแต่ผมไม่แต่งไม่ว่ากับใคร” แน่นอนคนเด็ดเดี่ยวอย่างเขาก็ไม่มีทางที่จะยอมให้ใครมาบังคับได้ง่ายๆ
“ตาทัตลูกอายุสามสิบแล้วทำไมถึงไม่ยอมแต่งงานสักที” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้ง
คนเป็นแม่เองก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับลูกชาย เขาเพียงแค่อยากเห็นลูกชายแต่งงานมีครอบครัวก็เพียงเท่านั้นแต่เหมือนลูกชายหัวดื้อจะไม่ยอมสักที
“อย่าไปบังคับลูกเลยคุณเดี๋ยวอยากแต่งตอนไหนก็แต่งเอง” คนเป็นพ่อพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตัวเองก็เข้าใจลูกชายไม่น้อยว่าคงอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่และยังสนุกกับงาน
“หยุดเข้าข้างกันเสียทีเพราะยังไงแม่ก็จะให้ทัตแต่งงาน” คนเป็นแม่พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดเพราะถ้าหากไม่ใช้ไม้ตายลูกชายเพียงคนเดียวของเธอก็ไม่มีทางยอมแต่งงานเป็นแน่
“ผมไม่แต่งครับ แม่ก็รู้ว่าแม่ไม่มีทางบังคับผมได้” เขาตอบกลับไปอีกครั้ง
เขายอมสานต่อธุรกิจของพ่อก็ดีเท่าไหร่แล้ว ใจจริงแล้วเขาไม่ชอบงานบริหารธุรกิจอะไรพวกนี้เลย ความฝันจริงๆของเขาอยากเป็นเชฟแต่ที่บ้านดันมีธุรกิจและเขาเป็นลูกชายคนเดียวมันจึงทำไม่ได้หากเขาไม่สารต่อและดูแลธุรกิจเหล่านี้
“เราบังคับให้ลูกดูแลธุรกิจแล้วคุณจะอะไรอีก เรื่องคู่ชีวิตปล่อยไปเถอะ ทัตมันโตแล้วเดี๋ยวก็หาคนรักได้เอง” คนเป็นพ่อเข้าใจลูกชายอย่างสุดซึ้งเพราะเขาเองก็รับปากลูกชายไว้แล้วว่าจะขอบังคับเรื่องงานเพียงอย่างเดียว
“ทัตจะไม่ยอมแต่งใช่ไหม” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้ง
“ครับ ผมไม่แต่ง” แน่นอนว่าเขาเองก็ยังยืนคำเดิมและยืนยันคำนี้มาตั้งแต่อายุยี่สิบห้าจนตอนนี้อายุสามสิบแล้วก็ยังยืนยันคำเดิม
“ถ้าตาทัตไม่แต่งแม่ก็จะหาคนมาแต่งกับลูกให้ได้ ลูกคุณหญิงคุณนายเพื่อนแม่เยอะแยะ” คนเป็นแม่พูดขึ้นอีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เธอพูดเธอทำจริงแน่เพราะลูกชายเพียงคนเดียวไม่ยอมแต่งงานเธอก็ไม่มีทางได้อุ้มหลาน
“ถ้าแบบนั้นแม่ก็แต่งเองเถอะครับเพราะผมจะแต่งก็ต่อเมื่อผมเจอคนที่ใช่” สำหรับเขาแล้วการหาใครสักคนมาอยู่ด้วยตลอดชีวิตมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำคัญเขาก็ยังไม่เจอเธอคนนั้น
“แล้วคนที่ใช่ของลูกจะมาตอนไหนละแม่ให้เวลามาห้าปีแล้วยังไม่มีคนรักเลยสักคน”
“เดี๋ยวมันก็มีมาเองนั้นแหละครับ”
“คอยดูเถอะไม่เกินสามวันนี้แม่จะหาเอาลูกสาวคุณหญิงคุณนายมาดูตัวกับลูก”
❤️
คุณแม่รอหน่อยจ้า
คุณทัตชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินออกจากบ้านด้วยความหงุดหงิดหลังจบมื้ออาหารเย็นกับครอบครัวและเรื่องที่หงุดหงิดก็เป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องการถูกบังคับให้แต่งงานอาหารมื้อนี้เป็นอาหารมื้อแรกในรอบอายุสามสิบปีก็ว่าได้ที่เขารู้สึกว่ารสชาติมันแย่ที่สุดอาจจะเพราะบรรยากาศที่เขาไม่ชอบเนื่องจากคนเป็นแม่เอาแต่จะยัดเยียดการแต่งงานให้กับเขาร่างสูงใหญ่ของคุณทัตเปิดประตูรถซุปเปอร์คาร์ราคาแพงที่มีไม่กี่คันในประเทศพร้อมกับตรงมายังคลับหรูของตัวเองทันที“คุณทัตคะ คืนนี้เที่ยงคืนพอจะว่างไหมคะ” เสียงผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋ถามขึ้นทันที“ผมว่าง คุณใจ๋มีอะไร” คุณทัตถามกลับไปทันทีเพราะเขาก็ว่างทุกคืนอยู่แล้วแต่ละคืนก็สิงอยู่ในคลับนานๆจะแวะเวียนไปบ่อนพนันหรือสถานที่เริงรมย์บ้าง เพราะห้องทำงานส่วนตัวที่รวมเอกสารทุกอย่างของเขาอยู่ที่คลับ“เด็กคนนั้นที่ใจ๋บอกจะเข้ามาคืนนี้แต่ขอเป็นเวลาเที่ยงคืน” ผู้จัดการสาวบอกขึ้นอีกครั้ง“ถ้ามาแล้วก็จัดการได้เลย”จัดการได้เลยที่คุณทัตหมายถึงก็คือการเปิดห้องให้เขากับเด็กคนนั้นที่จะมาสมัครงานเพราะหลังจากคุยกันเสร็จ ถ้าเด็กคนนั้นมั่นใจในประสบการณ์ของตัวเองก็ต้องให้คุณทัตลองสั
“คุณรู้หรือเปล่าว่าหนูไม่มีประสบการณ์” จันทร์เจ้าถามขึ้นทันทีเพราะนี่คือสิ่งกังวลกำลังเธอ ก่อนเข้ามาในห้องนี้ผู้จัดการสาวอย่างคุณใจ๋อธิบายให้เธอฟังในเรื่องนี้“ฉันรู้ตั้งแต่เห็นหน้าของเธอและอาการประหม่าของเธอ” เพราะคุณทัตเองก็รู้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยความสนใจและความชอบทำให้เขาเลือกที่จะฉีกกฎเหล็กของตัวเอง“แล้วทำไมคุณยังให้หนูทำ” เด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามกลับมาทันที“ทั้งที่เธอรู้ว่าฉันไม่รับคนไม่มีประสบการณ์แต่ทำไมยังเลือกโกหกที่จะผู้จัดการของฉันแล้วเข้ามาในห้องนี้”คุณทัตถามเด็กสาวตรงหน้าออกไปทันทีเพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าเด็กคนนี้คิดอะไรอยู่ถึงไม่กลัวและกล้าที่จะเข้ามา“เธอยังไม่ต้องตอบฉันตอนนี้ก็ได้ ถ้าอยากได้โอกาสในการทำงานที่นี่ก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก” เมื่อเห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าไม่ตอบคุณทัตก็พูดขึ้นอีกครั้งสายตาคมคายมองตรงไปยังเด็กสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ค่อยๆยกมือถอดเสื้อยืดตัวเก่าๆของตัวเองออกจนเห็นบราสีชมพูอ่อนๆตัดกับผิวขาวๆ เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขาหายใจแทบไม่ทั่วท้อง“นะ…หนูต้องถอดหมดเลยหรอ” น้ำเสียงสั่นๆของเด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้แค่เธอถอดเสื้อยืดตัวบ
“อ่า…โทษทีปากเธอนุ่มจนฉันหยุดไม่ได้” ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตที่นอนมองหน้าเด็กสาวพูดขึ้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเขาก็เป็นอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ ปากเด็กสาวตรงหน้านุ่มกว่าอะไรนุ่มกว่าปากของใครที่เคยออรัลให้เขา“ไม่เป็นไรค่ะ หลังจากนี้คุณจะให้หนูทำอะไรต่อ” เด็กสาวถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ตัวเธอเองก็รู้สึกประหม่าอย่างมาก“มีเซ็กซ์กับฉันเพราะฉันอยากลองของใหม่แกะกล่องอย่างเธอจะแย่” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจับตัวเด็กสาวตรงหน้าให้นอนลงกับเตียงกว้าง “คะ…คุณ” “รอฉันถอดเสื้อผ้าแล้วเราจะเริ่มกันเด็กน้อย” คุณทัตจับปลายคางเด็กสาวแล้วพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเขาที่ลุกขึ้นเต็มความสูงถอดกางเกงที่อยู่ที่ปลายขาออกและถอดเสื้อเชิ้ตออกเช่นกัน แน่นอนว่าทุกคนการกระทำของคนอายุมากกว่าอยู่ในสายตาของเด็กสาว หลังจากนั้นร่างกายสูงใหญ่ของคุณทัตก็ขึ้นค่อมเด็กสาวตรงหน้าไว้ทันที เขาซุกไซร้ไปตามลำคอขาวดอมดมกลิ่นกายความหอมที่ส่งกลิ่นออกมา “อื้ออ…คุณ” เสียงเด็กสาวร้องขึ้นทันทีเพราะการกระทำของคุณทัตทำเธอใจเต้นไม่น้อย นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเธอและเธอเองก็ตื่นเต้นมากๆเพราะมันคือครั้งแรกของเธอที่จะพิสูจน์ว่าเธอจ
ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตนอนมองเด็กสาวที่ตอนนี้สลบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใจจริงคุณทัตเองก็อยากจะถนอมเธอไว้แต่เมื่อได้กระแทกแก่นกายเข้าไปรัวๆในร่องรักที่คับแน่นทำเอาเขาไม่สามารถห้ามกามอารมณ์ไว้ได้ คุณทัตลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับแต่งตัวและจัดการล็อกประตูห้องจากด้านนอกเพื่อไม่ให้คนด้านในออกมาได้ก่อนที่เขาจะเดินตรงมายังโซนวีไอพีของคลับปากหนาพ่นควันบุหรี่ออกมาหลังจากอันนิโคตินเข้าปอดไปเต็มๆ ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วแอลกอฮอล์สีสวยเข้าปาก เขากำลังคิดทบทวนตัวเองและเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ถึงเด็กสาวคนนั้นจะไม่มีประสบการณ์ไม่รู้ประสีประสาแต่เซ็กซ์ของเธอถูกใจเขามากจริงๆ ร่างสูงใหญ่ของคุณทัตเดินกลับเข้าไปในห้องที่พึ่งผ่านสมรภูมิเซ็กซ์อีกครั้ง ตอนนี้เด็กสาวบนเตียงตื่นเรียบร้อยแล้วเพราะตอนนี้ก็เกือบเช้าแล้วเหมือนกัน คุณทัตเดินตรงไปยังโต๊ะหน้าเตียงพร้อมกับมองหน้าเด็กสาวที่ก้มหน้างุดอยู่บนเตียง “คุณจะรับหนูเข้าทำงานไหม” เด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าถามออกมาทันทีเพราะสิ่งเดียวในหัวเธอคือเธออยากรู้ว่าเธอจะได้ทำงานหรือเปล่า “ฉันมีเรื่องจะถามเธอ” คุณทัตไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะพูดออกไปเพราะตอนนี้เขาอยากรู้มา
“เรียกฉันว่าคุณทัตดีกว่านะจันทร์เจ้า” เจ้าของร่างสูงใหญ่ของคุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะตลอดทั้งคืนจันทร์เจ้าเอาแต่เรียกเขาว่าคุณ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถูกใจนักเท่าไหร่จึงเอ่ยปากบอกคนตรงหน้า “คุณทัต” จันทร์เจ้าทำตามอย่างง่าย เธอเปล่งเสียงเรียกชื่อเขาออกมาทำเอาคนโตกว่ายกยิ้ม “แบบนั้นแหละเด็กดีของฉัน” ไม่ว่าเปล่าอีกทั้งยังยกมือลูบหัวเด็กสาวตรงหน้าอีกด้วย “วะ…วันนี้หนูต้องไปหาคุณหรือเปล่า” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้ง“ฉันให้เธอพักหนึ่งวันแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยมาหาฉัน” คุณทัตตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก็เดินออกไปทันที ธุระของเขาคือการเอาบัตรประชาชนมาคืนเธอนั่นแหละแต่ไม่รู้ทำไมถึงต้องรีบร้อนเอามาคืนทั้งที่รอให้เธอมาหาแล้วค่อยคืนก็ได้ “คุณเขากลับไปแล้วหรอจันทร์เจ้า” เสียงคนเป็นแม่ถามขึ้นทันที “กลับไปแล้วค่ะ” “ทำงานกับคุณเขาทำตัวดีๆนะจันทร์เจ้า สายตาที่เขามองจันทร์เจ้าดูเอ็นดูลูกไม่น้อยเลย” เพราะคนเป็นแม่เองก็มองขาดอยู่แล้วในเรื่องแบบนี้ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าสายตาคุณทัตคนที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายคนใหม่ของลูกสาวเอ็นดูลูกสาวของเธอไปทางไหน“หนูเป็นเด็กดีแน่นอนค่ะแม่” จันทร์เจ้าตอบกลับไปทันทีถึงแม่ไม่บอกเธอก็ตั้
“อยากรู้จริงๆหรอจันทร์เจ้าว่าฉันมองเธอว่าเป็นอะไร” เสียงทุ้มพูดขึ้นข้างหูเด็กสาวทำเอาจันทร์เจ้าขนลุกซู่ ยิ่งสันจมูกคมๆของคุณทัตกำลังถูไปมาตามใบหูก็ยิ่งทำให้เด็กสาวเกิดความรู้สึกสยิว “อยากรู้สิ ยิ่งคุณพูดแบบนี้หนูยิ่งอยากรู้เพราะสิ่งที่หนูทำมันไม่ต่างกับเด็กขายเลยนะ” จันทร์เจ้าตอบกลับมาทันทีเมื่อคนที่โตกว่าอย่างคุณทัตได้ยินคำตอบก็อยากจะจับเด็กตรงหน้าลงโทษให้หลาบจำเพราะเขาไม่เคยมองเธอแบบนั้นเลยแต่จะว่าเธอก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่เคยพูดออกไปเพราะเรื่องราวของเขาและเธอมันเกิดขึ้นเร็วแต่ความรู้สึกของเขาดันไปไกลแล้ว “เธอต่างเพราะเธอทำแบบนี้แค่กับฉันคนเดียว”“ฉันเลยไม่เคยมองว่าเธอเป็นเด็กขายกลับกันฉันมองว่าเธอเป็น เด็กของฉัน จันทร์เจ้า”ใบหน้าสวยของจันทร์เจ้าแดงขึ้นสีทันทีเมื่อคนที่โตกว่าพูดขึ้น เด็กสาวได้แต่ซบหน้าลงบนอกแกร่งอย่างลืมตัวเพราะความเขินอายส่วนคนตัวโตที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยกมือลูบหัวเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู “เข้าใจคำว่าเด็กของฉันไหมจันทร์เจ้า” คุณทัตถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาอะไรแต่เขาก็พอดูออกว่าอาการที่เด็กบนตัวเขาเป็นอยู่คืออาการเขินอายไห
“เย็นนี้เธอว่างใช่ไหม” หลังจากคุยโทรศัพท์กับคนเป็นแม่เสร็จคุณทัตก็ตรงมาหาเด็กสาวที่รออยู่และถามขึ้นทันที “หนูว่างค่ะ” เด็กสาวจันทร์เจ้าพูดขึ้นเพราะเธอว่างตลอดอยู่แล้ว “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย” เด็กสาวเอียงหน้ามองคุณทัตอย่างไม่เข้าใจ เรื่องอะไรกันที่คุณเขาถึงเอ่ยปากขอให้เธอช่วย “ช่วยอะไรหรอคะ” ไม่รีรอให้นานมากกว่านี้เพราะความสงสัยที่มีอยู่มันมากจนทำให้จันทร์เจ้าถามออกไป “ช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันตบตาแม่ของฉันหน่อย” เด็กสาวตกใจไม่น้อยกับคำพูดของคุณทัต ให้เธอแกล้งเป็นแฟนคุณเขาอะนะ “จะดีหรอคะ หนูว่าหนูไม่เหมาะกับคุณหรอก” เพราะเธอเองก็เจียมตัวอยู่ตลอด เธอก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาไม่ได้มีหน้ามีตาอะไรในสังคมต่างกับคุณทัตที่เป็นคนมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างรู้จัก การที่คุณเขาจะมาคบเด็กกะโปโลอย่างเธอมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย “ฉันเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงต้องการให้เธอมีเซ็กซ์กับฉันแค่คนเดียว” คุณทัตถามขึ้นทันทีเพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคยบอกเด็กสาวตรงหน้าไปหรือยัง “มะ…ไม่เคยค่ะ” น้ำเสียงสั่นๆของเด็กสาวตอบมาทันทีเพราะคุณทัตไม่เคยบอกอะไรกับเธอเพียงแต่บอกให้เธอขายตัวให้ก
“คุณเอาอะไรมาวัดว่าแม่หนูคนนี้ไม่เหมาะจะเป็นสะใภ้ของเรา” คนเป็นพ่ออย่างคุณเทพศิกดิ์ถามออกไปทันทีเพราะเขาดูแล้วเด็กสาวที่ลูกชายพามาด้วยมารยาทดีกว่าเกวลินที่เดินสวนเขาไปอีก “ชาติตระกูลสกุลรุนชาติไงละคะ เทียบหนูเกวลินก็ไม่ติดแม่ไม่ยอมให้ทัตคบคนแบบนี้นะลูก” คุณหญิงประภามณีตอบกลับมาทันที “ผมไม่ยอมให้คุณมาบังคับอะไรลูกแน่ๆ” คนเป็นพ่อพูดขึ้นอีกครั้ง“เห็นหรือยังละทัตว่าผู้หญิงที่ลูกพามาทำพ่อกับแม่ต้องทะเลาะกันแบบนี้” คนเป็นแม่พูดขึ้นทันที เธอโทษทุกอย่างยกเว้นโทษตัวเอง หากถามลูกสักคำอาจจะไม่ต้องทะเลาะหรือกระทบกระทั่งกันขนาดนี้ “นั่นเพราะแม่ ไม่ใช่เพราะคนของผม” คุณทัตเองก็ออกปากปกป้องเด็กสาวอย่างจันทร์เจ้าสุดฤทธิ์ “คะ…คุณทัต” จันทร์เจ้ากระตุกมือของคุณทัตพร้อมเรียกคนที่โตกว่าขึ้นทันที “หนูอยากกลับ” เพราะเธอเองก็ไม่อยากอยู่ในสถานะแบบนี้หรอกนะ คุณแม่ของเขาไม่ชอบเธอยังพอทนได้แต่การที่มาดูถูกกันแบบนี้เธอไม่โอเคเลยจริงๆ“อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ จะรีบกลับไปไหน” คนเป็นพ่อที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของเด็กสาวที่บอกลูกชายก็พูดขึ้นทันที “เอายังไงจันทร์เจ้า ฉันแล้วแต่เธอถ้าอยากกลับฉันจะ
“เห็นไหม หม่าม้าบอกแล้วเดี๋ยวฟันจะหลุด” หม่าม้าคนสวยพูดขึ้นทันทีพร้อมกับหยิบแอปเปิลออกจากมือลูกชายทั้งสองดูไปดูมาก็อดจะขำไม่ได้ เด็กอะไรไม่รู้ฟันหลุดออกมากับแอปเปิลที่กัด น่าขำเสียจริง “สมุทรอดเป็นคนหล่อเลย” เหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ฟันน้ำนมของตัวเองหลอไปสองซี่ยิ่งกว่าเหนือนทีกับเหนือนภาเสียอีก “เวหาว่าเรายังหล่อเหมือนเดิม” เหนือเวหาที่กำลังปลอบใจตัวเองก็หันไปปลอบใจพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรเพราะทั้งสองคนฟันหลุดออกมาสองซี่หน้าบ้านเหมือนกัน“ฮ่าๆ ดีนะเลือดไม่ออก” ป๊ะป๋าที่สำรวจดูปากของลูกชายตัวแสบพูดขึ้นทันที ใจจริงก็อยากสงสารอยู่หรอกแต่ตอนนี้มันสงสารไม่ได้จริงๆ “ยินดีต้อนรับสู่แก๊งฟันหลอ” เหนือนภาพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้พี่ชายทั้งสามคนฟันหลอเหมือนกับเธอหมดแล้ว“ไม่ได้อยากเข้าหรอก” เหนือเวหาพูดขึ้นเพราะตัวเองไม่ได้อยากฟันหลอสักนิดและมันก็เป็นเพราะเจ้าแอปเปิลลูกนั้น“ต่อจากนี้สมุทรจะไม่กัดแอปเปิลแบบนั้นอีกแล้ว” เหนือสมุทรพูดขึ้นอีกครั้งเพราะฟังใจไปแล้วว่าการกัดแอปเปิลทำเอาฟันหลุดถึงสองซี่ “เวหาด้วย” เหนือเวหาที่เห็นดีเห็นงามกับพี่ชายคนโตก็พูดขึ้นทันที ก่อนที่เหตุการณ์ในห้
หลายปีผ่านไป “หม่าม้า สมุทรอยากกินช็อกโกแลต” เสียงพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้หม่าม้าคนสวยกำลังยืนจัดขนมอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว“หม่าม้าจะให้กินต่อเมื่อสมุทรไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆขึ้นจากสระน้ำ” เพราะตอนนี้แฝดอีกสามคนรวมถึงป๊ะป๋าอย่างคุณทัตไม่ยอมขึ้นจากน้ำสักที มีแต่เหนือสมุทรพี่คนโตของบ้านนี่แหละที่ขึ้นมาหวังจะอ้อนหม่าม้าเพื่อเอาช็อกโกแลต “หม่าม้าให้สมุทรก่อนหนึ่งชิ้น เดี๋ยวสมุทรไปตามให้” นั่นแหละนิสัยหนึ่งอย่างของพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทร เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน “ให้สองชิ้นเลยครับแล้วไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆนะ” หม่าม้าคนสวยอย่างจันทร์เจ้าส่งช็อกโกแลตให้ลูกชายคนโตก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแจ้นออกไปที่สระว่ายน้ำข้างบ้าน “ป๊ะป๋า ขึ้นได้แล้วหม่าม้าให้มาตามแล้วนะ” เหนือสมุทรเดินตรงไปหาป๊ะป๋าที่กำลังยืนพิงขอบสระ“โอเคครับ สมุทรรอป๋าก่อนนะ ป๋าไปพาน้องๆขึ้นก่อน” ป๊ะป๋าแฝดสี่พูดขึ้นทันทีก่อนจะตรงไปอุ้มแฝดสามที่อยู่ในน้ำขึ้นข้างบนทีเดียวพร้อมกันสามคน “หนูยังไม่อยากขึ้นเลยป๊ะป๋า” น้องเล็กอย่างเหนือนภาที่มีนิสัยขี้อ้อนกอดขาป๊ะป๋าพร้อมกับพูดขึ้น “รีบไปอาบน้ำกันดีกว่าเพราะช้ากว่านี้หม่าม้
“เป็นยังไงบ้างจันทร์เจ้า โอเคไหม” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของคุณทัตเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยขึ้นทันทีเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าออกจากห้องคลอดได้สักพักแล้ว “หนูโอเค แล้วลูกล่ะคะป๋า” แน่นอนว่าหม่าม้ามือใหม่ที่ตื่นขึ้นมาก็ได้แต่ถามหาเจ้าเด็กแฝดสี่เพราะตอนนี้ไม่เห็นลูกน้อยของเธอสักคน “เดี๋ยวพยาบาลพามาครับ รู้ไหมลูกของเราไม่ต้องอยู่ในตู้อบนะ แข็งแรงทุกคนเลย”“ดีแล้วค่ะ หนูอยากอุ้มลูกแล้ว ป๋าไปตามให้หน่อยได้ไหม” เพราะหม่าม้ามือใหม่คนนี้เห็นหน้าลูกแค่ตอนที่คุณหมอรุ่นพี่เอาออกมาเท่านั้นและตอนนี้เธอก็อยากอุ้มเจ้าเด็กแฝดสี่แล้ว “ฮ่าๆ ใจเย็นๆนะครับหม่าม้า เดี๋ยวเขาพามานะ” คุณทัตลูบหัวเมียเด็กของตัวเองทันทีเพราะดูเหมือนตอนนี้จันทร์เจ้าจะไม่เอาอะไรแล้วนอกจากเจ้าเด็กแฝดสี่อย่างเดียว “เอาน้องมาส่งค่ะ” เสียงของคุณหมอรุ่นพี่ที่ทำคลอดให้กับจันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับพยาบาลอีกสามคนที่ช่วยกันเข็นเตียงสำหรับเด็กแรกเกิดเข้ามาในห้อง จันทร์เจ้าที่พึ่งได้เป็นหม่าม้าเต็มตัวในวันแรกก็ได้แต่น้ำตาไหลออกมาเมื่อมองภาพเจ้าเด็กแฝดกำลังนอนเรียงกันอยู่ “น่ารักจนใจเจ็บเลยลูกหม่าม้า” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับลงจากเตียงเ
หลายอาทิตย์ผ่านไป “ตื่นเต้นไหมคะจะได้รู้เพศลูกแล้ว” จันทร์เจ้าถามคุณป๋าขึ้นทันทีเพราะตอนนี้คุณป๋าของเธอมาหาเธอที่โรงพยาบาลเตรียมจะไปตรวจเพศลูก“ตื่นเต้นสิ ไม่รู้ว่าเจ้าแฝดในท้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” คุณทัตพูดขึ้น แต่ในใจก็กลับภาวนาขอให้เป็นลูกชายเพราะถ้าเป็นลูกสาวเขาคงต้องหวงมากแน่ๆ “ป๋าอยากได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ” จันทร์เจ้าถามขึ้นทันทีพร้อมลูบท้องโตๆของตัวเองไปด้วย “อยากได้ลูกชายทั้งสามคน” คุณทัตตอบกลับไปตามตรง ไม่ใช่ไม่อยากได้ลูกสาวแต่แค่คิดถึงอนาคตตอนมีคนมาจีบลูกสาวก็แทบจะบ้าแล้ว “เพราะอะไรคะ” จันทร์เจ้าถามกลับอีกครั้ง เธออยากรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมคุณป๋าของเธอถึงอยากได้ลูกชายอย่างเดียว“เพราะถ้าเป็นลูกสาวหากมีคนมาจีบ ฉันคงหวงมากแน่ๆ” ประโยคนี้ของคุณทัตทำเอาจันทร์เจ้าหลุดหัวเราะออกมาเพราะเธอก็ไม่คิดหรอกว่าป๊ะป๋าของเจ้าแฝดจะคิดไปไกลขนาดนี้ “เดี๋ยวจะออกมาเป็นลูกสาวทั้งสาวคน” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีทำเอาคุณทัตหน้าบึ้งในทันตาเพราะถ้าเป็นลูกสาวสามคนมีหวังป๊ะป๋าของเจ้าแฝดคงไว้หนวดไว้เคราทำตัวเซอร์ๆแล้วล่ะ “มาเถอะ ลูกสาวหรือลูกชายก็ลูกฉันทั้งนั้น” สุดท้ายก็ได้แต่จำยอมเพราะยังไงเข
“ถ้าลูกเรียกฉันว่าป๊ะป๋า รู้ไหมว่าลูกต้องเรียกเธอว่าอะไร” คุณทัตพูดขึ้นทันทีทำจันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นอีกครั้งเพราะเธอคิดคำที่จะให้เจ้าแฝดเรียกไว้แล้วล่ะ“ลูกก็เรียกหนูว่าหม่าม้า” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะคำว่าหม่าม้าเข้ากับป๊ะป๋าสุดๆไปเลย“ส่วนฉันก็จะเรียกเธอว่าหม่าม้าด้วยดีไหมจันทร์เจ้า” แน่นอนว่าคำพูดนี้ของคุณทัตทำเอาเมียเด็กอย่างจันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นสีเพราะความเขินอาย “หม่าม้าจันทร์เจ้า แบบนี้โอเคไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเมียเด็กเกิดอาการเขินเพราะท่าทางของเธอมันน่ารักจนอดใจที่จะแกล้งไม่ได้ “ไม่โอเคเพราะหนูเขิน” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะตอนนี้เธอเขินจนตัวแทบแตกแล้ว“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหม่าม้านี่แหละ เธอจะได้หายเขินดีไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าจันทร์เจ้าส่ายหัวอย่างไวเพราะเธอไม่มีทางหายเขินหรอก ขนาดคำว่าเมียเธอยังเขินไปสิบวัน ขืนคุณทัตเรียกเธอว่าหม่าม้าเธอได้เขินไปเป็นเดือนแน่ “ให้ลูกเรียกได้อย่างเดียว” จันทร์เจ้ายื่นคำขาดออกมาทำเอาหัวใจคุณป๋าห่อเหี่ยวเพราะแกล้งเมียเด็กไม่ได้แล้ว “ยอมก็ได้ เห็นว่าเป็นลูกหรอกนะ” พูดจบคุณทัตก็ก้มหน้าลงไปแนบกับหน้าท้องที่นูนออกมาเล
หลายปีผ่านไป “เป็นยังไงบ้างคุณหมอตัวน้อยของฉัน” คุณทัตกางแขนออกกว้างเพื่อรอคุณหมอตัวน้อยหรือเมียเด็กของเขาเข้ามากอดเพราะตอนนี้เมียเด็กของเขาเรียนจบแล้วอีกทั้งยังเป็นแพทย์หญิงสุดสวยประจำโรงพยาบาลอีกด้วย “เหนื่อยมากเลยค่ะ วันนี้คนไข้เยอะมาก” ด้านจันทร์เจ้าเองก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปหาคุณป๋าของตัวเองเพราะทุกวันที่เธอกลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็จะมีอ้อมกอดอุ่นๆของคุณป๋ารออยู่เสมอ “เหนื่อยก็ลาออกมาอยู่เฉยๆ ฉันเลี้ยงเธอได้สบายเลยนะ” นี่ก็เป็นประโยคที่คุณทัตพูดขึ้นทุกวันเมื่อเมียเด็กบ่นว่าเหนื่อย “ทำงานยังไม่คุ้มกับที่เรียนมาเลย หนูไม่ลาออกหรอกนะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีเพราะเธอรักการเป็นหมอและรักในการได้รักษาคนอื่น “ตามใจเธอ แต่รู้ใช่ไหมเรียนจบแล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เธอต้องทำ” คุณทัตพูดขึ้นเพราะสิ่งเดียวที่เขารอมานานมันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “อะไรหรอคะ” ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่จันทร์เจ้าก็เลือกที่จะถามออกไป “มีลูกกับฉันไงจันทร์เจ้า รู้ไหมว่าฉันเลี้ยงลูกของเพื่อนมานานถึงหกปีแล้วนะ” ฟังไม่ผิดหรอกเพราะทุกวันนี้คุณทัตอยากมีลูกเต็มแก่แล้วเพราะอายุของเขาก็ปาไปถึงวัยสามสิบหกแต่ยังไม่มีลูกสั
“สัญญาเลยนะว่าฉันจะพาเธอเที่ยวที่สวยๆแบบนี้บ่อยๆ” สำหรับเมียเด็กของเขาแล้ว เธอควรได้รับอะไรดีๆพวกนี้และแน่นอนเขาจะเป็นคนมอบมันให้กับเธอ “ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีป๋าหนูก็พร้อมจะไปกับป๋าทุกที่” คุณทัตยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของจันทร์เจ้าเพราะไม่ว่่าเวลาจะผ่านมากี่เดือน เธอก็ยังน่ารักกับเขาอยู่เสมอ “เด็กดีของฉัน” แน่นอนว่าจันทร์เจ้าเองก็เขินจนตัวบิดกับคำพูดของคุณทัตก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนท่ายืนเป็นจันทร์เจ้าที่กำลังหันหน้าออกไปมองบอลลูนต่างๆที่อยู่บนท้องฟ้าและแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า คุณทัตที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพด้านหลังของเมียเด็กและบรรยากาศรอบๆ ก่อนจะสะกิดเมียเด็กให้หันมาถ่ายรูปด้วยกัน “ขออีกรูปนะจันทร์เจ้า” คุณทัตพูดขึ้นทันทีพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆเพราะไม่ว่าถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด สวยทั้งบรรยากาศ ทั้งเมียเด็กของเขา นานนับชั่วโมงที่บอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนข้างบนได้ชมบรรยากาศ แน่นอนว่าทั้งคุณทัตกับจันทร์เจ้าไม่ปฏิเสธเลยว่ามันไม่สวยเพราะมันสวยมาก สวยจนไม่อยากละสายตาและไม่อยากให้เวลาหมดไปเพราะอยากจะอยู่บนบอลลูนนานๆ “ง่วงหรือเปล่า” คุณทัตถา
สนามบิน “เราจะไปประเทศอะไร ป๋ายังไม่ได้บอกหนูเลยนะ” เสียงหวานของจันทร์เจ้าถามคุณทัตขึ้นทันทีเพราะขนาดตอนนี้ที่กำลังจะบินแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าคุณป๋าจะพาไปที่ไหน “อยากรู้หรอ” คุณทัตถามขึ้นเพราะที่เขาไม่บอกเพราะเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์เมียเด็กทีเดียวแต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเพราะเมียเด็กของเขาเอาแต่ถามเพราะความอยากรู้ “อยากรู้สิคะ อีกอย่างบินครั้งแรกของหนูด้วย หนูต้องอยากรู้อยู่แล้ว” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกครั้งเพราะเธอตื่นเต้นและอยากรู้มากๆ “ไปตุรกี” แน่นอนว่าตอนนี้จันทร์เจ้าตกใจไม่น้อยกับคำตอบของคุณทัต “ไหนป๋าบอกว่าไปประเทศใกล้ๆ แต่นี่ไปถึงตุรกีเลยหรอ” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู เธอก็ไม่คิดหรอกว่าคุณป๋าจะพาเธอไปไกลถึงขนาดนี้ “ฉันอยากพาเธอไปเที่ยวในที่สวยๆบรรยากาศดีๆ ครั้งนี้เลยเลือกไปตุรกี” คุณทัตบอกเหตุผลไปตามตรงเพราะที่เขาเลือกสถานที่นี้ก็เพราะบรรยากาศและความสวยงาม “เราจะขึ้นเครื่องตอนไหน รู้ไหมว่าหนูตื่นเต้นมาก” คุณทัตเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเมียเด็ก เขาได้แต่ยกยิ้มออกมาเพราะมือเล็กของเมียเด็กเย็นไปหมด “ตื่นเต้นจนมือเย็นเลยหรอ” “ขะ…ขึ้นเครื่องครั้งแรก ไปต่างประเทศครั
“เด็กดีรู้หรือเปล่าว่ามีคนกำลังมองเราสองคนเยอะเลย” คุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะไอ้คนที่มองมาไม่ได้พึ่งจะมามองตอนเขามาหรอกแต่มองตั้งแต่แรกตั้งแต่ตอนที่เมียเด็กของเขาอยู่กับเพื่อนสนิท “มองแล้วทำไมหรอ ป๋าอายหรอที่หนูนั่งแบบนี้” จันทร์เจ้าที่คร่อมอยู่บนตักมุ่ยหน้าทันที อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยที่ทำให้เธองอแงขนาดนี้“ไม่อายหรอกเพราะฉันอยากให้เธอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ” เพราะการที่จันทร์เจ้าทำมากกว่านี้มันก็เหมือนเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือของเขา “ไม่ได้หรอกคนมองเยอะ” ถึงปากจะบอกไม่ได้แต่ตอนนี้ใบหน้าสวยก้มลงคลอเคลียกับลำคอของเขาไปแล้ว แน่นอนว่าคุณทัตเองก็เอียงคอให้จันทร์เจ้าทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะไม่งั้นเมียเด็กที่กำลังเมาอาจจะงอแงมากกว่าเดิม “ถ้าป๋ามีรอยคงจะดีไม่น้อยเลย จริงไหม” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับมือเล็กที่ลูบไปตามลำคอของคุณป๋า “อยากทำอะไรก็ทำเลย” จันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของคุณทัตก่อนที่เธอจะดูดและขบเม้มเบาๆที่ลำคอของคุณป๋าจนเป็นสีดอกกุหลาบจางๆ “ถ้ามีผู้หญิงเข้าใกล้ ป๋าโชว์รอยเลยนะ” “แค่เธอนั่งบนตักฉันแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งแล้วล่ะจันทร์เจ้า” ทุกคนก็ได