บรรยากาศภายในรถเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน มนลิตาเบือนหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่างรถ ไม่นานรถเคลื่อนมาจอด
ริมฟุตบาต หญิงสาวยืดตัวชะเง้อคอขึ้นมองไปรอบ ๆ เห็นร้านอาหารตั้งแถวเรียงราย
“จอดรถทำไมคะ”
“หิวข้าว ถ้าไม่กินก็นั่งรออยู่บนรถเนี่ยแหละ”
“เรื่องอะไรจะไม่กินหิวเหมือนกัน ตอนนี้มนกินช้างได้เป็นตัวแล้ว”
หญิงสาวหันไปแห้วเสียงใส่เขาแล้วเปิดประตูรถเดินนำหน้าไป เวทัศยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วหุบลงก้าวเท้ายาว ๆ เดินตามหลัง
มนลิตาเลือกร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งค่อนข้างดูสะอาดและรูปจานอาหารค่อนข้างน่ากิน เธอพลิกเมนูไปมาไม่รู้ว่าจะกินอะไรดีจึงเงยหน้าถามเจ้าของร้านซึ่งเดินมารับออเดอร์ด้วยตัวเอง
“ไม่ทราบว่าที่ร้านมีเมนูอะไรแนะนำไหมคะ”
ชายวัยกลางคนเหลือบมองหน้ากลม ๆ สลับกับหน้าของเวทัศแล้ว
อมยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือไปพลิกหน้าเมนูอาหารให้ดู
“หอยนางรมทรงเครื่องเลยหนู หอยสด เครื่องเคียงแน่นและที่สำคัญดึ้งดั้งแน่นอน”
ชายแก่ยกคิ้วหลิวตามองสลับไปมาระหว่างเวทัศและมนลิตาด้วยสายตามีเลศนัยแอบแฝง หญิงสาวเข้าใจในความหมายของกิริยานั้นจึงรีบ ยกมือขึ้นโบกปฏิเสธทันที
“ฉันกับเขาเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันค่ะ”
“อ้าวเหรอ... นึกว่าเป็นสามีกับภรรยา ดู ๆ ไปก็หน้าตาคล้ายกัน อยู่นะ”
ลุงเจ้าของร้านเปรียบเทียบหน้าตาของทั้งคู่ตอนแรกคิดว่าเป็นพี่น้องกันเสียอีก แต่พอเห็นฝ่ายชายเลื่อนเก้าอี้และรินน้ำดื่มใส่แก้วให้เขาจึงคิดว่าเป็นคู่สามีภรรยาทันที
“ถ้าอย่างนั้นเอามาให้ผมชุดหนึ่งก็ได้ครับ”
เวทัศเงยหน้าจากแผ่นเมนูในมือเห็นเจ้าของร้านพยายามแนะนำเมนูกระตุ้นอารมณ์ให้ มุมปากหยักโค้งขึ้นแล้วก็หุบลงจนมองแทบไม่ทัน
รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้วเธอรู้ดีเลยว่ามันคืออะไร ไม่มีมีทาง คืนนี้อย่าหวังว่าจะเป็นพ่อเสือกินลูกหมูตัวนี้ง่าย ๆ เหมือนทุกครั้งเลย
มนลิตาส่งสายตาคาดโทษไปยังเขาแต่ดูแล้วเจ้าตัวแทบจะไม่สนใจคำขู่ทางแววตานั้นเลยสักนิด พออาหารมาส่งเขาก็เอาแต่กินอย่างเอร็ดอร่อยมากกว่าเธอที่เป็นคนหิวเสียอีก
กว่าจะเดินทางกลับมาถึงบ้านได้ก็ใช้เวลาเกือบเที่ยงคืน ป้ามาลัยซึ่งไม่ยอมนอนพอได้ยินเสียงรถก็รีบออกมารับข้าวของทันที
“จริง ๆ แล้วป้ามาลัยนอนไปเลยก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องมารอให้มนหรือพี่เวย์กลับมาหรอกค่ะ เพราะยังไงเราสองคนก็เลิกงานไม่เป็นเวลาแถมบางครั้งยังต้องออกต่างจังหวัดแบบกระทันหันอีกต่างหาก”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถึงจะดึกแค่ไหนป้าก็ต้องรอไม่อย่างนั้นคุณหญิงระย้าได้โทรมาดุป้าสิคะ”
แม่บ้านสูงวัยพูดพร้อมกับรอยยิ้มอ่อน ๆ ทั้งที่ดวงตาเล็กนั้นกำลังจะปิดลงอยู่มะรอมมะร่ออยู่แล้ว ก่อนจะอ้าปากหาวกว้างจนเธออดหัวเราะไม่ได้จึงรีบบอกให้ป้ามาลัยไปนอน
ภายในห้องนอนกว้างใหญ่เวทัศชำระล้างร่างกายเสร็จแล้ว เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่อนบนเปลือยเปล่า โชคดีที่ท่อนล่างมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอาไว้ไม่ให้อุจาดตามากนัก
รูปร่างกำยำซึ่งบ่งบอกว่าเจ้าของดูแลร่างกายเป็นอย่างดี ซึ่งมนลิตาก็เห็นว่าเป็นอย่างนั้นเพราะในแต่ละวันเธอจะเห็นเขาแบ่งเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อออกกำลังกาย นอกเสียจากว่าต้องออกไปทำงานข้ามจังหวัดวันนั้นถึงจะได้เป็นวันหยุด
มนลิตาลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นกล้ามแน่นและซิกแพคขึ้นรอนเป็นลูกจนชวนน่าสัมผัสแม้ว่าจะได้ลูบคล้ำมันค่อนข้างบ่อยก็ตาม
“มองอะไร”
เขาทักท้วงทันทีเมื่อเห็นสายตาอ่านกินของอีกฝ่าย มนลิตารีบเบือนหน้ามองไปทางอื่น
“เปล่าค่ะ ทำไมพี่เวย์ไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาคะ”
“ก็อยากออกมาแต่งข้างนอก”
ไม่ได้แค่พูดแต่เจ้าตัวเดินเข้ามาประชิดตัว เธอได้แต่ก้าวถอยหลังไปชิดกำแพงทว่าเขาก็ยังเดินตามมาจนแผงออกแทบทิ่มตาอยู่แล้ว
“พี่เวย์จะทำอะไรคะ”
“คิดว่าจะทำอะไรล่ะ ผัวเมียอยู่ในห้องกันสองต่อสอง...”
น้ำเสียงกระเส่า ปลายนิ้วใหญ่ลากผ่านแก้มกลมมาหยุดอยู่ที่ปลายคาง เขาก้มหน้าลงมาหาช้า ๆ หญิงสาวหลับตาปี๋ริมฝีปากเผยอขึ้น
“ฮึ ๆ”
เสียงหัวเราะผ่านลำคอของเวทัศทำให้มนลิตาลืมตากว้างขึ้น เป็นอีกครั้งของรอบวันที่เขายิ้ม ไม่สิ ตอนนี้กำลังหัวเราะอยู่ต่างหากและมันน่าอายมากกว่าเมื่อเขาพูดขึ้นมา
“ตอนนี้เหนื่อย ยังไม่มีอารมณ์เอา”
“คะ...ใครจะให้พี่เอา”
สองแขนอวบยกขึ้นดันอกเขาสุดแรงจนร่างสูงถอยห่างออกไป
“ก็เห็นหลับตา ทำไมคิดว่าฉันจะจูบเหรอ”
“เปล่าสักหน่อย อย่าคิดไปเองสิ วันนี้ใครจะให้พี่เอา ไหนบอกว่าไม่ได้รักมนไงแล้วจะมาเอามนทำไม”
คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มแน่นเข้าหากัน ดวงตาจับจ้องมายังเขาด้วยความขุ่นเคือง มุมปากหยักโค้งขึ้นเหมือนเย้ยหยันเรียวนิ้วที่จับออกแรงบีบจนรู้สึกเจ็บ
“ฉันจะบอกอะไรให้นะมนลิตา คำว่า ‘รัก’ กับคำว่า ‘อยาก’ มันไม่เหมือนกัน ฉันเอาเธอเพื่อสนองความใคร่เท่านั้นไม่ได้รู้สึกไปมากกว่านี้ ในเมื่อเธอเลือกจะแต่งงานกับฉัน ก็ต้องใช้ร่างกายเข้าแลกแบบนี้แหละ”
มือหนาสะบัดปลายคางอย่างแรงจนใบหน้าอวบหันไปอีกทาง
ความเจ็บทางร่างกายมันไม่เท่าไรหรอก แต่ทางจิตใจมันก็ค่อนข้างแหลกละเอียด
จะโทษใครได้มันก็ต้องโทษตัวเองที่ตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพราะความรักที่เธอมีให้กับพี่เวทัศมันมากมายจนไม่กล้าก้าวถอยออกมา
เขาหันหลังเดินกลับไปยังโซนห้องแต่งตัวส่วนมนลิตาเองก็เปลี่ยนเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายบ้าง พอปิดประตูลงได้ร่างอ้วนก็ทรุดตัวลงนั่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
...เธอเข้มแข็งเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น
เช้ามืดของวันนั้น...มนลิตาปรือตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกรบกวน เธอสะลืมสะลือเพราะมันยังเป็นเช้ามืดอยู่ มือหนาถูกสอดผ่านใต้ชุดนอนมากอบกุมเนินอกอิ่ม ร่างอ้วนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อยอดจิ๋วปลายอกถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วหนา“พี่เวย์ ไหนบอกว่าเหนื่อยไงคะ”“นั้นมันเมื่อคืน แต่นี้มันเช้าแล้ว”เขากระซิบบอกคนตัวกลมก่อนจะใช้แขนตวัดเธอให้พลิกกลับมาแล้วใช้มืออีกข้างแกะเม็ดกระดุมชุดนอนออกอย่างง่ายดาย ไม่นานท่อนบนก็ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นทรวงอกอวบใบหน้าหล่อก้มลงเลียตรงยอดเชอรี่ ก่อนดูดดึงหนัก ๆ พอให้สะดุ้ง เธอคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร บางครั้งยอดอกก็ถูกจับบิด บางทีก็ขยี้ดึงดัน บางจังหวะก็หนีบขึ้นมาดูดเต็มแรง“อืม...”สติของมนลิตาแทบเลือนราง มือใหญ่เลื่อนไปลูบไล้ผิวกายนุ่มเนียน ขณะที่หญิงสาวแอ่นตัวให้เขาเชยชม กางเกงนอนตัวเคืองถูกรูดลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้าริมฝีปากหวานพรมความร้อนตั้งแต่ซอกหู เนินอก และหน้าท้อง สัมผัสโอ้โลมทั่วร่างกายส่งผลให้อารมณ์ถูกปลุกเร้าให้พุ่งทะยานจนรู้สึกวูบวาบขึ้นสมอง“อ๊า หวาน” ชายหนุ่มรำพึงในลำคอแม้ไม่ได้พิศวาสทางความรู้สึกแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาติดใจก็คือร่างกายของมนลิตา ไม่ว่าจะจ
ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างเกิดเสียงลามกดังสนั่นพร้อมกับเสียงครวญครางของสามีและภรรยาที่กำลังร่วมรักกันไฟราคะปะทุในร่างกายของหญิงอวบอ้วน ดวงตากลมโตสีดำสนิทจับจ้องการกระทำของผู้เป็นสามีโดยไม่เคลื่อนกายไปไหน“อือ พี่เวย์ตรงนั้นมัน...เสียว”เว้นช่วงหายใจเบื้องล่างบิดเร้าด้วยแรงกระแทกจากบั้นท้ายของผู้คุมเกม เธอเห็นเพียงแค่ใบหน้าหล่อเชิดหน้าสูดปากครางเสียงต่ำไม่ต่างกัน“อะ ออกแล้ว”เขาสบถคำนั้นออกมาไม่นานจังหวะเร่งเร้าก็กระหน่ำเข้ามาแรงและเร็วเลือดลมทั่วร่างไหลมากระจุกอยู่ตำแหน่งเดียวก่อนกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมาเธอรับรู้ถึงหยดหยาดร้อนผ่าวที่ซัดสาดเข้ามายังส่วนลึกร่างกำยำทาบทับลงบนตัวนุ่มนิ่มราวกับหมดแรงถึงขีดสุดก่อนจะพลิกตัวลงที่นอนด้านข้างและหันหลังให้กับผู้เป็นภรรยา ปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เข้าสู่ห่วงนิทราในที่สุด ปล่อยให้มนลิตานอนลืมตาอยู่อย่างนั้นมันไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นทุกครั้งที่เธอและเวทัศร่วมรักกัน พอเสร็จกิจก็ไม่เคยคิดจะสนใจเธอเลย เขาเพียงแค่ต้องการร่างกายเธอเพื่อไว้ตอบสนองความใคร่ก็เท่านั้นเช้าแล้วหญิงสาวยังคงนอนลืมตามองผู้เป็นสามี มืออวบยกขึ้นไปแตะระหว่างหัวคิ้วของเขาที่
มื้อเช้าในแต่ละวันต้องเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยข้าวเท่านั้นเพราะเธอรู้ว่าเวทัศไม่ชอบกินอาหารจำพวกขนมปังหรือBreakfast วันนี้เมนูหลักจึงเป็นโจ๊กหมูเด้งหญิงสาวเลือกใช้เป็นข้าวสำเร็จที่เอาไว้ทำโจ๊กโดยเฉพาะจะได้ไม่เสียเวลาในการต้มข้าวให้เปื่อยเพราะหากต้องมานั่งเคี่ยวเองคงใช้เวลาหลายชั่วโมงแน่นอนเตรียมอาหารตั้งโต๊ะเสร็จครู่เดียวเวทัศก็ลงมาจากห้องนอน ใบหน้าหล่อยังคงเย็นชาเหมือนเดิมเรียกว่าเป็นปกติของเธอเลยดีกว่าที่จะต้องเห็นสีหน้าแบบนั้นทุกวันเขาเดินมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมฝั่งตรงข้ามเธอ ดวงตาคมตวัดมองคนเจ้าเนื้อตรงหน้า ก่อนจะวางบางอย่างลงบนโต๊ะ หญิงสาวเบิกตากว้างเพราะลืมไปเสียสนิทเลย“อย่าลืมกินล่ะ ฉันไม่อยากมีลูกกับเธอ”มันช่างเป็นคำพูดแสนเจ็บปวดแต่เธอก็ตอบรับสั้น ๆ ด้วยคำว่า “ค่ะ”มืออวบเอื้อมไปหยิบแผงยาคุมไปหย่อนลงกระเป๋าแล้วเลือกนั่งทานมื้อเช้าอย่างเงียบ ๆ ทุกอย่างดำเนินไปเฉกเช่นทุกวันจนกระทั่งเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ตโฟนบนโต๊ะดังขึ้นปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บมนลิตารีบเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของหัวหน้างานก็ถึงกับขมวดคิ้วเพราะปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยโทรมาเวลานี้นอกเสียจากว่ามีข่าวด่วนหรือ
“ขณะนี้ดิฉันอยู่ในสถานที่เกิดเหตุของญาติผู้สูญหายแจ้งว่าชายคนสนิทได้อุ้มตัวหายไปตั้งแต่คืนวาน ซึ่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวชายคนสนิทได้แล้วนะคะ และกำลังสอบเค้นอย่างหนักว่านำตัวหญิงสาวไปไว้ ที่ไหน ล่าสุดเจ้าตัวให้การปฏิเสธและทำการยื่นประกันตัวไปแล้ว”มนลิตารายงานข่าวภาคสนามอย่างคล่องแคล่วก่อนภาพจะตัดไปยังห้องส่งสัญญาณและผู้ประกาศข่าวได้ทำการวิเคราะห์และอ่านส่วนที่เหลือหญิงสาวเก็บไมค์เข้าที่และยืนรอพร้อมกับช่างภาพบริเวณหน้าสถานีตำรวจขณะนั้นเองผู้ต้องสงสัยเดินลงมานักข่าวหลายสำนักก็วิ่งกรูเข้าไปรอบกรอบพร้อมกับยิงคำถามแต่เจ้าตัวก็ยังคงปิดปากเงียบและรีบก้าวเท้าขึ้นรถที่มีคนมารับออกไปอย่างไวคนเจ้าเนื้อถึงกับห่อไหล่เข้าหากันเมื่อไม่ได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมเลยแต่แล้วสายตาดุจเหยี่ยวของเธอก็ทำงานเมื่อหันไปเจอญาติของหญิงสาวที่หายตัวไปและเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเธอจึงเลือกเดินตามไปเงียบ ๆ“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นนักข่าวจากช่องxx อยากจะขอ...”“ไม่ค่ะ ฉันไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น ลูกสาวฉันหายไปทั้งคนคงไม่มีอารมณ์มานั่งตอบคำถามนักข่าวจากช่องไหนหรอก”ใบหน้าเหี่ยวย่นเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดดวงตาหมองคล
ร่างสูงในชุดสูทสีดำยังคงเดินวนอยู่ในห้องทำงานบนตึกสูงของสถานีโทรทัศน์ออกอากาศ ปกติแล้วเขาต้องกลับบ้านไปตั้งแต่หกโมงเย็นทว่านี้ก็เกือบสองทุ่มแล้วเจ้าตัวยังคงหมกตัวอยู่ในห้องทำงาน สายตาเหลือบมองดูโทรศัพท์และประตูห้องทำงานเป็นระยะก่อนหน้านี้เวทัศสั่งกับท๊อปว่าหากได้ข่าวของมาลิตาและช่างภาพที่ติดตามไปด้วยให้รีบขึ้นมาบอกและระหว่างนั้นเจ้าตัวก็พยายามกดโทรหาคนเป็นเมียอยู่ไม่ขาด แต่เธอก็ไม่ยอมรับสายบางครั้งก็ตัดสายทิ้งอีกต่างหากก๊อก ๆ ขณะกำลังนั่งใช้นิ้วเคาะลงบนโต๊ะเสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงอารมณ์คุกรุ่นกลับมา ชายหนุ่มจึงเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้“ท่านประธานคะ คุณท๊อปโทรขึ้นมาบอกว่าติดต่อนักข่าวภาคสนามคนนั้นได้แล้วค่ะ แถมเธอยังเป็นคนเจอเหยื่อที่หายแล้วค่ะ แต่ว่า...”สีหน้าของเลขาฯไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำเอาคนเป็นห่วงไม่อยู่รอฟังอะไรทั้งนั้นขายาวรีบก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังห้องส่งที่กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้เสียงคุ้นเคยกำลังเล่าข่าวอยู่บนหน้าจอด้วยการถ่ายทอดสดมาจากที่เกิดเหตุ เขาเห็นใบหน้าอวบอิ่มนั้นปิดเปื้อนไปด้วยคราบเขม่าควัน แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งกับการอ่านข่าวแต่เขาก็มองเห็นความเหนื่อยล้าผ่านแววตาคู่นั้น
“ท่านประธาน”ต้นรีบยกวางขนมปังในมือลงแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขารับไว้เพียงส่ง ๆ ทว่าดวงตากลับจดจ้องไปยังคนเจ้าเนื้อซึ่งเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา จะให้จ้องได้ไงแค่น้ำเสียงเมื่อครู่มันก็ทำให้รู้แล้วว่าเขาพร้อมเด็ดหัวเธอแล้วเอามีดสับเป็นชิ้น ๆ“คุณขับรถเป็นใช่ไหม”เวทัศก้าวเข้ามาหยุดต่อหน้าของต้น ชายหนุ่มรีบพยักหน้างึก ๆ ให้แทนคำตอบ ไม่นานกุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋าของมนลิตาก็ถูกยัดใส่มือเขาทันที“ดี งั้นช่วยขับรถของมนลิตากลับไปด้วยและพรุ่งนี้ก็ขับไปให้เธอที่ทำงาน”“ได้ไงอ่าพี่เวย์ เอ้ย คุณเวทัศ นั้นมันรถของมนนะแล้วพรุ่งนี้มนจะไปทำงานยังไง”หญิงสาวพยายามจะเข้าไปยื้อแย่งกุญแจรถแต่เพราะความสูงที่ห่างกันเกือบสามสิบเซ็นติเมตรทำให้เขาใช้มือดันหน้าผากเอาไว้และตัดสินใจรวบแขนดึงเข้าหาแผงอกกลายเป็นกอดรัดเอาไว้“เรื่องนั้นเอาไว้จัดการทีหลัง แต่ตอนนี้เธอต้องกลับบ้านกับฉันก่อน”“ไม่เป็นไรค่ะ มนมาเองได้ก็กลับเองได้ ปล่อย!”คนตัวอ้วนพยายามขัดขืนแม้จะรูปร่างเจ้าเนื้อแค่ไหนแต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงไม่สามารถสู้แรงผู้ชายได้เลย ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหนื่อยแถมวันนี้เธอใช้พลังงานไปจนหมดแล้วจึงไม่เหลือเรี่ยวแรงมา
เช้ามืดของวันนั้น...มนลิตาปรือตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกรบกวน เธอสะลืมสะลือเพราะมันยังเป็นเช้ามืดอยู่ มือหนาถูกสอดผ่านใต้ชุดนอนมากอบกุมเนินอกอิ่ม ร่างอ้วนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อยอดจิ๋วปลายอกถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วหนา“พี่เวย์ ไหนบอกว่าเหนื่อยไงคะ”“นั้นมันเมื่อคืน แต่นี้มันเช้าแล้ว”เขากระซิบบอกคนตัวกลมก่อนจะใช้แขนตวัดเธอให้พลิกกลับมาแล้วใช้มืออีกข้างแกะเม็ดกระดุมชุดนอนออกอย่างง่ายดาย ไม่นานท่อนบนก็ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นทรวงอกอวบใบหน้าหล่อก้มลงเลียตรงยอดเชอรี่ ก่อนดูดดึงหนัก ๆ พอให้สะดุ้ง เธอคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร บางครั้งยอดอกก็ถูกจับบิด บางทีก็ขยี้ดึงดัน บางจังหวะก็หนีบขึ้นมาดูดเต็มแรง“อืม...”สติของมนลิตาแทบเลือนราง มือใหญ่เลื่อนไปลูบไล้ผิวกายนุ่มเนียน ขณะที่หญิงสาวแอ่นตัวให้เขาเชยชม กางเกงนอนตัวเคืองถูกรูดลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้าริมฝีปากหวานพรมความร้อนตั้งแต่ซอกหู เนินอก และหน้าท้อง สัมผัสโอ้โลมทั่วร่างกายส่งผลให้อารมณ์ถูกปลุกเร้าให้พุ่งทะยานจนรู้สึกวูบวาบขึ้นสมอง“อ๊า หวาน” ชายหนุ่มรำพึงในลำคอแม้ไม่ได้พิศวาสทางความรู้สึกแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาติดใจก็คือร่างกายของมนลิตา ไม่ว่าจะจ
บรรยากาศภายในรถเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน มนลิตาเบือนหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่างรถ ไม่นานรถเคลื่อนมาจอดริมฟุตบาต หญิงสาวยืดตัวชะเง้อคอขึ้นมองไปรอบ ๆ เห็นร้านอาหารตั้งแถวเรียงราย“จอดรถทำไมคะ”“หิวข้าว ถ้าไม่กินก็นั่งรออยู่บนรถเนี่ยแหละ”“เรื่องอะไรจะไม่กินหิวเหมือนกัน ตอนนี้มนกินช้างได้เป็นตัวแล้ว”หญิงสาวหันไปแห้วเสียงใส่เขาแล้วเปิดประตูรถเดินนำหน้าไป เวทัศยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วหุบลงก้าวเท้ายาว ๆ เดินตามหลังมนลิตาเลือกร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งค่อนข้างดูสะอาดและรูปจานอาหารค่อนข้างน่ากิน เธอพลิกเมนูไปมาไม่รู้ว่าจะกินอะไรดีจึงเงยหน้าถามเจ้าของร้านซึ่งเดินมารับออเดอร์ด้วยตัวเอง“ไม่ทราบว่าที่ร้านมีเมนูอะไรแนะนำไหมคะ”ชายวัยกลางคนเหลือบมองหน้ากลม ๆ สลับกับหน้าของเวทัศแล้วอมยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือไปพลิกหน้าเมนูอาหารให้ดู“หอยนางรมทรงเครื่องเลยหนู หอยสด เครื่องเคียงแน่นและที่สำคัญดึ้งดั้งแน่นอน”ชายแก่ยกคิ้วหลิวตามองสลับไปมาระหว่างเวทัศและมนลิตาด้วยสายตามีเลศนัยแอบแฝง หญิงสาวเข้าใจในความหมายของกิริยานั้นจึงรีบ ยกมือขึ้นโบกปฏิเสธทันที“ฉันกับเขาเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันค่ะ”“อ้า
“ท่านประธาน”ต้นรีบยกวางขนมปังในมือลงแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขารับไว้เพียงส่ง ๆ ทว่าดวงตากลับจดจ้องไปยังคนเจ้าเนื้อซึ่งเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา จะให้จ้องได้ไงแค่น้ำเสียงเมื่อครู่มันก็ทำให้รู้แล้วว่าเขาพร้อมเด็ดหัวเธอแล้วเอามีดสับเป็นชิ้น ๆ“คุณขับรถเป็นใช่ไหม”เวทัศก้าวเข้ามาหยุดต่อหน้าของต้น ชายหนุ่มรีบพยักหน้างึก ๆ ให้แทนคำตอบ ไม่นานกุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋าของมนลิตาก็ถูกยัดใส่มือเขาทันที“ดี งั้นช่วยขับรถของมนลิตากลับไปด้วยและพรุ่งนี้ก็ขับไปให้เธอที่ทำงาน”“ได้ไงอ่าพี่เวย์ เอ้ย คุณเวทัศ นั้นมันรถของมนนะแล้วพรุ่งนี้มนจะไปทำงานยังไง”หญิงสาวพยายามจะเข้าไปยื้อแย่งกุญแจรถแต่เพราะความสูงที่ห่างกันเกือบสามสิบเซ็นติเมตรทำให้เขาใช้มือดันหน้าผากเอาไว้และตัดสินใจรวบแขนดึงเข้าหาแผงอกกลายเป็นกอดรัดเอาไว้“เรื่องนั้นเอาไว้จัดการทีหลัง แต่ตอนนี้เธอต้องกลับบ้านกับฉันก่อน”“ไม่เป็นไรค่ะ มนมาเองได้ก็กลับเองได้ ปล่อย!”คนตัวอ้วนพยายามขัดขืนแม้จะรูปร่างเจ้าเนื้อแค่ไหนแต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงไม่สามารถสู้แรงผู้ชายได้เลย ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหนื่อยแถมวันนี้เธอใช้พลังงานไปจนหมดแล้วจึงไม่เหลือเรี่ยวแรงมา
ร่างสูงในชุดสูทสีดำยังคงเดินวนอยู่ในห้องทำงานบนตึกสูงของสถานีโทรทัศน์ออกอากาศ ปกติแล้วเขาต้องกลับบ้านไปตั้งแต่หกโมงเย็นทว่านี้ก็เกือบสองทุ่มแล้วเจ้าตัวยังคงหมกตัวอยู่ในห้องทำงาน สายตาเหลือบมองดูโทรศัพท์และประตูห้องทำงานเป็นระยะก่อนหน้านี้เวทัศสั่งกับท๊อปว่าหากได้ข่าวของมาลิตาและช่างภาพที่ติดตามไปด้วยให้รีบขึ้นมาบอกและระหว่างนั้นเจ้าตัวก็พยายามกดโทรหาคนเป็นเมียอยู่ไม่ขาด แต่เธอก็ไม่ยอมรับสายบางครั้งก็ตัดสายทิ้งอีกต่างหากก๊อก ๆ ขณะกำลังนั่งใช้นิ้วเคาะลงบนโต๊ะเสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงอารมณ์คุกรุ่นกลับมา ชายหนุ่มจึงเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้“ท่านประธานคะ คุณท๊อปโทรขึ้นมาบอกว่าติดต่อนักข่าวภาคสนามคนนั้นได้แล้วค่ะ แถมเธอยังเป็นคนเจอเหยื่อที่หายแล้วค่ะ แต่ว่า...”สีหน้าของเลขาฯไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำเอาคนเป็นห่วงไม่อยู่รอฟังอะไรทั้งนั้นขายาวรีบก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังห้องส่งที่กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้เสียงคุ้นเคยกำลังเล่าข่าวอยู่บนหน้าจอด้วยการถ่ายทอดสดมาจากที่เกิดเหตุ เขาเห็นใบหน้าอวบอิ่มนั้นปิดเปื้อนไปด้วยคราบเขม่าควัน แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งกับการอ่านข่าวแต่เขาก็มองเห็นความเหนื่อยล้าผ่านแววตาคู่นั้น
“ขณะนี้ดิฉันอยู่ในสถานที่เกิดเหตุของญาติผู้สูญหายแจ้งว่าชายคนสนิทได้อุ้มตัวหายไปตั้งแต่คืนวาน ซึ่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวชายคนสนิทได้แล้วนะคะ และกำลังสอบเค้นอย่างหนักว่านำตัวหญิงสาวไปไว้ ที่ไหน ล่าสุดเจ้าตัวให้การปฏิเสธและทำการยื่นประกันตัวไปแล้ว”มนลิตารายงานข่าวภาคสนามอย่างคล่องแคล่วก่อนภาพจะตัดไปยังห้องส่งสัญญาณและผู้ประกาศข่าวได้ทำการวิเคราะห์และอ่านส่วนที่เหลือหญิงสาวเก็บไมค์เข้าที่และยืนรอพร้อมกับช่างภาพบริเวณหน้าสถานีตำรวจขณะนั้นเองผู้ต้องสงสัยเดินลงมานักข่าวหลายสำนักก็วิ่งกรูเข้าไปรอบกรอบพร้อมกับยิงคำถามแต่เจ้าตัวก็ยังคงปิดปากเงียบและรีบก้าวเท้าขึ้นรถที่มีคนมารับออกไปอย่างไวคนเจ้าเนื้อถึงกับห่อไหล่เข้าหากันเมื่อไม่ได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมเลยแต่แล้วสายตาดุจเหยี่ยวของเธอก็ทำงานเมื่อหันไปเจอญาติของหญิงสาวที่หายตัวไปและเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเธอจึงเลือกเดินตามไปเงียบ ๆ“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นนักข่าวจากช่องxx อยากจะขอ...”“ไม่ค่ะ ฉันไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น ลูกสาวฉันหายไปทั้งคนคงไม่มีอารมณ์มานั่งตอบคำถามนักข่าวจากช่องไหนหรอก”ใบหน้าเหี่ยวย่นเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดดวงตาหมองคล
มื้อเช้าในแต่ละวันต้องเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยข้าวเท่านั้นเพราะเธอรู้ว่าเวทัศไม่ชอบกินอาหารจำพวกขนมปังหรือBreakfast วันนี้เมนูหลักจึงเป็นโจ๊กหมูเด้งหญิงสาวเลือกใช้เป็นข้าวสำเร็จที่เอาไว้ทำโจ๊กโดยเฉพาะจะได้ไม่เสียเวลาในการต้มข้าวให้เปื่อยเพราะหากต้องมานั่งเคี่ยวเองคงใช้เวลาหลายชั่วโมงแน่นอนเตรียมอาหารตั้งโต๊ะเสร็จครู่เดียวเวทัศก็ลงมาจากห้องนอน ใบหน้าหล่อยังคงเย็นชาเหมือนเดิมเรียกว่าเป็นปกติของเธอเลยดีกว่าที่จะต้องเห็นสีหน้าแบบนั้นทุกวันเขาเดินมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมฝั่งตรงข้ามเธอ ดวงตาคมตวัดมองคนเจ้าเนื้อตรงหน้า ก่อนจะวางบางอย่างลงบนโต๊ะ หญิงสาวเบิกตากว้างเพราะลืมไปเสียสนิทเลย“อย่าลืมกินล่ะ ฉันไม่อยากมีลูกกับเธอ”มันช่างเป็นคำพูดแสนเจ็บปวดแต่เธอก็ตอบรับสั้น ๆ ด้วยคำว่า “ค่ะ”มืออวบเอื้อมไปหยิบแผงยาคุมไปหย่อนลงกระเป๋าแล้วเลือกนั่งทานมื้อเช้าอย่างเงียบ ๆ ทุกอย่างดำเนินไปเฉกเช่นทุกวันจนกระทั่งเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ตโฟนบนโต๊ะดังขึ้นปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บมนลิตารีบเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของหัวหน้างานก็ถึงกับขมวดคิ้วเพราะปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยโทรมาเวลานี้นอกเสียจากว่ามีข่าวด่วนหรือ
ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างเกิดเสียงลามกดังสนั่นพร้อมกับเสียงครวญครางของสามีและภรรยาที่กำลังร่วมรักกันไฟราคะปะทุในร่างกายของหญิงอวบอ้วน ดวงตากลมโตสีดำสนิทจับจ้องการกระทำของผู้เป็นสามีโดยไม่เคลื่อนกายไปไหน“อือ พี่เวย์ตรงนั้นมัน...เสียว”เว้นช่วงหายใจเบื้องล่างบิดเร้าด้วยแรงกระแทกจากบั้นท้ายของผู้คุมเกม เธอเห็นเพียงแค่ใบหน้าหล่อเชิดหน้าสูดปากครางเสียงต่ำไม่ต่างกัน“อะ ออกแล้ว”เขาสบถคำนั้นออกมาไม่นานจังหวะเร่งเร้าก็กระหน่ำเข้ามาแรงและเร็วเลือดลมทั่วร่างไหลมากระจุกอยู่ตำแหน่งเดียวก่อนกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมาเธอรับรู้ถึงหยดหยาดร้อนผ่าวที่ซัดสาดเข้ามายังส่วนลึกร่างกำยำทาบทับลงบนตัวนุ่มนิ่มราวกับหมดแรงถึงขีดสุดก่อนจะพลิกตัวลงที่นอนด้านข้างและหันหลังให้กับผู้เป็นภรรยา ปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เข้าสู่ห่วงนิทราในที่สุด ปล่อยให้มนลิตานอนลืมตาอยู่อย่างนั้นมันไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นทุกครั้งที่เธอและเวทัศร่วมรักกัน พอเสร็จกิจก็ไม่เคยคิดจะสนใจเธอเลย เขาเพียงแค่ต้องการร่างกายเธอเพื่อไว้ตอบสนองความใคร่ก็เท่านั้นเช้าแล้วหญิงสาวยังคงนอนลืมตามองผู้เป็นสามี มืออวบยกขึ้นไปแตะระหว่างหัวคิ้วของเขาที่