ตอนที่ 14/1นางบุษบาวางถ้วยชาลงแล้วเอนตัวไปข้างหน้า “แพรไหม... ทิมเป็นลูกชายแม่ คนอย่างเขาจะไม่มีวันเอาชีวิตตัวเองไปผูกกับผู้หญิงที่ไม่มีค่าแบบนันนลินทร์ เพียงเพราะเด็กคนนั้นพลาดท้อง เขาคงเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือระบายความต้องการก็เท่านั้น อีกไม่นาน แม่จะจัดการทุกอย่างเอง หนูไม่ต้องห่วง”“คุณแม่คิดจะทำอะไรเหรอคะ?” แพรไหมถามอย่างลังเล รู้สึกเหมือนจะเข้าใจเจตนาของนางบุษบาอยู่ลางๆ แต่ก็ยังต้องการความชัดเจน“คนจากโรงพยาบาลบอกมาว่าผู้หญิงคนนั้นยังนอนรักษาตัวอยู่ พรุ่งนี้ประวัติคนไข้แม่ก็ได้มาแล้ว ดูนี่สิ” นางบุษบามองตรงไปยังแพรไหมด้วยสายตาที่มุ่งมั่น พลางหยิบเอาเอกสารในมือส่งให้ว่าที่ลูกสะใภ้โชคดีที่ได้ว่าที่ลูกสะใภ้เป็นถึงหมอคนเก่ง จึงไม่ยากนักที่จะต้องทำความเข้าใจกับเอกสารที่ส่งให้ “แม่อยากให้หนูมั่นใจนะ ว่าทิมจะเป็นของหนูอย่างสมบูรณ์ งานแต่งนี้จะเกิดขึ้น และนันนลินทร์จะไม่มีที่ยืนในชีวิตของเขาอีกต่อไป”แพรไหมฟังแล้วพยักหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับรู้สึกสับสนและหนักหน่วง “แต่ถ้านันนลินทร์ท้องจริงๆ แล้ว… เราจะทำยังไงกับเด็กในท้องคะ?”นางบุษบาเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มบางที่แฝงความเย็นชา “เด็กค
ตอนที่ 14/2แพรไหมยืนมองตามหลังเข็มมนิสที่เดินจากไป ความรู้สึกเจ็บปวดและสับสนผสมปนเปอยู่ในหัวใจ หล่อนรู้ว่าตัวเองอาจพูดและทำเกินกว่าเหตุจนทำร้ายเพื่อนสนิทคนสำคัญที่อยู่เคียงข้างมาตลอด แต่ความกดดันจากความคาดหวังของคุณหญิงและความต้องการที่จะรักษาสถานะที่เคยคิดว่าจำเป็น ทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวังวนของความคับข้องใจขาเรียวเล็กค่อย ๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา หัวใจหนักอึ้งด้วยความรู้สึกผิดและน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เพียงอยากให้ชีวิตดำเนินไปตามทางที่วาดฝันไว้ความเงียบสะท้อนใจถึงคำพูดของเข็มมนิสที่ว่าหล่อนสามารถ “ถอยออกมาได้”แพรไหมกลั้นน้ำตาแล้วค่อย ๆ หันไปมองทางห้องนอนของเข็มมนิส รู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้อาจไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ“ฉันทำอะไรลงไป...” แพรไหมพึมพำกับตัวเองอย่างอ่อนล้าหล่อนนั่งอยู่ในความเงียบสงัด พยายามทบทวนและเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ความเงียบรอบตัวนั้นเยือกเย็นราวกับจะเตือนให้ตระหนักถึงสิ่งที่สูญเสียไปจากความดื้อรั้นและความหลงในกิเลสของตัวเองแพรไหมลุกขึ้นยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนอนของเข็มมนิส หล่อนรู้ดีว่าตนท
ตอนที่ 14/323.00 น.ธาฎาขับรถออกจากเพนท์เฮ้าส์ในยามดึก ท่ามกลางถนนที่เงียบสงบ ราวกับว่าความว่างเปล่าของค่ำคืนนี้สะท้อนถึงความว้าวุ่นใจในหัวเขาเอง ตั้งแต่เขารู้เรื่องนันนลินทร์นอนป่วยและอยู่ที่โรงพยาบาล เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะพยายามบอกตัวเองให้ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้นแล้วพักผ่อนเสีย แต่ภาพของนันนลินทร์ก็ผุดขึ้นในหัวไม่หยุด“ทำไมถึงต้องเป็นเธอ…” ธาฎาพึมพำอย่างหงุดหงิด ขณะที่มองถนนเบื้องหน้า ไฟรถสาดส่องเป็นเส้นทางแคบยาวไปถึงโรงพยาบาล แต่ก็ยังคงขับต่อไปโดยไม่หยุดในที่สุดเมื่อเขามาถึงโรงพยาบาล ก็ตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยของนันนลินทร์อย่างไม่รีรอ เปิดประตูเข้าไปโดยไม่ทันเคาะ มือทั้งสองข้างของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ข้างตัวเมื่อเห็นนันนลินทร์ที่ยังนอนหลับสนิท ใบหน้าซีดเซียวของเธอสะท้อนความเหนื่อยล้า ถัดจากข้างเตียงนอนยังมีเด็กสาวคนหนึ่งที่เขาเห็นเมื่อช่วงกลางวัน หล่อนยังคงดูแลนันนลินทร์ไม่ยอมกลับ“คุณธาฎา…” เด็กคนนั้นลุกขึ้นยืนต้อนรับเขา หล่อนก้มหน้าเพียงเล็กน้อยคงรู้สึกประหม่าที่เห็นหน้าเขาในตอนนี้ธาฎาเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง เขามองไปยังเตียงของนันนลินทร์อยู่ครู่หนึ่งก่
ตอนที่ 15/1“นี่คือเอกสารตรวจสุขภาพของหนูแพร” คุณหญิงพูดตรงไปตรงมาอย่างไร้ความลังเล “หนูแพรมีปัญหาเรื่องรังไข่ ไม่สามารถมีลูกได้ ลูกรู้ใช่ไหมว่ามันจะกระทบต่อตระกูลเรายังไง?”“แล้วยังไงครับ?” เขารู้ เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าคุณหญิงต้องการให้เขาทำอย่างไร“เด็กในท้องของผู้หญิงคนนั้น คือสิ่งเดียวที่จะช่วยได้”“นี่แม่คิดจะทำอะไร?”“แม่ก็แค่เอ็นดู ในฐานะที่เขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของรักษ์สุขเกษม แม่อยากให้ทิมเลี้ยงดูเขา.... ให้เป็นลูกของทิมเองและของ ‘หนูแพร’ แค่นี้ทิมคงทำได้ใช่ไหม? ไหน ๆ ทิมก็เคยบอกแม่แล้วว่าไม่ได้คิดเกินเลยกับผู้หญิงคนนั้น”“ทิมต้องทำให้เธอยอมยกลูกให้ทิมให้ได้ เขาจะเป็นทายาทตระกูลรักษ์สุขเกษมเต็มตัว และทิมเองก็รู้แล้วใช่ไหม ว่าผู้หญิงคนนั้นเพิ่งตรวจเจอเนื้องอกแต่ยังรักษาได้ ทิมจะอ้างเหตุผลยังไงก็ได้ให้ผู้หญิงคนนั้นใจอ่อน ทิมทำได้ใช่ไหม?” คุณหญิงบุษบาพูดชัดเจน น้ำเสียงเด็ดขาดและไม่เปิดโอกาสให้มีการโต้แย้งธาฎายืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง แววตาของเขาเคร่งขรึมและดื้อรั้น ขณะเขามองหน้าแม่ตัวเอง ผู้หญิงที่เขาเคารพในตอนนี้ท่านทำราวกับชีวิตคนๆ หนึ่งเป็นเครื่องมือต่อรอง ทั้ง ๆ ที่ท่านเองก
ตอนที่ 15/2สามวันเข้าแล้วที่นันนลินทร์ยังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้หล่อนอาการดีขึ้นมาก จนหมอผู้ดูแลอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ หล่อนนั่งรอนอนรอจนถึงช่วงบ่าย อีกไม่กี่ชั่วโมงพยาบาลก็คงเข้ามาปลดสายน้ำเกลือเพื่อให้หล่อนได้เตรียมตัวกลับวันนี้ไร้เงาของธาฎา เขาไม่ได้มาเยี่ยมหล่อน เพียงแต่โทรหาบอกว่าติดงาน แล้วจะให้เรืองฤทธิ์มารับอีกเช่นเคย เมื่อคิดดังนั้นเสียงผ่อนลมหายใจก็เริ่มดังขึ้น นี่หล่อนต้องเอาชีวิตมาแลกกับอะไรอยู่ หัวใจที่ไร้ค่าของเขางั้นหรือ ช่างน่าขบขันสิ้นดีแกร่ก ๆในระหว่างนอนคิดบางอย่างอยู่ขณะที่รอน้ำเกลือค่อยๆ หยดลงตามสาย บุคคลที่ไม่เคยคิดในหัวว่าจะมาหาก็ดันปรากฏตัวเข้ามาในห้องนี้“คุณหญิง...”นันนลินทร์แอบตกใจไม่น้อยกับการที่ได้พบคุณหญิงบุษบาในตอนนี้ ซึ่งแน่นอนหากจะหาเหตุผลว่าทำไม คำตอบก็คงเป็นเพราะว่าท่านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ และคงไม่ต้องตั้งคำถามให้เสียเวลาว่าทำไม หล่อนคิดว่าข้อมูลของหล่อนเองคงส่งตรงถึงมือผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างท่านเสียแล้ว“เป็นยังไงบ้าง มีปวดหัว อาเจียนอีกบ้างไหม?” ท่านถามไถ่ราวกับเป็นเจ้าของไข้เองแต่นันนลินทร์ไม่ได้ไว้ใจท่านขนาดนั้น หล่อนพยา
ตอนที่ 15/3ตอนเย็นวันนั้นธาฎาได้ให้เรืองฤทธิ์มารับนันนลินทร์กลับไปที่เพนท์เฮาส์อย่างที่เขาได้บอกเรืองฤทธิ์ปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาลตามที่ธาฎาได้บอกไว้ เขาก้าวเข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มใจดี และแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อนันนลินทร์เช่นเคย“พร้อมหรือยังครับ?” เขาถามด้วยความสุภาพพลางช่วยหล่อนเก็บข้าวของเล็กน้อย“ค่ะ พร้อมแล้วค่ะ” นันนลินทร์ตอบเสียงเบา แม้ภายนอกจะดูสงบแต่ในใจยังคงสับสน เหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันกับคุณหญิงบุษบาและคำพูดที่ฝังอยู่ในใจทำให้หล่อนรู้สึกเครียด แต่ก็เลือกที่จะเก็บเงียบไว้ขณะที่เดินทางกลับเพนท์เฮาส์ นันนลินทร์มองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างเหม่อลอย ถนนที่ทอดยาวในยามค่ำคืนนั้นดูจะเป็นเพียงเส้นทางธรรมดา หากแต่สำหรับหล่อนทุกก้าวข้างหน้าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความกลัว สิ่งที่ทำให้กังวลที่สุดคือชีวิตของลูกน้อยในท้องเมื่อมาถึงเพนท์เฮาส์ เรืองฤทธิ์พานันนลินทร์ขึ้นไปยังห้องอย่างที่เจ้านายสั่ง ก่อนหน้านี้ธาฎาได้ให้พนักงานทำความสะอาดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างเรียบร้อย นันนลินทร์ก้าวเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกขมขื่นเล็กๆ ด้านในนั้นมีหญิงวัยกลางคนคอยต้อยรับอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก้มหัว
ตอนที่ 16/1ขณะเดียวกัน ธาฎาก็นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคลับหรูที่ประจำ พื้นที่เงียบสงบแยกจากความวุ่นวายของแสงสีภายในคลับหลัก เพื่อนสนิทของเขาสองสามคนที่เป็นคู่หูในธุรกิจต่างก็มาร่วมวงด้วย ทุกคนหยิบแก้วไวน์ขึ้นชนกัน พร้อมกับเสียงหัวเราะและเสียงเพลงแผ่วเบาในห้อง“มึงดูเครียด ๆ นะช่วงนี้” ภาสกรผู้เป็นเพื่อนสนิทของธาฎาเอ่ยทักพลางจ้องมองเขาอย่างจับสังเกต ดื่มหนักขนาดนี้อย่าได้มาบอกว่าเครียดเรื่องงานเลยธาฎายกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบพลางถอนหายใจเล็กน้อย “นิดหน่อยน่ะ ชีวิตส่วนตัววุ่นวายนิดหน่อย”เพื่อน ๆ ต่างหันมองเขาด้วยความสนใจ แม้ปกติจะไม่ค่อยเอ่ยถึงเรื่องส่วนตัว แต่คืนนี้มันดูเหมือนจะเปิดใจเล็กน้อย พวกเขารู้ดีว่ามันอาจเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร“สาวไหนอีกล่ะ?” เพื่อนอีกคนแซวขำ ๆ แต่ไม่ทันไรธาฎาก็ส่ายหน้า“กูเลี้ยงคนไหนอยู่ พวกมึงอย่ามาทำเป็นหยั่งเชิงกูเลย” เอาความจริงนะ ต่อให้เขาไม่เคยได้เอ่ยปากพูด แต่สำหรับเพื่อนสนิทที่คบกันมานาน พวกมันคงรู้อยู่แล้ว“เหอะ มึงน่ะนะ แล้วที่มานั่งอมทุกข์อยู่แบบนี้เนี่ย กูขอเดานะ ว่าเพราะเรื่องมึงกำลังจะแต่งกับคุณแพร แต่เด็กมึงไม่ยอม?” ภาสกรขุ่นคิดเดาไปเรื่อย ส่วนเจ้าขอ
ตอนที่ 16/2ธาฎาเดินออกจากห้องส่วนตัวของคลับหรูที่ประจำ หยุดครู่หนึ่งเพื่อสูดลมหายใจลึกพลางยกสายตาขึ้นมองแสงไฟที่ส่องสว่างภายในคลับ มันเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่ลึก ๆ แล้วเขารู้ดีว่าไม่มีอะไรช่วยกลบความคิดที่ตีกันวุ่นวายในหัวได้เลยร่างสูงก้าวขึ้นมานั่งในรถยนต์หรูคันโปรด เขานั่งเงียบอยู่ในความมืด ความคิดเรื่องนันนลินทร์และแพรไหมยังคงวนเวียนอยู่ในหัวอย่างหนักหน่วง เขารู้ดีว่าการตัดสินใจใด ๆ ก็ตามจะไม่เพียงแต่กระทบต่อชีวิตของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชีวิตของผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันในชีวิตเขา และชีวิตของเด็กในท้องของนันนลินทร์ที่กำลังจะเกิดมาในไม่ช้าธาฎากุมพวงมาลัยแน่น ความคิดในใจสับสนจนเขาไม่สามารถขับรถออกไปจากที่นั่นได้ทันที เสียงคำถามที่พรรษิษฐ์ถามก่อนออกจากคลับยังคงก้องในหัว“มึงรักใครจริง ๆ บ้างไหม?”เขายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบา ๆ มองออกไปนอกกระจกรถที่สะท้อนแสงไฟสลัว ๆ ของถนน ภาพความทรงจำต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับนันนลินทร์ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาขณะเดียวกัน เสียงคำพูดของคุณหญิงบุษบาแม่ของเขาที่คอยย้ำเตือนถึงความสำคัญของการแต่งงานกับแพรไหมก็สะท้อนกลับมาดังก้องในใจ ภาพของครอบครัวและชื่อเสียงที่ย
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ