ตอนที่ 16/3ตึ้ง ดึ่งงง!!เสียงการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่นหนึ่ง นันนลินทร์พลิกตัวตะแคงข้างเพื่อหันไปคว้าเอาโทรศัพท์มือถือข้างกายตนเอง แสงไฟจากหน้าจอแสดงขึ้นสว่างจ้า หล่อนหยิบขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอท่ามกลางความมืดและอุ่นภูมิที่เย็นเฉียบภายในห้องนอนธาฎานอนหลับสนิท หล่อนมั่นใจว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ยืนยันได้จากเสียงลำหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บวกกับเสียงกรนของเขาเองผลจากการไปดื่มมา ก็คงจะหลับสบายไม่ตื่นขึ้นมากวนใจ(คุณหนิงจะไม่มาทำงานแล้วเหรอครับ? เห็นผู้จัดการที่ห้องอาหารบอก)นันนลินทร์นิ่งมองข้อความนั้น ความรู้สึกหลากหลายปะปนอยู่ในใจ มันเป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากนนทวัฒน์ ชายหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้สนิทกับหล่อนมากขนาดนั้น แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งข้อความมาถามไถ่สายตาละไปมองธาฎาที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ตอบนนทวัฒน์เบา ๆ“ใช่ค่ะ หนิงคงไม่ได้ไปทำงานที่นั่นอีกแล้ว”หล่อนจะกลับไปทำงานที่นั่นได้อย่างไร หากกลับไปในสภาพนี้ก็มีแต่จะเป็นเรื่องใหญ่กันไปหมด ทุกคนจะต้องตั้งคำถามถึงเด็กในท้อง ว่าคือลูกใคร ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนแก้ตัวไม่เก่ง(เสียดายจังเลยครับ ผมค
ตอนที่ 17/1ธาฎายืนอยู่ในห้องลองชุดในร้านชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ขณะที่เขายืนมองตัวเองเงียบๆ ในกระจก แพรไหมก็เดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความใจดี“ชุดนี้เหมาะกับทิมมากเลยค่ะ” แพรไหมพูดเสียงเบา พร้อมกับยิ้มอย่างเอาใจ ขณะเธอช่วยจัดระเบียบชุดให้พอดีและเรียบร้อย ก่อนที่จะยืนห่างออกมามองเขาด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความภูมิใจร่างสูงยิ้มบาง ๆ ให้กับคำชมจากว่าที่เจ้าสาว แต่ในใจกลับรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกในตอนนี้ต่างจากช่วงเวลาที่เขาคาดหวังเรื่องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้มามาก จนอาจจะจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยอยากแต่งงานกับคนคนนี้มากแค่ไหนคุณหญิงบุษบาเดินเข้ามาหาลูกชายในชุดสูทสีขาวงาช้างแบบหล่อเหลา แล้วท่านก็ยกมือขึ้นแตะที่ไหล่ของลูกชายเบาๆ ท่าทางเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง“แม่บอกแล้วว่า ทิมคือเจ้าบ่าวที่ใครๆ ก็ต่างอิจฉา ชุดนี้ดูเหมาะกับลูกมาก”ธาฎาก้มหน้าลงเล็กน้อย ยังคงยิ้มออกมาอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะหันไปมองตัวเองที่ยินสะท้อนอยู่หน้ากระจกคุณหญิงบุษบามองตามลูกชายอย่างชื่นชม ดวงตาแห่งความดีใจมันซ่อนไว้ไม่มิดจนแสดงออกมาให้เห็น“งานแต่งงา
ตอนที่ 17/2ธาฎารีบเดินตรงไปยังห้องทำงานของตนเองอย่างไม่รอช้า ในใจนั้นเขาอยากได้ยินคำตอบจากเรืองฤทธิ์เกี่ยวกับเรื่องที่การทุจริตและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสื่อมเสีย นายอาบี นักธุรกิจชาวอาหรับคนนั้นซึ่งมีฐานะเป็นถึงพ่อเลี้ยงของนันนลินทร์ กำลังสร้างเรื่องให้บริษัทของเขาในทางที่ไม่ดีขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่เรืองฤทธิ์จะเปิดประตูเข้ามาอย่างรู้งาน ร่างสูงของลูกน้องเดินเข้ามาด้วยท่าทางเคร่งเครียดเหมือนรู้ว่าธาฎากำลังรอคำตอบสำคัญ“นายครับ ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วนะครับ” เรืองฤทธิ์ยื่นเอกสารรายงานให้แก่เจ้านาย หลักฐานชิ้นนี้จะทำอาบีดิ้นไม่หลุด และยอมคืนโรงแรมที่สาขาดูไบให้แก่บริษัทธนไทยเกษมโดยสมบูรณ์“ว่ามา” ธาฎาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แต่สายตาคมคู่นั้นกลับแสดงความสนใจอย่างมากเรืองฤทธิ์อธิบายข้อมูลที่สืบได้อย่างละเอียด “ถ้านายอนุญาตให้ดำเนินการได้เลย คนของเราที่อยู่ฝั่งนู้นก็จะจัดการออกหมายจับทันทีครับ ส่วนเรื่องเขาจะสู้คดีไหมก็คงต้องรอดู โชคดีที่กฎหมายประเทศเขาแรงใช้ได้ มันเป็นดาบสองคมที่จะเล่นงานนายอาบีเองครับ”ธาฎาค่อยๆ เปิดอ่านเอกสารในมือทีละหน้าอย่
ตอนที่ 17/3ขณะนี้ธาฎากำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านคุณหญิงบุษบา ภายในรถหรูที่เงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ในมือของเขายังมีเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการทุจริตของนายอาบีที่ได้รับมาจากเรืองฤทธิ์ หลังจากที่มาถึงบ้านที่ปทุมธานี คุณหญิงบุษบาออกมาต้อนรับลูกชายด้วยความใจดี“แม่คิดว่าทิมจะเทแม่ซะอีก” ท่านว่าหยอกๆ แต่ลึกๆ ในใจท่านยังไม่มั่นใจลูกชายคนนี้เท่าไหร่นัก ก็ไม่แน่ว่าอาจจะไม่มาที่นี่ เพียงเพราะใจอ่อนให้กับผู้หญิงคนนั้นธาฎาสบตาแม่ของเขาพร้อมทั้งกำชับกระเป๋าในมือ “ก็ดีเหมือนกันครับ นานๆ ทีจะได้กลับบ้าน อีกอย่างผมก็มีเรื่องจะคุยกับคุณแม่ด้วยครับ”เขาเดินตามแม่เข้าไปในห้องรับแขก หลังจากที่คุณหญิงบุษบาจัดน้ำชาและนั่งลง ธาฎาก็เริ่มเล่าถึงเรื่องราวของนายอาบีและความยุ่งยากที่เกิดขึ้นในบริษัท เขาอธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด“แม่เข้าใจดีว่าทิมทำอะไรเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัทและครอบครัว ดีแล้วล่ะลูก”ธาฎาทำหน้านิ่งขรึม ก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ผมจะหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อรักษาบริษัทของคุณพ่อเอาไว้”คุณหญิงบุษบาหรี่ตาลง พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ด
ตอนที่ 18/11 สัปดาห์ต่อมาในหอประชุมของโรงแรมสุขเกษมเต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า งานแต่งงานของธาฎากับแพรไหม ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาวและทอง ที่ให้ความรู้สึกสง่างาม ดอกไม้สดสีครีมและชมพูอ่อนถูกจัดเรียงอย่างประณีตทั่วทั้งห้อง เสาและเพดานประดับด้วยคริสตัลที่สะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าเพิ่มความอลังการให้กับงาน ซึ่งสะท้อนถึงความสมบูรณ์แบบและความหรูหราตามแผนที่คุณหญิงบุษบาผู้เป็นแม่เจ้าของบ่าววางเอาไว้ธาฎาในชุดสูทสีดำที่ดูเรียบหรูและเนี๊ยบ ยืนอยู่บนเวทีพร้อมแพรไหม เจ้าสาวที่งดงามในชุดแต่งงานกระโปรงยาวปักลูกไม้ละเอียดอ่อนที่ลากพื้น ผ้าคลุมหน้าทิ้งตัวลงอย่างนุ่มนวล แพรไหมดูราวกับเจ้าหญิงจากเทพนิยาย ทั้งสองยืนเคียงข้างกันท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดี ทั้งจากวงการธุรกิจและวงการแพทย์เสียงดนตรีออเคสตร้าบรรเลงอย่างนุ่มนวล ดอกไม้จากเพดานโปรยลงมาตามจังหวะการเดินของทั้งคู่บนพรมแดงที่ทอดยาวในห้องประชุมอันโอ่โถง แพรไหมยิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่ธาฎากลับมีสีหน้าที่เรียบขรึม เขาเพียงแค่จับมือเจ้าสาวอย่างมั่นคง แต่ในความคิดของเขากลับยังคงเป็นเรื่องราวที่ยากจะบอกเล่ากับใครเ
ตอนที่ 18/2ขณะที่ยังดึงรั้งแขนแกร่งเอาไว้มั่น มือเรียวก็บางเริ่มไม่อยู่นิ่ง คืนเข้าห้องหอจะต้องเป็นคืนที่มีความสุขที่สุด แพรไหมคิดแบบนั้น หล่อนพยายามเอื้อมมือขึ้นมาถอดเนคไทของธาฎาออก ก่อนจะค่อยๆ ขยับมาเป็นเสื้อเชิ้ตของเขา ร่างสูงได้แต่ยินหยุดนิ่งดวงตาของเขาไม่ได้เหลียวมองใบหน้าเจ้าสาวที่ยังคงเหลือร่องรอยของเครื่องสำอางมาทั้งวัน“นะคะทิม…” แพรไหมกระซิบแผ่วเบา ขณะที่ใบหน้าหล่อนค่อยๆ ซบลงบนแผงอกของเขา สัมผัสแนบชิดนั้นบ่งบอกถึงความปรารถนาและความคิดถึงอย่างที่เฝ้ารอ “เราไม่ได้มีความสุขด้วยกันนานมากแล้วนะคะ”หล่อนค่อยๆ สัมผัสแผ่นอกอุ่นของเขาเบาๆ หลังจากที่ถอดเสื้อเชิ้ตออกได้สำเร็จ หัวใจของแพรไหมเต้นแรง หวังให้ธาฎารับรู้ถึงความรู้สึกทั้งหมด แต่ธาฎากลับนิ่งเงียบ ราวกับกำลังฝืนใจอยู่ เขาสูดหายใจลึก ปิดตาลงชั่วครู่พยายามข่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจ“เอาไว้วันหลังเถอะนะ พรุ่งนี้เราต้องไปธุระกันต่อ” เขาผละใบหน้าสวยออกห่างตัวเบาๆ ก่อนจะถอยหลังออกมายืนตั้งหลัก แพรไหมชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาหม่นลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หล่อนยืนนิ่ง มองธาฎาที่ถอยห่างออกจากตัวเธออย่างรวดเร็ว หญิงสาวพยายามกลบความผิดหวังด
ตอนที่ 18/3วันเวลาผ่านจนกระทั่งนันนลินทร์เริ่มท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที อาการป่วยของหล่อนเองก็ทรุดหนักลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ยิ่งต้องใช้ความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อประคับประคองตัวเองและลูกในท้อง ความอ่อนแอจากการตั้งครรภ์ยิ่งส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมเข้าไปกันใหญ่ แม้จะพยายามอดทนเพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้พบหน้าหนึ่งชีวิตที่กำลังจะลืมตาดูโลก แต่ความโดดเดี่ยวและขาดกำลังใจที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่พ่อของลูกไม่ค่อยมีเวลาให้หล่อนอย่างที่เคยเป็นตลอดระยะเวลาหลังจากที่งานแต่งของธาฎาผ่านพ้นไป หล่อนจำได้ดีว่าตั้งวันนั้น ข่าวทุกสำนักก็ต่างให้ความสนใจกับเรื่องงานวิวาห์ของทายาทไฮโซหมื่นล้าน เขากับแพรไหมแทบจะเดินสายออกสัมภาษณ์สื่อและรายการโทรทัศน์วันเว้นวันได้ แม้หล่อนจะไม่ได้ติดสื่อออนไลน์หรือชอบเสพข่าวสารเรื่องบันเทิง ทว่าก็อย่างมีหลุดรอดมาให้ได้เห็นหลายเดือนที่ผ่านมา....‘คุณธาฎายังดูดีอยู่แบบนี้ แม้ว่าอายุจะเลขสามแล้ว อยากจะรู้ว่ามีปรึกษากันกับคุณหมอแพรบ้างไหมคะ เรื่องทายาททั้งคู่มีแพลนว่ายังไงกันบ้างคะ?’‘คือ...จริงๆ แล้วแพรมีปัญหาเรื่องสุขภาพนานแล้วน่ะค่ะ พูดตรงๆ เลยนะคะ แพรเห็นว่ามันย
ตอนที่ 19/1เสียงเครื่องวัดชีพจรที่เตือนถึงสภาพร่างกายของนันนลินทร์ดังมาเป็นระยะ หญิงสาวนอนนิ่ง ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปไกล น้ำตารื้นขึ้นมา หล่อนพยายามกดความกังวลลง แต่หัวใจกลับยังคงบีบรัดอย่างทรมานขณะที่นันนลินทร์กำลังเคว้งคว้างกับความรู้สึกเช่นนั้น เรืองฤทธิ์กับคุณเยาว์ยืนมองหญิงสาวด้วยความห่วงใย จนในที่สุดเรืองฤทธิ์ก็มองเวลาที่เข็มนาฬิกาเดินมาถึงช่วงเย็น ขณะที่เขาหวังว่าเจ้านายตัวเองจะมาถึง แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ธาฎากลับยังไม่ปรากฏตัวคุณเยาว์ที่อดกลั้นความไม่พอใจไว้นานในที่สุดก็หลุดออกมา “คุณหนิงคะ คุณทิมยังไม่มาจริงๆ ด้วยค่ะ ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย!”นันนลินทร์ได้แต่ยิ้มบางๆ อย่างอ่อนล้า แววตาหล่อนดูเลื่อนลอยไม่ต่างจากคนหมดหวัง“คุณหนิงต้องเข้มแข็งนะคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่างน้อยเยาว์จะอยู่ตรงนี้”คำพูดนั้นทำให้นันนลินทร์ไม่อาจข่มอารมณ์ได้อีก น้ำตาที่เอ่อล้นร่วงลงมาอย่างไม่อาจห้าม ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้ขณะที่ตัดสินใจยอมรับความจริง เลิกรอคอยใครบางคนได้แล้ว ทว่าจู่ ๆ ดันมีเสียงประตูดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของใครบางคนที่ทุกคนในห้องรอคอย“คุณทิม!” เสียงของ
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ