ตอนที่ 19/1เสียงเครื่องวัดชีพจรที่เตือนถึงสภาพร่างกายของนันนลินทร์ดังมาเป็นระยะ หญิงสาวนอนนิ่ง ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปไกล น้ำตารื้นขึ้นมา หล่อนพยายามกดความกังวลลง แต่หัวใจกลับยังคงบีบรัดอย่างทรมานขณะที่นันนลินทร์กำลังเคว้งคว้างกับความรู้สึกเช่นนั้น เรืองฤทธิ์กับคุณเยาว์ยืนมองหญิงสาวด้วยความห่วงใย จนในที่สุดเรืองฤทธิ์ก็มองเวลาที่เข็มนาฬิกาเดินมาถึงช่วงเย็น ขณะที่เขาหวังว่าเจ้านายตัวเองจะมาถึง แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ธาฎากลับยังไม่ปรากฏตัวคุณเยาว์ที่อดกลั้นความไม่พอใจไว้นานในที่สุดก็หลุดออกมา “คุณหนิงคะ คุณทิมยังไม่มาจริงๆ ด้วยค่ะ ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย!”นันนลินทร์ได้แต่ยิ้มบางๆ อย่างอ่อนล้า แววตาหล่อนดูเลื่อนลอยไม่ต่างจากคนหมดหวัง“คุณหนิงต้องเข้มแข็งนะคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่างน้อยเยาว์จะอยู่ตรงนี้”คำพูดนั้นทำให้นันนลินทร์ไม่อาจข่มอารมณ์ได้อีก น้ำตาที่เอ่อล้นร่วงลงมาอย่างไม่อาจห้าม ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้ขณะที่ตัดสินใจยอมรับความจริง เลิกรอคอยใครบางคนได้แล้ว ทว่าจู่ ๆ ดันมีเสียงประตูดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของใครบางคนที่ทุกคนในห้องรอคอย“คุณทิม!” เสียงของ
ตอนที่ 19/2เมื่อวันคลอดมาถึง ความเจ็บปวดและหวาดหวั่นปกคลุมใจนันนลินทร์ หล่อนนอนบนเตียงในห้องคลอด สายตาจับจ้องไปที่เพดาน พลางกลั้นความเจ็บปวดที่ทวีคูณในทุกวินาที ใบหน้าซีดเซียวและอ่อนล้าจากการต่อสู้กับร่างกาย ความรู้สึกที่ปะทุในใจยากจะห้าม น้ำตาแห่งความปวดร้าวค่อย ๆ เอ่อขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบายท่ามกลางความเจ็บปวดเหล่านั้น เสียงร้องแผดกังวานของทารกแรกเกิดดังขึ้น น้ำตาของนันนลินทร์ไหลอาบแก้ม ร่างกายเหนื่อยอ่อน แต่หัวใจเหมือนจะยิ่งทรมาน หล่อนหันไปมองรอบตัว ดวงตาหมองคล้ำแต่กลับไม่พบใครเลย นอกจากทีมแพทย์และพยาบาลที่รีบร้อนทำหน้าที่ของตนในวินาทีที่สำคัญที่สุด หล่อนเผลอมองหาใครบางคนที่ไม่เห็นแม้แต่เงา ธาฎาไม่ได้อยู่ที่ห้องคลอด เขาหายไปไหนหล่อนไม่อาจรู้ ความเจ็บปวดที่บีบรัดอกแม้เพียงแค่ในช่วงเวลานี้เขาก็ยังใจร้ายกับหล่อนได้ลงคอ“ได้ลูกสาวนะคะคุณแม่” พยาบาลเอ่ยบอก ขณะที่ทีมแพทย์กำลังทำความสะอาดทารกตัวน้อยหล่อนไร้เรี่ยวแรงโต้ตอบ ทำได้เพียงแค่ยิ้มและปรายตามองลูกน้อยที่หลับตาพริ้มในอ้อมแขนของพยาบาล น้ำตาไหลลงมาอย่างเงียบๆ ความเจ็บปวดที่หล่อนเผชิญอยู่ตอนนี้ มันหายไปชั่วขณะเป็นเพราะความสุข
ตอนที่ 19/3ภายในห้องทำงานของคุณหญิงบุษบาในโรงพยาบาล เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ลูกสะใภ้ป้ายแดงของท่านเองจะเปิดเข้ามา หญิงสาวในชุดเสื้อกาวน์ขาวยืนอยู่ตรงประตูอย่างสงบ ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของคุณหญิงผู้เป็นแม่สามี“คุณแม่คะ ทราบข่าวแล้วหรือยังคะ?” แพรไหมเอ่ยเสียงเบา แต่ในแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง “ผู้หญิงคนนั้นคลอดแล้วค่ะ…ได้ลูกสาว”คุณหญิงบุษบาเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร แววตาเฉียบขาดแต่มืดหม่นเล็กน้อย นางพยักหน้ารับช้า ๆ ก่อนจะวางปากกาเอาไว้บนโต๊ะทำงาน“แม่ทราบแล้วล่ะหนูแพร” คุณหญิงบุษบาพึมพำเบา ๆ ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของท่าน แน่นอนว่าทุกความเคลื่อนไหวของหล่อนย่อมอยู่ในสายตา คนของท่านจะคอยรายงานเรื่องของผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่ขากตกบกพร่องแพรไหมสบตาคุณหญิงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยให้ท่านทราบ “ถ้าอย่างนั้น ลูกของเธอ...”คุณหญิงบุษบาถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่อีกมือคว้าโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา “เอาไว้ก่อนเถอะ ผู้หญิงคนนั้นยังจะอยู่ในสายตาเราอีกนาน ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเด็ก เขาต้องได้รับน้ำนมจากแม่แท้ๆ ของเขาก่อน ถึงจะแข็งแรงสมบูรณ์ เรื่องนี
ตอนที่ 20/1“ฉันมีเรื่องอยากจะให้นายช่วย”“ครับนาย” เรืองฤทธิ์ก้มหัวเล็กน้อยให้กับเจ้านาย ในโรงพยาบาลตอนนี้เป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าแล้ว แทนที่เขาจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนบ้าง ทว่ากลับโดนเจ้านายโทรตามให้มาหาถึงห้องทำงาน“จับตาดูหมอเข็มกับแพรไหมเอาไว้ดีๆ ช่วงนี้ ระหว่างที่ฉันยังอยู่ที่นี่”“หมายความว่าคืนนี้นายจะไม่กลับไปนอนบ้านเหรอครับ?” ตั้งแต่แต่งงานมาได้หลายเดือน เรือนหอของธาฎาก็แทบจะรกร้าง มีเพียงแค่คุณหมอแพรไหมเท่านั้นที่เข้าอยู่ ส่วนเจ้านายของเขานั้นนอนวันเว้นวันได้ แต่แทนที่ในช่วงที่ธาฎาไม่ค่อยยอมกลับไปนอนบ้านนั้นเขาจะเอาเวลาไปหาแม่ของลูก ทว่าเปล่าเลย...ธาฎายังคงหาที่หลับนอนไม่เป็นหลักแหล่ง บ้างก็ไปนอนโรงแรม บ้างก็ที่ทำงาน อย่างล่าสุดเขาก็มานอนห้องทำงานส่วนตัวที่โรงพยาบาลแทนเป็นแบบนี้มานานจนเรืองฤทธิ์นึกขัดใจ ปากของเจ้านายเขาไม่รู้ว่าอมดอกพิกูลเอาไว้หรือไม่ ถึงได้ไม่ยอมพูดในสิ่งที่ตนเองรู้สึก จนทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลับกลายเป็นลูกน้องคนนี้นี่แหละที่ต้องคอยเหนื่อยตาม“ฉันจะนอนไหนมันก็เรื่องของฉัน นายมาก็ดีแล้ว ไปติดต่อหมอจุฑารัตน์ให้ฉันที บอกว่าฉันขอตัวยัยหนูมาที่แปบเดียว”“แต่นายค
ตอนที่ 20/2กลางดึกคืนนั้น แสงไฟในห้องทำงานส่วนตัวของธาฎายังคงส่องสว่าง เขานั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบหน้าผาก พลางคิดถึงคำพูดของเรืองฤทธิ์ที่สะกิดความรู้สึกบางอย่างในใจ ความคิดของเขากลับวนเวียนอยู่กับคำพูดเหล่านั้นอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ขณะนั้นมีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นข้างหู ธาฎาชะงักเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย“ครับ?” เขาพูดออกไปเบา ๆเสียงของคุณหญิงบุษบาจากปลายสายดังขึ้นบ่งบอกได้ว่าท่านกำลังไม่พอใจบางอย่าง“ทิม แม่เป็นห่วงหนูแพร เขาเองก็คงจะนอนไม่หลับเพราะรอลูก แม่คิดว่าเราคุยกันจนรู้เรื่องแล้วซะอีก ถ้าทิมยังจะเป็นแบบนี้อยู่อีกแม่ว่าเราต้องคุยกันใหม่แล้วล่ะ”ธาฎาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ผมรู้ครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แพรเขาเป็นคนที่เข้มแข็ง ถ้าแพรไม่ได้โทรมาหาผม ก็แสดงว่าเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรครับแม่”คุณหญิงบุษบาถอนหายใจเบา ๆ “คิดแบบนั้นได้ไงทิม! ต่อให้หนูแพรไม่พูดแต่ลูกก็ควรรู้จักหน้าที่ตัวเองไหม? แกปล่อยให้เมียแกนอนอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง?”“ผมรู้แล้วครับ แม่ไม่ต้องเครียดแทนผมหรอก แค่นี้นะครับ แม่รีบเข้านอนเถอะ”เ
ตอนที่ 20/3ผ่านมาจนครบ 1 สัปดาห์ นันนลินทร์ได้ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับเจ้าตัวน้อย หล่อนยังคงใช้ชีวิตในแบบที่เคยเป็นนั่นคือการกลับมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของธาฎา ที่ตรงนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหล่อนไปแล้ว ไม่อยากจะนึกถึงวันที่ต้องจากไปเลยตามสัญญาที่ระบุเอาไว้นั้น หล่อนยังมีเวลาอยู่กับลูกน้อยจนกว่าเขาจะหย่านมแม่ ระหว่างนี้หล่อนเองก็จะได้ฟื้นฟูร่างกายเตรียมรับการผ่าตัดในอีกไม่ช้า เมื่อถึงวันนั้นหากชะตากรรมเป็นเช่นไรหล่อนคงต้องยอมรับ“คุณหนูอัญญาเลี้ยงง่ายจังเลยนะคะ ไม่ค่อยร้องเลยเนอะ” คุณเยาว์เดินมายังห้องนั่งเล่นพร้อมกับอุปกรณ์เตรียมอาบน้ำเด็ก จากเดิมที่เคยให้คุณเยาว์มาทำงานแบบเช้าเย็นกลับ ตอนนี้ธาฎาจึงสั่งให้คุณเยาว์พักอยู่ที่นี่เลย เพื่อที่จะได้ดูแลสองแม่ลูกอย่างใกล้ชิด“อาบน้ำกันนะคะคนเก่งของแม่” นันนลินทร์ว่าพลางก้มหน้ามองลูกด้วยความสุข ใบหน้าของอัญญามีร่องรอยดีเอ็นเอจากทางฝั่งของพ่อเขาไว้อย่างชัดเจน จนหล่อนสามารถคาดเดาได้เลยว่าโตขึ้นอัญญาจะหน้าตาเหมือนใคร“มาค่ะ เยาว์ช่วยประคองดีกว่า”ด้วยความที่นันนลินทร์ก็ยังไม่แข็งแรงนัก หน้าที่หลัก ๆ ที่ต้องออกแรงย่อมเป็นของคุณเยาว์ บางหล
ตอนที่ 21/1“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”คำพูดของธาฎาทำให้นันนลินทร์แอบตกใจ หล่อนเหลือบมองเขาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ คำพูดนี้ออกจะเหนือความคาดหมายไปมาก เพราะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาแทบไม่เคยได้ใช้เวลาที่นี่กับหล่อนเลย“คุณไม่ต้องไปอยู่กับเธอเหรอคะ?” แอบเผลอแสดงกิริยาประชดประชันให้เขาเห็น แต่ก็ช่วยไม่ได้ ก็ในเมื่อเขาแต่งงานมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะว่าทนเพื่อลูก หล่อนก็ไม่อยู่ให้โดนเหยียบย่ำศักดิ์อยู่แบบนี้หรอก“ก็ลูกฉันอยู่ที่นี่ ฉันก็ต้องนอนที่นี่น่ะสิ”“นอนได้ค่ะ แต่คุณก็ต้องนอนโซฟาข้างนอกนะคะ ห้องเล็กอีกห้องตอนนี้คุณเยาว์ก็ใช้อยู่”แล้วดูสภาพตอนนี้ที่หล่อนกลายมาเป็นบ้านน้อยของเขาโดยสมบูรณ์ ช่างน่าเวทนาตัวเองนัก เพียงอยากจะออกไปให้ไกลจากที่เป็นอยู่ก็ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ“นี่ ที่นี่มันเป็นทรัพย์สินของฉัน ทำไมเธอถึงกล้าไล่ให้ฉันมานอนหน้าทีวี?”“ถ้านอนไม่ได้ก็กลับบ้านคุณไปค่ะ หรือคุณจะนอนในห้องใหญ่ แล้วให้หนิงกับลูกออกมานอนโซฟาแทน?” หล่อนถามกลับอย่างไม่ยอมความธาฎาลุกขึ้นขยับเข้ามาใช้ร่างตัวเองคร่อมลงโน้มใบหน้าเข้าหานันนลินทร์ด้วยความว่องไว เขากระ
ตอนที่ 21/2ธาฎามองตามหลังหล่อนขณะที่เดินกลับเข้าห้อง เส้นผมยาวสยายของนันนลินทร์เคลื่อนไหวตามจังหวะการก้าวเดิน เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆเขาก้มลงมองแก้วบรั่นดีที่เหลืออยู่ในมือ ส่ายหน้าเบาๆ กับตัวเองก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้น เก็บขวดบรั่นดีและแก้ววางไว้ที่เดิม เดินไปปิดไฟแล้วเอนตัวลงนอนบนโซฟา ร่างกายอ่อนล้าจากความคิดฟุ้งซ่านและสิ่งที่ต้องเผชิญมาตลอดหลายเดือนนี้ขณะหลับตาลงความเงียบสงบเข้าครอบคลุมห้องทั้งห้องอีกครั้ง แม้ว่าเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่จะเป็นตัวช่วยทำให้เขานอนหลับสบายขึ้น ทว่าเขากลับต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วยความอึดอัดจากภายในร่างกาย“ร้อนจังวะ” ความอึดอัดยิ่งทำให้เขาต้องตัดสินถอดเสื้อตัวเองเขวี่ยงทิ้ง จากนั่นก็นอนลงอีกครั้ง ขณะที่ผ้าห่มของนันนลินทร์ยังกองอยู่ข้างเขาความหงุดหงิดเขาตัวเองยังไม่มีท่าทีว่าจะจางหาย อาจจะเป็นเพราะเลือดในกายมันสูบฉีดขึ้นมาจากฤทธิ์น้ำเมา เขาตัดสินใจเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้านนอก แสงไฟสลัวสะท้อนในกระจก เขามองตัวเองด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ก่อนจะเปิดน้ำเย็น ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านมือลงไปในอ่างล้างหน้า เสียงน้ำดังเบา ๆ เพื่อช่วยกลบความเงียบและ
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ