The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
บทนำ@Dubai'เอาเงินนี่ไปนะลูก ตอนนี้แม่ยังไม่พร้อมจริงๆ' ธนบัตร 2-3 ฟ่อนใหญ่ถูกส่งใส่มือลูกสาว ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนกันอยู่ภายในสถานีรถไฟ หรือ Dubai metro ที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามบิน นันนลินทร์อุตส่าห์เก็บเงินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อหวังพักใจหลังจากการเสียชีวิตของบิดา ด้วยค่าตั๋วเครื่องบินแสนแพง หล่อนแทบเทหมดหน้าตัก เพียงหวังมาพึ่งพาผู้เป็นแม่ นางนิรณีหล่อนหย่าขาดกับพ่อตนมานานนับยี่สิบกว่าปี นิรณีมีชีวิตที่ดีราวกับเจ้าหญิงบนกองทองกับสามีใหม่ของหล่อน นันนลินทร์ไม่คิดหวังจะให้ผู้เป็นแม่ต้องเลี้ยงดูปูเสื่อหล่อนอย่างดีหลังจากที่ตัดสินใจมาที่นี่ ทว่าเพียงแค่ให้หล่อนได้อยู่ด้วยในบ้านหลังใหญ่ราวกับราชวังนั้น เพียงเท่านี้นิรณีกลับทำให้ลูกสาวไม่ได้ ด้วยเหตุที่ว่าสามีใหม่ที่เป็นชาวอาหรับไม่ยอมรับลูกติดอย่างนันนลินทร์'ฮึก... ให้หนิงอยู่ที่นี่ด้วยไม่ได้หรอคะแม่? กลับไทยไปหนิงก็ไม่มีใครแล้วนะ' หล่อนเพิ่งสูญเสียผู้เป็นที่รักมาแท้ๆ พ่อของหล่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอดที่คร่าที่ชีวิตคนนับไม่ถ้วน และท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้หล่อนหวังความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่อย่างที่สุด แ
ตอนที่ 1/1ปัจจุบัน@กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย“หนิง เสร็จจากเบรกฟาสต์แล้วขึ้นไปหาคุณทิมด้วยนะ” เสียงของผู้จัดการชายคนเก่งบอกกับพนักงานสาวด้วยความสนิท นันนลินทร์กลับมาไทยหลังจากที่หางานในดูไบไม่สำเร็จ นี่ก็ผ่านมาเกือบปีแล้วที่หล่อนกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ไทยด้วยตัวคนเดียวคุณทิม หรือ ธาฎา ชายหนุ่มเอเชียคนนั้นที่หล่อนเคยเจอเขาในลิฟท์ แท้ที่จริงพอกลับมาไทยหล่อนได้เข้ามาทำงานในโรงแรมแบรนด์เดียวกันกับที่เคยพักอาศัยในดูไบคืนนั้นและเจ้าของแบรนด์ในเครือคือเขา...“คุณทิมมาเหรอคะ? เห็นช่วงนี้พี่แหม่มบอกว่าเขายุ่งงานที่บริษัทนี่”แม้ในใจจะรู้ความเคลื่อนไหวของเขาดีกว่าใคร ทว่าก็ต้องแสร้งถาม ทำเป็นไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของโรงแรม“ไม่รู้สินะ อ่อ! อย่าลืมกาแฟกับอาหารเช้าของคุณทิมด้วยล่ะ เขาโทรมาสั่งเมื่อกี้”“ค่ะ”หญิงสาวน้อมรับคำสั่งจาก FB Manager [1] คนเก่ง บ่อยครั้งที่หล่อนได้ขึ้นไปห้องทำงานของธาฎาด้วยสถานการณ์แอบแฝงแบบนี้แต่ใครในโรงแรมจะรู้กันล่ะว่าแท้ที่จริงแล้วระหว่างหล่อนกับเขามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งบางอย่างภายในห้องทำงานชั้นบนเกือบถึงชั้นรูฟท็อปด้านบน หรือ Sky lounge มีแผนกต่าง
ตอนที่ 1/2ภายหลังจากที่ส่งข้าวส่งน้ำให้กับเจ้าของโรงแรมเสร็จสิ้น ร่างอรชรกลับมาประจำที่ห้องอาหาร ตอนนี้ใกล้จะถึงรอบ Lunch แล้ว อีกไม่กี่นาทีก็คงมีลูกค้าเข้ามาทานอาหารหล่อนทำงานที่นี่มาได้ปีกว่า หลังจากที่เจอธาฎาในวันนั้น แม้จะไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตเพราะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง ทว่าเพื่อนร่วมงานหลายคน หากมีเรื่องอะไรที่สงสัยหรือขอความช่วยเหลือ หล่อนก็มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึง ไม่ใช่เพียงเพราะหล่อนเก่ง แต่ยังเป็นเพราะหล่อนสามารถเข้าใจปัญหาของเพื่อนร่วมงานหลายคนได้อย่างตรงจุดโดยที่ใช้ทัศนคติที่ดีแก้ไขปัญหาร่วมกันกับเพื่อนพนักงานในองค์กร เพราะแบบนี้ถึงได้รับตำแหน่งพนักงานดีเด่นแห่งปีไปครอบครอง“พี่หนิง เดี๋ยวสักบ่ายโมงมีโต๊ะจอง M20 นะ” เสียงใสจากสาวรุ่นน้องเทรนนีที่เพิ่งเข้ามาฝึกงานในแผนกนี้เอ่ยบอก“โอเคจ้ะปลา แล้วจองมากี่ที่ เขาพักที่โรงแรมเราไหม?”“ไม่ได้พักค่ะ พี่จุ๋มเป็นคนรับเรื่องมา เห็นบอกว่าเป็นแขกของคุณธาฎานะคะ” น้องเทรนนีในแผนกมีหน้าที่แค่เดินมาบอกอีกที ส่วนคนที่รับเรื่องนี้มาก็คือจุฑารัตน์ หรือ จุ๋ม สาวโฮสเตสประจำแผนก FBพอสาวรุ่นน้องพูดชื่อธาฎาขึ้นมา คนฟังเลยอด
ตอนที่ 1/3ตกเย็นภายในวันเดียวกัน วันนี้นันนลินทร์กลับถึงคอนโดมิเนียมหรูเพียงคนเดียว ส่วนเจ้าของนั้นบอกหล่อนล่วงหน้าแล้วว่าจะกลับไปนอนที่บ้านของเขา แพทย์หญิง บุษบา รักษ์สุขเกษม เป็นแม่ของธาฎา และท่านก็มีชื่อเสียงทั้งในวงการธุรกิจและวงการแพทย์ ด้วยความสามารถของท่านเองท่านเคยเป็นหมอรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลของท่านเอง ทว่าตอนนี้เกษียรออกมาทำหน้าที่บริหารงานด้านโรงพยาบาลแทน แม้ว่าจะไม่ได้รับเคสรักษาคนไข้แล้ว แต่ท่านก็ยังเป็นที่ปรึกษาด้านการแพทย์ได้อย่างผู้มีองค์ความรู้อันที่จริงหล่อนไม่เคยพูดคุยกับท่านโดยตรงแม้แต่ครั้งเดียว เพียงแต่รับรู้เรื่องราวจากลูกชายของท่านเอง รวมทั้งพนักงานหลายคนในโรงแรมที่มีอายุงานมากหลายปี คนเหล่านั้นเคยคุ้นชินกับท่านเมื่อครั้นที่คุณโสพล รักษ์สุขเกษม สามีของแพทย์บุษบานั้นยังมีชีวิตอยู่และดำรงตำแหน่งเดียวกันลูกชายท่าน ก่อนที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่านจะจากไป เนื่องด้วยโรคประจำตัวร่างอรชรเดินทางกลับถึงภายในห้องไปที่เรียบร้อย เย็นวันนี้คงต้องพึ่งพาอาหารแบบเดลิเวอรี่ไปก่อน อย่างไรเสียคืนนี้เขาก็นอนที่บ้านเขาแล้ว คนที่ต้องรับบทแม่ครัวอย่างหล่อนจึงพลอยได้พักมือ เปลี่ยนรสชาติ
ตอนที่ 2/1“ขอบคุณสำหรับของขวัญนะพ่อทิม”“ครับ คุณน้า” ชายหนุ่มรุ่นลูกโค้งตัวลงเล็กน้อยให้แก่เจ้าของวันเกิดเขากับแพรไหมเดินทางมาถึงเขาใหญ่ก็จวนจะมืดค่ำเสียแล้ว คืนนี้เห็นทีคงต้องกลับไปนอนบ้านคุณย่าของเขาเอง“ไม่ได้เจอหน้าพ่อทิมนานแล้ว น้าว่าพ่อทิมดูดีขึ้นนะ” เมื่อก่อนเขาผอมกว่านี้มาก เพราะยังอยู่ในช่วงที่ทำงานหนักหลังจากที่คุณพ่อเสียไปครอบครัวของธาฎาได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวของแพรไหมไม่ห่างหาย มันจึงทำให้เขาเห็นว่าในขณะที่เขาและครอบครัวกำลังเศร้าโศกกับการจากไปของโสภณ ยังมีกัลยาณมิตรที่ดีอย่างเช่นครอบครัวนี้ที่ช่วยซับพอร์ตในการให้กำลังใจอยู่เรื่อยมา“คุณน้าก็เช่นกันครับ ดูยิ้มแย้มสดใสกว่าแต่ก่อน สงสัยคงเป็นเพราะช่วงนี้รีสอร์ตดาวเหนือกำลังกลับมานิยมอีกครั้งใช่ไหมครับ?”ครอบครัวของแพรไหมเองก็มีกิจการรีสอร์ตและโฮมสเตย์เช่นกันกับธุรกิจของเขาที่เติบโตมาพร้อมๆ กัน ทว่าคนละกลุ่มเป้าหมายลูกค้ารีสอร์ตดาวเหนือเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ทำกันเองในครอบครัวของแพรไหม ส่วนของเขามันคือธุรกิจโรงแรมห้าและหกดาวขนาดใหญ่ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด“แหม รีสอร์ตน้าก็มีแค่นี้แหละพ่อทิม แค่มีคนเข้าพักห้องสองห้องน้าดีใจ
ตอนที่ 2/2ช่วงดึกภายในวันเดียวกัน หลังจากที่ธาฎาอยู่ร่วมงานฉลองวันเกิด 'นางพิมพ์มุก' แม่ของคู่หมั้นตัวเองเสร็จแล้ว เขาขับรถเพียงไม่นานก็ถึงบ้าน 'นางรจรินทร์' ผู้เป็นย่า ซึ่งท่านอาศัยอยู่บ้านตากอากาศในเขาใหญ่ไม่ห่างไกลจากบ้านของนางพิมพ์มุกมากนักหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล ‘รักษ์สุขเกษม’ เป็นหลานชายคนโปรดของหญิงชราวัย 70 กว่าปี มาโดยตลอด ทายาทเพียงคนเดียวที่ท่านหวังเพิ่งพา ไม่เคยทำให้ผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว หากลูกชายของท่านยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะได้เห็นกับตาไปแล้วว่าธาฎานั้นสืบทอดธุรกิจของตระกูลได้ดีแค่ไหน“อ้าว คุณทิม... กลับมาซะดึกเชียวค่ะ” ป้าชม แม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่รีบวิ่งมาต้อนรับทายาทเจ้าของบ้านหลังใหญ่ด้วยความกระตือรือร้นส่วนคนมาใหม่หันซ้ายขวามองหาผู้เป็นประมุขของบ้านอยู่สักพัก ไร้วี่แววของหญิงวัยเจ็ดสิบในตอนเกือบจะเที่ยงคืน ถึงได้รู้ว่าท่านคงเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้ทักถามหาท่านจากแม่บ้านคนสนิท“สวัสดีครับป้าชม พอดีว่าผมมางานวันเกิดน้าพิมพ์น่ะครับ ก็เลยแวะมาค้างที่นี่”“อย่างนั้นเหรอคะ แล้วจะอยู่ค้างที่นี่กี่วันดี หรือจะกลับเช้าวันจันทร์เลยคะ?”วันนี้เป็นคืนวัน
ตอนที่ 2/3ในช่วงดินเนอร์ค่ำคืนที่ลูกค้าแน่นหนาเกือบเต็มห้องอาหารของโรงแรม พนักงานสาวอย่างนันนลินทร์รับหน้าที่เป็นโฮสเตสคอยดูแลลูกค้าในห้องอาหารอย่างที่เจ้าตัวถนัดแม้ด้านนอกจะอบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก ท่ามกลางวิวเมืองกรุงอันศิวิไลซ์ติดริมแม่น้ำ สามารถมองเห็นสะพานที่เด่นหราเชื่อมไปทางฝั่งธนบุรี ทว่าด้านในครัวกลับช่างแตกต่างกัน มีเสียงคนในครัวคอยประสานงานกันเรื่องอาหารที่ออกแต่ละโต๊ะ ทั้งตัวโฮสเตสเองที่จะต้องคอยสอดส่องความถูกต้องของออเดอร์ที่ตนเองเป็นคนดูแล เพื่อความถูกต้องและแม่นยำ และไม่ให้เกิดการคอมเพลนจากลูกค้าขึ้น“พี่ช้าง ออเดอร์โต๊ะ S7 เน้นย้ำเรื่องพริกนะคะ ทุกเมนูมีเด็กทานด้วยค่ะ”“คร้าบบบ น้องหนิง” เสียงดังก้องจาก Sous Chef ตอบรับคนที่บอกย้ำเมื่อประสานงานจากฝั่งครัวเสร็จสิ้น สาวโฮสเตสคนสวยก็มีหน้าที่ไปดูแลแขกอีกโต๊ะที่เพิ่งเข้ามาใหม่ทันที แขกคนนี้สำคัญมาก เขาเป็นหนึ่งในแขก VIP ของห้องอาหารเลยเชียวล่ะ แทบจะมาทานทุกสัปดาห์มาบ่อยกว่าเจ้าของโรงแรมที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานเสียอีก“สวัสดีค่ะ คุณนนท์ วันนี้มาแต่หัวค่ำจังเลยนะคะ” สาวสวยโฮสเตสกล่าวต้อนรับอย่างสนิท เพราะเขาคื
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ