ช่วงดึกภายในวันเดียวกัน หลังจากที่ธาฎาอยู่ร่วมงานฉลองวันเกิด 'นางพิมพ์มุก' แม่ของคู่หมั้นตัวเองเสร็จแล้ว เขาขับรถเพียงไม่นานก็ถึงบ้าน 'นางรจรินทร์' ผู้เป็นย่า ซึ่งท่านอาศัยอยู่บ้านตากอากาศในเขาใหญ่ไม่ห่างไกลจากบ้านของนางพิมพ์มุกมากนัก
หลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล ‘รักษ์สุขเกษม’ เป็นหลานชายคนโปรดของหญิงชราวัย 70 กว่าปี มาโดยตลอด ทายาทเพียงคนเดียวที่ท่านหวังเพิ่งพา ไม่เคยทำให้ผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว หากลูกชายของท่านยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะได้เห็นกับตาไปแล้วว่าธาฎานั้นสืบทอดธุรกิจของตระกูลได้ดีแค่ไหน
“อ้าว คุณทิม... กลับมาซะดึกเชียวค่ะ” ป้าชม แม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่รีบวิ่งมาต้อนรับทายาทเจ้าของบ้านหลังใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น
ส่วนคนมาใหม่หันซ้ายขวามองหาผู้เป็นประมุขของบ้านอยู่สักพัก ไร้วี่แววของหญิงวัยเจ็ดสิบในตอนเกือบจะเที่ยงคืน ถึงได้รู้ว่าท่านคงเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้ทักถามหาท่านจากแม่บ้านคนสนิท
“สวัสดีครับป้าชม พอดีว่าผมมางานวันเกิดน้าพิมพ์น่ะครับ ก็เลยแวะมาค้างที่นี่”
“อย่างนั้นเหรอคะ แล้วจะอยู่ค้างที่นี่กี่วันดี หรือจะกลับเช้าวันจันทร์เลยคะ?”
วันนี้เป็นคืนวันศุกร์ พรุ่งนี้ก็เสาร์อาทิตย์แล้ว ปกติถ้าเป็นวันหยุดคุณหนูของบ้านก็น่าจะกลับเข้ากรุงเทพฯ วันจันทร์เลยป้าชมคิดแบบนั้น
“ไม่ล่ะครับ ผมกลับพรุ่งนี้เลย” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจไม่พูดไปแบบนั้น แต่รู้แค่เพียงว่าจิตใจของเขามันร้อนรนอยากจะกลับกรุงเทพฯ ให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง แม้งานจะสะสางจนไม่ค้างคาแล้วก็ตาม
“คราวนี้มาเร็วไปเร็วนะคะ หรือติดงานเหรอคะ?”
“เปล่าครับ แต่มีนัดกับคนอื่น”
“คนอื่น? ลูกค้าเหรอคะ?”
“ก็... ไม่ใช่หรอกครับ ผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนครับป้าชม ดึกแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ”
พูดจบแล้วก็เดินขึ้นไปยังชั้นด้านบนของบ้านทันที ยิ่งอยู่คุยนานป้าชมนานเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าคำถามจะยิ่งเยอะขึ้นเท่านั้น และเขาก็ไม่สามารถหาคำตอบจริงๆ ให้แก่ป้าชมแก่ได้
เขาไม่ได้รีบกลับกรุงเทพฯ เพราะเรื่องงาน ทว่าเป็นเพราะใครบางคนที่อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาต่างหากล่ะ ก็เพิ่งจะเห็นอัพฯ สตอรี่ไอจีล่าสุดมีรูปเค้กก้อนโตรสทุเรียนพร้อมๆ กับอาหารหลายอย่างโดยฉากหลังเป็นโต๊ะลายหินอ่อนราคาแพงที่เขาจำได้ดีว่านั่นคือโต๊ะทานอาหารในห้องเขาเอง
เขาเคยบอกหล่อนแล้วว่าไม่ชอบกลิ่นทุเรียน แต่ทำไมยังดื้อด้านเอามันขึ้นมาทานถึงเพนท์เฮ้าส์ราคา 340 ล้านบาทของเขาได้ กล้านัก...
อีกอย่างวันเกิดนันนลินทร์เขาไม่ได้ลืมมัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าแสดงออกไปทำไมก็ในเมื่อระหว่างเขากับนันนลินทร์เป็นเพียงแค่คู่นอนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน หล่อนได้เงินจากเขา เขาได้ความสุขจากหล่อนมันแฟร์กันแล้วทั้งคู่ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกเกินเลยหรือเกินกว่าสถานะคู่นอน
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยความสดใส แม้ในใจของคนที่เพิ่งจะอายุ 27 ปี ไปเมื่อวานหมาดๆ จะรู้สึกเศร้าๆ ไปในช่วงแรก ทว่าก็ยังสามารถดึงอารมณ์ตัวเองให้กลับมาอยู่ในโหมดสดใสได้เหมือนเช่นทุกครั้ง หล่อนไม่ใช่คนที่จะมองโลกในแง่ดีได้ตลอดทุกเวลา ทว่าก็ไม่เห็นจะต้องเอาตัวเองไปจมปลักอยู่กับความเศร้าในเป็นทุกข์
เพราะแบบนี้เพื่อนร่วมงานหลายต่อคนถึงได้ชื่นชอบหล่อน ต่อให้วันไหนที่โลกจะใจร้ายกับพวกเขาก็ตาม แต่ถ้าได้กำลังใจดีๆ และรอยยิ้มที่ฮีลใจจากนันนลินทร์ทุกคนก็สามารถกลับมาอยู่ในโหมดความสดใสได้เช่นเดียวกัน
“วันนี้วันเสาร์ Occupancy [1] 100% หนิงอยู่ทำโอทีได้ไหม?” ผู้จัดการในแผนกเดินมาถามนันนลินทร์ด้วยความเห็นใจ วันนี้ลูกค้าเข้าเช็คอินโรงแรมค่อนข้างมาก และคาดว่าคืนนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการห้องอาหารของโรงแรมมากเลยทีเดียว ลำพังกะบ่าย 5 คน คงเอาลูกค้าไม่อยู่ หากนันนลินทร์ที่เดิมทีทุกวันจะอยู่กะเช้ามาช่วยงานดินเนอร์ตอนเย็น วีรยุทธคงสบายใจเพราะนันนลินทร์เป็นคนเก่ง และเขาก็ไว้ใจหล่อนว่าจะพาทีมไปรอดให้จบดินเนอร์คืนนี้
อย่างน้อยขอแค่เพียงมีนันนลินทร์ ห้องอาหารคืนนี้คงจะไม่เสี่ยงโดนลูกค้าคอนเพลน
“หนิงได้หมดแหละพี่ยุทธ” แม้อยากจะปฏิเสธเพียงใด แต่ก็ยังเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ อีกทั้งยังรู้ดีว่าวันนี้ลูกค้าเข้าพักโรงแรมมากจริงๆ จึงเลี่ยงไม่ได้หากจะช่วยอยู่ทำงานต่อ
“หรือถ้าหนิงมีธุระ พี่ก็ไม่อยากกวนนะ”
ธุระงั้นเหรอ... ถ้าเลิกงานไปแล้วหล่อนไม่มีธุระอะไรอื่นอีกนอกเสียจากเตรียมขึ้นเตียงอ้าขาปรนนิบัติเจ้าของโรงแรมนี้ ทว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่เขานั้นไปค้างอ้างแรมที่อื่น จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคืนนี้จะกลับมานอนที่คอนโดฯ หรือไม่ ไม่แน่ตอนนี้เขาก็อาจจะอยู่บ้านของแพรไหมคู่หมั้นของเขาอยู่ก็ได้ ฉะนั้นแล้วไม่เห็นจะต้องมีธุระสำคัญให้กลับไปทำเลยด้วยซ้ำ สู้อยู่ทำโอทีต่อยังดีเสียกว่ากลับไปแล้วว่างเปล่าคนเดียวในห้องนั้น
“หนิงไม่มีธุระหรอกค่ะพี่ยุทธ หนิงอยู่ช่วยได้”
“ขอบคุณนะ ไม่ได้หนิงนี่พี่แย่เลย” ชายหนุ่มรุ่นพี่ยกมือขึ้นแตะไหล่นันนลินทร์เป็นการขอบคุณที่หล่อนยอมอยู่ช่วย ก่อนเตรียมเดินกลับไปทำงานของเขาต่อก็ไม่ลืมหันกลับมาพูดบางอย่างกับหล่อนอีกครั้ง
“อ่อ! แล้วก็ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะหนิง เดี๋ยวว่างๆ พี่พาเราไปเลี้ยง”
“ขอบคุณค่ะพี่ยุทธ”
“เมื่อวานพี่ยุ่งๆ ทั้งวันเลยไม่ได้เตรียมหาของขวัญให้เรา โทษทีนะ”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนิงไม่ได้อยากได้เลย แค่อวยพรให้หนิงก็พอแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ?”
“ค่ะ” ใบหน้าสวยยิ้มกว้างในกับผู้จัดการหนุ่มรุ่นพี่
“งั้นก็มีความสุขมากๆ นะหนิง อยู่กับพี่ไปนานๆ นะ” อยู่ไปนานๆ คำนี้มีนัยยะแอบแฝงจากเจ้าของประโยค
Occupancy [1] อัตราการเข้าพักระบุว่ามีการขายห้องพักทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาที่กำหนด คำนวณโดยการหารห้องที่ขายด้วยห้องว่างในช่วงเวลาที่กำหนด
ตอนที่ 2/3ในช่วงดินเนอร์ค่ำคืนที่ลูกค้าแน่นหนาเกือบเต็มห้องอาหารของโรงแรม พนักงานสาวอย่างนันนลินทร์รับหน้าที่เป็นโฮสเตสคอยดูแลลูกค้าในห้องอาหารอย่างที่เจ้าตัวถนัดแม้ด้านนอกจะอบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก ท่ามกลางวิวเมืองกรุงอันศิวิไลซ์ติดริมแม่น้ำ สามารถมองเห็นสะพานที่เด่นหราเชื่อมไปทางฝั่งธนบุรี ทว่าด้านในครัวกลับช่างแตกต่างกัน มีเสียงคนในครัวคอยประสานงานกันเรื่องอาหารที่ออกแต่ละโต๊ะ ทั้งตัวโฮสเตสเองที่จะต้องคอยสอดส่องความถูกต้องของออเดอร์ที่ตนเองเป็นคนดูแล เพื่อความถูกต้องและแม่นยำ และไม่ให้เกิดการคอมเพลนจากลูกค้าขึ้น“พี่ช้าง ออเดอร์โต๊ะ S7 เน้นย้ำเรื่องพริกนะคะ ทุกเมนูมีเด็กทานด้วยค่ะ”“คร้าบบบ น้องหนิง” เสียงดังก้องจาก Sous Chef ตอบรับคนที่บอกย้ำเมื่อประสานงานจากฝั่งครัวเสร็จสิ้น สาวโฮสเตสคนสวยก็มีหน้าที่ไปดูแลแขกอีกโต๊ะที่เพิ่งเข้ามาใหม่ทันที แขกคนนี้สำคัญมาก เขาเป็นหนึ่งในแขก VIP ของห้องอาหารเลยเชียวล่ะ แทบจะมาทานทุกสัปดาห์มาบ่อยกว่าเจ้าของโรงแรมที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานเสียอีก“สวัสดีค่ะ คุณนนท์ วันนี้มาแต่หัวค่ำจังเลยนะคะ” สาวสวยโฮสเตสกล่าวต้อนรับอย่างสนิท เพราะเขาคื
ตอนที่ 3/1ท้ายที่สุดนันนลินทร์ก็ยอมจำนนต่อคำเล้าลื้อจากนนทวัฒน์ ด้วยการให้อีกฝ่ายขับโรลส์รอยซ์สุดหรูมาส่งถึงที่ นันนลินทร์ยอมรับว่ายังคงกลัวเรื่องความเป็นส่วนตัวของใครบางคนที่ยังอยู่ต่างจังหวัด ทว่าตอนนี้หล่อนไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้แล้ว“คุณหนิงอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอครับ?” สายตาคู่คมกวาดมองไปยังตึกสูงตรงหน้าผ่านทางกระจกรถ ขณะที่ชะความเร็วเพื่อจอดเทียบด้านล่างของตึกเขาไม่ได้มีเจตนาอยากจะดูถูกใคร แต่เท่าที่รู้คือตึกนี้ราคาต่อยูนิตมันค่อนข้างสูงเอาเรื่อง จะว่ากันตามตรงก็เป็นคอนโดฯ ที่ขายให้เฉพาะคนมีฐานะเท่านั้น“ดูสีหน้าคุณนนท์ตอนนี้คงไม่เชื่อน่าเชื่อใช่ไหมล่ะคะว่าหนิงจะอยู่ที่นี่”“เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่คือว่าผม...”“พอดีหนิงถูกจ้างให้ดูแลห้องแทนเจ้าของเขาน่ะค่ะ ตอนนี้เขาไปอยู่เมืองนอก” หล่อนไม่อยากจะโกหก เพียงแต่หาใช่เรื่องไม่ที่จะต้องพูดความจริง ว่าที่จริงแล้วหล่อนเป็นแค่นางบำเรอบนเตียงของใครอยู่นนทวัฒน์ดูท่าทางทางจะเชื่อในสิ่งที่หล่อนพูดแบบนี้ด้วยซ้ำ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ ออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังดังพอที่ทำให้อีกฝ่ายได้ยิน เขาคงโล่งใจแล้ว ทั้ง ๆ ที่หล่อนเองก็ไม่ทราบถึงสาเห
ตอนที่ 3/2'คุณหนิงกลับมาแล้วนะครับ เพิ่งถึงคอนโดฯ ตอนสองทุ่ม เห็นว่าคุณยุทธให้อยู่ทำโอทีต่อครับ' 'เหรอ แล้วกลับยังไง?''มีโรลสลอยด์คันสีดำมาส่งครับ ผมไม่รู้ว่าเป็นของใคร' ธาฎาใช้เวลาขับรถกลับมาที่กรุงเทพฯ ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง วันนี้แม้จะเป็นวันอาทิตย์ก็จริงอยู่ ทว่าสำหรับคู่หมั้นสาวของเขาแล้วการรับบทบาทเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลนั้นแทบจะไม่มีเวลาหยุดอย่างชาวบ้านเขานักดังนั้นจึงต้องออกจากเขาใหญ่แต่เช้ามืดด้วยกันทั้งคู่ “ขับรถดีๆ นะคะทิม วันหยุดก็นอนเต็มที่ล่ะ อย่าออกไปเที่ยวไหนเชียว”คนสั่งว่าอย่างไม่จริงจังทั้งยังเตรียมท่าลงจากรถ อันที่จริงหากคู่หมั้นหล่อนจะออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขอเพียงแค่ไม่นอกลู่นอกทางก็พอหน้าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ แพทย์หญิง บุษบา รักษ์สุขเกษม รับหน้าที่เป็น ผอ. ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทั้งยังเป็นเจ้าของมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ถือหุ้นในโรงพยาบาลทั้งหมด นับว่าท่านมีสิทธิ์อำนาจในการตัดสินใจมากกว่าใครทั้งหมดว่าที่สะใภ้ในอนาคตก็เป็นศัลยแพทย์ทรวงอก คุยเรื่องเดียวกันรู้เรื่องเข้ากันกับนางบุษบาแทบหาที่ติไม่ได้ ส่วนว่าที่เขยของทางฝั่งนั้นก็ใช่ย่อย
ตอนที่ 3/3คนที่กลับมาถึงคอนโดฯ ก่อน เริ่มนั่งไม่ติดที่ จะเดินไปมุมไหนของห้องก็ดูเหมือนว่าอยู่ไม่เป็นสุขเกือบ 3 ชั่วโมงได้แล้วที่เขามาถึง จนป่านนี้นันนลินทร์ยังไม่ยอมกลับ โทรหา หรือส่งข้อความไป ก็ยังไม่มีการตอบใดๆ กลับมา ธุระที่ออกไปทำมันนานมากขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร ถึงได้ไม่ยอมกลับมา ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ก็ปาไปแล้วเที่ยงวัน“จะไปไหนก็ไม่บอก”คนรอก็ได้แต่ชักสีหน้าหงุดหงิดไปคนเดียวอยู่แบบนั้น เขากลับมาจากเขาใหญ่จนถึงตอนนี้ ข้าวเม็ดเดียวยังไม่ตกถึงท้อง วันนี้เป็นหยุดแท้ๆ นันนลินทร์ควรจะรอเขาอยู่ที่นี่ ไม่ควรออกไปไหน หรือถ้าจะไปจริงๆ ก็ควรบอกให้เคลียร์และขออนุญาตก่อน ไม่ใช่ส่งข้อความมาสั้นๆ และหายจากการติดต่อไปเลยครึ่งวัน‘หนิงขอออกไปทำธุระข้างนอกครึ่งวันนะคะ’ครึ่งวันหมายถึงจะกลับมาตอนเที่ยงใช่หรือไม่ นี่เขาก้มมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเองเป็นรอบที่ 3 แล้ว ตั้งแต่มาถึง เหลืออีกแค่สิบนาทีก็จะบ่ายโมงอยู่รอมร่อ เขาควรจะจัดการเช่นไรกับคนดื้อรั้นทำตามอำเภอใจตัวเองดีแล้วที่ผ่านมาตลอดเวลาที่เขามักกลับไปพักผ่อนที่บ้านคุณย่าที่เขาใหญ่บ่อยครั้ง หล่อนมักแอบทำเช่นนี้อย่างนั้นหรือไม่“หรือฉันตามใจเธอเกินไปแล
ตอนที่ 4/1“ไม่รีบอาบน้ำเหรอคะ?”เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ ได้แล้ว เจ้าของห้องยังคงนั่งกระดกวิสกี้ขวดเดิมไม่ยอมหยุด ไม่รู้ว่าไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน ตั้งแต่บ่ายยันค่ำจนหล่อนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเตรียมเข้านอนเขาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเข้าห้องพักผ่อนเลยด้วยซ้ำ ลำบากต้องออกมาตามให้มีปากเสียงกันอีกรอบ“คุณทิม”“….” คนถูกเรียกเอาแต่เหม่อมองผนังห้อง ราวกับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่สนใจคนที่เป็นห่วงเสียด้วยซ้ำเอาเถอะ ถ้าหากพรุ่งนี้เขาตื่นไปทำงานไหว ไม่คงไม่ต้องห่วงแล้ว“งั้นหนิงเข้านอนก่อนละกัน”ทว่าพอกำลังจะเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนเช่นเดิม คนที่นั่งกระดกเหล้าอยู่ถึงกับวางแก้วใส่เสียงดัง จนหล่อนสะดุ้งตัวนิ่งชั่วขณะเขาเป็นอะไรของเขากัน ถึงได้ทำตัวงอแงราวกับเด็ก“ฉันยังไม่ง่วง เธอจะเข้านอนก่อนได้เหรอ?”นี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม ทว่ามันคือคำบัญชาการจากเขา จากที่ตั้งใจว่าจะได้นอนแต่หัวค่ำ คงต้องผลัดไปก่อน เพราะคนเอาแต่ใจแถวนี้คงไม่ยอมแล้วเรียวขายาวเดินจำใจเดินหันกลับไปหาคนเอาแต่ใจที่นั่งรอที่โซฟาตัวใหญ่ หล่อนจะทำอะไรได้นอกจากตามใจเขาไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากัน คิดจะต่อต้านธาฎาอย่างไรเสียหล่อนก็ไม่ชนะ“
ตอนที่ 4/2“อื้ออ เบาหน่อยค่ะ” สองร่างยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียงคิงไซส์ ตั้งแต่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นจนมาถึงตรงนี้ก็ปาไปยกที่ 3 แล้ว ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ฉูบฉีดเลือดในกายของเขาหรืออย่างไร ถึงได้แรงดีไม่มีตกเช่นนี้ ตึกๆๆ เสียงหัวเตียงกระทบกับผนังห้องนอน จนมือบางต้องยกเกาะเตียงด้วยแรงอิดโรย ขณะที่สะโพกสอบยังคงถาโถมความแรงเข้าใส่ไม่ยั้ง “ฉันว่าจะซื้อเตียงใหม่” เขาพูดจริง เพราะตั้งแต่มีนันนลินทร์เข้ามาในชีวิต มาอยู่ด้วยกันที่เพนท์เฮ้าส์หลังนี้ เตียงคิงไซส์แบบมาตรฐานโรงแรมของเขาก็ยังเอาไม่อยู่ สงสัยคงต้องหาซื้อเจ้าอื่นบ้างแล้ว “อ๊ะ! อ๊าาาส์” ตับๆๆๆ ~ เสียงเนื้อกระทบเนื้อแทบไม่เป็นจังหวะ เมื่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายใกล้ถึงจุดสุดยอดจนร่องเนื้อของหล่อนบีบรัดลำกายแกร่งของเขาอย่างหนัก ยิ่งบีบเร้ากระชากความเสียวจากตัวเขาได้ดี จนต้องเร่งจังหวะให้ได้ถึงจุดหมายพร้อมกัน นันนลินทร์แอ่นก้นรับลำกายแท่งใหญ่อย่างเอาใจ สองมือจับขอบเตียงใช้เป็นที่ค้ำยันประคองท่า หัวเข่าหล่อนแทบช้ำทั้งสองข้าง เมื่อยังอยู่ในท่วงท่าเดิมให้เขาตอกเสาเข็มแทงใหญ่เข้าใส่ ธาฎามักจะไม่ปราณีเรื่องเซ็กส์ เขาเสพเรือนร
ตอนที่ 4/3 เช้าวันจันทร์เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ใหม่ นันนลินทร์ยังคงต้องใช้รถประจำทางเพื่อมายังสถานที่ทำงานเช่นเคย ส่วนธาฎาผู้ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมนั้นเจ้าตัวมีรถประจำตำแหน่งพร้อมทั้งคนขับส่วนตัวให้อยู่แล้ว สาเหตุที่ต้องแยกกันมาคนละทาง คงไม่ต้องสืบว่าเพราะเหตุใด แน่นอนว่านันนลินทร์ผู้ที่อยู่ในฐานะนางบำเรอแลกเศษเงินจากเขาย่อมรู้ดี คนมีพันธะผูกพันอย่าธาฎาคงไม่ลดตัวต่ำมาคว้าเอาหล่อนจริงจังให้ชีวิตวุ่น“พี่หนิงงงง” เสียงดังก้องกังวานมาแต่ไกล เสียงอันเป็นเอกลักษณ์นี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากปานชีวา นันนลินทร์รีบเดินเข้าไปหาสาวรุ่นน้อง ทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปทางชั้น B หรือชั้นลานจอดรถใต้ตึก เพื่อที่จะไปยังห้องของสตาฟฟ์หรือห้องของพนักงาน โรงแรมทุกที่จะมีนโยบายจัดสรรยูนิฟอร์มหรือเครื่องของพนักงานทุกแผนกเอาไว้ให้อยู่แล้ว ทุกคนมีหน้าที่เข้างานมาเลือกชุดของตัวเองแล้วใส่พร้อมทำงานได้เลย ส่วนตอนกลับก็แค่มาถอดชุดออกแล้วทิ้งลงตะกร้า จะมีบริษัทรับซักรีดมาดำเนินการต่อจากนี้เอง วันรุ่งเช้าทุกคนจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีชุดใส่ ความสะดวกสบายเหล่านี้จะทำให้พนักงานมำงานได้ง่ายขึ้นระหว่างที่สองสาวกำลังเปลี่ยนเส
ตอนที่ 5/1เที่ยงวัน...“นี่... เลิกเดินวนไปมาได้แล้วปลา พี่เวียนหัว” ตั้วแต่ขึ้นมาที่ห้องอาหารปราริณ สาวนักศึกษาฝึกงานคนนี้ก็เอาแต่เดินไปมา อยู่ตรงหน้าล็อบบี้ทั้งที่ยังไม่มีแขกโผล่มาเลยสักคน นันนลินทร์พอเดาได้ไม่ยากถึงสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ปานชีวาเป็นปลาดิ้นใส่แหอยู่เช่นนี้ “พี่หนิงก็... จะไม่ให้ปลาหงุดหงิดได้ไงล่ะคะ ก็รู้อยู่ว่าวันนี้มีแขกคน 'สำคัญ' ของคุณทิมมาทานข้าวมื้อเที่ยง” “แล้วยังไงล่ะ พี่ก็พาเธอเตรียมทุกอย่างไว้รอคุณเขาหมดแล้ว จะเป็นกังวลอะไรอีก?”“ก็ปลาไม่ชอบเขานี่”'เขา' ที่ปานชีวาหมายถึงนั่นคือคุณศจี วจีสินธุ์ ลูกสาวคนเดียวของท่านทูต แถมยังพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของเจ้าของโรงแรมแห่งนี้อีกด้วยก็ไม่แปลกหากปานชีวาหรือพนักงานคนอื่นๆในโรงแรมจะไม่ชอบหน้าศจี หล่อนเป็นคนรวยคนดังย่อมมีความเรื่องมากเป็นธรรมดา ทว่านันนลินทร์กลับเข้าใจดีว่าหล่อนเติบโตมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ตามแบบฉบับของคนมีอันจะกิน ย่อมรายล้อมด้วยคนรับใช้ จึงไม่แปลกที่หล่อนจะเอานิสัยจากที่บ้านของหล่อนมาใช้ข้างนอก “ไม่ชอบแล้วยังไง? เรามีหน้าที่ต้องดูแลแขกให้ดีที่สุดนะ ท่องไว้” สองสาวยืนพูดคุยกันอยู่สักพัก ธี
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ