“อิ่มมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่พามาเลี้ยง” พรีมเอยขึ้นขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากภัตตาคาร
“กินขนาดนี้ไม่เรียกว่าอิ่มก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ”
“พี่หาว่าพรีมกินจุเหรอคะ”
พรีมยื่นมือไปจับแขนของธีร์แล้วดึงให้เขาหยุดเดิน ส่วนคนถูกดึงแค่หันมาส่งสายตาดุ แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร
“มองหน้าพรีมแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”
“ปล่อย พี่เดินไม่ได้” ธีร์มองไปยังมือคู่เล็กที่กอบกำข้อมือของเขาเอาไว้แน่น แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหวาน
“อ่อ ก็อยากจับค่ะ แล้วตอนนี้ก็อยากจะกอดแขนคู่หมั้นของพรีมด้วย” พรีมยกยิ้มเอียงหน้าตอบ ก่อนจะดึงแขนของเขาไปกอดแบบอ้อนๆ
“นี่เธอ”
“อะไรกันคะ คู่หมั้นกอดกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไปได้ เนื้อพี่ไม่ได้หลุดติดมือพรีมสักหน่อยค่ะ”
ธีร์ได้แต่ถอนหายใจแล้วก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า โดยที่มียัยตัวแสบเกาะแขนเขาไม่ยอมปล่อยจนเดินไปถึงตัวรถ พรีมจึงละมือออกจากแขนของเขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในอย่างคนอารมณ์ดี
เมื่อรถหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่คฤหาสน์หลังเล็กที่เป็นบ้านของธีร์ ทั้งคู่ก็พากันลงจากรถแล้วขึ้นไปบนห้องนอน
“พี่จะอาบก่อนหรือให้พรีมอาบก่อนคะ”
“ตามใจ” ธีร์ตอบกลับเสียงเรียบ ขณะที่มือก็จัดการถอดเสื้อสูตตัวนอกและดึงเนกไทที่คอออก
“หรือว่าอยากอาบน้ำพร้อมกัน” พรีมแกล้งหยอกคนไร้ความรู้สึก ดูสิว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร
“ทะลึ่ง นี่จะไม่เลิกทำตัวแก่แดดกับพี่ใช่ไหม”
“มาว่าพรีมแก่แดดอีกละ ก็บอกแล้วไงคะว่าบรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ” พรีมเอียงคอมอคนแก่หน้าแกล้งแล้วทำหน้ายิ้มๆ
“แล้วไง” ธีร์ถามกลับ
“ก็ไม่แล้วไงค่ะ พรีมก็แค่ถามไปงั้นแหละ ทำเป็นจริงจังราวกับหนุ่มน้อยไร้เดียงสาไปได้” พรีมพูดแบบไม่มองหน้า เลือกหยิบโทรศัพท์เข้าโซเชียลแทน คนอะไรหยอกนิดหยอกหน่อยก็ไม่ได้ ตั้งท่าจะจิกกัดเธอลูกเดียว
ธีร์เดินหนีเข้าไปอาบน้ำ เด็กอะไรอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วันกล้าลามปามเขาถึงขนาดนี้
คืนที่สองของการนอนด้วยกัน พรีมยังคงใส่ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวที่โชว์หน้าอกหน้าใจล้นทะลักออกมานอกชั้นใน เธอขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงเอว นั่งพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์และคุยแชทกับเพื่อนรักอย่างเช่นเคย ส่วนธีร์ก็อยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซฟา จ้องมองดูโน้ตบุ๊กด้วยท่าทางจริงจัง
“ทำงานอยู่เหรอคะ”
“อื้ม” ชายคู่หมั้นส่งเสียงในลำคอแต่ก็ยังไม่ละสายตาออกจากหน้าจอ
“งานมีปัญหาเหรอคะ ดูหน้าเครียดจัง”
“เปล่า พี่กำลังดีลงานกับลูกค้าใหม่เลยไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด”
“อ่อ” พรีมตอบเสียงเบา ยู่ปากออกเล็กน้อยราวกับคนน้อยใจแล้วก้มหน้าดูโทรศัพท์ในมือต่อ
ธีร์ละสายตาออกจากหน้าจอของโน้ตบุ๊ก เมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวก็พลางคิดว่าเธออาจจะรู้สึกเหงา รู้สึกไม่คุ้นเคยกับที่นี่ และการอยู่กับเขา เพราะเขาเองก็แทบจะไม่ได้คุยอะไรกับเธอเลย“ง่วงรึยัง” ธีร์มองดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบห้าทุ่มจึงได้เอ่ยถาม
“นิดหน่อยค่ะ”
ธีร์ปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวไปปิดไฟในห้องเหลือไว้แต่โคมไฟข้างหัวเตียง แล้วเดินตรงไปที่เตียง“งานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ค่อยทำต่อพรุ่งนี้ นอนกันเถอะ”
พรีมกดปิดหน้าจอมือถือแล้วเอาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอน เป็นอีกคืนที่เธอต้องนอนกับเขา และคืนนี้ก็เหมือนจะยังไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่ เธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้งจนผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
เช้าวันต่อมา ธีร์ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกและก็พบว่าหญิงสาวได้ดึงหมอนข้างอีกใบไปวางไว้ด้านหลัง แล้วพลิกตัวมากอดหมอนข้างใบที่เหลือที่เอาคั่นกลางเอาไว้
“เธอเป็นคนทำลายกฎของตัวเองเองนะ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ กับคนที่หลับอยู่ พลางกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว
พรีมที่กำลังนอนฝันหวานก็สะดุ้งตื่นและพบว่าหมอนข้างที่คั่นกลางหายไปแล้วหนึ่งใบ เธอจึงพลิกตัวไปอีกด้านก็พบว่ามันอยู่ทางด้านหลัง สงสัยนอนละเมอจึงดึงหมอนอีกใบไปไว้ด้านหลังอย่างแน่นอน แล้วพอจังหวะพลิกตัวก็เลยมากอดอีกใบแทน และเมื่อคืนยังฝันว่าได้นอนกอดกับคนที่นอนข้างๆ อีกด้วย ไม่รู้ว่าฝันบ้าฝันบออะไร ความรู้สึกดีๆ ยังไม่เคยมีให้กันเลย
ธีร์อาบน้ำเสร็จและใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เหลือก็แต่เสื้อสูตกับเนคไทที่ยังไม่ได้สวมใส่ เขาเดินออกมาดูผู้หญิงขี้เซาเผื่อว่ายังไม่ตื่นจะได้ปลุก แต่พรีมก็ตื่นแล้วเขาจึงเอ่ยอย่างอื่นแทน
“ไปอาบน้ำสิ วันนี้มีเรียนกี่โมง”
“เก้าโมงเหมือนเดิมค่ะ แต่วันนี้พรีมเลิกไวนะคะ” พรีมรีบบอกเพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีเวลามารับ
“เลิกไวนี่กี่โมง”
“ถามทำไมเหรอคะ ถ้าพี่ไม่มีเวลามารับ พรีมกลับกับเพื่อนได้ค่ะ”
“ถ้าไปรับไม่ได้จะให้พิรัชย์ไปรับแทน” ธีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็ง แม่ของเขาบอกให้ดูแลลูกสะใภ้คนนี้ให้ดี จะปล่อยให้กลับกับเพื่อนได้อย่างไร
“ให้พี่พิรัชย์ไปรับ แล้วให้ไปนั่งรอแบบเมื่อวานเหรอคะ”“พี่พิรัชย์” ธีร์ไม่ตอบคำถาม แต่กลับเรียกชื่อเลขาส่วนตัวอย่างสงสัย ว่าไปสนิทกันตอนไหนถึงขั้นต้องเรียกพี่
“ค่ะ พี่พิรัชย์ คงไม่หวงใช่ไหมคะถ้าพรีมจะเรียกคนอื่นว่าพี่เหมือนกัน” พรีมเอ่ยถามคนตรงหน้า ที่จริงก็คงไม่มีใครมาหวงหรอก คนที่อายุน้อยกว่าเรียกคนที่มีอายุมากกว่าว่าพี่มันก็เหมาะสมแล้ว
“ใครหวง อยากจะเรียกใครก็เชิญ พี่ลงไปข้างล่างก่อนนะ อาบน้ำเสร็จก็แล้วตามลงไปล่ะ” เอ่ยจบก็หันหลังเดินไปคว้ากระเป๋า และเข้าไปหยิบเสื้อสูตกับเนคไทแล้วรีบเปิดประตูเดินออกจากห้องไป
“นี่ขนาดบอกว่าไม่หวงนะ คริคริ” พรีมหลุดขำออกมาเบาๆ คนอะไรหยอกนิดหยอกหน่อยทำเป็นอารมณ์เสียไปได้
พรีมรีบลุกออกจากเตียงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา แล้วรีบตามลงไปที่ชั้นล่าง ไม่รู้ว่าเธออาบน้ำนานขนาดนี้ธีร์จะกินข้าวเสร็จหรือยัง หวังว่าคงจะไม่ได้นั่งทำหน้างอรอบ่นเธอหรอกนะ
“รอนานไหมคะพี่ธีร์” พรีมที่เดินตรงเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารก็เห็นหนุ่มคู่หมั้นถือแท็บเล็ตเอาไว้ในมือ ส่งสายจ้องมอง พร้อมกับมืออีกข้างที่ยกแก้วกาแฟที่ยังอุ่นๆ ขึ้นจิบ“ใครว่าพี่รอเธอ” เสียงทุ้มตอบกลับพร้อมกับละสายตาออกจากหน้าจอมองหน้าหญิงสาว“อ้าว ก็นึกว่าจะรอพรีมกินข้าวซะอีก” พรีมเอ่ยพลางเลื่อนจานอาหารเช้ามาไว้ตรงหน้าแล้วจัดการตักเข้าปาก พลางนึกในใจว่าเธอก็อุตส่าห์รีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะกลัวว่าคนที่ลงมาก่อนจะรอนาน แต่ที่ไหนได้ มานั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ ข้าวก็ไม่กินเป็นเพื่อนกินข้าวเช้าเสร็จหนุ่มคู่หมั้นก็ขับรถไปส่งพรีมที่มหาวิทยาลัยเหมือนเดิม โดยที่บรรยากาศภายในรถนั้นเงียบสงบไร้เสียงพูดคุยของคนทั้งสอง“สรุปวันนี้เลิกเรียนกี่โมงยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะ” ก่อนที่เธอจะลงจากรถธีร์ก็รีบถาม เพราะเมื่อเช้าที่เขาถามไปพรีมยังไม่ได้ให้คำตอบ“เลิกเที่ยงค่ะ แต่พรีมขอกินข้าวกับเพื่อนก่อนนะคะ เสร็จแล้วจะโทรบอก” พรีมคิดว่ากินข้าวกับนิวเยียร์ก่อนค่อยกลับคงจะดีกว่า เพราะไม่แน่ว่าเขาอาจจะติดงานจนลืมเวลาก็ได้“อืม”เมื่อธีร์ตอบรับพรีมก็หันไปเปิดประตูลงจากรถ และเห็นเพื่อนชายที่เรียนด้วยกันกำลังเดินมาทางเธอพอด
พอพรีมกดรับสาย เสียงของคำถามจากอีกฝ่ายก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ทันที(ถึงบ้านแล้วเหรอ)“ถึงแล้วค่ะ”(พี่เพิ่งประชุมเสร็จ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปรับ)“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีร์คะ พรีมมีเรื่องจะขอ”(อืม พูดมาสิ)“พี่ธีร์จะว่าอะไรไหมคะถ้าคืนนี้พรีมจะขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน” ขณะที่เอ่ยก็มองหน้ายิ้มๆ กับเพื่อนรัก พลางลุ้นไปด้วยกันว่าจะได้รับคำตอบเช่นไรกลับมา(เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย)“ทั้งสองค่ะ”(อืม)“อืมนี่คือให้พรีมไปใช่ไหมคะ” พรีมถามต่ออย่างไม่ค่อยไม่มั่นใจ(อืม แค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน)“ค่ะ”พรีมกดวางสาย เสียงกรี๊ดเบาๆ ของเพื่อนสาวก็ดังขึ้นอยู่ข้างๆ อย่างคนดีอกดีใจจนออกนอกหน้า“จะดีใจอะไรขนาดนั้น”“ก็ดีใจแทนแกไง ฉันก็นึกว่าพี่ธีร์จะไม่ให้ไปแล้วซะอีก นี่ยังดีนะที่ยังให้แกได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”“เขาก็เป็นแค่คู่หมั้นไหมแก คงไม่ถึงกับควบคุมความประพฤติฉันหรอก” พรีมเอ่ยขำๆถ้าถึงขนาดไม่ให้ออกไปไหนเลยก็คงจะเกินไป เราทั้งสองก็แค่หมั้นกันตามที่ผู้ใหญ่ร้องขอก็เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับชีวิตของใครให้ทำตามใจตัวเองได้หรอกนิวเยียร์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนถึงบ่ายสามก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนพรีมก็ส่งข้อความไ
ธีร์นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน สายตาก็มองไปที่นาฬิกาแทบจะทุกสิบนาที เพราะนี่มันก็จะห้าทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ายัยตัวแสบจะกลับเข้าบ้านมา คงไม่ได้พากันไปเมาจนหาทางกลับบ้านไม่ได้ใช่หรือไม่พอคิดได้ดังนั้นก็พับหน้าจอโน้ตบุ๊กลง เดินไปหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถเดินออกจากห้อง ธีร์ปลดล็อกประตูผ่านกุญแจรีโมตแล้วเข้าไปนั่งในรถ หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็กจีพีเอสที่เขาแอบติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามเอาไว้ในโทรศัพท์ของพรีม ตอนที่เธอกำลังอาบน้ำเมื่อช่วงหัวค่ำจีพีเอสของเธอยังอยู่ที่เดิมนั่นก็คือผับเอ็กซ์ และพอสตาร์ตรถได้เท่านั้น ธีร์ก็เหยียบคันเร่งขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วระยะทางจากบ้านไปผับห่างกันประมาณสิบห้ากิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีรถหรูก็เคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดโล่งกว้างที่เป็นพื้นที่ของผับแห่งนี้ธีร์ปิดหน้าจอมือถือแล้วเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงจุดไหนของผับ เขามองฝ่าผู้คนนับร้อยกว่าชีวิต สายตามองหาแต่สาวคู่หมั้นคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสนใจสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ที่จ้องมองและเอ่ยทักทายตลอดทางที่ก้าวเดินอยู่ด้านใน“พรีม ไหวรึเปล่า ถ้าไม่ไหวเรากลับกันเลยก็ได้นะ”
เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงพรีมก็ขยับตัวเบียดจนธีร์แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้นอน เขาจึงตัดสินใจสอดแขนเข้าไปใต้ลำคอให้คนตัวเล็กนอนหนุนแขนแล้วกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้พรีมดิ้นตัว แล้วขยับตัวดันเธอเข้าไปนอนด้านในอีกนิด ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคืนนี้เขาคงไม่ได้นอน และพรีมก็หันหน้าเข้าซุกอกอุ่นแล้วกระชับอ้อมกอดเอาไว้แน่น เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังนอนกอดคนที่บอกว่าห้ามข้ามเขตพื้นที่บนเตียงของเธออยู่ แต่ตอนนี้เธอกำลังเป็นผู้ทำลายกฎนั้นเสียเองพรีมเลื่อนมือเข้าไปในใต้เสื้อของธีร์อย่างซุกซน มือเล็กเลื่อนไปวางบนแผงอกแล้วลูบไปมาก่อนจะวางมือลงที่กล้ามหน้าอกข้างหนึ่งที่มีตุ่มเม็ดเล็กโผล่ขึ้นมา“อุ่นจัง”เดิมทีแค่นอนกอดกันก็แทบจะนอนไม่หลับอยู่แล้ว ยิ่งเธอทำแบบนี้เขาก็พลันรู้สึกขนกายลุกซู่ หายใจหายคอไม่ค่อยถนัด จนต้องรีบเอามือไปกอบกุมมือเล็กผ่านทางด้านนอกของเสื้อแล้วกำมือเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ทำอะไรมากไปกว่านี้“อยู่นิ่งๆ อย่าทำให้พี่หมดความอดทน” เสียงพร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับลมหายใจที่ติดขัด“แล้วทำไมต้องทนด้วยล่ะ” พรีมเอ่ยเสียงยานแล้วเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองภาพใบหน้าเบลอๆ เธอรู้แค่ว่าผู้ชา
“จะทำอะไรคะ” พรีมใช้ข้อศอกดันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูสิ่งแปลกปลอมที่ไม่เคยเห็นหรือสัมผัสกำลังถูไถน้องสาวของเธออยู่“นอนลง แล้วอย่าเกร็ง” เสียงพร่าเอ่ยออกคำสั่ง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่ายก็กดปลายหัวบานของเจ้ามังกรขนาดหกสิบที่ปากทางร่องรักแล้วออกแรงกดเข้าไปอย่างช้าๆ“อื้อ… เจ็บ” พรีมปิดเปลือกตาแน่นสนิท มือเล็กกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ พลันหุบขาที่เริ่มสั่นเข้าหากัน“เชื่อพี่นะคนดี ถ้าไม่อยากเจ็บก็อย่าเกร็ง” ธีร์เอ่ยกับคนตัวเล็กขณะที่ปลายหัวของเขาหลุดออกมา“พรีมกลัว”“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ทำให้พรีมเจ็บ” ธีร์บอกกับเธอด้วยความอดทน เขารู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งลำท่อน แต่จะเร่งรีบส่งเจ้ามังกรของเขาเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะร่องของเธอนั่นแคบจนเกินไป แม้จะเล้าโลมมาแล้วก็ยังเข้าไปได้ยากอยู่ดีพรีมยอมเชื่อฟังปลดปล่อยความรู้สึกกลัวให้กลายเป็นอยากรู้อยากลองแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มกระทำอย่างตามใจ ธีร์ถ่างขาของเธออ้าออกกว้าง จับแก่นกายของเขาชักรูดเข้าออกสองสามครั้งแล้วกดจ่อที่ปากทางรัก แล้วดันสะโพกส่งปลายหัวบานเข้าไปด้านในก็รู้สึกว่าร่องรักของเธอกำลังต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่ทะลวงเข้าไป“พรีม อย่
ธีร์จับเอวของพรีมยกขึ้นแล้วกดลงเป็นจังหวะเบาๆ เมื่อพรีมทำได้คล่องก็ปล่อยให้เธอจัดการกับแก่นกายของเขาด้วยตัวเองพรีมปรับท่านั่งยอง ๆ ควบขย่มลำท่อนขนาดใหญ่ สองเต้าอวบเด้งกระเพื่อมสั่นไหว ธีร์ใช้สองมือเท้ากับพื้นที่นอนเอนหลังเล็กน้อย ปล่อยให้หญิงสาวจัดการโยกสะโพกขึ้นลงได้ตามอำเภอใจ“อา… พรีม แรงอีก” ธีร์เชิดหน้าเปล่งเสียงครางและร้องขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพรีมยกสองแขนกอดรอบคอ ยกสะโพกขึ้นสุดลงสุดจนได้ยินเสียงก้นกระทบกับหน้าขา สองร่างอ้าปากร้องครวญครางอย่างไม่มีใครยอมใคร“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อืม…”ธีร์ส่งมือมาบีบขย้ำเต้าอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ แล้วอ้าปากครอบครองเม็ดสีหวานดูดเลียและรัวลิ้นสะกิดจนอีกคนรู้สึกสยิวขนกายลุกซู่ จากนั้นก็จับคนตัวเล็กหันหลังให้กันโดยที่จุดที่เชื่อมต่อกันด้านล่างยังไม่หลุดออกธีร์กดจูบแผ่นหลังไปทั่วบริเวณ สองมือก็บีบเคล้นเต้าอวบจนล้นไปตามง่ามมือพรีมใช้สองมือจับหน้าแข้งของธีร์แล้วยกสะโพกมนตอกกระแทกลำท่อนแข็งแรงจนขาเริ่มสั่น ชายหนุ่มจึงดันตัวลุกขึ้นหลังเหยียดตรง ชันเขาบนที่นอน ให้หญิงสาวนอนโน้มตัวไปด้านหน้าแล้วเท้าแขนกับพื้นที่นอน แอ่นสะโพกขึ้นรับกับแรงกระแทกจากเขาแทนธีร์เด้งเอ
พรีมฝืนตัวเองลุกขึ้นยืนแม้จะเจ็บส่วนนั้นมากแต่ก็ไม่ถึงกับเดินไม่ไหว จากนั้นก็พาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ร่องรอยความสุขอันวาบหวามยังปรากฏชัดอยู่บนเนื้อตัวของเธอ และดีที่มันอยู่ใต้ร่มผ้า พอสวมใส่เสื้อผ้าก็มองไม่เห็นรอยจ้ำเหล่านั้นแล้วพรีมเดินออกจากห้องแต่งตัวมายืนที่ข้างเตียง หันไปมองบนเตียงที่เรานอนด้วยกัน หันมองถาดอาหารที่มียาวางอยู่ด้วย แล้วหยิบถาดนั้นไปวางที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเธอคิดว่าธีร์คงกลัวพลาดถึงได้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้เธอกิน ในเมื่อคิดได้เช่นนั้นพรีมก็เริ่มตักข้าวต้มที่เย็นชืดเข้าปากจนพล่องลงไปครึ่งถ้วย แล้วนำยาที่ธีร์ซื้อมาให้กินพร้อมกับน้ำ และรอเวลาอีกสิบสองชั่วโมงก็กินอีกเม็ดที่เหลือเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่อยากมีลูกกับเธอ และเธอเองก็ไม่อยากจะเอาเรื่องนี้ไปผูกมัดชีวิตใคร เพราะถึงอย่างไรเธอก็มีเวลาอยู่กับเขาเพียงแค่สองปีเท่านั้นธีร์กลับจากที่ทำงานก็พบว่าพรีมกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปนั่งทำงานที่โต๊ะเพราะไม่อยากปลุกคนที่หลับอยู่ รอเธอตื่นค่อยพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนพรีมสะดุ้งตื่นอย่างสะลึมสะลือ มือเล็กควานหาโทรศัพท์ที่
หลังจากพรีมเข้าไปอาบน้ำและออกมาทาครีมบำรุงแล้วเสร็จเธอก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เอาหมอนข้างทั้งสองใบมาขั้นกลางไว้ดังเดิม แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงหน้าอก นอนหันหลังให้กับคนที่นั่งทำงานอยู่ธีร์ที่เห็นท่าทีเฉยเมยของพรีมก็รู้สึกหงุดหงิดใจพลางทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาจึงพับหน้าจอโน้ตบุ๊กลงแล้วเข้าไปอาบน้ำ และพออาบน้ำเสร็จก็เดินไปปิดไฟกลางห้อง เหลือไว้เพียงโคมไฟข้างหัวเตียงและขึ้นไปนอนบนเตียงธีร์จัดการดึงหมอนข้างทั้งสองใบมาไว้ที่ด้านข้างของเขา ปล่อยให้พื้นที่ตรงกลางเหลือว่างไว้ พรีมที่นอนนิ่งก็รับรู้ได้ว่าพื้นที่ด้านหลังของเธอนั้นกำลังว่างเปล่า เธอจึงพลิกตัวหันไปมองก็พบใบหน้าหล่อที่นอนหันหน้ามาทางเธอ“นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก”“ถ้าพรีมหลับ พี่จะเห็นพรีมลืมตาเหรอคะ แล้วนี่เอาหมอนข้างพรีมไปทำไม เอามาไว้ที่เดิมนะคะ”พรีมขยับตัวลุกนั่งแล้วเอื้อมแขนผ่านลำตัวของชายหนุ่มเพื่อดึงเอาหมอนข้างกลับมาวางไว้ที่เดิม ธีร์ได้ทีก็รีบคว้าตัวของเธอลงมานอนกอด“ปล่อยพรีมนะพี่ธีร์” พรีมดิ้นตัวในอ้อมแขน หัวใจดวงน้อยเต้นเสียงดังตึกตัก ไม่คิดว่าธีร์จะกล้าทำกับเธอแบบนี้“เมื่อคืนยังนอนกอดพี่ทั้งคืน แล้วทำไมคืนนี้ไม่
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก
“ไปทำงานกับพี่ไหม” ธีร์เอ่ยปากชวน ไหน ๆ วันนี้พรีมก็มีเรียนบ่าย ครึ่งวันเช้าก็ไปอยู่ด้วยกันเลย เขาจะได้ไม่ลำบากใจเวลาที่อลิซหาโอกาสเข้ามาหาในห้องทำงาน“จะดีเหรอคะที่จะให้ไปนั่งเฝ้าพี่ทำงาน” พรีมแสร้งถามทั้ง ๆ ที่ในใจก็รู้สึกดีที่เขาชวนไปอยู่ด้วย“ดีสิครับ” ธีร์ส่งยิ้มยกมือไปลูบผมของพรีมอย่างเบามือ เขารู้ว่าพรีมแอบกังวลกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยกินข้าวเสร็จพรีมก็รีบขึ้นห้องเพื่อไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา และเดินทางไปที่บริษัทพร้อมกับธีร์ เธอนั่งเล่นมือถืออยู่ตรงโซฟาเพราะไม่มีอะไรทำ ส่วนธีร์ก็นั่งทำงานที่โต๊ะของเขาจนเวลาเกือบเที่ยง“ธีร์คะ อลิซจะมา…” อลิซพรวดพราดเปิดประตูเข้ามา กะจะชวนชายหนุ่มไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน เธออุตส่าห์ลงทุนไม่อยู่กินข้าวที่โรงแรมเพื่อมาชวนเขาโดยเฉพาะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักคำพูดเหล่านั้นเพราะเห็นพรีมนั่งอยู่ในห้องด้วย“สวัสดีค่ะคุณอลิซ” พรีมส่งยิ้มและยกมือขึ้นทักทาย“สวัสดี”“คุณอลิซมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” ธีร์เอ่ยถามด้วยถ้อยคำที่เป็นทางการสำหรับการคุยงานกัน“ไม่มีค่ะ อลิซเห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว เลยจะมาชวนคุณไปกินข้าว”“ชวนแค่พี่ธีร์เหรอคะ” พรีมรีบพูดแทรกขึ้น พร้อ
แต่แล้วจู่ ๆ ประตูฝั่งคนขับก็ได้ถูกเปิดออก ทำเอาคนที่นั่งด้านในถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ“เดินไม่ไหวเดี๋ยวฉันพาขึ้นไปเองค่ะ” พรีมเอ่ยกับคนที่จ้องหน้าของเธอตาค้างก่อนที่ธีร์จะยินยอมขับรถไปส่งอลิซ พรีมได้กระซิบบอกให้เขากดโทรออกมาหาเธอเพื่อที่จะได้รู้ว่าอีกฝ่ายพูดคุยอะไรกับเขาบ้าง และพรีมยังบอกด้วยว่าเธอจะนั่งรถไปกับพิรัชย์และขับตามหลังรถของธีร์จนถึงโรงแรมแห่งนี้“เธอมาได้ยังไง” อลิซขมวดคิ้วถามอย่างไม่ค่อยพอใจ เธอนึกว่าจะได้อยู่กับธีร์ตามลำพังจะได้ปรับความเข้าใจกัน“ก็ขับรถตามมาน่ะสิคะ คิดว่าฉันจะปล่อยให้คู่หมั้นของตัวเองมากับคุณตามลำพังเหรอ” พรีมเอ่ยพลางยื่นมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยที่คาดกลางลำตัวของอลิซออก แล้วจับข้อมือของสาวลูกครึ่งออกแรงดึงเพื่อให้เธอลงจากรถ“ปล่อย ฉันเดินเองได้” อลิซสะบัดแขนออก มองพรีมด้วยดวงตาแข็งกร้าว“เมื่อกี้ยังอ้อนพี่ธีร์บอกว่าเดินไม่ไหวอยู่เลย พวกเราก็เลยเป็นห่วงถึงได้ตามมาส่งคุณถึงที่นี่” พรีมคลี่ยิ้มเอ่ยกับอีกคนที่ยังมีสติดีแต่แสร้งทำเป็นเมาเพื่ออ้อนคนรักของเธอ“เมื่อกี้ฉันเมา แต่พอได้นั่งพักในรถก็ดีขึ้นมากแล้ว”“ฮ่าฮ่า สงสัยคุณคงชอบกินผลไม้สินะคะ โดยเฉพาะสต
สามชั่วโมงผ่านไป ทุกคนต่างก็พากันกินอิ่มหนำสำราญทั้งอาหารและเครื่องดื่มมึนเมา บางส่วนก็พากันขอตัวกลับไปพักผ่อนอลิซที่ออกอาการหน้าแดงก็หาเรื่องเก่าๆ สมัยเรียนด้วยกันมาชวนธีร์คุยไม่หยุด แม้ว่าเขาจะถามคำตอบคำอลิซก็ไม่ลดละความพยายามที่จะตีสนิทกันเหมือนเก่าพรีมเริ่มรำคาญแต่ก็ไม่อยากจะโวยวายอะไร ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งไปหาเพื่อนสาวเพื่อระบายอารมณ์……….Noo’ Preme : ฉันอยากกรี๊ดดดดดNewyear : เป็นอะไรของแก ไหนบอกพี่ธีร์จะพาไปกินข้าวกับคนในบริษัทไง หรือว่าทะเลาะกันNoo’ Preme : ยังไม่ได้ทะเลาะNewyear : แล้วแกจะกรี๊ดทำไม……….พรีมไม่ได้ตอบกลับข้อความ เธอลืมไปว่านิวเยียร์ยังไม่รู้ว่าแฟนเก่าของธีร์กลับมาแล้ว ถ้าบอกไปตอนนี้มีหวังนิวเยียร์ได้ส่งข้อความหรือไม่ก็โทรมาซักไซ้ยืดยาวแน่ เธอจึงปิดหน้าจอโทรศัพท์ หันไปมองอลิซที่ชวนคนรักของเธอชนแก้ว และส่งสายตาหวานมาให้เขา“พี่ธีร์คะ พรีมขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”พรีมเดินมาเข้าห้องน้ำ พอทำธุระเสร็จและกำลังล้างมือ อลิซก็เดินเข้ามายืนที่หน้ากระจกบานใหญ่และเข้ามาล้างมือเช่นเดียวกัน“คบกับธีร์มานานแล