พอพรีมกดรับสาย เสียงของคำถามจากอีกฝ่ายก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ทันที
(ถึงบ้านแล้วเหรอ)
“ถึงแล้วค่ะ”
(พี่เพิ่งประชุมเสร็จ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปรับ)
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีร์คะ พรีมมีเรื่องจะขอ”
(อืม พูดมาสิ)
“พี่ธีร์จะว่าอะไรไหมคะถ้าคืนนี้พรีมจะขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน” ขณะที่เอ่ยก็มองหน้ายิ้มๆ กับเพื่อนรัก พลางลุ้นไปด้วยกันว่าจะได้รับคำตอบเช่นไรกลับมา
(เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย)
“ทั้งสองค่ะ”
(อืม)
“อืมนี่คือให้พรีมไปใช่ไหมคะ” พรีมถามต่ออย่างไม่ค่อยไม่มั่นใจ
(อืม แค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน)
“ค่ะ”
พรีมกดวางสาย เสียงกรี๊ดเบาๆ ของเพื่อนสาวก็ดังขึ้นอยู่ข้างๆ อย่างคนดีอกดีใจจนออกนอกหน้า
“จะดีใจอะไรขนาดนั้น”
“ก็ดีใจแทนแกไง ฉันก็นึกว่าพี่ธีร์จะไม่ให้ไปแล้วซะอีก นี่ยังดีนะที่ยังให้แกได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“เขาก็เป็นแค่คู่หมั้นไหมแก คงไม่ถึงกับควบคุมความประพฤติฉันหรอก” พรีมเอ่ยขำๆ
ถ้าถึงขนาดไม่ให้ออกไปไหนเลยก็คงจะเกินไป เราทั้งสองก็แค่หมั้นกันตามที่ผู้ใหญ่ร้องขอก็เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับชีวิตของใครให้ทำตามใจตัวเองได้หรอก
นิวเยียร์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนถึงบ่ายสามก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนพรีมก็ส่งข้อความไปบอกเพื่อนชายว่าคืนนี้เธอตกลงจะออกไปเที่ยวด้วยกัน
ห้าโมงเย็นธีร์ก็กลับมาถึงบ้าน เขาขึ้นไปบนห้องเพื่อเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บและถอดเสื้อสูตตัวนอกกับเนกไท ก่อนจะลงมาชั้นล่างของบ้านเพื่อมองหาหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปไหน
วันนี้พรีมอาสาเป็นลูกมือเข้าไปช่วยแม่บ้านของที่นี่ทำอาหารอยู่ในครัว ถึงเธอจะทำอาหารไม่เก่งแต่ถ้าให้ช่วยหยิบจับ หรือเตรียมวัตถุดิบก็ยังพอทำได้อยู่บ้าง
“พรีม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“กลับมาแล้วเหรอคะ พรีมกำลังช่วยป้าสายบัวทำอาหารเย็นให้พี่ธีร์อยู่ค่ะ” พรีมเอ่ยพร้อมกับมือที่ช่วยซอยผักอย่างช้าๆ
“ทำให้พี่” ธีร์ถามกลับ แค่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนถึงกับต้องทำอาหารเอาใจกันเลยหรือ
“ค่ะ พี่ธีร์ไปนั่งรอนะคะ อีกสักพักก็เสร็จแล้ว”
ธีร์หันหลังเดินออกไปตามคำขอของเธอ เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีพรีมก็ออกมาเรียกคนที่นั่งทำงานกับโน้ตบุ๊กคู่ใจในห้องนั่งเล่นไปกินมื้อเย็นด้วยกัน
“นัดเพื่อนไว้กี่โมง”
“สองทุ่มค่ะ”
“เพื่อนที่ชื่อนิวเยียร์น่ะเหรอ แล้วผู้ชายล่ะ ใคร” ธีร์เงยหน้าจากจานข้าวจ้องมองใบหน้าหวานและถามเน้นย้ำตรงคำว่าใคร และรอฟังคำตอบอย่างไม่ละสายตา
“ก็คนที่พี่เห็นเมื่อเช้านั่นแหละค่ะ”
“ไว้ใจได้เหรอ” ธีร์ถามต่อ
“เพื่อนพรีมไว้ใจได้ทุกคนค่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พรีมไปกับนิวเยียร์ ดื่มเสร็จนิวเยียร์ก็จะมาส่งที่บ้านเหมือนเดิม”
“พี่ไม่ได้ห่วง”
“โอเคค่ะ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง หวังว่าคงไม่โทรตามกลับบ้านเหมือนพรีมเป็นเด็กๆ นะคะ” พรีมถอนหายใจ นึกว่าถามมาตั้งหลายประโยคจะนึกเป็นห่วงกัน ที่ไหนได้ ถามไปงั้นๆ
“...” ไร้เสียงตอบกลับ เพราะอีกคนก้มหน้ากินข้าวไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด
เมื่อกินกันอิ่มแล้ว พรีมก็ขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดมินิเดรสสายเดี่ยวสีดำ ความยาวกลางหน้าขาแต่แหวกขึ้นสูงเล็กน้อย ก่อนจะออกมานั่งแต่งหน้าที่โต๊ะกระจก
ธีร์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเมื่อเห็นคู่หมั้นสาวออกมาในชุดแบบนั้นก็ดูจะขัดตาเอามากถึงกับลอบถอนหายใจ
“นี่เธอไปเที่ยวหรือไปอ่อยผู้ชาย”
“ไปเที่ยวผับนะคะไม่ได้ไปงานวัด มันก็ต้องมีโชว์บนโชว์ล่างบ้างสิคะพี่ธีร์” พรีมหันไปมองเจ้าของน้ำเสียง ยกยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ใครๆ ก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น
“จำเป็นต้องโชว์ขนาดนั้นเลยเหรอ” ธีร์มองดูแล้วมันจะดูเผยส่วนบนส่วนล่างมากจนเกินไป ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ออกไปเที่ยวกลางคืนเลยสักนิด
“แล้วถ้าบอกว่าจำเป็นล่ะคะ” พรีมเอ่ยหยอกคนตรงหน้าเพราะอยากรู้ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร
“...” อีกคนแค่ทำหน้าเหนื่อยเพราะคร้านจะเถียงกันไปมา จึงถอนหายใจแล้วก้มหน้าทำงานต่อทำทีไม่สนใจ แต่ก็ปรายตามองไปที่เธอเป็นครั้งคราว
ยี่สิบนาทีต่อมาพรีมก็ได้รับข้อความจากเพื่อนรักว่ามาถึงแล้ว และจอดรถรออยู่หน้าบ้าน เธอจึงคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่ในนั้นมีแค่กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ ก่อนจะออกจากห้องก็หันมาบอกกับเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“พรีมไปก่อนนะคะพี่ธีร์”
“...” ธีร์แค่เงยหน้าขึ้นมองและให้ความเงียบกลับไป
พรีมคว้ารองเท้าส้นสูงสีดำที่อยู่ในห้องแต่งตัว แล้วรีบลงไปหานิวเยียร์ที่นั่งรออยู่ในรถ
“กว่าจะลงมาได้นะยัยพรีม” พอพรีมขึ้นไปนั่งบนรถนิวเยียร์ก็หันมาถามเพื่อนทันที พร้อมกับขับรถออกจากบ้านของธีร์ตรงไปสถานที่ที่ได้นัดกันไว้
“ฉันก็รีบมานี่แล้วไงยัยปีเก่า แล้วนี่แกอาบน้ำหอมมาหรือไง”
“หอมใช่ไหมล่ะ”
“หอมจนฉันแสบจมูกไปหมดแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งทำคิ้วย่น ยกนิ้วขยี้จมูก มันหอมก็จริง แต่กลิ่นมันแรงไปหน่อย
“แบบนี้แหละเดินไปทางไหนผู้ชายก็ได้กลิ่น” นิวเยียร์ไหวไหล่ใส่เพื่อนอย่างไม่ยี่หระ จะออกบ้านทั้งที่ก็ต้องจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมทั้งกลิ่นตัวหอมๆ ไว้ล่อผู้ชายในผับ
สองสาวเดินทางไปถึงผับเอ็กซ์เลยเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้เล็กน้อย เมื่อเดินเข้าไปด้านในที่มีไฟหลากสีเปล่งแสงวิบวับ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันออกมาดื่มกันเนืองแน่นเต็มพื้นที่ด้านใน
พรีมและนิวเยียร์พากันมองหาโต๊ะของเพื่อนชายที่มาถึงก่อนหน้า และก็เห็นขุนเขานั่งอยู่ที่โซนด้านใน แต่โต๊ะนั้นมีผู้ชายอีกคนที่พวกเธอไม่รู้จักนั่งอยู่ด้วย
พอเดินไปถึงโต๊ะพรีมก็ย่อตัวลงนั่งที่เก้าอี้ว่างข้างขุนเขา ส่วนนิวเยียร์ก็ไปนั่งข้างหนุ่มหล่ออีกคน
“ไฮ หนุ่มๆ” นิวเยียร์ยกมือขึ้นส่งยิ้มทักทาย
“สวัสดีครับสาวๆ” ชายอีกคนทักทายกลับ พร้อมกับกระตุกยิ้มหล่อมองสองสาวสลับกันไปมา
“นี่ใครเหรอ” ด้วยเพลงที่เสียงดังพรีมโน้มใบหน้าสวยไปถามที่ข้างหูของขุนเขา เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่มานั่งดื่มด้วยคือใคร
“มันชื่อไบร์ท เป็นเพื่อนต่างมหา’ ลัย และก็เป็นน้องชายของเจ้าของผับน่ะ” ขุนเขาโน้มมาพูดที่ข้างหูของพรีม
“ดื่มกันเต็มที่เลยนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” เพื่อนใหม่ที่เจอกันวันแรกก็แสดงความมีน้ำใจด้วยการเลี้ยงเหล้า
หล่อแล้วยังใจดีแบบนี้ แถมยังพูดจาด้วยน้ำเสียงหวานหูแบบนี้คงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นเสือผู้หญิงอย่างแน่นอน
ธีร์นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน สายตาก็มองไปที่นาฬิกาแทบจะทุกสิบนาที เพราะนี่มันก็จะห้าทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ายัยตัวแสบจะกลับเข้าบ้านมา คงไม่ได้พากันไปเมาจนหาทางกลับบ้านไม่ได้ใช่หรือไม่พอคิดได้ดังนั้นก็พับหน้าจอโน้ตบุ๊กลง เดินไปหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถเดินออกจากห้อง ธีร์ปลดล็อกประตูผ่านกุญแจรีโมตแล้วเข้าไปนั่งในรถ หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็กจีพีเอสที่เขาแอบติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามเอาไว้ในโทรศัพท์ของพรีม ตอนที่เธอกำลังอาบน้ำเมื่อช่วงหัวค่ำจีพีเอสของเธอยังอยู่ที่เดิมนั่นก็คือผับเอ็กซ์ และพอสตาร์ตรถได้เท่านั้น ธีร์ก็เหยียบคันเร่งขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วระยะทางจากบ้านไปผับห่างกันประมาณสิบห้ากิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีรถหรูก็เคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดโล่งกว้างที่เป็นพื้นที่ของผับแห่งนี้ธีร์ปิดหน้าจอมือถือแล้วเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงจุดไหนของผับ เขามองฝ่าผู้คนนับร้อยกว่าชีวิต สายตามองหาแต่สาวคู่หมั้นคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสนใจสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ที่จ้องมองและเอ่ยทักทายตลอดทางที่ก้าวเดินอยู่ด้านใน“พรีม ไหวรึเปล่า ถ้าไม่ไหวเรากลับกันเลยก็ได้นะ”
เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงพรีมก็ขยับตัวเบียดจนธีร์แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้นอน เขาจึงตัดสินใจสอดแขนเข้าไปใต้ลำคอให้คนตัวเล็กนอนหนุนแขนแล้วกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้พรีมดิ้นตัว แล้วขยับตัวดันเธอเข้าไปนอนด้านในอีกนิด ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคืนนี้เขาคงไม่ได้นอน และพรีมก็หันหน้าเข้าซุกอกอุ่นแล้วกระชับอ้อมกอดเอาไว้แน่น เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังนอนกอดคนที่บอกว่าห้ามข้ามเขตพื้นที่บนเตียงของเธออยู่ แต่ตอนนี้เธอกำลังเป็นผู้ทำลายกฎนั้นเสียเองพรีมเลื่อนมือเข้าไปในใต้เสื้อของธีร์อย่างซุกซน มือเล็กเลื่อนไปวางบนแผงอกแล้วลูบไปมาก่อนจะวางมือลงที่กล้ามหน้าอกข้างหนึ่งที่มีตุ่มเม็ดเล็กโผล่ขึ้นมา“อุ่นจัง”เดิมทีแค่นอนกอดกันก็แทบจะนอนไม่หลับอยู่แล้ว ยิ่งเธอทำแบบนี้เขาก็พลันรู้สึกขนกายลุกซู่ หายใจหายคอไม่ค่อยถนัด จนต้องรีบเอามือไปกอบกุมมือเล็กผ่านทางด้านนอกของเสื้อแล้วกำมือเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ทำอะไรมากไปกว่านี้“อยู่นิ่งๆ อย่าทำให้พี่หมดความอดทน” เสียงพร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับลมหายใจที่ติดขัด“แล้วทำไมต้องทนด้วยล่ะ” พรีมเอ่ยเสียงยานแล้วเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองภาพใบหน้าเบลอๆ เธอรู้แค่ว่าผู้ชา
“จะทำอะไรคะ” พรีมใช้ข้อศอกดันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูสิ่งแปลกปลอมที่ไม่เคยเห็นหรือสัมผัสกำลังถูไถน้องสาวของเธออยู่“นอนลง แล้วอย่าเกร็ง” เสียงพร่าเอ่ยออกคำสั่ง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่ายก็กดปลายหัวบานของเจ้ามังกรขนาดหกสิบที่ปากทางร่องรักแล้วออกแรงกดเข้าไปอย่างช้าๆ“อื้อ… เจ็บ” พรีมปิดเปลือกตาแน่นสนิท มือเล็กกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ พลันหุบขาที่เริ่มสั่นเข้าหากัน“เชื่อพี่นะคนดี ถ้าไม่อยากเจ็บก็อย่าเกร็ง” ธีร์เอ่ยกับคนตัวเล็กขณะที่ปลายหัวของเขาหลุดออกมา“พรีมกลัว”“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ทำให้พรีมเจ็บ” ธีร์บอกกับเธอด้วยความอดทน เขารู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งลำท่อน แต่จะเร่งรีบส่งเจ้ามังกรของเขาเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะร่องของเธอนั่นแคบจนเกินไป แม้จะเล้าโลมมาแล้วก็ยังเข้าไปได้ยากอยู่ดีพรีมยอมเชื่อฟังปลดปล่อยความรู้สึกกลัวให้กลายเป็นอยากรู้อยากลองแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มกระทำอย่างตามใจ ธีร์ถ่างขาของเธออ้าออกกว้าง จับแก่นกายของเขาชักรูดเข้าออกสองสามครั้งแล้วกดจ่อที่ปากทางรัก แล้วดันสะโพกส่งปลายหัวบานเข้าไปด้านในก็รู้สึกว่าร่องรักของเธอกำลังต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่ทะลวงเข้าไป“พรีม อย่
ธีร์จับเอวของพรีมยกขึ้นแล้วกดลงเป็นจังหวะเบาๆ เมื่อพรีมทำได้คล่องก็ปล่อยให้เธอจัดการกับแก่นกายของเขาด้วยตัวเองพรีมปรับท่านั่งยอง ๆ ควบขย่มลำท่อนขนาดใหญ่ สองเต้าอวบเด้งกระเพื่อมสั่นไหว ธีร์ใช้สองมือเท้ากับพื้นที่นอนเอนหลังเล็กน้อย ปล่อยให้หญิงสาวจัดการโยกสะโพกขึ้นลงได้ตามอำเภอใจ“อา… พรีม แรงอีก” ธีร์เชิดหน้าเปล่งเสียงครางและร้องขอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพรีมยกสองแขนกอดรอบคอ ยกสะโพกขึ้นสุดลงสุดจนได้ยินเสียงก้นกระทบกับหน้าขา สองร่างอ้าปากร้องครวญครางอย่างไม่มีใครยอมใคร“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อืม…”ธีร์ส่งมือมาบีบขย้ำเต้าอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ แล้วอ้าปากครอบครองเม็ดสีหวานดูดเลียและรัวลิ้นสะกิดจนอีกคนรู้สึกสยิวขนกายลุกซู่ จากนั้นก็จับคนตัวเล็กหันหลังให้กันโดยที่จุดที่เชื่อมต่อกันด้านล่างยังไม่หลุดออกธีร์กดจูบแผ่นหลังไปทั่วบริเวณ สองมือก็บีบเคล้นเต้าอวบจนล้นไปตามง่ามมือพรีมใช้สองมือจับหน้าแข้งของธีร์แล้วยกสะโพกมนตอกกระแทกลำท่อนแข็งแรงจนขาเริ่มสั่น ชายหนุ่มจึงดันตัวลุกขึ้นหลังเหยียดตรง ชันเขาบนที่นอน ให้หญิงสาวนอนโน้มตัวไปด้านหน้าแล้วเท้าแขนกับพื้นที่นอน แอ่นสะโพกขึ้นรับกับแรงกระแทกจากเขาแทนธีร์เด้งเอ
พรีมฝืนตัวเองลุกขึ้นยืนแม้จะเจ็บส่วนนั้นมากแต่ก็ไม่ถึงกับเดินไม่ไหว จากนั้นก็พาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ร่องรอยความสุขอันวาบหวามยังปรากฏชัดอยู่บนเนื้อตัวของเธอ และดีที่มันอยู่ใต้ร่มผ้า พอสวมใส่เสื้อผ้าก็มองไม่เห็นรอยจ้ำเหล่านั้นแล้วพรีมเดินออกจากห้องแต่งตัวมายืนที่ข้างเตียง หันไปมองบนเตียงที่เรานอนด้วยกัน หันมองถาดอาหารที่มียาวางอยู่ด้วย แล้วหยิบถาดนั้นไปวางที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเธอคิดว่าธีร์คงกลัวพลาดถึงได้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้เธอกิน ในเมื่อคิดได้เช่นนั้นพรีมก็เริ่มตักข้าวต้มที่เย็นชืดเข้าปากจนพล่องลงไปครึ่งถ้วย แล้วนำยาที่ธีร์ซื้อมาให้กินพร้อมกับน้ำ และรอเวลาอีกสิบสองชั่วโมงก็กินอีกเม็ดที่เหลือเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่อยากมีลูกกับเธอ และเธอเองก็ไม่อยากจะเอาเรื่องนี้ไปผูกมัดชีวิตใคร เพราะถึงอย่างไรเธอก็มีเวลาอยู่กับเขาเพียงแค่สองปีเท่านั้นธีร์กลับจากที่ทำงานก็พบว่าพรีมกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปนั่งทำงานที่โต๊ะเพราะไม่อยากปลุกคนที่หลับอยู่ รอเธอตื่นค่อยพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนพรีมสะดุ้งตื่นอย่างสะลึมสะลือ มือเล็กควานหาโทรศัพท์ที่
หลังจากพรีมเข้าไปอาบน้ำและออกมาทาครีมบำรุงแล้วเสร็จเธอก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เอาหมอนข้างทั้งสองใบมาขั้นกลางไว้ดังเดิม แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงหน้าอก นอนหันหลังให้กับคนที่นั่งทำงานอยู่ธีร์ที่เห็นท่าทีเฉยเมยของพรีมก็รู้สึกหงุดหงิดใจพลางทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาจึงพับหน้าจอโน้ตบุ๊กลงแล้วเข้าไปอาบน้ำ และพออาบน้ำเสร็จก็เดินไปปิดไฟกลางห้อง เหลือไว้เพียงโคมไฟข้างหัวเตียงและขึ้นไปนอนบนเตียงธีร์จัดการดึงหมอนข้างทั้งสองใบมาไว้ที่ด้านข้างของเขา ปล่อยให้พื้นที่ตรงกลางเหลือว่างไว้ พรีมที่นอนนิ่งก็รับรู้ได้ว่าพื้นที่ด้านหลังของเธอนั้นกำลังว่างเปล่า เธอจึงพลิกตัวหันไปมองก็พบใบหน้าหล่อที่นอนหันหน้ามาทางเธอ“นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก”“ถ้าพรีมหลับ พี่จะเห็นพรีมลืมตาเหรอคะ แล้วนี่เอาหมอนข้างพรีมไปทำไม เอามาไว้ที่เดิมนะคะ”พรีมขยับตัวลุกนั่งแล้วเอื้อมแขนผ่านลำตัวของชายหนุ่มเพื่อดึงเอาหมอนข้างกลับมาวางไว้ที่เดิม ธีร์ได้ทีก็รีบคว้าตัวของเธอลงมานอนกอด“ปล่อยพรีมนะพี่ธีร์” พรีมดิ้นตัวในอ้อมแขน หัวใจดวงน้อยเต้นเสียงดังตึกตัก ไม่คิดว่าธีร์จะกล้าทำกับเธอแบบนี้“เมื่อคืนยังนอนกอดพี่ทั้งคืน แล้วทำไมคืนนี้ไม่
ธีร์กลับมานั่งทำงานในห้องขนาดใหญ่ ที่มีพิรัชย์ยืนรอรับเอกสารอยู่“เริ่มชอบคุณพรีมแล้วใช่ไหมครับ” พิรัชย์เอ่ยถามเจ้านายทั้งสองคนทำงานด้วยกันมานานหลายปี เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนพี่น้องที่สนิทกันมากเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าเรื่องอะไร ส่วนมากก็จะเป็นพิรัชย์ที่คอยจัดการเป็นธุระให้“นายคิดอย่างนั้นเหรอ” ธีร์เงยหน้าขึ้นมองเลขาหนุ่มแล้วเอ่ยถาม ไม่คิดว่าขนาดผู้ชายด้วยกันจะมองเห็นเป็นอย่างนั้น“ครับ ไม่อย่างนั้นคุณธีร์จะให้ผมหาตารางเรียนของคุณพรีมทำไม คุณธีร์ไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยนะครับ”“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเด็กที่อยู่ในความดูแลแต่ละวันเธอได้เรียนอะไรบ้าง เผื่อว่าแอบไปทำตัวเถลไถลไม่เข้าเรียนจะได้ไล่ตามทัน” ธีร์เอ่ยกับคนตรงหน้าที่ยกยิ้มให้ราวกับไม่เชื่อในคำที่เขาพูด“นายยิ้มอะไรพิรัชย์”“เปล่าครับ เช้านี้ผมก็แค่อารมณ์ดี”“งั้นนายก็ไปอารมณ์ดีที่โต๊ะของนายโน้นไป” ธีร์เอ่ยพลางยื่นแฟ้มเอกสารให้กับเลขา“ครับ”“อ้อ ต่อไปถ้าจะนัดประชุมให้เทียบกับตารางเรียนของพรีมด้วยนะ อย่าให้ชนกับตอนที่ฉันต้องไปรับและไปส่งเธอที่มหา’ ลัย” ธีร์เอ่ยออกคำสั่งอีกครั้งก่อนที่เลขาของเขาจะเดินออกจากห้อง“ได้ครับ” พ
ตลอดหลายวันที่ผ่านมาธีร์มาก็รับมาส่งพรีมอย่างที่เขารับปาก ไม่ว่าจะเลิกเรียนกี่โมงพอเธอทักไปบอก เขาก็ออกจากบริษัทมารับเธอกลับบ้านทันทีมีบางวันที่พรีมออกไปเที่ยวกับนิวเยียร์ต่อ และไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน จะกลับเข้าบ้านกี่โมง ธีร์ก็จะเป็นคนไปรับเธอถึงที่ เพราะพรีมเองก็จะเลือกที่จะนั่งเมาท์กับนิวเยียร์ไม่เกินเวลาที่ธีร์เลิกงาน ช่วงนี้ทั้งสองคนจึงมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แม้ความสัมพันธ์จะยังไม่ได้ก้าวหน้า แต่ก็มีการพูดคุยกันมากกว่าปกติที่เมื่อก่อนมักจะถามคำตอบคำวันนี้พรีมมีเรียนถึงสิบเอ็ดโมง กะว่าช่วงเที่ยงจะกินข้าวกันที่โรงอาหารของคณะและนั่งพูดคุยกันที่นั่น เพราะช่วงบ่ายยังมีเรียนกันต่อ แต่ขณะที่เดินลงบันไดจากชั้นสามของตึกคณะ โทรศัพท์ของเธอก็ได้รับการแจ้งเตือนข้อความเข้า พรีมหยิบมือถือออกจากกระเป๋าขึ้นมาเปิดดูก็พบว่าเป็นข้อความของธีร์……….Thee : กินข้าวที่ไหนNoo’ Preme : โรงอาหารค่ะThee : ที่คณะใช่ไหมNoo’ Preme : ค่ะ พี่ธีร์ถามทำไมเหรอคะ……….พรีมกดส่งข้อความตอบกลับไปแต่แล้วก็ไร้วี่แววของอีกคนที่จะตอบกลับมา ผ่านไปนานหลายนาทีจนพรีมลืมไปแล้วเพราะมัวแต่คุยกับเพื่อนระหว่างที่ยืนรออาหารตา
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก
“ไปทำงานกับพี่ไหม” ธีร์เอ่ยปากชวน ไหน ๆ วันนี้พรีมก็มีเรียนบ่าย ครึ่งวันเช้าก็ไปอยู่ด้วยกันเลย เขาจะได้ไม่ลำบากใจเวลาที่อลิซหาโอกาสเข้ามาหาในห้องทำงาน“จะดีเหรอคะที่จะให้ไปนั่งเฝ้าพี่ทำงาน” พรีมแสร้งถามทั้ง ๆ ที่ในใจก็รู้สึกดีที่เขาชวนไปอยู่ด้วย“ดีสิครับ” ธีร์ส่งยิ้มยกมือไปลูบผมของพรีมอย่างเบามือ เขารู้ว่าพรีมแอบกังวลกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยกินข้าวเสร็จพรีมก็รีบขึ้นห้องเพื่อไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา และเดินทางไปที่บริษัทพร้อมกับธีร์ เธอนั่งเล่นมือถืออยู่ตรงโซฟาเพราะไม่มีอะไรทำ ส่วนธีร์ก็นั่งทำงานที่โต๊ะของเขาจนเวลาเกือบเที่ยง“ธีร์คะ อลิซจะมา…” อลิซพรวดพราดเปิดประตูเข้ามา กะจะชวนชายหนุ่มไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน เธออุตส่าห์ลงทุนไม่อยู่กินข้าวที่โรงแรมเพื่อมาชวนเขาโดยเฉพาะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักคำพูดเหล่านั้นเพราะเห็นพรีมนั่งอยู่ในห้องด้วย“สวัสดีค่ะคุณอลิซ” พรีมส่งยิ้มและยกมือขึ้นทักทาย“สวัสดี”“คุณอลิซมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” ธีร์เอ่ยถามด้วยถ้อยคำที่เป็นทางการสำหรับการคุยงานกัน“ไม่มีค่ะ อลิซเห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว เลยจะมาชวนคุณไปกินข้าว”“ชวนแค่พี่ธีร์เหรอคะ” พรีมรีบพูดแทรกขึ้น พร้อ
แต่แล้วจู่ ๆ ประตูฝั่งคนขับก็ได้ถูกเปิดออก ทำเอาคนที่นั่งด้านในถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ“เดินไม่ไหวเดี๋ยวฉันพาขึ้นไปเองค่ะ” พรีมเอ่ยกับคนที่จ้องหน้าของเธอตาค้างก่อนที่ธีร์จะยินยอมขับรถไปส่งอลิซ พรีมได้กระซิบบอกให้เขากดโทรออกมาหาเธอเพื่อที่จะได้รู้ว่าอีกฝ่ายพูดคุยอะไรกับเขาบ้าง และพรีมยังบอกด้วยว่าเธอจะนั่งรถไปกับพิรัชย์และขับตามหลังรถของธีร์จนถึงโรงแรมแห่งนี้“เธอมาได้ยังไง” อลิซขมวดคิ้วถามอย่างไม่ค่อยพอใจ เธอนึกว่าจะได้อยู่กับธีร์ตามลำพังจะได้ปรับความเข้าใจกัน“ก็ขับรถตามมาน่ะสิคะ คิดว่าฉันจะปล่อยให้คู่หมั้นของตัวเองมากับคุณตามลำพังเหรอ” พรีมเอ่ยพลางยื่นมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยที่คาดกลางลำตัวของอลิซออก แล้วจับข้อมือของสาวลูกครึ่งออกแรงดึงเพื่อให้เธอลงจากรถ“ปล่อย ฉันเดินเองได้” อลิซสะบัดแขนออก มองพรีมด้วยดวงตาแข็งกร้าว“เมื่อกี้ยังอ้อนพี่ธีร์บอกว่าเดินไม่ไหวอยู่เลย พวกเราก็เลยเป็นห่วงถึงได้ตามมาส่งคุณถึงที่นี่” พรีมคลี่ยิ้มเอ่ยกับอีกคนที่ยังมีสติดีแต่แสร้งทำเป็นเมาเพื่ออ้อนคนรักของเธอ“เมื่อกี้ฉันเมา แต่พอได้นั่งพักในรถก็ดีขึ้นมากแล้ว”“ฮ่าฮ่า สงสัยคุณคงชอบกินผลไม้สินะคะ โดยเฉพาะสต
สามชั่วโมงผ่านไป ทุกคนต่างก็พากันกินอิ่มหนำสำราญทั้งอาหารและเครื่องดื่มมึนเมา บางส่วนก็พากันขอตัวกลับไปพักผ่อนอลิซที่ออกอาการหน้าแดงก็หาเรื่องเก่าๆ สมัยเรียนด้วยกันมาชวนธีร์คุยไม่หยุด แม้ว่าเขาจะถามคำตอบคำอลิซก็ไม่ลดละความพยายามที่จะตีสนิทกันเหมือนเก่าพรีมเริ่มรำคาญแต่ก็ไม่อยากจะโวยวายอะไร ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งไปหาเพื่อนสาวเพื่อระบายอารมณ์……….Noo’ Preme : ฉันอยากกรี๊ดดดดดNewyear : เป็นอะไรของแก ไหนบอกพี่ธีร์จะพาไปกินข้าวกับคนในบริษัทไง หรือว่าทะเลาะกันNoo’ Preme : ยังไม่ได้ทะเลาะNewyear : แล้วแกจะกรี๊ดทำไม……….พรีมไม่ได้ตอบกลับข้อความ เธอลืมไปว่านิวเยียร์ยังไม่รู้ว่าแฟนเก่าของธีร์กลับมาแล้ว ถ้าบอกไปตอนนี้มีหวังนิวเยียร์ได้ส่งข้อความหรือไม่ก็โทรมาซักไซ้ยืดยาวแน่ เธอจึงปิดหน้าจอโทรศัพท์ หันไปมองอลิซที่ชวนคนรักของเธอชนแก้ว และส่งสายตาหวานมาให้เขา“พี่ธีร์คะ พรีมขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”พรีมเดินมาเข้าห้องน้ำ พอทำธุระเสร็จและกำลังล้างมือ อลิซก็เดินเข้ามายืนที่หน้ากระจกบานใหญ่และเข้ามาล้างมือเช่นเดียวกัน“คบกับธีร์มานานแล