ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหารเลย กินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกหมด ด้วยเหตุนี้ฉันจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล ช่วงเวลาที่คุณหมอแจ้งว่าฉันตั้งครรภ์อยู่นั้น หยาดเหงื่อแห่งความตื่นเต้นของฉันก็ไหลลงมา ฉันกับสามีเป็นคู่รักที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัยก็แต่งงานและเตรียมพร้อมตั้งท้อง แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที สามีจึงปลอบใจฉันว่า “เรื่องท้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่แน่ว่าลูกของเราอาจจะกำลังรอโอกาสที่เหมาะสมอยู่ก็ได้” จนตอนนี้ ในที่สุดโอกาสที่เหมาะสมที่สุดก็มาถึง “คุณผู้หญิงคะ คุณตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้วนะคะ ภาพอัลตราซาวด์ทารกในครรภ์ค่อนข้างมั่นคง แต่ก็ยังคงต้องหมั่นระมัดระวังไม่ให้ได้รับแรงกระแทกจากภายนอกนะคะ” ใบหน้าของฉันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ลูบท้องน้อยที่นูนขึ้นมานิดหน่อย คิดไม่ถึงเลยว่าจะสี่เดือนแล้ว รอบเดือนฉันมาไม่เคยตรงเวลา รอบเอวกลมขึ้น ฉันก็แค่คิดง่าย ๆ ว่าช่วงนี้คงกินเยอะจนอ้วนแล้ว เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันข่มกลั้นความสุขของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ จึงลงมือทำอาหาร เตรียมอาหารเที่ยงแห่งความรักไปให้สามี และถือโอกาสบอกข่าวดีของเธอนี้ด้วยปากของตัวเอง ถือกล่องข้าว เดินเข้าประต
ฉันโล่งใจ คิดว่าคงรอดแล้ว จ้าวลี่ลี่หัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น แล้วไปเปิดประตูอย่างนิ่งเงียบ“ผู้หญิงคนนี้อยากจะอ่อยท่านประธานกู้ ฉันกำลังสั่งสอนเธออยู่” สีหน้าของเลขาที่อยู่หน้าประตูแปรเปลี่ยนเป็นดูถูกเหยียดหยาม “ท่านประธานกู้ยอดเยี่ยมเกินไป ผู้หญิงสารเลวพวกนี้เลยคิดอยากจะกระโจนเข้าอ่อยเขา”“แต่พี่วางใจเถอะ พี่ลี่ พี่คอยอยู่เคียงข้างประธานกู้มาถึงห้าปีแล้ว ในใจเขามีเพียงแค่พี่ค่ะ” จ้าวลี่ลี่ตะคอกเสียงเย็น “นี่เป็นเรื่อธรรมดา” ขณะที่พูดอยู่ก็มองด้วยความไม่เป็นมิตร ฉันที่นอนฟุ้บอยู่บนพื้นอย่างทุลักทุเล พูดเยาะเย้ยว่า “บางคนไม่ต้องหาเรื่องใส่ตัวเองก็ได้นะ” ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความสั่นเทา อยากจะโทรหาสามี ทันใดนั้นจ้าวลี่ลี่ก็เปลี่ยนสายตาเป็นเย็นชา จ้องมาที่โทรศัพท์ของฉันตาเขม็ง วินาทีต่อมา โทรศัพท์ก็ถูกแย่งไปดวงตาของจ้าวลี่ลี่เขียวปั้ด จ้องมองมาที่ด้านหลังโทรศัพท์ของฉัน “ความคิดของเธอนี่มันชั่วอย่างเปิดเผยเลยนะ ยังจะกล้าใช้เคสโทรศัพท์คู่กับท่านประธานกู้เลยเหรอ” โทรศัพท์ถูกปาทิ้งลงไปบนพื้น แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ“ยัยสารเลว!” จ้าวลี่ลี่ราวกับสิงโตโกรธ มือข้างหนึ่ง
บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่ง'เพี๊ยะ'!สิ่งที่ทักทายฉันไม่ใช่การรอดชีวิต แต่เป็นการตบอีกครั้งจากจ้าวลี่ลี่“เธอเป็นภรรยาของท่านประธานกู้ แล้วฉันล่ะเป็นใคร?”“ยิ่งไปกว่านั้นคือฉันอยู่กินกับท่านประธานกู้มาแล้วห้าปี รู้จักกับเขามาแล้วเป็นสิบปี แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าแต่งงานแล้ว”“ยัยสารเลว กล้าดียังไงมาโกหกฉัน”ฉันอาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มปาก พยายามอ้าปากอธิบายว่า "เราเป็นคู่รักกันตั้งแต่เด็ก ฉันเป็นภรรยาของเขาจริงๆ"เมื่อได้ยินชื่อของกู้ซือเหนียน เลขาคนอื่น ๆ ก็กังวลเล็กน้อย จนคิดจะหยุดจ้าวลี่ลี่แต่จ้าวลี่ลี่กลับหวดมือของเธออย่างไม่สนอกสนใจ“วางใจเถอะ อย่างไรฉันก็เป็นคนที่รู้ใจท่านประธานกู้มากที่สุด”เธอมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรังเกียจชุดที่ขาดรุ่งริ่งของฉันถูกโยนทิ้งเอาไว้ข้าง ๆ ราวกับผ้าขี้ริ้วทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเครื่องประดับใดๆ ติดตัวเลย แม้แต่กระเป๋าแบรนด์เนมสักใบก็ตามถือกล่องข้าวที่เป็นเพียงถุงผ้าโทรม ๆ จ้าวลี่ลี่หัวเราะเย้ยหยัน "แล้วดูผู้หญิงยากจนที่อยู่ตรงหน้านี้สิ ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีแบรนด์เนมเลยสักชิ้น จะมาเป็นคุณนายกู้ได้อย่างไร?"ไม่ง่ายเ
เมื่อได้ยินคำนี้ จ้าวลี่ลี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเจ็บใจ“ท่านประธานกู้คะ วันนี้แดดแรงมากเลย หากว่าคุณร้อนขึ้นมาจะทำยังไง เดี๋ยวฉันจะให้จิงจิงเอาไปส่งให้ค่ะ”“ไม่เป็นไร ผมจะผ่านบริษัทพอดี”“ได้ค่ะ ท่านประธานกู้ งั้นฉันจะให้จิงจิงเอาไปให้คุณที่โรงจอดรถใต้ดิน”"อืม"ฉันเกือบจะหมดหวังคนอื่น ๆ ต่างก็ยังคงยกยอจ้าวลี่ลี่ ว่าเธอช่างใส่ใจ ไม่ปล่อยให้ท่านประธานกู้ลำบากเลยแม้แต่น้อย จ้าวลี่ลี่แสดงสีหน้าแห่งความภาคภูมิใจตัวเองออกมา "แน่นอน ว่ารักแท้ต้องให้อภัยรอบด้าน"ทันใดนั้นเธอก็มองมาที่ฉัน แล้วตะคอกเสียงดัง "แต่คนที่คอยสอดแนมผู้ชายของฉัน ก็จะต้องถูกฉันบีบคอจนตาย!” แก้มของฉันบวมเป่งแดงขึ้น เสื้อผ้าแนบเนื้อบางๆ ไม่สามารถปกปิดสิ่งใดได้ ผิวหนังส่วนใหญ่ถูกสัมผัสกับอากาศ เดิมทีหน้าท้องที่ปูดโนนขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้กลับหายไปแล้วฉันรู้อยู่ในใจว่าวันนี้คงจะหนีภัยนี้ไม่ได้แล้วฉันลูบท้องอันเหี่ยวแห้ง แล้วร้องไห้อย่างเงียบ ๆแค่เสียใจกับลูกที่ยังไม่ได้เกิดมาของฉันฉันจ้องมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างดุร้าย ฉันสาบานว่าจะจำใบหน้าของพวกเขาไว้ แล้วตามล้างแค้นให้ลูกของฉันโดยเฉพาะจ้าวลี่ลี่
“นี่คือกล่องข้าวที่ผู้หญิงคนนั้นเอามา ดูราคาถูกพอ ๆ กับเธอ”"ท่านประธานกู้ คุณไม่รู้ ว่าถ้าคุณซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในซุปเปอร์มาร์เก็ตใด ๆ พวกเขาจะให้กล่องข้าวแบบนี้ให้คุณ ตอนนี้แผนกต้อนรับขาดความรับผิดชอบมาก ไม่ว่าจะหมาจะแมวที่ไหนก็ปล่อยให้เข้าบริษัทได้หมด” จ้าวลี่ลี่ยังคงพูดพล่อยๆ โดยไม่ได้สังเกตว่าสีหน้าของกู้ซือเหนียนยิ่งดูย่ำแย่เรื่อย ๆ “จ้าวลี่ลี่ คุณเป็นแค่เลขา เรื่องของบริษัทยังไม่ถึงคราวที่คุณต้องตัดสินใจ” เนื่องจากคำนี้ หลังจากที่กู้ซือเหนียนจากไปแล้ว จ้าวลี่ลี่ก็อารมณ์เสียขึ้นอย่างมาก เธอกล่าวโทษทุกอย่างกับฉัน“ยัยสารเลวอย่างเธอ ทำให้ท่านประธานกู้ใช้พูดคำรุนแรงกับฉัน”สายตาของเธอมีแสงแปลก ๆ เป็นประกายออกมา จ้องมองมาที่ท้องของฉันอย่างอาฆาต“เธอว่า ถ้าฉันผ่าท้องของเธอออกมา แล้วท่านประธานกู้จะชมฉันไหม”ฉันรั้งตัวเองไว้ แล้วมองเธอที่เหมือนสัตว์ประหลาดย้อนกลับไปตอนที่เธอเตะท้องฉันอย่างแรง ฉันก็สัมผัสได้ว่าท้องไม่ขยับอีกแล้วลูกตายไปแล้ว หัวใจของฉันก็ตายไปพร้อมกัน ตอนนี้เธอยังอยากจะขุดลูกของฉันออกมาอีกฉันกัดริมฝีปากล่างแน่น แล้วบอกตัวเองว่าจะตายไม่ได้ฉันย
ทั้งร่างกายของฉันไม่มีเรี่ยวแรงเลย เหมือนปลาตายที่นอนอยู่บนพื้น รอทัณฑ์เลาะกระดูก ฝูงชนที่มืดมิดเป็นเหมือนยมทูต หนึ่งคนแทงหนึ่งครั้งจ้าวลี่ลี่ทำให้ทุกคนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และฉันก็ถูกโยนลงนรกอย่างแน่นอนฉันเริ่มร้องครวญคราง และดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่ตอนนี้ฉันยังขยับนิ้วไม่ได้เลยจ้าวลี่ลี่ยิ้มพลางเฝ้าดูฉันต้องทนทุกข์ทรมานจนรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งแต่เธอรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอจึงกล่าวกับทุกคนว่า "ฉันเกลียดดวงตาของเธอ พวกคุณที่ทำลายมันให้ฉันได้ จะได้รับโบนัสเพิ่มขึ้นสองเท่าในไตรมาสหน้า"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา คนไม่น้อยก็ตาสว่างขึ้นมาพนักงานหญิงร่างผอมในตอนแรกสุดก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่น "ฉันทำเอง"เธอถือมีดคัตเตอร์เล่มเล็ก เดินเข้ามาหาฉันทีละก้าวในเวลานี้อีกคนก็ยืนขึ้น“มีดมันง่ายเกินไปสำหรับเธอแล้ว พี่ลี่ ให้โอกาสฉันหน่อยสิ”คือคนที่เพิ่งจะขอร้องให้ฉันไปนั่นเอง เมื่อเธอหันให้กับจ้าวลี่ลี่ ฉันเห็นความรู้สึกผิดที่อยู่ในตาของเธอ และคำพูดบนริมฝีปากของเธอ อดทนไว้ฉันถูกดึงผมให้ขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง แล้วเธอก็กระแทกหัวของฉันเข้ากับมุมโต๊ะ แม้จะเจ็บมาก แต่ก็หลีกเลี่ยงจุดส
“ทำไมหน้าเธอถึงบวมขนาดนี้ล่ะ”จ้าวลี่ลี่เห็นว่ากู้ซือเหนียนเมื่อเห็นหน้าของฉัน ก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใด เธอจึงสบายใจ และสร้างเรื่องต่าง ๆ ต่อ แต่เธอไม่รู้ว่า กู้ซือเหนียนจำฉันไม่ได้ เพราะดวงตาของฉันบวมเป่งขึ้นมา และใบหน้าก็เต็มไปด้วยเลือด ฉันไม่เคยรู้สึกเขินอายหรือเศร้าหมองเลยแต่น่าเศร้ามากที่แม้แต่กู้ซือเหนียนคู่รักตั้งแต่วัยเด็กของฉันก็จำฉันไม่ได้ในทันทีกู้ซือเหนียนกังวลเล็กน้อย แต่แล้วก็ลุกขึ้นยืนขึ้น“เอาละ ผมหวังว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เปลี่ยนแผนกต้อนรับส่วนหน้าชุดใหม่ให้ผม พนักงานรักษาความปลอดภัยชั้นล่างก็ไล่ออกด้วย”ท่านประธานโกรธจัด จนทุกคนเงียบเสียงลง หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว กู้ซือเนียนก็ยกขาขึ้น เตรียมจากไปอีกครั้งแต่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างดึงเขาอยู่ เมื่อเขาก้มศีรษะลง เขาเห็นว่าเป็นฉันที่กำลังจับกางเกงของเขาไว้แน่น“ทังหยวน……”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ กู้ซือเหนียนก็สั่นไปทั้งตัวเพียงเพราะว่าทังหยวนเป็นชื่อเล่นของเขา ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่รู้จ้าวลี่ลี่รีบวิ่งไปด้วยความหึงหวง ต้องการแยกพวกเราออกจากกัน "ท่านประธานกู้คะ นี่เป็นอาการป่วยทางจิ