ถ้าเป็นแบบสวรรค์สี ผู้หญิงกร้านกล้าเจนจัดแบบนั้น เอาไปไกลๆเขาเลย
เขาไม่ใช่พวกคลำไม่เป็นหางเป็นใช้ได้อย่างธีรคาม
อย่างน้อยเรื่องนี้ เขาต้องสะอาดและคัดเลือก
ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาอยากจะปลดเปลื้อง แลกความเป็นหนุ่มแน่นของตนเองกับสาวสวยที่ไหนแลกร่างกายกันด้วยเซ็กซ์ นอกจากคราวก่อน ก็หลายปีมาแล้ว สองสามครั้ง
ช่วงนั้นเขายังมีภามิญาอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วล่ะ
พันธะหัวใจของหล่อนกับเขามันขาดผึงไปทันที ตั้งแต่ที่ทราบข่าวว่า หัวใจของหล่อนไปอยู่กับคนอื่น
เลยเตลิดไปไกลต่อไกล เพราะสังคมแบบนั้นก็เอื้ออำนวยให้ผู้ชายผู้หญิงมีเซ็กซ์กันง่าย วัฒนธรรมมันเปิดอิสระเสรี
เรื่องแบบนี้ผู้ชายผู้หญิงเขาเห็นกันเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกินข้าวไปเที่ยว
เฮอะ เขาจะมานั่งตอกย้ำตัวเองไปทำไม แค่นี้มันเจ็บปวดไม่เพียงพอหรือไง
เขากระอักเลือดไม่พอล่ะสิ ถึงดิ้นรนหาเรื่องที่จะทำให้ตัวเองน้ำตาไหลออกมา
คำว่าบาดเจ็บจากการอกหัก มันก็มีพิษสงร้ายแรง
จนเขาต้องจัดการระบายหาทางออกให้ตัวเองในบางสิ่งบางอย่าง เพราะห่างร้างไปนาน เหมือนปลุกอารมณ์อีกครั้ง
ในเมื่อธีรคามบอก ผู้หญิงที่เป็นชิ้นเนื้อสด จะนอนคอยเขาที่โรงแรมประจำ ซึ่งมันไปใช้บริการบ่อย จึงจำได้ขึ้นสมอง เป็นโรงแรมม่านรูดหรูระดับห้าดาว รถแท็กซี่หรือส่วนตัวสามารถแล่นโฉบผ่านถึงหน้าห้อง มีลิฟต์ให้บริการ แต่ราคาต่อคืนต่อครั้ง ถือว่าแพงโขทีเดียว แต่เขายินยอมเสีย แต่ที่นึก ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงเท่านั้น พอเห็นแล้วเขาจะให้ผ่านมั๊ย คำตอบรออยู่
“นายอยู่ที่ไหนล่ะป้าง”โทชินาดะถามเขา
“อยู่ข้างนอก “
นึกแปลกใจ เพราะเพื่อนรักเป็นคนบอกว่าจะใช้เวลาเขียนหนังสือในช่วงนี้
“อ้าว ไหนว่า นายต้องมีเวลาเขียนหนังสือ”
“ตอนนี้ทิ้งไว้ก่อน หาอะไรสนุกๆทำ”
เขาตอบเพื่อน
“เออว่ะ เที่ยวบ้าง ดีกว่าอุดอู้อยู่ในห้อง สมองนายอาจจะแจ่มใสมากกว่าเดิม อาจจะได้ไอเดียพร็อตเขียนเรื่องอีกเยอะ”
“ขอบใจนายมาก ที่พอจะรู้นี่ ว่าชีวิตนักเขียนเขาเป็นยังไง”
“เอ๊ะ ท่าทางนายไม่สบายฉันสังเกตจากน้ำเสียง”
“ขอบคุณ ถูกล่ะเพื่อนฉันก็ไม่สบายใจจริงๆ ถึงดันทุรังออกมาเที่ยวนอกบ้าน ถ้าเป็นปกติ นายก็รู้ว่าฉันจมอยู่กับโต๊ะเขียนหนังสือ”
“กันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน ขอให้นายเที่ยวให้สนุกก็แล้วกันนะ ส่วนฉันขอหลับพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้มีโปรแกรมเที่ยวเยอะ เสียดายนายไม่ได้มาด้วย จะอย่างไรก็ตาม จะเที่ยวเผื่อด้วยนะโว้ย”
“เออ ฉันคงอิ่มเที่ยวไปกับนายด้วยล่ะโทชินาดะ ถ้าเป็นอย่างนั้น โชคดีว่ะ”
เขาตอบเพื่อนเย้าออกไปอย่างมีอารมณ์ขำ ทั้งที่ในเวลานี้ตัวเองขำไม่ออกสักเท่าไหร่ แต่น้ำคำของเพื่อนก็ยังทำให้หัวเราะขำรื่นอารมณ์ออกมา
เพื่อนรักชาวซากุระ ให้กำลังใจแก่เขาไม่ใช่น้อยเลย เป็นความสุขที่ไม่รู้ตัว เข้าไปในห้องแล้ว กดล็อกปิดประตูแล้วชายหนุ่มก็นั่งเงียบ นั่งมองขวดเบียร์ตรงหน้า เพราะเขาไม่ใช่คอแอลกอฮอล์
ธีรคามหนุ่มเลวถอนใจอย่างยากลำบากเมื่อการกระทำของเขาบรรลุผลสำเร็จ เมื่อเขาเอ่ยคะยั้นคะยอให้สาวสวยอยู่ต่อ
อ้อนหล่อนด้วยคำหวาน จนใบฟางตกหลุมเล่ห์และคล้อยตาม
เนื่องจากเห็นว่าคนรักต้องการนั่งฟังเพลงต่อ ที่ร้านอาหารกึ่งบาร์ เขาบอกอยากทานเหล้า
หล่อนก็นั่งดูเขา สักพักหนึ่งเขายื่นแก้วน้ำส้มคั้นให้หล่อนบอกว่า
“เย็นเจี๊ยบเลย แก้กระหาย พี่อยากเอาใจฟางจ๊ะ ก็ในเมื่อคนดีของพี่อุตส่าห์มาด้วย ตามใจพี่ทุกอย่าง ทำให้พี่มีความสุขทุกข์ครั้งเลย”
หล่อนยิ้มให้กับใบหน้าที่เสแสร้งของเขา ที่อ่านไม่ออก คนตรงหน้าแสดงละครเก่ง แนบเนียน จนไม่รู้สึก สังเกตได้ ไม่รู้ว่านั้นคือพิษสงเบื้องลึกที่ธีรคามต้องการให้หล่อนตกหลุมพรางกับดัก
เมื่อธีรคามลอบยิ้มผ่านสีหน้า มือเรียวของสาวสวยยกก้านแก้วบางของน้ำส้มคั้นจิบลงคออย่างรู้สึกว่ารสชาติดีและสดชื่น
นึกในใจเป็นห่วงเป็นใยเขาเช่นกัน ที่เทกแคร์ดูแลหล่อน
สักพักนั้นเวลาผ่านไป ใบฟางรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวเอง คือจู่นั้นรู้สึกมึนที่ศีรษะอย่างแรง จนบังคับตัวเองไม่ได้
และดูเหมือนสติสัมปชัญญะกำลังจะดับวูบไปในทันที เมื่อร่างของหล่อนล้มพับกับพนักเบาะ
พร้อมใบหน้าที่ยิ้มอย่างสะใจของธีรคาม เมื่อมองเห็นสาวสวยสิ้นฤทธิ์
แผนการชั่วของเขาก็ดำเนินต่อด้วยการกดเบอร์มือถือไป เพราะคนอย่างเขาไม่กล้าเล่นตุกติกหรือเบี้ยวกับเจ้าพ่อใหญ่ทางการพนันที่เงินหนา
ซึ่งเขาจะต้องอาศัยเป็นขุมทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือตัวเองในยามเดือดร้อน เพราะการพนันที่สิงสู่ในใจของเขาจนเลิกไม่ได้นั่นเอง
“เสี่ยครับ เรียบร้อยแล้ว เสี่ยสามารถรับสินค้าที่ดิ้นได้ ชิ้นงามนี้ที่โรงแรม ที่ผมเปิดห้องรอให้แล้ว ตอนนี้เสี่ยอยู่ไหนครับ”
“ฉันเพิ่งขับรถมาถึง”
“งั้น เสี่ยขึ้นไปรอที่ห้อง ชั้นสามได้เลยครับ ที่ห้องสวีท ผมโทร.ไปจองแล้ว อีกสักสิบห้านาที ผมจะไปถึงพร้อมของขวัญที่คุ้มค่ากับเงินของเสี่ยที่เสียไป”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ เรื่องเงินสำหรับฉันมันจิ๊บจ๊อย ถ้านายรู้จักฉันดีนะธีรคาม คงรู้ว่าฉันไม่ชอบลูกไม้ที่เล่นไม่ซื่อ ถ้าคิดจะคบกับฉันยาวนาน อย่าเล่นเหลี่ยม”
ฝ่ายนั้นเอ่ย เสียงตึงขึงขัง
ซึ่งธีรคามรู้ดี
“รู้แล้วน่าเสี่ย สิ่งที่ผมแลกเปลี่ยนและลงทุนไป ผมก็ย่อมอยากได้กำไรติดตัวกลับมา เท่าที่ผมพอใจ และเสี่ยให้ได้ ผมจะได้มีเวลาเอาไปถอนทุนต่อ คิดว่าคราวนี้โชคคงเป็นของผมบ้างล่ะ”
ผีการพนันที่ปางภูไม่อยากจะคิด
เพราะเขาก็คนหนึ่งในจำนวนนั้น ได้มาแล้วก็เสียไป คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงไหวพริบเท่านั้น ที่จะล้มคู่ตรงกันข้ามได้ด้วยไพ่ และฝีมือ
ต้องเป็นระดับชั้นเซียน ซึ่งปางภูถือว่าเขาเก่งกาจในเรื่องนี้คนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้ติดมัน เขาจะมาแค่ครั้งคราวเมื่อตนเองรู้สึกเบื่อ
แต่สำหรับธีรคาม ถ้าให้เขาคาดหน้าหมอนี่ไว้ ห่ามมุทะลุและมักจะโอ้อวดตัวเอง คงไม่พ้นแพ้เช่นเดิม“ส่วนเงิน ฉันจ่ายครั้งเดียวนะ ไม่ต้องทวงซ้ำ”“ขอบคุณครับเสี่ย แค่นี้ก็เป็นบุญของผม”ฮึ นายธีรคามพินอบพิเทาเอาอกเอาใจและเคารพเขาเหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน แต่ปางภูไม่สนใจหรอก เขาไม่สลักใส่ใจในเรื่องนี้“เอาล่ะ พูดถึงเงื่อนไขต่อนะ เสี่ย ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่ผมรักอย่างมาก หมายหวังด้วยว่าอยากจะแต่งงานกับเธอ”เขาแปลกใจที่ธีรคามพูดอย่างนี้ถึงกับยับยั้งชั่งใจตนเอง พร้อมชะงักนี่หมอนี่ คิดจะเล่นตลก หรือไม่ซื่อกับเขาหรือเปล่า อย่างที่บอกคนอย่างธีรคามไว้ใจยากแต่คนอย่างปางภู พร้อมที่จะหว่านเล่ห์เหลี่ยมรอก่อนเพราะรู้อยู่แล้ว ธีรคามแพ้เขาทุกประตู เงินไงที่มันต้องการ ขนาดยกมือกราบกรานเขา มันก็ทำได้ ยังจะพูดด้วยว่า ผู้หญิงคนที่มันคิดจะขายตัว ให้กับเขา นี่ มันจะเอาเป็นเป็นเมียบ้าที่สุด ผู้หญิงคนนี้ก็โง่สิ้นดี ที่ถูกเจ้าธีรคามหลอกลวงความรักแล้วมันยังมีแก่ใจต้องการของเหลือเดนเพื่อรอวันเอากลับคืน ด้วยการหาเงินจำนวนหนึ่งมาชำระ เพราะเขาจ่ายเงินไปแล้ว เขาย่อมต้องการผลประโยชน์ที่ตัวเองควรจะไ
เขายอมซูฮกให้เลยกับพวกคอทองแดง ผู้หญิงก็เป็นอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า หรือว่าเป็นอาชีพลำไพ่พิเศษ ของหนุ่มสาวถังแตกสมัยนี้ด้วยการจับยัดเยียดตัวเองเป็นสินค้า พลีกายอยู่กับกองกาม คงปางภูจงชังรังเกียจนัก และเขาอยากจะเล่นด้วย ด้วยความสนุกและสะใจในอารมณ์วางหล่อนไว้บนเตียงนุ่มแล้วพิจารณาชั่วครู่ด้วยความเสียดาย ก่อนหักใจเดินออกไป ปิดประตูล็อกกลอนสนิท ปางภูออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่เนื้อตัวเปียกชื้นเส้นผมเปียกลู่ นุ่งผ้าขนหนูเดินผ่านเตียงกว้าง ไม่ได้หันมองจ้องสาวสวย ที่ทราบดีว่า ธีรคามจัดส่งตัวหล่อนมาไว้บนเตียงนานพอสมควร เนื่องจากพื้นที่ของห้องนี้กว้าง ก่อนจะทรุดกายนั่งลงขอบเตียง ชำเลืองมองสาวสวยที่นอนคว่ำ ดูจากลักษณะหุ่นของหล่อนแล้วดูสมส่วนแบบ เอวบางร่างน้อย เป็นที่พึงพอใจแก่ปางภู สินค้าที่ธีรคามจัดให้นับว่าไม่เลว หมอนี่เข้าใจความต้องการรสนิยมของเขามากทีเดียวปางภูจะเริ่มทำอะไรก่อนอับดับแรก ทำให้สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าเขา นี่ตื่นขึ้นก่อน เพราะเขาอยากนอนกับผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อหัวใจไม่ใช่ท่อนไม้ เขาไม่ได้กระหายในเรื่องนี้มานานแล้ว จู่มันก็ตงิดมีความต้องการขึ้นมา ธีรคามเป็นคนจุดข้อเส
ซึ่งคราวนี้ใบฟางเริ่มเพ่งมองชายโฉดผู้นี้ ให้ดีอีกครั้ง เพิ่งฉุกใจคิด คลับคล้ายคลับคลาขณะที่หนุ่มหล่อถูกจ้อง เขาก็ชะงักเหมือนกัน“เอ๊ะ คุณนี่เอง อีตาบ้า ฉันจำได้ว่า ฉันเคยเจอคุณที่คอนโดใกล้โรงแรม อ๋อ นี่แปลว่าคุณสะกดรอยตามฉันมา พอสบโอกาสคุณก็ฉกฉวย ตอนที่ฉันไม่รู้สึกตัว คุณมันเป็นผู้ชายทราม คอยดูเถอะจะแจ้งความ”“แจ้งความ” เขาทวนคำของหล่อน เห็นเป็นตลกมากกว่าจึงหัวเราะออกมา ใบฟางไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย หล่อนเครียดและโกรธจัด คงเป็นแผนการของเขาที่มอมมา และทำร้ายหล่อน“คิดถูกหรือคิดผิด ช่วยคิดใหม่ก็ได้นะสาวน้อย เธอมันสมยอมไม่ใช่หรือ ค่าตัวฉันก็จ่ายไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ของย้อมแมวขาย ยังกล้าเล่นตัวอีกนะ หรือว่าฉันให้น้อยไป ไม่คุ้มที่เสีย”ใบฟางอ้าปากค้างเหวอไปเลย หล่อนงง หัวคิ้วขมวดที่ถูกเขาด่าประณาม และดูถูกซึ่งหน้าหล่อนน่ะหรือจะทอดกายให้ผู้ชายเล่นบนเตียงนอน เพราะหล่อนจำเรื่องราวไม่ได้ พยายามลำดับความว่าเกิดอะไรขึ้น“แกต้องมอมยาฉันแน่”จากคำว่าคุณ เปลี่ยนกลายเป็นแกส่วนปางภูไม่กล้าเผยรายละเอียด ว่าเขาจ่ายเงินให้ใคร คิดว่าไม่จำเป็น เขาต้องการเก็บความลับนี้ไว้ เพราะหล่อนชื่อ ใบฟางและใ
เขาถือสิทธิ์อะไรมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหล่อน ใบฟางโกรธจัด แบบมัดมือชกชัดๆ เขาเริ่มออกเสียงข่มขู่ทุกอย่าง คุกคามหล่อนขมวดคิ้วครุ่นคิด นี่หล่อนไปรู้มักมักจี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำตีสนิทหล่อนเสียเนียนสติเท่านั้นที่หล่อนจะเอาตัวรอดได้“ผมไม่ได้พูดเล่นนะ จะนับหนึ่งถึงสิบเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่อาบน้ำ ผมจะจัดการให้คุณเอง หรือคุณอาจจะชอบที่มีคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” “บ้า ฉันจัดการของฉันเองได้”พูดจบก็ลุกตรงไปยังห้องน้ำขณะที่ปางภูทิ้งสายตากรุ้มกริ่มแพรวพราวเหมือนขำแกมยั่วหล่อน ใบฟางสะบัดใบหน้าเบือนไปทางอื่น สักสิบนาทีต่อมา เมื่อหล่อนชำระกายด้วยน้ำเย็นใสสะอาดไหลผ่านฝักบัวก็รู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจย้อนหวนกลับมาเอาสบู่ยี่ห้อไหนในโลกนี้ ชำระขัดล้างมันก็ไม่คืนความบริสุทธิ์กลับมา คราบคาวราคี ที่เหมือนฝังอยู่ในกาย ถึงแม้น้ำตาของหล่อน จะไหลปนกับสายน้ำ ก็ไม่มีอะไรจะช่วยได้ นอกจากความเข้มแข็ง สัญญากับตัวเองว่าจะจัดการผู้ชายคนนี้ให้ถึงที่สุด แต่การกระทำของเขาไม่น่าสักนิด ที่หล่อนจะยินยอมอภัยให้ได้ ใบฟางกัดฟันแน่นเพื่อรอวันเอาคืนให้อย่างสาสม เขาไม่คิดหรือยังไงว่าบ้านเมืองมีขื่อมือแปและข้อหานี้ฉกาจฉกรร
“คุณอย่าพยายามรู้อะไรเลย อย่าถาม เพราะไม่มีคำตอบ”บ้า จู่ๆนี่เขาเป็นอะไรไปเอ่ยขึ้นลอยๆด้วยคำซ่อนปริศนาที่ใบฟางก็เดาไม่ถูก อ๋อ คงกลัวหล่อนแจ้งจับเขานะสิ ในข้อหากักขังเหนี่ยวเหนี่ยวบังคับข่มขืน แล้วสารพัดที่หล่อนจะเรียก และคดีนี้มีโทษสูงอย่างแน่นอน ถึงขั้นอาญาเขาจะจัดการกับหล่อนอย่างไรดี ในเมื่อตกกระไดพลอยโจนมาแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ชื่อใบฟาง จะไม่ใช่แน่ ถ้าหล่อนไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับนายธีรคาม ธีรคามติดหนี้เขาแต่การกระทำเช่นนี้ ด้วยสติสัมปชัญญะความรู้สึกเข้าใจโลกมากพอสมควรแยกแยะตัดสินเองได้ ว่าตัวเองทำผิด แล้วมีอะไรมากกว่าความผิด ถ้าไม่ นอกจากต้องการยั่วเย้ายวนสาวสวย ที่เธอเองก็ถลำตัวไปหาความรัก และคบหากับนายธีรคามถึงขั้นว่าเป็นแฟนมันไม่ใช่ความสะใจใด เพราะเขาไม่มีความสะใจ ไม่มีความอาฆาตแค้น แต่ต้องการดัดหลังผู้ชายอย่างธีรคา เขาไม่รู้ว่าใบฟางสมยอมด้วยหรือเปล่า เขาไม่ควรตัดสินแต่เพียงลำพัง เขาต้องมองดูรอบด้านด้วย แต่เวลานี้รู้สึกตัวว่าตัวเองทำมากเกินไปฉวยสาวสวยเกิดความเข้าใจว่าหล่อนพลั้งและเสียทีให้แก่เขาขณะที่เขาโกหกไปตามเรื่อง เพื่อให้สอดคล้องเป็นการทำให้หล่อนเข้าใจผิดนั่นเอง
“ฉันจะแน่ใจแค่ไหนว่า เธอจะไม่ตลบหลังฉัน อย่างที่บอก เรื่องมันแล้ว แล้วไป หากถ้าเธอคิดว่าเรื่องมันจิ๊บจ๊อย ง่ายมาก เพราะไม่ได้เลือดตกยางออกอะไร เท่าที่ฉันคาดดูเธอคงคิดว่าฉันจะเอาเธอไปขายหรือยังไง”คำที่เขาเอ่ย ทำให้สาวสวยนึกสะดุ้งเพราะหล่อนคิดเช่นนี้แต่ทีแรก คิดไปไกลว่าเขาเป็นพวกแก๊งค์มาเฟีย ค้ามนุษย์ คิดว่าตัวเองไม่แคล้วต้องตกเป็นเหยื่อ คราวนี้คงไม่มีทางรอด กลับไปเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องและญาติอีกแล้วความหวาดกลัวทำให้หล่อนครุ่นคิด และบัดนี้คือคำตอบ ตั้งแต่เลยเที่ยงคืนมาจนถึงป่านนี้ หล่อนไม่ได้รับอันตรายอย่างใดแต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่สูญเสียไปแล้ว ย่อมไม่หวนกลับ แต่เขาก็ไม่ได้คิดชั่วถึงขนาดจะเอาหล่อนไปขายต่อ ใช่สินะหล่อนว่าหน้าตาเขาออกจะดี หล่อเหลา ไม่น่าจะมีจิตใจทรามชั่วช้าเลย เมื่อหล่อนไม่มีทางเลือกหล่อนก็ด่าเขาสะเปะสะปะแต่ถึงอย่างไรการกระทำของเขาก็เกิดขึ้น เขาป้ายแผลมลทินให้หล่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเถอะ ที่เขาไม่ได้ทำร้ายด้วยวิธีการเถื่อนโหดร้ายประเภทชอบความรุนแรง ระงับหักห้ามใจตัวเองไว้ก่อนบทที่ 12เอาตัวเองให้รอด คำนี้ก้องอยู่ในหัวสมอง เห็นท่าทีสงบของเขาแล้วแปลกประหลาดใบฟางมอง
จู่ๆเขาก็พูดตัดบทอีกครั้งแบบง่าย ใบฟางพลิกไม่ทันความรู้สึกของเขา ลำพังแต่ตัวหล่อนสิ จะทำอย่างไร ที่จะหนีให้พ้นจากสภาพนี้ บ้านหลังนี้ท่าทีที่เฉื่อยชาของเขาเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เบนใบหน้าคมเหลือบจ้องมองหล่อน“ผมจะไปส่งคุณที่ซอยแถวบ้าน คุณบอกว่าคุณต้องทำงานไม่ใช่หรือ เวลาจากนั้นผมอยากจะเจอคุณผมจะโทร.ไป ช่วยกรุณาแนะบอกเส้นทางก็ยังดี”เมื่อเขาบอกว่าจะไปส่งแถวบ้าน ใจก็พองโตขึ้นมาทันทีเวลานี้ใบฟางไม่คิดอะไรแล้ว บ้านคือสวรรค์วิมานของหล่อน ขอให้ได้แต่พบหน้าพ่อแม่ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหล่อนจะกล้าเล่าความจริงให้ท่านฟังหรือไม่ ใบฟางค่อยครุ่นคิดพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใจร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวจนหล่อนสิ้นไร้อิสรภาพมากไปกว่านี้ขอบคุณที่เขาเข้าใจว่าหล่อนจะต้องทำงาน และหล่อนมีภาระ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขา ก่อนที่จะเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเดินออกไปข้างนอกพร้อมเขา“นี่บ้านของคุณเองหรือเปล่าคะ”ชายหนุ่มเงยหน้ามองหล่อนนิดหนึ่งก่อนเอ่ยตอบกล่าวเสียงทุ้มแต่กระแสเสียงยังติดความไม่พอใจ“เปล่า เป็นบ้านเพื่อนที่ให้พักอาศัยอยู่ก่อนชั่วคราว”“เพื่อนคุณใจดีน่าดู อุทิศที่นอนที่อาศัยให้
ปางภูรู้สึกว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะการฝึกปรือ บวกกับจินตนาการช่วย ความชื่นชอบจากนักเขียนคนโปรด อ่านงานมากเข้าสิ่งเหล่านี้ซึมเซา เมื่ออ่านแล้วต้องเขียนด้วย ถ้าไม่เขียนก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ต้องมีแรงกระตุ้นอยากจะให้เขียนเรื่องนี้ และมีจุดหมายปลายทาง ทบทวนไปนั้นเขาอยู่กับหล่อนตั้งหลายชั่วโมงมีเวลาให้หล่อนไขว้เขวเข้าใจผิดทึกทักเอาไปว่า หล่อนนั้นเสร็จเขาแล้ว ทำไมปางภูต้องให้หล่อนคิดอย่างนี้ด้วยเป็นเพราะเขาสบายใจนั่นคือคำตอบ ไม่มีอะไรที่สบายใจเท่านี้แล้ว เท่าที่ได้แกล้งหล่อนแล้วเบื้องหลังการแกล้งครั้งนี้เขารู้สึกอย่างไร มันทำให้อารมณ์เพริดและตื่นตะลึงได้อย่างมากทีเดียว เลยมุ่งหน้ากลับที่พักของตนเองอีกครั้งตั้งใจจะหลับยาวเลยล่ะ เพราะเหมือนกับว่าแทบทั้งคืน ที่เขาไม่ได้พักผ่อนใช้เวลาอยู่กับความเงียบและความสงบ พักผ่อนสมองด้วยการนอน ถ้าสมองยุ่งเหน็ดเหนื่อยอย่างนี้ อย่าว่าแต่งานเขียนหรือลงมือแตะคอมพิวเตอร์ก็ไม่อยากทำ สู้นอนดีกว่า เขาไม่ลุกไปไหนหรอก มันเป็นเวลาที่ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากเปิดเพลงเบาสบายกล่อมตัวเองไปจนหลับ พอตื่นขึ้นมาอีกทีค่อยว่ากัน แต่คิดว่าสมองมันโล่งโปร่งแจ่ม
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม