แต่สำหรับธีรคาม ถ้าให้เขาคาดหน้าหมอนี่ไว้ ห่ามมุทะลุและมักจะโอ้อวดตัวเอง
คงไม่พ้นแพ้เช่นเดิม
“ส่วนเงิน ฉันจ่ายครั้งเดียวนะ ไม่ต้องทวงซ้ำ”
“ขอบคุณครับเสี่ย แค่นี้ก็เป็นบุญของผม”
ฮึ นายธีรคามพินอบพิเทาเอาอกเอาใจและเคารพเขาเหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน แต่ปางภูไม่สนใจหรอก เขาไม่สลักใส่ใจในเรื่องนี้
“เอาล่ะ พูดถึงเงื่อนไขต่อนะ เสี่ย ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่ผมรักอย่างมาก หมายหวังด้วยว่าอยากจะแต่งงานกับเธอ”
เขาแปลกใจที่ธีรคามพูดอย่างนี้
ถึงกับยับยั้งชั่งใจตนเอง พร้อมชะงัก
นี่หมอนี่ คิดจะเล่นตลก หรือไม่ซื่อกับเขาหรือเปล่า
อย่างที่บอกคนอย่างธีรคามไว้ใจยาก
แต่คนอย่างปางภู พร้อมที่จะหว่านเล่ห์เหลี่ยมรอก่อน
เพราะรู้อยู่แล้ว ธีรคามแพ้เขาทุกประตู
เงินไงที่มันต้องการ ขนาดยกมือกราบกรานเขา มันก็ทำได้ ยังจะพูดด้วยว่า ผู้หญิงคนที่มันคิดจะขายตัว ให้กับเขา นี่
มันจะเอาเป็นเป็นเมีย
บ้าที่สุด ผู้หญิงคนนี้ก็โง่สิ้นดี ที่ถูกเจ้าธีรคามหลอกลวงความรัก
แล้วมันยังมีแก่ใจต้องการของเหลือเดน
เพื่อรอวันเอากลับคืน ด้วยการหาเงินจำนวนหนึ่งมาชำระ เพราะเขาจ่ายเงินไปแล้ว เขาย่อมต้องการผลประโยชน์ที่ตัวเองควรจะได้
“ฉันจ่ายนายไปแล้ว มันมากไปด้วย ไม่คิดบ้างหรือไง ว่าพ่อค้าที่ได้หว่านเทเงินลงไป ย่อมต้องการผลประโยชน์และการบริการที่คุ้มค่า ผู้หญิงของนาย ใช่ ฉันยอมรับ ถ้าเป็นของฉันแล้ว จะไม่ถูกเรียกว่าเมีย ผู้หญิงที่ใจง่ายประเภทนี้นะฉันก็ถือว่า ของเล่น ฮึ แล้วนี่หมายความว่า นายคิดจะมาเอาคืนทีหลัง นั่นมันเดนฉันนะไอ้ธีรคาม เฮอะ หรือว่าจะเป็นแบบเมียขายฝากแบบธนาคารใช้ คือขายเอาไปใช้หนี้ก่อน พอมีเงินทีหลัง ฝากเอาไว้แล้วพอล่ำสัน มีเงินซักพัก ก็มาไถ่ตัวคืน แบบนี้หรือเปล่าวิธีของนาย ธีรคาม”
“ถูกแล้วเสี่ย ผมว่า เสี่ยฉลาด มองไกลจริงๆ ใช่ ผมต้องการขาย แบบขายฝากก็เพื่อที่ตนเองเอาเงินมาคืนชำระให้เสี่ย แล้วผมกลับมามีสิทธิ์เป็นกรรมสิทธิ์เหมือนเดิมได้ เพราะผมก็ต้องการเป็นเจ้าของ แต่ผมก็เดือดร้อน เพราะมีเรื่องจำเป็น ถ้าไม่ร้อนหนี้ร้อนสิน ร้อนการพนันในตัว ผมคงไม่ทำบ้าๆแบบนี้หรอกเสี่ย ตอนนี้ผมมันถังแตกแล้วจริงๆ ก็เลยต้องทำอย่างนี้ เสี่ยก็คงจะเข้าใจ”
“ฉันไม่เข้าใจการกระทำของนายหรอก รู้แต่เพียงอย่างเดียวว่า ไอ้รสชาติการพนัน มันทำให้คนฉิบหายวายวอดมาแล้วทั้งนั้น ฉันจะเตือนนายนะ ถ้าคิดจะถลำลึกไม่เลิก แต่ถ้าคิดว่านายรอด ก็ต้องฝึกปรือฝีมือมากกว่าเดิม ถึงจะโค่นเซียนพวกนั้น อย่าสะเปะสะปะหลงระเริงกับมันมากเลย ธีรคาม ในฐานะเพื่อน ที่ฉันไม่อยากจะมีเพื่อนอย่างนาย จึงขอเตือนด้วยความหวังดี ส่วนนายจะรับไปพิจารณาหรือเปล่า”
“ขอบคุณเสี่ยที่เตือนผม”
ดูเหมือนมันพยักหน้ารับเข้าใจ
แต่ไม่ทำตาม ก็ช่างหัวมัน
ฮึนึกถึงผู้หญิงที่มันบอกว่ารักมากที่สุด ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน เธอต้องสังเวยตัวเองด้วยความมักง่ายเพราะความใคร่
ที่ธีรคามได้ขุดหลุมดักไว้จนสำเร็จ ฮึ นี่มันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน เป็นมนุษย์ย่อมรู้จักผิดชอบชั่วดี และรู้ว่ากำลังกระทำอะไรลงไป
แต่นี่จิตใจของธีรคามเหมือนมืดบอด ไม่ได้มืดบอดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่บอดสนิท
ในยามนี้ ที่เขาต้องการผู้หญิงมาบำเรอกามเพื่อปลดเปลื้อง
และเนื้อสดชิ้นนี้ เขาไม่รู้ว่าดีแค่ไหน เพราะไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ด้วยตัว
ชื่อเสียงเรียงนามของหล่อนอีกต่างหาก อยากจะรู้เหมือนกันว่าหล่อนเป็นใครกันแน่
ที่ชายสุดที่รักใจชั่วของหล่อน สามารถทำกับหล่อนได้อย่างนี้ หล่อนคงหลงรักธีรคามอย่างหัวปักหัวปำ ถึงยอม
เขาพยายามคิดในแง่ที่ไม่ดี อาจจะเป็นผู้หญิงย้อมแมว
ที่ธีรคามโกหกและตลบหลังเขา แต่ถ้ามันทำอย่างนี้แสดงว่ามันต้องได้รับบทเรียนจากเขาเป็นแน่
เขาไม่ต้องการของที่ซ้ำ กากเดนของใคร
“เอาล่ะ ฉันขึ้นมาถึงพอดี อาจจะขออาบน้ำให้ชุ่มฉ่ำสบายตัวก่อน นายคิดว่ากี่นาทีมาถึง”
“ประมาณยี่สิบนาทีครับเพราะใกล้ถึง”
“งั้นรึ ก็ถือว่าดีมาก นายจัดการเอาไว้ที่เตียงก่อน เพราะตอนนี้ฉันกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนนี้ผู้หญิงเป็นยังไงบ้าง”
“นอนสลบอยู่ครับ”คำตอบของมัน
ทำให้เขาทวนคำตาม
“สลบอยู่น่ะหรือ เป็นอะไรไปล่ะ”
“ผมจัดการให้เสี่ยแล้ว เสี่ยอย่าพูดอะไรมากเลย ทั้งที่เสี่ยก็น่าจะรู้ดี ว่าวิธีที่ผมจัดการกับผู้หญิง ที่สามารถเอาประเคนเสี่ยถึงเตียงนอนได้ ด้วยวิธีนี้วิธีเดียว”
“นายนี่มันชั่วจริงๆ ธีรคาม พลอยทำให้ฉันชั่วไปด้วย”
“หยวนๆน่าเสี่ย ไหนจะลงมาตกนรกด้วยกัน ผมอยากจะดึงมือเสี่ยลงมาด้วย”
“ไอ้บ้า นึกหรือว่าฉันจะยอมตกลงนรกง่ายๆ ฉันจะต้องขึ้นสวรรค์อย่างเดียวเท่านั้น”
“ครับ เสี่ย ขึ้นสวรรค์ ผมลงนรก ขอให้เสี่ยโชคดี พอเสร็จสรรพตามเงื่อนไขแล้ว ผมก็จะเอาของผมคืน เสี่ยต้องการใช้บริการจากผมนานแค่ไหน”
“ฉันขอสามเดือน อาจจะเลื่อนไปก็ได้ ถ้าฉันไม่พอใจ หรือว่าผู้หญิงที่นายพามาทำให้ฉันหมดอารมณ์”
“น้อยๆหน่อยน่า เสี่ย แค่สามเดือนก็เกินไป”
“งั้นนาย ก็ต้องเอาเงินมาคืนฉันให้ได้สิ ข้อตกลงใหม่ที่ฉันจะจ่าย ให้สามแสนอย่างที่นายเรียกร้อง แต่ทั้งนี้ต้องให้ฉันโอเค ขอให้ฉันได้เห็นหน้าเห็นลีลา ท่าทางของเจ้าหล่อนก่อน ฉันจะตกลงรับปาก
“ผมว่าเสี่ยจะต้องชอบครับ เพราะว่าสวยไม่มีที่ติ ข้อที่สำคัญเป็นแฟนของผม”
ปางภูอยากจะหัวเราะให้ฟันโยก
“แฟนของนาย” ฮึ สำหรับผู้หญิงขายฝากของมัน ที่คิดจับยัดเยียดบำเรอกามให้ผู้ชายอื่น
แต่ไหนแต่ไร ไม่ชอบมัน แต่เวลานี้นึกประชดตัวเอง
ปางภูนั่งรินแก้วเบียร์ให้แก่ตัวเอง จึงเป็นภาพที่หาได้ยากนัก ยังไม่หมดขวด ก็รู้สึกว่าตัวเองจะเมาแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าเขาไม่ถูกกับรสชาติขมปร่าของแอลกอฮอล์พวกนี้
เขายอมซูฮกให้เลยกับพวกคอทองแดง ผู้หญิงก็เป็นอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า หรือว่าเป็นอาชีพลำไพ่พิเศษ ของหนุ่มสาวถังแตกสมัยนี้ด้วยการจับยัดเยียดตัวเองเป็นสินค้า พลีกายอยู่กับกองกาม คงปางภูจงชังรังเกียจนัก และเขาอยากจะเล่นด้วย ด้วยความสนุกและสะใจในอารมณ์วางหล่อนไว้บนเตียงนุ่มแล้วพิจารณาชั่วครู่ด้วยความเสียดาย ก่อนหักใจเดินออกไป ปิดประตูล็อกกลอนสนิท ปางภูออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่เนื้อตัวเปียกชื้นเส้นผมเปียกลู่ นุ่งผ้าขนหนูเดินผ่านเตียงกว้าง ไม่ได้หันมองจ้องสาวสวย ที่ทราบดีว่า ธีรคามจัดส่งตัวหล่อนมาไว้บนเตียงนานพอสมควร เนื่องจากพื้นที่ของห้องนี้กว้าง ก่อนจะทรุดกายนั่งลงขอบเตียง ชำเลืองมองสาวสวยที่นอนคว่ำ ดูจากลักษณะหุ่นของหล่อนแล้วดูสมส่วนแบบ เอวบางร่างน้อย เป็นที่พึงพอใจแก่ปางภู สินค้าที่ธีรคามจัดให้นับว่าไม่เลว หมอนี่เข้าใจความต้องการรสนิยมของเขามากทีเดียวปางภูจะเริ่มทำอะไรก่อนอับดับแรก ทำให้สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าเขา นี่ตื่นขึ้นก่อน เพราะเขาอยากนอนกับผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อหัวใจไม่ใช่ท่อนไม้ เขาไม่ได้กระหายในเรื่องนี้มานานแล้ว จู่มันก็ตงิดมีความต้องการขึ้นมา ธีรคามเป็นคนจุดข้อเส
ซึ่งคราวนี้ใบฟางเริ่มเพ่งมองชายโฉดผู้นี้ ให้ดีอีกครั้ง เพิ่งฉุกใจคิด คลับคล้ายคลับคลาขณะที่หนุ่มหล่อถูกจ้อง เขาก็ชะงักเหมือนกัน“เอ๊ะ คุณนี่เอง อีตาบ้า ฉันจำได้ว่า ฉันเคยเจอคุณที่คอนโดใกล้โรงแรม อ๋อ นี่แปลว่าคุณสะกดรอยตามฉันมา พอสบโอกาสคุณก็ฉกฉวย ตอนที่ฉันไม่รู้สึกตัว คุณมันเป็นผู้ชายทราม คอยดูเถอะจะแจ้งความ”“แจ้งความ” เขาทวนคำของหล่อน เห็นเป็นตลกมากกว่าจึงหัวเราะออกมา ใบฟางไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย หล่อนเครียดและโกรธจัด คงเป็นแผนการของเขาที่มอมมา และทำร้ายหล่อน“คิดถูกหรือคิดผิด ช่วยคิดใหม่ก็ได้นะสาวน้อย เธอมันสมยอมไม่ใช่หรือ ค่าตัวฉันก็จ่ายไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ของย้อมแมวขาย ยังกล้าเล่นตัวอีกนะ หรือว่าฉันให้น้อยไป ไม่คุ้มที่เสีย”ใบฟางอ้าปากค้างเหวอไปเลย หล่อนงง หัวคิ้วขมวดที่ถูกเขาด่าประณาม และดูถูกซึ่งหน้าหล่อนน่ะหรือจะทอดกายให้ผู้ชายเล่นบนเตียงนอน เพราะหล่อนจำเรื่องราวไม่ได้ พยายามลำดับความว่าเกิดอะไรขึ้น“แกต้องมอมยาฉันแน่”จากคำว่าคุณ เปลี่ยนกลายเป็นแกส่วนปางภูไม่กล้าเผยรายละเอียด ว่าเขาจ่ายเงินให้ใคร คิดว่าไม่จำเป็น เขาต้องการเก็บความลับนี้ไว้ เพราะหล่อนชื่อ ใบฟางและใ
เขาถือสิทธิ์อะไรมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหล่อน ใบฟางโกรธจัด แบบมัดมือชกชัดๆ เขาเริ่มออกเสียงข่มขู่ทุกอย่าง คุกคามหล่อนขมวดคิ้วครุ่นคิด นี่หล่อนไปรู้มักมักจี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำตีสนิทหล่อนเสียเนียนสติเท่านั้นที่หล่อนจะเอาตัวรอดได้“ผมไม่ได้พูดเล่นนะ จะนับหนึ่งถึงสิบเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่อาบน้ำ ผมจะจัดการให้คุณเอง หรือคุณอาจจะชอบที่มีคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” “บ้า ฉันจัดการของฉันเองได้”พูดจบก็ลุกตรงไปยังห้องน้ำขณะที่ปางภูทิ้งสายตากรุ้มกริ่มแพรวพราวเหมือนขำแกมยั่วหล่อน ใบฟางสะบัดใบหน้าเบือนไปทางอื่น สักสิบนาทีต่อมา เมื่อหล่อนชำระกายด้วยน้ำเย็นใสสะอาดไหลผ่านฝักบัวก็รู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจย้อนหวนกลับมาเอาสบู่ยี่ห้อไหนในโลกนี้ ชำระขัดล้างมันก็ไม่คืนความบริสุทธิ์กลับมา คราบคาวราคี ที่เหมือนฝังอยู่ในกาย ถึงแม้น้ำตาของหล่อน จะไหลปนกับสายน้ำ ก็ไม่มีอะไรจะช่วยได้ นอกจากความเข้มแข็ง สัญญากับตัวเองว่าจะจัดการผู้ชายคนนี้ให้ถึงที่สุด แต่การกระทำของเขาไม่น่าสักนิด ที่หล่อนจะยินยอมอภัยให้ได้ ใบฟางกัดฟันแน่นเพื่อรอวันเอาคืนให้อย่างสาสม เขาไม่คิดหรือยังไงว่าบ้านเมืองมีขื่อมือแปและข้อหานี้ฉกาจฉกรร
“คุณอย่าพยายามรู้อะไรเลย อย่าถาม เพราะไม่มีคำตอบ”บ้า จู่ๆนี่เขาเป็นอะไรไปเอ่ยขึ้นลอยๆด้วยคำซ่อนปริศนาที่ใบฟางก็เดาไม่ถูก อ๋อ คงกลัวหล่อนแจ้งจับเขานะสิ ในข้อหากักขังเหนี่ยวเหนี่ยวบังคับข่มขืน แล้วสารพัดที่หล่อนจะเรียก และคดีนี้มีโทษสูงอย่างแน่นอน ถึงขั้นอาญาเขาจะจัดการกับหล่อนอย่างไรดี ในเมื่อตกกระไดพลอยโจนมาแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ชื่อใบฟาง จะไม่ใช่แน่ ถ้าหล่อนไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับนายธีรคาม ธีรคามติดหนี้เขาแต่การกระทำเช่นนี้ ด้วยสติสัมปชัญญะความรู้สึกเข้าใจโลกมากพอสมควรแยกแยะตัดสินเองได้ ว่าตัวเองทำผิด แล้วมีอะไรมากกว่าความผิด ถ้าไม่ นอกจากต้องการยั่วเย้ายวนสาวสวย ที่เธอเองก็ถลำตัวไปหาความรัก และคบหากับนายธีรคามถึงขั้นว่าเป็นแฟนมันไม่ใช่ความสะใจใด เพราะเขาไม่มีความสะใจ ไม่มีความอาฆาตแค้น แต่ต้องการดัดหลังผู้ชายอย่างธีรคา เขาไม่รู้ว่าใบฟางสมยอมด้วยหรือเปล่า เขาไม่ควรตัดสินแต่เพียงลำพัง เขาต้องมองดูรอบด้านด้วย แต่เวลานี้รู้สึกตัวว่าตัวเองทำมากเกินไปฉวยสาวสวยเกิดความเข้าใจว่าหล่อนพลั้งและเสียทีให้แก่เขาขณะที่เขาโกหกไปตามเรื่อง เพื่อให้สอดคล้องเป็นการทำให้หล่อนเข้าใจผิดนั่นเอง
“ฉันจะแน่ใจแค่ไหนว่า เธอจะไม่ตลบหลังฉัน อย่างที่บอก เรื่องมันแล้ว แล้วไป หากถ้าเธอคิดว่าเรื่องมันจิ๊บจ๊อย ง่ายมาก เพราะไม่ได้เลือดตกยางออกอะไร เท่าที่ฉันคาดดูเธอคงคิดว่าฉันจะเอาเธอไปขายหรือยังไง”คำที่เขาเอ่ย ทำให้สาวสวยนึกสะดุ้งเพราะหล่อนคิดเช่นนี้แต่ทีแรก คิดไปไกลว่าเขาเป็นพวกแก๊งค์มาเฟีย ค้ามนุษย์ คิดว่าตัวเองไม่แคล้วต้องตกเป็นเหยื่อ คราวนี้คงไม่มีทางรอด กลับไปเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องและญาติอีกแล้วความหวาดกลัวทำให้หล่อนครุ่นคิด และบัดนี้คือคำตอบ ตั้งแต่เลยเที่ยงคืนมาจนถึงป่านนี้ หล่อนไม่ได้รับอันตรายอย่างใดแต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่สูญเสียไปแล้ว ย่อมไม่หวนกลับ แต่เขาก็ไม่ได้คิดชั่วถึงขนาดจะเอาหล่อนไปขายต่อ ใช่สินะหล่อนว่าหน้าตาเขาออกจะดี หล่อเหลา ไม่น่าจะมีจิตใจทรามชั่วช้าเลย เมื่อหล่อนไม่มีทางเลือกหล่อนก็ด่าเขาสะเปะสะปะแต่ถึงอย่างไรการกระทำของเขาก็เกิดขึ้น เขาป้ายแผลมลทินให้หล่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเถอะ ที่เขาไม่ได้ทำร้ายด้วยวิธีการเถื่อนโหดร้ายประเภทชอบความรุนแรง ระงับหักห้ามใจตัวเองไว้ก่อนบทที่ 12เอาตัวเองให้รอด คำนี้ก้องอยู่ในหัวสมอง เห็นท่าทีสงบของเขาแล้วแปลกประหลาดใบฟางมอง
จู่ๆเขาก็พูดตัดบทอีกครั้งแบบง่าย ใบฟางพลิกไม่ทันความรู้สึกของเขา ลำพังแต่ตัวหล่อนสิ จะทำอย่างไร ที่จะหนีให้พ้นจากสภาพนี้ บ้านหลังนี้ท่าทีที่เฉื่อยชาของเขาเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เบนใบหน้าคมเหลือบจ้องมองหล่อน“ผมจะไปส่งคุณที่ซอยแถวบ้าน คุณบอกว่าคุณต้องทำงานไม่ใช่หรือ เวลาจากนั้นผมอยากจะเจอคุณผมจะโทร.ไป ช่วยกรุณาแนะบอกเส้นทางก็ยังดี”เมื่อเขาบอกว่าจะไปส่งแถวบ้าน ใจก็พองโตขึ้นมาทันทีเวลานี้ใบฟางไม่คิดอะไรแล้ว บ้านคือสวรรค์วิมานของหล่อน ขอให้ได้แต่พบหน้าพ่อแม่ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหล่อนจะกล้าเล่าความจริงให้ท่านฟังหรือไม่ ใบฟางค่อยครุ่นคิดพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใจร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวจนหล่อนสิ้นไร้อิสรภาพมากไปกว่านี้ขอบคุณที่เขาเข้าใจว่าหล่อนจะต้องทำงาน และหล่อนมีภาระ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขา ก่อนที่จะเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเดินออกไปข้างนอกพร้อมเขา“นี่บ้านของคุณเองหรือเปล่าคะ”ชายหนุ่มเงยหน้ามองหล่อนนิดหนึ่งก่อนเอ่ยตอบกล่าวเสียงทุ้มแต่กระแสเสียงยังติดความไม่พอใจ“เปล่า เป็นบ้านเพื่อนที่ให้พักอาศัยอยู่ก่อนชั่วคราว”“เพื่อนคุณใจดีน่าดู อุทิศที่นอนที่อาศัยให้
ปางภูรู้สึกว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะการฝึกปรือ บวกกับจินตนาการช่วย ความชื่นชอบจากนักเขียนคนโปรด อ่านงานมากเข้าสิ่งเหล่านี้ซึมเซา เมื่ออ่านแล้วต้องเขียนด้วย ถ้าไม่เขียนก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ต้องมีแรงกระตุ้นอยากจะให้เขียนเรื่องนี้ และมีจุดหมายปลายทาง ทบทวนไปนั้นเขาอยู่กับหล่อนตั้งหลายชั่วโมงมีเวลาให้หล่อนไขว้เขวเข้าใจผิดทึกทักเอาไปว่า หล่อนนั้นเสร็จเขาแล้ว ทำไมปางภูต้องให้หล่อนคิดอย่างนี้ด้วยเป็นเพราะเขาสบายใจนั่นคือคำตอบ ไม่มีอะไรที่สบายใจเท่านี้แล้ว เท่าที่ได้แกล้งหล่อนแล้วเบื้องหลังการแกล้งครั้งนี้เขารู้สึกอย่างไร มันทำให้อารมณ์เพริดและตื่นตะลึงได้อย่างมากทีเดียว เลยมุ่งหน้ากลับที่พักของตนเองอีกครั้งตั้งใจจะหลับยาวเลยล่ะ เพราะเหมือนกับว่าแทบทั้งคืน ที่เขาไม่ได้พักผ่อนใช้เวลาอยู่กับความเงียบและความสงบ พักผ่อนสมองด้วยการนอน ถ้าสมองยุ่งเหน็ดเหนื่อยอย่างนี้ อย่าว่าแต่งานเขียนหรือลงมือแตะคอมพิวเตอร์ก็ไม่อยากทำ สู้นอนดีกว่า เขาไม่ลุกไปไหนหรอก มันเป็นเวลาที่ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากเปิดเพลงเบาสบายกล่อมตัวเองไปจนหลับ พอตื่นขึ้นมาอีกทีค่อยว่ากัน แต่คิดว่าสมองมันโล่งโปร่งแจ่ม
แม้น้ำจะชำระล้างสิ่งสกปรกหมดผ่านไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ชำระล้างคราบคาวไม่ได้คือมลทิน พรหมจารีที่หมองหม่นมีสีที่ไม่บริสุทธิ์เจือปนในกายสาว หล่อนได้แต่รู้สึกเดือดดาลใจด้วยความคั่งแค้น อย่างไม่รู้ที่จะเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากอารมณ์นี้ กำหมัดแน่น น้ำตาไหลปนลงมากับน้ำฝักบัว แต่สาวสวยก็กำมือแค้นอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นสาวออฟฟิศเช่นเดิม ก็ทำให้หล่อนดูดีขึ้น เพียงแค่เครื่องสำอางกลบใบหน้าเอาไว้เท่านั้นแต่ถึงอย่างไรหล่อนก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดชื่นขึ้นมามากกว่าเดิม ใบฟางคิดอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลที่หล่อนจะไม่ไปทำงาน เพราะหล่อนจะต้องทำงานเหมือนเช่นทุกวันว่าจะไม่คิดแล้วเชียว ไปทำงานเพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์และความรู้สึก เพื่อจะได้ลืมๆเสีย แต่ก็ยังติดค้างเป็นตะกอนในใจมันลืม มันเลิกคิดได้ง่ายเสียที่ไหน หทัยเพื่อนสาวที่ทำงานด้วยกันก็แทบจะไม่รู้ ว่าเธอแบกความขมขื่นไว้ในใจ ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นกับเพื่อนร่วมงานทุกคนหรือแม้แต่ลูกค้า หล่อนก็ตอบด้วยสีหน้าปกติ ที่พยายามบังคับความร่าเริงออกมาเต็มที่ และหล่อนก็ทำตัวเองได้รอดไปจนถึงครึ่งวันเลยทีเดียว และช่วงบ่ายโมงนั้น คนที่พาตัวเอง
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม