“แม่พรไปดูหนูไวน์สิ ส่วนพวกหล่อนตักข้าวให้ฉันได้แล้ว” นางสั่งให้คนสนิทของตนให้ตามหญิงสาวไป พร้อมสั่งให้เด็กรับใช้คนอื่นตักข้าวแทน พรก็รีบทำตามคำสั่งนายท่านของตนทันที “แปลก กับข้าวบนโต๊ะแม่สะอางทำอร่อยทุกอย่าง หอมๆ ทั้งนั้น หนูไวน์บอกว่าเหม็นได้ยังไง” มนัสวินเอ่ยพลางก้มลงไปสูดดมกลิ่นอาหารตรงหน้าตนก็หอมๆ ทั้งนั้น “นั่นสิ แม่ทำเองกับมือเลยนะ ก็ทำเหมือนทุกวัน กลิ่นหอมออกปานนี้ เอ๊ะ! แต่อาการแบบนี้ เหม็นอาหารมันเหมือนคนท้องเลยนะพ่อวิน หรือว่าหนูไวน์ท้อง” เมื่อนึกถึงอาการที่เด็กสาวเป็นแล้วมันชัดเจนเลย อาการแบบนี้แพ้ท้องแน่นอน นางรู้ดี เพราะสมัยตั้งครรภ์มนัสวินก็เหม็นอาหารแบบนี้ ทานอะไรไม่ได้ตั้งสามเดือน “ไม่ใช่หรอกมั้งแม่สะอาง ผมว่าไม่ได้ท้องหรอก หนูไวน์คงเพลียน่ะครับ เดินทางมาตั้งไกลนะครับ อย่าลืมสิ” “ถ้าเพลียไม่เหม็นอาหารหรอกพ่อวิน แม่ว่าหนูไวน์ต้องท้องแน่นอน รีบกินข้าวกันเถอะ กินเสร็จแม่จะให้เด็กชงยาหอมให้หนูไวน์แล้วซักถามหนูไวน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ และแม่จะถามด้วยว่าท้องจริงไหม แม่ไม่อยากอยู่กับความสงสัยหรอกนะพ่อวิน” “ครับผม งั้นคุณแม่ทานปลาราดพริกนะครับ”
พลั่ก! ทันทีที่เดินพ้นหัวบันไดเรือนขึ้นมาก็โดนหมัดหนักๆ ของคนเป็นพ่อกระแทกใส่หน้าทันที จนเขาเกือบหงายหลังตกบันได แต่โชคดีที่จับราวบันไดไว้ได้ทัน โอ๊ย! “พ่อมาต่อยผมทำไมเนี่ย ผมพลัดตกบันไดขึ้นมาจะทำยังไง” “ดี ให้มันตายไปไอ้ลูกชั่ว! ไอ้ลูกเวร! กูเคยสั่งเคยสอนให้มึงทำตัวไร้ความรับผิดชอบเหรอไอ้มาร์ค” น้ำเสียงแหบแห้งเปล่งลอดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด “ดะ...เดี๋ยวก่อนนะครับ พ่อโกรธอะไรผม ผมทำอะไรอีกครับ” เขายกมือขึ้นห้ามกำปั้นของคนเป็นพ่อที่ตั้งท่าจะต่อยซ้ำอีกครั้ง “มึงยังไม่รู้อีกเหรอว่ากูต่อยมึงทำไมไอ้มาร์ค มึงคิดให้ดีซิว่าพ่อต่อยมึงทำไมไอ้ลูกหมา! พลั่ก!” แล้วมนัสวินก็กระแทกหมัดไปอีกครั้ง โอ๊ย! “พ่อโกรธอะไรผมเนี่ย แล้วเนี่ยต่อยผมทำไม ผมจะบอกคุณย่า” เขายกคุณย่าขึ้นมาขู่พ่อของตน “เออ! ไปฟ้องเลย ครั้งนี้คุณย่าให้กูจัดการมึงได้ตามใจ พรุ่งนี้ไปจดทะเบียนสมรสกับหนูไวน์ซะ แล้วงานแต่งงานของมึงกับหนูไวน์ กูกับคุณย่าจะจัดให้มึงและหนูไวน์เร็วที่สุด ก่อนที่หลานกูจะเกิด” คำสั่งเฉียบขาดของพ่อทำให้เขาเดือดดาลไม่แพ้กัน “ยัยนั่นบอกเหรอครับว
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูหน้าห้องดังขึ้นรัวๆ จนเธอต้องรีบลุกมาเปิดประตูห้อง “สมใจแล้วใช่ไหม ที่ทำให้ฉันจดทะเบียนสมรสกับเธอได้ไวน์” น้ำเสียงห้วนแข็งกระด้างกระแทกใส่หน้าทันทีเมื่อประตูเปิดกว้างออก “หน้าพี่มาร์คไปโดนอะไรมาคะ” เธอไม่ตอบแต่ยื่นมือหมายจะจับแก้มที่แตกช้ำของเขา “เสือก! อย่ามายุ่ง” เขาปัดมือเธอออกแล้วก็พูดต่ออีก... “จำไว้...ให้ตายพี่ก็ไม่รักเธอไวน์ ถึงจะให้พ่อกับคุณย่าบังคับพี่ได้ พี่ก็ไม่เหลียวแลเธอ จำไว้ว่าพี่เกลียดเธอ พี่รักแค่แพรคนเดียว” พูดจบเขาก็เดินไปหน้าห้องตัวเองบิดลูกบิดประตูกระชากแรงๆ เปิดออกทันที ปัง! เสียงกระแทกประตูห้องข้างๆ ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย เธอปิดประตูห้องนอนของตัวเองแล้วเดินไปทิ้ง
มโนภฤศเม้มปากแน่นตลอดการขับรถมายังอำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรสตามคำสั่งของพ่อและคุณย่า เขาไม่แม้แต่จะปริปากพูดกับคนที่นั่งมาด้วย และเธอเองก็เงียบไม่พูดไม่จาเช่นกัน จนตอนนี้มานั่งอยู่หน้าเจ้าหน้าที่ที่จะทำการจดทะเบียนสมรสให้เขาและเธอ “สวัสดีครับคุณมาร์ค” เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยทักทายเพราะรู้จักชายหนุ่มดี “อือ...หวัดดี” เขาตอบห้วนแล้วมองไปยังคนที่นั่งหน้านิ่งข้างๆ ตนก็ยิ่งหงุดหงิดอารมณ์ “มาทำอะไรวันนี้” “จดทะเบียนสมรส” เขาตอบสั้นๆ ห้วนๆ และคำตอบก็เล่นเอาคนฟังตกใจ เพราะคนที่มาด้วยไม่ใช่แพรไหม แฟนสาวที่คบไปไหนมาไหนด้วยกัน “ครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มตอบรับรู้สั้นๆ พร้อมเตรียมเอกสารทุกอย่างมาให้ทั้งสองได้เซ็นและไม่ลืมบอกชายหนุ่มให้ยิ้ม “ยิ้มหน่อยสิคุณมาร์ค ทำหน้าเหมือนโดนบังคับงั้นแหละ”&
มโนภฤศต้องแบ่งพื้นที่ห้องและเตียงนอนที่ตนเคยนอนกับแฟนสาวให้กับวรนิษฐ์ ตอนนี้หล่อนย้ายมาอยู่ห้องเขาแล้ว และคนที่สั่งก็คือคุณย่านั่นเอง ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์ ไม่อยากเชื่อว่าหลังจากคืนนั้นไม่นาน แค่เดือนเดียวหล่อนจะตั้งท้องทันที เขาพลาด...พลาดที่ไม่ได้ป้องกันและปล่อยตัวไปกับรสสวาทคืนนั้น “สมใจแล้วสินะ ที่ได้เป็นเมียฉัน แต่ฝันไปเถอะ เธอจะเป็นได้แค่เมียกอดทะเบียนสมรสเท่านั้นแหละ เพราะฉันจะไม่แตะต้องเธอไวน์” เขาบอกเธอเมื่อเธออาบน้ำออกมาจากห้องน้ำ แม้จะเห็นว่าหล่อนไม่ได้สวมชุดชั้นใน เพราะชุดนอนตัวบางนั้นเวลาโดนแสงไฟก็มองทะลุเข้าไปข้างในเห็นเรือนร่างสวยงามที่เคยสัมผัสทาบทับ “ค่ะ สมใจแล้วตอนนี้ และไวน์จะทำให้พี่มาร์ครักไวน์ให้ได้ พี่มาร์คจะต้องไม่รักใครนอกจากไวน์” เธอตอบสวนกลับ หึ! “ไม่มีวันนั้นหรอก เพราะคนเดียวที่ฉันรักคือแพร” เขาตอบกลับอย่างมั่นใจ
อือ มือเล็กปัดมือใหญ่ออกจากไหล่ตัวเองขยับตัวห่างไปอีกไม่ยอมตื่น ด้วยความอ่อนเพลียจากการแพ้ท้องเลยทำให้เธอหลับง่ายเพียงแค่หัวถึงหมอนก็หลับได้แล้วสำหรับว่าที่คุณแม่อย่างวรนิษฐ์ “ไวน์” เขายังคงตามไปแตะหัวไหล่เล็กในความมืดสลัวเขย่าปลุกและขยับตัวไปเบียดแผ่นหนังเธอพร้อมกับสอดมือใหญ่ไปใต้ร่างเธอแล้วยกรั้งเธอเข้าหาตัวเอง “อือ...มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้นะคะพี่มาร์ค อือ...” เธอแกะมือที่กอดรัดหน้าท้องตัวเองออกแล้วจะขยับตัวห่างอีก แต่เขาก็กอดรั้งเข้าหาอีกพร้อมกับหน้าของเขาเคลื่อนมาเกยหัวไหล่เล็กของเธอพร้อมกัดเม้มติ่งหูของเธอ “อือ...ไม่ได้ เธอจะนอนไม่ได้ ไหนๆ เธอก็เป็นเมียแล้วไม่ใช่เหรอ ขอหน่อยสิ” เขาบอกเสียงซ่านกระเส่าราวกระซิบข้างหูเธอแล้วเริ่มรุกเร้าปลุกเร้าเจ้าหล่อนให้ตื่นมาตอบสนองตนเอง “อ่ะ...อื้อ ไ
“อ่า...แน่นเป็นบ้า ยังแน่นเหมือนครั้งแรกไม่มีเปลี่ยน อูว์...อ่า” พั่บ! พั่บ! พั่บ! ความคับแน่นของภายในสาวทำให้เขาเคลื่อนไหวโยกเร่าบดเอวสอบกระแทกจ้วงลึกหนักหน่วง สองมือใหญ่กอบกุมสองเต้าที่แอ่นเด้งเบียดหน้าอกตัวเอง บีบคลึงขยุ้มขยำหนักหน่วง ปากหนาโน้มลงไปดูดเร่าละเลียยอดอกที่แข็งตึงของสาวน้อยใต้ร่างที่อ่อนคล้อยตามแรงเคลื่อนไหวสวาทของตน “อ่า...ไม่ไหวแล้ว ร้อน...ไวน์ร้อนพี่มาร์ค อือ...” “ชูว์...พี่รู้ว่าไวน์ร้อน พี่เองก็ร้อน ไวน์ตอดรัดพี่แน่นมาก อ่า...เสียวไม่ไหวแล้ว อืม...ไม่ไหวแล้ว ตอดรัดดีเหลือเกิน อืม...” พั่บ! พั่บ! พั่บ!&nbs
“อ่ะ...อื้อ ไวน์ไม่รู้ อ่า...พี่มาร์คขยับได้โปรด...อ่า...ไวน์อึดอัด พี่มาร์คใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อ่า...อื้อ” หล่อนเองก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาใหญ่คับแน่นโพรงสาวของตน ตอนนี้เธอแอ่นเด้งบิดเร่าเอวเล็กคอดไหวซ่านไปตามจังหวะหนักหน่วงที่เขากำลังเคลื่อนไหวในตอนนี้ “โอว์...ไม่ไหวแล้ว แน่นเป็นบ้า อ่า...เสียว อื้อ...” พั่บ! พั่บ! พั่บ! มโนภฤศตื่นนอนเช้าเหมือนทุกวันที่ตื่นเป็นประจำ เขาจะออกไปวิ่งออกกำลังกายในไร่ของเขา พอวิ่งออกกำลังเสร็จกลับมาวรนิษฐ์ก็ยังไม่ตื่น เขาเม้มปากแน่น แต่ก็เดินไปยังเตียงเขย่าหัวไหล่เปลือยของเธอให้ตื่นนอนได้แล้ว เพราะนี่สายแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะตั้งโต๊ะทานมื้อเช้าแล้ว “ตื่นได้แล้ว อย่ามานอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้ไวน์ และก็ไปทำงานที่
“อ่า...ไวน์ครับ ไวน์ของพี่ ครอบครองพี่ได้โปรด อืม...” เขายกเด้งเอวสอบกระแทกเสียดสีกายแข็งร้อนไปกับอุ้งมือน้อยที่รุดเร่าคลึงขยำจังหวะอยู่ในตอนนี้ “อ่า...ชอบไหมคะ ทรมานไหมคะ วันนี้ไวน์จะใช้ปากบนและปากล่างของไวน์ครอบครองพี่ ไวน์จะตอดรัดพี่ให้แตกในตัวไวน์ อ่ะ...อืม” แล้วปากน้อยที่พูดจบก็โน้มลงไปดูดเร่าคลอเคลียปลายลิ้นตวัดไล้เลียไปตามส่วนปลายร้อนรุ่มอวบใหญ่ในมือตน และมืออีกข้างก็นวดคลึงเร่าพวงสวรรค์ของมโนภฤศไปด้วยเช่นกันกับมือที่รูดไถท่อนลำกายของมัน “อ่า...ไม่ไหวแล้วไวน์ อ่า...เสียว ผัวเสียว อือ...” “ไวน์ก็เสียวค่ะ และอยากทำให้พี่มาร์คแตกในปากด้วยตอนนี้ อืม...” ไม่ใช่แค่เขาต้องการปรารถนาเธอ เธอเองก็ต้องการปรารถนาเขา แต่ก็อยากดัดนิสัยสามีที่เซ็กซ์จัดเกินงาม เธอเคืองมาก เขามีเซ็กซ์จนวันที่เธอเจ็บท้องคลอดด้วย เขามันหื่น หื่นแบบเธอไม่ได้พักสักคืน แต่นี่ก็สามเดือนแล้ว น่าจะพอแล้วสำหรับการดัดนิสัยเขา เพราะเธอเองก็ต้องการสามีมากเหมือนกันตลอดสามเดือน ก็คนนอนด้วยกัน
“พี่มาร์ค ฟังก่อนได้ไหมคะว่าไวน์จะพูดอะไร” เธอดันหน้าของเขาที่ตอนนี้ขึ้นมาคร่อมเธอบนเตียงทั้งๆ ที่เนื้อตัวเขามอมแมมสกปรกเต็มไปด้วยดิน “ไวน์จะบอกว่าเดือนหน้าเวลจะมาเที่ยวที่ไร่เราค่ะ และ...” ยังพูดไม่สุดประโยคความดี คนขี้หึงก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “มันจะมาทำไม ไวน์ก็คลอดลูกแล้ว เรารักกันดีขนาดนี้ มันยังจะมาอีกเหรอ มันยังคิดว่ามันมีหวังอีกเหรอไวน์” “พูดไม่เพราะอีกแล้วนะพี่มาร์ค เป็นพ่อคนแล้วนะคะพี่น่ะ ไม่ใช่เด็กแล้ว” “ก็คนมันหวงเมียนี่ อีกอย่างเมียสวยด้วย และนี่มดลูกเข้าอู่แล้วใช่ไหม พี่รู้นะ พี่ถามคุณย่ามาแล้ว ปกติมันแค่ห้าหกสัปดาห์และพี่ก็ถามหมอมาแล้วด้วย ไวน์ยอมรับมาเลยนะว่าตอนนี้พี่เข้าไปได้แล้วใช่ไหมฮึ น้องมาร์ชลูกเราสามเดือนแล้วด้วย ไม่ต้องบ่ายเบี่ยงเลยนะ พี่หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย จะลงแดงอยู่แล้วเนี่ย” “ไวน์ดีใจนะที่พี่มาร์คหวงไวน์ แต่ช่วยฟังให้จบก่อนได้ไหมคะ เวลจะพาแ
เผียะ! มือเล็กตีมือสามีทันทีเมื่อมโนภฤศกลับมาถึงก็จะอุ้มลูกน้อยที่นอนในเปล “ล้างมือยังคะถึงจะมาอุ้มลูก” นี่ผ่านมาจนคลอดเจ้าตัวเล็กได้สามเดือนแล้ว และงานแต่งงานที่ว่าจะจัดก็ยังคงไม่ได้จัด เพราะหลังจากเข้าใจกันดีแล้วทั้งสองก็พูดคุยกันเรื่องฤกษ์แต่งงานบอกคุณย่าและพ่อกับแม่ว่าขอจัดตอนลูกโต เพราะอยากมีเขาในวันสำคัญด้วย และก็คือรอให้เด็กชายมหัทธน พันแสงเดือน หรือน้องมาร์ช โตเสียก่อน “ยังครับ” เขาตอบคนตัวเล็ก แม้จะลูกหนึ่ง แต่ทรวดทรงองค์เอวของวรนิษฐ์ยังคงสวยยั่วยวน “ไปล้างมือเลยค่ะ ตัวเองไปทำไร่ทำสวนมาทั้งวันจะมาอุ้มลูกไม่ได้นะคะ บอกกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำ หรือว่าแก่แล้วเลยความจำไม่ดีคะ” “นี่ไง ชอบว่าพี่แก่ ถ้าพี่แก่ พี่จะเอาเราทุกคืนได้เหรอไวน์ อย่าพูดอีกนะว่าพี่แก่ พี่ไม่ได้แก่ พี่ยังฟิตปึ๋งปั๋ง ไม่เชื่อก็จัดเลยไหม” เขาไม
“ลองทำกับคนอื่นดูสิคะ ไวน์ตัดขาดแน่” “ไม่ทำกับใครแล้ว เพราะเก็บไว้ทำกับแม่ของลูกคนเดียว รักนะ” “รักเหมือนกันค่ะ อ่ะ...อื้อ” แล้วเสียงหวานก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อปากหนาบดทาบทับลงมาพร้อมสอดเร่าลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำของวรนิษฐ์ สองมือเล็กโอบกอดคนเหนือร่างรัดรั้งลงมาบดเบียดร่างเปลือยตัวเอง เรียวขาเล็กก็ยกเร่ากอดเกี่ยวเอวหนาแอ่นเด้งเร่ายกบิดเอวกระแทกเบียดสีไปกับท่อนเนื้อบุรุษที่แนบถูไถอยู่บริเวณหน้าท้องตัวเอง “อ่า...หวานเหลือเกิน จูบกี่ครั้งก็ยังหวาน อืม...” เขาผละออกมาละเลียปลายลิ้นกับริมฝีปากสีระเรื่อพร้อมกับบดจูบอีกครั้งและอีกครั้ง “อ่ะ...อื้อ” เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของทั้งสองที่คลอเคลียกัน สองแขนของมโนภฤศโอบรัดร่างเปลือยของคนตัวเล็กใต้ร่างขึ้นหาตัวเองพร้อมกดแนบเอวสอบแทรกกายใหญ่โตอวบร้อนของตัวเองสอดเร่าเสียดสีเข้าไปในความคับแคบของสาวเจ้า&n
แม้จะเป็นความจริง แต่มันความจริงที่เกิดฝัน ไม่เคยคิดว่าการแอบรักคนใจร้ายจะสมหวัง ไม่เคยคิดว่าเขาจะรักตัวเองตอบ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่มีเขานอนตระกองกอดแบบนี้ มือเล็กลูบไล้แผงอกเปลือยของสามีไปมา หลังจากที่เขาพร่ำบอกรักตลอดการหลอมรวมประสานร่างกัน “บอกรักไวน์อีกได้ไหมคะ ไวน์อยากได้ยินอีก” เธอแหงนหน้าจากหน้าอกของเขามองจ้องดวงตาสีทมิฬที่จ้องมองตัวเองอยู่เหมือนกันตอนนี้ วรนิษฐ์ไม่ยอมให้เขาปิดไฟ เพราะอยากนอนมองเขาแบบนี้ อยากมั่นใจว่าไม่ใช่ความฝัน อยากมั่นใจว่าคือความจริง “ไม่เบื่อเหรอ?”น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยถามแม่คนดื้อรั้นนิสัยไม่ดีของตนเอง และก็ยกยิ้มกลั้วขำในลำคอเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน ทำไมเขาต้องมาตกหลุมรักเด็กคนนี้ด้วย เมื่อก่อนไม่ว่าจะคบใครตอนที่ไปเรียนต่อปริญญาโทที่สวีเดน วรนิษฐ์ก็ตามไปสร้างความวุ่นวายอาละวาดตลอดจนผู้หญิงทุกคนที่คบด้วยขอเลิก เพราะทนน้องสาวตัวแสบของเขาไม่ได้ “ไม่เบื่อค่ะ เพราะเป็น
เธอเม้มปากแน่นไม่ตอบ แต่เดินหนีไปยังห้องน้ำแทน “ไวน์ทำไมไม่ตอบพี่ เดินหนีแบบนี้พี่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่าไวน์ไม่เกลียดพี่และยังรักพี่นะ” “แล้วพูดไม่พูดมันมีประโยชน์อะไรคะ ในเมื่อพี่มาร์คไม่ได้รักไวน์ และสิ่งที่พี่มาร์คทำตอนนี้ก็แค่ทำเพื่อลูกในท้องไวน์เท่านั้น” เธอตอบกลับทันทีเมื่อเขาพูดสุดความ แม้จะบอกตัวเองไม่ให้อ่อนแอ แต่น้ำตามันก็เกเรไหลออกมาให้อับอายอีกแล้ว เธอแหงนเงยหน้ามองบนพร้อมยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นดวงตาออกทิ้ง อึก! ฮือๆๆ “ไม่เอา ไม่ร้องไห้ทูนหัว ฟังพี่นะ ฟังอีกรอบ” เขาเดินไปรั้งเธอเข้ามากอดพร้อมลูบหลังเล็กที่สั่นตามแรงสะอื้นปลอบประโลมไปด้วย “ชูว์...ฟังนะเด็กโง่ของพี่ ที่พี่บอกว่าไม่ได้เกลียดก็คือพี่รักไวน์ และที่บอกไม่ได้รำคาญนั่นหมายความว่าพี่ชอบให้ไวน์มาวุ่นวายในชีวิตพี่” คนที่เพิ่งรู้ใจตัวเองว่าหลงรักน้องน้อยที่ทำตัววุ่นวายในชีว
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่หย่า ส่วนมึงไอ้หัวทอง ไปไหนก็ไปไป๊! ถ้าไม่ไปกูถีบแน่” เขาพูดพร้อมกับยกเท้ากระทืบพื้นแรงๆ ขู่อีกฝ่ายตึ้บ! เสียงกระทืบเท้าของคนที่สูงน้อยกว่าตนเองทำให้เวลยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น“เจอกันพรุ่งนี้นะไวน์”“ขอโทษด้วยนะเวล” เธอขอโทษเวลที่เดินขึ้นบันไดบ้านไปแล้วหันมาแหงนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่โอบกอดตัวเองแน่นพร้อมกับสั่งเขา“ปล่อยได้แล้วค่ะ อย่ามาทำแบบนี้กับไวน์” เธอพูดพร้อมแกะมือใหญ่ออกจากเอวอวบของตัวเอง“ชอบมันเหรอถึงให้มันจูบหลังมือ” เขาไม่ยอมปล่อย แต่กลับถามกลับ“ค่ะ เวลน่ารักดี”“ไม่รักพี่แล้ว?”“ค่ะ พี่มาร์คจะมาถามอะไรคะ ดึกแล้วไวน์ง่วง แล้วปล่อยได้แล้วค่ะ อย่ามาทำเหมือนหึงไวน์หน่อยเลยค่ะ แล้วนี่มาได้ยังไงคะ เมียพี่ไม่ว่าเหรอ?”“ก็คุยกับเมียอยู่นี่ไงล่ะ แล้วคิดว่าว่าพี่ไหมล่ะ” เขาตอบกลับพร้อมกับปล่อยเธอเป็นอิสระ และทันทีที่น้องน้อยได้อิสระก็เดินขึ้นบันไดบ้านไปทันที เขาเองก็สาวเท้ายาวๆ ตามหลังเธอไปติดๆ“ไวน์...เรามีเรื่องต้องคุยกัน”“พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องหย่าข
“พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องที่ผ่านมาหรอกนะ เพราะมันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้มันก็แล้วแต่มาร์คกับหนูไวน์ว่าจะตกลงกันยังไง รอคุยกันเอาเองเถอะ พ่อกับแม่และทุกคนก็เป็นแค่คนนอก ครอบครัวของมาร์ค มาร์คก็จัดการเองเถอะ สำหรับพ่อกับแม่ก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็กรักเหมือนลูกแท้ๆ และดีใจด้วยซ้ำที่จะได้เรามาเป็นลูกเขย มาดูแลแก้วตาดวงใจของเราทั้งสอง” ทรงพลเอ่ยพร้อมกับตบไหล่หนาของลูกเขยที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าตน “ขอบคุณครับ เรื่องน้องไวน์ ผมจะจัดการเอง เด็กดื้อคนนั้นต้องผมเท่านั้นถึงจะเอาอยู่” เขาแหงนเงยหน้ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้พ่อตาและแม่ยาย “คงจะยากไอ้ลูกหมา ตอนนี้มึงมีคู่แข่งแล้วและหล่อด้วย บินตรงมาจากสวีเดน แถมตอนนี้ก็ไปดูหนังด้วยกัน จะกลับก็คงดึก” มนัสวินเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ลูกชาย “ว่าไงนะครับ? แล้วทำไมพ่อวินกับคุณย่าไม่กันท่าให้ผมครับ” “จะไปรู้กับมึงเรอะ! เรื่องของใครของมัน” ท่านตอบยียวนกลับ&nbs
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กว่าที่มโนภฤศจากไปวันนั้น เขาก็ไม่ติดต่อกลับมาอีก ไม่แม้แต่จะมาหา เขาหายไปเลย แม้แต่กับคุณพ่อและคุณย่า เขาก็ไม่ติดต่อหาพวกท่าน แต่เธอบอกตัวเองแล้ว เธอจะไม่อ่อนแอ ไม่เสียน้ำตา ไม่รอเขาอีกแล้ว เธอปล่อยให้แต่ละวันตัวเองอยู่กับความทุกข์ไม่ได้ เรื่องระหว่างเธอกับมโนภฤศ พ่อกับแม่ของเธอก็ทราบเรื่องแล้ว และท่านทั้งสองก็เคารพการตัดสินใจของเธอหากต้องการจะหย่า และด้วยแม่เธอนั้นรู้ดีว่าในใจของลูกสาวมีมโนภฤศมาตลอด แต่เมื่อมโนภฤศไม่เลือกลูกนางและลูกนางก็ยอมรับความจริงข้อนี้ “เมื่อจะหย่าก็หย่า แล้วหมายศาลที่ส่งไปครั้งก่อนเป็นยังไงมั่งพ่อวิน” สะอางถามลูกชายของตนเอง “เดี๋ยวผมให้ทนายผมส่งไปอีกครับแม่สะอาง ถ้ามันไม่ยอมหย่าง่ายๆ คงต้องฟ้องร้องกันจริงๆ” มนัสวินผู้เข้าข้างลูกสะใภ้เอ่ย “อือ...อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยวิน ยังไงมาร์คมันก็ลูกเอ็ง และมันก็หลานฉัน ฉันก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็ก เมื่อไม่รักกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ควรจะมาคุยกันดีๆ” ทรงพลเอ่