มโนภฤศเม้มปากแน่นตลอดการขับรถมายังอำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรสตามคำสั่งของพ่อและคุณย่า เขาไม่แม้แต่จะปริปากพูดกับคนที่นั่งมาด้วย และเธอเองก็เงียบไม่พูดไม่จาเช่นกัน จนตอนนี้มานั่งอยู่หน้าเจ้าหน้าที่ที่จะทำการจดทะเบียนสมรสให้เขาและเธอ
“สวัสดีครับคุณมาร์ค” เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยทักทายเพราะรู้จักชายหนุ่มดี
“อือ...หวัดดี” เขาตอบห้วนแล้วมองไปยังคนที่นั่งหน้านิ่งข้างๆ ตนก็ยิ่งหงุดหงิดอารมณ์
“มาทำอะไรวันนี้”
“จดทะเบียนสมรส” เขาตอบสั้นๆ ห้วนๆ และคำตอบก็เล่นเอาคนฟังตกใจ เพราะคนที่มาด้วยไม่ใช่แพรไหม แฟนสาวที่คบไปไหนมาไหนด้วยกัน
“ครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มตอบรับรู้สั้นๆ พร้อมเตรียมเอกสารทุกอย่างมาให้ทั้งสองได้เซ็นและไม่ลืมบอกชายหนุ่มให้ยิ้ม
“ยิ้มหน่อยสิคุณมาร์ค ทำหน้าเหมือนโดนบังคับงั้นแหละ”
&
มโนภฤศต้องแบ่งพื้นที่ห้องและเตียงนอนที่ตนเคยนอนกับแฟนสาวให้กับวรนิษฐ์ ตอนนี้หล่อนย้ายมาอยู่ห้องเขาแล้ว และคนที่สั่งก็คือคุณย่านั่นเอง ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์ ไม่อยากเชื่อว่าหลังจากคืนนั้นไม่นาน แค่เดือนเดียวหล่อนจะตั้งท้องทันที เขาพลาด...พลาดที่ไม่ได้ป้องกันและปล่อยตัวไปกับรสสวาทคืนนั้น “สมใจแล้วสินะ ที่ได้เป็นเมียฉัน แต่ฝันไปเถอะ เธอจะเป็นได้แค่เมียกอดทะเบียนสมรสเท่านั้นแหละ เพราะฉันจะไม่แตะต้องเธอไวน์” เขาบอกเธอเมื่อเธออาบน้ำออกมาจากห้องน้ำ แม้จะเห็นว่าหล่อนไม่ได้สวมชุดชั้นใน เพราะชุดนอนตัวบางนั้นเวลาโดนแสงไฟก็มองทะลุเข้าไปข้างในเห็นเรือนร่างสวยงามที่เคยสัมผัสทาบทับ “ค่ะ สมใจแล้วตอนนี้ และไวน์จะทำให้พี่มาร์ครักไวน์ให้ได้ พี่มาร์คจะต้องไม่รักใครนอกจากไวน์” เธอตอบสวนกลับ หึ! “ไม่มีวันนั้นหรอก เพราะคนเดียวที่ฉันรักคือแพร” เขาตอบกลับอย่างมั่นใจ
อือ มือเล็กปัดมือใหญ่ออกจากไหล่ตัวเองขยับตัวห่างไปอีกไม่ยอมตื่น ด้วยความอ่อนเพลียจากการแพ้ท้องเลยทำให้เธอหลับง่ายเพียงแค่หัวถึงหมอนก็หลับได้แล้วสำหรับว่าที่คุณแม่อย่างวรนิษฐ์ “ไวน์” เขายังคงตามไปแตะหัวไหล่เล็กในความมืดสลัวเขย่าปลุกและขยับตัวไปเบียดแผ่นหนังเธอพร้อมกับสอดมือใหญ่ไปใต้ร่างเธอแล้วยกรั้งเธอเข้าหาตัวเอง “อือ...มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้นะคะพี่มาร์ค อือ...” เธอแกะมือที่กอดรัดหน้าท้องตัวเองออกแล้วจะขยับตัวห่างอีก แต่เขาก็กอดรั้งเข้าหาอีกพร้อมกับหน้าของเขาเคลื่อนมาเกยหัวไหล่เล็กของเธอพร้อมกัดเม้มติ่งหูของเธอ “อือ...ไม่ได้ เธอจะนอนไม่ได้ ไหนๆ เธอก็เป็นเมียแล้วไม่ใช่เหรอ ขอหน่อยสิ” เขาบอกเสียงซ่านกระเส่าราวกระซิบข้างหูเธอแล้วเริ่มรุกเร้าปลุกเร้าเจ้าหล่อนให้ตื่นมาตอบสนองตนเอง “อ่ะ...อื้อ ไ
“อ่า...แน่นเป็นบ้า ยังแน่นเหมือนครั้งแรกไม่มีเปลี่ยน อูว์...อ่า” พั่บ! พั่บ! พั่บ! ความคับแน่นของภายในสาวทำให้เขาเคลื่อนไหวโยกเร่าบดเอวสอบกระแทกจ้วงลึกหนักหน่วง สองมือใหญ่กอบกุมสองเต้าที่แอ่นเด้งเบียดหน้าอกตัวเอง บีบคลึงขยุ้มขยำหนักหน่วง ปากหนาโน้มลงไปดูดเร่าละเลียยอดอกที่แข็งตึงของสาวน้อยใต้ร่างที่อ่อนคล้อยตามแรงเคลื่อนไหวสวาทของตน “อ่า...ไม่ไหวแล้ว ร้อน...ไวน์ร้อนพี่มาร์ค อือ...” “ชูว์...พี่รู้ว่าไวน์ร้อน พี่เองก็ร้อน ไวน์ตอดรัดพี่แน่นมาก อ่า...เสียวไม่ไหวแล้ว อืม...ไม่ไหวแล้ว ตอดรัดดีเหลือเกิน อืม...” พั่บ! พั่บ! พั่บ!&nbs
“อ่ะ...อื้อ ไวน์ไม่รู้ อ่า...พี่มาร์คขยับได้โปรด...อ่า...ไวน์อึดอัด พี่มาร์คใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อ่า...อื้อ” หล่อนเองก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาใหญ่คับแน่นโพรงสาวของตน ตอนนี้เธอแอ่นเด้งบิดเร่าเอวเล็กคอดไหวซ่านไปตามจังหวะหนักหน่วงที่เขากำลังเคลื่อนไหวในตอนนี้ “โอว์...ไม่ไหวแล้ว แน่นเป็นบ้า อ่า...เสียว อื้อ...” พั่บ! พั่บ! พั่บ! มโนภฤศตื่นนอนเช้าเหมือนทุกวันที่ตื่นเป็นประจำ เขาจะออกไปวิ่งออกกำลังกายในไร่ของเขา พอวิ่งออกกำลังเสร็จกลับมาวรนิษฐ์ก็ยังไม่ตื่น เขาเม้มปากแน่น แต่ก็เดินไปยังเตียงเขย่าหัวไหล่เปลือยของเธอให้ตื่นนอนได้แล้ว เพราะนี่สายแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะตั้งโต๊ะทานมื้อเช้าแล้ว “ตื่นได้แล้ว อย่ามานอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้ไวน์ และก็ไปทำงานที่
สะอางอยากเอาไม้ฟาดหน้าหลานชายตัวดีแรงๆ เหลือเกิน ดูสิ วรนิษฐ์แพ้ท้องขนาดนี้ยังลากออกไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ยกับคนงานอีก พอนางเข้าไปยุ่งก็ถูกหาว่าอย่ายุ่งเรื่องของ ‘ผัวเมีย’ ก็คนที่ยุ่งหัวขาวคนนี้เนี่ยแหละที่เลี้ยงมันมาจนโต “คุณแม่สะอางมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” มนัสวินที่เพิ่งกลับมาจากทานมื้อเช้ากับปลัดเพื่อนรักของตนมาเจอแม่ยืนที่ชานเรือนไทย “ก็มาดูพ่อตัวดีของแกสิพ่อวิน ดูมัน...ดูมันทำกับหนูไวน์สิ น้องแพ้ท้องอาเจียนกินข้าวกินปลาไม่ได้แทนที่มันจะเห็นใจ สงสาร มันลากไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ย” นางพูดพร้อมชี้มือไปทางสองคนที่ฉุดกระชากลากถูกันไปในไร่ เพราะต้องเดินผ่านไร่ถึงจะไปถึงโรงหมักปุ๋ยที่อยู่อีกฟากฝั่งของไร่ “แล้วทำไมคุณแม่สะอางไม่ห้ามมันครับ” “มันบอกให้แม่ไม่ต้องยุ่งเรื่องของผัวเมีย แม่เลยจบเลย และหนูไวน์ก็บอกไหว แม่ก็เลยปล่อยมันไป ดูมันสิ มันจะชิงชังอะไรน้องนัก
“ค่ะ แค่นี้เอง ไวน์ทำได้สบายมาก พี่มาร์คอย่าพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ไวน์ทนไม่ได้หนีกลับสวีเดนเลยค่ะ มันไม่มีประโยชน์หรอก เพราะตอนนี้ไวน์คือเมียพี่มาร์ค และกำลังอุ้มท้องลูกของพี่มาร์คด้วย” เธอโต้สวนกลับ และคำพูดของวรนิษฐ์ทำให้คนงานที่อยู่รอบๆ ตัวต่างมองมายังทั้งสอง “ดี! อยากเป็นเมียฉันนักก็ทำงาน อย่าคิดว่าเป็นเมียฉันจะสบาย ไอ้เขียดดูยัยนี่ให้ดี คนงานทำงานอะไรก็ให้ทำตามนั้น อย่าเห็นอกเห็นใจเธอ เธอก็แค่คนงานคนหนึ่งเท่านั้น เข้าใจไหม” “คะ...ครับนาย” ไอ้เขียดรับคำไม่เต็มเสียงนัก เมื่อตอนนี้รู้ฐานะของสาวคนสวยแล้ว “เดี๋ยวตอนเย็นกูจะมาดูว่ามึงสอนอะไรเธอบ้าง” เขาบอกจบก็หมุนตัวจะเดินจากไป แต่ก็ถูกมือเล็กคว้าแขนเขาดึงรั้งไว้พร้อมคำถาม “พี่มาร์คจะไปไหนคะ?” “ไปหาแฟน” เขาตอบสั้นๆ แกะมือเธอที่เกาะแขนออกแล้วเดินจากไป “ไปหาแฟนทั้งๆ ที่มีเมี
“เขียดครับ เรียกผมว่าเขียดก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับคุณไวน์” ไอ้เขียดบอกเธอเพราะเธอเป็นนาย “ได้ยังไงคะ พี่เขียดดูเหมือนจะอายุเยอะกว่าไวน์ เรียกไวน์เฉยๆ นะคะ ไม่ต้องเรียกคุณเคินหรอกค่ะ คนกันเอง เราคือครอบครัวเดียวกันแล้วนะคะ ต่อไปนี้ไวน์จะมาทำงานที่โรงหมักปุ๋ยทุกวันและจะไปช่วยทำงานที่โรงแพคสตรอว์เบอร์รีอบแห้งด้วยค่ะ” เธอบอกทุกคนให้ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนคนกันเอง และยิ่งทำให้ทุกคนเอ็นดูประทับใจในตัวเธอแม้จะเพิ่งเจอกันครั้งแรก “แต่หนูไวน์ท้องอยู่นะ อย่าทำงานหนักมากนะ พวกยกของอะไรให้ไอ้เขียดหรือเรียกพวกป้าๆ กับลุงๆ และพี่คนอื่นได้นะลูก” หนึ่งในป้าคนงานเอ่ยบอกเตือน “ค่ะป้า ขอบคุณนะคะ ถ้าจะยกอะไร หนูจะให้ทุกคนช่วยนะคะ รบกวนสอนงานไวน์ด้วยนะคะ” “ยินดีค่ะ / ยินดีครับ” แล้วทุกคนก็ต่างพากันทำงานต่อ และตรงไหนที่วรนิษฐ์สงสัย เธอจะถามทุกคนทันทีและทุกคนก็พร้อมใจกันจะสอน
พ่อไปต่างจังหวัดไปเยี่ยมเพื่อนที่กำลังเจ็บป่วย บอกจะไปหนึ่งอาทิตย์ ส่วนคุณย่ากับป้าพรคู่หูก็ไปปฏิบัติธรรมที่วัดหนึ่งอาทิตย์ และที่บ้านก็เงียบเหงาเหลือเกิน ปกติเขาก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว บ้านหลังใหญ่เหลือเพียงเขาและวรนิษฐ์อยู่ด้วยกัน มโนภฤศมองคนที่นอนหลับสนิทบนเตียง เขาอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นวรนิษฐ์หลับสนิท เป็นแบบนี้ทุกวัน เพราะสองวันแล้วที่หล่อนไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ยและช่วยคนงานใส่ปุ๋ย พรวนดินในไร่ด้วย เขาเดินมานั่งบนเตียงแล้วมองไปยังมือเล็กของเธอที่ตอนนี้หมองคล้ำ เขาจึงฉวยโอกาสจับมือเธอแล้วดึงมาดู มือนุ่มนิ่มเต็มไปด้วยแผลพุพองจากการกำด้ามพลั่วและจอบเสียม บางตุ่มพองและแตกไปแล้ว คงเจ็บและแสบมากสินะตอนตุ่มที่มือแตก “อยากอวดดีเอง ช่วยไม่ได้”แล้วเขาก็ปล่อยมือเล็กนั้นกลับไปเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่อยากจะทำแผลให้เธอและถามว่าเจ็บมากไหม แต่เมื่อนึกถึงความรั้นของวรนิษฐ์ก็ทำให้เขาไม่สนใจ “ให้มันรู้ไปว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหนกันไวน์ จะอวดดีอวดเก่งทำง
“ขอโทษด้วยนะมาร์ค แม่ของแพรท่านก็เป็นแบบนี้แหละ”“ไม่เป็นไรครับ ผมก็หวังว่าท่านจะเห็นใจแพร สงสารแพร ผมกลับแล้วนะแพร ตอนนี้ท่านก็กลับมาแล้ว”“อือ...ขอบใจนะที่ช่วยตลอดมาและช่วยทุกอย่าง”“มาร์คเต็มใจ และเงินถ้าไม่มีก็ไม่ต้องคืนก็ได้ มาร์คช่วยเหลือด้วยใจ”“แต่เงินมันไม่ใช่น้อยๆ นะมาร์ค และมันก็หลายครั้งแล้ว”“งั้นแพรก็ทยอยใช้คืนไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันจนกว่าจะหมด มาร์คไม่เร่งรัดหรอก เพราะมาร์คไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินอยู่แล้ว” เขาบอกเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหยิบแก้วน้ำที่เหลือครึ่งแก้วบนโต๊ะขึ้นมาดื่มหมดแก้วแล้วเดินออกจากคาเฟ่ไปทันที และทันทีที่เขาจากไป แม่ของแพรไหมก็เดินออกมาจากหลังร้าน“ไหนบอกเลิกกันแล้ว ทำไมคุณมาร์คยังมาใช้หนี้ให้แกอีกนังแพร” นางถามทันที“เลิกกันค่ะ แต่เขาใจดีสงสารแพรเลยมาช่วยค่ะ”“นังโง่! ทำไมไม่ปล่อยให้ท้องจับเขาให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปฮึ”“แพรทำไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้มาร์คก็มีเมียและลูกแล้ว”“นังลูกโง่! เพราะแกดีแบบนี้ไงถึงได้โดนคนอื่นฉกไปแบบนี้ นังลูกโง่!” พูดจบก็เดินไปยังประตูร้านทันที
เสียงช้อนที่ตักข้าววางกระแทกกับจานทันที“งั้นก็เชิญ กินให้หมดล่ะ”“ค่ะ” แล้วเธอก็หยิบถาดที่หน้าตักเขามาวางไว้ที่หน้าตักตัวเองแล้วตักทานเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่ออีก และทานไปหลายคำก็นึกสงสัยรสชาติ มันไม่เหมือนกับคนในบ้านเขาทำให้กินจึงถามขึ้น“ไม่ใช่ฝีมือพี่น้อยและคนอื่น ใครทำคะ หรือว่าพี่มาร์ค”“พี่ทำเอง ไม่อร่อยเหรอ?”“พอกินได้ค่ะ” เธอตอบแล้วก็ตักกินต่อแล้วก็เงยหน้ามองเขาที่จ้องเธอตลอดการกิน“มองอะไรคะ เอาข้าวมาให้แล้วจะไปไหนก็ไปสิคะ”“พี่จะรอเรากินหมดจานและกินยานอนถึงจะไป”ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!วรนิษฐ์ยังไม่ทันได้ตอบกลับก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นจนเขาลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องและออกไปจากห้อง ไม่เดินกลับมาหาเธอ และเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันหน้าห้องไม่ชัด แต่เสียงนั่นคือเสียงของแฟนเขาที่มาตาม“คนใจร้าย!”เธอยกถาดข้าวผัดไข่ไปวางไว้โต๊ะข้างหัวเตียงและดื่มน้ำกับเดินลงไปหยิบยาบำรุงครรภ์ตัวเองมาทานและยาลดไข้ที่วางใกล้ๆ กันมากินด้วย และเมื่อกินยาเสร็จก็เดินกลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ในลิ
“จะกลับสวีเดนค่ะ สนุกพอแล้วและเบื่อแล้วตอนนี้ ส่วนใบหย่าและงานแต่งงานก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ใบหย่าไวน์จะเซ็นให้ค่ะ ส่วนงานแต่งงาน พี่ก็แต่งกับคุณแพรที่รักนักรักหนาเลยค่ะ รักกันมากนักนี่ถึงได้พากันมาอยู่ที่บ้านตอนที่พ่อวินกับคุณย่าไม่อยู่”“อย่ามาทำนิสัยเด็กๆ กับพี่นะไวน์” เขาคว้าข้อมือเล็กพร้อมกระชากร่างเล็กของหล่อนเข้ามาหาตนอุ๊ย!เธอดันมือตัวเองกับหน้าอกของเขาไว้เพื่อไม่ให้ร่างตัวเองบดเบียดไปกับร่างใหญ่ของเขา“ถึงจะหย่าให้ไงคะ และจะกลับสวีเดนด้วย”คำพูดของวรนิษฐ์ทำให้เขารู้สึกใจหายวาบและเจ็บปวดแปลบๆ ขึ้นมาในอก“แล้วลูกล่ะ? เธอจะบอกพ่อกับแม่เธอยังไงถ้าท้องเธอโต แถมเธอก็แพ้ท้องด้วย”“ลูกไม่เห็นมีอะไรนี่คะ เพราะลูกก็อยู่ในท้องไวน์ อีกอย่างเรื่องพ่อกับแม่ของไวน์ พี่มาร์คไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เดี๋ยวไวน์จะอธิบายเอง พี่มาร์คไม่ได้อยากรับผิดชอบเราสองคนอยู่แล้ว เพราะคนที่รักและห่วงใยคือคนที่อยู่ในครัว และก็ปล่อยได้แล้วค่ะ” เธอขืนตัวเองในอ้อมกอดเขา แต่เขากลับรัดแน่นกว่าเดิม“ไม่ปล่อย ตัวก็ยังรุมๆ อยู่ ไปพักเถอะ และห้ามไปไหนทั
ความเจ็บจุกกระแทกอกเมื่อตอนเช้าตั้งใจจะมาทำมื้อเช้าให้ตนและสามีอย่างมโนภฤศ แต่เดินมายังไม่ถึงห้องครัวก็ได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังลอดออกมาจากห้องครัวข้างหน้าตน เธอเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเป็นเสียงใครกัน แต่อีกเสียงพูดที่ได้ยินคือเสียงของมโนภฤศแน่นอน เธอจำได้ เท้าเล็กจึงเร่งสาวเท้าไปยังห้องครัวเพื่อจะไปดูให้เห็นกับตา และพอเดินมาถึงหน้าประตูห้องครัวที่เปิดกว้างอยู่ก็ถึงกับหน้าชา ขาชาก้าวเดินไม่ออก เป็นใบ้ขึ้นมาทันทีเมื่อภาพที่เห็นมันตำตาตำใจของหล่อนเหลือเกิน วรนิษฐ์เม้มปากแน่นแล้วสูดลมหายใจแรงๆ ตั้งสติแล้วเอ่ยถามทั้งสองที่กำลังโอบกอดกันอยู่ในครัวทันที “ทำอะไรกันคะ?” น้ำเสียงเล็กแต่กระแสเสียงของเธอบอกได้ชัดว่าไม่พอใจกับทั้งสองคนที่โอบกอดกันอยู่ มโนภฤศผละออกห่างแพรไหมทันทีเมื่อได้ยินเสียงเล็ก เมื่อกี้แพรไหมเธอจะล้ม เขาเลยรับไว้ก็เท่านั้นเอง นี่คือความจริงที่เขาอธิบายในใจไม่ได้บอกหล่อน “ทำกับข้าว” เขาตอบสั้นๆ “เหรอคะ ปกติตอนเช้าพี่มาร์คจะไปวิ่
หล่อนบิดเร่าครางซ่านสวาทพร้อมกับเอวเล็กที่ถูกยกอุ้มขึ้นลงเป็นจังหวะก็ถูกเอวสอบกระแทกหนักหน่วงขึ้นหาจนกระเด็นกระดอนตามแรงไปเลยทีเดียว เธอชอบให้เขาสอดแทรกในกายแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกว่าเขารักตนเองบ้าง ทำให้รู้สึกว่าเขาเริ่มมีใจให้ตนเองไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องการแบบนี้ “อ่า...พร้อมกันไวน์ พร้อมกัน อ่า...พี่จะพาเราไปให้ถึงฝั่ง อ่า...อืม” แล้วมือใหญ่ก็ยกอุ้มดันเธอขึ้นลงจนสองเต้าอวบหยุ่นเบียดสีไปกับหน้าของเขาและเอวสอบก็เคลื่อนไหวยกเร่าตอบสนองหมุนควงร้อนอยู่ใต้น้ำ ตอนนี้สองร่างเปียกปอนและสายน้ำก็กระเด็นกระเซ็นตลอดการเคลื่อนไหวสวาทของทั้งคู่ “โอว์...ไวน์ อ่า...” เสียงครางกระเส่าเสียวยังคงดังออกมาเป็นระยะพร้อมกับทั้งสองเคลื่อนไหวบดเร่ากันในน้ำ หัวใจของมโนภฤศยากจะฉุดกลับ ตอนนี้มันโดนสาวเจ้าที่แอ่นเด้งเร่าขึ้นหาตอนนี้ตกไปเรียบร้อยแล้ว โดนตกไปแบบไม่รู้ตัว และสำหรับวรนิษฐ์แล้วยิ่งรักและหวงชายหนุ่ม ยิ่งไม่อยากเสียเขาไปให้ผู้หญิงคนไหน&nbs
พอเจอลำธารใสสะอาดน่าเล่น วรนิษฐ์ก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น“ว้าว! น่าเล่นจังเลยค่ะ น้ำใสจัง” เธอเห็นน้ำใสน่าเล่นก็ถอดรองเท้าผ้าใบและถุงเท้ากองไว้ข้างลำธารแล้วลงไปเล่นน้ำทันที ไม่สนใจคนที่ก้มหน้าวิดน้ำใส่หน้าตัวเองข้างลำธาร“ระวังด้วยล่ะ อย่าไปตรงนั้นมันลึก” เขาชี้มือไปทางอีกฝั่งด้วยกลัวเธอจะเล่นไปถึงตรงนั้นด้วยความเป็นห่วง“ไวน์ว่ายน้ำเป็นค่ะ เป็นนักกีฬามหา’ลัยด้วย”“อวดเก่ง” เขาบอกแค่นั้นแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำเงินดำตัวเองออกมาซักกับน้ำในลำธารที่ไหลตลอดเวลา“พี่มาร์คมาเล่นน้ำด้วยกันค่ะ” เธอกวักมือเรียกเขา และมโนภฤศก็มองคนที่กวักมือเรียกตัวเองแล้วก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอเวลามันเปียกน้ำมันบางจนเห็นข้างในและมันก็แนบไปกับเนื้อและหน้าอกอวบอูมของหล่อน“ถ้าฉันไม่อยากแค่เล่นน้ำล่ะ” เขาบอกเธอ“ก็เรื่องของพี่สิคะ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ไวน์จะเล่นน้ำ” คนไม่เข้าใจในความหมายเอ่ยตอบแล้วดำลงไปใต้น้ำแหวกว่ายเล่นอย่างสบายใจหึหึมโนภฤศถอดกางเกงยีนส์สีดำขาดเข่าตัวเองวางไว้ที่ข้างล
“ก็ให้คนที่บ้านตำให้กินได้ค่ะ อีกอย่างคนท้องชอบกินอะไรเปรี้ยวๆ แบบนี้ปกติค่ะ” ป้าคนงานเอ่ย“จริงค่ะ เนี่ยเปรี้ยวปากน้ำลายแตกตั้งแต่ได้กลิ่นปลาร้าเลยค่ะ ของไทยเราดีจริงๆ นะคะ ไวน์อยู่สวีเดนไม่ได้กินอาหารแบบนี้เลย พอมาอยู่นี่ได้กินแบบนี้แล้วชอบมากเลยค่ะ” เธอบอกป้าคนงานและตักตำมะยมใส่มะขามคำโตเข้าปาก โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าของไร่ได้เดินมายืนอยู่ด้านหลังของเธอแล้ว“พวกป้าไปทำงานก่อนนะจ๊ะ หนูไวน์กินเถอะ” หนึ่งในป้าคนงานเอ่ย“เหลือเต็มจานเลย กินด้วยกันก่อนสิคะ ไวน์กินไม่หมดหรอกป้า” เธอเรียกให้ทุกคนอยู่กินต่อเป็นเพื่อนตน“พี่เขียดด้วย จะไปไหน มากินด้วยกันก่อนค่ะ” และเขียดเองก็ลุกลงจากแคร่ไปยืนข้างๆ แคร่เช่นกัน“อร่อยไหม?” คนตัวโตโน้มตัวลงไปเอ่ยถามข้างหูเธอจนมือที่ถือช้อนอยู่อ่อนแรงปล่อยช้อนหลุดมือลงจานตำมะยมใส่มะขาม“พะ...พี่มาร์ค ไวน์ไม่ได้อู้งานนะคะ ไวน์แค่พักเที่ยงเอง” เธอหันมาบอกเขาและปลายจมูกก็ชนเข้ากับปลายจมูกโด่งอย่างจังอุ๊ย!“พักเที่ยงแล้วก็ไปทำงานได้แล้ว แล้วเนี่ยกินข้าวกับอะไรตอนเที่ยง” เขาถามเธอเมื่อเห็นว่
พ่อไปต่างจังหวัดไปเยี่ยมเพื่อนที่กำลังเจ็บป่วย บอกจะไปหนึ่งอาทิตย์ ส่วนคุณย่ากับป้าพรคู่หูก็ไปปฏิบัติธรรมที่วัดหนึ่งอาทิตย์ และที่บ้านก็เงียบเหงาเหลือเกิน ปกติเขาก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว บ้านหลังใหญ่เหลือเพียงเขาและวรนิษฐ์อยู่ด้วยกัน มโนภฤศมองคนที่นอนหลับสนิทบนเตียง เขาอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นวรนิษฐ์หลับสนิท เป็นแบบนี้ทุกวัน เพราะสองวันแล้วที่หล่อนไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ยและช่วยคนงานใส่ปุ๋ย พรวนดินในไร่ด้วย เขาเดินมานั่งบนเตียงแล้วมองไปยังมือเล็กของเธอที่ตอนนี้หมองคล้ำ เขาจึงฉวยโอกาสจับมือเธอแล้วดึงมาดู มือนุ่มนิ่มเต็มไปด้วยแผลพุพองจากการกำด้ามพลั่วและจอบเสียม บางตุ่มพองและแตกไปแล้ว คงเจ็บและแสบมากสินะตอนตุ่มที่มือแตก “อยากอวดดีเอง ช่วยไม่ได้”แล้วเขาก็ปล่อยมือเล็กนั้นกลับไปเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่อยากจะทำแผลให้เธอและถามว่าเจ็บมากไหม แต่เมื่อนึกถึงความรั้นของวรนิษฐ์ก็ทำให้เขาไม่สนใจ “ให้มันรู้ไปว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหนกันไวน์ จะอวดดีอวดเก่งทำง
“เขียดครับ เรียกผมว่าเขียดก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับคุณไวน์” ไอ้เขียดบอกเธอเพราะเธอเป็นนาย “ได้ยังไงคะ พี่เขียดดูเหมือนจะอายุเยอะกว่าไวน์ เรียกไวน์เฉยๆ นะคะ ไม่ต้องเรียกคุณเคินหรอกค่ะ คนกันเอง เราคือครอบครัวเดียวกันแล้วนะคะ ต่อไปนี้ไวน์จะมาทำงานที่โรงหมักปุ๋ยทุกวันและจะไปช่วยทำงานที่โรงแพคสตรอว์เบอร์รีอบแห้งด้วยค่ะ” เธอบอกทุกคนให้ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนคนกันเอง และยิ่งทำให้ทุกคนเอ็นดูประทับใจในตัวเธอแม้จะเพิ่งเจอกันครั้งแรก “แต่หนูไวน์ท้องอยู่นะ อย่าทำงานหนักมากนะ พวกยกของอะไรให้ไอ้เขียดหรือเรียกพวกป้าๆ กับลุงๆ และพี่คนอื่นได้นะลูก” หนึ่งในป้าคนงานเอ่ยบอกเตือน “ค่ะป้า ขอบคุณนะคะ ถ้าจะยกอะไร หนูจะให้ทุกคนช่วยนะคะ รบกวนสอนงานไวน์ด้วยนะคะ” “ยินดีค่ะ / ยินดีครับ” แล้วทุกคนก็ต่างพากันทำงานต่อ และตรงไหนที่วรนิษฐ์สงสัย เธอจะถามทุกคนทันทีและทุกคนก็พร้อมใจกันจะสอน