เสื้อผ้าที่นำออกมาลองนับสิบชุด ไม่สวยสักที เสื้อยืดกางเกงยีน หรือ กระโปรงเดรสลายดอกไม้ ตัวไหน จะน่ารักมากพอสำหรับการไปเดทในวันพรุ่งนี้" ทราย ยายเข้าไปได้ไหมลูก " หลานสาวย่นจมูก มองเสื้อผ้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะไปเปิดประตู ให้ยายยายเข้ามา" ไหนลูก อะไรยังไง บอกยายสิ " ยายยายถามหลานสาว ถ้าเทียบกับน้ำ ทรายยังเด็กมาก แถมยังอยู่แต่กลับครอบครัวที่เป็นเกราะป้องกันมาตลอด บางที การอยู่หอ การอยู่คนเดียว อาจจะทำให้หลานสาวโตขึ้น" พอดีเพื่อนทรายจะชวนไปเที่ยวค่ะ ทีนี้ทรายก็เลยไม่ค่อยมั่นใจ " " ทรายของยายยายสวยแล้วลูก จะใส่ชุดไหนก็สวย ไม่ต้องทำให้เค้าประทับใจจนตาค้างหรอกลูก เพราะทรายสวยทั้งหน้าตาและจิตใจ " ยายยายบอกเสียงอ่อนโยน" เค้านิสัยดีใช่ไหม " " ค่ะ ทรายว่าดี " " ถ้าทรายว่าดี ยายก็ว่าดี "หลานสาวกอดยายยายด้วยความรักเหลือเกิน โชคดีมาก มากที่สุดที่เกิดมาพร้อมกับความรัก ความอบอุ่น มากมายขนาดนี้" ถึงหอพักแล้ว โทรมานะลูก ทรายกลับดีดีนะ " หลานสาวออกจากบ้านตายายช่วงสายของวันอาทิตย์เพื่อไปนัดเจอกับคนที่ชวนไปเดทกระเป๋าผ้าที่มีของกระจุกกระจิกอยู่ในนั้นสะพายที่ไหล่ พร้อมกับร่างบอบบาง เดินขึ้นบันไดไ
ภาพคู่ในโทรศัพท์มือถือภาพแรก ทำเอาคนที่นั่งมองใจสั่น ไม่ใช่ภาพที่สวยที่สุด แต่น่าประทับใจที่สุด เดทแรกที่ได้ใช้เวลาร่วมกันหนังสือและเครื่องเขียนกับขนมอีกหลายอย่าง ที่ไปซื้อหามาด้วยกันมันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทีละสเตป ก้าวไปทีละขั้น" ทรายครับ อยู่หอหรือยัง " คนที่โทรเข้ามาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ต้องรับสายตัดความรำคาญ“อยู่หอค่ะ มีอะไรคะ” เธอย้อนถามกลับไปทันที ตัดความเวิ่นเว้อ มีอะไรก็บอกมา“พอดี พี่จะจัดโครงการอาสาพัฒนาปีนี้ครับ สร้างห้องสมุด กับห้องน้ำให้น้องๆ ริมชายขอบภาคตะวันออก น้องทรายสนใจไหมครับ “คำพูดเป็นงานเป็นการ ทำเอาคนฟังรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง" จัดเมื่อไหร่คะ มีตารางที่แน่นอนไหม " คนที่อยากไปร่วมด้วยถามรายละเอียด" ประมาณสิ้นเดือนหน้า ตอนนี้พี่กำลังหาสปอนเซอร์ หางบประมาณ เตรียมทุกอย่างเอง ทรายอยากมาช่วยพี่ไหมครับ " เค้าเข้าประเด็นตามที่วางเอาไว้ พ่อบอกว่า บ้านนี้รวยจริง สองบ้านแต่งกัน คือรวยกับรวย แถมยังไม่ออกงานใดใด ทำบุญเงียบๆ ถ้าอยากจีบน้องทราย ต้องทำตามที่พ่อบอก" ทรายไม่ว่างเลยค่ะ แต่อยากช่วยมากๆ ถ้าได้รายละเอียดมาแล้ว พี่บอยบอกทรายนะคะ ทรายอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง แม้ไม่ม
รถตู้ขับออกจากหน้าหอไปแล้ว คนที่ยืนแอบมองยิ้มให้กับตัวเอง ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ จนจะครบปี เค้าก็ยังไม่เคยกลับบ้านสักวัน เกรดเทอมแรกออก ก็ได้แต่ส่งไปให้ดูทางอีเมล ไม่คิดว่าจะต้องโผล่หน้าไปให้เห็น" เก่งมากนะ ที่ทำเกรดเทอมแรกได้ดีขนาดนี้ แผ่นดิน "พ่อโทรมาทันทีหลังจากได้รับอีเมลล์ เกรดเทอมแรกของชั้นปีที่1 ได้ดีสมกับความพยายามเมื่อเรียนได้ดีขนาดนี้แล้ว ข้ออ้างที่จะไม่กลับบ้าน ก็สมเหตุสมผลมากพอ" จะย้ายหอแล้วใช่ไหม ลองดูแถวมอให้ดีนะดิน รู้ใช่ไหมว่า ราคาไม่ใช่ประเด็น "ผู้เป็นพ่อบอก แล้ววางสายไป ลูกชายคนโตของบ้าน รับคำเพียงสั้นๆ เพียงเท่านั้น ครอบครัวไม่สมบูรณ์ ไม่อบอุ่น แตกต่างจากคนตรงหน้าเหลือเกินทุกสัปดาห์ ทรายจะมีคนที่บ้านมารอรับกลับเสมอ บางสัปดาห์อาจจะเป็นพ่อแม่และน้องชาย บางสัปดาห์ก็จะเป็นคุณตาคุณยาย ที่แย่งกันมารับหลานสาวคนโตของครอบครัว สัปดาห์นี้ก็เช่นกัน" ดินคุยกับพ่อแม่ให้เรียบร้อยนะ เรื่องออกค่าย สัญญาแล้วนะ ว่าจะไปด้วยกัน " เธอย้ำอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถของพ่อแม่ที่จอดรออยู่แล้ว" ป๊าคะ ทรายมีเรื่องจะรบกวน " ลูกสาวเปิดกระเป๋าออก แล้วยื่นเอกสารให้ป๊าทันที" ทรายอยากไปค่ะ แล้วถ
" ไอ้บอย ไปทำอะไรให้น้องทรายเค้าอึดอัดหรือเปล่า เค้าถึงไม่เลือกห้องเรา "ผู้เป็นพ่อโทรมาถามด้วยความแปลกใจ ที่ห้องขายไม่ได้อย่างที่คาดเอาไว้ ทั้งที่ วันที่มาดูในตอนแรก ท่านอิทธิพัทธ์ก็ดูจะชอบมากด้วยซ้ำ" เปล่าเลยนะพ่อ บอยไม่รู้เรื่องเลย ไม่ได้ทำอะไรออกหน้าเลยด้วยซ้ำ "" เออไม่เป็นไร ช่างเถอะ ไม่แน่ อาจจะรอเวลาอีกสักนิดก็ได้ " คนเป็นพ่อบอกลูกชาย แล้ววางสายไปคนถูกตำหนิคิดถึงเรื่องน้องทรายต่อทันที ไม่รู้ว่า จะต้องทำยังไงแล้ว ถึงจะได้ใกล้ชิดมากกว่านี้ มันยากขนาดนั้นเลยรูมเมทสองสาวที่ไม่ค่อยกลับมานอนหอใน ย้ายของออกไปทันทีที่สอบเสร็จ ข้าวของที่ขนมามีไม่มากมาก ยิ่งย้ายไปอยู่กับแฟนด้วยแล้ว ของที่มีที่หอในยิ่งน้อย ต่างจากคนที่อยู่ประจำมา1ปีเต็ม มองของที่ต้องเก็บลงกล่อง แล้วถอนหายใจ" เสร็จวันนี้แน่นอนใช่ไหมทราย "กี้มองหนังสือของตัวเองแล้วขอกำลังใจจากเพื่อน เจ้าตัวย้ายไปอยู่ที่บ้านเช่า รวมกับเพื่อนเภสัชอีกหลายคน ที่แชร์บ้านกัน ติวหนังสือด้วยกันทำให้คนที่แทบไม่มีเพื่อนสนิท ต้องอยู่คนเดียว ที่ห้องใหม่" เสร็จ ไม่ยากหรอก "มือบางเก็บหนังสือลงกล่องกระดาษใบใหญ่ เก็บของทุกอย่าง ด้วยความรวดเร็ว แยกเ
รถขนส่งหลายคัน ขับเข้ามาจอดที่สนามโรงเรียนที่สุดแสนจะห่างไกลความเจริญ น้ำถัง น้ำแพ็ค นมกล่อง และ เครื่องใช้หลายอย่าง ถูกขนมาตามคำสั่ง ของคุณรุ้ง ภรรยาของท่านประธาน ที่เข้ามาช่วยเหลืองานนี้อย่างสุดกำลัง งานบุญที่ไม่เน้นออกชื่อออกนาม งานที่ไม่สร้างวัดวาวิหารใหญ่โต แต่เป็นงานสร้างคน งานที่ทำประโยชน์ให้แก่ผู้ยากไร้ ทางบ้านนี้ ไม่เคยขัดแม้แต่คำเดียว ยิ่งงานนี้ หลานสาวสุดที่รักเอ่ยปาก ทุกอย่างจึงมากกว่า ที่ใครจะคาดเอาไว้มากผู้ใหญ่บ้านมองรถบรรทุกที่ขนข้าวของมามากมาย ตกใจกับสิ่งที่เห็น นักศึกษาจะเดินทางพรุ่งนี้ แต่ของมาถึงก่อนแล้ว อุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอย จากร้านเครื่องก่อสร้างในเมือง มาลงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้เป็นเครื่องอุปโภค บริโภค อีกต่างหาก" ผู้สนับสนุนโครงการ ส่งมาดูหน้างานก่อนครับ พ่อผู้ใหญ่ น้องๆ นักศึกษา จะพักกันที่โรงเรียนใช่ไหมครับ พวกผมก็เลยจะมาดูแลเบื้องต้นให้เด็กๆ ก่อน "หัวหน้าทีมงาน บอกอย่างสุภาพ ท่านเน้นย้ำแล้วว่า อย่าให้คุณทรายลำบากมากจนเกินไป อะไรที่พอจะช่วยได้ ให้ช่วยไปก่อน" ขอบคุณมากเลยครับ ที่มาช่วยเหลือ ผมขอบคุณแทนเด็กๆ ที่นี่เหลือเกิน "คนที่ตื่นเต้นจนแทบนอนไม่
รถกระบะขับตามรถบัสไปเรื่อยๆ เสียงคนในรถเงียบลง มีแต่เสียงเพลง สองสาวหลังจากกินกาแฟไปแล้ว ก็ยังเอาไม่อยู่หลับอยู่เบาะหลังด้วยความเพลียเพราะตื่นเต้นกันตั้งแต่เช้า"มองเค้าตาละห้อยเลยเพื่อน " คนขับรถมองคนข้างๆ แล้วแซวออกมา"ป่าวเลย " แผ่นดินปฏิเสธ เหลือบไปมองอีกที นอนยังน่ารักมากๆ เลย"งานหินนะ ไอ้พี่บอยแม่งกั้ก ถ้ามึงไม่ออกหน้าแสดงตัว รับรอง มันวอแวไม่จบ "คนที่ดูสนุกสนานเฮฮาไปวันๆ วิเคราะห์ปัญหาให้เพื่อน แผ่นดิน เป็นคนดี ดีแบบเนื้อแท้เลย จาก1ปีที่รู้จักมา เพียงพอที่จะเตือนกันได้"คนกลางเค้าไม่เอาอยู่แล้ว ยังหน้าด้านหน้าทนมาวอแวอีก กูว่า งานนี้ มึงต้องรุกเลย "อาคารเรียนข้างหน้าเป็นปูนเปลือยก่อยังไม่ได้ฉาบ สภาพเก่าทรุดโทรม แต่บริเวณที่ว่าง มีเหล็ก ปูน หินทราย กองเอาไว้รออยู่แล้ว เต็นท์ผ้าใบและห้องน้ำที่ขัดจนสะอาด พร้อมที่อาบน้ำที่สร้างเอาไว้ชั่วคราว ก็พร้อมสรรพสำหรับนักศึกษาเกือบสี่สิบคนที่มาในวันนี้" ขอบคุณพ่อผู้ใหญ่มากนะครับ ที่ช่วยดูแลทุกอย่าง " ประธานนักศึกษาบอกด้วยความเกรงใจ ที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว" ไม่ใช่เลยครับ มีผู้ใหญ่ใจดีจากบริษัทขนส่ง กรุณาขนของมามอบให้ จัดทุกอย่างเอาไว้อย่างด
เสียงเพลงยังก้องอยู่ในหู สายตาของแผ่นดินชัดเจนมาก เค้าบอกรักเธอ ผ่านเสียงเพลง เพลงที่ตั้งใจจะร้องไห้ฟัง แต่ยังหาโอกาสไม่ได้ เพลงนี้ เป็นเพลงที่คิดว่า มันตรงที่สุด ภาพตอนกลางคืนที่แอบไปหาที่หอใน ยังติดในใจ อยากบอกมานานแล้ว ว่า ชอบทรายเหลือเกิน แต่ไม่กล้าสองสาวยืนแปรงฟันคุยกันตรงที่อาบน้ำชั่วคราวที่อยู่ด้านหลัง แสงพระจันทร์ส่องลงสว่างไสว ภาพแบบนี้ ไม่มีที่กรุงเทพให้ได้เห็น" ไม่น่าเชื่อเลย ว่าอีตาดินจะหวานได้ขนาดนี้ ถ้ากี้เป็นทรายนะ คงมุดหน้าลงไปแล้ว มันเขิน “เพื่อนสาวออกอาการเกินเรื่องไปมาก นัยตาระยิบระยับ อย่างมีความสุข" ดีใจด้วยนะจ๊ะที่มีแฟน อย่างแผ่นดิน สำหรับเสิร์ฟ กี้ก็ไม่แน่ใจว่าดินจะดีพอ สำหรับทรายหรือเปล่า แต่กี้อยากให้ทรายลองเชื่อมั่นคนตรงหน้าดู เติบโตไปด้วยกัน อนาคตข้างหน้า ใครจะไปรู้ แผ่นดินอาจจะเป็นพ่อบ้าน ล้างจานทำกับข้าว เลี้ยงลูก แล้วให้คุณภรรยา ออกไปทำงานหาเงิน " “ดีนะ ถ้าเค้ายอม เค้าจะยอมมาเป็นพ่อบ้านให้ไหมล่ะ” สองสาวเดินคุยกันมา ก่อนจะนิ่งไป เมื่อเห็นคนที่ถูกนินทา ยืนหน้าเครียดอยู่" คุยกันไปก่อนเลย กี้ขอตัวก่อน " คนที่รู้หน้าที่ชิ่งไปพร้อมกับอุปกรณ์แปรงฟัน ปล่อยให
อาหารกลางวันหมดเกลี้ยงสมใจคนทำ ทุกคนที่ได้กินเอ่ยปากชมเชยฝีมือการปรุงอาหารของสาวๆ ที่น้อยคน แต่มากความสามารถ คนที่หั่นผัก เด็ดพริก ยิ้มกว้าง รับคำชมไปด้วย" โน่น เค้าชมคนปรุง ไม่ได้ชมคนเด็ดกะเพรา " เค้าบอกยิ้มๆ วางมือตัวเองลงบนศีรษะแล้วลูบเบาๆ มันดีทำให้รู้สึกดีมาก" แล้วรู้ได้ไง ว่าทรายเด็ดผัก ทำไมไม่คิดว่า ทรายเป็นคนผัดกะเพรา ทอดไข่ บ้างละ "" ก็เพราะมองอยู่ไง ถึงรู้ " แผ่นดินตอบแล้วนั่งลงข้างๆ มองแก้มแดงๆ แล้วอยากจะจิ้มเล่น แต่กลัวสายตาคนอื่นจะมองไม่ดีชาวบ้านที่มาช่วยงาน เริ่มงานในช่วงบ่ายกันแล้ว ลูกมือทั้งหมดจึงเฮละโลกันลงไปอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุในช่วงบ่ายจานชามและแก้วน้ำวางเรียงรายอยู่ในกะละมัง รอการทำความสะอาด รุ่นพี่สองสามคน ติดรถป้าๆ เข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อซื้อหาผักสด มาปรุงอาหารในช่วงเย็น ขนมแห้งขนมปังที่เตรียมมา มากเกินพอที่จะต้องซื้อเพิ่ม ดังนั้น ขาดแต่ผักสดที่ต้องหาแบบวันต่อวัน" ทรายกับกี้ ล้างจานได้ไหม คนอื่นเค้าจะได้เตรียมอาหารเย็นต่อ "สองสาวมองจานนับร้อยใบ กับแก้วน้ำและหม้อใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ ก้อกน้ำ แล้วตอบรับพร้อมกัน" สบายมากจ้า " สองสาวเปิดเ
" ใคร ยืนอยู่ตรงนั้น ออกมา " เสียงดุๆ ทำเอาคนที่ยืนอยู่คนเดียว ตกใจ " นี่ค่ะ ชุดคุณ " เด็กสาวเดินมาหา พร้อมเดรสลายดอกไม้สีฟ้าอ่อน ที่หอมกรุ่น " เกรงใจคุณทรายมากเลยค่ะ ความจริงเข็ม " เธอยังพูดไม่จบ คนที่เดินเข้ามา ในบ้าน ก็เดินมาถึง " มีอะไร " เด็กสาวมองคุณเมฆ แล้วตอบเสียงเบา " คุณคนนี้ ชุดเปื้อนค่ะ คุณทรายเลย " เด็กอ้อมแอ้มตอบ ทำเอาคนที่ทำให้ลำบาก หันไปมองคนตรงหน้า ร่างสูงใหญ่กว่า 180เซนติเมตร ผิวขาวจัด หน้าตาคมเข้มยืนอยู่ในชุด เสื้อยืดราคาแพง กางเกงขาสั้น " คือว่า ดิฉัน เป็นทีมงานที่มาวันนี้ค่ะ แล้วบังเอิญว่า " " ครับ ไปเปลี่ยนชุดเถอะ " เค้าบอกเสียงเรียบ แล้วมองเด็กในบ้าน ที่ยืนอยู่ " คอยดูแลแขกด้วย หาถุงมาใส่เสื้อผ้าที่เปื้อนด้วยนะ พี่ทรายลงมาแล้วใช่ไหม " น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน ผิดกับคนละคนที่คุยเสียงดุในโทรศัพท์ " ค่ะ คุณทรายกับคุณดินลงมาแล้ว คุณผู้หญิงถามว่า คุณเมฆจะทานข้าวกลางวันเลยไหมคะ "คนที่ถูกถามถึงส่ายหน้า " คนเยอะ ไปบ้านคุณปู่ดีกว่า " เค้าตอบสุภาพเช่นเดิม แล้วเดินตรงออกไปทางด้านหน้า คนงานมองแขกที่กำลังตกใจแล้วยิ้มให้ " คุณเมฆ ค่ะ เป็นน้องชายคุณทราย เ
รถตู้ที่มาจอดหน้าบ้าน ทำเอาคนในบ้านมองด้วยความแปลกใจ ที่คุณตาคุณยายมาที่บ้านตั้งแต่เช้า แถมยังมีเอสยูวีของพ่อสายกับแม่ชม ตามมาอีกคัน " เมฆ คุณตาคุณยายมาลูก " หม่ามี๊ที่กำลังเตรียมอาหารเช้า เรียกลูกชายที่กำลังนอนหลับอยู่ เพราะกว่าจะนอนก็เกือบเช้าแล้ว คนที่งัวเงียเดินลงมาจากข้างบน เปิดประตูรถเพื่อจะรับคุณตาคุณยายก็ต้องยิ้มกว้าง ตะโกนเสียงดัง " มี๊ พี่ทรายมาแล้ว "พี่สาวคนโตของบ้าน โผล่หน้าออกมา แล้วถูกดึงไปกอดแน่นด้วยความดีใจ หลายเดือนที่ไม่ได้เจอกัน ทำเอาหัวใจพองโต " โอ๊ย หายใจไม่ออก " น้องชายที่ตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยแล้วกอดพี่สาวด้วยความคิดถึง มองพี่ดินที่ยิ้มกว้างอยู่ข้างหลัง แล้วพยักหน้าให้กัน " พี่ทราย " หม่ามี๊เรียกลูกสาวคนโตแล้วดึงมากอดด้วยความคิดถึงเซอร์ไพรส์ที่เจ้าตัวเก็บเงียบ เอาไว้ บอกแค่เพียงว่าช่วงวันสองวันนี้ ทรายกับดิน จะเดินทาง คนทางนี้ก็คิดไปว่า อาจจะเดินทางไปเที่ยวกันสองต่อสอง ไม่คิดเลยว่า จะกลับมาก่อนกำหนด " ทรายส่งงานครบก่อน เช็คทุกอย่างแล้ว ว่าเรียบร้อย ก็เลยรีบกลับมา " ลูกสาวมองป๊าแล้วถูกดึงตัวไปกอด เหลืออีกไม่กี่เดือน พี่ทรายของ
" ดิน ทำไมน่ารักขนาดนี้ " แผ่นดินมองคนตรงหน้าที่เปรียบได้กับทุกอย่างในชีวิตของตัวเอง ความรักที่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน ก้าวข้ามมาจนกลายเป็นคู่รัก และ คู่หมั้น บ่มเพาะทุกอย่างด้วยเวลาและความเข้าใจ" ก็รักทรายมากนั่นแหละ ไม่มีอะไรเลย " เค้าบอกเสียงเรียบ จับแก้มคนตรงหน้าเอาไว้ " ดินเตรียมไว้หมด ระหว่างนั่งบนเครื่อง ทรายก็แค่เลือกที่ทรายชอบ แค่นั้นเอง " เค้าบอกย้ำอีกที " แต่งงานกันแล้ว ทรายก็ทำงาน ดินก็จะหางานทำ เราอยู่ด้วยกันอีกสักปี แล้วมีลูกเลย ดีไหม " คนที่อยากมีตัวน้อยๆ ถามขึ้นมา เรื่องนี้จะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ " ถ้าเราต้องทำงาน แล้วลูกเราใครจะเลี้ยง " แผ่นดินมองแฟนสาวที่กำลังช่วยวางแผนครอบครัว " เราต้องย้ายไปอยู่บ้านใกล้ป๊ากับมี๊ ถ้าทรายไม่ติด ดินก็มีแบบบ้านเอาไว้ให้เลือกด้วย " แผ่นดินเตรียมการไว้หมดแล้ว ระหว่างที่เธอเรียนหนักตลอดวัน เค้าก็คิดแต่เรื่องของเราสองคนมาตลอด " ไม่ติดเลย กลับไปคราวนี้ จัดการให้เรียบร้อยทุกอย่างเลยนะ ทั้งเรื่องงานแต่งงาน และบ้านของเรา " แผ่นดินพยักหน้ารัวๆ พี่ทรายที่เป็นผู้นำมาตลอด ถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้ว เพื่อให้แผ่น
ผู้คนจำนวนหลายพันคนเข้ามาแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ ทิวเขาที่กำลังเป็นนักเรียนแพทย์ปี5ที่ยุ่งสุดๆ เดินเข้ามาที่มหาวิทยาลัย พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ วันนี้เพื่อนที่ แลกเวลากันได้ ช่วยเหลือเต็มที่ เพื่อให้หมอทิวมางานวันนี้ " เค้ก จะไหวหรอ อยู่โรงพยาบาลมาสิบกว่าชั่วโมงแล้วนะ " คุณหมอสาวค้อนเพื่อนที่สนิทกันมากขึ้น “ไปเลยรีบไป เค้กจะอยู่ให้แค่สามชั่วโมง แล้วรีบกลับมา งานวันรับปริญญามันสำคัญมากนะ ทิวต้องไปเก็บความทรงจำนี้ไว้สิ” เพื่อนสาวบอกยิ้มๆ โบกมือให้คุณหมอที่สวมเสื้อคณะแพทยศาสตร์สีขาว เดินตรงดิ่งออกไป คนที่ยืนมองยิ้มกว้างออกมา พี่พยาบาลสาวยิ้มกับความรักเพื่อนของคุณหมอร่างเล็ก " หมอทิวไปรับปริญญาแฟน แล้วหมอเค้กละคะ เมื่อไหร่จะมีแฟน " " เนื้อคู่หมออยู่เกาหลีค่ะ คงนานมากกว่าจะเดินทางมา " คนที่เคยแอบรักเพื่อน ยอมรับความจริง ทิวเขาเป็นคนดีเกินกว่า จะเสียเค้าไป ถ้าเป็นแฟนไม่ได้ ก็ต้องเป็นเพื่อนให้ได้ ก็เท่านั้นเอง คนที่ยืนโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่เป็นชายล้วนยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลา สวมแว่นตากันแดดสีดำ ยืนรายล้อมอยู่กับเพื่อน พ่อแม่ของม่อน อยู่ต่างประเทศ ดังนั้น เจ้าตัวจึงมีแต่เพ
เสื้อยืดที่สวมอยู่เป็นประจำ มีแต่โทนสีเข้ม กางเกงที่สวมใส่ก็เป็นแนวเซอร์จนน่ากลัวผู้ใหญ่จะตกใจ ทิวเขามองแฟนที่กำลังเลือกเสื้อผ้า แล้วถอนหายใจออกมา " ใส่ไปเถอะ ใส่ชุดไหนก็หล่อ " คนที่เป็นกังวล เดินวนไปวนมาหน้ากระจก นี่เป็นครั้งแรก ที่จะไปบ้านแฟน " ตอนไปเจอคุณปู่ ไม่เห็นตื่นเต้นแบบนี้ " ทิวเขาถามแล้วหยิบเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน กับกางเกงผ้าสีน้ำตาลส่งให้ " ชุดนี้ไหม " เค้าถามเสียงเข้ม " ครับ ชุดนี้ครับ " คนที่รับชุดมาถอดเสื้อผ้าตัวเก่าออก แล้วสวมชุดใหม่ ไ ก็คุณปู่ใจดีสุดๆ คุณย่าก็น่ารักมาก แบบวัยรุ่นมากๆ เลย แถมคุณปู่ยังเป็นอดีตนักแข่งรถ อีกด้วย เฟี้ยวสุดๆ "ม่อนบอกอย่างชื่นชม การพบเจอกับคุณปู่คุณย่าครั้งแรกที่บ้าน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่ง คุณปู่ใจดีมากเหลือเกิน ทุกคำพูดจริงใจ แบบผู้ใหญ่ใจดี ที่เข้าใจชีวิต และหลายๆ ครั้งต่อมา ก็สนิทใจขึ้นมาทันที " แต่พ่อแม่ทิว กับ ป๊า กับมี๊ละครับ " คนที่เป็นกังวล หน้าซีดเซียว " เอาน่า ถ้าอึดอัดใจ ก็บอกมาเลย " ทิวเขาบอกอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยแน่นอน รถเก๋งสีขาวจอดที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่น คนที่เป็นคนเลือกร้าน
หลานชายน้ำตาร่วงหล่นเป็นทาง ใบหน้าของหลานชายที่เป็นดังดวงใจของตัวเอง เปียกปอนไปด้วยน้ำตา ทิวเขาเก็บความทุกข์เอาไว้ในใจมานานเท่าไหร่แล้ว ทำไมถึงไม่มาหาปู่ ไม่มาบอกปู่ ปู่แก่ๆ คนนี้จะเคียงข้างหลานชาย ปัดเป่าความทุกข์ยากในใจ ให้เบาบางลงไป " ปู่จะคุยกับย่าเอง อย่ากังวลไปเลยลูก ส่วนปู่เจกับย่าวุ้น เค้าก็รักทิวไม่น้อย ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องห่วงสักนิด หากพ่อแม่ของทิว ไม่เข้าใจ ปู่ก็จะช่วยอีกแรงนะลูก เอาไว้วันไหนที่พร้อมแล้ว ก็ค่อยบอก แต่ตอนนี้ สบายใจได้เลย ปู่รับรู้แล้ว ว่าปู่มีหลานเขย หรือ หลานสะใภ้ "คนที่พยายามตามโลกให้ทัน ถามหลานชาย " สะใภ้ครับเรียนวิศวะด้วย " ปู่อิฐยิ้มกว้างออกมา กอดหลานชายลูบหัวลูบหลังเบาๆ " คราวหน้า นัดมานะ มากินข้าวบ้านเรา หรือจะไปเจอกันที่ร้านข้างนอกก็ได้ ทิวเลือกมา ปู่เป็นเจ้ามือเอง "ทิวเขายิ้มกว้างออกมา ชีวิตของตัวเองเติบโตมาด้วยความรัก ความอบอุ่น ทุกคนพร้อมจะซัพพอร์ตเสมอแต่เพราะพ่อสาย กับแม่ชม ไม่ใช่แบบปู่ ผู้ใช้ชีวิตโลดโผนมาก่อน ดังนั้น การคุยกับพ่อ ยังเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ที่ยังไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ รถตู้ขับออกจากบ้านไปแล้ว ปู่อิฐกอดเอวย่ารุ้งที่ยืน
สองหนุ่มนั่งบนรถตู้ของที่บ้านปลายทางที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง จุดหมายแรกคือร้านหนังสือที่เป็นแหล่งรวมหนังสือทุกอย่าง ทิวเขาตรงดิ่งไปทางตำราวิชาการ ทางการแพทย์ที่ตัวเองสนใจ ส่วนอีกคนก็ดิ่งไปที่หนังสือการ์ตูน ที่ตัวเองสนใจเช่นกัน พนักงานแคชเชียร์สาว มองกองหนังสือตรงหน้าแล้วอมยิ้ม หนังสือที่เลือก ไม่ต่างจากรูปลักษณ์ที่ได้เห็น คนที่สวมแว่น หน้าตาหล่อเหลาอ่อนโยน เลือกตำราวิชาการภาษาอังกฤษสามเล่ม ราคาหลายพันบาท กับอีกคน ที่เลือกหนังสือการ์ตูนมังงะ สามเล่มที่เพิ่งออกใหม่ล่าสุด " แยกถุงกันครบ " หนุ่มน้อยน่ารักบอกเสียงอ่อนโยน ทำตาวิบวับส่งบัตรเครดิตให้พี่พนักงาน " คุณปู่เห็นบิลค่าหนังสือ คงดีใจมาก ที่เงินหลายพันทำประโยชน์ให้หมอทิว " ตัวแสบบอกยิ้มๆ ถือถุงหนังสือหนักอึ้งให้พี่ชาย " มี๊บอกว่า ให้ซื้อเสื้อผ้าดีๆ คนละสองสามชุดครับพี่ทิวจะรับปริญญาพี่ทรายแล้ว ต้องหล่อไปนะครับ "พี่สาวคนโตใกล้จะรับปริญญาแล้ว และข่าวที่น้องชายบอกก็คือ พี่ทรายจะไปอังกฤษเลย " อย่าบอกพี่ดินนะ เมฆคันปากยิบๆ ยังไม่กล้าพูด " น้องชายคนเล็กของบ้านบอกพี่ชายคนกลาง ทิวเขารู้เหตุผลของทุกคน " รู้แล้ว " คุณหมอบอกยิ้ม
หากคำบอกรัก เป็นสิ่งที่พิสูจน์ใจ การกระทำก็สำคัญยิ่งกว่า ทิวเขาเป็นว่าที่คุณหมอหนุ่ม อนาคตไกล พื้นฐานครอบครัวก็ดูดีเหลือเกิน แต่กลับมาสนใจในตัวผู้ชายธรรมดาอย่างเค้า ผู้ชายที่เกเรไปวันๆ มีดีแค่เพียงหน้าตา " ทิว ม่อนหวงนะ " ทิวเขายิ้มกว้าง ชอบเหลือเกินกับท่าทีออดอ้อนแบบนี้ มันคือความจริงใจที่เค้าได้พบเห็นเพียงคนเดียว " หวงอะไร ทิวก็มีแค่ม่อนคนเดียว " เค้าบอกเสียงนุ่มดึงตัวมานั่งที่โซฟามองคนตรงหน้าที่ทำให้ใจสั่นตั้งแต่แรก " ถามได้ไหม ว่าชอบตรงไหน " " หน้าตา กับริมฝีปากที่น่าจูบ " ทิวเขาบอกตามตรง ที่สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ คงจะเป็นหน้าตากับริมฝีปากนั่นแหละ " แล้วไงต่อ " คนเหมือนจะถูกจีบ ถามเสียงหวาน ริมฝีปากของทิวเขา สัมผัสที่ลำคอขาว ใช้ลิ้นสัมผัสเบาๆ" อยากได้ " คำตอบตรงไปตรงมา ทำเอาใจสั่นไหว ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย " บ้ากามหรอไง คุณหมอ " คนอ้อนถาม เพราะตอนนี้รู้สึกมากๆ ว่า หัวใจสั่นรัวเต็มที่ มันดีเหลือเกิน ที่เค้าต้องการ เค้ามาก " ก็ไม่เคยอยากได้ใครเลย นอกจากม่อนคนเดียว" เค้าบอกออกมา ทำเอาคนฟังใจพอง มันดีเหลือเกินที่ได้เป็นที่รัก จูบที่เร่าร้อนอ่อนโยน ริมฝีปาก ใบหน้าแ
" ทิวไม่มีอะไรเป็นความลับกับม่อน "คนที่เดินเข้ามาทักทาย อึ้งไปทันที คนที่ฟุบนอนบนโต๊ะยิ้มใจพอง ไอ้หมอบ้า มาพูดอะไรแบบนี้ เขินนะโว้ย " มีอะไรหรอ " ม่อนเงยหน้าขึ้นมาถามเพื่อนร่วมคลาส ชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งคู่ นั่งอยู่ด้วยกัน " คือว่า เพื่อนเราอยากจะรู้จัก "กลุ่มสาวๆ ที่ยังไม่ออกไป ยิ้มเขินออกมา อยากรู้จักทั้งคู่นั่นแหละ ตอนแรกก็อยากรู้จักทิวเขา แต่ตอนนี้ ม่อนก็น่ารักมาก " ก็รู้จักกันนี่ไง คนนี้ชื่อม่อนเรียนวิศวฯ คนนี้ชื่อทิวเรียนแพทย์ โอเค จบนะ "คนขี้หวงบอกออกมา แล้วเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้ของคนข้างๆ" ไปนะ มีธุระ " ชายหนุ่มสองคนเดินออกจากห้องไปแล้วสาวๆ พากันมองตาละห้อยด้วยความเสียดาย " ทิวเขาอะ เนิร์ดตัวพ่อ ไม่คบใครเลย ไม่จีบใครด้วย ตั้งใจเรียนอย่างเดียว ส่วนอีตาม่อนก็ขาฟันไหมละ สาวเยอะมาก ต่างขั้วกันขนาดนั้นมาสนิทกันได้ไง "คนที่พอจะได้ยินชื่อเสียงเม้าท์กับเพื่อน ทิวเขาน่ารักน่าเอ็นดู ม่อนก็ดูแบดๆ ไม่น่าสนิทกัน" หวงหรอ" ประตูลิฟต์ปิดแล้ว ทิวเขาก็ถามคนข้างๆ ทันที มือที่ว่างอยู่โอบเองเข้ามาใกล้ " มาก " คนยอมรับความจริงบอกเพียงเท่านี้ ก่อนที่แยกออกจากกัน เมื่อมีคนเปิดลิฟต์