“… พอได้แล้วมั้ง” เสียงทุ้มปรามสาวน้อยที่เอาแต่ซุกซบหาไออุ่นจากแผงอกเปลือยเปล่า ชายหนุ่มกระชับคนในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ครู่หนึ่งเธอก็ส่งเสียงกระโชกโฮกฮาก
“อีเปรี้ยว! อีพี่บิ๊กมันทิ้งกูได้ไง!”
พีระพงษ์ส่ายหน้าไปมา เมื่อบอกให้เธอพอ...
พอเถอะสำหรับการโอดครวญ น้ำตาแต่ละหยดซึ่งไม่ควรรินไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย และที่เขาอดทนแม่สาวน้อย ตั้งแต่ออกจากสถานเริงรมย์มา ยอมให้ยืมไหล่เป็นที่พึ่งทางใจบอบช้ำ ถึงแม้ว่าตนไม่ได้เป็นชายต้นเรื่องเลย
หญิงสาวยังส่งเสียงอ้อแอ้โวยวาย ตัดพ้อต่อว่าแฟนหนุ่มที่คบหากันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง จู่ ๆ ทอดทิ้งกันไปไม่เอ่ยคำลา ทำให้เธอต้องไปซดเหล้าย้อมใจ
“อีพี่บิ๊ก... ฮืออ เรียนหนังสือมาด้วยกัน รับปริญญาด้วยกัน ฮึก... ทำไมพี่ผิดสัญญากับหนู”
“ไหนฟ้าบอกว่าเป็นพี่รหัส ทำไมเรียนหนังสือด้วยกันได้ล่ะครับ? รับปริญญาด้วยกันได้ยังไง...”
“เรียนที่เดียวกัน... ฮือ... นั่นไง เรียนมอเดียวกัน... นั่งโต๊ะตัวเดียวกัน ฮึก ๆ”
เสียงสะอื้นไห้ไม่ขาด กลิ่นสาเก แอลกอฮอล์หลายชนิดปนเปอยู่ในลมหายใจที่แผ่วเบา เธอคล้ายจะหลับก็ไม่หลับ เธอไม่สามารถหลับเพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจ ขนาดซัดน้ำเปลี่ยนนิสัยเข้าไป ยังตื่นขึ้นมาคร่ำครวญน้ำตานองหน้าเป็นระยะ ๆ
อิงฟ้าไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง แม้หยาดน้ำตาบนแก้มแดงก่ำถูกปาดด้วยปลายนิ้วโป้ง ด้วยแววตาอันอบอุ่นอ่อนโยน เธอกลับไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน กระโดดขึ้นรถตามอีเปรี้ยวกลับห้องมาทำไม นอนกอดมันทำไม แล้ว...
“มึง... ไม่แต๊บเหรอ?”
ทั้งเปียกทั้งแข็ง! อิงฟ้าไม่ใช่เด็กน้อย ถึงเมาเท่าไรก็รู้อยู่ว่าคืออะไร พอขยับหัวเข่ายันเจ้าน้องชายที่กำลังทิ่มตำบนหน้าขา ชายหนุ่มถึงกับสูดลมเข้าปาก
“มึงแต๊บดี ๆ ดิ้! น้องชายมึงมันสู้ขากูเนี่ย... อีเปรี้ยว...”
กับผู้หญิงสวย ๆ สองต่อสอง ในบ้านตัวเอง ไม่มีสาวคนไหนได้รับสิทธิพิเศษนี้ ทว่าแม่สาวน้อยนักท่องราตรีค่ำคืนเดียว เพิ่งพบหน้ากันหมาด ๆ ได้เข้าบ้านของเขามาหน้าตาเฉย แถมอาเจียนใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของเขาอีกต่างหาก
พีระพงษ์อยู่ในสภาพกางเกงตัวเดียว ล้างตัวสักหน่อยแล้วเขากลับมานอนกกกอดสาวน้อยบนเตียง
บอกไม่ใช่อีเปรี้ยว... เธอก็ไม่ฟัง เมาเลอะเทอะ พูดจาวกไปวนมาจับใจความไม่ได้
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปจับศีรษะน้อย ลูบหัวเบา ๆ เหมือนลูบหัวลูกหมา
“ปกตินอนกอดเพื่อนสาวสองแบบนี้หรือ... คุณพ่อคุณแม่รู้ไหม?”
คนเมาทำเป็นหูทวนลม ซุกใบหน้าร้อนผ่าวหาอ้อมอกอีเปรี้ยวอย่างเอาแต่ใจ
ชายหนุ่มทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสัมผัสสยิว จะกลัวเข่าสาวน้อยขยับพลาดสักทีก็ไม่ เธอสะกิดด้วยหน้าขาเบา ๆ อีก ด้วยความที่อยากกอดเขาให้แน่นขึ้น มันยังผงกคอสู้! พอเรียวขานุ่มเนียนหนีบเข้าโอบรอบน้องชายตัวดีมิดชิด เขาลอบกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับ เลื่อนมือไปเชยคางมนขึ้น
ดวงตาคู่คมปลาบประกายสบนัยน์ตาฉ่ำปรืออย่างออดอ้อน ขณะโลกพร่ามัวทำให้เธอส่ายหน้าไปมาเหมือนกับว่ามองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง
“อี...”
“พี่พี... ที่น้องดวลเหล้าโต๊ะข้าง ๆ จนน็อกคาโต๊ะยังไงครับ ใช่อีเปรี้ยวที่ไหน แม่สาวน้อย...” ปลายเสียงย้ำ ‘แม่สาวน้อย’ ทว่าแววตาร้อนแรงที่มองสาวในอ้อมแขน เหมือนกำลังมองลูกกวางน้อยในกรงเล็บเสือ...
จะไม่ทำอะไรเลยคงเสียเชิง รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่ถ้าทำ ก็คงไม่ดี ทำไม่ได้เลยต่างหาก! ไม่ดีแน่!
พีระพงษ์ไม่อยากให้เสียการใหญ่ อุตส่าห์แอบตามสาวน้อยคนสวยมาหลายวัน
“อ้อ... พี่รูปหล่อ” รอยยิ้มเมามายบนใบหน้าหวานเรียกเสียงหัวเราะคิกคัก หญิงสาวกะพริบตาไม่กี่ครั้ง ก่อนจะสิ้นฤทธิ์ ผล็อยหลับไปดื้อ ๆ
ชายหนุ่มคิดว่าเขาคงหมดธุระในค่ำคืนนี้ ทว่าใจเจ้ากรรมไม่รักดี ดันเพลิดเพลินอยู่กับใบหน้าสวยใส ลมหายใจมั่นคงในสีหน้าผ่อนคลาย ผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากอมชมพูอมแดง เป็นสีเดียวกับแก้มแดงระเรื่อ
สีเดียวกับแก้มสากใต้ไรเคราเขียวครึ้มเวลานี้ เพียงเลือดในกายรุ่มร้อนสูบฉีดอย่างรุนแรง เธอทำให้เขาเปิดเผยรอยยิ้มอ่อนโยนโดยไม่รู้สึกตัว
ทั้งที่... แม่เสือสาวนักท่องราตรีในเดรสรัดรูปดูเย้ายั่วใจ กระโปรงสั้นโยกย้ายส่ายไปมาใต้แสงสีเสียง ในมือถือแก้วเหล้า ไม่ใช่สเปคของพีระพงษ์เลย
ในกระเป๋าสะพายใบโตของเธอยังมีกระโปรงอีกตัวสำหรับใส่ทำงานเป็นกระโปรงผ้าอย่างดีสีดำสนิท เสื้อคลุมสูทหลวม ๆ ปกปิดเดรสหวือหวา ไว้แปลงกายเป็นเสือสาวในยามราตรี โดยไม่ต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
กลิ่นเหล้าหลายชนิดคละคลุ้งไปกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ กระตุ้นอารมณ์ชายผู้ห่างเหินเรื่องบนเตียงมาสักระยะหนึ่งเป็นอย่างดี
ในที่สุดพีระพงษ์ก็อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงลอบดมแก้มใสเข้าฟอดหนึ่ง มืออีกข้างปัดปอยผมนุ่มหอมสีน้ำตาลอัลมอนด์ มองเห็นลำคอเพรียวระหง ผิวขาวนวลเนียนมองเห็นเส้นเลือดฝาดแดง ชีพจรที่เต้นอย่างผ่อนคลายลง ดึงดูดริมฝีปากหนาหยักได้รูปให้ประทับจุมพิตลงบนนั้น ทำตัวเป็นพวกลักขโมย
ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด...
ชายหนุ่มปิดตาลง กัดกรามกรอดจนเห็นสันกราม ก่อนที่เขาจะตัดสินใจผลักเรือนร่างหอมงามออกจากอ้อมแขน ด้วยสีหน้าเสียอกเสียดาย
รับปากพี่ยศเอาไว้น่ะสิ...
ให้ตายเหอะ! พี่ยศนะพี่ยศ!
พีระพงษ์ไม่อยากพาสาวน้อยไปส่งในสภาพเมาเละเทะ กลัวว่าเธอจะถูกคุณพ่อคุณแม่ดุว่า แต่ถ้าพาไปส่งเลยก็ดูจะเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าฉวยโอกาสนอนกกกอดแม่สาวตัวนุ่มนิ่มจนถึงรุ่งเช้ามีทางเลือกมากเสียเมื่อไร...เขาครุ่นคิดเรื่องนี้จนผล็อยหลับตามเธอไป ลืมตาตื่นอีกทีก็ไม่มีทางเลือกแล้วจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัว หยิบเชิ้ตสีครีมและกางเกงสแล็คมาสวม ค่อยทิ้งตัวลงนอนมองใบหน้าสดสวย พริ้มตาหลับสบาย ใจหนึ่งคงไม่อยากปลุก ยังลืมไปว่าเสื้ออาจยับ เขาไม่สนใจว่ามันจะยับเลยต่างหากกระทั่งเปลือกตาขาวใต้เครื่องสำอางสีน้ำเงินประกายกากเพชรระยิบระยับใต้อายไลน์เนอร์คมกริบ ขยับขึ้นลงเบา ๆ เธอหรี่ตาลงอีกครั้งเพราะอาการร้าวระบมไปทั่วศีรษะอันเนื่องมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เรียกเขาด้วยเสียงแหบพร่า“คะ... คุณ... พี...”“เมื่อคืนเรียกพี่พี ตอนนี้ก็เรียกพี่สิครับ หรือจะเรียกอาพี...”หญิงสาวเบิกตากว้าง ลุกขึ้นนั่งสำรวจสภาพตัวเองในทันทีด้วยท่าทางตื่นตระหนก หากพอรับรู้ได้ว่าไม่รู้สึกเจ็บตรงไหน เดรสสีดำตัวโปรดยังสวมอยู่ครบก็ค่อยโล่งใจ ก่อนจะส่ายหน้ามองไปรอบ ๆ ห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับดำ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีมูลค่าคล้ายกับว่าเป็นบ้านหรูของหน
หากทวียศไม่หัดเล่นโซเชียลเพราะลูก ๆ ชวนให้ลองเล่น ได้หัดเข้ากลุ่มเฟซบุ๊กกับเขา คงไม่มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าอีกหลายคน เรียนหนังสือร่วมชั้นเรียน โรงเรียนมัธยมที่เดียวกันอย่างพีระพงษ์ก็เป็นรุ่นน้องของทวียศ ถึงแม้ว่าไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปี ยังคงมีความสนิทสนม มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน“เก็บบ้านเสร็จแล้วหรือยังล่ะพี เรียบร้อยดีไหม...”“เรียบร้อยครับพี่ ขอบคุณพี่ยศมากเลยนะ เจ้าของบ้านเดิมจัดการเรื่องเอกสารให้ผมทุกอย่าง ค่าโอนก็ออกให้ บ้านหลังนี้ต่อเติมแล้วสวย เดินทางไปทำงานสะดวก”ร่างสูงในเชิ้ตทำงานหล่อเหลาหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีขาว ส่งของฝากหลานให้เจ้าของบ้านกับมือ“นี่ของฝากหลาน วัยกำลังเรียนรู้หัดพูดหัดเดิน ผมแวะเซ็นทรัลซื้อผลไม้ของเล่นมาครับพี่...”“ขอบใจ ๆ”คุณตาท่าทางตื่นเต้น แววตาเป็นประกายขณะเปิดถุงพลาสติก ก้มลงดูตุ๊กตาผลไม้ที่แกะออกจากกันได้ ติดกันใหม่อีกครั้งเป็นของเล่นฝึกพัฒนาการของเด็กในอายุวัยขวบกว่า ๆ กว่าจะเงยหน้าขึ้นพูดคุยกับเพื่อนบ้าน“เอ้อ... วันก่อนพี่ขอบใจแกมาก แต่ว่าคราวหน้าคงไม่รบกวน พี่ล่ะเกรงใจแก”ชายหนุ่มยกมือโบกไปมา “ไม่ ๆ เลยพี่ พี่กวนผมได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ขอให้ก
“เอ๊ย... จริงหรอ? เป็นไงบ้างอะ กูขอโทษ ๆ กูไม่ได้จะว่ามึงเลยนะ กูไม่รู้อะ...”วิทยาอยู่กับคุณป้าคุณลุง ไม่ไกลจากหมู่บ้านของอิงฟ้ามากนัก เธอรู้จักกับทั้งคู่เป็นอย่างดี ต้องไปร่วมงานศพของคุณป้าอยู่แล้ว ขอบตาบวมช้ำทำให้เธอนึกสงสารเพื่อนจับใจ เลื่อนมือไปตบบ่าให้กำลังใจประสาคนสนิทสนมกัน“สวดเมื่อไร? เจ้าภาพพอไหม ให้กูไปช่วยงานศพป้าแป๋วนะ”“เออมึง คงสวดวันนี้อะ แต่ญาติกูเยอะ มึงไม่ต้องห่วงเรื่องเจ้าภาพ... ไป ๆ ขึ้นรถก่อน ๆ” หนุ่มร่างสูงใหญ่ชวนเพื่อนสาวขึ้นรถยนต์สีขาวห้าประตู รุ่นใหม่ตามฐานะทางบ้านของวิทยาอยู่ดี ๆ สีหน้าเศร้าหมองก็เปลี่ยนไป ดวงตาคู่คมเปล่งประกายหิวกระหาย เพียงนึกถึงเจ้าของร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตดูดีมีราคา อกผายไหล่ผึ่งเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอาหล่อนน้ำลายสอ“ผู้คนนั้นแซ่บนะยะ... ได้กินยังอะ เล่าให้เพื่อนฟังบ้างสิ”“อีเปรี้ยว... นั่นรุ่นพ่อเลยนะมึง สามสิบเก้าจะสี่สิบ...” พูดพลางเบะปากว่า “แก่”“ไม่เห็นแก่ตรงไหน ขนาดพ่อมึงยังไม่แก่ พ่อหนุ่มเขี้ยวคมก็ไม่เรียกแก่หรอกย่ะ”“เออ ถ้าเจออีกเอาไปเลย กูยกให้ กูไม่ need ไม่หงี่ไม่รีบร้อนอยากมีผัว”“ไม่เอาอะ ไม่แย่งเพื่อนสาวดี
ดวงตาคู่สวยสั่นไหว ไม่ละวางตาไปจากร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาลายขวางสีน้ำเงินเข้ม ขับใบหน้าหล่อเหลาคมคายให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์ การที่เขาได้มาเป็นเพื่อนบ้านในซอยสอง ซอยฝั่งตรงกันข้าม เป็นหนุ่มวันไนท์ไม่แสตนด์ เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจของใครหรือเปล่า เธอก็ยังไม่รู้“เอ้อ... แล้วเก็บบ้านเสร็จหรือยังน่ะ?”“เรียบร้อยครับพี่ สองสามวันนี้ผมงานยุ่ง ๆ เลยเก็บของช้า แต่ว่าพวกกล้องวงจรปิดติดก่อนเก็บของ ย้ายมาวันแรก ๆ ก็ติดแล้วล่ะเพื่อความปลอดภัย มีอยู่ห้าตัวรอบบ้าน กล้องชัดมาก บันทึกย้อนหลังได้เป็นเดือน”“จริงเรอะ? ไหนขอดูหน่อยว่าชัดแค่ไหน เผื่อพี่จะได้ติดบ้าง บ้านเรามีเด็กเล็กด้วย”“ดี ๆ เลยนะ กล้องยี่ห้ออะไร แม่ว่าบ้านเราน่าจะติดสักตัวก็ดีนะ”“จะติดกล้องทำไมคะ คนอยู่ตั้งเยอะแยะ ไม่เหมือนบ้านคุณอาเขาอยู่คนเดียว ติดไปก็สิ้นเปลืองเงิน สิ้นเปลืองพลังงาน อุ๊ย คุณอา! โทรศัพท์สวยจังเลย ใช้รุ่นอะไรคะ?”อิงฟ้าคว้าโทรศัพท์ของคุณอามาอย่างไร้มารยาท ทำทุกคนตกใจไปหมด เพราะเธอยืนตัวตรงเป็นเสาหลัก ปิดปากเงียบตลอดจนคุณพ่อกับคุณอาจะเปิดกล้องวงจรปิดจากโทรศัพท์มือถือ เธอดันไปหยิบของของเขามา“ไปรู้ได้ยังไงล่ะ
ดวงตาคู่สวยสั่นไหว ไม่ละวางตาไปจากร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาลายขวางสีน้ำเงินเข้ม ขับใบหน้าหล่อเหลาคมคายให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์ การที่เขาได้มาเป็นเพื่อนบ้านในซอยสอง ซอยฝั่งตรงกันข้าม เป็นหนุ่มวันไนท์ไม่แสตนด์ เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจของใครหรือเปล่า เธอก็ยังไม่รู้“เอ้อ... แล้วเก็บบ้านเสร็จหรือยังน่ะ?”“เรียบร้อยครับพี่ สองสามวันนี้ผมงานยุ่ง ๆ เลยเก็บของช้า แต่ว่าพวกกล้องวงจรปิดติดก่อนเก็บของ ย้ายมาวันแรก ๆ ก็ติดแล้วล่ะเพื่อความปลอดภัย มีอยู่ห้าตัวรอบบ้าน กล้องชัดมาก บันทึกย้อนหลังได้เป็นเดือน”“จริงเรอะ? ไหนขอดูหน่อยว่าชัดแค่ไหน เผื่อพี่จะได้ติดบ้าง บ้านเรามีเด็กเล็กด้วย”“ดี ๆ เลยนะ กล้องยี่ห้ออะไร แม่ว่าบ้านเราน่าจะติดสักตัวก็ดีนะ”“จะติดกล้องทำไมคะ คนอยู่ตั้งเยอะแยะ ไม่เหมือนบ้านคุณอาเขาอยู่คนเดียว ติดไปก็สิ้นเปลืองเงิน สิ้นเปลืองพลังงาน อุ๊ย คุณอา! โทรศัพท์สวยจังเลย ใช้รุ่นอะไรคะ?”อิงฟ้าคว้าโทรศัพท์ของคุณอามาอย่างไร้มารยาท ทำทุกคนตกใจไปหมด เพราะเธอยืนตัวตรงเป็นเสาหลัก ปิดปากเงียบตลอดจนคุณพ่อกับคุณอาจะเปิดกล้องวงจรปิดจากโทรศัพท์มือถือ เธอดันไปหยิบของของเขามา“ไปรู้ได้ยังไงล่ะ
“เอ๊ย... จริงหรอ? เป็นไงบ้างอะ กูขอโทษ ๆ กูไม่ได้จะว่ามึงเลยนะ กูไม่รู้อะ...”วิทยาอยู่กับคุณป้าคุณลุง ไม่ไกลจากหมู่บ้านของอิงฟ้ามากนัก เธอรู้จักกับทั้งคู่เป็นอย่างดี ต้องไปร่วมงานศพของคุณป้าอยู่แล้ว ขอบตาบวมช้ำทำให้เธอนึกสงสารเพื่อนจับใจ เลื่อนมือไปตบบ่าให้กำลังใจประสาคนสนิทสนมกัน“สวดเมื่อไร? เจ้าภาพพอไหม ให้กูไปช่วยงานศพป้าแป๋วนะ”“เออมึง คงสวดวันนี้อะ แต่ญาติกูเยอะ มึงไม่ต้องห่วงเรื่องเจ้าภาพ... ไป ๆ ขึ้นรถก่อน ๆ” หนุ่มร่างสูงใหญ่ชวนเพื่อนสาวขึ้นรถยนต์สีขาวห้าประตู รุ่นใหม่ตามฐานะทางบ้านของวิทยาอยู่ดี ๆ สีหน้าเศร้าหมองก็เปลี่ยนไป ดวงตาคู่คมเปล่งประกายหิวกระหาย เพียงนึกถึงเจ้าของร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตดูดีมีราคา อกผายไหล่ผึ่งเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอาหล่อนน้ำลายสอ“ผู้คนนั้นแซ่บนะยะ... ได้กินยังอะ เล่าให้เพื่อนฟังบ้างสิ”“อีเปรี้ยว... นั่นรุ่นพ่อเลยนะมึง สามสิบเก้าจะสี่สิบ...” พูดพลางเบะปากว่า “แก่”“ไม่เห็นแก่ตรงไหน ขนาดพ่อมึงยังไม่แก่ พ่อหนุ่มเขี้ยวคมก็ไม่เรียกแก่หรอกย่ะ”“เออ ถ้าเจออีกเอาไปเลย กูยกให้ กูไม่ need ไม่หงี่ไม่รีบร้อนอยากมีผัว”“ไม่เอาอะ ไม่แย่งเพื่อนสาวดี
หากทวียศไม่หัดเล่นโซเชียลเพราะลูก ๆ ชวนให้ลองเล่น ได้หัดเข้ากลุ่มเฟซบุ๊กกับเขา คงไม่มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าอีกหลายคน เรียนหนังสือร่วมชั้นเรียน โรงเรียนมัธยมที่เดียวกันอย่างพีระพงษ์ก็เป็นรุ่นน้องของทวียศ ถึงแม้ว่าไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปี ยังคงมีความสนิทสนม มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน“เก็บบ้านเสร็จแล้วหรือยังล่ะพี เรียบร้อยดีไหม...”“เรียบร้อยครับพี่ ขอบคุณพี่ยศมากเลยนะ เจ้าของบ้านเดิมจัดการเรื่องเอกสารให้ผมทุกอย่าง ค่าโอนก็ออกให้ บ้านหลังนี้ต่อเติมแล้วสวย เดินทางไปทำงานสะดวก”ร่างสูงในเชิ้ตทำงานหล่อเหลาหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีขาว ส่งของฝากหลานให้เจ้าของบ้านกับมือ“นี่ของฝากหลาน วัยกำลังเรียนรู้หัดพูดหัดเดิน ผมแวะเซ็นทรัลซื้อผลไม้ของเล่นมาครับพี่...”“ขอบใจ ๆ”คุณตาท่าทางตื่นเต้น แววตาเป็นประกายขณะเปิดถุงพลาสติก ก้มลงดูตุ๊กตาผลไม้ที่แกะออกจากกันได้ ติดกันใหม่อีกครั้งเป็นของเล่นฝึกพัฒนาการของเด็กในอายุวัยขวบกว่า ๆ กว่าจะเงยหน้าขึ้นพูดคุยกับเพื่อนบ้าน“เอ้อ... วันก่อนพี่ขอบใจแกมาก แต่ว่าคราวหน้าคงไม่รบกวน พี่ล่ะเกรงใจแก”ชายหนุ่มยกมือโบกไปมา “ไม่ ๆ เลยพี่ พี่กวนผมได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ขอให้ก
พีระพงษ์ไม่อยากพาสาวน้อยไปส่งในสภาพเมาเละเทะ กลัวว่าเธอจะถูกคุณพ่อคุณแม่ดุว่า แต่ถ้าพาไปส่งเลยก็ดูจะเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าฉวยโอกาสนอนกกกอดแม่สาวตัวนุ่มนิ่มจนถึงรุ่งเช้ามีทางเลือกมากเสียเมื่อไร...เขาครุ่นคิดเรื่องนี้จนผล็อยหลับตามเธอไป ลืมตาตื่นอีกทีก็ไม่มีทางเลือกแล้วจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัว หยิบเชิ้ตสีครีมและกางเกงสแล็คมาสวม ค่อยทิ้งตัวลงนอนมองใบหน้าสดสวย พริ้มตาหลับสบาย ใจหนึ่งคงไม่อยากปลุก ยังลืมไปว่าเสื้ออาจยับ เขาไม่สนใจว่ามันจะยับเลยต่างหากกระทั่งเปลือกตาขาวใต้เครื่องสำอางสีน้ำเงินประกายกากเพชรระยิบระยับใต้อายไลน์เนอร์คมกริบ ขยับขึ้นลงเบา ๆ เธอหรี่ตาลงอีกครั้งเพราะอาการร้าวระบมไปทั่วศีรษะอันเนื่องมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เรียกเขาด้วยเสียงแหบพร่า“คะ... คุณ... พี...”“เมื่อคืนเรียกพี่พี ตอนนี้ก็เรียกพี่สิครับ หรือจะเรียกอาพี...”หญิงสาวเบิกตากว้าง ลุกขึ้นนั่งสำรวจสภาพตัวเองในทันทีด้วยท่าทางตื่นตระหนก หากพอรับรู้ได้ว่าไม่รู้สึกเจ็บตรงไหน เดรสสีดำตัวโปรดยังสวมอยู่ครบก็ค่อยโล่งใจ ก่อนจะส่ายหน้ามองไปรอบ ๆ ห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับดำ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีมูลค่าคล้ายกับว่าเป็นบ้านหรูของหน
“… พอได้แล้วมั้ง” เสียงทุ้มปรามสาวน้อยที่เอาแต่ซุกซบหาไออุ่นจากแผงอกเปลือยเปล่า ชายหนุ่มกระชับคนในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ครู่หนึ่งเธอก็ส่งเสียงกระโชกโฮกฮาก“อีเปรี้ยว! อีพี่บิ๊กมันทิ้งกูได้ไง!”พีระพงษ์ส่ายหน้าไปมา เมื่อบอกให้เธอพอ...พอเถอะสำหรับการโอดครวญ น้ำตาแต่ละหยดซึ่งไม่ควรรินไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย และที่เขาอดทนแม่สาวน้อย ตั้งแต่ออกจากสถานเริงรมย์มา ยอมให้ยืมไหล่เป็นที่พึ่งทางใจบอบช้ำ ถึงแม้ว่าตนไม่ได้เป็นชายต้นเรื่องเลยหญิงสาวยังส่งเสียงอ้อแอ้โวยวาย ตัดพ้อต่อว่าแฟนหนุ่มที่คบหากันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง จู่ ๆ ทอดทิ้งกันไปไม่เอ่ยคำลา ทำให้เธอต้องไปซดเหล้าย้อมใจ“อีพี่บิ๊ก... ฮืออ เรียนหนังสือมาด้วยกัน รับปริญญาด้วยกัน ฮึก... ทำไมพี่ผิดสัญญากับหนู”“ไหนฟ้าบอกว่าเป็นพี่รหัส ทำไมเรียนหนังสือด้วยกันได้ล่ะครับ? รับปริญญาด้วยกันได้ยังไง...”“เรียนที่เดียวกัน... ฮือ... นั่นไง เรียนมอเดียวกัน... นั่งโต๊ะตัวเดียวกัน ฮึก ๆ”เสียงสะอื้นไห้ไม่ขาด กลิ่นสาเก แอลกอฮอล์หลายชนิดปนเปอยู่ในลมหายใจที่แผ่วเบา เธอคล้ายจะหลับก็ไม่หลับ เธอไม่สามารถหลับเพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจ ขนาดซัดน้ำเปลี่ยนนิสัยเข้าไป ยัง