วาสิฏฐี ถอนใจไม่รู้เป็นรอบที่เท่าแล้วของวันหลังจากที่คนรับใช้ต่างวิ่งกระหืดกระหอบมาหาตนด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่น จนเธอต้องทั้งปลอบและให้กำลังใจพวกเจ้าหล่อนทุกครั้งที่สาวใช้วิ่งมาหา และทุกครั้งก็จะจบลงด้วยการที่เธอต้องเป็นคนไปกำราบ คนไข้ จอมดื้อรั้นและเอาแต่ใจที่สุดอย่าง ธีรดล ลูกชายของ คุณนรา นายจ้างที่มีพระคุณต่อเธอมาก และท่านก็รักและเอ็นดูเธอมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเสมือนหนึ่งลูกสาวของคุณนรานับตั้งแต่ก้าวเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของท่าน ด้วยการชักชวนของ วิกานดา สาวรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน ภรรยาของ ธีร์ ธีรเทพ พี่ชายคนโตของตระกูล ลูเซียโน่ เฉิน ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้าน จนเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณนรา ไปโดยปริยาย
ก่อนหน้านี้เธอมีหน้าที่ดูแลคุณนราในฐานะพยาบาลประจำตัวของท่าน แต่เมื่อต้นปีก่อนลูกชายคนเล็กของคุณนราประสบอุบัติเหตุที่ประเทศอิตาลี อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน และผลพวงจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ ธีรดลขาหักทั้งสองข้างและต้องนอนพักรักษาตัวอยู่นานกว่าอาการโดยรวมจะหายดี แต่เขาไม่สามารถเดินได้เพราะเจ้าตัวไม่ยอมเดิน และไม่ยอมทำกายภาพบำบัด คุณนราจึงให้ลูกชายคนโตพาตัวธีรดลกลับมารักษาตัวที่เมืองไทย
บาดแผลทางกาย ทั้งนอกและในนั้นหายดีแล้วในระดับหนึ่งแต่บาดแผลทางใจทำให้ธีรดล ชายหนุ่มอารมณ์ดี รักสนุก กลายเป็นคนที่เคร่งขรึม เจ้าอารมณ์และมักกราดเกรี้ยวใส่ทุกคนเสมอ เรียกได้ว่าเขาอารมณ์แปรปรวนมาก และต้องพบจิตแพทย์อยู่เป็นปีกว่าอารมณ์ของเขาจะมั่นคง
แต่กระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ภาวะทางอารมณ์ของเขาจะเป็นปกติดีในทุกวัน เช่นวันนี้ ไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหน หรือสาวใช้ทำอะไรไม่ถูกใจเขากันแน่ ธีรดลถึงได้อาละวาดบ้านกระเจิงแบบนี้...
“หนูจะไม่ไหวแล้วนะคะคุณวา” องุ่น สาวใช้ตัวอวบใหญ่สะอึกสะอื้นบอกทั้งน้ำตาดูน่าเวทนานัก
“หนูก็เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณธีมเหมือนจะกลับมาเป็นแบบเดิมอีกแล้ว ตื่นเช้ามาก็อารมณ์บูดแต่เช้า อาละวาดใส่ทุกคนเลย ไม่ยอมทำกายภาพบำบัดด้วย”
ส้มโอ พี่สาวขององุ่น สาวใช้วัยยี่สิบเศษเอ่ยขึ้น แล้วสองพี่น้องก็กอดกันร้องไห้
“หนูทำอะไรก็ไม่ถูกใจเลยจนหนูอยากจะลาออกหรือไม่ก็ขอกลับไปอยู่รับใช้คุณท่าน”
“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆ กันก่อนนะสาวๆ ทำใจให้ดีๆ ก่อน ไปหาอะไรกินกันก่อนไป คุณวาซื้อของกินมาเยอะแยะเลยไปแบ่งกันกินก่อนไป เดี๋ยวเรื่องคุณธีม คุณวาจัดการเอง”
หญิงสาวบอกสองพี่น้องด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยอ่อนโยน อันเป็นลักษณะนิสัยของเธอ
“ของกินหรือคะ” ส้มโอตาโต น้ำตาที่ไหลพรากๆ อยู่เมื่อครู่เหือดแห้งไปในบัดดล
“จ้า... ไปเถอะ ของวางอยู่ในครัวแล้ว”
“งั้นเราไปกันพี่ส้มโอ” ทั้งสองลุกขึ้นก่อนจะจูงมือกันไปยังห้องครัว
“แหะๆ แต่ว่า พวกหนูไม่ได้เห็นแก่กินนะคะคุณวา” สองพี่น้องหันมายิ้มแหยๆ ให้เธอเหมือนนึกได้
“จ้ะ คุณว่าไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
วาสิฏฐียิ้มขบขันกับทั้งสองสาว ส้มโอกับองุ่นไหว้ขอบคุณเธอก่อนจะวิ่งตื๋อจากไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างเอ็นดูทั้งสองพี่น้อง ก่อนจะเงยหน้าไปมองชั้นบนของบ้านหลังงามยังจุดที่เป็นห้องของผู้ชายเอาแต่ใจอย่างธีรดล ด้วยความหนักอึ้งในอก เธอจะต้องเผชิญอะไรอีกนะวันนี้ ขอไปทำธุระแค่สี่วัน บ้านก็เหมือนโดนพายุถล่มยับแบบนี้
“คนอะไร เอาแต่ใจชะมัด นังวาก็จะไม่ไหวแล้วนะเว้ย...”
หญิงสาวหลับตาลงกัดฟันพยายามข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ และท่องไว้เสมอว่า งานหิน งานยาก งานมหาโหดกว่านี้เธอก็ผ่านมันมาแล้ว เจอโหดกว่านี้อีกนิดหน่อยจะเป็นไรไป
โหดกว่านิดหน่อยเหรอ.. ไม่มั้ง งานนี้มันทั้งมหาโหด มหาเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ และอันตรายต่อใจเหลือเกิน..
“สู้ๆ นังวา แกต้องผ่านมันไปให้ได้ เอาแต่ใจ งี่เง่านักก็จับปล้ำทำสามีไปเลยสิ...”
หญิงสาวบอกตัวเองอย่างมุ่งมั่นปละก็แอบขบขันอยู่ในใจ เธอนี่นะจะปล้ำเจ้านายที่เป็นคนไข้จอมเกเรเป็นสามี บ้าไปแล้วแน่ๆ นังวาเอ๋ย...
“วันๆ เอาแต่อาละวาด ไม่ได้ช่วยสร้างประโยชน์อะไรเล้ย...”
หญิงสาวกอดอกมองคนที่นั่งหน้าบูดหน้างออยู่บนวีลแชร์ มองออกไปยังสวนด้านนอกทำเหมือนไม่รับรู้การมาถึงของเธอ
“ฉันบอกให้ทุกคนออกไปไม่ใช่หรือไง เสนอหน้าอยู่ทำไม”
เขาพูดโดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ หญิงสาวส่ายหน้าแล้วถอนใจอย่างระอา
“เอาแต่ใจ นี่คนอายุสามสิบหรือสามขวบกันแน่”
วาสิฏฐีเดินไปหยุดตรงหน้าของเขา พลางยิ้มเยาะ ธีรดลเงยหน้ามองหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ แต่หญิงสาวทำไม่รู้ไม่ชี้
“นี่เธอ... เธอเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน”
“ฉันก็เป็นพยาบาลประจำตัวของคุณไง เอาล่ะ มากินข้าวแล้วก็กินยาได้แล้ว จะได้มาทำกายภาพฯ กัน”
หญิงสาวไม่สนใจท่าทางกราดเกรี้ยวของเขาเดินไปยกถาดอาหารมาวางที่โต๊ะที่ระเบียงกว้างแล้วเดินมาเข็นวีลแชร์ของเขาไปโดยไม่สนใจท่าทีขัดขืนของชายหนุ่ม
“นี่เธอ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่กิน อย่ามายุ่งกับฉัน หูแตกหรือไง”
ธีรดลโวยวายพยายามขัดขืนแม่พยาบาลจอมวุ่นวายที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาตลอดเวลาที่เขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน นี่เข้าเดือนที่หกแล้วที่วาสิฏฐี เข้ามาวุ่นวายกับเขาเจ้ากี้เจ้าการทุกอย่างทั้งที่เขาไม่ได้อยากทำกายภาพบำบัด และไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาอยากอยู่คนเดียวไม่อยากรักษาตัวให้หาย ทั้งบาดแผลในใจและกาย อยากจะหายไปจากโลกนี้เสียด้วยซ้ำ...
ตอนที่2.“หูไม่ได้แตกและได้ยินทุกคำ” “ได้ยินแล้วยังจะมายุ่งอีก” “ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะนี่คือหน้าที่ของฉัน เอาล่ะอย่าพูดมาก มากินข้าวได้แล้วค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจท่าทางเหมือนเด็กสามขวบของเขาแต่ตักข้าวมาตรงปากของเขา “อ้าปากสิคะ” วาสิฏฐีบอกพร้อมด้วยสีหน้าขึงขัง ธีรดลตวัดสายตาคมเข้มมองอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งแดงก่ำด้วยความกราดเกรี้ยว หากเป็นคนอื่นคงกลัวจนหัวหด แต่ขอโทษ ไม่ใช่เธอแน่นอน วาสิฏฐีฉีกยิ้มหวานให้เขา“กินเองไม่ได้ก็ต้องป้อนไงคะ คุณหนูธีม...”นอกจากไม่กลัวแล้วยังมีหน้าใจกล้ายั่วแหย่เขาอีก ธีรดลมองเธอตาขุ่นเข้ม “ไม่ต้องมายุ่ง” “ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะคุณเป็นคนไข้ของฉัน” “คุณราวีคนไข้ไม่เลิกแบบนี้ทุกคนเลยรึไง” “อะไรกันคุณ นี่เขาเรียกว่าดูแลเอาใจใส่คนไข้อย่างดีต่างหากล่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยีไม่ยี่หระต่อสายตาขวางๆ ของเขา “เอ้า อ้าปาก กินข้าวเสียทีสิคะ จะได้กินยา ฉันมีอย่างอื่นต้องทำต่อ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กที่จะต้องมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำคุณทั้งวัน”“ฉันไม่กิน และฉันก็ไม่ใช่เด็กสามขวบ”“เฮ๊อะทำตัวยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีก” หญิงสาวพูดเบาๆ พลางย่นจมูกใส่เขา ธีรดลเห็นท่าท
ตอนที่3.พูดจบเธอก็ยัดกระดาษตารางการทำกายภาพบำบัดใส่มือของเขาแล้วเดินหนีไปอย่างไม่ใส่ใจอารมณ์ฉุนเฉียวของคนไข้จอมเอาแต่ใจ สนใจทำไมล่ะ ในเมื่อสิทธิ์ในการดูแลรักษาเขานั้นอยู่ในกำมือเธอทั้งหมด และคนที่กุมอำนาจสูงสูดในบ้านก็เป็นพวกเดียวกันกับเธอ คนที่จะต้องยอมก็คือธีรดลต่างหาก หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจและไปบอกข่าวนี้แก่คุณนรา สองสาวต่างวัยต่างหัวเราะชอบใจกับแผนการของพวกตนที่กำลังจะลุล่วงด้วยดีในขณะที่ธีรดลมองตามหลังหญิงสาวไปอย่างโมโหฉุนเฉียวที่วิสฏฐีไม่ยอมตามใจเขา เป็นเขาที่ต้องทำตามที่เจ้าหล่อนต้องการ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย คนที่เคยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง เป็นผู้คุมเกมมาเสมอเริ่มรับไม่ได้และอยากจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้“ยายตัวแสบ คิดว่าจะชนะฉันได้เหรอ หึ.. คอยดูเถอะ ฉันทำกายภาพบำบัดจนเดินเองได้เมื่อไหร่ เธอเสร็จฉันแน่ จะเอาคืนให้สาสมเลย” ชายหนุ่มหมายมาดในใจ และตั้งมั่นเพื่อจะเอาชนะวาสิฏฐีให้ได้ แล้วการฝึกทำกายภาพวันแรกผ่านไปด้วยดีจนน่าแปลกใจ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปทุกอย่างก็ดีราวปาฏิหาริย์ แม้คนไข้ของเธอจะดื้อดึงบ้าง แต่ทุกออย่างก็ผ่านไปด้วยดี คนไข้ของเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนน่าแปลกใจเลยทีเดีย
ตอนที่4.“เธอนี่มันปากกล้าจริงๆ ไม่รู้เป็นพยาบาลได้ยังไง ซื้อใบประกอบวิชาชีพมารึเปล่า” “อ้าวคุณ พูดแบบนี้หมิ่นประมาทกันชัดๆ เลยนะคะเนี่ย ไม่ดี ไม่เอาไม่พูด”หญิงสาวทำหน้าทะเล้นไม่ได้สนใจหรือสะทกสะท้านกับคำพูดของเขา ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ระวังไม่ให้เขาเดินสะดุดล้ม “หึ.. ถ้าอย่างนั้นก็คงติดสินบนครูผู้สอนจนจบมาได้ ฉันเคยได้ยินมาว่าบางคนเอาเหล้าขาวหนึ่งขวด กับไก่ต้มหนึ่งตัว หรือไม่ก็หัวหมูหนึ่งหัวไปให้ เขาก็ให้ผ่านแล้ว”วาสิฏฐีหัวเราะก๊ากกับคำเปรียบเปรยของชายหนุ่ม นี่เขาไปจำมาจากไหนกันเนี่ย “โอ๊ย คุณ.. คุณนี่ไทยแท้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็กๆ ถามจริงๆ ไปจำไอ้เรื่องพวกนี้มาจากไหน วงเหล้าไหนเขาโม้ให้ฟัง”ธีรดลขึงตามองคนที่สูงเพียงไหล่กว้างของตนอย่างหมั่นไส้ อารมณ์ที่เดือดปุดๆ อยู่แล้ว ดูเหมือนจะเดือดยิ่งขึ้นไปอีก“นี่เธอ พูดมากจริง มีใครเคยบอกเธอมั้ย” “มีเยอะแยะไป คนไข้บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนตัวพยาบาลเลยก็มี” หญิงสาวยอมรับหน้าตาเฉย “หน้ามึนหน้าด้าน” “โอ้โห.. นี่คุณ ปากจัดกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย ข้าน้อยนับถือๆ”วาสิฏฐียังมีแก่ใจจะยั่วโมโหเขาขณะช่วยประคองเขาเดินไปตาม
ตอนที่5.ในที่สุด ธีรดลก็เข้ามาทำงานบริหารงานในเมืองไทย แทนพี่ชายที่ต้องไปรับหน้าที่ดูแลงานแทนเขาที่อิตาลีช่วงที่เขาป่วย และวาสิฏฐีก็ต้องมาด้วย หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ในสูทสีเทาเข้มดูทรงสง่า แม้ว่าเขาจะเดินเองได้แล้ว แต่ก็ยังมีอาการเดินกะเผลกอยู่เล็กน้อยทำให้ก้าวย่างไม่ค่อยมั่นคงนัก วาสิฏฐีคอยประคองเขาอยู่ห่างๆ เมื่อร่างสูงสง่าของธีรดลปรากฏตัวขึ้น ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แต่ผู้พบเห็นตัวจริงเสียงจริงของเขาไม่น้อย เพราะส่วนมากแล้วธีรดลใช้ชีวิตอยู่อิตาลีและไม่ค่อยได้ปรากฎตัวที่เมืองไทยมากนัก อีกทั้งไม่เคยมาก้าวก่ายงานของธีรเทพผู้เป็นพี่ชายคนโต เพราะทั้งสามพี่น้องนั้นมีหน้าที่การงานที่ตนต้องรับผิดชอบของตัวเอง แต่เมื่อใครคนใดคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างเช่นที่ธีรดลประสบอุบัติเหตุพี่ชายทั้งสองก็พร้อมจะมาช่วยรับผิดชอบงานแทนได้ และน้อยคนจะได้เห็นโฉมหน้าของเขา “วา.. มานี่หน่อย”เสียงเข้มๆ ดังขึ้นทำให้หญิงสาวที่กำลังอ่านหนังสืออยู่สะดุ้ง บราวนี่แสนอร่อยในมือที่กำลังจะส่งเข้าปากร่วงมือทันที พร้อมกับหันไปมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเขาจะเรียกเธอด้วยชื่อเล่นแบบน
ตอนที่6.“ไม่ทำไม แต่เธอดูสนิทสนมกับแฮรี่มากเกินไป ฉันไม่ชอบให้คนของฉันมาวอกแวกเสียสมาธิในการทำงาน”ธีรดลกอดอกเชิดหน้าเมินหนีท่าทางเหมือนเด็กสามขวบจอมงอแงเสียมากกว่า วาสิฏฐีหัวเราะเบาๆ “หัวเราะทำไม มีอะไรน่าขำ” “เปล่าค่ะ วันนี้คุณเรียกวา.. แปลกจัง ปกติชื่อเรียกเต็มยศ ดีไม่พ่วงตำแหน่งมาให้ด้วย” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วค่อยๆ วางแขาแข็งแรงลงกับพื้นพรมนุ่มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกดโทรศัพท์ส่งข้อความหาแฮรี่ บอดีการ์ดประจำตัวของธีรดล และเป็นเพื่อนร่วมงานที่เธอสนิทสนมด้วย ข้างกายของธีรดลนั้นมีแฮรี่เป็นบอดีการ์ดและขับรถให้ ทั้งยังมี รอยส์ เลขาส่วนตัวของเขาด้วยที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันทุกที่ และทั้งสองหนุ่มก็ดีกับเธอเหมือนพี่ชายที่แสนดี และยังคอยให้กำลังใจเธอเสมอยามที่ต้องเหนื่อยล้ากับการทำงานที่มีเจ้านายเอาแต่ใจและโมโหร้ายอย่างธีรดล “คุณธีมน่ะ ปกติเป็นคนใจดี มีอารมณ์ขันนะ ก่อนประสบอุบัติเหตุนี่ เจ้าชายทรงเสน่ห์คารมดี เอาใจเก่งที่หนึ่ง สาวๆ นี่ติดตรึมเลยนาน้องวา” “ใช่ๆ ถ้าได้เจ้านายคนเก่ากลับคืนมา เราคงไม่เหนื่อยขนาดนี้หรอก” นั่นคือคำบอกเล่าของทั้งสองหนุ่มทำให้วาสิฏฐีแอบย่นจมูกใส่เขาอยู่บ่อยๆ
ตอนที่7. “เธอนี่หน้าหนาจริงๆ พูดอะไรแบบนี้ไม่อายบ้างรึไงฮึ”ชายหนุ่มเอานิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากมนของคนที่โน้มใบหน้ามาใกล้ๆ อย่างหมั่นไส้ “ก็พูดความจริง จะอายทำไมคะ” นอกจากไม่อายแล้วเธอยังยิ้มให้เสียอีกแน่ะ“อย่างน้อยก็น่าจะอายบ้างล่ะน่า” “โอ๊ย นี่คุณ.. เรื่องแบบนี้ผู้ชายอย่างคุณก็ต้องรู้ไว้เผื่อในอนาคตมีเมียเป็นมนุษย์เมนส์” “ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่อยากมีเมียหรอก ถ้าเมียจะผีบ้าขนาดนั้น” ธีรดลมองค้อนผู้หญิงหน้าหนาตรงหน้าที่ยิ้มพรายให้เขาอย่างยียวน “เอาน่า รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ผู้ชายบางคนไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงอารมณ์แปรปรวนเวลาเมนส์มา หรือไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องเลือกใช้ผ้าอนามัย และทำไมผ้าอนามัยมีหลายยี่ห้อ มีหลายขนาดหลายแบบ แถมยังมีหลายกลิ่นหลายเวอร์ชั่น บางยี่ห้อถูก บางยี่ห้อแพง จะบอกอะไรให้นะ เวลาที่เมนส์มานี่เป็นเวลาแห่งมรสุมของผู้หญิงเลยนะ มันจะรู้สึกหงุดหงิด ปวดท้อง ปวดหัวตัวร้อนไม่สบายตัว อารมณ์ขึ้นง่ายใครพูดอะไรก็ขัดหู มองอะไรก็ขวางตา มันเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนมันว้าวุ่นไง ดังนั้นเมื่อผู้หญิงหงุดหงิดเหวี่ยงวีนใส่คุณเวลาเป็นเมนส์คุณก็ต้องอดทน และโปรดเข้าใจว่า เดือนหนึ่งๆ
ตอนที่8.“จะคุยกันอีกนานมั้ย”ธีรดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ไม่คิดจะรักษามารยาทอะไรนัก วาสิฏฐีมองเขาอย่างระอาใจ ไม่รู้ทำไมพอเจอหน้าหมอก้องทีไรธีรดลก็ชอบทำหน้าตึงเหมือนขึงด้วยเชือกสักร้อยสักพันเส้น “วาไปเถอะ พี่ก็ซื้อของเสร็จแล้วเหมือนกัน” “โอเคค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะพี่หมอก้อง น้องอุ้ม”หมอก้องยิ้มให้แล้วเดินจากไปพร้อมกับน้องอุ้ม วาสิฏฐีมองตามยิ้มๆ แต่คนที่อคติต่อคู่แข่งหัวใจกลับมองแล้วขัดหูขัดตา“มองตามตาละห้อยเชียว เสียใจหรือไงที่เขามากับสาวอื่น” “ใช่ เสียใจ ฉันน่าจะตะครุบหมอก้องไว้อีกสักคนก็น่าจะดี” “นี่เธอคิดจะยัดเยียดความเป็นเมียให้ผู้ชายทุกคนเลยหรือไงกัน”ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขาเริ่มขุ่นขวาง วาสิฏฐีขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มแล้วซ่อนยิ้มในหน้า แต่ก็แสร้งลอยหน้าลอยตาทำไม่รู้ไม่ชี้ “ถ้าได้ก็็ดี” “นี่เธอ.. วาสิฏฐีหยุดนะ จะไปไหน” “อ้าว.. ซื้อของเสร็จแล้วก็จะไปจ่ายเงินไง”พูดจบวาสิฏฐีก็เข็นรถเข็นสินค้าไปที่เคาน์เตอร์แคคชเชียร์ และเมื่อหันหลังให้ชายหนุ่มแล้วก็ยิ้มกว้างออกมาดวงตาเป็นประกาย… จนเมื่อซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเรียบร้อยแล้ว เธอก็พาชายหนุ่มมาเดินเล่นชั้นที่เป็นบูทสินค้าแบรน
ตอนที่9.“เห็นแล้ว ดีมากเลย ตอนนี้บาดแผลต่างๆ ก็ประสานได้ดีแล้ว เหล็กและกระดูกก็เชื่อมต่อกันได้ดีไม่มีปัญหา แต่ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้เขาออกแรงหรือเดินเยอะไป ให้ค่อยๆ ฝึกเดินไปก่อนนะอย่าเพิ่งหักโหมมาก”“ถ้าบอกง่ายเหมือนเด็กสามขวบก็ดีสิคะ”“หึหึ… เอาน่า เขาก็น่ารักดีนะ ดูใส่ใจวาดีอยู่”“โอ๊ย พี่หมอ เอาอะไรมาพูดเนี่ย วาต่างหากที่เป็นคนเอาใจใส่เขาดี เขาน่ะคอยแต่จะกินหัววาสิไม่ว่า”หมอก้องหัวเราะกับคำพูดของเธอ แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บแปลบแต่เขาก็สามารถยอมรับกับความเป็นจริงได้ว่าหัวใจของเธอไม่ได้ว่าง และไม่มีที่ให้เขาเข้าไปแทรกกลางเกินกว่าคำว่าพี่ชายน้องสาว“เอาล่ะๆ นี่ก็ดึกแล้วพี่ไม่กวนแล้ว ฝันดีนะ”“เช่นกันค่ะ ฝันดีนะคะ”หญิงสาววางสายแล้วหมุนตัวจะเดินกลับเข้าห้องแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของธีรดลยืนพิงต้นเสาระเบียงด้วยมองเธออยู่ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก“คุณธีม... มายืนทำอะไรมืดๆ ตรงนี้เนี่ย นึกว่าหลับไปแล้วเสียอีก”“ถ้าหลับแล้วจะเห็นใครบางคนมาแอบคุยกับหนุ่มๆ หน้าระรื่นอยู่แบบนี้เหรอ”“พูดเหมือนหึง”“หึ.. ไร้สาระ” ชายหนุ่มทำเสียงเหยียดๆ แล้วเดินมาหาช้าๆ วาสิฏฐีมองเขาอย่างระแวงระวัง ไม่รู้เลย
ตอนที่31. อวสาน“ในที่สุดเรื่องวุ่นๆ ก็จบลงด้วยดีซะทีนะคะ” วาสิฏฐีพูดขึ้นเมื่ออยู่ในห้องหอกับสามีเพียงลำพัง ธีรดลเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาเอาไว้หลวมๆ แล้วหอมแก้มนวลแผ่วเบาอย่างเอาใจ“แถมยังช่วยชีวิตเพื่อนรักของวาได้ด้วยใช่ไหมล่ะที่ทำให้วายิ้มกว้างขนาดนี้”“แน่นอนสิคะ ยายวีวี่กับพี่ธัชดูเหมาะสมกันจะตายไป ว่าไหมคะ ไม่คิดว่าคุณแม่จะแอบคิดเหมือนวา”“แล้วไม่ดีหรือไง”“ดีสิคะ แบบนี้แหละที่วาชอบ”“หึ.. วันแต่งงานตัวเองแท้ๆ คิดถึงแต่เรื่องคนอื่นได้ยังไงกัน” น้ำเสียงของเขาติดจะงอนๆ จนเธอต้องรีบเอาใจ“อย่าน้อยใจสิคะ เรื่องวันนี้มันเหนือการควบคุมนะคะ อีกอย่าง วันนี้เหมือนเราได้จัดงานแต่งงานสองคู่เลยนะ จู่ๆ พี่ธัชก็มีเมีย ดีออกค่ะเห็นมั้ยคะ งานแต่งงานของเราเนี่ยช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ เลย”วาสิฏฐียิ้มพลางดันร่างสามีแสนงอนนอนลงบนที่นอนนุ่มที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีหวานช้าๆ ซึ่งเขาก็แสนจะยินดีที่จะโอนอ่อนผ่อนตาม“ไม่ได้น้อยใจเสียหน่อย แค่อยากให้เมียเห็นผัวเป็นที่หนึ่งในใจก็เท่านั้น ส่วนเรื่องเพื่อนรักของวาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่ธัชไปเราไม่ต้องไปยุ่ง โอเคมั้ย”“แหม.. รีบส่งไม้ให้พี่ธัชเลยนะคะ วารู้หรอกค่ะว
ตอนที่30.สิ้นคำพูดของคุณนรา นางรตีกับลูกๆ ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยินชื่อแซ่ของเจ้าของบ้าน“คุณ คุณว่าอะไรนะคะ คุณเป็นใครนะคะ”“อ้อ.. นี่พวกเธอคงไม่รู้สินะว่าที่ที่พวกเธอเหยียบอยู่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูลลูเซียโน่ และที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอนี่คือ คุณนรา ลูเซียโน่ เฉิน และลูกชายทั้งสามคนของคุณนรา”องุ่นพูดขึ้นด้วยท่าทางมาดมั่นพร้อมทั้งเชิดหน้าใส่สามแม่ลูกอย่างเป็นต่อ“แม่.. เป็นไปได้ยังไง ไหนว่าแค่บ้านของพวกเศรษฐีใหม่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร”“นั่นสิ แล้วทีนี้เราจะทำไงดี แต่ว่า.. แม่ ลูกชายตระกูลนี้งานดีมากเลย ฉันอาจจะมีสิทธิ์เป็นเมียเขานะแม่”“พวกแกนี่ให้มันน้อยๆ หน่อย ตอนนี้คิดก่อนว่าจะทำไง ไม่ใช่มามัวบ้าผู้ชาย เอาตัวรอดจากตรงนี้ให้ได้ก่อนเถอะ”สามแม่ลูกกระซิบกระซาบปรึกษาหารือกัน ก่อนที่นางรตีจะเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้“ยังไงซะพวกคุณก็เป็นคนนอกครอบครัวของเรา ดังนั้นเรื่องนี้เป็นปัญหาในครอบครัว พวกคุณก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว วีวี่กลับบ้านกับน้านะจ๊ะ พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน”นางหันมาทำเสียงอ่อนหวานกับวีรนุชที่ยืนมองมาตาขวาง แต่หญิงสาวก็หันไปมองคุณนราเหมือนขอความช่วยเหลือ“จะว่าเราเป็นคนนอกก็ไม่
ตอนที่29.“อย่าริทำตัวเป็นพ่อสื่อเลยเจ้าตัวดี”“โธ่ น้องก็แค่หวังดีน่าพี่ชาย”“ไม่ต้องเลย นายหวังดีกับฉันทีไร ชีวิตฉันปั่นป่วนทุกที”ผู้เป็นพี่ชายยกมือห้าม ท่าทางเข็ดขยาดของชายหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แล้วไม่นานส้มโอก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา“แย่แล้วค่ะคุณท่าน แย่แล้วๆ”“มีอะไรส้มโอหน้าตาตื่นมาเชียว”“มี มีคนมาค่ะ”“มีคนมาแล้วยังไง ตั้งสติดีๆ ค่อยๆ พูด”“คือว่า มีคนมาหาคุณหนูวีวี่แล้วเกิดตะลุมบอนกันอยู่หน้ารั้วโน่นค่ะ เหมือนเขาจะมาพาตัวคุณหนูวีวี่ไป”“แย่แล้ว.. ต้องเป็นแม่เลี้ยงของวีวี่แน่เลยค่ะ” วาสิฏฐีหน้าตื่นเป็นห่วงเพื่อนรักขึ้นมาทันที“งั้นเราออกไปดูกันดีกว่า”ว่าแล้วทุกคนก็รีบลุกออกไปจากโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำอันแสนสุขไปที่หน้าบ้านก็ทันได้เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้าคนและหญิงสาวอีกสามคนยืนรุมล้อมทั้งฉุดกระชากลากถูวีรนุชอยู่ โดยมีองุ่นกีดขวางป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นทำได้สำเร็จภาพที่เห็นจึงดูวุ่นวายโกลาหลอยู่ไม่น้อยเมื่อองุ่นสาวตุ้ยนุ้ยร่างยักษ์ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัววีรนุชได้ง่ายๆ“ถอยไปนะนังอ้วน อย่ามาขวางพวกฉัน ฉันจะพาตัวนังลูกไม่รักดีกลับ”“ฉันไม่ใช่ลูกแก นังแพศยา
ตอนที่28.“ฉันนี่แย่จริง วันดีของเพื่อนแท้ๆ มานั่งพูดพร่ำอะไรก็ไม่รู้ พูดถึงแต่เรื่องของตัวเองอีกต่างหาก”“ฉันเข้าใจเธอนะวีวี่ และไม่เป็นไรเลย เธอสามารถพูดได้ฉันไม่ได้ถือสาอะไรอีกอย่างฉันรู้ว่าเธอกลัวว่ากำลังจะเสียที่พึ่งสุดท้ายอย่างฉันไป เธอแค่กลัว และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะกลัว”วาสิฏฐีพูดยิ้มๆ แล้วลูบไหล่ของวีรนุชอย่างปลอบโยน เข้าใจดีว่าตอนนี้วีรนุชรู้สึกอย่างไร วีรนุชก็เหมือนลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงอย่างตามใจ ดูท่าทางดื้อรั้นเอาแต่ใจและร้ายกาจไม่ยอมคน แต่ลึกๆ แล้ว วีรนุชก็ต้องการการปกป้อง อ่อนแอเป็น ร้องไห้เป็น ซึ่งคนที่วีรนุชจะแสดงความอ่อนแอให้เห็นก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น กับคนอื่น วีรนุชคือคุณหนูตัวร้ายที่พร้อมจะบวกทุกอย่างไม่ไว้หน้าใคร แต่กับเธอ วีรนุชเสมือยน้องสาวตัวน้อยที่แม้จะร้ายแสนร้ายเพียงใด ก็ต้องการความรัก และได้รับการปกป้องทะนุถนอม ซึ่งเธอก็พร้อมจะปกป้องน้องสาวคนนี้เสมอและท่าทางอันอ่อนโยนและความเข้าอกเข้าใจ พร้อมจะปกป้องทุกเมื่อของวาสิฏฐีนี้เอง ที่ทำให้วีรนุชประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี้ วาสิฏฐีคือผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงทั้งเนื้อทั้งตัว วาสิฏฐีอ่อนหวานน่ารัก แต่ก็เด็ดเดี่ยวเข
ตอนที่27.วาสิฏฐียิ้มปลื้มปริ่มกับตัวเอง ขณะเข้ามาเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรีสำหรับทานมื้อค่ำกับครอบครัวซึ่งเป็นชุดราตรีสั้นฟูฟ่องแบบเรียบง่ายแต่หรูหราสีฟ้าสดใสซึ่งเป็นสีโปรดของเธอ“แหม... หน้าบานเหลือเกินนะแม่คุณ”วีรนุชเดินมากระแซะเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้ ร่างระหงในชุดเดรสสั้นเหนือเข่าฟูฟ่องสีม่วงอ่อนคล้ายกับชุดของเจ้าสาว แม้แบบจะเรียบง่ายแต่ก็ส่งผลให้ผู้สวมใส่งดงามราวเจ้าหญิงตัวน้อยแสนซนงดงามไม่ต่างจากเจ้าสาวในค่ำคืนนี้นั่งลงตรงหน้าเจ้าสาวแสนสวย“แหงล่ะ คืนนี้เป็นคืนของฉันนี่นา เจ้าสาวอย่างฉันก็ต้องสวยที่สุดหน้าบานที่สุดอยู่แล้ว”“เธอโชคดีจังนะที่ได้แต่งงานกับพี่ธีม ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก”“ถ้าเธอเจอคนที่รัก เธอก็จะได้แต่งงานกับเขา และเอก็จะมีความสุขเหมือนกันกับฉัน...”“ไหนล่ะคนที่ฉันรักและเขาก็รักฉันน่ะ มีที่ไหนกัน ตั้งแต่คบกันมาเธอเคยเห็นฉันคบใครจริงจัง หรือมีใครมาคบฉันจริงจังมั่งไหมล่ะ ผู้ชายที่เข้ามาหาฉันมีแต่พวกหน้าหม้อ ตอแหลไปวันๆ คบฉันเพื่ออยากใช้ฉันเป็นสะพานไปสู่ดวงดาว คบกับฉันเพราะฉันรวย เพราะพ่อฉันเป็นประธานบริษัท คนพวกนั้นไม่มีใครจริงใจกับฉันสักคน ขนาดเพื่อนผู้หญิงก็ยังไม่
ตอนที่26. “คุณหญิงนราครับ ภารกิจของลูกชายสุดหล่อสำเร็นลุล่วงนะครับ คุณหญิงแม่จัดการเตรียมงานแต่งได้เลย”“ย่ะพ่อคุณ แต่กว่าจะสำเร็จก็ทำเอาแม่ลุ้นจนเหนื่อยนะ น่าจะให้หนูวาเล่นตัวมากกว่านี้หน่อย”“อย่าบอกนะครับว่าทั้งหมดนี่คุณแม่วางแผนแกล้งผม”“แล้วไม่ได้หรือไงจ๊ะ ก็เราปากแข็งก่อนนี่นา แม่ก็เลยบอกหนูวาให้เล่นตัวมากหน่อย อย่ายอมใจอ่อนง่ายๆ แต่ไม่นึกเลยว่าหนูวาจะยอมใจอ่อนงานขนาดนั้น”“โอ๊ย คุณแม่ครับ แค่นี้ลูกชายคุณแม่ก็แทบหัวใจสลายแล้วนะครับ คอยดูนะผมจะจัดการลงโทษยัยหนูวาของคุณแม่หนักๆ เลยโทษฐานแกล้งให้ผมทรมานใจ”ปากพูดสายกับผู้เป็นแม่แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวอย่างหมายมาด วาสิฏฐีพยายามจะดิ้นรนออกจากวงแขนแข็งแรงเมื่อรู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ ถ้าไม่หนีไปตอนนี้มีหวังโดนเขาจับกินทั้งตัวแน่นอน“จะทำอะไรก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวหลานแม่จะตกใจขวัญหนีดีฝ่อ”“นี่คุณแม่รู้แล้วหรือครับว่าวาท้อง”“แม่ก็ไม่แน่ใจนักหรอก แต่จากประสบการณ์ แม่มั่นใจว่าหนูวากำลังจะมีหลานให้แม่แน่นอน เอาล่ะ ตอนเย็นกลับมาฉลองกับแม่ก็แล้วกัน แม่จะเตรียมของอร่อยไว้ให้ แล้วอย่าทำให้สะใภ้ของแม่มีรอยขีดข่วนเ
ตอนที่25.ทั้งสองหนุ่มสาวยิ้มให้กันด้วยความสุข ความสุขที่ปรี่ล้นอิ่มเอมหัวใจที่มีมากจนมันท่วมท้นจนไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายว่าพวกเขามีความสุขมากแค่ไหน ทั้งสองกอดกันแนบแน่น และธีรดลก็มอบจุมพิตแสนหวานล้ำให้แก่เธอจนหญิงสาวเข่าอ่อน และธีรดลต้องอุ้มร่างงามมานั่งที่โซฟาเสียก่อนที่เธอจะสิ้นเรี่ยวแรงลงไปเสียก่อน “วามีอะไรจะให้ดูค่ะ..” หญิงสาวผละออกห่างเล็กน้อย พลางหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ามาให้เขาดู“นี่อะไร..”“ก็ที่พี่ธีมถามว่าวาไปโรงพยาบาลทำไมไงคะ..” หญิงสาวยิ้มกว้างดวงตาพราวระยับ“เปิดดูสิคะ”ธีรดลส่ายหน้าช้าๆ กับความลับลมคมในของหญิงสาว ค่อยๆ แกะซองเอกสารสีน้ำตาลนั้นออกช้าๆ แล้วหยิบสมุดขนาดพ็อคเก็ตบุ๊กออกมาจากซองนั้น“สมุดฝากครรภ์..” เหมือนธีรดลจะอึ้งไป เหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนและลมหายใจสะดุดขึ้นมาเสียอย่างนั้น“เป็นไงคะ อึ้งไปเลย.. ดีใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ”“ดีใจ ดีใจสิ ไช ไชโย้.. พี่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว..” ธีรดลโห่ร้องแล้วโอบกอดเธอแนบแน่นทั้งยังโยกตัวไปมาอย่างแสนยินดี“ขอบใจมากวา ขอบใจจริงๆ ในที่สุด ในที่สุดเราก็จะมีเจ้าธีมน้อยแล้ว”“แหม... ทีอย่างนี้ดีใจ ก่อนหน้านี้ทำหน้าบูดหน้าบึ้ง พาลเ
ตอนที่24.“ในเมื่อเอ่อ.. พี่.. พี่” ธีรดลอึกอัก วาสิฏฐีจึงเอ่ยขึ้น “เอาล่ะค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ คุณแม่รอกินข้าวอยู่” หญิงสาวบอกเรียบๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ธีรดลถลามาขวางเอาไว้ “เดี๋ยวๆ พี่มีเรื่องจะคุย” “อะไรคะ” “เอ่อ.. พี่.. เมื่อวานวาไปโรงพยาบาลทำไม..”วาสิฏฐีแทบจะพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา กับคำถามของเขา แม้จะเข้าใจว่าเขาเป็นอย่างไรแต่ก็อดที่จะมีอารมณ์ขุ่นมัวไม่ได้ตาทึ่มเอ๊ย มาขี้ขลาดอะไรตอนนี้กันเล่า แค่บอกว่ารักกันมันยากรึไงนะหญิงสาวหันมามองค้อนเขาตาขุ่นเขียว ธีรดลหน้าเสียดูลนลาน พอเห็นแบบนี้แล้วเธอก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้ทั้งที่อารมณ์ขุ่นๆ อยู่นี่ล่ะ แต่ก็อยากหัวเราะเสียอย่างนั้น อีตาบ้านี่ทำให้เธอมีหลากหลายอารมณ์เหลือเกินในแต่ละวัน“อยากรู้ไปทำไมคะ เรื่องส่วนตัวของวาไม่จำเป็นต้องบอกพี่ธีมมั้ง” “แต่เราก็เหมือนคนคนเดียวกันนะ ผัวเมียกัน เรื่องของผัวก็คือเรื่องของเมีย เรื่องขอเมียก็คือเรื่องของผัว บอกหน่อยไม่ได้เหรอ” ธีรดลเองก็อยากจะเขกกบาลตัวเองสักโป๊กเพราะแทนที่จะพูดสารภาพความในใจกลับถามเรื่องอื่น ถึงแม้จะอยากรู้ว่าเธอไปโรงพยาบาลทำไม แต่เรื่องหัวใจก็สำคัญกว่า แทนที่
ตอนที่23.“เป็นไงบ้านหนูวา…” คุณนราถามศรีสะใภ้ที่โทร. มารายงานข่าว“ก็จ๋อยๆ ไปเหมือนกันนะคะ หน้างี้หงิกงอเหลือสองนิ้วเองค่ะ” สองสาวต่างวัยหัวเราะกันอย่างขบขัน “หนูวาเล่นให้หนักเลยนะ คนอย่างตาธีมน่ะอย่ายอมมาก เดี๋ยวได้ใจ”“ค่ะคุณแม่.. แต่พี่ธีมก็น่าสงสารอยู่นะคะ” “แสดงละครสิไม่ว่า นั่นน่ะ บริษัทธีรดลการละครเลยนะ อย่าหลงกลเด็ดขาด”“ตอนนี้กำลังล้างจานอยู่ค่ะ เป็นพ่อบ้านที่แสนดี”คุณนราหัวเราะเสียงดังมาตามสาย นึกภาพลูกชายล้างจานไม่ออกเลยจริงๆ คนอย่างธีรดลนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง ชอบเที่ยวเตร่เฮฮา สังสรรกับบรรดาเพื่อนๆ งานพวกนี้ย่อมไม่เคยทำอยู่แล้ว แต่นางก็สังเกตเห็นว่าลูกชายคนเล็กของตัวเองนั้นเปลี่ยนไปมากธีรดลคือลูกชายคนสุดท้องที่ถูกทั้งแม่และพี่ชายทั้งสองตามใจมาแต่เด็ก และค่อนข้างเอาแต่ใจ ชอบเที่ยวเล่นสนุกสนานชอบสังคมเพื่อนฝูง จะว่าเป็นเด็กที่เกเรที่สุดในบรรดาสามพี่น้องก็ไม่ผิดนัก และยังเจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นที่หนึ่งจับไม่ได้ไล่ไม่ทันไม่มีทางที่ธีรดลจะยอมรับง่ายๆ ทุกอย่างมีคนคอยรับใช้ให้ความสะดวกสบายมาจนเคยชินแล้วภาพที่ธีรดลกำลังล้างจานนี่มันเป็นยังไงกันนะ… นางนึกภาพไม่ออกเลยจ