“หูไม่ได้แตกและได้ยินทุกคำ”
“ได้ยินแล้วยังจะมายุ่งอีก”
“ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะนี่คือหน้าที่ของฉัน เอาล่ะอย่าพูดมาก มากินข้าวได้แล้วค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจท่าทางเหมือนเด็กสามขวบของเขาแต่ตักข้าวมาตรงปากของเขา
“อ้าปากสิคะ”
วาสิฏฐีบอกพร้อมด้วยสีหน้าขึงขัง ธีรดลตวัดสายตาคมเข้มมองอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งแดงก่ำด้วยความกราดเกรี้ยว หากเป็นคนอื่นคงกลัวจนหัวหด แต่ขอโทษ ไม่ใช่เธอแน่นอน วาสิฏฐีฉีกยิ้มหวานให้เขา
“กินเองไม่ได้ก็ต้องป้อนไงคะ คุณหนูธีม...”
นอกจากไม่กลัวแล้วยังมีหน้าใจกล้ายั่วแหย่เขาอีก ธีรดลมองเธอตาขุ่นเข้ม
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะคุณเป็นคนไข้ของฉัน”
“คุณราวีคนไข้ไม่เลิกแบบนี้ทุกคนเลยรึไง”
“อะไรกันคุณ นี่เขาเรียกว่าดูแลเอาใจใส่คนไข้อย่างดีต่างหากล่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยีไม่ยี่หระต่อสายตาขวางๆ ของเขา
“เอ้า อ้าปาก กินข้าวเสียทีสิคะ จะได้กินยา ฉันมีอย่างอื่นต้องทำต่อ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กที่จะต้องมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำคุณทั้งวัน”
“ฉันไม่กิน และฉันก็ไม่ใช่เด็กสามขวบ”
“เฮ๊อะทำตัวยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีก” หญิงสาวพูดเบาๆ พลางย่นจมูกใส่เขา ธีรดลเห็นท่าทางของเธอแล้วก็ชักสีหน้าทันที
“ฉันไม่กิน”
“คุณต้องกิน ถ้าไม่กินดีๆ ล่ะก็ ฉันจะยัดใส่ปากคุณแล้วนะ”
หญิงสาวท่าทางขึงขังขึ้นทำท่าจะยัดข้าวใส่ปากของเขาจริงๆ ธีรดลหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอวดดีทำกับเขาถึงขนาดนี้ เจ้าหล่อนควรพินอบพิเทา เอาอกเอาใจเขาสิ เพราะเขาเป็นนายจ้างและยังเป็นคนไข้ของเธอด้วย แล้วนี่เธอมาแสดงความอวดดีแบบนี้กับเขาได้อย่างไรกัน
“กินสิคะ..”
เธอย้ำอีก หนุ่มสาวจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร และในที่สุดเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเมื่อเธอทำท่าจะยัดข้าวใส่ปากของเขาจริงๆ ทั้งยังบีบปลายคางของเขาไว้อย่างมั่นคงอีกด้วย
“กินแล้วกิน ปล่อยได้แล้วยายบ้า”
ธีรดลสะบัดตัวจนหลุดจากพันธนาการของเธอ แต่ก็ยังมองคนตรงหน้าตาขุ่นขวางอยู่เช่นเดิม
“แค่นี้ก็เรียบร้อย ทำให้ต้องเสียพลังงานทำไมเยอะแยะก็ไม่รู้”
หญิงสาวผละออกไปแล้วหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะเดินไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอีกด้วย
ธีรดลกระแทกลมหายใจอย่างหงุดหงิดที่ไม่สามารถเอาชนะเธอได้ หลายต่อหลายครั้งที่เขาพยายามขัดขืนและจะเอาชนะเธอ แต่ไม่เคยสำเร็จเลย ทั้งยังโดนเจ้าหล่อนเอาคืนจนเขาพ่ายไม่เป็นท่า
“อยากเอาชนะฉันก็ต้องทำกายภาพบำบัดให้ตัวเองหายดีนะคะ จะได้ไม่มานั่งหน้างอเป็นเจ้าชายหัวร้อนอยู่แบบนี้”
เสียงใสๆ ของเธอแว่วมาเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ธีรดลปรายตามองคนที่กำลังจัดที่นอนของเขาไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทางสบายๆ ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
“ยายปีศาจร้าย”
“ได้ยินนะค้าว่าพูดอะไรคุณหนูธีม”
ธีรดลกระแทกลมหายใจหนักๆ เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ยายปีศาจร้ายหูดีจริงเชียว ขนาดเขาพูดเบาๆ กับตัวเอง เจ้าหล่อนยังไงได้ยิน ทางด้านวาสิฏฐีนั้นปรายตามองชายหนุ่มที่กินข้าวอย่างกระแทกกระทั้นยิ้มๆ
“เป็นไงบ้างหนูวา...” น้ำเสียงเอื้ออาทรของคุณนรา ทำให้หญิงสาวต้องถอนใจออกมาหนักๆ ก่อนจะยิ้มกว้างให้ผู้สูงวัย
“ไม่เท่าไหร่ค่ะคุณแม่ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว นี่แค่เด็กสามขวบเอาแต่ใจ” คุณนราหัวเราะลั่นเลยทีเดียวกับคำพูดเปรียบเปรยของเธอ
“ก็ว่าไปนั่น”
“ไม่เกินความจริงเลยค่ะ”
“แต่แม่ว่า ตอนเด็กตาธีมแกไม่ได้ดื้อขนาดนี้นะ”
“โอยยย... หวังว่าวาคงไม่เจอเด็กเกเรมากกว่านี้นะคะ แค่นี้วาก็แทบหมดแรงแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกยิ้มๆ
“เอาเถอะๆ ยังไงแม่ก็ขอบใจหนูวานะที่ไม่ถอดใจเสียก่อน ตาธีมน่ะดื้อแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก อยากเอาชนะ อยากเป็นที่หนึ่งตลอดแหละ ถ้าจับจุดถูกก็จะกำราบได้ง่าย เชื่อแม่สิ”
“จริงค่ะ วาเห็นด้วย” สองสาวต่างวัยคุยกันอย่างสนุกสนานทำให้คนที่เพิ่งพาตัวเองออกมาจากห้องของตัวเองหลังจากที่เก็บตัวเงียบมาทั้งวัน
“นี่มันเวลาทำงานไม่ใช่หรือไง มานั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่ตรงนี้ทำไม”
“ตาธีม... ดูพูดเข้าลูกคนนี้นี่” คุณนราทำเสียงปรามลูกชาย
“ผมต้องการคนป้อนข้าว” พูดจบเขาก็พากดปุ่มพาวีลแชร์คันเก่งของตนจากไป วาสิฏฐีกับคุณนราอ้าปากค้างมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
“สงสัยวันนี้ฝนจะตก”
“สงสัยว่า คงอยากเอาชนะหนูวา” แล้วทั้งสองก็หัวเราะให้กัน
“สู้ๆ นะหนูวา แม่อยากเห็นตาธีมเดินได้ และยิ้มได้อีกครั้ง”
“ค่ะ วาจะพยายาม”
“สู้ๆ” คุณนรายิ้มให้พร้อมกับทำท่าประกอบให้กำลังใจหญิงสาวที่นางหมายมั่นว่าอยากได้มาเป็นสะใภ้ ถ้าหากนางไม่คาดหวังสูงมากเกินไป ก็อยากจะให้เธอลงเอยกับธีรดล
“หวังว่าฉันคงจะสมหวังนะ หากพลาดจากหนูวาไปฉันก็คงเสียดายแย่” ผู้สูงวัยพูดคนเดียวอย่างมีความหวังเมื่อหญิงสาวเดินจากไปแล้ว
“ตามตารางที่คุณหมอให้มาและผลการตรวจ ขาคุณดีขึ้นมากนะคะ นี่คือตารางที่เราจะทำกายภาพบำบัดกันในอาทิตย์นี้”
เธอบอกเมื่อเข้ามาในห้องกว้างที่มีอุปกรณ์สำหรับการทำกายภาพบำบัดและเป็นห้องออกกำลังกายขนาดย่อม และมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วย
“ก็ทำสิ”
“วันนี้ทำตามตารางนี้ค่ะ”
หญิงสาวยื่นเอกสารสำหรับการเตรียมตัวทำกายภาพสำหรับวันนี้ให้กับเขา ชายหนุ่มรับไปดูแล้วยื่นคืนให้กับเธอ
“ฉันไม่อยากทำแบบนี้ อยากจะเดินได้เลย”
วาสิฏฐีทำเสียงเฮอะในลำคอแล้วเท้าสะเอวมองคนที่นั่งทำหน้าตายอยู่บนวีลแชร์อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ทำไม่ได้ ก็ลาออกไป”
“งี่เง่า... คุณจะต้องทำตามตารางที่ฉันทำให้เท่านั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็นั่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิตนั่นล่ะ ชาตินี้อย่าหวังจะชนะฉันเลย”
ตอนที่3.พูดจบเธอก็ยัดกระดาษตารางการทำกายภาพบำบัดใส่มือของเขาแล้วเดินหนีไปอย่างไม่ใส่ใจอารมณ์ฉุนเฉียวของคนไข้จอมเอาแต่ใจ สนใจทำไมล่ะ ในเมื่อสิทธิ์ในการดูแลรักษาเขานั้นอยู่ในกำมือเธอทั้งหมด และคนที่กุมอำนาจสูงสูดในบ้านก็เป็นพวกเดียวกันกับเธอ คนที่จะต้องยอมก็คือธีรดลต่างหาก หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจและไปบอกข่าวนี้แก่คุณนรา สองสาวต่างวัยต่างหัวเราะชอบใจกับแผนการของพวกตนที่กำลังจะลุล่วงด้วยดีในขณะที่ธีรดลมองตามหลังหญิงสาวไปอย่างโมโหฉุนเฉียวที่วิสฏฐีไม่ยอมตามใจเขา เป็นเขาที่ต้องทำตามที่เจ้าหล่อนต้องการ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย คนที่เคยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง เป็นผู้คุมเกมมาเสมอเริ่มรับไม่ได้และอยากจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้“ยายตัวแสบ คิดว่าจะชนะฉันได้เหรอ หึ.. คอยดูเถอะ ฉันทำกายภาพบำบัดจนเดินเองได้เมื่อไหร่ เธอเสร็จฉันแน่ จะเอาคืนให้สาสมเลย” ชายหนุ่มหมายมาดในใจ และตั้งมั่นเพื่อจะเอาชนะวาสิฏฐีให้ได้ แล้วการฝึกทำกายภาพวันแรกผ่านไปด้วยดีจนน่าแปลกใจ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปทุกอย่างก็ดีราวปาฏิหาริย์ แม้คนไข้ของเธอจะดื้อดึงบ้าง แต่ทุกออย่างก็ผ่านไปด้วยดี คนไข้ของเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนน่าแปลกใจเลยทีเดีย
ตอนที่4.“เธอนี่มันปากกล้าจริงๆ ไม่รู้เป็นพยาบาลได้ยังไง ซื้อใบประกอบวิชาชีพมารึเปล่า” “อ้าวคุณ พูดแบบนี้หมิ่นประมาทกันชัดๆ เลยนะคะเนี่ย ไม่ดี ไม่เอาไม่พูด”หญิงสาวทำหน้าทะเล้นไม่ได้สนใจหรือสะทกสะท้านกับคำพูดของเขา ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ระวังไม่ให้เขาเดินสะดุดล้ม “หึ.. ถ้าอย่างนั้นก็คงติดสินบนครูผู้สอนจนจบมาได้ ฉันเคยได้ยินมาว่าบางคนเอาเหล้าขาวหนึ่งขวด กับไก่ต้มหนึ่งตัว หรือไม่ก็หัวหมูหนึ่งหัวไปให้ เขาก็ให้ผ่านแล้ว”วาสิฏฐีหัวเราะก๊ากกับคำเปรียบเปรยของชายหนุ่ม นี่เขาไปจำมาจากไหนกันเนี่ย “โอ๊ย คุณ.. คุณนี่ไทยแท้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็กๆ ถามจริงๆ ไปจำไอ้เรื่องพวกนี้มาจากไหน วงเหล้าไหนเขาโม้ให้ฟัง”ธีรดลขึงตามองคนที่สูงเพียงไหล่กว้างของตนอย่างหมั่นไส้ อารมณ์ที่เดือดปุดๆ อยู่แล้ว ดูเหมือนจะเดือดยิ่งขึ้นไปอีก“นี่เธอ พูดมากจริง มีใครเคยบอกเธอมั้ย” “มีเยอะแยะไป คนไข้บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนตัวพยาบาลเลยก็มี” หญิงสาวยอมรับหน้าตาเฉย “หน้ามึนหน้าด้าน” “โอ้โห.. นี่คุณ ปากจัดกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย ข้าน้อยนับถือๆ”วาสิฏฐียังมีแก่ใจจะยั่วโมโหเขาขณะช่วยประคองเขาเดินไปตาม
ตอนที่1.วาสิฏฐี ถอนใจไม่รู้เป็นรอบที่เท่าแล้วของวันหลังจากที่คนรับใช้ต่างวิ่งกระหืดกระหอบมาหาตนด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่น จนเธอต้องทั้งปลอบและให้กำลังใจพวกเจ้าหล่อนทุกครั้งที่สาวใช้วิ่งมาหา และทุกครั้งก็จะจบลงด้วยการที่เธอต้องเป็นคนไปกำราบ คนไข้ จอมดื้อรั้นและเอาแต่ใจที่สุดอย่าง ธีรดล ลูกชายของ คุณนรา นายจ้างที่มีพระคุณต่อเธอมาก และท่านก็รักและเอ็นดูเธอมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเสมือนหนึ่งลูกสาวของคุณนรานับตั้งแต่ก้าวเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของท่าน ด้วยการชักชวนของ วิกานดา สาวรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน ภรรยาของ ธีร์ ธีรเทพ พี่ชายคนโตของตระกูล ลูเซียโน่ เฉิน ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้าน จนเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณนรา ไปโดยปริยาย ก่อนหน้านี้เธอมีหน้าที่ดูแลคุณนราในฐานะพยาบาลประจำตัวของท่าน แต่เมื่อต้นปีก่อนลูกชายคนเล็กของคุณนราประสบอุบัติเหตุที่ประเทศอิตาลี อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน และผลพวงจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ ธีรดลขาหักทั้งสองข้างและต้องนอนพักรักษาตัวอยู่นานกว่าอาการโดยรวมจะหายดี แต่เขาไม่สามารถเดินได้เพราะเจ้าตัวไม่ยอมเดิน และไม่ยอมทำกายภาพบำบัด คุณนราจึงให้ลูกชายค
ตอนที่4.“เธอนี่มันปากกล้าจริงๆ ไม่รู้เป็นพยาบาลได้ยังไง ซื้อใบประกอบวิชาชีพมารึเปล่า” “อ้าวคุณ พูดแบบนี้หมิ่นประมาทกันชัดๆ เลยนะคะเนี่ย ไม่ดี ไม่เอาไม่พูด”หญิงสาวทำหน้าทะเล้นไม่ได้สนใจหรือสะทกสะท้านกับคำพูดของเขา ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ระวังไม่ให้เขาเดินสะดุดล้ม “หึ.. ถ้าอย่างนั้นก็คงติดสินบนครูผู้สอนจนจบมาได้ ฉันเคยได้ยินมาว่าบางคนเอาเหล้าขาวหนึ่งขวด กับไก่ต้มหนึ่งตัว หรือไม่ก็หัวหมูหนึ่งหัวไปให้ เขาก็ให้ผ่านแล้ว”วาสิฏฐีหัวเราะก๊ากกับคำเปรียบเปรยของชายหนุ่ม นี่เขาไปจำมาจากไหนกันเนี่ย “โอ๊ย คุณ.. คุณนี่ไทยแท้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็กๆ ถามจริงๆ ไปจำไอ้เรื่องพวกนี้มาจากไหน วงเหล้าไหนเขาโม้ให้ฟัง”ธีรดลขึงตามองคนที่สูงเพียงไหล่กว้างของตนอย่างหมั่นไส้ อารมณ์ที่เดือดปุดๆ อยู่แล้ว ดูเหมือนจะเดือดยิ่งขึ้นไปอีก“นี่เธอ พูดมากจริง มีใครเคยบอกเธอมั้ย” “มีเยอะแยะไป คนไข้บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนตัวพยาบาลเลยก็มี” หญิงสาวยอมรับหน้าตาเฉย “หน้ามึนหน้าด้าน” “โอ้โห.. นี่คุณ ปากจัดกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย ข้าน้อยนับถือๆ”วาสิฏฐียังมีแก่ใจจะยั่วโมโหเขาขณะช่วยประคองเขาเดินไปตาม
ตอนที่3.พูดจบเธอก็ยัดกระดาษตารางการทำกายภาพบำบัดใส่มือของเขาแล้วเดินหนีไปอย่างไม่ใส่ใจอารมณ์ฉุนเฉียวของคนไข้จอมเอาแต่ใจ สนใจทำไมล่ะ ในเมื่อสิทธิ์ในการดูแลรักษาเขานั้นอยู่ในกำมือเธอทั้งหมด และคนที่กุมอำนาจสูงสูดในบ้านก็เป็นพวกเดียวกันกับเธอ คนที่จะต้องยอมก็คือธีรดลต่างหาก หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจและไปบอกข่าวนี้แก่คุณนรา สองสาวต่างวัยต่างหัวเราะชอบใจกับแผนการของพวกตนที่กำลังจะลุล่วงด้วยดีในขณะที่ธีรดลมองตามหลังหญิงสาวไปอย่างโมโหฉุนเฉียวที่วิสฏฐีไม่ยอมตามใจเขา เป็นเขาที่ต้องทำตามที่เจ้าหล่อนต้องการ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย คนที่เคยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง เป็นผู้คุมเกมมาเสมอเริ่มรับไม่ได้และอยากจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้“ยายตัวแสบ คิดว่าจะชนะฉันได้เหรอ หึ.. คอยดูเถอะ ฉันทำกายภาพบำบัดจนเดินเองได้เมื่อไหร่ เธอเสร็จฉันแน่ จะเอาคืนให้สาสมเลย” ชายหนุ่มหมายมาดในใจ และตั้งมั่นเพื่อจะเอาชนะวาสิฏฐีให้ได้ แล้วการฝึกทำกายภาพวันแรกผ่านไปด้วยดีจนน่าแปลกใจ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปทุกอย่างก็ดีราวปาฏิหาริย์ แม้คนไข้ของเธอจะดื้อดึงบ้าง แต่ทุกออย่างก็ผ่านไปด้วยดี คนไข้ของเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนน่าแปลกใจเลยทีเดีย
ตอนที่2.“หูไม่ได้แตกและได้ยินทุกคำ” “ได้ยินแล้วยังจะมายุ่งอีก” “ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะนี่คือหน้าที่ของฉัน เอาล่ะอย่าพูดมาก มากินข้าวได้แล้วค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจท่าทางเหมือนเด็กสามขวบของเขาแต่ตักข้าวมาตรงปากของเขา “อ้าปากสิคะ” วาสิฏฐีบอกพร้อมด้วยสีหน้าขึงขัง ธีรดลตวัดสายตาคมเข้มมองอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งแดงก่ำด้วยความกราดเกรี้ยว หากเป็นคนอื่นคงกลัวจนหัวหด แต่ขอโทษ ไม่ใช่เธอแน่นอน วาสิฏฐีฉีกยิ้มหวานให้เขา“กินเองไม่ได้ก็ต้องป้อนไงคะ คุณหนูธีม...”นอกจากไม่กลัวแล้วยังมีหน้าใจกล้ายั่วแหย่เขาอีก ธีรดลมองเธอตาขุ่นเข้ม “ไม่ต้องมายุ่ง” “ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะคุณเป็นคนไข้ของฉัน” “คุณราวีคนไข้ไม่เลิกแบบนี้ทุกคนเลยรึไง” “อะไรกันคุณ นี่เขาเรียกว่าดูแลเอาใจใส่คนไข้อย่างดีต่างหากล่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยีไม่ยี่หระต่อสายตาขวางๆ ของเขา “เอ้า อ้าปาก กินข้าวเสียทีสิคะ จะได้กินยา ฉันมีอย่างอื่นต้องทำต่อ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กที่จะต้องมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำคุณทั้งวัน”“ฉันไม่กิน และฉันก็ไม่ใช่เด็กสามขวบ”“เฮ๊อะทำตัวยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีก” หญิงสาวพูดเบาๆ พลางย่นจมูกใส่เขา ธีรดลเห็นท่าท
ตอนที่1.วาสิฏฐี ถอนใจไม่รู้เป็นรอบที่เท่าแล้วของวันหลังจากที่คนรับใช้ต่างวิ่งกระหืดกระหอบมาหาตนด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่น จนเธอต้องทั้งปลอบและให้กำลังใจพวกเจ้าหล่อนทุกครั้งที่สาวใช้วิ่งมาหา และทุกครั้งก็จะจบลงด้วยการที่เธอต้องเป็นคนไปกำราบ คนไข้ จอมดื้อรั้นและเอาแต่ใจที่สุดอย่าง ธีรดล ลูกชายของ คุณนรา นายจ้างที่มีพระคุณต่อเธอมาก และท่านก็รักและเอ็นดูเธอมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเสมือนหนึ่งลูกสาวของคุณนรานับตั้งแต่ก้าวเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของท่าน ด้วยการชักชวนของ วิกานดา สาวรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน ภรรยาของ ธีร์ ธีรเทพ พี่ชายคนโตของตระกูล ลูเซียโน่ เฉิน ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้าน จนเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณนรา ไปโดยปริยาย ก่อนหน้านี้เธอมีหน้าที่ดูแลคุณนราในฐานะพยาบาลประจำตัวของท่าน แต่เมื่อต้นปีก่อนลูกชายคนเล็กของคุณนราประสบอุบัติเหตุที่ประเทศอิตาลี อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน และผลพวงจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ ธีรดลขาหักทั้งสองข้างและต้องนอนพักรักษาตัวอยู่นานกว่าอาการโดยรวมจะหายดี แต่เขาไม่สามารถเดินได้เพราะเจ้าตัวไม่ยอมเดิน และไม่ยอมทำกายภาพบำบัด คุณนราจึงให้ลูกชายค