แชร์

6...มัดมือชก (2)

ผู้เขียน: rasita_suin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 20:32:51

ช่วงเช้าของไร่ภูศรีจันอากาศเย็นจัดและมีหมอกหนาทว่าเปรมินทร์เคยชิน จนสามารถอาบน้ำสระผมได้สบาย ร่างสูงเพรียวแกร่งก้าวลงบันไดเร็วๆ พร้อมฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตมีแจ๊กเกตไม่หนามากนักคลุม ผมที่ยังชื้นหน่อยๆ ถูกเสยขึ้นสบายๆ ไม่ได้จัดอย่างมีพิธีรีตอง แต่เมื่อลงมาด้านล่างกำลังจะเลี้ยวไปในส่วนห้องอาหารชายหนุ่มก็ชะงัก หันมองกระเป๋าเดินทางใบย่อมที่สาวใช้ยกมาวางหน้าประตูบ้าน กับสูทของตนที่ถือติดมือเข้ามา

“อะไรน่ะ”

“สูทคุณมินทร์เจ้า ข้าเจ้าจะเอาไปซักเจ้า”

สาวใช้อายุน้อยหยุดนิ่งก้มหน้าลงพร้อมกับตอบโดยมือกุมเสื้อสูทแน่น

“รู้แล้วว่าเสื้อฉัน แต่ทำไมมาอยู่ที่เธอ แล้วนั่นอะไร ข้างนอกนั่น ใครจะไปไหน”

ชายหนุ่มเสียงห้วนจัด เสื้อของเขาเขารู้ดี และเข้าใจว่าจะได้คืนจากมือคนที่คลุมติดไปด้วยเมื่อคืน ไม่ใช่จากสาวใช้ แถมกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่วางอยู่ด้านนอกเขาก็จำได้ด้วยว่ามันเป็นของใคร นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน

“เอ่อ...”

ยังไม่ทันที่สาวใช้จะได้ตอบคำถาม ร่างของคนสามคนก็ปรากฏตัวออกมาจากทางด้านห้องอาหาร เปรมินทร์หันขวับไปมอง เขาเหลือบมองร่างบางอรชรก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะเหล่ไปทางผู้เป็นแม่ ซึ่งท่านก็ส่งสายตาเหมือนปรามเขา

ชายหนุ่มจึงยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ขณะที่สาวใช้เลี่ยงออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรู้งาน

“ลงมาแล้วเหรอตามินทร์ หนูก้อยขอไปพักกับเพื่อนน่ะ เดี๋ยวออกไปส่งพ่อกับหนูก้อยเป็นเพื่อนแม่หน้าบ้านก่อนได้ไหม แล้วค่อยกลับมาทานข้าว ลูกรีบหรือเปล่า”

“ก็...นิดหน่อยครับ เดี๋ยวผมออกไปพร้อมทุกคนเลยก็ได้”

“ไม่ทานข้าวก่อนหรือลูก”

ผู้เป็นแม่อดห่วงลูกชายไม่ได้ เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะไม่ทานข้าวเช้าซึ่งเป็นมื้อที่จำเป็นที่สุด

“เดี๋ยวผมไปทานกับคนงานก็ได้ครับ วันนี้พ่อจะไปไหนเหรอครับ ออกไปเร็วจัง”

ชายหนุ่มหันไปเอ่ยถามกับบิดาชวนพูดคุยขณะที่ทั้งขบวนเคลื่อนออกไปนอกประตู เขาทำเป็นไม่สนใจคนร่างบางที่เดินเคียงข้างกับมารดาของตนด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม ทั้งที่ในใจร้อนรนอยากรู้เหตุผลของการรีบไปจากที่นี่ของกัญญานันยิ่งนัก

คุณเฮนรี่บอกว่าเลขาแจ้งว่ามีแบรนด์จิวเวลรี่ชื่อดังสนใจติดต่อมาเพื่อขอเป็นคู่ค้าทางด้านอัญมณีด้วย ทำให้ต้องลงไปกรุงเทพฯ จึงรีบเดินทาง จากนั้นรถตู้ของไร่ก็เลื่อนมาจอดด้านหน้า แต่ก่อนที่ใครจะเอ่ยอะไรเปรมินทร์ก็เสนอขึ้นมา

“พ่อรีบก็ไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันขึ้นเครื่อง ผมไปส่งคุณก้อยให้เองก็ได้”

“เอางั้นเหรอ”

คุณเฮนรี่หันมองลูกชายที่ยืนหน้านิ่ง แล้วจึงหันไปยังภรรยาและเห็นว่าเจ้าปัทมาดาราพยักหน้าลงนิดๆ เขาจึงขมวดคิ้ว

“เอาตามนี้ก็ได้ค่ะคุณ ว่าแต่ลูกสะดวกแน่นะตามินทร์”

เจ้าปัทมาดาราถามย้ำ ทั้งที่รู้สึกว่าลูกชายทำได้ถูกใจท่านมาก

“ครับ ผมว่าจะเข้าไปดูของที่ไปส่งให้โรงแรมใหม่ด้วย อยากเช็กว่ามีอะไรติดขัดหรือเปล่าน่ะครับ”

คนที่เพิ่งบอกว่าจะทานข้าวกับคนงานกลับคำพูดทันที นั่นทำให้คิ้วเรียวบนใบหน้าสวยขมวดเข้าหากัน ทว่าเธอไม่อาจแย้งอะไรได้ด้วยความเกรงใจเจ้าบ้าน จึงจำต้องรับน้ำใจอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

คุณเฮนรี่ก็ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเพราะภรรยาเห็นด้วย เมื่อโอบกอดภรรยาแล้วเขาก็ขึ้นรถกระทั่งเคลื่อนออกไป ส่วนกัญญานันกับเจ้าปัทมาดารายืนรอเปรมินทร์ที่ไปถอยรถออกมาอยู่ครู่หนึ่ง

“แล้วมาพักที่บ้านน้าอีกนะจ๊ะหนูก้อย”

“ค่ะเจ้าน้า ก้อยขอบคุณที่เจ้าน้ากรุณาก้อยในทุกๆ เรื่องค่ะ”

หญิงสาวไหว้ลาเจ้าปัทมาดารา หลังจากเด็กในบ้านยกกระเป๋าเธอขึ้นไปไว้ท้ายรถคันใหญ่ของเปรมินทร์ ซึ่งท่านก็จับมือบางรับไหว้เบาๆ แล้วยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ก่อนร่างบางจะขึ้นรถที่ชายหนุ่มเปิดประตูรอเอาไว้แล้ว ส่วนเขาเองหันไปกอดผู้เป็นแม่และกระซิบเบาๆ

“เจ้าแม่คงต้องคิดแผนใหม่”

“ไม่จำเป็นหรอกย่ะพ่อตัวดี ทำหน้าที่ของเราตามที่แม่บอกก็พอ”

เจ้าปัทมาดารากระซิบกลับเสียงดุนิดๆ เปรมินทร์จึงยิ้มให้ก่อนจะหอมแก้มท่านแล้วผละออกมาขึ้นรถ ไม่นานโฟร์วีลคันโตของชายหนุ่มก็เลื่อนออกจากตรงนั้นโดยมีเจ้าปัทมาดารามองพร้อมกับครุ่นคิดอย่างจริงจัง

 ================

“ทำไมอยู่ๆ คุณถึงออกจากบ้านผม”

ชายหนุ่มเงียบมาตลอดทางและกลับเลือกถามหลังจอดรถหน้าตึกสามชั้นที่จะเป็นโรงเรียนของหญิงสาว

“เพื่อนฉันชวนไปอยู่บ้านเขาน่ะค่ะ ฉันเห็นว่าอยู่กับเพื่อนเดินทางสะดวกกว่า แล้วฉันก็เกรงใจเจ้าน้า ต้องคอยให้คนรับส่งทุกวัน”

หญิงสาวลอบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนตอบ เธอคิดว่าคงไม่ต้องคุยอะไรกับชายหนุ่มเสียอีกเพราะเขาดูเฉยๆ ไม่สนใจอะไรขณะขับรถมาที่นี่

“อ๋อ เกรงใจนี่เอง”

เปรมินทร์พึมพำ ดับเครื่องก่อนจะหันมามองสบตาเธอตรงๆ เป็นครั้งแรกของเช้านี้

“ผมนึกว่าคุณกลัวผมจะทำอะไรคุณก็เลยหนีเสียอีก”

กัญญานันดูจะผงะเล็กน้อยแต่ยังเก็บอาการเอาไว้ได้ แพขนตางอนยาวกะพริบเร็วๆ บนดวงตากลมโตคู่หวานเหมือนจะเรียกสติ

“ฉันเปล่านะคะ”

“งั้นก็ดีแล้ว”

เปรมินทร์กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แววตาในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขานิ่งลึก แต่กัญญานันอ่านมันออก

เขารู้ทัน เขารู้ว่าเธอกลัวเขา

แน่นอนเธอไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นว่าชายหนุ่มจะกล้าทำอะไรเธอในบ้านของตัวเอง เพราะเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีหื่นกระหายจนน่ากลัวเหมือนพวกโรคจิต ทว่าเขาก็เข้าใกล้เธออย่างจู่โจมแบบไม่ให้ทันตั้งตัวเสมอ นั่นเองที่ทำให้กัญญานันนึกหวาดระแวงขึ้นมา

ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้นมันทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่น มือไม้สั่น ใจเต้นเร็วกว่าปกติยากจะระงับให้สงบนิ่งได้ เธอไม่เคยเป็นมาก่อนเลยไม่ว่าจะเข้าใกล้ใครหรือผู้ชายคนไหน แต่กับเปรมินทร์เธอกลับประหม่าเหลือเกิน พออีกฝ่ายเข้าใกล้ก็เกร็งอย่างบอกไม่ถูก กัญญานันจึงตัดสินใจตอบตกลงกับมาธาวีหลังจากเพื่อนสาวเอ่ยปากชวน ในตอนแรกที่เธอขออนุญาตเจ้าปัทมาดาราก็มีเหตุผลโต้แย้งมากมายด้วยความเป็นห่วง ทว่าเมื่อได้รู้ว่าเพื่อนของเธอชื่ออะไรท่านจึงยอม แถมคุยไปคุยมาจึงได้รู้ว่าท่านเคยเห็นเธอรำที่งานบ้านพ่อเลี้ยงศรามาแล้วครั้งหนึ่ง

“เอ่อ คือ...ก้อยต้องขอบคุณคุณอีกครั้งสำหรับตึกนี้นะคะ”

เมื่อเขาเงียบเอาแต่จ้องเธอนิ่ง แต่แววตาคมดุนั้นทำให้กดดันแปลกๆ กัญญานันจึงเปลี่ยนเรื่องพูดในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้พร้อมทั้งยกมือไหว้

“ไม่เป็นไร คุณขอบคุณเจ้าแม่ไปหลายครั้งแล้ว”

เขาพูดมาอย่างนี้กัญญานันจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ทว่าเมื่อจะลดมือลงอีกฝ่ายกลับยื่นมือหนาข้างหนึ่งของเขามากุมมือทั้งสองข้างของเธอไว้เสียก่อน หญิงสาวสะดุ้งมองเขาตาโต ไม่คิดว่าอยู่ๆ ชายหนุ่มจะกล้าจับมือเธอเอาดื้อๆ เธอพยายามกระตุกออกเบาๆ แต่มือใหญ่กุมมือเธอไว้ได้จนหมด แม้เขาจะจับเบาๆ เธอก็ไม่เป็นอิสระ

“ปล่อยเถอะค่ะ”

“นี่เหรอไม่กลัว”

ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนยิ้มเยาะ ทำเอากัญญานันชักไม่พอใจขึ้นมา

“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าฉันกลัวคุณนักคะ คุณกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่งั้นเหรอ ฉันถึงต้องกลัว”

คำพูดท้าทายกับแววตาหวั่นๆ ในดวงตากลมโตวาวหวานทำให้เปรมินทร์ยิ้มมากยิ่งขึ้น พึงใจกับความฉลาดที่มาพร้อมความอ่อนใสน่ารักในตัวอีกฝ่ายนักหนา กัญญานันไม่ยอมให้เขาต้อนอยู่ฝ่ายเดียว

“ไม่รู้สิ”

เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างที่พูดพร้อมยอมปล่อยมือบางสวยง่ายๆ ทั้งที่ชื่นชอบความนุ่มนิ่มแทบไม่อยากปล่อย

กัญญานันมองคนที่เดี๋ยวหน้านิ่ง เดี๋ยวยิ้ม แล้วตอนนี้ก็มาทำเป็นเฉยแล้วก็ถอนหายใจออกมา หญิงสาวจับกระเป๋าใบเล็กที่สะพายติดตัว หันไปกำลังจะเปิดประตู แต่ประโยคจากเสียงทุ้มเข้มด้านหลังกลับทำเอามือสั่น

“ไม่รู้ว่าความชอบมันเรียกว่าไม่ดีหรือเปล่า แล้วคุณจะต้องกลัวอะไร ถ้าผมชอบคุณ”

ร่างบางอรชรนิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับหยุดหายใจ ไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่าย ใบหน้าสวยหวานซีดลงก่อนจะมีเฉดสีระเรื่อขึ้นมาตามพวงแก้ม ขณะรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวแต่หน้าร้อนผ่าว ไม่รับรู้อะไรจนกระทั่งประตูฝั่งเธอถูกเปิดออกโดยคนอื่น แล้วเธอก็เห็นเปรมินทร์ยืนรออยู่

“เชิญ”

ขณะนั้นกัญญานันนึกอะไรไม่ออก ราวกับสมองมึน ว่างเปล่าไปชั่วอึดใจ จึงลงรถตามที่ชายหนุ่มบอก แต่เธอก็ไม่ได้มองหน้าเขา เพียงแค่ก้มหน้าเดินผ่าน

ร่างสูงกำยำไปยืนหน้าตึก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าอย่างไร หรือทำอะไรบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็เห็นท้ายรถเขาห่างออกไป แล้วร่างบางอ้อนแอ้นก็ทรุดลงนั่งข้างๆ กระเป๋าเดินทางใบเล็กของตนเองที่วางอยู่บนพื้นปูนหน้าประตูตึก ซึ่งชายหนุ่มยกลงมาวางไว้ให้นั่นเอง

=====

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เพลิงภูหมอก   7…คลุมถุง (1)

    เป็นอีกครั้งในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาที่กัญญานันถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อเห็นรถตู้ของไร่ภูศรีจันแล่นเข้ามาจอดด้านหน้าตึก แม้จะกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่จำต้องพบหน้ากัน กัญญานันก็เลือกวางเฉยทำให้ระหว่างทั้งคู่ยังอึมครึมอยู่ ทว่าหญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าที่โรงเรียนของเธอกับเพื่อนก้าวหน้ารวดเร็วจนเกือบจะเสร็จเรียบร้อยในอีกไม่กี่วันนี้ ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเปรมินทร์ ชายหนุ่มช่วยดูแบบ ออกความคิดเห็นปรับแก้ในจุดที่บกพร่อง เลือกเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง ทั้งยังเป็นธุระติดต่อเพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพดี สวยงาม ราคาย่อมเยา เพราะกัญญานันกับมาธาวีไม่สันทัดทั้งคู่“ดูทำหน้าเข้าสิ ถ้าเราเป็นพี่มินทร์แล้วเห็นหน้าเธอแบบนี้ทุกครั้งที่เจอนะ เราถอยไปนานแล้ว”มาธาวีที่กำลังช่วยกัญญานันจัดพื้นที่ต้อนรับด้านล่างกระทุ้งศอกใส่เพื่อนที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากเจอคนจากไร่ภูศรีจันกัญญานันไม่เถียงเพื่อน เพราะเธออธิบายจนเหนื่อยแล้วแต่มาธาวีก็เลือกที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองว่าเปรมินทร์กำลังตามจีบเธอ เหตุผลที่กัญญานันพยายามปฏิเสธเพราะเธอเคยเห็นเขากับวันนิสามาก่อน อีกทั้งยังได้รู้จากเพื่อนด้วยว่าเจ้าปัทมาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • เพลิงภูหมอก   7…คลุมถุง (2)

    วันนี้เป็นวันที่กัญญานันไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยในชีวิต แม้จะเคยฝันไว้ว่าอยากใส่ชุดเจ้าสาวในแบบไหน แต่ไม่เคยคิดว่าเจ้าบ่าวของตนจะเป็นใคร หน้าตาแบบไหน และยิ่งเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา สมบัติพัสถาน ทั้งยังฉลาดเฉลียว มีความสามารถโดดเด่นหลายอย่างดังเช่นที่เขาเคยแสดงให้เธอได้เห็นในช่วงเวลาไม่ถึงสองเดือนที่ได้รู้จักกันอย่างเปรมินทร์ เธอยิ่งไม่เคยนึกฝัน แม้รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มพยายามเข้ามามีส่วนร่วมในวงจรชีวิตของเธอก็ตาม กระทั่งทุกสิ่งล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ วันที่เธอต้องมาเป็นเจ้าสาวของเขาเวลานี้เธอกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ของทางฝ่ายเธอและเปรมินทร์ มือของเธออยู่ในมือหนาแข็งแรงของอีกฝ่ายขณะที่เขากำลังสวมแวนให้เธออย่างแผ่วเบา เนื้อแหวนที่เย็นเฉียบทำให้กัญญานันรู้สึกหนักอึ้ง หญิงสาวเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยดวงตาพร่ามัว ยกมือไหว้เขาอย่างอ่อนช้อยในขณะที่เขาเองก็รับไหว้เธอตอบ กัญญานันจำต้องข่มน้ำตาที่เอ่อคลอเอาไว้ แม้ใครหลายคนอาจจะมองว่าเจ้าสาวกำลังตื้นตันกับวันวิวาห์แสนหวานก็ตามใช่ว่ากัญญานันจะรังเกียจเปรมินทร์จนถึงขั้นไม่อาจใช้ชีวิตร่วมกับชายหนุ่มได้ แต่เธอถูกบีบบังคับจนไม่เหลือทางให้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • เพลิงภูหมอก   7…คลุมถุง (3)

    “ทำหน้าแบบนั้น อยากพูดอะไร อยู่กับผมคุณไม่ต้องสงบปากสงบคำนักก็ได้ คุณไม่ได้อยู่กับผู้ใหญ่สักหน่อย แล้วผมก็ไม่ใช่พวกบ้าอำนาจที่เมียต้องฟังผัวอย่างเดียว ไม่มีสิทธิ์เอ่ยปาก”หญิงสาวหน้าแดงเรื่อขึ้นเพราะคำพูดโต้งๆ ของอีกฝ่ายแล้วก็ก้มลงหลบตาเขาเช่นเคยก่อนจะพึมพำเสียงเบา“ไม่มีอะไร...”ยังไม่ทันได้เอ่ยจบประโยคก็รู้สึกถึงร่างสูงกำยำที่โน้มลงมาหา กัญญานันเอนกายไปด้านหลังเอียงหน้าหลบเต็มที่ พอจะดันมือกับเตียงเพื่อถอยก็ปรากฏว่าไปเจอเข้ากับมือหนาทั้งสองข้างที่วางข้างกายเธอสองด้านเหมือนกักกันกลายๆ ทำให้เธอไม่อาจขยับไปไหนได้ ขณะที่ใบหน้าคมหล่อเหลาเคลื่อนมาชิดหน้าเธอทั้งยังเอียงทำมุมจนสามารถมองตากันได้อย่างชัดเจน ด้วยความตกใจกลัวการคุกคามอย่างกะทันหันของชายหนุ่มกัญญานันจึงผงะ หลับตาปี๋ สองมือตั้งใจจะผลักอกแกร่งแต่กลับกลายเป็นถูกรั้งเข้าไปกอดไว้“เดี๋ยวก็ล้มลงไปหรอก”เขายังดุเบาๆ“คุณมินทร์”“หืม”แม้จะขานรับหญิงสาวไปแต่ตอนนี้เปรมินทร์กำลังให้ความสนใจกับมือนุ่มนิ่มที่แตะบนแผงอกเขากับใบหน้าหวานด้านข้าง ที่วันนี้ผมยาวสลวยของกัญญานันถูกรวบขึ้นมวยสูงเผยแก้มผ่องใส ดวงหน้างดงามแจ่มกระจ่างตา ความสวยลออตาก่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-28
  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (1)

    “อะ เอ่อ...”“คุณสวยจนผมอดใจไม่อยู่ ขอโทษที อย่าเพิ่งขัดใจผมเลย สัญญาว่าจะรอคุณอาบน้ำเสร็จก่อนแน่ แต่ว่าตอนนี้...ขอชื่นใจสักนิดเถอะนะ"ทั้งที่ร่างบางเกิดอาการหวั่นเกรงอย่างเห็นได้ชัดแต่เปรมินทร์ก็ยังเดินหน้า เมื่อเอ่ยปากขออย่างหมดเหลี่ยมแล้ว เขาก็สอดประสานมือข้างซ้ายของหญิงสาวกับตนเอง เหมือนเชื่อมความรู้สึกให้ส่งผ่านถึงกันและกัน แล้วเลื่อนลงให้เธอโอบกอดเอวบางพร้อมกับเขา ส่วนมืออีกข้างเลื่อนมาเชยคางมนให้แหงนเงยมารับจุมพิตร้อนรุ่มจากเขาปากได้รูปประทับแนบสนิทกับปากอิ่มสวยก่อนจะขยับไล้กลีบปากนุ่มแผ่วผิว อึดใจต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเบียดไล้มากขึ้นจนปลายลิ้นอุ่นซ่านถูกส่งออกมาสัมผัสกับความนุ่มนิ่มดั่งกลีบกุหลาบแรกแย้มถ้วนทั่ว ไม่นานหญิงสาวก็ยินยอมเผยอรับลิ้นอุ่นเข้ามาพัวพันกับตนเองโดยไม่รู้ตัว เปรมินทร์เป็นผู้นำพาให้เธอหลงวนไปกับความหอมหวานจากจูบแรกในชีวิตจนแทบไม่อยากถอยห่าง กระทั่งความอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง จากไล้เลียพันรัดก็กลับเป็นดูดดึงรุนแรง นั่นเองที่ทำให้กัญญานันผวาหายใจหายคอไม่ทัน อกอวบอิ่มสะท้อนแรงขึ้น ลมหายใจแทบจะไม่มีหลงเหลือราวถูกสูบวิญญาณ แล้วก็ต้องส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเปรมิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (2)

    ความเย็นเยียบกระทบผิวกายนวลลออทันทีที่ร่างบางอรชรโผล่พ้นจากน้ำ กัญญานันล้างเนื้อล้างตัวด้วยน้ำอุ่นจากฝักบัวแล้วจึงรีบเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่มาคลุมร่าง ปากอิ่มสั่นจนฟันกระทบเข้าหากัน เมื่อซับน้ำจากร่างจนหมดแล้วก็แข็งใจดึงผ้าออกสวมชุดนอนแขนยาวขายาวตามด้วยเสื้อคลุมทับไปอีกชั้น หากก็ยังไม่ช่วยให้อบอุ่นเพียงพอหญิงสาวจึงรีบเอาผ้าขนหนูไปตาก เมื่อเห็นผ้าผืนใหญ่ตากอยู่ส่วนบนแล้วเหลือส่วนล่างที่เป็นของเธอก็รู้สึกแปลกๆ จะขัดเขินก็ไม่ใช่ อุ่นใจก็ไม่เชิง แต่ด้วยความหนาวกัญญานันจึงรีบทำทุกอย่างให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากห้องน้ำที่เย็นฉ่ำนี้เสีย โดยลืมไปสนิทว่าเมื่อออกไปแล้วอะไรกำลังรอตนเองอยู่เท้าเล็กก้าวออกมาจากห้องน้ำแล้วปิดประตูลง มือกำลังจะแกะผ้าขนหนูที่ห่อผมอยู่เพื่อซับให้หมาดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องเพียงคนเดียว ดวงตากลมโตกวาดมองไปโดยรอบอย่างหวั่นใจ กระทั่งเจอร่างสูงเพรียวใส่กางเกงยีนเรียบร้อยยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้ากำลังสวมเสื้อยืดแขนสั้นแล้วหันมาทางเธอ คงเพราะได้ยินเสียงประตูนั่นเองกัญญานันมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัยแต่ไม่รู้จะเอ่ยถามว่าอะไร ส่วนชายหนุ่มก็มองเธอแวบเดียวแล้วหันไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (3)

    เกือบสิบนาทีต่อมามนตรีก็พารถโฟร์วีลคันโตของเปรมินทร์มาจอดเทียบหน้าบ้านพักหลังใหญ่ของเจ้าปัทมาดารา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านส่วนตัวของเปรมินทร์ประมาณห้าร้อยเมตร ร่างสูงเพรียวพุ่งพรวดขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างร้อนใจ“ไปเลย”คำสั่งห้วนๆ ของเจ้านายทำให้มนตรีไม่กล้าทักท้วงขอให้เปรมินทร์ไปนั่งด้านหลัง เมื่อรถวกเลี้ยวโค้งกำลังจะออกไปจากลานกรวดด้านหน้าก็ต้องเบรกกะทันหันเพราะร่างหนึ่งโผล่ออกมาขวาง รถยังไม่ทันหยุดนิ่งด้วยซ้ำคนที่ขวางก็วิ่งมาด้านข้างแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะหลัง เนื่องจากไฟในรถทำให้เธอเห็นว่าที่นั่งด้านหน้าเต็มแล้ว“คุณมาได้ยังไง”เปรมินทร์ถามขึ้นขณะร่างบางเข้ามานั่งในรถ“ออกรถเลยค่ะ”หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถาม แต่บอกคนขับทั้งที่ตนเองยังไม่ทันจะปิดประตูด้วยซ้ำ เสียงของเธอดูหอบสะท้านทว่ายังไม่มีใครทันสังเกต“เร็วสิคะ”เมื่อเสียงใสเจือลมหายใจหอบน้อยๆ เร่งขึ้นมนตรีจึงเหลือบตามองหน้าเจ้านายซึ่งตอนนี้หน้าหล่อเหลาดูเคร่งเครียดและดุอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในที่สุดเปรมินทร์ก็ยอมพยักหน้าให้ออกรถ มนตรีจึงทำตามคำสั่ง จากนั้นในรถก็เข้าสู่ความเงียบมีเพียงเสียงหายใจหนักๆ ของคนร่างบางซึ่งอยู่เบาะหลัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-29
  • เพลิงภูหมอก   9...คืนเศร้า คนป่วย (1)

    สองอาทิตย์แห่งความโศกเศร้าผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลังจากเกิดความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นภายในไร่ภูศรีจันทุกอย่างในไร่ก็ดูเหมือนจะเฉาลงไปถนัดตา มองไปทางไหนก็เจอแต่ความหมองหม่น แม้แต่ไร่กุหลาบที่แสนสวยงามหลากหลายสียังไม่รู้สึกสดชื่นเวลาที่มองเห็น ใบหน้าของคนงานแต่ละคนก็หมองเศร้าจนไม่อยากมองหน้ากันเองด้วยซ้ำ ทว่าที่ดูแย่ที่สุดและราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนก็คือนายคนใหม่ของไร่ภูศรีจันอย่างเปรมินทร์ แม้ชายหนุ่มไม่อยากขึ้นมายืนบนจุดนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะไร่ขาดร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันถึงสองคนชายหนุ่มเงียบขรึมไปมากจนหลายคนไม่กล้าสู้หน้าในระหว่างงานพิธี แม้กระทั่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเองก็ตาม กัญญานันอยู่ในที่ของตนเอง ช่วยหยิบจับดูแลความเรียบร้อยเท่าที่พอจะทำได้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยเพิ่งแต่งงานทำให้หญิงสาวไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากนัก ยิ่งเห็นเปรมินทร์เฉย หน้าเศร้า เงียบขรึม เธอยิ่งทำตัวไม่ถูก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นพรากความสูญเสียไปจากชายหนุ่มเพียงฝ่ายเดียว ส่วนคุณชายพงศกรกับคุณรุจีรัตน์พ่อกับแม่ของเธอปลอดภัย มีอาการบาดเจ็บ ทว่าก็ไม่รุนแรงมากถึงขั้นวิกฤต แต่ไม่สามารถออกจา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-30
  • เพลิงภูหมอก   9...คืนเศร้า คนป่วย (2)

    กัญญานันมองอ่างแก้วกับผ้าที่วางบนถาดแล้วก็รู้ว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจดื่มนมจนหมดแก้ว จากนั้นร่างบางก็ค่อยๆ เดินไปใกล้คนที่เอาแต่นอนนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทว่าในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยปากเรียกก่อน“คุณมินทร์ คุณมินทร์คะ”ชายหนุ่มยังนิ่งอยู่เธอจึงค่อยๆ ยื่นมือไปวางบนท่อนแขนกำยำเบาๆ พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้ง ได้ยินเขาครางรับเสียงแหบพร่าแผ่วเบา รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยจึงพูดต่อ“คุณมินทร์ขยับตัวหน่อยนะคะ จะได้นอนสบายขึ้น”เธอเห็นเขาเหมือนจะพยักหน้านิดๆ แต่กลับไม่ขยับ จนผ่านไปชั่วอึดใจร่างสูงก็พยายามยันกายขึ้นแต่กลับเอียงเกือบจะล้มลงไปกัญญานันจึงรีบถลาเข้าไปพยุงแม้จะช่วยไม่ได้มากนัก เพราะชายหนุ่มพาตัวเองมานอนกลางเตียงเองเสียมากกว่า เขาเอียงตัวคว้าหมอนข้างมากอดแล้วปิดตาที่ปรือของตนลงอีกครั้งทันที ปล่อยให้คนร่างบางได้แต่มองอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อนึกได้ว่าต้องเช็ดตัวกัญญานันก็ผละออกมาเอาผ้าชุบน้ำกลับมานั่งบนเตียงข้างชายหนุ่มแล้วเรียกอีกครั้ง“คุณมินทร์คะ เช็ดตัวหน่อยนะคะ”“อืม ก็ทำไปสิ”เสียงแหบแห้งตอบเบาจนแทบไม่ได้ยิน ทว่ากลับไม่ขยับตัวนอนให้เธอเช็ดตัวได้อย่างสะดวก กัญญานันถอนหายใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-30

บทล่าสุด

  • เพลิงภูหมอก   10…เพื่อนตัวน้อย (3)

    “แต่...แต่ว่า...นี่มันตอนเช้า เอ่อ...”คำท้วงหวานใสหยุดลงเพราะนิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มวางลงบนปากอิ่ม“ปากของคุณทั้งสวยทั้งหวานจนผมอยากจูบแล้วจูบอีก แก้มคุณก็นิ่มจนผมอยากหอมไม่หยุด คอก็ขาวผ่อง แล้ว...”ขณะที่พูดปลายนิ้วเขาก็ลากไล้ไปตามจุดต่างๆ ที่เอ่ยถึงบนเรือนร่างสวยพร้อมไปด้วย ทำเอาร่างบางสะท้านตาม กระทั่งปลายนิ้วแข็งแรงไล้ไปบนเนินเนื้ออวบเขาก็ชะงักเพราะกัญญานันจับมือเอาไว้ ชายหนุ่มจึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจับมือบางมาจุมพิตแผ่วเบาจนถ้วนทั่ว“ผิวคุณเนียนนุ่ม หอมทั้งเนื้อทั้งตัว คุณไม่รู้หรอกว่าผมอยากรักคุณทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้ ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น”กัญญานันฟังคนที่พึมพำบอกเสียงแผ่วนิ่งเขินจนทำตัวไม่ถูก ได้แต่มองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยใจไหวระทึก แทบลืมไปแล้วว่าตัวเองมีปากที่จะห้าม ด้วยถูกเหนี่ยวสติสัมปชัญญะทั้งหมดไป ไม่ว่าชายหนุ่มจะจูบจะหอมเธอก็สะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนลงมาหาแก้มนวลใส สูดดมความหอมชื่นใจเต็มที่ก่อนจะจูบไซ้แผ่วผิวระเรื่อยไปหาใบหูอ่อนนุ่ม ทำเอากัญญานันหอบแรงขึ้นมาทันใด มือบางที่ถูกฝ่ามือหนาทาบทับให้แนบแก้มเขานั้นชื้นไปด้วยเหงื่อ แม้จะเกร็งและสมองเตือนใ

  • เพลิงภูหมอก   10...เพื่อนตัวน้อย (2)

    ร่างบางเดินออกจากห้องน้ำพร้อมของในมือก็เห็นเปรมินทร์ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ทว่าทีวีเปิดขึ้นมาแล้ว เมื่อสบตากันเธอก็มองเห็นเพียงแววนิ่งสุดจะหยั่งได้จากนัยน์ตาอีกฝ่าย หญิงสาวเสียบปลั๊กไดร์เป่าผม แล้วขยับมายืนใกล้ร่างสูง หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาถือในมือแต่ยังไม่ทันทำอะไรก็ถูกชายหนุ่มตวัดเอวบางเข้าไปหาเขา“เอ่อ...”“ผมรู้สึกเหมือนเริ่มจะหนักหัวอีกแล้ว”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ราวกับอ้อนก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไร แถมยังดึงร่างเล็กให้เข้าไปยืนตรงกลางระหว่างขาของตัวเอง รั้งเอวบางขยับใกล้เขาอีกนิดเพื่อที่เธอจะได้เช็ดผมให้เขาสะดวกขึ้นกัญญานันไม่กล้าฝืนจึงจำยอมยืนนิ่งอยู่ในอกคนร่างใหญ่แล้วใช้ผ้าเช็ดผมสั้นของอีกฝ่ายอย่างเบามือ พยายามมองเพียงแค่สิ่งที่ตนเองทำ ไม่คิดว่าใกล้ชิดกันแค่ไหน แต่ดูเหมือนคนที่พยายามไม่คิดอะไรมีเพียงเธอ เพราะรู้สึกได้ว่ามือหนาของอีกฝ่ายลูบไล้ไปมาอยู่ที่ช่วงเอวด้านหลัง หญิงสาวจึงหาเรื่องมาพูดคุยเพื่อลดความอึดอัด“เมื่อกี้ฉันไปเจอหมาตัวหนึ่งค่ะ น่ารักดี เห็นสโนบอกว่าคุณเลี้ยงไว้ที่ออฟฟิศ เพิ่งพามันมาที่นี่แล้วฝากไว้กับหนุ่ม”“อืม...เมื่อวานยังไม่ทันได้บอกคุณ หนุ่มเป็นคนขับรถคนใหม่ ผมเพิ่ง

  • เพลิงภูหมอก   10…เพื่อนตัวน้อย (1)

    โฮ่งๆกัญญานันชะงักเดินผ่านแปลงดอกไม้นานาชนิดท่ามกลางความหนาวของอากาศในตอนเช้าหันมองตามเสียงแล้วดวงตากลมโตก็เบิกโพลงเจ้าตัวที่ทำเสียงดังไม่ได้มีท่าทางเหมือนจะทำร้ายหญิงสาว มันวิ่งพรวดออกมาหากระดิกหางพร้อมกับเห่าไม่หยุด ตัวมันค่อนข้างเตี้ย กัญญานันยิ้มให้มันแล้วคุกเข่าลงกับพื้นหญ้า ยื่นมือไปหามันก็ถูไถหน้าย่นแหลมกับมือเธอ ทั้งยังเลียไม่หยุดจนหญิงสาวหัวเราะเบาๆ พร้อมกับพิจมองไปด้วยรู้สึกถึงความคุ้น“เฮ้ย แกจะทำอะไร”เสียงดังของใครคนหนึ่งตวาดขึ้น เจ้าสุนัขกระโจนเข้าหาอกหญิงสาวทันทีเธอจึงอุ้มมันเอาไว้พร้อมหันไปมองคนมาใหม่ เขาไม่ใช่คนบนภูหมอก“คุณเป็นใคร”ร่างบางลุกขึ้นก้าวถอยหลัง เพราะอีกฝ่ายยังไม่ตอบคำถาม เอาแต่มองหน้าเธอเหมือนไม่เคยเห็น แต่ก็ไม่เคยเห็นจริงๆ นั่นแหละ“คุณเป็นใครคะ มาที่นี่ได้ยังไง”“ผม...”“อ้ายหนุ่ม”สโนสาวน้อยที่เป็นลูกมือคนหนึ่งของเพ็ญเรียกพร้อมกับวิ่งมาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ พอเห็นกัญญานันก็ยิ้มหวานให้แล้วหันไปพูดกับผู้ชายคนนั้น“พี่เพ็ญเปิ้นหื้อมาตามอ้าย เปิ้นบอกหื้ออ้ายอาบน้ำอาบท่า สักกำจะได้กินข้าว เตียมตั๋ว เผื่อนายมินทร์เฮียกใจ๊”“อืม”ผู้ชายที่สโนเรียกว่าหนุ่มพย

  • เพลิงภูหมอก   9...คืนเศร้า คนป่วย (2)

    กัญญานันมองอ่างแก้วกับผ้าที่วางบนถาดแล้วก็รู้ว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจดื่มนมจนหมดแก้ว จากนั้นร่างบางก็ค่อยๆ เดินไปใกล้คนที่เอาแต่นอนนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทว่าในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยปากเรียกก่อน“คุณมินทร์ คุณมินทร์คะ”ชายหนุ่มยังนิ่งอยู่เธอจึงค่อยๆ ยื่นมือไปวางบนท่อนแขนกำยำเบาๆ พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้ง ได้ยินเขาครางรับเสียงแหบพร่าแผ่วเบา รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยจึงพูดต่อ“คุณมินทร์ขยับตัวหน่อยนะคะ จะได้นอนสบายขึ้น”เธอเห็นเขาเหมือนจะพยักหน้านิดๆ แต่กลับไม่ขยับ จนผ่านไปชั่วอึดใจร่างสูงก็พยายามยันกายขึ้นแต่กลับเอียงเกือบจะล้มลงไปกัญญานันจึงรีบถลาเข้าไปพยุงแม้จะช่วยไม่ได้มากนัก เพราะชายหนุ่มพาตัวเองมานอนกลางเตียงเองเสียมากกว่า เขาเอียงตัวคว้าหมอนข้างมากอดแล้วปิดตาที่ปรือของตนลงอีกครั้งทันที ปล่อยให้คนร่างบางได้แต่มองอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อนึกได้ว่าต้องเช็ดตัวกัญญานันก็ผละออกมาเอาผ้าชุบน้ำกลับมานั่งบนเตียงข้างชายหนุ่มแล้วเรียกอีกครั้ง“คุณมินทร์คะ เช็ดตัวหน่อยนะคะ”“อืม ก็ทำไปสิ”เสียงแหบแห้งตอบเบาจนแทบไม่ได้ยิน ทว่ากลับไม่ขยับตัวนอนให้เธอเช็ดตัวได้อย่างสะดวก กัญญานันถอนหายใจ

  • เพลิงภูหมอก   9...คืนเศร้า คนป่วย (1)

    สองอาทิตย์แห่งความโศกเศร้าผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลังจากเกิดความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นภายในไร่ภูศรีจันทุกอย่างในไร่ก็ดูเหมือนจะเฉาลงไปถนัดตา มองไปทางไหนก็เจอแต่ความหมองหม่น แม้แต่ไร่กุหลาบที่แสนสวยงามหลากหลายสียังไม่รู้สึกสดชื่นเวลาที่มองเห็น ใบหน้าของคนงานแต่ละคนก็หมองเศร้าจนไม่อยากมองหน้ากันเองด้วยซ้ำ ทว่าที่ดูแย่ที่สุดและราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนก็คือนายคนใหม่ของไร่ภูศรีจันอย่างเปรมินทร์ แม้ชายหนุ่มไม่อยากขึ้นมายืนบนจุดนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะไร่ขาดร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันถึงสองคนชายหนุ่มเงียบขรึมไปมากจนหลายคนไม่กล้าสู้หน้าในระหว่างงานพิธี แม้กระทั่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเองก็ตาม กัญญานันอยู่ในที่ของตนเอง ช่วยหยิบจับดูแลความเรียบร้อยเท่าที่พอจะทำได้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยเพิ่งแต่งงานทำให้หญิงสาวไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากนัก ยิ่งเห็นเปรมินทร์เฉย หน้าเศร้า เงียบขรึม เธอยิ่งทำตัวไม่ถูก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นพรากความสูญเสียไปจากชายหนุ่มเพียงฝ่ายเดียว ส่วนคุณชายพงศกรกับคุณรุจีรัตน์พ่อกับแม่ของเธอปลอดภัย มีอาการบาดเจ็บ ทว่าก็ไม่รุนแรงมากถึงขั้นวิกฤต แต่ไม่สามารถออกจา

  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (3)

    เกือบสิบนาทีต่อมามนตรีก็พารถโฟร์วีลคันโตของเปรมินทร์มาจอดเทียบหน้าบ้านพักหลังใหญ่ของเจ้าปัทมาดารา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านส่วนตัวของเปรมินทร์ประมาณห้าร้อยเมตร ร่างสูงเพรียวพุ่งพรวดขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างร้อนใจ“ไปเลย”คำสั่งห้วนๆ ของเจ้านายทำให้มนตรีไม่กล้าทักท้วงขอให้เปรมินทร์ไปนั่งด้านหลัง เมื่อรถวกเลี้ยวโค้งกำลังจะออกไปจากลานกรวดด้านหน้าก็ต้องเบรกกะทันหันเพราะร่างหนึ่งโผล่ออกมาขวาง รถยังไม่ทันหยุดนิ่งด้วยซ้ำคนที่ขวางก็วิ่งมาด้านข้างแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะหลัง เนื่องจากไฟในรถทำให้เธอเห็นว่าที่นั่งด้านหน้าเต็มแล้ว“คุณมาได้ยังไง”เปรมินทร์ถามขึ้นขณะร่างบางเข้ามานั่งในรถ“ออกรถเลยค่ะ”หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถาม แต่บอกคนขับทั้งที่ตนเองยังไม่ทันจะปิดประตูด้วยซ้ำ เสียงของเธอดูหอบสะท้านทว่ายังไม่มีใครทันสังเกต“เร็วสิคะ”เมื่อเสียงใสเจือลมหายใจหอบน้อยๆ เร่งขึ้นมนตรีจึงเหลือบตามองหน้าเจ้านายซึ่งตอนนี้หน้าหล่อเหลาดูเคร่งเครียดและดุอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในที่สุดเปรมินทร์ก็ยอมพยักหน้าให้ออกรถ มนตรีจึงทำตามคำสั่ง จากนั้นในรถก็เข้าสู่ความเงียบมีเพียงเสียงหายใจหนักๆ ของคนร่างบางซึ่งอยู่เบาะหลัง

  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (2)

    ความเย็นเยียบกระทบผิวกายนวลลออทันทีที่ร่างบางอรชรโผล่พ้นจากน้ำ กัญญานันล้างเนื้อล้างตัวด้วยน้ำอุ่นจากฝักบัวแล้วจึงรีบเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่มาคลุมร่าง ปากอิ่มสั่นจนฟันกระทบเข้าหากัน เมื่อซับน้ำจากร่างจนหมดแล้วก็แข็งใจดึงผ้าออกสวมชุดนอนแขนยาวขายาวตามด้วยเสื้อคลุมทับไปอีกชั้น หากก็ยังไม่ช่วยให้อบอุ่นเพียงพอหญิงสาวจึงรีบเอาผ้าขนหนูไปตาก เมื่อเห็นผ้าผืนใหญ่ตากอยู่ส่วนบนแล้วเหลือส่วนล่างที่เป็นของเธอก็รู้สึกแปลกๆ จะขัดเขินก็ไม่ใช่ อุ่นใจก็ไม่เชิง แต่ด้วยความหนาวกัญญานันจึงรีบทำทุกอย่างให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากห้องน้ำที่เย็นฉ่ำนี้เสีย โดยลืมไปสนิทว่าเมื่อออกไปแล้วอะไรกำลังรอตนเองอยู่เท้าเล็กก้าวออกมาจากห้องน้ำแล้วปิดประตูลง มือกำลังจะแกะผ้าขนหนูที่ห่อผมอยู่เพื่อซับให้หมาดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องเพียงคนเดียว ดวงตากลมโตกวาดมองไปโดยรอบอย่างหวั่นใจ กระทั่งเจอร่างสูงเพรียวใส่กางเกงยีนเรียบร้อยยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้ากำลังสวมเสื้อยืดแขนสั้นแล้วหันมาทางเธอ คงเพราะได้ยินเสียงประตูนั่นเองกัญญานันมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัยแต่ไม่รู้จะเอ่ยถามว่าอะไร ส่วนชายหนุ่มก็มองเธอแวบเดียวแล้วหันไ

  • เพลิงภูหมอก   8…ใกล้ชิดแต่ไม่ใกล้ใจ (1)

    “อะ เอ่อ...”“คุณสวยจนผมอดใจไม่อยู่ ขอโทษที อย่าเพิ่งขัดใจผมเลย สัญญาว่าจะรอคุณอาบน้ำเสร็จก่อนแน่ แต่ว่าตอนนี้...ขอชื่นใจสักนิดเถอะนะ"ทั้งที่ร่างบางเกิดอาการหวั่นเกรงอย่างเห็นได้ชัดแต่เปรมินทร์ก็ยังเดินหน้า เมื่อเอ่ยปากขออย่างหมดเหลี่ยมแล้ว เขาก็สอดประสานมือข้างซ้ายของหญิงสาวกับตนเอง เหมือนเชื่อมความรู้สึกให้ส่งผ่านถึงกันและกัน แล้วเลื่อนลงให้เธอโอบกอดเอวบางพร้อมกับเขา ส่วนมืออีกข้างเลื่อนมาเชยคางมนให้แหงนเงยมารับจุมพิตร้อนรุ่มจากเขาปากได้รูปประทับแนบสนิทกับปากอิ่มสวยก่อนจะขยับไล้กลีบปากนุ่มแผ่วผิว อึดใจต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเบียดไล้มากขึ้นจนปลายลิ้นอุ่นซ่านถูกส่งออกมาสัมผัสกับความนุ่มนิ่มดั่งกลีบกุหลาบแรกแย้มถ้วนทั่ว ไม่นานหญิงสาวก็ยินยอมเผยอรับลิ้นอุ่นเข้ามาพัวพันกับตนเองโดยไม่รู้ตัว เปรมินทร์เป็นผู้นำพาให้เธอหลงวนไปกับความหอมหวานจากจูบแรกในชีวิตจนแทบไม่อยากถอยห่าง กระทั่งความอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง จากไล้เลียพันรัดก็กลับเป็นดูดดึงรุนแรง นั่นเองที่ทำให้กัญญานันผวาหายใจหายคอไม่ทัน อกอวบอิ่มสะท้อนแรงขึ้น ลมหายใจแทบจะไม่มีหลงเหลือราวถูกสูบวิญญาณ แล้วก็ต้องส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเปรมิ

  • เพลิงภูหมอก   7…คลุมถุง (3)

    “ทำหน้าแบบนั้น อยากพูดอะไร อยู่กับผมคุณไม่ต้องสงบปากสงบคำนักก็ได้ คุณไม่ได้อยู่กับผู้ใหญ่สักหน่อย แล้วผมก็ไม่ใช่พวกบ้าอำนาจที่เมียต้องฟังผัวอย่างเดียว ไม่มีสิทธิ์เอ่ยปาก”หญิงสาวหน้าแดงเรื่อขึ้นเพราะคำพูดโต้งๆ ของอีกฝ่ายแล้วก็ก้มลงหลบตาเขาเช่นเคยก่อนจะพึมพำเสียงเบา“ไม่มีอะไร...”ยังไม่ทันได้เอ่ยจบประโยคก็รู้สึกถึงร่างสูงกำยำที่โน้มลงมาหา กัญญานันเอนกายไปด้านหลังเอียงหน้าหลบเต็มที่ พอจะดันมือกับเตียงเพื่อถอยก็ปรากฏว่าไปเจอเข้ากับมือหนาทั้งสองข้างที่วางข้างกายเธอสองด้านเหมือนกักกันกลายๆ ทำให้เธอไม่อาจขยับไปไหนได้ ขณะที่ใบหน้าคมหล่อเหลาเคลื่อนมาชิดหน้าเธอทั้งยังเอียงทำมุมจนสามารถมองตากันได้อย่างชัดเจน ด้วยความตกใจกลัวการคุกคามอย่างกะทันหันของชายหนุ่มกัญญานันจึงผงะ หลับตาปี๋ สองมือตั้งใจจะผลักอกแกร่งแต่กลับกลายเป็นถูกรั้งเข้าไปกอดไว้“เดี๋ยวก็ล้มลงไปหรอก”เขายังดุเบาๆ“คุณมินทร์”“หืม”แม้จะขานรับหญิงสาวไปแต่ตอนนี้เปรมินทร์กำลังให้ความสนใจกับมือนุ่มนิ่มที่แตะบนแผงอกเขากับใบหน้าหวานด้านข้าง ที่วันนี้ผมยาวสลวยของกัญญานันถูกรวบขึ้นมวยสูงเผยแก้มผ่องใส ดวงหน้างดงามแจ่มกระจ่างตา ความสวยลออตาก่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status