หน้าหลัก / วัยรุ่น / เธอในความทรงจำ / ไม่มีดอกไม้ใดสวยงามเท่ารอยยิ้มเธอ

แชร์

ไม่มีดอกไม้ใดสวยงามเท่ารอยยิ้มเธอ

ผู้เขียน: Sonan.lin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-22 11:34:56

“ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แปลก ๆ แฮะ นี่เมื่อกี้นายเขียนอะไรเอาไว้บนยางลบเหรอ เราขอดูหน่อยสิ” นนนที่เห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนผิดธรรมชาติของโอมถามกันอีกหน โดยอีกฝ่ายก็ไม่ทำแค่พูดเพียงอย่างเดียว แต่เจ้าตัวยังมีการหรี่สายตาจ้องมองกันอย่างนึกจับผิดอีกด้วย

“ไม่มีอะไรหรอก นายอย่ามาใส่ใจเรื่องไร้สาระเลย” โอมตอบกลับไปเสียงแผ่ว ช่วงเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มที่กลัวว่าตัวเองจะถูกเพื่อนใหม่ป้ายแดงไล่ต้อนกันให้จนมุมก็ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอไปหนึ่งที

“อะไรกัน แล้วทำไมต้อง…” จังหวะที่นนนอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา มันก็เหมือนมีสวรรค์มาโปรด เพราะยังไม่ทันที่นนนจะได้อ้าปากซักไซ้อะไรกันมากกว่านี้ เสียงขององุ่นที่อีกฝ่ายเองก็จดงานเสร็จแล้วเช่นกันก็ดังขึ้นเสียก่อน เมื่อเธอเองได้เดินมายืนคุยกับพวกเขาที่โต๊ะเรียนของโอม

“สองคนนี้กำลังคุยอะไรกันอยู่ ไม่ไปพักเที่ยงหรือไง”

“อ้าว ครูเขาปล่อยแล้วเหรอ” นนนที่ได้ยินแบบนั้นหันกลับไปถามองุ่นโดยพลัน

“ก็ปล่อยแล้วสิ เพราะเมื่อกี้ตอนที่ครูเขาสั่งงาน เขาก็บอกแลวไงว่าถ้าใครจดงานเสร็จ ถ้าวางงานไว้ที่โต๊ะแล้วก็ให้ไปกินข้าวได้เลย” องุ่นพูดเพิ่มเติม ซึ่งในนาทีที่โอมกับนนนได้ยินแบบนั้น พวกเขาทั้งคู่ก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่งโดยพลัน เนื่องจากช่วงเวลาพักเที่ยงแบบนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนโปรดปรานมากที่สุดแล้ว เพราะนอกจากพวกเขาจะไม่ต้องนั่งเรียนให้เหนื่อยสมองตัวเองแล้ว พวกเขายังจะได้กินของอร่อย ๆ อีกต่างหาก

โดยวันนี้ที่เป็นวันที่สองของโอมกับโรงเรียนใหม่ เด็กหนุ่มที่ตอนแรกนึกว่าตัวเองจะต้องไปไหนมาไหนคนเดียวตลอดทั้งสัปดาห์นี้ จนกว่าเขาจะปรับตัวได้ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย หลังวันนี้เขาไม่ได้นั่งกินข้าวคนเดียวเหมือนอย่างเมื่อวานนี้แล้ว แต่วันนี้โอมได้รับสิทธิพิเศษให้มานั่งกับกลุ่มเพื่อนของนนนที่พวกเขาเพิ่งทำความรู้จักกันไปเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา

“แล้วนี่บ้านโอมทำอะไรเหรอ พ่อแม่ค้าขายเหมือนอย่างพวกเราหรือว่าทำงานราชการ” ขณะที่โอมกำลังนั่งโซ้ยบะหมี่อยู่ข้างนนน แก้วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันก็ยิงคำถามแบบนั้นมาให้เขา คล้ายกับเธอต้องการรู้เรื่องราวส่วนตัวของโอมมากกว่านี้

“บ้านเราเปิดเป็นร้านคาเฟยน่ะ เตี่ยกับม้าเราช่วยกันทำร้านนี้มาตั้งนานแล้ว” โอมตอบเพื่อนใหม่พร้อมพูดเพิ่มเติม “ถ้าทุกคนไม่ได้ติดอะไร งั้นวันเสาร์นี้ก็มาที่ร้านเราสิ”

“ว่าแต่ร้านของโอมชื่อร้านอะไรเหรอ” คราวนี้กล้าเป็นคนพูดขึ้นมาบ้าง

“อาตี๋คาเฟย อันที่จริงร้านเรามันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรหรอก เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นขายให้คนแถวละแวกบ้าน” โอมเอ่ยเพิ่มเติม ทว่าหลังจากที่เด็กหนุ่มพูดชื่อร้านของตัวเองออกมา เหล่าเพื่อนใหม่ของเขาก็ต่างพากันทำตาลุกวาวคล้ายกับทั้งหมดรู้จักร้านของโอมอย่างไรอย่างนั้น

“นี่ทุกคนรู้จักด้วยเหรอ” เด็กหนุ่มที่เห็นสายตาของเพื่อนเอ่ยถามเสียงงง

“แล้วทำไมถึงจะไม่รู้จักล่ะ ในเมื่อร้านนี้อร่อยเกือบทุกอย่างตั้งแต่เครื่องดื่มยันติ่มซำ” ชมพูที่โอมจำได้ว่าบ้านของอีกฝ่ายเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวบอกกลับมา โดยในนาทีที่โอมได้ยินแบบนั้น แม้เด็กหนุ่มจะรู้อยู่เต็มอกว่าเพื่อนใหม่กำลังพูดชมอาหารที่ร้านเขา ไม่ใช่กล่าวชมตัวบุคคลอย่างโอม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับคำพูดเหล่านั้น จนทำให้โอมต้องยกมือขึ้นเกาหลังคอแก้เก้ออย่างคนเสียอาการ

“แล้วนายจะเขินทำไมกัน นี่ชมพูชมอาหารที่ร้านของนายนะ แต่เธอไม่ได้ชมนายสักหน่อย” นนนที่สังเกตเห็นท่าทีแปลกไปของโอมเอ่ยออกมา และคำพูดเหล่านั้นของอีกฝ่ายก็ทำให้เพื่อนในกลุ่มต่างหลุดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย รวมไปถึงโอมด้วย เมื่อเขาเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องเสียอาการด้วย ในเมื่อชมพูไม่ได้บอกว่าเขาหล่อเหลาเหมือนพระเอกเสียหน่อย

หลังจากที่โอมพูดชวนเหล่าเพื่อนใหม่ของตัวเองให้มาเที่ยวเล่นที่บ้านของเขาในช่วงวันหยุดนี้ นั่นจึงทำให้ตอนเช้าวันเสาร์ที่เด็กหนุ่มควรจะตื่นสายเพราะเขาไม่ต้องไปโรงเรียน โอมก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่เช้าตรู่แล้วลงมาช่วยงานคนที่บ้าน ทำเอาเตี่ยของเขาที่กำลังง่วนอยู่กับการนึ่งติ่มซำให้ลูกค้าต้องเอ่ยถามกันด้วยความสงสัย

“วันนี้มันคือวันเสาร์หรือมันเป็นวันอะไรกัน ทำไมโอมถึงได้ตื่นแต่เช้า”

“วันนี้คือวันเสาร์เตี่ย แต่เพื่อนผมจะมาบ้าน” โอมที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็ดทำความสะอาด หลังลูกค้าคนล่าสุดเพิ่งเดินออกจากร้านไปหันหน้ากลับไปบอกเตี่ยของตัวเองแบบนั้น

โดยพ่อของโอมที่เขามักจะเรียกติดปากว่าเตี่ยก็จะมีนิสัยใจดี และประนีประนอมมากกว่าม้าหรือแม่ของเขา ถึงเตี่ยจะไม่ใช่คนที่ใจดีที่สุดในบ้าน แต่ท่านก็ใจดีมากสำหรับโอมแล้ว เวลาที่เด็กหนุ่มอยากได้อะไร เขาก็มักจะขอจากเตี่ยของตัวเองแทนที่จะเป็นม้าอยู่เสมอ

“อ๋อ แล้วมากันกี่คนล่ะ เตี่ยจะได้เตรียมขนมไว้ให้” เตี่ยถามเพิ่มเติม

“สี่ห้าคนนี่แหละเตี่ย แต่พวกเขามาตอนบ่าย ๆ นู่นแหละ เดี๋ยวเตี่ยค่อยทำตอนใกล้ถึงเวลาก็ได้” โอมตอบและตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เนื่องจากช่วงวันเสาร์อาทิตย์แบบนี้ ลูกค้ามักจะแวะเวียนมานั่งดื่มเครื่องดื่มโบราณ หรือแวะมากินติ่มซำร้อน ๆ ที่ร้านอาตี๋คาเฟยอย่างไม่ขาดสายอยู่เป็นประจำ

หลังจากที่โอมบอกกับเตี่ยแบบนั้น และตอนนี้ม้ากับเตี่ยของเขาก็ต่างรู้แล้วว่าวันนี้เพื่อนใหม่ของโอมจะแวะมาที่นี่ สองชั่วโมงต่อมาท่ามกลางความวุ่นวายในร้าน แถมทั่วทั้งร้านเล็ก ๆ ของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟสดและเสียงพูดคุยของลูกค้า โต๊ะที่โอมทำการจองไว้ให้เพื่อนใหม่ของตัวเองก็ดูจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษ หลังตอนนี้เพื่อนใหม่ของเขายกเว้นนนนได้เดินทางมาถึงที่ร้านแล้ว

“อันนี้อร่อยมาก! นายลองชิมอันนี้สิ!” แก้วยื่นติ๋มซำตัวหนึ่งให้กับกล้าที่นั่งข้าง ๆ เธอ และเสียงหัวเราะของกล้าก็ดังขึ้นโดยพลัน เมื่อกล้าได้ลองกัดติ่มซำชิ้นหนึ่งที่แก้วป้อนใส่ปากให้

“โอ้ย! อร่อยจริง ๆ” กล้าพูดพร้อมเริ่มเคี้ยวมันอย่างมีความสุข ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่นั้น โอมกลับมองออกไปข้างหน้าร้านด้วยใจจดจ่อ เมื่อเขากำลังรอคอยนนนที่เจ้าตัวเป็นคนเดียวที่ยังไม่มาถึงที่นี่

“ทำไมนนนถึงยังไม่มาอีกนะ?” ชมพูถาม ขณะที่เธอก็เลื่อนสายตามองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างผนังร้านไปด้วย ก่อนที่เธอจะพูดเพิ่มเติม “เพราะพวกเรานัดกันไว้ตั้งแต่บ่ายสามแล้วนะ”

“รอหน่อยเถอะ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาเร็ว ๆ นี้แหละ” โอมตอบ แต่ใจของเขากลับเต้นแรงขึ้น เมื่อนนนเป็นคนเดียวที่โอมอยากให้อีกฝ่ายมาที่นี่ ได้มาเจอม้ากับเตี่ยของเขา หลังเด็กหนุ่มคิดว่าหากม้ากับเตี่ยของเขาได้เจอกับเพื่อนคนนี้ พวกท่านก็น่าจะให้ความเอ็นดูนนนเหมือนกัน

โดยหลังจากที่โอมบอกกับชมพูไปแบบนั้น เวลาผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จนทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองพร้อมกัน เพื่อที่จะได้เห็นภาพที่นนนวิ่งเข้ามาในร้านด้วยความเหนื่อยหอบ ใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำจากการวิ่งและแสงแดดที่สาดส่อง ความสดใสของชุดขาวที่นนนใส่ทำให้โอมรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งส่องสว่างอยู่ในใจ

“ขอโทษที่มาช้า” นนนที่มีอาการหอบเล็กน้อยพยายามตั้งสติแล้วรีบขอโทษขอโพยเพื่อน ๆ ทันทีที่เจ้าตัวเดินมาถึงโต๊ะของพวกเขา

ในวินาทีนั้น โอมรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน รอยยิ้มของนนนทำให้เขาคิดว่า ไม่มีดอกไม้ใดที่เคยพบเจอที่จะงดงามเท่ากับรอยยิ้มนี้เลย ความสดใสและบริสุทธิ์ของนนนทำให้ใจของโอมเต้นแรงขึ้น เขายิ้มตอบกลับไปและรู้สึกว่าความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใจเริ่มก่อตัวขึ้น

“มานั่งเลย เพราะพวกเรากำลังรออยู่พอดี” โอมพูดขึ้น ขณะที่เด็กหนุ่มก็ส่งยิ้มให้กับนนนที่อีกฝ่ายกำลังหย่อนสะโพกทิ้งตัวนั่งลงข้างเขา โดยมันก็เป็นที่ว่างที่โอมจงใจเว้นว่างไว้ เพื่อรอเพื่อนคนนี้โดยเฉพาะ

“ขอโทษที่ทำให้รอนานนะ” นนนพูดพร้อมกับยิ้มให้เพื่อน ๆ และหยิบติ่มซำเข้าปาก ก้อนติ่มซำทำให้เขาลืมความเหนื่อย แต่ในใจของโอม กลับไม่สามารถลืมความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้

“ชิมอันนี้สิ อร่อยมาก” องุ่นยื่นติ่มซำอีกตัวให้นนน และเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ดังขึ้นในร้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

ขณะที่พวกเขานั่งกินและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ความสัมพันธ์ระหว่างโอมและนนนเริ่มแน่นแฟ้นขึ้น ทุกการสบตา การส่งยิ้ม และการหยอกล้อกันทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แต่ภายในใจของโอม กลับมีบางอย่างที่ยังไม่สามารถบอกออกไป เขาเพียงแต่รู้สึกว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับนนนให้นานที่สุด อยากให้ช่วงเวลานี้คงอยู่ตลอดไป

ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ โอมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้นนน ทุกครั้งที่นนนยิ้มให้เขา รอยยิ้มที่สวยงามนั้นมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในโลกของเขา

“ขอบคุณที่มา วันนี้สนุกมาก” นนนพูดเมื่อพวกเขาเตรียมตัวจะกลับ และโอมรู้สึกว่าใจเขาพองโตขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันจะรอนายมาที่นี่อีกนะ” โอมตอบ รู้สึกว่าคำพูดนั้นมีความหมายมากกว่าที่เคยคิด

ทั้งสองยิ้มให้กัน ท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่อยู่รอบข้าง บรรยากาศในร้านยังคงอบอุ่น และความผูกพันระหว่างโอมและนนนเริ่มเบ่งบานขึ้นอย่างช้า ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและความรักที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เธอในความทรงจำ   ปฐมลิขิต

    กลางถนนในฤดูร้อนที่แสนอบอ้าวในปี พ.ศ.2566 บนเส้นทางที่ยาวไกลมียานพาหะสัญจรกันไปมาเพื่อกลับสู่ชีวิตการทำงานที่แสนเร่งรีบเช่นเดิม เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ และเขาก็เช่นกันที่เดินทางมาพักผ่อนต่างจังหวัดและต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ เหมือนกับทุกๆคนบนถนนเส้นนี้ ชายสูงวัยรุ่นราวคราวเกษียณ มีลักยิ้มที่มุมปาก และหน้าตาผิวพรรณดีถึงแม้จะผ่านโลกมายาวนานก็ตาม เขาขับรถยนต์สีเขียวขี้ม้าไซส์มินิสัญชาติญี่ปุ่นขับแล่นไปตามถนนเส้นเก่าเส้นเดิมที่คุ้นเคย เส้นทางที่ชวนให้คิดถึงวันวาน เลี้ยวซ้ายข้างหน้านั้นคือถนนแม้นรำลึก เข้าไปในซอยแล้วจะเจอร้านขนม เขาจำได้ดี มีขนมรังผึ้งที่เขาชอบและเค้กบัตเตอร์ราดซอสคาราเมลที่คนๆหนึ่งที่เขาคิดถึงในอดีตนั้นโปรดปราณ เสียงลมพัดเอื่อยๆ พัดพาเอากลิ่นบัตเตอร์เข้าจมูกชวนให้เขาหยุดรถเพื่อจอดเข้าตึกแถวข้างร้านนั้น เขาลงไปซื้อของที่เขาชอบพลางแง้มๆดูหน้าตาของมันแล้ววางที่เบาะข้างๆ ฉันยังจำเสมอ ที่เธอเคยบอกกับฉันคิดแล้วยังตื้นตันเกินอธิบายนึกถึงคำคำนั้น ทุกวันที่ห่างกันไปเหมือนมันเป็นโยงใย ที่ส่งถึงกันเขาเปิดเพลงจากซีดีเพลงเก่าจากอัลบั้มรวมเพลงยอดฮิต พศ.2544

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-22
  • เธอในความทรงจำ   สายลม แสงแดดและการพบหน้าเธอ

    16 พฤษภาคม พศ.2516 วันเปิดเทอมวันแรกกับการตื่นนอนแต่เช้าตรู่ เด็กหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นรีบแต่งตัวสะพายกระเป๋าเป้ใบเก่า เขารีบวิ่งลงบันไดบ้าน เขาวิ่งลงบันไดบันได้ไม่ทันสุดขั้นบันไดสุดท้าย แม่ก็ทักทันทีเสียว่า"ไอ่โอมมมมม มึงจะรีบวิ่งอะไรนักหนา เดี๋ยวกูสะดุดกะไดล้มล่ะมึง!" เสียงคุ้นเคยที่ได้ยินก็รู้เลยว่าเสียงแม่ ทำเอาเขาตื่นทั้งขี้ตาในทันที "เล่นตื่นซะไก่โห่ขนาดนี้ จะไปทันบ้านทันเมืองเขาไหม แล้วนั้นไม่เอาหมั่นโถ่วไปกินสัก 2 - 3 ลูกล่ะจะได้อิ่มๆ" แม่บ่นในประโยคเดิมๆเช่นเคย ถึงปากร้ายแต่ก็ใจดี เป็นห่วงเป็นใยเด็กหนุ่มเสมอ"ขี้บ่นอะไรนักหนา ม๊า" เขาบ่นงุบงิบแล้วคว้าเอาถุงหมั่นโถ่วที่แม่เตรียมยัดใส่กระเป๋าพอถึงหน้าบ้านเขาก็คว้าจักรยานคันโปรดที่มีคันเดียวในบ้านปั่นไปโรงเรียนด้วยความเร่งรีบ ด้วยความที่พึ่งไปสถานที่นั้นมาเพียงสองครั้งในวันสมัครเรียนและวันมอบตัวจึงทำให้เขาไม่ค่อยจะชำนาญเส้นทางสักเท่าไร เส้นทางที่ไม่คุ้นก็พาให้เขาหลงทางจนได้ "ลุงครับลุง ทางไปโรงเรียนราชินทร์วิทยาไปทางไหนครับ ให้ผมเลี้ยวซ้ายหรือตรงไปดีครับ" เด็กหนุ่มก็ถามพร้อมกับปาดเหงื่อ"ไอ้หนูเอ้ย เอ็งก็ปั่นจักรยานตรงไปเล๊ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-22
  • เธอในความทรงจำ   ฉันเขียนชื่อเธอไว้ที่ยางลบ

    “ไปเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่โอมปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้านแล้ว ม้าของเขาที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ในห้องครัว แถมอาหารที่เธอกำลังทำก็ยังส่งกลิ่นหอมลอยคลุ้งไปทั่วบ้านก็เอ่ยปากถามกันโดยพลัน นั่นจึงทำให้โอมที่ตั้งท่าจะวิ่งขึ้นห้องของตัวเองในคราวแรกต้องชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย เพื่อตอบคำถามของแม่“ก็ดีครับ” เด็กหนุ่มที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องตอบอะไรบอกกลับไปแบบนั้น“ดี ๆ แล้วตอนนี้โอมได้เพื่อนใหม่หรือยัง” แม่ถามเพิ่มเติม ซึ่งถ้าฟังจากคำพูดจาของแม่แล้วก็ดูเหมือนว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะอารมณ์ดีกว่าตอนเช้า เพราะเมื่อเช้านี้นอกจากแม่ของเขาจะขึ้นไอ้อีกับเขาแล้ว แม่ของเขายังใช้กูมึงอีกต่างหาก“ไอ้โอม นี่มึงได้ยินคำถามของกูไหมเนี่ย” เสียงของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงก้องกังวานของแม่ที่เริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาแล้วก็ทำเอาเด็กหนุ่มต้องหลุดจากภวังค์โดยพลัน“ผมมีเพื่อนใหม่แล้ว” เด็กหนุ่มตอบ ช่วงเวลาเดียวกันใบหน้าของนนนก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา เมื่อนนนเป็นเพื่อนคนแรกในโรงเรียนใหม่นี้“ดี ๆ มึงมีเพื่อนแล้วก็ดี กูจะได้หายห่วงเสียที กูกลัวตั้งนานแน่ะ กลัวว่าพอย้ายมาโรงเรียนใหม่แบบนี้ ลูกตัวเองจะไม่มีเพื่อนค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-22

บทล่าสุด

  • เธอในความทรงจำ   ไม่มีดอกไม้ใดสวยงามเท่ารอยยิ้มเธอ

    “ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แปลก ๆ แฮะ นี่เมื่อกี้นายเขียนอะไรเอาไว้บนยางลบเหรอ เราขอดูหน่อยสิ” นนนที่เห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนผิดธรรมชาติของโอมถามกันอีกหน โดยอีกฝ่ายก็ไม่ทำแค่พูดเพียงอย่างเดียว แต่เจ้าตัวยังมีการหรี่สายตาจ้องมองกันอย่างนึกจับผิดอีกด้วย “ไม่มีอะไรหรอก นายอย่ามาใส่ใจเรื่องไร้สาระเลย” โอมตอบกลับไปเสียงแผ่ว ช่วงเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มที่กลัวว่าตัวเองจะถูกเพื่อนใหม่ป้ายแดงไล่ต้อนกันให้จนมุมก็ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอไปหนึ่งที“อะไรกัน แล้วทำไมต้อง…” จังหวะที่นนนอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา มันก็เหมือนมีสวรรค์มาโปรด เพราะยังไม่ทันที่นนนจะได้อ้าปากซักไซ้อะไรกันมากกว่านี้ เสียงขององุ่นที่อีกฝ่ายเองก็จดงานเสร็จแล้วเช่นกันก็ดังขึ้นเสียก่อน เมื่อเธอเองได้เดินมายืนคุยกับพวกเขาที่โต๊ะเรียนของโอม “สองคนนี้กำลังคุยอะไรกันอยู่ ไม่ไปพักเที่ยงหรือไง” “อ้าว ครูเขาปล่อยแล้วเหรอ” นนนที่ได้ยินแบบนั้นหันกลับไปถามองุ่นโดยพลัน “ก็ปล่อยแล้วสิ เพราะเมื่อกี้ตอนที่ครูเขาสั่งงาน เขาก็บอกแลวไงว่าถ้าใครจดงานเสร็จ ถ้าวางงานไว้ที่โต๊ะแล้วก็ให้ไปกินข้าวได้เลย” องุ่นพูดเพิ่มเติม ซึ

  • เธอในความทรงจำ   ฉันเขียนชื่อเธอไว้ที่ยางลบ

    “ไปเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่โอมปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้านแล้ว ม้าของเขาที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ในห้องครัว แถมอาหารที่เธอกำลังทำก็ยังส่งกลิ่นหอมลอยคลุ้งไปทั่วบ้านก็เอ่ยปากถามกันโดยพลัน นั่นจึงทำให้โอมที่ตั้งท่าจะวิ่งขึ้นห้องของตัวเองในคราวแรกต้องชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย เพื่อตอบคำถามของแม่“ก็ดีครับ” เด็กหนุ่มที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องตอบอะไรบอกกลับไปแบบนั้น“ดี ๆ แล้วตอนนี้โอมได้เพื่อนใหม่หรือยัง” แม่ถามเพิ่มเติม ซึ่งถ้าฟังจากคำพูดจาของแม่แล้วก็ดูเหมือนว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะอารมณ์ดีกว่าตอนเช้า เพราะเมื่อเช้านี้นอกจากแม่ของเขาจะขึ้นไอ้อีกับเขาแล้ว แม่ของเขายังใช้กูมึงอีกต่างหาก“ไอ้โอม นี่มึงได้ยินคำถามของกูไหมเนี่ย” เสียงของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงก้องกังวานของแม่ที่เริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาแล้วก็ทำเอาเด็กหนุ่มต้องหลุดจากภวังค์โดยพลัน“ผมมีเพื่อนใหม่แล้ว” เด็กหนุ่มตอบ ช่วงเวลาเดียวกันใบหน้าของนนนก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา เมื่อนนนเป็นเพื่อนคนแรกในโรงเรียนใหม่นี้“ดี ๆ มึงมีเพื่อนแล้วก็ดี กูจะได้หายห่วงเสียที กูกลัวตั้งนานแน่ะ กลัวว่าพอย้ายมาโรงเรียนใหม่แบบนี้ ลูกตัวเองจะไม่มีเพื่อนค

  • เธอในความทรงจำ   สายลม แสงแดดและการพบหน้าเธอ

    16 พฤษภาคม พศ.2516 วันเปิดเทอมวันแรกกับการตื่นนอนแต่เช้าตรู่ เด็กหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นรีบแต่งตัวสะพายกระเป๋าเป้ใบเก่า เขารีบวิ่งลงบันไดบ้าน เขาวิ่งลงบันไดบันได้ไม่ทันสุดขั้นบันไดสุดท้าย แม่ก็ทักทันทีเสียว่า"ไอ่โอมมมมม มึงจะรีบวิ่งอะไรนักหนา เดี๋ยวกูสะดุดกะไดล้มล่ะมึง!" เสียงคุ้นเคยที่ได้ยินก็รู้เลยว่าเสียงแม่ ทำเอาเขาตื่นทั้งขี้ตาในทันที "เล่นตื่นซะไก่โห่ขนาดนี้ จะไปทันบ้านทันเมืองเขาไหม แล้วนั้นไม่เอาหมั่นโถ่วไปกินสัก 2 - 3 ลูกล่ะจะได้อิ่มๆ" แม่บ่นในประโยคเดิมๆเช่นเคย ถึงปากร้ายแต่ก็ใจดี เป็นห่วงเป็นใยเด็กหนุ่มเสมอ"ขี้บ่นอะไรนักหนา ม๊า" เขาบ่นงุบงิบแล้วคว้าเอาถุงหมั่นโถ่วที่แม่เตรียมยัดใส่กระเป๋าพอถึงหน้าบ้านเขาก็คว้าจักรยานคันโปรดที่มีคันเดียวในบ้านปั่นไปโรงเรียนด้วยความเร่งรีบ ด้วยความที่พึ่งไปสถานที่นั้นมาเพียงสองครั้งในวันสมัครเรียนและวันมอบตัวจึงทำให้เขาไม่ค่อยจะชำนาญเส้นทางสักเท่าไร เส้นทางที่ไม่คุ้นก็พาให้เขาหลงทางจนได้ "ลุงครับลุง ทางไปโรงเรียนราชินทร์วิทยาไปทางไหนครับ ให้ผมเลี้ยวซ้ายหรือตรงไปดีครับ" เด็กหนุ่มก็ถามพร้อมกับปาดเหงื่อ"ไอ้หนูเอ้ย เอ็งก็ปั่นจักรยานตรงไปเล๊ย

  • เธอในความทรงจำ   ปฐมลิขิต

    กลางถนนในฤดูร้อนที่แสนอบอ้าวในปี พ.ศ.2566 บนเส้นทางที่ยาวไกลมียานพาหะสัญจรกันไปมาเพื่อกลับสู่ชีวิตการทำงานที่แสนเร่งรีบเช่นเดิม เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ และเขาก็เช่นกันที่เดินทางมาพักผ่อนต่างจังหวัดและต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ เหมือนกับทุกๆคนบนถนนเส้นนี้ ชายสูงวัยรุ่นราวคราวเกษียณ มีลักยิ้มที่มุมปาก และหน้าตาผิวพรรณดีถึงแม้จะผ่านโลกมายาวนานก็ตาม เขาขับรถยนต์สีเขียวขี้ม้าไซส์มินิสัญชาติญี่ปุ่นขับแล่นไปตามถนนเส้นเก่าเส้นเดิมที่คุ้นเคย เส้นทางที่ชวนให้คิดถึงวันวาน เลี้ยวซ้ายข้างหน้านั้นคือถนนแม้นรำลึก เข้าไปในซอยแล้วจะเจอร้านขนม เขาจำได้ดี มีขนมรังผึ้งที่เขาชอบและเค้กบัตเตอร์ราดซอสคาราเมลที่คนๆหนึ่งที่เขาคิดถึงในอดีตนั้นโปรดปราณ เสียงลมพัดเอื่อยๆ พัดพาเอากลิ่นบัตเตอร์เข้าจมูกชวนให้เขาหยุดรถเพื่อจอดเข้าตึกแถวข้างร้านนั้น เขาลงไปซื้อของที่เขาชอบพลางแง้มๆดูหน้าตาของมันแล้ววางที่เบาะข้างๆ ฉันยังจำเสมอ ที่เธอเคยบอกกับฉันคิดแล้วยังตื้นตันเกินอธิบายนึกถึงคำคำนั้น ทุกวันที่ห่างกันไปเหมือนมันเป็นโยงใย ที่ส่งถึงกันเขาเปิดเพลงจากซีดีเพลงเก่าจากอัลบั้มรวมเพลงยอดฮิต พศ.2544

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status