Home / วัยรุ่น / เด็กเฮียเต / บทที่ 6 เด็กแสบ

Share

บทที่ 6 เด็กแสบ

last update Last Updated: 2025-01-23 21:42:53

“ตอนนี้เรารู้แหล่งกบด่านของเป้าหมายแล้ว พวกมันยังมีพรรคพวกไม่มาก แต่อย่าชะล่าใจไปเพราะเรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีก”

“พวกมันเหมือนรออะไรบางอย่าง ดูเหมือนทุกอย่างกำลังเพิ่งเริ่ม...” ซานออกความเห็น

“จริง ๆ เรื่องนี้มีมานานมากแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาพวกของมันส่วนใหญ่ถูกยัดเข้าคุกกันหมด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหลือรอดเลยสักคน ที่แน่ ๆ ตอนนี้แกนนำของพวกมันบางส่วนกลับมาแล้ว หน้าที่ของพวกเราคือหาหลักฐานให้เพียงพอเพื่อยัดพวกมันกลับเข้าคุกอีกครั้ง”

“หัวหน้าครับ ผมได้เวลาไปทำหน้าที่แล้ว” เซนพูดขึ้นแทรก เขาสวมใส่ชุดนักเรียนชายมัธยมปลาย เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ปลอมตัวเข้าไปเป็นนักเรียนของโรงเรียนในชุมชน เพราะเตชินเชื่อว่าต้องมีเด็กผู้ชายวัยเดียวกันในโรงเรียน ที่น่าจะรู้เรื่องราวแวดวงใน แม้มันอาจจะเป็นงานน่าเบื่อไปหน่อยแต่เซนก็ทำทุกอย่างเพื่อทีม

“อย่าทำตัวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกันล่ะ”

“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก หัวหน้าไว้ใจได้”

เตชินพยักหน้าให้กับเด็กฝึก บ่งบอกว่าเขาไว้ใจและมั่นใจในการทำงานของเซน

“แต่งตัวหล่อเชียว ชุดนักเรียนเหมาะกับเซนมากเลย ลาออกจากองค์กรแล้วไปเรียนต่อก็ใช้ได้อยู่นะ”

“ยัยเคส!” เตชินปรามเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามา ก่อนจะส่งสัญญาณให้เซนออกไปทำหน้าที่ของตัวเองได้ “เพราะนิสัยชอบแหกกฎแบบแกไม่ใช่เหรอ ถึงทำให้แกเป็นได้แค่ลูกน้องของฉัน”

“ฮึ...ไม่เจ็บสักนิด คนที่ไม่เคยทำผิดกฎองค์กรแบบแกไม่รู้หรอก ว่าการที่ได้ทำอะไรนอกกรอบมันสนุกและตื่นเต้นแค่ไหน ใช่ไหมวิน”

ซานกับนาวินแอบยิ้มเจื่อน ถึงแม้ว่าคาริสาจะเป็นลูกน้องคนหนึ่งของเตชิน แต่ทั้งคู่ก็เคารพเธอราวกับว่าเป็นหัวหน้าองค์กรคนหนึ่งเช่นกัน

“ครั้งเดียวก็เกินพอครับพี่เคส” นาวินเคยทำผิดกฎเพราะต้องการทำเรื่องท้าทายแบบรุ่นพี่ ทว่าบทลงโทษขององค์กรก็ทำเอาเขาจำไม่ลืมจนถึงทุกวันนี้

“ไม่ต้องมาปั่นหัวเด็กฝึกของฉัน ถ้าว่างมากเดี๋ยวจะหางานให้ทำ”

“ใครมาทำงาน ฉันมาเที่ยว”

“ช่วยไปสืบเรื่องของคนที่อยู่ในรายชื่อนี้หน่อย ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับนายดำรง” เตชินพูดพร้อมยื่นไดร์ฟข้อมูลให้กับคาริสา

“ไม่ทำ!”

“ถ้าไม่ทำก็กลับบ้านไป”

“ก็บอกว่าฉันมาเที่ยวไง”

“ไอ้เต! จะกลั่นแกล้งอะไรยัยเคสอีก” เรติกาที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานเห็นว่าเตชินบังคับให้คาริสาทำงานโดยที่ไม่เต็มใจ เธอจึงปรี่เข้ามาช่วยเหลือเพื่อนสาว

“พอเลย อย่าให้ท้ายเมียจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าจะมาป่วนก็กลับบ้านไป ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็ต้องช่วยทำงาน ถ้าไม่ช่วยฉันจะยื่นเอกสารรายงานบิ๊กบอสว่าพวกแกขัดขวางการทำงานของฉัน”

“เต...”

“ฉันไม่เกี่ยวนะ สายแล้วมีนัดวิดีโอคอลกับกรณ์น้อย” เรติกาวิ่งหายไปจากห้องทำงานทันที ปล่อยให้คาริสาต้องรับงานมาทำอย่างไม่เต็มใจนัก

“วินไปทำงานกับพี่ไหม”

“วินกับซานมีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ส่วนหน้าที่ของแกก็ไปเตรียมตัวทำงานซะ” เตชินยื่นไดร์ฟข้อมูลให้คาริสาอีกครั้ง เขารู้ว่าคาริสามาเพื่อจุดประสงค์อะไร แต่การมีคาริสามาร่วมทำงานด้วย หลายอย่างที่คิดว่ายากก็อาจจะง่ายขึ้น

“จะหนีไปไหน!”

“แม่...”

“มานี่เลยมาเอาไม้เรียวก่อน มันน่านักนังลูกคนนี้ บอกว่าอย่าไปมีเรื่องกับใคร”

มะปรางวิ่งหนีไม้เรียวที่สั่นดิ๊ก ๆ อยู่ในมือของคนเป็นแม่ ใครจะไปยอมโดนตีกันเล่า อายุก็เข้าหลักสองแล้วยังโดนแม่ไล่ตีเหมือนเด็ก ๆ

“แม่...ปรางไม่ผิดนะแม่”

“ไม่ผิดแล้วทำไมถึงโดนไล่ออก พี่ก้อยบอกว่าแกไปมีเรื่องกับลูกค้าของเขา”

“มันเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียวนะแม่ ไอ้ลูกค้าพวกนั้นมันลวนลามเพื่อนปรางก่อน”

“ว่าไงนะ” เมื่อลูกสาวให้เหตุผลมาอย่างนั้น มะลิผู้เป็นแม่ที่เกลียดผู้ชายพรรค์นี้ที่สุดมีหรือจะอยู่เฉย

“เพื่อนปรางเผลอเอาปากกาไปทิ่มมือของมันจนได้รับบาดเจ็บ พวกมันเลยโวยวาย ปรางก็เลยเข้าไปช่วย”

“แล้วพวกมันทำอะไรปรางหรือเปล่า แล้วเพื่อนปรางล่ะเป็นยังไง”

“มะปรางลูกสาวแม่มะลิซะอย่าง ไม่มีใครหน้าไหนมารังแกได้ง่าย ๆ หรอก ปรางใช้วิธีหมัดมวยกระทืบพวกมัน เอาไม้เรียวลงก่อนนะแม่นะ” มะปรางเดินเข้ามากอดคนเป็นแม่ เมื่อเห็นว่าท่านเริ่มใจเย็นขึ้นมาบ้าง เธอแอบดึงไม้เรียวเจ้ากรรมออกห่างจากมือของแม่มะลิอย่างถือวิสาสะ

“ไอ้พวกหน้าตัวเมียอยู่ไปก็รกแผ่นดินจริง ๆ อย่าให้เจอนะ”

“เห็นไหม ถ้าแม่อยู่ตรงนั้นแม่ก็ทำแบบเดียวกับปราง ส่วนเพื่อนของปรางเขาโอเคขึ้นแล้ว แต่ปรางนี่สิ”

“ไล่ออกก็ไล่ออกสิ พี่ก้อยก็คงเห็นแก่เงินแก่หน้าตามากกว่าคนกันเองเหมือนเดิม”

“ไม่เครียดนะแม่นะ เดี๋ยวความดันขึ้น” มะปรางเดินเข้าไปกอดแล้วโยกตัวคนเป็นแม่ไปมา หวังจะให้คลายอารมณ์คุกรุ่นลง

“ถ้าไม่มีงานทำแล้วก็ไปช่วยแม่ขายของที่โรงเรียน สายแล้วด้วยเดี๋ยวเตรียมของไม่ทันพักเที่ยง”

“รับทราบครับ! เดี๋ยวปรางไปยกของขึ้นซาเล้งให้นะ”

“ให้เร็วเลย”

“รู้แล้ว ๆ ใช้งานลูกอย่างกะใช้แรงงานทาส”

สองชั่วโมงผ่านไป

“เรียบร้อย” มะปรางช่วยคนเป็นแม่จัดระเบียบอาหารกลางวันสำหรับค้าขายเสร็จสรรพ เธอเดินไปนวดไหล่ให้คนเป็นแม่อย่างชำนาญ ขณะที่แม่มะลิก็สะบัดพัดคลายความร้อนให้กับตัวเองอย่างอารมณ์ดี “อารมณ์ดีขึ้นแล้ว แม่จ๋า...ปรางขอกลับบ้านก่อนนะ ปรางรู้สึกปวดท้อง”

“เป็นอะไร ปวดตรงไหนมาให้แม่ดู” แม่มะลิพูดถามพร้อมคลำไปที่บริเวณหน้าท้องของลูกสาว

“ปรางปวดท้องน้อย สงสัยเมนส์จะมา” มะปรางกระซิบพูด

“เอ้า ปวดมากไหม ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านไปพักผ่อนก่อน”

“จ้ะแม่ ปรางกลับก่อนนะ”

มะปรางหอมแก้มแม่มะลิแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายมาคล้องบ่า ก่อนจะเดินแยกออกไปในทันที ส่วนคนเป็นแม่ก็หันไปเม้าท์มอยกับคนที่มาขายของด้วยการตามประสา

“พี่ปราง”

“อ้าวเติร์ด แอบหนีเรียนมาเหรอ กลับไปเรียนเลยนะ”

“ช่วงเปลี่ยนคาบ ยังพอมีเวลาพี่ปราง” เติร์ดเดินเข้าไปใกล้มะปรางพร้อมกระซิบกระซาบบอกในสิ่งที่รู้มา “เห็นว่าหลังสนามเด็กเล่นมีอุโมงค์ใต้ดิน แถมยังมีคนเข้าออกในตอนกลางคืนด้วย ต้องเป็นพวกเอเยนต์ค้ายาแน่ ๆ เราอาจจะมีช่องทางค้าขายเหล้าเถื่อน เป็นไงพี่ปรางติดต่อทำธุรกิจด้วยไหม”

“ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นนะ ห้ามยุ่งเด็ดขาด”

“ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว แล้วให้ตามตระเวนสืบทำไม”

“รู้ไว้ใช่ว่า...”

“…ใส่บ่าแบกหาม” เติร์ดต่อประโยคสำนวนของมะปรางด้วยความเข้าใจในความหมาย “รู้ไว้ไม่เสียหาย แต่เสี่ยงตายเลยนะพี่ปราง”

“เอาน๊า ถึงเราจะทำผิดไปบ้าง แต่ก็ใช้ว่าจะโลภจนไม่ลืมหูลืมตา ไปเรียนได้แล้ว แล้วก็อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครล่ะ เดี๋ยวอายุสั้น”

“เรื่องนี้พี่ปรางรู้แค่คนเดียว ก่อนไปเรียนขอเงินกินข้าวหน่อย” เติร์ดแบมือขอเงินกับมะปรางตามนิสัย มะปรางจึงหยิบธนบัตรใบสีแดงสองใบจากกระเป๋าสะพายให้กับเติร์ดอย่างไม่เรื่องมาก

“ใช้ประหยัด ๆ ล่ะ เรื่องคืบหน้ายังไงก็มาบอกด้วย”

“จัดไปพี่ปราง”

“เดี๋ยวก่อน เด็กผู้ชายใส่แว่นที่ยืนรออยู่ตรงนั้นใครอ่ะ เพื่อนเหรอ?”

“นั่นไอ้เซนเด็กใหม่ มันดูฉลาดดีก็เลยคบเอาไว้ให้มันช่วยทำการบ้าน”

“หัวหมอนักนะ ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ”

เติร์ดพยักหน้าให้มะปรางก่อนจะหันหลังเดินไปหาเซนที่ยืนรออยู่ มะปรางหยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายหาเตชินทันที เพราะต้องการบอกเบาะแสเพิ่มเติมกับเขา

“รู้ก่อนหนูอีกแล้ว คงไม่ต้องมีหนูร่วมทีมก็ได้มั้ง” มะปรางทำสีหน้าบูดบึ้งเมื่อเตชินรู้เรื่องอุโมงค์หลังสนามเด็กเล่น ก่อนเธอไปตั้งหนึ่งวัน

“ทำไมต้องทำหน้างอนแบบนั้นด้วยล่ะ เฮียต้องการหนูมาร่วมทีมนะ มานั่งนี่มา”

เตชินปรับเบาะที่นั่งเล็กน้อย ก่อนเอื้อมมือไปดึงมะปรางที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ ให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาแทน เขาจูบขมับคนตัวเล็กเบา ๆ เมื่อเห็นเธอยังชักสีหน้าบูดบึ้งอยู่

“อื้อ! ถึงหนูจะรู้จักกับพี่โสหลายคนแต่หนูก็ไม่ใช่เด็กโสนะ”

“เด็กโสอะไรกัน หนูเป็นเด็กเฮียต่างหาก”

“ชอบปั่นหัวให้คนอื่นใจอ่อนอยู่เรื่อย ทะ...ทำอะไร” มะปรางอุทานด้วยความตกใจเมื่อเตชินเลื่อนนาฬิกาและสร้อยข้อมือที่ถักด้วยเชือกหลากสีขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยสักขนาดเล็กที่อยู่ตรงบริเวณข้อมือข้างซ้ายของเธอ

รอยสักนี้คือรหัสที่แสดงถึงตัวตนของเขา

ชายหนุ่มคิดไตร่ตรองอยู่นานว่าทำไมมะปรางถึงสามารถเข้าไปในห้องส่วนตัวของเขาได้ ทั้ง ๆ ที่มันต้องสแกนรหัสผ่าน ซึ่งเป็นตัวตนของเขาเท่านั้นประตูถึงจะเปิดออก

“เด็กแสบ! สักไว้นานแค่ไหนแล้ว” เขาตำหนิเด็กสาวเสียงเบา ก่อนจะเอ่ยถาม

“...” ไร้ซึ่งการตอบกลับของมะปราง เธอหันหน้าหนีเขาไปทางอื่นพลางทำหน้ามุ่ยกลบเกลื่อน ก่อนจะดึงเครื่องประดับลงมาปกปิดรอยสักเอาไว้

“ถ้าเฮียเปลี่ยนรหัสตัวตน หนูจะลบรอยสักนี้ออกไหม”

“คุณไม่สามารถเปลี่ยนได้หรอก เพราะรหัสนี้มันจะติดตัวคุณไปจนตายนั่นแหละ”

“รู้ดี”

“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวกลับก่อน”

“จะรีบไปไหน”

“หนูจะกลับบ้าน”

“เดี๋ยวเฮียไปส่ง”

“ไม่เอา คุณแฝงตัวเป็นตำรวจอยู่ไม่ใช่เหรอ ไปทำงานของคุณเถอะเดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยเอาหรอก”

“เดี๋ยวก่อน” เตชินเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนตอนที่มะปรางกำลังจะลุกออกไป​ เขารั้งใบหน้าสวยเข้ามาจูบ​แนบชิด​

ริมฝีปากอวบอิ่มอ้ารับเรียวลิ้นที่พยายามสอดเข้ามาหยอกล้อในโพรงปาก​ รสจูบละเมียดละไม​แปรเปลี่ยนมาดูดดื่ม​เร่าร้อนจนมะปรางหายใจแทบไม่ทัน​ เธอผละจูบออกแล้วโกยอากาศหายใจเข้าปอด​ เตชินดึงดัน​จะจูบต่อแต่มะปรางห้ามเอาไว้ได้ก่อน

“อย่าค่ะ”

“เฮียคิดถึง​หนู” เขาพูดเสียงออดเสียงอ้อน

“อย่ามาอ่อยนะ​ เดี๋ยวรถโยก”

“เคยทำเหรอ”

“ไม่เคย​ แต่มั่นใจว่าทำเป็น”

“อยากลองจัง” เขาพูดจาทะเล้นใส่​ มือหนาวางข้างพวงแก้มพลางเกลี่ยนิ้วหัวแม่มือไปมาเบา ๆ

“น่าเสียดายที่วันนี้เมนส์หนูมา​ ไม่อย่างนั้นจะทำให้ร้องไม่ออก”

“ขนาดนั้นเชียว”

“ยิ่งกว่านั้นแน่นอน​ค่ะ” เด็กสาว​จอมแก่นพูดอวดโอ้สรรพคุณ​ตัวเอง​ขนาด​นี้​ใครจะไม่อยากลิ้มลอง​

กับคนอื่นมะปรางด่าเรียบ​ แต่กับเตชินเธอมีแต่คำหวาน ๆ​ หยอดใส่​ หลายปีที่ต้องจากกันไป​ เธอตั้งปฏิญาณ​ไว้แล้วว่าถ้าเขากลับมาอีก​ครั้ง​ เธอจะจีบเขาให้ได้

“เฮียจะรอนะ​” เขาพูดแล้วดึงหน้าผากมนมาจูบ​อีกครั้​ง

มะปรางแอบอมยิ้มไม่หุบขณะที่​ขยับตัวลงจากตักแกร่ง​ เธอก้าวขาลงไปจากรถยนต์โดยมีเตชินยิ้มและมองตามอย่างไม่ละสายตา​ เขามองเธอเดินจากไปเงียบ ๆ อยู่ภายในรถ นานนับนาทีกว่าเขา​จะ​ยอมสตาร์ทรถแล้วเร่งเครื่องออกไปยังที่ทำงาน

Related chapters

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 7 เบาะแส

    หลายวันต่อมา...“งานอะไรก็ได้เจ๊ ฉันทำได้ทั้งนั้น” มะปรางพูดกับเจ๊แก้วผู้จัดการร้านผับที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจากชุมชน หากว่าเธอตัดสินใจนั่งวินมาถึงตัวอำเภอเพื่อมาหางานทำ อีกทั้งอาจจะได้เบาะแสเพิ่มเติม“งานที่แล้วก็เพิ่งกระทืบลูกค้ามาเพราะเพื่อนโดนลวนลาม งานนี้มันหนักกว่ามากนะ แกจะไม่เอาปืนมายิงลูกค้าเจ๊เลยเหรอ”“ให้ฉันล้างถ้วยล้างจานหลังร้านก็ได้เจ๊ รับรองว่าฉันจะไม่มาเพ่นพ่านในนี้เด็ดขาด”“แกมาถึงที่นี่เพื่อที่จะมารับจ้างล้างจานจริง ๆ เหรอ มันคุ้มค่าเดินทางแกเหรออีมะปราง”“ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำนี่เจ๊”“อ้าวดูสิว่าใครมา” หนึ่งในสามสาวที่เพิ่งมาใหม่เอ่ยทักทายมะปรางอย่างเป็นกันเอง“หวัดดีพี่โส” มะปรางยกมือไหว้ทั้งสามคนเหนือหัวอย่างหยอกล้อ​ หากว่ารู้จักกันเป็นอย่างดี“โอ๊ยยัยเด็กบ้านี่ เรียกพี่โสเดี๋ยวแม่ตบปากแตกเลย ฉันเจนนี่ย๊ะ”“ส่วนพี่...ชื่อโบวี่”“ส่วนพี่ก็...ชื่อหนูเล็ก มากับเจนนี่แล้วก็มากับโบวี่”“รู้แล้ว ๆ แนะนำตัวเป็นทางการตลอด​ แหม...วันนี้​แต่งตัว​สวยเชียวนะ”“อย่ามาอวย​เดี๋ยวเงินหมดกระเป๋า​ ว่าแต่แกมาทำอะไรที่นี่อีมะปราง จะมาแย่งงานพวกฉันเหรอ” เจนนี่เท้าเอวถาม ก่อนที่หนูเล็กจะ

    Last Updated : 2025-01-24
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 8 หนูไม่รู้...หนูเมา

    “เฮียเตเขาคงไม่ได้ชอบปรางหรอก เพราะถ้าเขาชอบปราง เขาคงไม่ทิ้งปรางไปตั้งหลายปี” เด็กสาวที่กำลังเมาได้ที่พูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ปนเสียงโศกเศร้าอย่างไม่ปิดบัง“เฮียมันเคยบอกรักมะปรางไหม” เรติกาเอ่ยถาม เมื่อมะปรางพรั่งพรูความจริงออกมาจนหมดเปลือก“ม่ายเคย แต่เฮียเขาชอบบอกว่าปรางเป็นเด็กของเฮีย”“แกนี่มันเลวจริง ๆ เลยนะไอ้เต!”“ม่ายเลว...เฮียเตเป็นคนดีแต่ปรางเป็นคนไม่ดี”“เฮียมันทำอะไรกับมะปราง ทำไมดูหลงมันจัง”“ม่ายเคยหลง ปรางแค่ใจอ่อนเวลาที่เฮียเขา... อึก! จูบตรงนี้...” มะปรางยกมือขึ้นมาชี้หน้าผากมนของตัวเอง แล้วค่อยเลื่อนนิ้วมาชี้ที่ขมับบาง “...แล้วก็จูบตรงนี้ด้วย เฮียเตชอบให้ปรางนั่งตัก แล้วชอบเรียกปรางว่า...เด็กดี”“มะปราง!” เตชินที่เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนเรียกชื่อของเธอเสียงดัง เพื่อห้ามปรามไม่พูดอะไรออกมา ขณะที่คาริสาก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดปาก หากว่ามาทันได้ยินที่มะปรางพูดในประโยคสุดท้ายเพื่อนหนุ่มที่เธอเคยคิดว่าห่วยแตกเรื่องความรัก แท้ที่จริงแล้วเล่ห์เหลี่ยมและคารมคมคายเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ชายเจ้าชู้บางคนเสียอีก“คะ...คุณมาได้ยังไง มาทำอะไรที่นี่เหรอ?” มะปรางหันไปมองเตชินด้วยสีหน้าไม่รู

    Last Updated : 2025-01-25
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 9 ยา(ลดไข้)นรก...เป็นเหตุ

    “หนูทำอะไรอยู่ ไม่รีบกลับบ้านเหรอ” เตชินเดินเข้ามาในครัว หลังจากที่สั่งงานเด็กฝึกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเพื่อนรักทั้งสองคนก็ส่งกลับบ้านตั้งแต่เช้ามืด เหลือแค่มะปรางที่กว่าจะสร่างเมาจากอาการเมาค้างก็ล่วงเลยเวลามาจนเกือบเที่ยง“หนูยังปวดหัวนิดหน่อย เลยกินยาดักไว้ก่อนเผื่อไข้ขึ้น เหลืออยู่หนึ่งเม็ดพอดี” พูดจบเธอก็ป้อนยาเม็ดเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามทันที“กินยา? ยาอะไร?”“ก็ยาลดไข้ไง ปวดหัวให้กินยาคุมเหรอเฮีย” เด็กสาวพูดติดตลกพร้อมยื่นกระปุกยาขนาดเล็กให้เตชินดู“ที่นี่มียาลดไข้ด้วยเหรอ” เตชินรับกระปุกยามาพิจารณาดู เขาทำสีหน้าตกใจพร้อมกับรีบไปล้วงคอเด็กสาว “มะปรางคายมันออกมา นี่มันไม่ใช่ยาลดไข้...”หากว่ามันคือตัวอย่างยาที่เขาให้เด็กฝึกขโมยมา ครั้งเมื่อไปสืบเรื่องอุโมงค์หลังสนามเด็กเล่น เขาเอาตัวยาออกมาให้คาริสานำไปตรวจสอบที่แล็ปขององค์กร แล้วยังไม่ได้เก็บมันให้เข้าที่เข้าทาง ใครจะไปนึกว่ามะปรางจะเอามากินเพราะคิดว่าเป็นยาลดไข้ แม้ลักษณะของมันจะคล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก“อื้อ!! เฮียมันคือยาอะไร”“คายมันออกมาเร็วเข้า เฮียไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร มันอาจจะอันตรายถึงตายได้”มะปรางสำลักจนหน้าดำหน้าแดงไปหม

    Last Updated : 2025-01-28
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 10 เหตุการณ์ไม่คาดคิด

    “อีกสิบสองชั่วโมงค่อยทานอีกหนึ่งเม็ด หนูจำได้ใช่ไหม” มะปรางพยักหน้ารับ หากว่าเตชินขับรถมาส่งถึงที่หน้าบ้านแล้วแต่เธอกลับยังไม่กล้าลงไป เด็กสาวตัวแสบของเขาในวันนี้ดูจะสูญเสียความมั่นใจเอามาก ๆ เตชินจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ “เด็กดีครับ ไม่คิดมากนะ”“หนูกลัว อึก!”“ไม่ต้องกลัวนะ เฮียจะมองหนูอยู่ตรงนี้” เตชินปลอบใจเธอแล้วหยิบซองเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาทให้กับมะปราง “พี่เรย์ฝากมาให้”“...” มะปรางยกมือไหว้พร้อมรับซองเงินที่เธอควรจะได้อยู่แล้วมากอดไว้“อย่าไปทำตามยัยแสบนั่นอีก แล้วก็ห้ามกินเหล้าจนเมาไม่ได้สติกับคนแปลกหน้า”“ก็พี่เรย์ท้าหนูแก้วละพัน” เธอตอบโต้พร้อมเก็บเงินไว้ในกระเป๋าสะพายของตัวเอง เตชินมองคนข้าง ๆ พลางยิ้มละไมเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น สำหรับเขาตอนนี้​ สภาพจิตใจของเธอสำคัญที่สุด“มากอดหน่อย”“หืม?” มะปรางเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม เมื่อเห็นว่าเตชินอ้าแขนออกกว้างเพื่อรอรับกอดจากเธอ“มาให้เฮียกอดหน่อยนะเด็กดี” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มะปรางยิ้มแป้นก่อนจะโถมเข้าไปสวมกอดเขาอย่างไม่ลังเล​ “ยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า”“ยังเจ็บไปทั้งร่างเลย แต่ว่

    Last Updated : 2025-02-11
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 11 การสูญเสีย

    ‘เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ เกิดเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ในชุมชน​บ้านไข่น้ำ คาดว่าสาเหตุเกิดจากยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งคนในชุมชนบ้านไข่น้ำได้รับบริจาคข้าวของเครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ หลายคนตกเป็นเหยื่อและนำไปสู่เหตุจลาจลก่อนหน้านี้มีรายงานว่า หลังจากที่นายแดง(นามสมมุติ​)​ ได้ทานยาแก้แพ้เข้าไปทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่ทุบตีภรรยาและลูก นอกจากนี้ยังมีวัยรุ่นคว้ามีดดาบไล่ฟันชาวบ้านไม่เลือกหน้า คาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุเดียวกันด้าน พล.ต.อ. อดิศร​ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ มีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจในพื้นที่สามารถจับผู้ก่อเหตุจลาจลครั้งนี้ได้แน่นอน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่สามารถเปิดเผยได้’‘ยาสามัญฯ ทำพิษชาวบ้านไข่น้ำ ปมเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ขณะนี้เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ชาวบ้านกว่า 20 รายตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน เหตุจลาจลครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายและนำไปสู่การสูญเสียในวงกว้าง มีเหยื่อเสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย ส่วนคนที่เหลืออยู่ในการควบคุมของ

    Last Updated : 2025-02-15
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 12 อาการแปลก ๆ

    ‘ผมไม่เห็นด้วยนะกับการที่คุณเอายานรกพวกนี้ไปบริจาคให้กับชาวบ้าน’‘นี่มันเป็นฆาตกรรมไม่เลือกหน้า สังหารหมู่ชัด ๆ’‘ก็ไม่เห็นว่ามีใครตายเพราะยาของผมสักหน่อย พวกนั้นตายเพราะหันมาฆ่ากันเอง’‘แต่ถึงยังไงการที่คุณทำแบบนี้มันก็ไม่ควรอยู่ดี เพราะการที่สื่อและตำรวจให้ความสนใจที่นี่มันจะทำให้พวกเราทำงานลำบาก’‘ก็นึกว่าจะห่วงชาวบ้านพวกนั้น ที่แท้ก็ห่วงผลประโยชน์ของตัวเอง...’ เตชินฟังเสียงที่ได้มาจากเครื่องดักฟังวนซ้ำหลายรอบ หากว่าเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าในคลิปเสียงนี้มีเสียงของใครบ้าง แต่ที่แน่ ๆ หนึ่งในนั้นต้องมีเสียงของนายเจษฎาและไมเคิลเตชินนั่งชั่งใจอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะหันไปมองเอกสารกองเท่าภูเขาบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่เขาก็ยังคงทำงานไม่ได้พักเขายังไม่ได้เบาะแสและหลักฐานที่เพียงพอที่จะสามารถสาวถึงตัวคนร้ายและคนที่อยู่เบื้องหลังเลยหากว่าเขามัวแต่เสียเวลาและวุ่นวายกับการจัดการเรื่องที่โรงพัก และเหยื่อผู้เสียหายจากเหตุการณ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยตรง แต่ในเมื่อเขาแฝงตัวมาเป็นตำรวจเขาก็จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ให้แนบเนียนที่สุดคนร้ายเริ่มแสด

    Last Updated : 2025-02-19
  • เด็กเฮียเต   บทนำ

    ในค่ำคืนที่แสนอลวนวุ่นวาย ทุกปีจะมีเทศกาลงานวัดจัดขึ้นเพื่อพัฒนาชุมชน​เล็ก ๆ​ ที่ทั้งแออัด​ ทุรกันดาร​ และห่างไกลความเจริญ​ผู้ใหญ่ผินถือโอกาสนี้เปิดตัวหลานชาย​ เตชิน​ สกุลเกียรติ​ ในฐานะร้อยตำรวจเอก​หรือผู้กองหนุ่มไฟแรง​ ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนาริน​ สกุลเกียรติ​ พี่สาวของผู้ใหญ่ผินด้วยใบหน้าหล่อคมทรงเสน่ห์ของผู้กองหนุ่มทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่มาร่วมเทศกาล​งานวัดต่างฮือฮากันทั้งชุมชนเทศกาลงานวัดประกอบไปด้วยชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน​ ปาลูกโป่ง​ สาวน้อยตกน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย หากแต่ว่าการละเล่นต่าง ๆ ภายในงานก็ยังหนีไม่พ้นการพนันขันต่อเหมือนอย่างทุกปีพนันมวยที่ท้าดวลระหว่าง​ มะปราง​ ​ลูกสาวคนเดียว​ของแม่มะลิ​ กับ​ กวิน​ ลูกชายคนเดียวของผู้ใหญ่ผินที่ทำทรงเป็นนักเลงประจำหมู่บ้านรอบสังเวียนมวย​อัดแน่นไปด้วยผู้คน​มากมายที่​ต่างแห่มาดูศึกดวลครั้งนี้ โดยมีแม่มะลิตั้งตัวเป็นเจ้ามือคอยรับแทงพนันกันอย่างลับ ๆแน่นอนว่าคนที่ไม่มีศิลปะ​มวยไทย​อย่างมะปรางจะต้องใช้แผนซ้อนแผน​ เพื่อจัดการกับกวินที่เป็นคู่ปรับของเธอตั้งแต่สมัยอนุบาล​ กวินต้องการที่จะเอาชนะมะปรางสักครั้ง​ จึงท้าดวลกับมะปรางในเรื่

    Last Updated : 2025-01-22
  • เด็กเฮียเต   บทที่ 1 โคจรมาเจอกัน

    หลังจากนับเงินจากการแทงพนันเสร็จสรรพแม่มะลิก็ด่วนกลับบ้านไปก่อน​ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำอาหารไปขายที่โรงเรียน ส่วนมะปรางกับเติร์ดก็​เดินเที่ยวชมการละเล่น​ในงานวัดกันต่อเห็นผู้กองหนุ่มร่างสูงโปร่ง​เดินมาแต่ไกล เติร์ดจึงรีบกระซิบบอกมะปรางทันทีว่าผู้ชายคนนี้เป็นตำรวจที่เพิ่งย้ายมาประจำการใหม่ที่ชุมชน เตชินมองมะปรางเหมือนมีอะไรบางอย่างจะพูดด้วย เนื่องจาก​ว่าทั้งคู่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี“มองหน้าฉันแบบนี้ มีอะไรคะผู้กอง” มะปรางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างตามนิสัยแก่นแก้วของเธอ“ฉันแค่เดินสำรวจความเรียบร้อย เผอิญ​เก็บยานอนหลับได้ด้วยนะ”“ใครอยากรู้?” มะปราง​พูดทั้งที่สายตาล่อกแล่กไปมา“ฉันก็แค่สงสัยว่ากวินต่อยเธอจนแทบกระอักเลือดแต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย ต่างจากเธอที่ต่อยกวินไปแค่หมัดสองหมัด ซึ่งไม่น่าจะทำให้เขาน็อกได้ ฉันคิดว่าเขาอาจจะ​แค่หลับเพราะฤทธิ์ยานี่หรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำนะครับ แถมยังทิ้งหลักฐานเอาไว้อีกต่างหาก” เตชินพูดพร้อมมองไปที่เติร์ดแล้วหันมาสบตากับมะปรางอย่างยิ้มเยาะ ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่มองค้อนกลับไปอย่างไม่พอใจนัก ตามศักดิ์แล้ว

    Last Updated : 2025-01-22

Latest chapter

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 12 อาการแปลก ๆ

    ‘ผมไม่เห็นด้วยนะกับการที่คุณเอายานรกพวกนี้ไปบริจาคให้กับชาวบ้าน’‘นี่มันเป็นฆาตกรรมไม่เลือกหน้า สังหารหมู่ชัด ๆ’‘ก็ไม่เห็นว่ามีใครตายเพราะยาของผมสักหน่อย พวกนั้นตายเพราะหันมาฆ่ากันเอง’‘แต่ถึงยังไงการที่คุณทำแบบนี้มันก็ไม่ควรอยู่ดี เพราะการที่สื่อและตำรวจให้ความสนใจที่นี่มันจะทำให้พวกเราทำงานลำบาก’‘ก็นึกว่าจะห่วงชาวบ้านพวกนั้น ที่แท้ก็ห่วงผลประโยชน์ของตัวเอง...’ เตชินฟังเสียงที่ได้มาจากเครื่องดักฟังวนซ้ำหลายรอบ หากว่าเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าในคลิปเสียงนี้มีเสียงของใครบ้าง แต่ที่แน่ ๆ หนึ่งในนั้นต้องมีเสียงของนายเจษฎาและไมเคิลเตชินนั่งชั่งใจอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะหันไปมองเอกสารกองเท่าภูเขาบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่เขาก็ยังคงทำงานไม่ได้พักเขายังไม่ได้เบาะแสและหลักฐานที่เพียงพอที่จะสามารถสาวถึงตัวคนร้ายและคนที่อยู่เบื้องหลังเลยหากว่าเขามัวแต่เสียเวลาและวุ่นวายกับการจัดการเรื่องที่โรงพัก และเหยื่อผู้เสียหายจากเหตุการณ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยตรง แต่ในเมื่อเขาแฝงตัวมาเป็นตำรวจเขาก็จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ให้แนบเนียนที่สุดคนร้ายเริ่มแสด

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 11 การสูญเสีย

    ‘เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ เกิดเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ในชุมชน​บ้านไข่น้ำ คาดว่าสาเหตุเกิดจากยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งคนในชุมชนบ้านไข่น้ำได้รับบริจาคข้าวของเครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ หลายคนตกเป็นเหยื่อและนำไปสู่เหตุจลาจลก่อนหน้านี้มีรายงานว่า หลังจากที่นายแดง(นามสมมุติ​)​ ได้ทานยาแก้แพ้เข้าไปทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่ทุบตีภรรยาและลูก นอกจากนี้ยังมีวัยรุ่นคว้ามีดดาบไล่ฟันชาวบ้านไม่เลือกหน้า คาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุเดียวกันด้าน พล.ต.อ. อดิศร​ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ มีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจในพื้นที่สามารถจับผู้ก่อเหตุจลาจลครั้งนี้ได้แน่นอน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่สามารถเปิดเผยได้’‘ยาสามัญฯ ทำพิษชาวบ้านไข่น้ำ ปมเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ขณะนี้เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ชาวบ้านกว่า 20 รายตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน เหตุจลาจลครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายและนำไปสู่การสูญเสียในวงกว้าง มีเหยื่อเสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย ส่วนคนที่เหลืออยู่ในการควบคุมของ

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 10 เหตุการณ์ไม่คาดคิด

    “อีกสิบสองชั่วโมงค่อยทานอีกหนึ่งเม็ด หนูจำได้ใช่ไหม” มะปรางพยักหน้ารับ หากว่าเตชินขับรถมาส่งถึงที่หน้าบ้านแล้วแต่เธอกลับยังไม่กล้าลงไป เด็กสาวตัวแสบของเขาในวันนี้ดูจะสูญเสียความมั่นใจเอามาก ๆ เตชินจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ “เด็กดีครับ ไม่คิดมากนะ”“หนูกลัว อึก!”“ไม่ต้องกลัวนะ เฮียจะมองหนูอยู่ตรงนี้” เตชินปลอบใจเธอแล้วหยิบซองเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาทให้กับมะปราง “พี่เรย์ฝากมาให้”“...” มะปรางยกมือไหว้พร้อมรับซองเงินที่เธอควรจะได้อยู่แล้วมากอดไว้“อย่าไปทำตามยัยแสบนั่นอีก แล้วก็ห้ามกินเหล้าจนเมาไม่ได้สติกับคนแปลกหน้า”“ก็พี่เรย์ท้าหนูแก้วละพัน” เธอตอบโต้พร้อมเก็บเงินไว้ในกระเป๋าสะพายของตัวเอง เตชินมองคนข้าง ๆ พลางยิ้มละไมเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น สำหรับเขาตอนนี้​ สภาพจิตใจของเธอสำคัญที่สุด“มากอดหน่อย”“หืม?” มะปรางเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม เมื่อเห็นว่าเตชินอ้าแขนออกกว้างเพื่อรอรับกอดจากเธอ“มาให้เฮียกอดหน่อยนะเด็กดี” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มะปรางยิ้มแป้นก่อนจะโถมเข้าไปสวมกอดเขาอย่างไม่ลังเล​ “ยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า”“ยังเจ็บไปทั้งร่างเลย แต่ว่

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 9 ยา(ลดไข้)นรก...เป็นเหตุ

    “หนูทำอะไรอยู่ ไม่รีบกลับบ้านเหรอ” เตชินเดินเข้ามาในครัว หลังจากที่สั่งงานเด็กฝึกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเพื่อนรักทั้งสองคนก็ส่งกลับบ้านตั้งแต่เช้ามืด เหลือแค่มะปรางที่กว่าจะสร่างเมาจากอาการเมาค้างก็ล่วงเลยเวลามาจนเกือบเที่ยง“หนูยังปวดหัวนิดหน่อย เลยกินยาดักไว้ก่อนเผื่อไข้ขึ้น เหลืออยู่หนึ่งเม็ดพอดี” พูดจบเธอก็ป้อนยาเม็ดเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามทันที“กินยา? ยาอะไร?”“ก็ยาลดไข้ไง ปวดหัวให้กินยาคุมเหรอเฮีย” เด็กสาวพูดติดตลกพร้อมยื่นกระปุกยาขนาดเล็กให้เตชินดู“ที่นี่มียาลดไข้ด้วยเหรอ” เตชินรับกระปุกยามาพิจารณาดู เขาทำสีหน้าตกใจพร้อมกับรีบไปล้วงคอเด็กสาว “มะปรางคายมันออกมา นี่มันไม่ใช่ยาลดไข้...”หากว่ามันคือตัวอย่างยาที่เขาให้เด็กฝึกขโมยมา ครั้งเมื่อไปสืบเรื่องอุโมงค์หลังสนามเด็กเล่น เขาเอาตัวยาออกมาให้คาริสานำไปตรวจสอบที่แล็ปขององค์กร แล้วยังไม่ได้เก็บมันให้เข้าที่เข้าทาง ใครจะไปนึกว่ามะปรางจะเอามากินเพราะคิดว่าเป็นยาลดไข้ แม้ลักษณะของมันจะคล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก“อื้อ!! เฮียมันคือยาอะไร”“คายมันออกมาเร็วเข้า เฮียไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร มันอาจจะอันตรายถึงตายได้”มะปรางสำลักจนหน้าดำหน้าแดงไปหม

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 8 หนูไม่รู้...หนูเมา

    “เฮียเตเขาคงไม่ได้ชอบปรางหรอก เพราะถ้าเขาชอบปราง เขาคงไม่ทิ้งปรางไปตั้งหลายปี” เด็กสาวที่กำลังเมาได้ที่พูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ปนเสียงโศกเศร้าอย่างไม่ปิดบัง“เฮียมันเคยบอกรักมะปรางไหม” เรติกาเอ่ยถาม เมื่อมะปรางพรั่งพรูความจริงออกมาจนหมดเปลือก“ม่ายเคย แต่เฮียเขาชอบบอกว่าปรางเป็นเด็กของเฮีย”“แกนี่มันเลวจริง ๆ เลยนะไอ้เต!”“ม่ายเลว...เฮียเตเป็นคนดีแต่ปรางเป็นคนไม่ดี”“เฮียมันทำอะไรกับมะปราง ทำไมดูหลงมันจัง”“ม่ายเคยหลง ปรางแค่ใจอ่อนเวลาที่เฮียเขา... อึก! จูบตรงนี้...” มะปรางยกมือขึ้นมาชี้หน้าผากมนของตัวเอง แล้วค่อยเลื่อนนิ้วมาชี้ที่ขมับบาง “...แล้วก็จูบตรงนี้ด้วย เฮียเตชอบให้ปรางนั่งตัก แล้วชอบเรียกปรางว่า...เด็กดี”“มะปราง!” เตชินที่เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนเรียกชื่อของเธอเสียงดัง เพื่อห้ามปรามไม่พูดอะไรออกมา ขณะที่คาริสาก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดปาก หากว่ามาทันได้ยินที่มะปรางพูดในประโยคสุดท้ายเพื่อนหนุ่มที่เธอเคยคิดว่าห่วยแตกเรื่องความรัก แท้ที่จริงแล้วเล่ห์เหลี่ยมและคารมคมคายเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ชายเจ้าชู้บางคนเสียอีก“คะ...คุณมาได้ยังไง มาทำอะไรที่นี่เหรอ?” มะปรางหันไปมองเตชินด้วยสีหน้าไม่รู

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 7 เบาะแส

    หลายวันต่อมา...“งานอะไรก็ได้เจ๊ ฉันทำได้ทั้งนั้น” มะปรางพูดกับเจ๊แก้วผู้จัดการร้านผับที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจากชุมชน หากว่าเธอตัดสินใจนั่งวินมาถึงตัวอำเภอเพื่อมาหางานทำ อีกทั้งอาจจะได้เบาะแสเพิ่มเติม“งานที่แล้วก็เพิ่งกระทืบลูกค้ามาเพราะเพื่อนโดนลวนลาม งานนี้มันหนักกว่ามากนะ แกจะไม่เอาปืนมายิงลูกค้าเจ๊เลยเหรอ”“ให้ฉันล้างถ้วยล้างจานหลังร้านก็ได้เจ๊ รับรองว่าฉันจะไม่มาเพ่นพ่านในนี้เด็ดขาด”“แกมาถึงที่นี่เพื่อที่จะมารับจ้างล้างจานจริง ๆ เหรอ มันคุ้มค่าเดินทางแกเหรออีมะปราง”“ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำนี่เจ๊”“อ้าวดูสิว่าใครมา” หนึ่งในสามสาวที่เพิ่งมาใหม่เอ่ยทักทายมะปรางอย่างเป็นกันเอง“หวัดดีพี่โส” มะปรางยกมือไหว้ทั้งสามคนเหนือหัวอย่างหยอกล้อ​ หากว่ารู้จักกันเป็นอย่างดี“โอ๊ยยัยเด็กบ้านี่ เรียกพี่โสเดี๋ยวแม่ตบปากแตกเลย ฉันเจนนี่ย๊ะ”“ส่วนพี่...ชื่อโบวี่”“ส่วนพี่ก็...ชื่อหนูเล็ก มากับเจนนี่แล้วก็มากับโบวี่”“รู้แล้ว ๆ แนะนำตัวเป็นทางการตลอด​ แหม...วันนี้​แต่งตัว​สวยเชียวนะ”“อย่ามาอวย​เดี๋ยวเงินหมดกระเป๋า​ ว่าแต่แกมาทำอะไรที่นี่อีมะปราง จะมาแย่งงานพวกฉันเหรอ” เจนนี่เท้าเอวถาม ก่อนที่หนูเล็กจะ

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 6 เด็กแสบ

    “ตอนนี้เรารู้แหล่งกบด่านของเป้าหมายแล้ว พวกมันยังมีพรรคพวกไม่มาก แต่อย่าชะล่าใจไปเพราะเรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีก”“พวกมันเหมือนรออะไรบางอย่าง ดูเหมือนทุกอย่างกำลังเพิ่งเริ่ม...” ซานออกความเห็น“จริง ๆ เรื่องนี้มีมานานมากแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาพวกของมันส่วนใหญ่ถูกยัดเข้าคุกกันหมด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหลือรอดเลยสักคน ที่แน่ ๆ ตอนนี้แกนนำของพวกมันบางส่วนกลับมาแล้ว หน้าที่ของพวกเราคือหาหลักฐานให้เพียงพอเพื่อยัดพวกมันกลับเข้าคุกอีกครั้ง”“หัวหน้าครับ ผมได้เวลาไปทำหน้าที่แล้ว” เซนพูดขึ้นแทรก เขาสวมใส่ชุดนักเรียนชายมัธยมปลาย เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ปลอมตัวเข้าไปเป็นนักเรียนของโรงเรียนในชุมชน เพราะเตชินเชื่อว่าต้องมีเด็กผู้ชายวัยเดียวกันในโรงเรียน ที่น่าจะรู้เรื่องราวแวดวงใน แม้มันอาจจะเป็นงานน่าเบื่อไปหน่อยแต่เซนก็ทำทุกอย่างเพื่อทีม“อย่าทำตัวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกันล่ะ”“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก หัวหน้าไว้ใจได้”เตชินพยักหน้าให้กับเด็กฝึก บ่งบอกว่าเขาไว้ใจและมั่นใจในการทำงานของเซน“แต่งตัวหล่อเชียว ชุดนักเรียนเหมาะกับเซนมากเลย ลาออกจากองค์กรแล้วไปเรียนต่อก็ใช้ได้อยู่นะ”“ยัยเคส!” เตช

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 5 คนนี้แหละ...ว่าที่เมียเพื่อน

    “แม่...ปรางไปทำงานก่อนนะ” มะปรางตะโกนพูดหลังจากที่แต่งตัวเสร็จสรรพ หากว่าเธอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอนัก แม้รายได้จะน้อยนิดแต่ก็เป็นงานสุจริตเพียงหนึ่งเดียวที่เธอทำอยู่“อย่าไปมีเรื่องมีราว​กับใครเขาอีกล่ะ” ประโยคสุดฮิตที่แม่มะลิมักจะบอกกับลูกสาวก่อนไปทำงาน มะปรางหยิบกระเป๋ามาคล้องบ่าแล้วเดินไปสวมใส่รองเท้าผ้าใบอย่างเคยชิน“ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องปรางก่อน ปรางก็จะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวนะแม่นะ” พูดจบมะปรางก็เดินออกไปจากบ้านในทันที“จริง ๆ เลยลูกคนนี้ เหมือนพ่อมันไม่มีผิด” คนเป็นแม่พูดตามหลัง หากว่าลูกสาวตัวดีมีหรือจะสะทกสะท้าน@ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์“ไงคะพี่เต ทายสิว่าพวกเราอยู่ที่ไหนเอ่ย” คาริสาเอ่ยทักทายเพื่อนหนุ่มอย่างยียวนกวนประสาท โดยมีเรติกาถือกล้องสำหรับวิดีโอคอล‘มาทำอะไรอยู่ที่นี่ ถ้าจะมาป่วนงานของฉันก็รีบไสหัวกลับไป ก่อนที่ฉันจะโทรบอกผัวพวกแกให้มาลากคอกลับไป’“อร้ายไอ้เต อย่าพูดอะไรเป็นลางสิ” เรติกาส่งเสียงกรีดร้อง หากว่ามนุษย์ผัวคือสิ่งมีชีวิตที่เธอเกรงกลัวที่สุด ต่างจากคาริสาที่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ“นี่เต...พวกเราสองคนแค่มาเที่ยวไม่เห็น

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 4 ผิดบ้างถูกบ้าง

    “ใครเหรอครับหัวหน้า เด็กฝึกคนใหม่ของหัวหน้าเหรอ” เซนเอ่ยถามทันทีที่เตชินเดินเข้ามาภายในห้องทำงาน หลังจากที่เขาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีดำและกางเกงโทนสีเดียวกัน“เธอเป็นคนที่นี่ พวกเราจะทำงานสะดวกขึ้นถ้าหากมีคนในท้องที่ทำงานด้วย” เตชินตอบกลับไป ขณะที่สายตาของเด็กฝึกทั้งสามคนต่างก็จ้องมองมาอย่างจับผิด “ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น”คำพูดของหัวหน้าทำให้เด็กฝึกหันหน้าหนีไปคนละทิศคนละทางทันที พวกเขาพากันแอบยิ้มแหยเตชินเล็กน้อย“หัวหน้าครับผมได้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนี้” ซานพูดพร้อมชี้ไปที่ภาพแผนที่ ซึ่งปักด้วยหมุดสีเขียว“ที่สนามเด็กเล่นมีอะไร”“บริเวณหลังสนามเด็กเล่นมีการขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน แต่ที่บริเวณตรงนี้รกชันไปด้วยหญ้าที่ขึ้นสูง จึงยากที่มองเห็นมันในตอนแรก”พื้นที่ที่ถูกปักด้วยหมุดสีเขียวถูกเปลี่ยนเป็นหมุดสีแดงด้วยฝีมือของเตชิน“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้พวกเราจะไปสำรวจที่นั่นกัน”“ครับหัวหน้า” เซนและซานพูดขึ้นพร้อมกัน ยกเว้นนาวินที่ดูกำลังจะวุ่นวายอยู่กับอะไรบางอย่าง ทำให้เตชินหันไปมองด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก“ไอ้วิน” ไม่มีการตอบรับกลับมาแ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status