Home / รักโบราณ / เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา / บทที่ 64 จวนสกุลเซี่ยในเมืองหลวง

Share

บทที่ 64 จวนสกุลเซี่ยในเมืองหลวง

last update Last Updated: 2025-03-15 01:38:08

นับว่าน่าตกใจไม่น้อยที่เสด็จลุงของนางมีรับสั่งพักงานขุนนางในราชสำนักอย่างหาญกล้า พอนางเข้าไปถามก็ตรัสเพียงว่าไม่ใช่เรื่องของนางและมิต้องห่วง ช่วงนี้หากออกนอกตำหนักบูรพาให้พาองครักษ์ตามไปด้วยหลายๆ คนหน่อย

เซี่ยซูเหยาเงยหน้ามองป้ายจวนที่เขียนว่าเซี่ยด้วยลายมือเสด็จลุง วันนี้นาง พี่หญิงใหญ่และบิดาพากันมาดูจวนสกุลเซี่ยที่เพิ่งได้รับมาไม่กี่วัน หลังจากอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้คนในครอบครัวฟังและกว่าจะทำใจกันได้ก็นี่แหละ

“จวนกว้างมาก”

เซี่ยซูเจี๋ยยืนอุทานอยู่ข้างๆ น้องสาว นางติดตามบิดามาเมืองหลวงเพื่อพบน้องสาว ก่อนจะออกเดินทางไปศึกษาวิชาแพทย์อีก มิคิดว่าจะได้รับตำแหน่งองค์หญิง

“ท่านพ่อจะอยู่ที่นี่หรือไม่เจ้าคะ” ทว่าเซี่ยซูเหยาหันกลับไปมองบิดาที่ยืนอยู่เงียบๆ

“อาเหยา”

“ช่างเถิดเจ้าค่ะ ไปดูข้างในกัน”

บิดาของนางเป็นคนเช่นไรมีหรือที่นางจะไม่รู้? ที่เมืองเฟิงมีเหลาอาหารที่พวกนางทิ้งไว้ กว่าจะได้กลับไปคงอีกหลายเดือน นางก็ห่วงเหลาอาหารที่นั่น ทว่าก็ไม่สามารถทำอันใดได้

“อืม”

ที่จวนสกุลเซี่ยช่างแตกต่างจากตำหนักบูรพา พอเดินเข้าไปภายในจวน เรือนขนาดใหญ่ก็ปรากฎแก่สายตา มันเป็นเรือนขนาดใหญ่ที่ใช้รับรองแขก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 65 ริษยา

    วันนี้มีคัดเลือกตัวแทนการแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์ของแคว้น เซี่ยซูเหยา เซี่ยซูเจี๋ย กลุ่มสหายและคุณชายเจิ้ง รวมถึงองค์หญิงใหญ่ที่มีชื่ออยู่ในรายการแล้วต่างก็ต้องมาเลือกสหายที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ ทว่าหากเป็นฝ่ายแพ้ในแคว้นของตัวเองก็คงจะไม่น่ามอง แม้กลุ่มสหายของเซี่ยซูเหยาจะเพิ่งสิบหนาวกัน ทว่ามีใครปฏิเสธได้บ้างว่าไม่มีใครเก่งคุณหนูใหญ่มี่ได้รับการสั่งสอนจากเหล่าอาจารย์ที่ฮูหยินมี่เลือกเฟ้นมาให้บุตรสาว เป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทุกท่าน ทั้งวาดภาพ บทกลอน ร่ายรำ นางก็ทำได้ทุกอย่าง แม้การร่ายรำจะดูไม่ค่อยงามนักก็ตาม ช่างขัดกับยามที่นางอยู่รวมกับสหายมากนักองค์หญิงสามถูกฮ่องเต้คัดเลือกอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาอบรมสอนสั่งหลายแขนง และนางต้องร่ำเรียนแทบจะตลอดเวลาจึงไม่มีอันใดเป็นที่น่าแปลกใจ ยิ่งลี่กุ้ยเฟยในอดีตเป็นถึงสตรีที่เพียบพร้อมอันดับหนึ่ง มีหรือจะสอนบุตรสาวผู้เดียวไม่ได้คุณหนูใหญ่เสวี่ยอ้ายเก่งเรื่องการใช้กำลังมาก แม้ในเรื่องความรู้ของสตรีจะไม่ค่อยดีนัก ทว่าการเล่นหมากล้อม เขียนบทกลอน ยิงธนู นางก็เรียนรู้มาจากแม่ทัพใหญ่เสวี่ยทั้งนั้นองค์หญิงเจิ้

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 66 หัวเราะทีหลังดังกว่า

    การกระทำขององค์หญิงใหญ่สร้างความไม่พอใจให้แก่ฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาพระองค์ยอมหลับตาข้างหนึ่งเพราะนางเป็นสตรีและเป็นธิดาของฮองเฮา ทว่าพระองค์กล่าวตักเตือนหลายครั้งแล้วว่าห้ามแตะต้องหลานสาวของพระองค์ ฮองเฮายังรับปากว่าจะห้ามปรามธิดาของนางอยู่เลยราชโองการกักบริเวณองค์หญิงใหญ่จนกว่าจะถึงงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น ถูกประกาศออกไปหลังจากผู้เป็นฮ่องเต้ได้รับข่าว หากไม่ใช่เพราะคุณชายเจิ้ง หลานสาวของพระองค์คงบาดเจ็บแล้ว“เสด็จลุงเพคะ เหยาเอ๋อร์มิได้เป็นอันใด” เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าเล็กน้อยหลังจากเกิดเรื่องขึ้นและกลับมานอนพักที่ตำหนัก อยู่ๆ นางก็ถูกพี่สาวปลุกเนื่องจากเสด็จลุงแอบมาหาอย่างลับๆ และนางก็ไม่ได้แปลกใจ เสด็จลุงเห่อนางมาก คงเป็นเพราะนางเหมือนมารดาที่สุด“ลุงจัดการนางให้หลานแล้ว ต่อไปนี้หากนางทำอะไรหลานอีก ต้องบอกลุงเข้าใจหรือไม่” องค์หญิงใหญ่เป็นบุตรสาวของพระองค์ หลานสาวของพระองค์จะไม่บอกก็ไม่แปลก“เพคะ”“ให้หมอหลวงตรวจดูหน่อย”ไหนบอกว่าแอบมาลับๆ เซี่ยซูเหยาเหม่อมองหมอหลวงที่กำลังตรวจอาการที่ไม่ได้เป็นอะไรของนางอย่างปลงตก เสด็จลุงเป็นห่วงนางเกินไป นางเพียงตื่นเช้า

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 67 งานเชื่อมความสัมพันธ์ 1

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ถึงวันงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น ราชทูตประจำแคว้น เมืองนอกด่าน และชนเผ่าต่างๆ ก็ทยอยเดินทางมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานตลอดระยะเวลาสิบกว่าวันที่ผ่านมา ตัวแทนแคว้นหนานต่างถูกกักตัวไว้ในวังเพื่อเล่าเรียนวิชาต่างๆ มีเพียงองค์หญิงใหญ่ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเซี่ยซูเหยานั่งนิ่งปล่อยให้นางกำนัลถักเปียผมของนางอย่างเกียจคร้าน เสด็จลุงของนางส่งคนมายังตำหนักชางหมิงหรือก็คือตำหนักขององค์หญิงสามเพื่อแต่งตัวให้พวกนาง ที่ต้องออกไปต้อนรับแขกในวันนี้อย่างที่กล่าวไปพวกนางถูกกักตัวไว้ในวังหลวง ทุกคนยกเว้นองค์หญิงรองที่มีตำหนักของตัวเอง และคุณหนูหกเย่ที่เข้าพักกับองค์หญิงใหญ่ผู้เป็นสหาย นาง พี่สาวของนาง เหล่าสหายและคุณหนูใหญ่เหอ คุณหนูเจ็ดเย่ ต่างก็เข้าพักในตำหนักชางหมิง ซึ่งทำให้พวกนางสนิทกันมากขึ้นกล่าวได้ว่าคุณหนูใหญ่เหอ คุณหนูเจ็ดเย่ กลายมาเป็นสหายของพี่สาวนาง ซึ่งถึงแม้ว่าคุณหนูเจ็ดเย่จะเป็นเพียงบุตรอนุ พวกนางก็ไม่มีใครรังเกียจ อีกทั้งยังเคารพในฐานะผู้อาวุโสกว่า“เซี่ยซูเหยาเจ้าเสร็จหรือยัง”นางหันหน้าไปมองคนที่ถาม เป็นคุณหนูใหญ่มี่ที่แต่งตั

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 68 งานเชื่อมความสัมพันธ์ 2

    งานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นครั้งที่เจ็ด มีแคว้นและชนเผ่าต่างๆ เข้าร่วมทั้งสิ้นเจ็ดแคว้นและสามชนเผ่า ไม่รวมแคว้นหนานที่เป็นเจ้าภาพแคว้นเว่ยส่งราชทูตคนสำคัญของแคว้นอย่างองค์รัชทายาทและบรรดาองค์ชายองค์หญิงเข้าร่วม ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นตัวเต็งในปีนี้ก็ว่าได้ เพราะตัวแทนทั้งหมดล้วนเคยเป็นผู้ชนะมาก่อนแค้วนซ่งส่งเสนาบดีกู้ที่ได้ยินว่าเป็นขุนนางหนุ่มผู้มากความสามารถมาเป็นราชทูต นำบรรดาองค์ชายและเหล่าตัวแทนเข้าร่วมงานเชื่อมความสัมพันธ์ กล่าวได้ว่าแคว้นซ่งก็เป็นตัวเต็งเช่นเดียวกัน จัดงานหกครั้งกวาดรางวัลไปแล้วสามครั้งแคว้นหลิงส่งชินอ๋องอนุชาคนโปรดของฮ่องเต้มาเป็นราชทูตในครั้งนี้ ชินอ๋องอายุเพียงยี่สิบกว่าปีและกล่าวได้ว่าเป็นที่หมายปองของสตรีทั่วแคว้นหลิง ทว่ายังไม่มีพระชายาแคว้นหม่าส่งองค์หญิงใหญ่และบรรดาอนุชามากความสามารถเข้าร่วมการแข่งขัน แคว้นนี้สตรีเป็นใหญ่จึงไม่แปลกที่ผู้นำจะเป็นสตรีแคว้นซุนส่งเสนาบดีเยี่ยนที่เป็นสหายของฮ่องเต้หมิงหลงอันเข้าร่วม ช่วงนี้ภายในราชสำนักแคว้นซุนกำลังปั่นป่วน บรรดาองค์ชายและองค์หญิงต่างไม่ได้เข้าร่วมแคว้นจางส่งองค์ชายใหญ่ที่กำลังสร้างผลงานนำบรรดาคุณชาย

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 69 งานเชื่อมความสัมพันธ์ 3

    การแข่งขันแรกจบลงด้วยการหามคุณชายรองเจิ้งไปให้หมอหลวงตรวจรักษา จากที่ได้ฟังหมอหลวงเล่าคร่าวๆ ดูเหมือนว่าคุณชายเจิ้งจะถูกของมีคมกรีดเข้าที่แขน อีกอย่างก็ยังเป็นแผลใหม่ที่คาดว่าเกิดขึ้นยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เหตุการณ์หลังจากนั้นก็ยังไม่มีใครรับรู้อีกเซี่ยซูเหยาเงยหน้ามองตัวแทนแคว้นหนานที่กำลังสนทนาเรื่องนี้อย่างออกรส อีกอย่างการที่พวกนางชนะการแข่งขันยิงธนูยังเกินความคาดหมายของทุกคนเป็นอย่างมาก อันที่จริงนางคิดว่าแค่ไม่รั้งท้ายก็ดีมากแล้วทว่าไม่คิดว่าจะชนะได้“คุณชายเจิ้งได้รับบาดเจ็บ การแข่งการแสดงคงต้องเปลี่ยนคนแล้ว”จริงๆ การแข่งขันการแสดงสามารถรวมกับการร่ายรำได้ ทว่าคะแนนที่ได้รับจะได้น้อยและเสี่ยงกับการแพ้ ซึ่งในวันที่ผ่านมาทุกคนได้ซ้อมกันอย่างเต็มที่จนบางวันเสียงหายเลยก็มี แม้กระทั่งตัวนางเองยังได้รับการซ้อมที่แปลกประหลาด หรือบางทีอาจจะมีแค่นางก็ได้ที่แปลกประหลาดคนเดียวเพราะไม่เคยพบเห็นการแสดงแบบนี้“ข้าเห็นด้วย” องค์ชายรองกล่าวเสริมการแข่งขันรายการถัดไปในวันนี้คือการแข่งขันทำอาหาร ซึ่งจะเริ่มขึ้นอีกในไม่กี่ชั่วยามข้างหน้า ยังไงค่ำวันนี้ก็จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลอง อาหารที่นำขึ้นโต๊ะ

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 70 งานเชื่อมความสัมพันธ์ 4

    การแข่งขันที่สองยังไม่ได้ตัดสินคะแนน ไม่สิ อันที่จริงอาจตัดสินคะแนนไปแล้วทว่ายังไม่ได้ประกาศออกมา คงรอประกาศวันนี้ทีเดียวเลยเจิ้งรั่วซานได้สติแล้ว ทว่าเขาไม่ยอมกล่าวอะไร ซึ่งสภาพของเขาไม่สามารถที่จะลงแข่งการแสดงหรือแข่งต่อได้แล้ว ตัวแทนที่เหลือจึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันนี้เพราะแบบนั้นในช่วงเช้าตัวแทนทั้งสิบเก้าคนจึงนั่งกองรวมกันอย่างเบื่อหน่าย ทั้งต้องยังนั่งฟังขุนนางเฒ่าที่แวะเวียนเข้ามาบ่นที่พวกนางไม่เข้าร่วมการแข่งขันการแสดงจะให้เข้าร่วมได้อย่างไรล่ะ เดิมทีการแสดงนี้ที่เตรียมไว้เดิมมีสิบคน คุณชายรองเจิ้งไม่สามารถเข้าร่วมได้ สองคุณชายโจวอยู่ๆ ก็ปวดแขน อาจเพราะจากการทำอาหารเมื่อวาน ส่วนนางที่มีชื่อในรายการนี้ก็เหนื่อยเกินกว่าจะออกแรง“พวกเจ้าคิดว่าต่อไปใครจะมาอีก” องค์หญิงใหญ่บ่นอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งยังนั่งอยู่ข้างเซี่ยซูเหยาแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์อย่างนาง เหล่าน้องชายและองค์หญิงอันดับหนึ่งเจิ้นกั๋วยังถูกบ่นไม่เว้น นางถูกสั่งให้ห้ามตอบโต้เหล่าขุนนางจากตัวแทนทั้งหมด“อัครเสนาบดีเย่”“ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเป็นท่านตาของข้า”เซี่ยซูเหยาไม่ตอบ นางเลือกที่จะผินหน้าให้องค์หญิงใหญ่

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 71 สูญเสีย

    ร่างสาวใช้นับสิบคนถูกแขวนบนต้นไม้ต้นใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นภายในจวน ดวงตากลมโตของเซี่ยซูเหยาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวชั่วครู่ สาวใช้ในจวนเซี่ยขาดอากาศหายใจแล้วทว่ายังมีคนที่รอดอยู่“พี่ลี่หลิน!”เซี่ยซูเหยาไม่รอช้ารีบก้าวเท้าไปยังร่างของคนที่คุ้นตา นางนอนหายใจรวยรินอยู่ใต้ต้นไม้ เซี่ยซูเหยาไม่ได้สนใจร่างที่ถูกแขวนเลยซ้ำ เห็นร่างของหม่าลี่หลินนอนหายรวยรินนางยิ่งหวาดกลัว“ตามหมอ! เร็ว นำตัวสาวใช้ลงมา!” มือเล็กกำแน่น ยามนี้นางไม่สามารถสอบถามผู้ใดได้สักคนหยาดน้ำตาใสเอ่อคลอเมื่อเห็นจำนวนคน เซี่ยซูเหยาชะงักก่อนจะเบนเส้นทางไปยังเรือนด้านใน สาวใช้ยังมีชะตากรรมเช่นนี้ บิดาของนางและคนอื่นๆ ล่ะ ? ไปไหนกันหมด‘ยะ…หยุนหรง หลานแน่ใจนะว่าพวกเราจะไม่มีความผิด’ เสียงสตรีมีอายุเอ่ยถามหลานชายด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นภายในห้องโถงของเรือน‘ท่านย่า คนของฮองเฮากล่าวว่าจะช่วยให้ข้าเป็นขุนนาง ท่านจะกลัวอะไร!’‘ได้ยินว่าเด็กสองคนนั่นได้เป็นถึงองค์หญิงเจิ้นกั๋ว! นางเป็นถึงหลานสาวของฮ่องเต้นะ เจ้าจะแน่ใจได้ยังไงว่าฮองเฮาจะช่วยพวกเราได้! ถะ…ถ้า ข้ารู้อย่างนี้ คะ…คงไม่ตามมา’ตึง!“เซี่ยซูเหยา!”คนด้านในที่นั่งสนทนาร้

    Last Updated : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 72 โทษประหาร

    เสียงกระทบกันของโลหะบ่งบอกว่ามีคนเปิดประตูคุก ฝีเท้าหลายคู่เดินตามทางที่ทอดยาวไปยังห้องขังใต้ดิน คบเพลิงถูกจุดตามกรงขังเป็นระยะๆ เพื่อให้แสงสว่างแก่ทางเดิน ห้องขังที่เต็มไปด้วยน้ำขังถูกสนิมกัดเซาะชวนให้อาเจียนกลิ่นอับชื้นตีขึ้นคละคลุ้งไปทั่วจมูก เซี่ยซูเหยารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกเอาไว้ รีบก้าวเท้าตามองครักษ์ที่ถูกส่งมาเปิดห้องขังในยามวิกาล ด้านหลังมีคนติดตามมาอีกหลายคน วันนี้นางมายังคุกคุมขังนักโทษที่บังอาจก่อเรื่องในวันงาน‘ปล่อยข้านะ!’‘หยุนหรง! เพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้าคนเดียว!’‘ท่านพ่อ!’‘ข้ากลัว ฮืออ’‘แม่เจ้าก็เข้าคุกไปแล้ว! ยังต้องพาข้าเข้าคุกอีก’‘หุบปาก! ท่านเป็นคนฆ่ามันเองไม่ใช่เหรอ’‘ฮือๆ'เสียงทะเลาะกันที่คุ้นหูทำให้เซี่ยซูเหยาเหยียดยิ้ม หลายวันมานี้คงจะอยู่กันอย่างทรมานสินะ ถึงได้ด่ากันมากขนาดนี้ หลังจัดงานศพบิดาเสร็จนางก็เพิ่งมีเวลามาที่นี่“องค์หญิง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์ที่ฮ่องเต้หมิงหลงอันสั่งให้นำหลานสาวมายังคุกหลวงกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเคารพ หากไม่ใช่บุคคลสำคัญหรือมีอำนาจมากพอ มีหรือที่จะสามารถเดินเข้าออกคุกหลวงได้อย่างสบายแบบนี้นัยน์ตาเล็กหรี่มองเซี่ยหยุนหรง

    Last Updated : 2025-03-15

Latest chapter

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 74 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ

    ท้องฟ้าเริ่มมืด รถม้าของจวนขุนนางต่างทยอยจอดที่หน้าประตูวังเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ยิ่งงานเลี้ยงครั้งนี้อนุญาตให้นำบุตรอนุเข้าร่วมได้ ผู้คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ หากเป็นที่ถูกใจของเชื้อพระวงศ์อย่างน้อยก็อาจได้เป็นสนมเซี่ยซูเหยาก้าวลงรถม้าเมื่อถึงเวลาที่ควรเข้าไปด้านใน อาภรณ์ที่สวมใส่ล้วนเป็นสีแดงที่หมายถึงมงคล กลับปักหลายหงส์ที่ไม่ควรจะสวมใส่ เสด็จลุงเป็นผู้ส่งอาภรณ์นี้ให้นางเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แม้ตัวนางจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากหงส์เป็นสัญลักษณ์ของฮองเฮาที่เคียงคู่มังกร ทว่าก็ถูกลี่กงกงเอ่ยขอร้อง มิเช่นนั้นจะถูกเสด็จลุงโทษนางจึงยอมเมินเหล่าคุณหนูสกุลใหญ่ที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ก้าวเท้าตามลี่กงกงที่นั่งเฝ้านางแต่งตัวเพื่อไปหาเสด็จลุง อันที่จริงนางควรจะเข้าไปในงานเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เสด็จลุงของนางกล่าวว่าให้ไปหาก่อนเสียงซุบซิบที่พอเห็นว่านางเหลือบมองก็เงียบลง เซี่ยซูเหยาถอนหายใจ หมายมั่นว่าหลังจากจบงานเลี้ยงนี้นางจะไม่ยอมใส่ชุดหงส์ที่เสด็จลุงส่งมาให้แน่“หลานรักมาแล้วหรือ”เซี่ยซูเหยามองฮ่องเต้หมิงหลงอันที่ให้นางกำนัลสวมชุดให้อย่างเบื่อหน่าย หลายปีมานี้นางสนิทกับเสด็จลุงและเสด็

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 73 ห้าวสันต์ที่พ้นผ่าน

    วันที่สิบสาม เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้า สกุลเย่เป็นหนึ่งในกบฎเมื่อหลายปีก่อน ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการประหารเจ็ดชั่วโคตรโทษฐานกบฏ ละเว้นคุณหนูหกเย่ คุณหนูเจ็ดเย่ ที่สร้างชื่อเสียงให้แคว้นในการแข่งขันที่ผ่านมา ทว่าถูกกักตัวภายในคุก ส่วนคุณชายสี่เย่ไม่ได้รับการละเว้น บุรุษสกุลเย่ไม่สามารถสอบขุนนางได้อีกตลอดชีวิต รวมถึงสตรีที่ไม่สามารถเข้าวังเป็นพระสนมได้เย่ฮองเฮาคบชู้สู่ชายสวมหมวกเขียวให้ฝ่าบาทจนมีองค์ชายเจ็ด ปลดออกจากตำแหน่งฮองเฮา พระราชทานผ้าแพรขาว รวมถึงพระราชทานยาพิษให้แก่องค์ชายน้อยให้เป็นเยี่ยงอย่างของพระสนม ว่าหากคบชู้จะถูกลงโทษอย่างไร องค์หญิงใหญ่ถูกกักบริเวณภายในตำหนักจนกว่าจะมีการสืบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่บ้านรองสกุลเซี่ยถูกราชโองการประหารโทษฐานสร้างความเสื่อมเสียให้แก่แคว้นหนานในขณะที่มีแคว้นพันธมิตรอยู่ในแคว้น ทั้งยังลอบทำร้ายองครักษ์ของฮ่องเต้หมิงหลงอันที่เป็นบิดาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วทั้งสองจนถึงแก่ความตายวันที่สิบห้า เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้ามีราชโองการประกาศรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับสกุลเย่ ขุนนางที่เกี่ยวข้องล้วนต้องโทษประหาร บุรุษในสกุลถูกส่งไปเป็นทาสนอกเมืองหล

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 72 โทษประหาร

    เสียงกระทบกันของโลหะบ่งบอกว่ามีคนเปิดประตูคุก ฝีเท้าหลายคู่เดินตามทางที่ทอดยาวไปยังห้องขังใต้ดิน คบเพลิงถูกจุดตามกรงขังเป็นระยะๆ เพื่อให้แสงสว่างแก่ทางเดิน ห้องขังที่เต็มไปด้วยน้ำขังถูกสนิมกัดเซาะชวนให้อาเจียนกลิ่นอับชื้นตีขึ้นคละคลุ้งไปทั่วจมูก เซี่ยซูเหยารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกเอาไว้ รีบก้าวเท้าตามองครักษ์ที่ถูกส่งมาเปิดห้องขังในยามวิกาล ด้านหลังมีคนติดตามมาอีกหลายคน วันนี้นางมายังคุกคุมขังนักโทษที่บังอาจก่อเรื่องในวันงาน‘ปล่อยข้านะ!’‘หยุนหรง! เพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้าคนเดียว!’‘ท่านพ่อ!’‘ข้ากลัว ฮืออ’‘แม่เจ้าก็เข้าคุกไปแล้ว! ยังต้องพาข้าเข้าคุกอีก’‘หุบปาก! ท่านเป็นคนฆ่ามันเองไม่ใช่เหรอ’‘ฮือๆ'เสียงทะเลาะกันที่คุ้นหูทำให้เซี่ยซูเหยาเหยียดยิ้ม หลายวันมานี้คงจะอยู่กันอย่างทรมานสินะ ถึงได้ด่ากันมากขนาดนี้ หลังจัดงานศพบิดาเสร็จนางก็เพิ่งมีเวลามาที่นี่“องค์หญิง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์ที่ฮ่องเต้หมิงหลงอันสั่งให้นำหลานสาวมายังคุกหลวงกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเคารพ หากไม่ใช่บุคคลสำคัญหรือมีอำนาจมากพอ มีหรือที่จะสามารถเดินเข้าออกคุกหลวงได้อย่างสบายแบบนี้นัยน์ตาเล็กหรี่มองเซี่ยหยุนหรง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status